New Release BLY แปล : กระซิบรักจากคุณเพื่อนบ้าน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : กระซิบรักจากคุณเพื่อนบ้าน

โพสต์ โดย Gals »

1

ชีวิตของโดจิมะ โฮตารุเป็นระเบียบมาก เขาตื่นนอนตีห้าครึ่งทุกเช้า ดื่มน้ำเย็นหนึ่งแก้วทันทีหลังลุกจากเตียง และใช้เวลาสามสิบนาทีทำความสะอาดห้องขนาด 1DK ที่อาศัยอยู่คนเดียว
จากนั้นเขาจะรับประทานขนมปังปิ้งกับกาแฟเป็นอาหารเช้าพลางดูรายการข่าวทางโทรทัศน์ไปด้วย และต้องเป็นช่อง NHK เท่านั้น
โฮตารุใช้เวลาแปรงฟันห้านาทีพอดิบพอดี เขาหยิบเนกไทตามวันรายสัปดาห์ออกมาจากตู้เสื้อผ้าซึ่งภายในถูกจัดเป็นระเบียบราวกับชั้นโชว์สินค้า เขาสำรวจตัวเองกับบานประตูกระจกของตู้เก็บรองเท้าใกล้ๆ ประตูห้องเพื่อยืนยันความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย
ไม่รู้เป็นเพราะตาสองชั้นลึก หางตาชี้ขึ้นเล็กน้อย ประกอบกับริมฝีปากบางซึ่งเม้มเป็นเส้นตรงตลอดเวลาหรือเปล่า หลายคนจึงบอกว่าเขาดูเป็นคนไร้อารมณ์และเย็นชา
แต่ใบหน้าเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของร่างกายเท่านั้น จะเป็นอย่างไรก็ช่าง โฮตารุไม่สนใจเรื่องรูปร่างหน้าตา เขาแค่ต้องการยืนยันให้แน่ใจว่าตัวเองแต่งกายสะอาดและเป็นระเบียบ ผมเผ้าต้องไม่ยุ่งเหยิง แว่นตาต้องไม่มัว เนกไทต้องไม่เบี้ยว
ทุกอย่างไม่มีปัญหา นั่นหมายความว่าหากขึ้นรถไฟไปทำงานคงไม่มีใครมองเขาด้วยสายตาประหลาด ชายวัยสามสิบโล่งอก แต่สีหน้ายังนิ่งไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม โฮตารุสวมรองเท้าขัดเงามันวับ หยิบถุงขยะและเดินออกจากห้อง
ลิฟต์เคลื่อนลงมาจากชั้นบน มีคนอยู่ในนั้นก่อนแล้ว เป็นชายร่างใหญ่สวมชุดอยู่บ้านกับรองเท้าแตะ มือของเขาถือถุงขยะเช่นเดียวกับโฮตารุ
?อรุณสวัสดิ์ครับ?
เสียงทุ้มต่ำอ่อนนุ่มดังทักทาย โฮตารุโค้งคำนับกลับโดยไม่ได้มองใบหน้าอีกฝ่าย
โฮตารุอาศัยอยู่ห้องเช่าของแมนชั่นใจกลางเมืองมาตลอด เขาไม่เคยทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านแม้แต่คนเดียว หากอีกฝ่ายทักทายมา เขาก็ทักทายกลับ แต่หลังจากนั้นต่างเงียบกริบ เขาไม่รู้ว่าลูกบ้านแต่ละคนอาศัยอยู่ห้องไหนเป็นคนอย่างไรบ้าง และแน่นอนเขาไม่รู้ว่าผู้ชายซึ่งลงลิฟต์ด้วยกันมานี้อาศัยอยู่ชั้นอะไร
จะว่าไปเมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อน มีคนหนึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ เขานำผ้าขนหนูมากล่าวสวัสดีโฮตารุด้วย ไม่รู้ว่าอยู่ห้องชั้นบน ชั้นล่าง หรือห้องข้างๆ เอาเป็นว่าห้องใดห้องหนึ่งนี่แหละ โฮตารุไม่ชอบเหตุการณ์ที่ผิดแผกไปจากชีวิตประจำวัน สำหรับเขาการกระทำเช่นนั้นถือเป็นเรื่อง ?น่ารำคาญ...? ตอนนั้นเขาไม่ได้สวมแว่นตาจึงเห็นใบหน้าอีกฝ่ายไม่ชัด แถมไม่ได้ถามชื่อด้วย
ลิฟต์หยุดที่ชั้นหนึ่ง โฮตารุกับผู้ชายคนนั้นเดินออกมาด้วยกัน อีกฝ่ายเปิดถังขยะก่อนและกดฝาถังขยะรอโฮตารุ
?...ขอบคุณ?
โฮตารุทำหน้านิ่งขณะพึมพำ สายตาของเขามองเห็นมัดกล้ามเนื้องดงามลอยเด่นออกมาจากท่อนแขน
?ไม่เป็นไรครับ?
ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใสก่อนปิดถังขยะ
ขณะกำลังจะก้าวขาไปจากตรงนั้น โฮตารุมองเห็นถุงพลาสติกร้านสะดวกซื้อตกอยู่ตรงข้ามถังขยะ ภายในบรรจุซากข้าวกล่อง สภาพในถุงเละเทะ เมล็ดข้าวกระจายออกมาข้างนอก สงสัยคงถูกอีกาจิกล่ะมั้ง
ที่จริงถังขยะใบนี้มีไว้สำหรับลูกบ้านที่อาศัยอยู่ในแมนชั่นแห่งนี้เท่านั้น แต่บ่อยครั้งที่คนเดินเท้าผ่านมาทิ้งขยะแล้วจากไป
โฮตารุหยิบไม้กวาดกับที่โกยผงซึ่งวางอยู่ข้างๆ ถังขยะ และเริ่มลงมือกวาดขยะอย่างคล่องแคล่ว
?ให้ผมช่วยไหมครับ??
ผู้ชายคนเมื่อครู่เอ่ยปากถาม จุ้นจ้านไม่เข้าเรื่องจริง โฮตารุเดาะลิ้น ?ชิ? ในใจ ?ไม่ต้อง? ก่อนตอบกลับอย่างเย็นชา
ที่โฮตารุทำอยู่นี่ไม่ใช่เพราะศีลธรรมจรรยาอะไรหรอก ตรงนี้เป็นพื้นที่ด้านหน้าแมนชั่น กล่าวคือเป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัยของโฮตารุ เขาทนไม่ได้ที่เห็นขยะถูกทิ้งเรี่ยราดอยู่บริเวณนี้
โฮตารุกวาดขยะใส่ที่โกยผงจนพื้นสะอาดเอี่ยม ไม่เหลือแม้แต่เศษผงเล็กๆ จากนั้นเขาเดินถือที่โกยผงออกไปยังกลางถนน และค่อยๆ เทของที่อยู่ข้างในออกมาจนหมด ขยะพวกนี้คนเดินเท้าเป็นคนทิ้งไว้ เพราะฉะนั้นคนเดินเท้าก็ต้องรับผิดชอบสิถึงจะถูก
เขาเก็บไม้กวาดกับที่โกยผงเข้าที่ก่อนเริ่มก้าวขาออกไปยังถนน จังหวะนั้นเองผีเสื้อตัวเล็กๆ บินผ่านหน้าเขาพอดี ไม่ใช่แค่ตัวเดียว แต่มีถึงสองตัว ผีเสื้อทั้งสองบินขวักไขว่ เดี๋ยวก็บินเข้าหากันเดี๋ยวก็บินแยกจากกัน เข้ากับบรรยากาศของต้นฤดูใบไม้ผลิ
โฮตารุหยุดยืนมองตามผีเสื้อ พลางนึกเสียใจว่าไม่น่ารีบเก็บไม้กวาดเลย ไม่เช่นนั้นเขาคงยกไม้กวาดขึ้นปัดผีเสื้อสองตัวนี้ให้แยกออกจากกันไปแล้ว
?น่ารักเหมาะกับฤดูใบไม้ผลิมากเลยนะครับ ผีเสื้อ?
เสียงพูดดังขึ้นอีกครั้ง โฮตารุสะดุ้งเฮือก
เขาหันกลับไปมอง พบผู้ชายคนเมื่อครู่กำลังยืนทำหน้าสดชื่นอยู่
นี่ยังอยู่อีกเหรอ ว่าแต่ผีเสื้อพวกนี้มันน่ารักตรงไหน
?ชิ? โฮตารุเดาะลิ้นในใจอีกครั้ง ดวงตาสองชั้นรูปทรงงดงามของอีกฝ่ายค่อยๆ หรี่เล็ก รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่โฮตารุรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม
โฮตารุเมินใส่ เขาก้าวขาเดินบนถนน มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ
โฮตารุทำงานเป็นพนักงานบัญชีในโรงงาน เริ่มงานตอนเจ็ดโมงห้าสิบซึ่งเร็วกว่าบริษัทอื่นๆ
ก่อนหน้านี้เลย์เอาต์โต๊ะทำงานภายในบริษัทถูกเปลี่ยนเป็นแบบฟรีสไตล์ ใครจะนั่งทำงานตรงไหนก็ได้ แต่พนักงานบัญชีของโรงงานเก่าแก่ไม่คุ้นชินกับแนวคิดนี้ ผ่านไปเพียงไม่นานแต่ละคนก็กลับมามีที่นั่งประจำของตัวเอง
โฮตารุเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์บนโต๊ะมุมห้องซึ่งเป็นโต๊ะทำงานที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด เขาพิมพ์รหัสพนักงานบนหน้าจอโปรแกรมบันทึกเวลาและเริ่มเช็กอีเมล เมื่อถึงเวลาเริ่มงาน เสียงวิทยุนำออกกำลังกายครั้งที่หนึ่งดังกระหึ่มลำโพงซึ่งติดอยู่ในแต่ละชั้น พนักงานหลายคนลุกขึ้นยืนออกกายบริหารกันอย่างขยันขันแข็ง
วันหนึ่งวันของโฮตารุส่วนมากหมดไปกับการจดจ้องตัวเลขผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
โฮตารุทำงานเป็นพนักงานบัญชีอาวุโส หน้าที่หลักของเขาคือตรวจสอบบัญชีลูกหนี้การค้าและบัญชีเจ้าหนี้การค้าร่วมกับรุ่นน้องอีกสองคน เจ้าหน้าที่รับผิดชอบบัญชีลูกหนี้การค้าคือฮานาโมโตะ โชโกะ พนักงานสาวอายุน้อยกว่าโฮตารุสองปี หน้าตาคล้ายแพะ ส่วนเจ้าหน้าที่รับผิดชอบบัญชีเจ้าหนี้การค้าชื่อมิอุระ เคนจิ พนักงานใหม่ทำงานได้เป็นปีที่สอง หน้าตาเหมือนปลานโปเลียนในมหาสมุทร
ตอนนี้แพะกับปลานโปเลียนกำลังคบหากันอยู่ ประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้าโฮตารุบังเอิญเห็นทั้งสองจู๋จี๋กันในห้องครัวพนักงาน เขาตกใจมาก
ความรักในที่ทำงานเป็นเรื่องน่าขยะแขยง รุ่นน้องสองคนของเขาทำเรื่องแบบนั้นลงไปได้อย่างไร มิอุระน่าจะเพิ่งยี่สิบสี่ การที่เขาตัดสินใจคบหากับฮานาโมโตะซึ่งอายุมากกว่าถึงสี่ปี นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้คิดจริงจังจนถึงขั้นแต่งงานเสียหน่อย
แต่ก็เอาเถอะ เรื่องของคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง
โฮตารุรับประทานมื้อกลางวันในโรงงานอาหารของบริษัทโดยไม่ประวิงเวลา พอถึงช่วงบ่ายก็กลับมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์อีก
ขณะกำลังตรวจสอบยอดคงเหลือของข้อมูลที่มิอุระส่งมาให้ โฮตารุพบว่าตัวเลขเปรียบเทียบปริมาณวัตถุดิบนั้นผิดปกติ ไม่รู้เพราะเหตุใดวัตถุดิบที่ใช้เดือนนี้จึงเพิ่มมากกว่าเดือนที่แล้วถึงห้าเปอร์เซ็นต์ พอลองตรวจสอบเนื้อหาข้อมูลอย่างละเอียด หน่วยการสั่งซื้อผิดปกติ เป็นความผิดพลาดของฝ่ายจัดซื้อ
ตอนแรกตั้งใจว่าจะวานให้มิอุระผู้รับผิดชอบติดต่อไปยังฝ่ายจัดซื้อด้วยตัวเอง แต่เขาเปลี่ยนใจ ทั้งมิอุระและฮานาโมโตะนั้นยังขาดความเด็ดขาด อย่างเวลาโทรศัพท์หรือส่งอีเมลภายในบริษัท ทั้งคู่มักเริ่มบทสนทนาด้วยคำทักทายไร้สาระ ?ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับความกรุณานะครับ? หรือถามสารทุกข์สุกดิบอีกฝ่ายโดยไม่จำเป็น ?หลังจากวันนั้นอาการหวัดเป็นอย่างไรบ้างคะ? คู่สนทนาก็ไม่รับรู้สิว่าเรื่องที่จะพูดต่อจากนี้มันสำคัญขนาดไหน
โฮตารุโทรศัพท์หาโยชิอิเคะฝ่ายจัดซื้อด้วยตัวเอง
?โอ๊ะ โดจิมะ? เมื่อวันก่อนขอบใจมากนะ ปากกาลูกลื่นด้ามนั้นเขียนลื่นดีจริงๆ?
โยชิอิเคะเข้ามาทำงานปีเดียวกับเขา อีกฝ่ายเริ่มต้นพูดเรื่องสัพเพเหระด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง เมื่อวันก่อนที่โยชิอิเคะพูดถึง คือการประชุมระหว่างฝ่ายบัญชีกับฝ่ายจัดซื้อซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมกราคมโน่น วันนั้นโยชิอิเคะลืมนำอุปกรณ์เครื่องเขียนมาด้วย โฮตารุจึงยกปากกาลูกลื่นในมือให้เขาไปหนึ่งด้าม
ฟังเหมือนโยชิอิเคะจะชวนคุยเรื่องสัพเพเหระต่อ โฮตารุจึงรีบขัดและพูดเข้าประเด็นทันที
?หน่วยการสั่งซื้อผิดปกติ?
?เอ๊ะ อย่างนั้นเหรอ??
?ตรวจสอบให้ละเอียดด้วย?
?ฉันคิดว่าก็ตรวจสอบละเอียดแล้วนะ?
?อย่าแค่คิดว่า เพราะฉันเดือดร้อน เมื่อสองเดือนก่อนก็พลาดแบบนี้มาแล้ว จะให้ฉันพูดซ้ำอีกกี่ครั้งถึงจะเข้าใจ?
โฮตารุพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว มิอุระกับฮานาโมโตะซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหันมาสบตากันพลางทำหน้าหวาดผวา
โยชิอิเคะที่อยู่ปลายสายอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนตอบกลับมาว่า ?ขอโทษ? ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
ฟังเหมือนไม่ได้สำนึกผิดจริงๆ เลย โฮตารุรับรู้ได้ว่าฝ่ายถูกตำหนิกำลังโมโหกลับ
ทางนั้นตัดสายไปก่อนที่โฮตารุจะทันได้วางโทรศัพท์
งานของพนักงานบัญชี หากพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็เหมือนงานจับผิดฝ่ายจัดซื้อกับฝ่ายขายนั่นแหละ เป็นธรรมดาที่ฝ่ายบัญชีจะถูกเพื่อนร่วมงานเขม่น
ความคิดที่ว่าอยากเป็นที่รักของคนโน้นคนนี้ อยากรักษาสัมพันธภาพระหว่างเพื่อนมนุษย์ให้ดีอยู่เสมอนั้น มีอยู่ในสมองของโฮตารุแบบเจือจางมาก เขาจึงไม่สนใจที่ตัวเองทำให้โยชิอิเคะโมโห
หลายตำแหน่งในฝ่ายบัญชีจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลาต่ออีกหลายชั่วโมง แต่งานของโฮตารุส่วนมากจะเสร็จภายในเวลา มีแค่วันกำหนดส่งยอดขายและยอดสั่งซื้อทุกๆ ต้นเดือนเท่านั้นที่โฮตารุจะยุ่งเป็นพิเศษ แต่นอกนั้นเป็นงานรูทีน เนื้อหางานในแต่ละวันแทบไม่ต่างกัน
หลังเลิกงานโฮตารุมักแวะร้านสะดวกซื้อหรือร้านข้าวกล่องเพื่อซื้ออาหารเย็นกลับบ้าน
เนื่องจากโฮตารุทำความสะอาดห้องก่อนออกไปทำงานทุกเช้าไม่เคยขาด ดังนั้นห้องของเขาจึงสะอาดเอี่ยมตลอดเวลา ความสะอาดและความเงียบสงบคือสิ่งที่โฮตารุรักมากที่สุด
สิ่งแรกที่โฮตารุทำหลังกลับถึงบ้านคืออาบน้ำและซักเสื้อผ้าด้วยเครื่องซักผ้า จากนั้นก็ถึงช่วงเวลาที่โฮตารุมีความสุขมากที่สุดของวัน นั่นคือการทานอาหารเย็นแกล้มเบียร์พลางดูหนังเรื่องโปรดเงียบๆ ตามลำพัง
มิอุระเคยถามเขาว่า กินข้าวที่โรงอาหารกับร้านสะดวกซื้อทุกวันไม่เบื่อเหรอ แต่ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยไม่พอใจอะไร
สงสัยตอนนี้มิอุระคงกำลังกินอาหารฝีมือฮานาโมโตะอยู่ล่ะมั้ง
อาหารฝีมือผู้หญิง แค่จินตนาการโฮตารุก็สะพรึงแล้ว เขามั่นใจว่าข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อถูกสุขอนามัยมากกว่า มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า และอร่อยกว่าโดยไม่ต้องสงสัย
โฮตารุเป็นคนเลือกทานมาแต่ไหนแต่ไร อาหารหน้าตาสวยๆ ที่ผู้หญิงสมัยนี้ปรุงมีแต่ของที่เขาไม่ชอบกิน

ที่โฮตารุเป็นคนจิตใจคับแคบและหัวแข็งอย่างทุกวันนี้ น่าจะเป็นผลมาจากชีวิตในวัยเด็ก
แม่ของโฮตารุหย่าสามครั้งแต่งงานสี่ครั้ง แม่แทบไม่เคยว่างเว้นจากการตั้งครรภ์เลย จึงมีลูกมากถึงสิบเอ็ดคน
โฮตารุเป็นลูกคนที่สาม และเป็นลูกชายคนโต
ความทรงจำในวัยเด็กนั้นไม่มีอะไรดีสักอย่าง พวกเขาอาศัยอยู่ในห้องหนึ่งของอะพาร์ตเมนต์เก่าๆ ซึ่งบริหารโดยรัฐบาล สภาพภายในเหมาะที่จะเรียกว่าห้องเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็กมากกว่าที่อยู่อาศัย ที่นอนโสโครกวางอัดแน่นบนพื้น ทั้งเศษผมและเศษอาหารกระจัดกระจายตามซอกหลืบ เสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้ของบรรดาน้องๆ ดังระงมทั้งวันทั้งคืน เสื้อผ้าห้อยโตงเตงลงมาจากเชือกซึ่งถูกขึงโดยรอบ ทั้งอึดอัดและเหม็นชื้น แค่คิดโฮตารุก็คลื่นไส้แล้ว
โฮตารุไม่ได้อคติกับครอบครัวขนาดใหญ่หรือครอบครัวที่มีลูกหลายคน เขามีโอกาสได้ดูรายการสารคดีเกี่ยวกับครอบครัวขนาดใหญ่ผ่านทางโทรทัศน์บ้าง เขาสามารถรับรู้ได้ถึงความรักระหว่างพ่อแม่ลูก รวมถึงความรักระหว่างพี่น้องด้วยกัน
ปัญหาคงอยู่ที่ตัวของโฮตารุมากกว่า เขาไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย
มนุษย์และสัตว์มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เกิดและเติบโต บรรดาพี่น้องของโฮตารุก็ดูสนุกกับการใช้ชีวิตที่ไม่เป็นระเบียบนี้ดี แต่โฮตารุกลับไม่สามารถทำตัวให้คุ้นชินได้
ประสาทสัมผัสการฟัง การมอง และการดมกลิ่นของโฮตารุถูกปลุกเร้าอยู่ตลอดเวลา แต่ละวันผ่านไปโดยไม่เคยรู้จักคำว่าความเป็นส่วนตัว
แค่ลูกที่มีอยู่ตอนนี้ก็ลำบากจะแย่แล้ว แต่แม่ก็ยังดันทุรังคลอดลูกกับผู้ชายคนใหม่ออกมาอีกเรื่อยๆ
แม่ชอบเด็กที่สุด อยากมีอีกหลายๆ คน
แม่พูดด้วยรอยยิ้มประดุจนางฟ้าจึงไม่มีใครกล้าโต้แย้งอะไร โฮตารุได้แต่นึกในใจว่าไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย
แม่ไม่ได้ชอบเด็ก แม่คิดว่าลูกจะช่วยให้ความรักระหว่างแม่กับผู้ชายคนใหม่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นอกจากนี้แม่ยังชอบความรู้สึกตอนคลอดลูกเหนือสิ่งอื่นใด
ยุคสมัยนี้ไม่ว่าอะไรก็มีชื่อโรคไปเสียหมด โฮตารุมั่นใจว่าหากลองค้นหาดู แม่ของเขาอาจได้ชื่อโรคแปลกๆ ติดตัวมาก็เป็นได้
เอาเป็นว่าลูกคนที่สามจากทั้งหมดสิบเอ็ดคนอย่างโฮตารุ เติบโตมาโดยไร้ความทรงจำว่าเคยนั่งตักแม่
พี่สาวทั้งสองของโฮตารุนั้นถูกเลี้ยงดูแบบทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ต่างจากแมวจรจัด ทั้งคู่เติบโตมาเป็นเด็กใจแตกไม่เคยกลับบ้านกลับช่อง และต่างก็คลอดลูกออกมาอีกเป็นโขยง ครอบครัวเขาควรได้รับการยกย่องจากรัฐบาลว่ามีส่วนช่วยประเทศแก้ไขปัญหาประชากรลดลงได้เป็นอย่างดี
โฮตารุออกจากบ้านตอนเรียนจบชั้นมัธยมปลาย เขาย้ายไปอยู่ในอะพาร์ตเมนต์เก่าๆ ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดให้ และหาเงินส่งเสียตัวเองจนเรียนจบมหาวิทยาลัยรัฐบาล
หลังได้งานทำแล้วโฮตารุไม่เคยกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดอีก และไม่เคยคิดอยากกลับไปด้วย
ตอนนี้เขาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังภายใต้สภาพแวดล้อมที่ทั้งเงียบสงบและสะอาดสะอ้าน ไม่มีสิ่งไหนทำให้โฮตารุมีความสุขไปได้มากกว่านี้แล้ว
โฮตารุตัดเรื่องยุ่งยากน่ารำคาญ อย่างเช่นความรักหรือการแต่งงานออกไปจากชีวิตจนหมดสิ้น
แค่คิดว่าต้องมีใครสักคนเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่แสนสงบซึ่งเขาเป็นคนสร้างขึ้นมากับมือ โฮตารุก็หวาดกลัวจนเสียวสันหลังแล้ว ถ้าเขาแต่งงานมีลูกล่ะ แผ่นหลังของโฮตารุแข็งเกร็ง กลิ่นเด็กทารก เสียงเด็กร้องไห้ เสื้อผ้าเปียกชื้น ความทรงจำหวนกลับเข้ามาสั่นคลอนความสงบสุขในใจของโฮตารุ
สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดในโลกคือความเงียบสงบและความสะอาด ตอนนี้โฮตารุมีทั้งสองสิ่งอยู่ในมือ นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง
...ที่จริงมันควรเป็นเช่นนั้น หลายปีที่ผ่านมาโฮตารุพอใจกับชีวิตสมบูรณ์แบบของตัวเองมาก
แต่หมู่นี้ไม่รู้ทำไม เขามักสับสนกับเหตุการณ์เหนือความคาดหมายบางอย่างที่เข้ามากวนจิตใจ ซึ่งอาการเช่นนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ยกตัวอย่างเช่น ตอนเห็นมิอุระกับฮานาโมโตะกะหนุงกะหนิงกันในห้องครัวบริษัท หรือตอนเห็นผีเสื้อบินพันกันวุ่นวายตรงหน้า
วินาทีนั้นจู่ๆ เขาก็เกิดว้าวุ่นในใจขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกก็ผุดลอยขึ้น สร้างความสับสนให้โฮตารุเป็นอย่างมาก
เขาไม่อยากยอมรับสักเท่าไรหรอก แต่หลังสงบสติอารมณ์และลองมานั่งวิเคราะห์จิตใจของตัวเองดู ความรู้สึกนี้ใกล้เคียงกับคำว่าอิจฉามากที่สุด
รุ่นน้องที่ไม่มีอะไรโดดเด่นทั้งสองคนมาเป็นแฟนกันเอง ใจหนึ่งนึกดูแคลน แต่ในขณะเดียวกันก็แอบอิจฉาพวกเขาอยู่ด้วย พอเห็นว่าแม้แต่ผีเสื้อยังมีคู่ครอง เขาก็พลันนึกอยากตีพวกมันให้ร่วงหล่น
โฮตารุเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง
เขาไม่เคยคิดอยากมีแฟนเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาชอบช่วงเวลาที่ได้อยู่คนเดียวมากที่สุด และนี่คือความจริงที่เขาไม่ได้หลอกตัวเองแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
ถ้าอย่างนั้น ทำไมเขาถึงอิจฉาแพะกับปลานโปเลียนและผีเสื้อล่ะ?
โฮตารุพยายามเค้นสมองหาคำตอบและมาจบกับบทสรุปที่ว่า นี่คือสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จำเป็นต้องสืบพันธุ์เพื่อการดำรงอยู่ สัญชาตญาณเหล่านี้ถูกเก็บไว้คนละที่กับอุปนิสัยหรือแนวความคิด ต้องเป็นเช่นนี้ไม่ผิดแน่
ทั้งๆ ที่เขาชอบอยู่คนเดียว แต่สัญชาตญาณสัตว์ป่าซึ่งสอดแทรกอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของ DNA กระตุ้นให้เขารู้สึกอ้างว้างแม้เขาไม่ได้อยากรู้สึกเช่นนั้นก็ตาม
บอกตามตรง มีบ้างบางครั้งที่โฮตารุนึกอยากสัมผัสผิวกายของคนอื่น ส่วนความต้องการทางเพศนั้นเขาคิดว่าตัวเองน่าจะมีในระดับเดียวกับคนทั่วไป
แต่ความรู้สึกรังเกียจนั้นกลับมีชัยเหนือกว่า หากเขาเป็นเหมือนแม่ ปล่อยอารมณ์ตามสัญชาตญาณ เปลี่ยนคนรักใหม่ไปเรื่อยๆ และมีลูกออกมาเป็นโขยง แค่คิดโฮตารุก็ขนลุกแล้ว เสพสุขเพียงชั่วครั้งคราวแต่ต้องสูญเสียชีวิตแสนศิวิไลซ์และความสบายใจไปตลอดกาล นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
อาจมีบ้างบางครั้งที่ความเปล่าเปลี่ยวพัดออกมาจากซอกหลืบของหัวใจ แต่การอยู่ตัวเดียวย่อมดีกว่าเป็นร้อยเท่า โฮตารุมั่นใจว่าตัวเองเลือกไม่ผิดอย่างแน่นอน



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โดจิมะ โฮตารุ พนักงานบัญชีอาวุโสฝ่ายบัญชีผู้รักความสะอาด นิสัยขวางโลก เลือกทาน ดื้อด้านไม่มีใครเทียม สิ่งที่เขารักมากที่สุดในโลกคือความสะอาดและความเงียบสงบ โฮตารุไม่เคยคิดอยากเป็นที่ชื่นชอบของใคร เขาตัดเรื่องยุ่งยากน่ารำคาญอย่างความรักและการแต่งงานออกไปจากชีวิตจนหมดสิ้น ชีวิตของเขาตอนนี้มีความสุขมาก ทว่า...ชีวิตในอุดมคติที่ควรจะมีความสุข ไม่รู้ทำไมช่วงนี้จิตใจของเขามักว้าวุ่นอยู่บ่อยๆ แค่เห็นผีเสื้อบินเคียงคู่กันอยู่ตรงหน้าเขาก็หงุดหงิดแล้ว คืนหนึ่งโฮตารุเมาหนัก เขาโทรศัพท์ไปร้านสารพัดบริการ ร้องขอแฟนเช่า และผู้ที่ปรากฏกายขึ้นคือ หนุ่มหล่อซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสะอาด!?

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”