New Release BLY แปล : CHERRY รักครั้งแรกของเจ้าชายสายซึน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : CHERRY รักครั้งแรกของเจ้าชายสายซึน

โพสต์ โดย Gals »

CHERRY

โรงอาหารบริการตนเองที่ชั้นหนึ่งของหอประชุมมหาวิทยาลัยแออัดที่สุดในช่วงเที่ยง ทั้งคลุ้งไปด้วยกลิ่นอาหารหลากชนิดและเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่านักศึกษา
อิวาสะ นาโอกิผลักถาดอาหารกลางวันชุด A ให้เพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
?ฉันกินไม่หมด เพราะงั้นยกให้?
ยาสุดะ โคตะที่กินข้าวหน้าผักรวมชุบแป้งทอดจนหมดเกลี้ยงแล้ว ทำหน้ายิ้มว่าโชคดีก่อนจะดึงถาดเข้ามาใกล้
?อย่าเรียกว่ากินไม่หมดเลย กินเข้าไปคำเดียวเองไม่ใช่เหรอ?
ซากุระอิ ริโกะที่เป็นเพื่อนร่วมสาขาพูดแทรกจากด้านข้างอย่างที่คิด
นาโอกิยืดแขนขายาวๆ อย่างเกียจคร้านพลางตอบสั้นๆ ด้วยความจงใจให้ดูร้ายกาจ
?ไม่อร่อยจนกินไม่ลง?
นาโอกิจะบอกว่าเพราะมีเห็ดที่ไม่เห็นมีในตัวอย่างเมนูใส่มาด้วยก็เลยกินไม่ได้เสียก็ได้ แต่เพราะเขาเกลียดความพ่ายแพ้ผิดจากคนธรรมดา จึงไม่ยอมให้ใครล่วงรู้ว่าเขาเลือกกินเหมือนเด็ก
ริโกะขมวดคิ้วจนเกิดรอยย่นตรงหว่างคิ้ว
?พาสต้าของโรงอาหารที่ไม่อัลเดนเต้ อาจไม่ถูกปากคุณชายก็จริง แต่ถ้าไม่สั่งมาตั้งแต่แรกก็ไม่เสียของแล้วแท้ๆ น่าเสียดายออก?
?ไม่เสียของหรอกน่า?
นาโอกิพยักพเยิดคางไปทางโคตะ
อิตาบาชิที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นวิ่งหน้าตั้งตรงดิ่งมาทางด้านนี้ แล้วส่งเสียงทักราวกับจะขัดขวางริโกะที่พูดอะไรบางอย่างค้างเอาไว้
?อิวาสะ วันนี้ว่างรึเปล่า? มีคนไปนัดบอดไม่พอน่ะ นายช่วยไปด้วยกันหน่อยได้ไหม??
?ไม่เอาหรอก น่ารำคาญ?
?อย่าพูดอย่างนั้นสิ แค่โผล่หน้าไปหน่อยเดียวก็ได้?
?ถ้าจะให้คนครบก็ชวนโคตะไปเป็นไง? ว่างแน่ๆ?
?ก็บอกว่าถ้าไม่ใช่อิวาสะมันไม่มีความหมายไง เพราะถ้าอิวาสะมา ผู้หญิงจะแห่มาต่างกันเลย นะ ขอร้องล่ะ นายมาฟรีก็ได้?
?ลูกชายคลินิกอิวาสะจะไปหวั่นไหวกับคำว่าฟรีได้ไงยะ?
ริโกะพูดแทรก
แม้นาโอกิจะคิดอย่างนั้นเป๊ะก็ตาม แต่ก็พูดอย่างเยือกเย็น
?รำคาญผู้หญิงมาวุ่นวาย มันน่าเบื่อ?
?นายเนี่ย หน้ากับนิสัยตรงข้ามกันจริงๆ เลยนะ?
อิตาบาชิเดาะลิ้นแล้วเดินห่างจากโต๊ะไป
?เฮ้อ สร้างศัตรูอีกแล้ว?
?ฉันเป็นแพนด้าเรียกแขกรึไง?
?ก็ช่วยไม่ได้ไม่ใช่เหรอ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่จะเรียกแขกได้จริงๆ นี่นา?
ริโกะหัวเราะพลางมองหน้านาโอกิไม่วางตา
?ในชีวิตยี่สิบปีของฉันน่ะ เพิ่งเคยเจอผู้ชายหน้าตาดีขนาดอิวาสะคุงนะ หน้าก็เล็ก ตัวก็สูง ขาก็ยาวด้วย?
เขาคิดว่าปัจจุบันนี้ส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรไม่จัดอยู่ในประเภทตัวสูงแล้ว แต่เพราะหน้าเล็ก โดยมากคนจึงเห็นเขาดูตัวสูงกว่าความเป็นจริง
?แถมเป็นลูกชายบ้านคนมีตังค์?
แม้แต่โคตะก็ยังพูดแทรกขึ้นมา
?ใช่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นผลการเรียนก็เป็นเลิศ ได้รางวัลผลการเรียนยอดเยี่ยมของคณะเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้เลยได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียน?
?คนรวยได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียนเนี่ย ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยน้า?
โคตะพูดติดตลกพลางสูดเส้นพาสตาคำสุดท้ายเข้าปาก
?เฮ้อ เพราะอิวาสะคุงเลยเนี่ย ยิ่งทำให้โคตะอ้วนเร็วขึ้นอีก?
ริโกะถอนหายใจให้กับโคตะที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย
โคตะดูอวบจริงๆ ทั้งที่สูงน้อยกว่านาโอกิห้าเซนติเมตร ทว่าน้ำหนักคงจะตรงกันข้าม มากกว่าเป็นสิบกิโลเลยละมั้ง ไม่ถึงกับอ้วน แต่มีรูปร่างกลมแล้วยังใบหน้ากลม เป็นผู้ชายที่มีรูปร่างหน้าตาธรรมดา ในกรณีผู้ชาย ยิ่งเสริมเติมแต่งไม่ค่อยได้เท่าไร ก็ยิ่งเห็นความต่างของวัตถุดิบได้ง่ายดายเท่านั้น
ส่วนผู้หญิงจะกลบเกลื่อนได้พอสมควรตามแต่ความพยายาม นาโอกิคิดว่าริโกะเป็นคนประเภทมีความพยายาม หรือพูดอีกอย่างก็คือทรงผมหรือเสื้อผ้าดูน่ารักพอใช้ได้ แต่รูปร่างหน้าตาอย่างมากก็เรียกว่าระดับคนธรรมดา
แล้วเพื่อนทั้งสองคนที่ธรรมดาๆ คู่นี้ก็เป็นคู่รักกันด้วย ตอนที่ทั้งสองคนเริ่มคบกัน พอเขาแสดงความเห็นว่าเป็นผีเน่าโลงผุ ริโกะก็โมโหขึ้นมา ส่วนโคตะก็เขินว่า ?น่าสงสัยจังว่าทำไมริโกะถึงเลือกฉัน ไม่ใช่อิวาสะ?
นาโอกิก็มีคำถามที่หลงตัวเองเหมือนกัน ว่ามีผู้ชายแบบตัวเขาอยู่ใกล้ๆ ทำไมถึงได้ไปคบกับโคตะ แต่ที่นาโอกิอยู่กับสองคนนี้บ่อยๆ นอกเหนือจากเหตุผลทางรูปธรรมว่าลงเรียนด้วยกันหลายวิชาแล้วก็เพราะอย่างนี้นั่นแหละ
นาโอกิซึ่งไร้ที่ติทั้งฐานะทางบ้าน รูปร่างหน้าตา และผลการเรียน พออยู่กับเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่จะได้รับสายตาร้อนแรง พออยู่กับผู้ชายโดยมากจะได้รับความอิจฉา นั่นช่วยเติมเต็มความหยิ่งในศักดิ์ศรีแล้วก็สนุกด้วย ไม่ว่าความรู้สึกที่พุ่งมาจะเป็นแบบไหน นาโอกิก็ปัดทิ้งด้วยความเฉยเมยและปากร้ายที่เป็นมาแต่ไหนแต่ไรอย่างไม่สะทกสะท้าน ทว่าบางทีเขาก็อยากผ่อนคลาย ทั้งสองคนที่ลงเอยกันอย่างมีความสุขเรียบร้อยแล้วไม่มีความรู้สึกแบบไหนกับนาโอกิทั้งนั้น จึงทำให้สบายใจดีทีเดียว
?อ๊ะ อิวาสะคุง! มาเจอในที่แบบนี้ได้เนี่ย โชคดีจังเลย!?
เมื่อนึกว่าผู้ชายชวนนัดบอดจากไปแล้ว คราวนี้ทานาเบะ คานะก็วิ่งเข้ามาหาอีก เธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงจำนวนน้อยของคณะนิติศาสตร์ที่นาโอกิเข้าศึกษาอยู่เช่นเดียวกับริโกะ
?อิวาสะคุง เข้าใจตรงนี้ไหม? วันนี้ฉันต้องโดนถามแน่ๆ แต่ลืมเตรียมมาซะได้ ช่วยหน่อยสิ!?
หนังสือที่ถูกกางอยู่ตรงหน้าเขาเป็นหนังสือเรียนภาษาเยอรมัน เนื่องจากนักศึกษาที่เลือกเรียนภาษาเยอรมันเป็นภาษาต่างประเทศที่สองนั้นมีน้อย คานะจึงอยู่ในสภาพกระวนกระวาย
นาโอกิทอดสายตามองหนังสือเรียนแล้วส่งเสียงระอา
?เธอ ของอย่างนี้ก็ไม่เข้าใจ จะไม่เป็นไรเหรอ??
คานะทำหน้าหงอย
?นี่น่ะ...อ๊ะ?
นาโอกิอ้าปากกำลังจะอธิบาย แต่แล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้วยท่าทางเหมือนรับรู้ถึงการสั่นเมื่อมีสายเข้ามา ก่อนจะเปิดฝาพับโทรศัพท์
?โทรศัพท์น่ะ รอแป๊บนะ?
เขาให้คานะนั่งลงตรงที่ตัวเองแล้วยกโทรศัพท์มือถือแนบหู เดินออกไปตรงระเบียงราวกับจะหนีจากเสียงดังจอแจในโรงอาหาร
พอเลี้ยวเข้าไปตรงที่ที่เป็นมุมอับด้านในแล้ว นาโอกิก็พบผู้ชายที่ดูเหมือนจะต้องการที่สงบเหมือนกับเขา
ชายหนุ่มสวมสูทสั่งตัดอย่างดียืนยืดตัวตรงใต้แสงแดดต้นฤดูร้อนที่แรงราวกับจะเรียกเหงื่อด้วยใบหน้าสบายๆ
ชายหนุ่มตัวสูง รูปร่างกำยำ อายุอย่างมากคงสามสิบกลางๆ ได้ละมั้ง อาจเป็นอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่คณะไหนสักคณะ
แต่ตอนนี้เรื่องแบบนั้นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง
นาโอกิโยนโทรศัพท์มือถือที่จริงๆ แล้วไม่ได้มีสายเรียกเข้าไว้บนม้านั่ง แล้วหยิบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กออกมาจากกระเป๋าที่หยิบมาด้วยตอนลุกจากโต๊ะอย่างแนบเนียน
ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์จอมประชดประชันจนถึงเมื่อครู่ไม่รู้ไปไหนเสียแล้ว เขาคุกเข่าหน้าม้านั่งที่เปิดคอมพิวเตอร์ออกแล้วพยายามนึกรูปประโยคในหนังสือที่คานะเอาให้ดูอย่างกระวนกระวาย จากนั้นก็เริ่มค้นหาอย่างดุเดือด
อาจารย์สอนภาษาเยอรมันจะเรียกนักศึกษาตามลำดับแล้วให้แปลเหมือนชั่วโมงเรียนในโรงเรียนมัธยมปลาย เนื่องจากลำดับถูกกำหนดไว้แล้วจึงไม่คลาดเคลื่อนเด็ดขาด เพราะฉะนั้นวันนี้นาโอกิซึ่งจะไม่ถูกเรียกแน่นอนนั้นจึงไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างที่หาได้ยาก
หลังจากต่อสู้ฝ่าฟันสักระยะก็ได้คำตอบมาอย่างปลอดภัย นาโอกิถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเก็บคอมพิวเตอร์ลงกระเป๋า
เขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนกางเกงยีน ก่อนจะกลับไปยังโต๊ะที่ทั้งสามรออยู่ด้วยใบหน้าเรียบเฉยตามเดิม
?แล้วที่ไม่เข้าใจน่ะตรงไหน??
หลังจากถามใหม่อย่างไขสือด้วยท่าทางเบื่อหน่าย เขาก็อธิบายเนื้อหาที่ค้นมาเมื่อครู่ด้วยใบหน้าที่เหมือนกับว่าดึงความรู้ออกมาจากสมองของตัวเอง
?ว้าว งั้นเหรอ สุดยอดจริงๆ เลยเนอะ อิวาสะคุง ช่วยได้มากเลยจ้ะ เดี๋ยวเลี้ยงเป็นการตอบแทนนะ อ๊ะ วันนี้ว่างไหม??
ริโกะกล่าวเตือนคานะที่ทำตาเป็นประกายและเห็นได้ชัดว่าหวังจะใช้โอกาสนี้เข้าหานาโอกิ
?ถึงอย่างไรอิวาสะคุงก็เป็นได้แค่อาหารตานะจ๊ะ เรื่องที่เขามีนิสัยดี๊ดีน่ะ คานะจังก็น่าจะรู้ใช่ไหมล่ะ?
?อ๊า แต่ว่านะ ผู้ชายมีความสามารถเลยพูดสิ่งที่อยากพูดเหมือนอิวาสะคุงน่ะ เท่กว่าผู้ชายที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยยอมคนอื่นเยอะเลยนี่นา?
?ก็ถ้ามองอยู่ข้างๆ ล่ะนะ ขืนเข้าใกล้มากเกินไปจะเจ็บหนักเอา?
?เจ็บหนัก??
?ฉันกับอิวาสะคุงเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ ม.ปลาย ปีหนึ่ง คนคนนี้เนี่ยเป็นศัตรูกับเด็กผู้หญิงทั้งห้องตอน ม.ปลาย ปีสองนะ?
?อะไรกันน่ะเรื่องนั้น?
?อย่าเล่าเรื่องน่าเบื่อน่า?
นาโอกิเดาะลิ้นด้วยสีหน้าระอาเต็มทน แต่ริโกะก็เล่าต่อไปโดยไม่สนใจ
?มีเด็กผู้หญิงสวยสุดๆ ในห้องเราน่ะ เธอต้องย้ายโรงเรียน ทีนี้ก็เลยสารภาพรักกับอิวาสะคุงที่เธอแอบชอบมาตลอด แล้วคิดว่าอิวาสะคุงตอบว่าไง??
?บอกว่าไงเหรอ??
? ?อย่างเธอน่ะ ฉันไม่แข็งหรอก ยัยขี้เหร่? ?
เนื่องจากเรื่องที่ริโกะเล่าเป็นเรื่องที่ฟังเขามาอีกทีจึงย่อความกว่าเรื่องจริงมากทีเดียว ที่จริงเขาตอบรับคำสารภาพรัก ส่วนที่เขาพูดทิ้งท้ายไว้นั้นเป็นเรื่องหลังจากคบกันไปสักพัก แต่เพราะยุ่งยาก นาโอกิจึงไม่ได้สนใจแก้ให้ถูก
?ม่าย?
คานะเอามือสองข้างปิดหู
?เนอะ ร้ายเกินไปใช่ไหมล่ะ? เธอที่บอบช้ำทางจิตใจเลยเอาเรื่องนั้นไปเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วเรื่องนั้นก็กระจายไปทั้งห้องแบบปากต่อปาก ให้ใครต่อใครรังเกียจกันไปทั่ว?
?แต่อยากพูดดูสักครั้งแฮะ?
โคตะพึมพำ
ริโกะหันขวับไปทางโคตะ
?ว่าอะไรนะคะ??
?อ๊ะ เปล่า ฉันไม่เคยนึกเรื่องแบบนั้น ไม่ได้อยู่ในจุดที่คิดอย่างนั้นได้ด้วย แต่ปกติทั่วไปจะเรียกว่ายิ่งหงอกับผู้หญิงเท่าไร ก็ยิ่งหลงใหลในความหยิ่งยโสจองหองนั้นมากเท่านั้น หรือจะเรียกว่าเป็นความโรแมนติกของผู้ชายดีล่ะ?
?หยาบคายแล้วยังทำให้ผู้หญิงเจ็บปวดด้วยคำพูดคำจาร้ายๆ เนี่ยนะเป็นความโรแมนติกของผู้ชาย??
?เปล่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...?
?แต่ถ้าเป็นอิวาสะคุงละก็อาจจะโอเคนะ?
คานะพูดเบาๆ
?ถ้าผู้ชายคนอื่นพูดจาแบบนั้นใส่ก็คงโมโหกลับไปว่า ?อย่ามาล้อเล่นนะยะ ตาบ้า? แต่ถ้าคนที่สมบูรณ์แบบขนาดอิวาสะคุงพูดละก็คงได้แต่พูดว่า ?ขอโทษค่ะ? เท่านั้นแหละเนอะ?
?เดี๋ยวก่อน แม้แต่คานะจังก็อย่ารับได้สิ คนคนนี้เป็นศัตรูของผู้หญิงนะ??
?งั้นทำไมริโกะถึงสนิทด้วยล่ะ??
?ก็บอกว่าเป็นอาหารตาน่ะไม่เป็นไรไง เพราะฉันไม่เคยมองคนคนนี้ในแง่ชู้สาวเลย?
นาโอกิสลับขายาวๆ อีกข้างไขว่ห้างพลางหาว
ริโกะบอกว่าเขาทำให้ผู้หญิงทุกคนหันมาเป็นศัตรู แต่ก็มีเด็กผู้หญิงบอกว่ายอมให้พูดได้อยู่นี่ ที่จริงหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในตอนนั้นก็มีเด็กผู้หญิงมาสารภาพรักกับเขาอีกไม่ขาดสาย ไปเชื่อคำว่าศัตรูไม่ได้หรอก
แถมจากคำพูดสั้นๆ ที่โคตะเอ่ยออกมายังได้รู้ว่า คำพูดรุนแรงของเขานั้นมองจากสายตาผู้ชายแล้วก็เป็นได้แม้กระทั่งตำนานเล่าขานของผู้กล้า
ถึงนาโอกิจะทำเป็นไม่สนใจบทสนทนาที่ดำเนินไป เขาก็แอบพอใจกับเรื่องที่ตนได้รับการประเมินตามที่ต้องการอยู่เงียบๆ
ตอนนั้นเองเขาก็ถูกตีไหล่เบาๆ จากด้านหลัง
พอหันไปก็พบผู้ชายร่างใหญ่ที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียงเมื่อครู่
?นี่ ของเธอรึเปล่า?
สิ่งที่ชายหนุ่มยื่นมาเป็นโทรศัพท์มือถือของนาโอกิ ดูเหมือนว่าเขาจะหมกหมุ่นกับการค้นหาข้อมูลมากเกินไปจนลืมไว้บนม้านั่ง
?ขอบคุณ?
นาโอกิพูดด้วยท่าทางหยาบคายเหลือเกินสำหรับคำขอบคุณ แล้วกระชากมือถือจากมือใหญ่ของชายหนุ่ม
?ด้วยความยินดี?
ชายหนุ่มยิ้มอย่างอบอุ่นโดยไม่สนใจท่าทีเลวร้ายของนาโอกิแล้วจากไป
?กรี๊ด หล่อตลอดเลยเนอะ อาจารย์อาเบะเนี่ย?
คานะพูดด้วยเสียงแหลมสูง
ถึงนาโอกิจะหงุดหงิดขึ้นมาในใจว่า เธอเล็งฉันไว้ไม่ใช่รึไง แต่ก็ไล่สายตาตามชายหนุ่มที่หายลับไปหลังบานประตู
?นั่นเป็นอาจารย์เรอะ?
?อิวาสะคุงไม่รู้จักเหรอ? อาจารย์อาเบะ โซสุเกะ รองศาสตราจารย์คณะอักษรศาสตร์ไงล่ะ?
?จะไปรู้จักคนคณะอื่นได้ไงเล่า ว่าแต่เป็นรองศาสตราจารย์เนี่ย ไม่หนุ่มไปหน่อยเรอะ??
?สามสิบสี่จ้ะ เป็นรองศาสตราจารย์ที่หนุ่มที่สุดในสายศิลป์แล้ว แถมโสดด้วย!?
ริโกะอธิบายอย่างคล่องแคล่ว
?ทำไมรู้ละเอียดแบบนั้นล่ะ?
?ก็คานะจังกับฉันเลือกวิชาของอาจารย์อาเบะคณะอักษรฯ เป็นวิชาศึกษาทั่วไปนี่?
?เลกเชอร์ของอาจารย์อาเบะ อัตราผู้หญิงเข้าฟังเยอะนะ?
?อืม แปดสิบเปอร์เซ็นต์อาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้?
?เด็กผู้หญิงเนี่ยชอบคนหล่อจริงๆ เนอะ?
ริโกะส่ายนิ้วชี้ไปมาร้องจุ๊ๆๆ ตรงหน้าโคตะที่ยิ้มขื่น
?ไม่ใช่แค่หน้าตานะ เลกเชอร์ก็สนุกสุดๆ ไปเลย?
?ใช่ๆ พอฟังเลกเชอร์อาจารย์อาเบะแล้วอยากย้ายไปเรียนอักษรฯ เลยเนอะ?
?นั่นสิเนอะ ตอนนี้ได้เจอกันแค่อาทิตย์ละครั้ง แต่ถ้าเป็นพวกวิชาวรรณคดีเยอรมันคงได้เจอทุกวันแน่ๆ?
?ว้าย ได้มองรูปร่างเท่ๆ นั่นทุกวันเนอะ?
?ถึงจะเท่แต่ก็ลุงไม่ใช่เหรอ?
พอนาโอกิแหย่ปุ๊บ
?อิวาสะคุง เมื่อกี้ยังบอกว่า ?หนุ่ม? อยู่เลยไม่ใช่เหรอ?
ก็ถูกริโกะโต้กลับปั๊บ
?หมายถึงสำหรับการเป็นรองศาสตราจารย์ต่างหากเล่า แล้วเนื้อหอมขนาดนั้นแต่ยังโสดมาจนถึงอายุสามสิบกลางๆ เนี่ย มันไม่น่าสงสัยเรอะ??
?เนื้อหอมเกินไปเหมือนอิวาสะคุง ก็เลยลงเอยเลือกใครสักคนไม่ได้ไม่ใช่เหรอ??
นาโอกิหัวเราะหึให้กับโคตะที่ออกความเห็นอย่างคนดีแล้วจงใจพูดให้ดูร้าย
?หรือเพราะวัย ร่างกายเลยรับมือผู้หญิงไม่ไหวแล้ว??
?พูดอะไรเสียมารยาทน่ะ ยังวัยเลขสามอยู่เลยนะ??
ราวกับจะกลบเสียงตำหนิของริโกะ
?ถ้างั้นอาจจะแค่ตรงนั้นมั้งที่ฉันชนะน่ะ?
โคตะพึมพำ
ริโกะหน้าแดงแปร๊ด
?เดี๋ยวเถอะ โคตะ! อย่าไปรับอิทธิพลทำตัวหยาบคายมาจากอิวาสะคุงสิ!?
?เอ๊ะ โคตะคุงเนี่ยอึดดีงั้นเหรอ??
?แม้แต่คานะจังก็!?
แม้นาโอกิจะแกล้งมองการพูดคุยไร้สาระด้วยสีหน้าเอือมระอา แต่ภายในใจกลับหงุดหงิดเต็มประดา
ขนาดคู่รักธรรมดาทั่วไปแบบนี้ยังทำเรื่องที่ควรทำไปแล้วเลย ทำไมตัวเขาคนนี้ถึงยังบริสุทธิ์มาจนถึงตอนนี้กัน?
สำหรับอิวาสะ นาโอกิ ชายหนุ่มเนื้อหอมที่สุดในคณะซึ่งผู้หญิงต่างมองว่าเขาเนื้อหอมเหลือเกินและผู้ชายต่างมองเขาอย่างอิจฉาเสมอนั้นมีความลับอันน่าอับอายที่บอกใครไม่ได้เด็ดขาด ว่าตัวเองอายุยี่สิบแล้วแต่ยังเป็นหนุ่มซิงอยู่ ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาในเวลานี้ก็คือ การทิ้งความบริสุทธิ์ไปเสียทีระหว่างที่คนรอบข้างยังไม่รู้เรื่องนี้

คาดว่านิสัยของอิวาสะ นาโอกิส่วนใหญ่หล่อหลอมมาจากสภาพแวดล้อมที่เกิดและเติบโตมา
นาโอกิเป็นลูกคนที่สามซึ่งเกิดจากพ่อที่เป็นผู้บริหารคลินิกศัลยกรรมมีชื่อเสียงในละแวกนั้นกับแม่ผู้งดงามที่สมัยเรียนเคยได้รับเลือกเป็น ?ดาวมหาวิทยาลัย? เขาได้รับส่วนที่ยอดเยี่ยมมาจากทั้งพ่อและแม่ ตั้งแต่เขายังเล็ก สายตาจากคนรอบข้างพุ่งตรงมาที่ตัวเขาเพราะความเฉลียวฉลาดและรูปงามนั้น
นาโอกิเติบโตมาด้วยการถูกเอาอกเอาใจประคบประหงมจากพ่อแม่และพี่ชายพี่สาวซึ่งอายุห่างกัน จนโตมาเป็นลูกชายเอาแต่ใจของเศรษฐีเหมือนในภาพวาด
ถ้าแค่เอาแต่ใจธรรมดาก็คงถูกเอือมระอา แต่เพราะไม่ใช่แค่คำคุยโวของลูกชายเศรษฐี ทว่าทั้งผลการเรียนและความสามารถทางกีฬาต่างก็ยอดเยี่ยมไม่มีที่ติ นิสัยเสียๆ นั้นจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งไปด้วย
ทุกคนต่างพากันคิดกันว่า ส่วนที่เป็นเลิศทั้งบู๊และบุ๋นนั้นเป็นพรสวรรค์ที่สวรรค์ประทานมาให้เหมือนกับฐานะทางบ้าน และตัวนาโอกิเองก็ปรารถนาที่จะให้ทุกคนคิดแบบนั้น ถึงที่จริงแล้วจะเป็นผลลัพธ์จากความพยายามก็ตาม
เพราะมีความทะนงตัวสูงและเกลียดความพ่ายแพ้ เบื้องหน้าจึงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่เบื้องหลังมีคาแรกเตอร์ตลกๆ ทุ่มเทกับการเรียนอย่างหนักหนาสาหัสจนเห็นแล้วชวนให้อมยิ้ม โชคดีที่รอบข้างไม่มีใครได้เห็น ภาพลักษณ์เจ้าชายสุดเท่จอมเอาแต่ใจของนาโอกิเลยไม่ถูกทำลาย
ด้วยเหตุนี้นาโอกิจึงเนื้อหอมกับเด็กผู้หญิงมาตั้งแต่จำความได้ คาดว่าคำสารภาพรักที่ได้รับตลอดชีวิตยี่สิบปีคงเกินร้อยอย่างง่ายดาย
แต่นาโอกิปฏิเสธคำสารภาพรักเหล่านั้นทั้งหมด
ไม่ใช่ผู้หญิงระดับที่เหมาะสมกับตนเอง การพูดเช่นนี้เป็นเหตุผลภายนอกไว้บอกคนอื่นสำหรับตัวเขา ที่จริงแล้วครึ่งหนึ่งเป็นไปตามนั้น ส่วนอีกครึ่งที่เหลือเป็นเหตุผลที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัด
การคบหากับใครสักคนอย่างลึกซึ้ง เขากลัวว่ามันจะลอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนอำพรางเพื่อคงเสน่ห์เอาไว้ออก จึงเผลอระวังไม่ให้ผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้ง
ทว่าก็มีเหตุผลง่ายๆ ที่ว่าไม่มีเด็กผู้หญิงที่ชอบด้วยเช่นกัน คนหลงตัวเองผู้ไม่ประสาและรักตัวเองที่สุดนั้น ไม่เคยคิดอยากคบเด็กผู้หญิงจนถึงกับต้องเสี่ยงอันตรายจนอาจทำให้ตัวเองเจ็บปวด
ที่นาโอกิผู้เป็นเช่นนี้ตอบรับคำสารภาพรักเป็นครั้งแรกคือ ฤดูร้อนตอนมัธยมปลายปีสอง
เด็กสาวคนนั้นชื่อยามากุจิ อัน อย่างที่ริโกะเล่าไว้ เธอดูดีมากทีเดียว อย่าว่าแต่เพียงในห้อง สายตาจากผู้ชายทั้งระดับชั้นต่างจับจ้องมายังเธอ
เหตุผลประการแรก รูปลักษณ์ดูดีสอบผ่าน และเหตุผลอีกประการคือ เนื่องจากเธอจะย้ายโรงเรียนไปในอีกสองอาทิตย์ให้หลังแล้ว จึงจบเรื่องลงได้ด้วยการคบกันในระยะเวลาจำกัด นี่คือเหตุผลหลักที่เขาตอบรับคำสารภาพ
พอขึ้นมัธยมปลายปีสอง เพื่อนร่วมชั้นที่ได้มีประสบการณ์แรกเรียบร้อยแล้วต่างเริ่มแสดงตัวกันออกมาตรงโน้นตรงนี้
เขาคิดว่าพวกที่เปิดเผยออกมาโดยเน้นความเร็วเข้าว่านั้นดูโง่และเห่ย แต่เขาก็คิดด้วยเหตุผลที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางไม่เปลี่ยนว่า เราเองก็อาจใกล้ถึงเวลาที่ควรมีประสบการณ์ไว้บ้างก็ดีเหมือนกันแล้ว
หลังจากตอบรับคำสารภาพรักก็ไปเดตกันสองคนอีกหลายครั้ง พูดตามตรงเขาไม่รู้สึกว่ามันสนุกสักนิดเลย
ลูกชายคนสุดท้องจอมเอาแต่ใจที่เติบโตมาในครอบครัวซึ่งมีแม่บ้านคอยดูแลเรื่องนั้นเรื่องนี้มาตั้งแต่ยังเล็ก แม้จะเคยชินกับการมีคนทำนั่นนี่ให้ ทว่าเขากลับไม่ถนัดทำอะไรให้ใครเลย ยิ่งไม่ต้องทำอะไรก็เนื้อหอม ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความขยันหรือการดูแลเอาใจใส่ การดูแลเด็กผู้หญิงก็ยิ่งเป็นงานที่น่ารำคาญและน่าเบื่อ
เขาไปเที่ยวบ้านเธอตอนเดตครั้งที่สาม เนื่องจากได้จังหวะดีที่แม่เธอออกไปซื้อของให้พอดี เขาจึงรีบลงมือทันที แต่เดิมก็เหมือนคบกันเพื่อจุดประสงค์นี้อยู่แล้ว แถมเธอยังกระตือรือร้นกว่าเสียอีก
เขาทำตัวสบายๆ เหมือนกับว่า ถ้าเธอคิดอยากจะทำอย่างนั้นละก็เขาจะกอดให้ก็ได้? พลางถอดเสื้อผ้าเธอออก
นาโอกิคิดว่าเรื่องแบบนี้ ขอแค่เริ่มไปเดี๋ยวก็เกิดอารมณ์ตามสัญชาตญาณแล้วทำทุกอย่างได้เอง
ทว่าไม่รู้ทำไมสวิตช์สัญชาตญาณนั้นถึงไม่เปิด ร่างกายของเด็กสาวที่เปี่ยมไปด้วยความร้อนและความชื้นนั้นสดเหลือเกิน แต่อย่าว่าจะปลุกอารมณ์เขาเลย กลับทำให้หมดอารมณ์เสียมากกว่า
แต่มาถึงตรงนี้แล้วจะถอยก็ไม่ได้ เขาลงมือเล้าโลมโดยเลียนแบบสิ่งที่เห็นในวิดีโอ AV คิดว่าอย่างไรก็ทำให้เสร็จๆ ไปดีกว่าแล้วฝืนใส่เข้าไป
แน่นอนว่าในเมื่อไม่ได้เกิดอารมณ์เลยสักนิดย่อมไม่มีทางทำสำเร็จลุล่วงไปได้ แม้จะลองอีกหลายครั้งแต่ก็จบลงอย่างผิดพลาดทุกครั้งไป
สำหรับนาโอกิแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องเสียหน้าที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เขาจะฝ่าสถานการณ์น่าขายหน้านี้ไปได้อย่างไรกัน
สุดท้ายเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปีผู้ยังอ่อนหัดและมีแต่ความหยิ่งในศักดิ์ศรีที่พองตัวขึ้นก็ดิ้นรนด้วยการปัดความรับผิดชอบให้คนอื่นอย่างต่ำทราม
นาโอกิลุกขึ้น พยายามซ่อนความสับสนภายในใจแล้วทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนถอนหายใจดัง ?เฮ้อ?
?โทษทีนะ แต่คนขี้เหร่น่ะ ของฉันมันไม่แข็งหรอก?
เป็นคำพูดสุดเลวร้ายที่อ่อนหัดและน่าขันเหลือเกิน แต่ก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอจะต้องเจ็บปวด ทว่านาโอกิที่พลั้งปากพูดออกไปก็รู้สึกไม่ดีพอกัน ดังนั้นตอนที่เธอย้ายโรงเรียนและหายไปจากตรงหน้า เขาจึงโล่งอกอยู่ลึกๆ
เป็นเรื่องปกติของเด็กผู้หญิง ดูเหมือนว่าก่อนย้ายโรงเรียนไปเธอจะเปิดเผยเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบให้ ?เพื่อนสนิท? ฟัง แล้ว ?เพื่อนสนิท? คนนั้นก็เล่าให้ ?เพื่อนสนิท? ฟังอีกที เรื่องที่นาโอกิกระทำลงไปเลยกระจายไปทั่วทั้งห้องในชั่วพริบตา
บางคนก็ขมวดคิ้วให้กับคำพูดและการกระทำอันโหดร้ายนั้น ในทางกลับกันก็มีบางคนสรรเสริญว่า ?ต่อให้เป็นคนสวยขนาดนั้นก็ยังไม่หน้ามืดเนี่ย สุดยอดเลย?
เพรารูปลักษณ์ภายนอกของนาโอกิสมบูรณ์แบบ จึงโชคดีที่ไม่มีใครมองความจริงอันน่าขายหน้าออกเลยสักคน
ไม่รู้ว่าเป็นบทลงโทษที่ทำให้คนอื่นเจ็บปวดรึเปล่า แม้จะผ่านไปสามปีแล้วนาโอกิก็ยังบริสุทธิ์อยู่แบบนี้
เขากลัวจะผิดพลาดอีกครั้ง เลยไม่สามารถยื่นมือไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่รู้จักหน้าค่าตาในมหาวิทยาลัยได้ แต่ถึงอย่างนั้นจะให้ไปใช้บริการร้านอย่างว่า เขาก็เติบโตมาดีเกินไปและมีศักดิ์ศรีสูงเกิน
แม้รอบข้างจะคิดว่าเขาเที่ยวเล่นเต็มที่จนเบื่อผู้หญิง แต่นาโอกิกลับร้อนรนและหวาดวิตกอยู่เงียบๆ ว่า ขืนเป็นแบบนี้ อาจจะจบลงด้วยการเป็นหนุ่มซิงไปตลอดชีวิตก็ได้





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นาโอกิ นักศึกษามหาวิทยาลัย เจ้าชายสุดเท่จอมเอาแต่ใจ ไม่ว่าจะฐานะทางบ้าน รูปร่างหน้าตา หรือผลการเรียนก็เป็นเลิศไร้ที่ติ และยังเนื้อหอมมากในหมู่สาวๆ แต่นาโอกิที่เป็นเช่นนี้กลับมีความลับอยู่ อันที่จริงแล้วเขายังเป็นหนุ่มซิงมาจนถึงตอนนี้ วันหนึ่งที่เขาแอบร้อนรนว่าควรจะสละความบริสุทธิ์ไปได้แล้ว นาโอกิก็ได้รู้จักกับรองศาสตราจารย์อาเบะ ชายหนุ่มผู้ทั้งมีเสน่ห์และใจเย็นสมกับเป็นผู้ใหญ่ซึ่งล่วงรู้ความลับของนาโอกิเข้า ทว่านาโอกิก็เริ่มเข้าออกห้องวิจัยของอาเบะบ่อยขึ้นโดยไม่รู้ตัว...? เรื่องราวความรักคอเมดี้ชวนใจเต้นระหว่างฝ่ายรุกจอมวางแผนกับฝ่ายรับซึนเดเระ?

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”