New Release ร้อยรัก : ทัณฑ์พิศวาสซาตาน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : ทัณฑ์พิศวาสซาตาน

โพสต์ โดย Gals »

ทัณฑ์พิศวาสซาตาน โดย ดาหลา

1
ประเทศไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้ผู้คนดูหนาตากว่าทุกวัน เพราะมีบุคคลสำคัญของกองทัพเดินทางมาเยือนประเทศไทย ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบต่างกระจายกำลังและกันผู้คนออกจากบริเวณรับรอง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพไทยแต่งตัวเต็มยศมายืนรอรับด้วยใจจดจ่อ เพราะคนที่มาเยือนคือ ฟาฮิม อัสวัต อัลมูรัค ฟาตาน ซึ่งเป็นชีคและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของรัฐเซกัส
?เครื่องบินส่วนตัวของชีคฟาฮิมลงจอดแล้วครับท่าน? นายทหารคนหนึ่งเข้ามารายงานในห้องรับรอง นายพลประกาศิต เรืองเดช ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทั้งสามเหล่าทัพต่างพากันออกจากห้องรับรองไปที่รันเวย์
ประตูเครื่องบินโบอิงส่วนตัวรุ่นใหม่ล่าสุดเปิดออก ทหารองครักษ์สี่นายสวมเครื่องแบบเต็มยศเดินออกมาดูความเรียบร้อย ไม่นานร่างสูงสง่าสวมชุดทหารสีเขียวขี้ม้า มีตราสัญลักษณ์มากมายติดอยู่บนอกก็ปรากฏตัวขึ้น ดวงตาคมภายใต้แว่นกันแดดสีดำมองบรรยากาศเบื้องหน้า ก่อนจะก้าวลงบันไดมาอย่างองอาจ จนกระทั่งมาหยุดตรงหน้าผู้นำด้านการทหารของไทย
?ผมในนามของกองทัพไทย ขอต้อนรับชีคฟาฮิมสู่ประเทศไทย? ผู้บัญชาการกองทัพบกเป็นตัวแทนกล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการ พร้อมยื่นมือออกไปรอด้านหน้า
?ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกท่านที่มาต้อนรับ? ชีคหนุ่มกล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษชัดเจน จากนั้นก็เดินไปตามพรมแดงที่ทอดยาวเข้าไปในตัวอาคารผู้โดยสาร ทหารกองเกียรติยศพร้อมใจกันแสดงความเคารพอย่างสมเกียรติ
ความสามารถกับท่าทีสง่าน่าเกรงขาม บวกกับฐานะผู้ครองรัฐเซกัส ซึ่งเป็นรัฐที่แยกตัวออกมาจากประเทศหนึ่งในตะวันออกกลาง ทำให้ชีคหนุ่มเป็นที่สนใจของนักข่าวทุกสำนักข่าวทั่วโลก ไม่ใช่เพียงแค่ฐานะผู้นำสูงสุดของรัฐ แต่เพราะความสามารถและไหวพริบในด้านการทหาร ทำให้ทหารที่อยู่ภายใต้การนำของชีคฟาฮิมได้รับการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญกระทั่งไม่มีใครกล้าระราน ในขณะที่ชีคอารฟัตผู้เป็นน้องชายเก่งด้านเศรษฐกิจ
สองทายาทผู้ครองรัฐช่วยกันพัฒนาและรวบรวมชนเผ่าต่างๆ ให้รวมเป็นหนึ่ง จนเปลี่ยนจากรัฐเล็กๆ เป็นรัฐขนาดใหญ่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะทองคำสีดำหรือน้ำมัน รวมไปถึงสายแร่ทองคำและเพชร ส่งผลให้เซกัสเป็นรัฐร่ำรวยที่สุดในแถบทะเลทราย
?ทางกองทัพไทยรู้สึกเป็นเกียรติมากครับที่ชีคฟาฮิมตอบรับการมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้กับเรา? นายพลชราใกล้เกษียณบอกด้วยความยินดี หลังจากพาชีคฟาฮิมไปนั่งพักที่ห้องรับรอง
ฟาฮิมคลี่ยิ้มน้อยๆ แต่ส่งให้ใบหน้าคมเข้มดูอ่อนโยนลง
?ขอบคุณครับ ทางเรายินดีมากที่ทางกองทัพไทยให้ความสำคัญกับประเทศเล็กๆ อย่างเซกัส ส่วนเรื่องอาวุธทางการทหาร ถ้าทางเราเห็นว่าควรสนับสนุน ผมยินดีจะส่งอาวุธจากบริษัทชั้นนำมาให้ที่นี่ได้ซ้อมรบ?
นั่นล่ะคือสิ่งที่กองทัพไทยหวัง ด้วยอาวุธที่ทางการเซกัสใช้ล้ำสมัยยิ่งกว่าใคร และบางส่วนของอาวุธในกองทัพเซกัส ชีคหนุ่มผู้นี้เป็นคนออกแบบให้เหมาะกับภูมิประเทศของเซกัส จนมีหลายประเทศให้ความสนใจติดต่อขอซื้อ แต่ก็ยังไม่มีประเทศใดได้รับการตอบรับ เพราะชีคฟาฮิมตั้งใจที่จะผลิตใช้ในกองทัพของรัฐเซกัสเท่านั้น
และด้วยผลประโยชน์มหาศาลนี้เองทำให้เกิดหน่วยใต้ดินที่ซ่องสุมกำลังเพื่อโค่นล้มอำนาจของสองทายาทเพื่อจะได้ขึ้นครองรัฐเสียเอง ซึ่งเรื่องนี้ชีคฟาฮิมรู้มาตลอดและต่อกรกับกลุ่มใต้ดินจนล่าถอยไปหลายครั้ง จนพวกนั้นต้องเปลี่ยนยุทธวิธีเป็นส่งนักฆ่ามาลอบสังหารชีคฟาฮิมและน้องชายแทน
หลังจากหารือกันนานพอสมควร ฟาฮิมก็นั่งรถที่ทางการไทยจัดไว้ เมื่อได้เวลาขบวนรถก็เคลื่อนออกจากสนามบิน แต่รถวิ่งไปได้ไม่นานก็ต้องจอดเพราะมีรถเต่าสีฟ้าคันหนึ่งจอดขวางอยู่ ตำรวจนำขบวนรีบลงไปเคลียร์ทาง ส่วนอีกคนวิ่งมาที่รถของชีคฟาฮิม
ดวงตาคมเข้มกำลังจับจ้องร่างบอบบางในชุดเดรสสีฟ้าอ่อนที่กำลังดันรถให้พ้นทางจนหน้าดำหน้าแดง แต่รถไม่ยอมขยับแม้เธอจะออกแรงแค่ไหนก็ตาม
?รถเป็นอะไรครับคุณผู้หญิง? ตำรวจทางหลวงถาม ทำให้หญิงสาวเจ้าของรถหันไปมอง และมองเลยไปถึงขบวนรถที่จอดรถอยู่ด้านหลัง
?รถเสียค่ะคุณตำรวจ วิ่งมาดีๆ ก็ดับไปเฉยๆ? หญิงสาวหน้าหวานบอกเสียงใสกังวาน นายตำรวจเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆ ซึมออกมาก็พอเดาได้ว่าเธอคงพยายามขยับรถเต็มที่แล้ว
?ผมช่วย?? นายตำรวจอาสาและเรียกเพื่อนอีกสองคนมาช่วย จนรถเคลื่อนออกไปริมถนน หญิงสาวพนมมือไหว้ขอบคุณและยิ้มหวานให้จนคนช่วยประทับใจ
?ขอบคุณมากนะคะ?
?ไม่เป็นไร คราวหน้าตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกจากบ้านด้วยนะครับ? นายตำรวจกล่าวเตือนแล้วเดินกลับไปที่รถ
เธอยืนมองขบวนรถวิ่งผ่านไปช้าๆ แต่แล้วรถคันใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางรถตำรวจก็มาจอดตรงหน้าเธอ กระจกติดฟิล์มสีดำจนมองไม่เห็นข้างในเลื่อนลง กลิ่.ุดันลอยมากระทบกายสาวจนเธอเย็นยะเยือกอย่างไม่รู้สาเหตุ หญิงสาวมองเห็นเสี้ยวหน้าคมของคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง แล้วเจ้าของใบหน้าก็หันมาให้เธอได้เห็นเต็มตาจนต้องตกตะลึงงัน แม้ดวงตาคนในรถจะมีแว่นกันแดดปิดบังอยู่ แต่ก็รับรู้ได้ถึงความร้อนแรงที่แผ่ออกมากระทบกาย
?เอาไว้ซับเหงื่อคุณผู้หญิง?? เขายื่นผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดปักดิ้นทองรอบผืนออกมาให้ หญิงสาวยกมือขึ้นช้าๆ รับผ้าเช็ดหน้ามาถือโดยไม่รู้ตัว แล้วรถก็เคลื่อนจากไปช้าๆ หากคนในรถยังคงมองเธอผ่านกระจกข้าง
?เธอสวยน่ารักนะครับ? อับบาส องครักษ์คนสนิทเอ่ยขณะหันไปมองเบาะหลัง ฟาฮิมกระตุกยิ้มขณะที่สายตามองบรรยากาศนอกตัวรถ
?สนใจหรือไง? เสียงเข้มเต็มไปด้วยพลังอำนาจเอ่ยถาม หากคนที่เติบโตมาด้วยกันประหนึ่งเป็นน้องชายคลานตามกันมาไม่ยอมหยุดสนใจสาวไทย
?เธอสวยแบบนี้ เผื่อชีคสนใจต่างหากครับ ผมจะได้ให้คนสืบและติดต่อเธอมารับประทานมื้อค่ำด้วย มีคนบอกว่าผู้หญิงไทยมีเสน่ห์ เวลางอนพวกเธอจะค้อนตาคว่ำได้น่ารักมากนะครับชีค?
อับบาสพูดอย่างมั่นใจ เพราะก่อนเดินทางมาที่นี่ได้อ่านข้อมูลเสน่ห์ของเมืองไทยและสาวไทยมาอย่างละเอียด
ฟาฮิมหัวเราะในลำคอและเห็นด้วยกับคนสนิทเป็นครั้งแรก
?ถ้าพล่ามเรื่องผู้หญิงไม่หยุด ฉันจะให้นายไปดูแลฮาเร็มในวัง? บอกขณะดึงแว่นกันแดดออกจากสันจมูก อับบาสได้ยินโทษตัวเองก็หุบปากเงียบ แต่ดวงตาพราวระยับและรอยยิ้มขบขันยังกระจายทั่วใบหน้า
ชีคฟาฮิมผู้แข็งแกร่งวัยสามสิบสี่ เป็นผู้กุมอำนาจทางการทหารไว้ในมือ โอบอุ้ม ครองบัลลังก์ และดูแลบ้านเมืองให้ประชาชนอยู่อย่างสงบ ดวงตาคมสีอำพันเข้มที่จ้องมองคราใดก็แทบจะสยบทุกอย่างให้อยู่ในมือและเผาไหม้คนที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับความมั่นคงของชาติเซกัส ยิ่งคิ้วหนาดกดำทอดตัวขนานกับดวงตา ส่งให้ดวงตาคู่คมยิ่งคมเข้มและน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม
จมูกโด่งเป็นสันตั้งรับกับริมฝีปากได้รูปขึ้นขอบนิดๆ หนวดเคราเขียวครึ้มพาดผ่านแนวสันกรามจากซ้ายไปขวา ทำให้ใบหน้าคมหล่อเข้มเต็มไปด้วยเสน่ห์ชนิดดุดันและชวนฝันสำหรับสาวๆ แต่ดูเหมือนชีคหนุ่มจะหวงชีวิตโสดมาก เพราะไม่ว่าสาวงามคนใดจะทอดกายทอดสะพานให้อย่างไร ฟาฮิมก็ไม่ใคร่จะสนใจไยดีนัก
++++++++++++++++++++++++++++++++
ส่วนคนที่อยู่ในหัวข้อสนทนา ตอนนี้กำลังยืนชะเง้อคอมองไปที่ประตูขาออกด้วยใจจดจ่อ เพราะวันนี้เธอมารับพี่สาวฝาแฝดที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อมาเยี่ยม ยืนรออยู่ไม่นานสาวสวยรูปร่างสูงโปร่งสวมชุดทะมัดทะแมง ผมซอยสั้นเคลียบ่าก็เดินเข็นกระเป๋าออกมา
?เมย์ทางนี้? ร่างบอบบางกระโดดขึ้นลงเพื่อให้พี่สาวมองเห็น แววตากลมใสราวกับดวงดาวบนฟ้าเต้นไหวด้วยความยินดี เมรีหรือเมย์มองหาต้นเสียงแล้วยิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อเห็นอมาวสีหรือตัวเล็ก สาวสวยเจ้าของรถเต่าเดินออกมาจากกลุ่มคนที่มายืนรอรับญาติ
เมรีเข็นกระเป๋ามาหยุดยืนตรงหน้าน้องสาว แม้ใบหน้าจะเหมือนกันราวกับแกะ แต่ทั้งสองมีความแตกต่างที่ดวงตา คนพี่ดวงตาสีน้ำเงินเข้มชวนมอง เติบโตกับบิดาที่กลับไปใช้ชีวิตในอเมริกา ในขณะที่คนน้องนัยน์ตาสีเขียวใส อาศัยอยู่กับมารดาที่เมืองไทย ทั้งสองแยกจากกันตั้งแต่ห้าขวบเพราะเหตุผลของผู้ให้กำเนิด
แม้จะแยกกันอยู่คนละซีกโลก แต่ฝาแฝดมีบางอย่างที่สื่อถึงกันและรับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายได้เสมอ เมื่อเติบโตพอจะเดินทางไปไหนมาไหนได้เอง เมรีก็เดินทางมาเยี่ยมมารดากับน้องเสมอ จนกระทั่งเมื่อสองปีก่อนมารดาเสียชีวิต อมาวสีต้องอยู่กับคนเก่าแก่ของมารดา ทำให้เมรีต้องเดินทางมาเมืองไทยบ่อยขึ้นเพราะเป็นห่วงน้องสาว
?บราโว?ไม่ได้เจอตัวเล็กแค่สี่เดือน นานเหมือนสี่ปีเลย คิดถึงที่สุดเลยยัยตัวเล็ก? เมรีโอบกอดน้องสาวแล้วยกขึ้นหมุนไปรอบๆ อมาวสีหัวเราะร่วน กอดคอพี่สาวแน่นเพราะกลัวตก
?ตัวเล็กก็คิดถึงเมย์? อมาวสีน้ำตาซึมด้วยความยินดี สองสาวกอดกันกลมอยู่นานโดยไม่สนใจคนที่เดินผ่านไปมาที่หันมองด้วยความสนใจ
?คิดถึงแล้วทำไมต้องร้องไห้ด้วย? เมรีย่นจมูกใส่น้องสาวแล้วเช็ดน้ำตาให้
?ก็ดีใจนี่นา ใครจะใจแข็งเหมือนตัวล่ะ? อมาวสีบอกแก้มป่อง ก่อนจะพาพี่สาวไปที่รถที่เพิ่งซ่อมเสร็จ ?กลับมาเที่ยวนี้จะอยู่กี่วัน? เปิดประตูให้พี่สาว ยกกระเป๋าไปไว้เบาะหลัง แล้วพากันขึ้นไปนั่งคู่กันด้านหน้า
?ก็?สามสี่วัน?
?ไม่เอา น้อยไป สามอาทิตย์ จะได้คุ้มค่าตั๋วเครื่องบิน? อมาวสีไม่ยอม ก่อนจะสตาร์ตรถแล้วขับออกไป เมรีมองความวุ่นวายด้านนอกแล้วหันมาหา สายตาไปสะดุดที่ผ้าเช็ดหน้าที่วางไว้บนคอนโซลรถ
?ตามใจน้องรักอยู่แล้ว ว่าแต่ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ท่านได้แต่ใดมา?? เมรีหยิบผ้าเช็ดหน้ามาดู ?มีอักษรอาหรับปักอยู่ด้วยนี่ อ่านว่าอะไรน้า?? เมรีมองตัวอักษรอาหรับแล้วเงยหน้ามองน้องสาวด้วยประกายตาล้อเลียน
?ไม่รู้จักคนให้หรอก รถเสีย เข็นรถจนเหงื่อตก เขาเห็นก็เลยสงสาร ให้ผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อ? อมาวสีอธิบายขณะมองถนนเบื้องหน้า และภาพใบหน้าคมเข้มยังติดตาตรึงในใจ เมื่อลองใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อ กลิ่นหอมของดอกไม้แปลกๆ ที่เธอไม่เคยรู้จักยังติดที่ปลายจมูก
?ทำไมไม่ซื้อคันใหม่ พ่อให้ได้อยู่แล้ว?
?ไม่เอาหรอก เจ้าเต่ายังใช้ได้ แล้วพ่อสบายดีไหม? อมาวสีถามถึงบิดาด้วยความคิดถึง เมรีถอนหายใจเบาๆ แล้วหันไปมองนอกตัวรถ
?สบายดี ทำตัวลึกลับเหมือนเดิม? เมรีถอนหายใจกับความเป็นไปของบิดา
?พ่อก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เมย์ยังไม่ชินอีกเหรอ?
?พยายามอยู่ วันนี้มีอะไรกินบ้าง อยากกินอาหารไทยมากๆ? เมรีทำท่าทางประกอบจนอมาวสีปล่อยคิกออกมา
?ป้าจันทร์ทำของชอบเมย์ทั้งนั้นเลย?
?พูดแล้วหิว รีบขับรถเร็วๆ เหอะตัวเล็ก เมย์หิวจะแย่แล้วเนี่ย? เมรีเร่ง แล้วร้องเพลงหิวๆ ประกอบจนอมาวสีอดขำไม่ได้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เช้าตรู่ในฐานทัพบก บ้านพักรับรองหลังใหญ่ที่ใช้รับรองชีคฟาฮิมยังคงเงียบกริบ ทหารองครักษ์สี่นายเดินตรวจตรารอบบ้าน อับบาสยืนมองนายทหารเตรียมอาหารเช้าอยู่ที่ระเบียง ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาไปวิ่งออกกำลังกายยังไม่กลับมา
รถเต่าสีฟ้าคุ้นตาวิ่งมาจอดใกล้บ้านพักรับรอง ทำให้อับบาสขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ไม่นานเจ้าของรถในชุดเดรสแขนกุดสีเปลือกไข่ มีเข็มขัดเส้นเล็กรัดที่เอวหลวมๆ หอบดอกกุหลาบสีแดงสดเต็มวงแขนก็เดินเข้ามา ทหารองครักษ์ขยับไปขวางทางไว้ อับบาสเดินไปสมทบที่หน้าบ้าน
?สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงมีธุระอะไรที่นี่ครับ? อับบาสถามด้วยภาษาอังกฤษ อมาวสียิ้มให้ ทำเอาอับบาสหัวใจกระตุกกับความน่ารักสดใสของเธอ
?ฉันมาจัดแจกันที่เรือนรับรองค่ะ?
?ทางกองทัพไม่เห็นแจ้งทางเราเลย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ยังไงผมขอเช็กก่อนนะครับ? อับบาสเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ จากนั้นก็โทร.หาคนที่ให้คำตอบได้ ไม่นานก็หันกลับมายิ้มให้อมาวสี
?เชิญครับ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เสียเวลา? อับบาสสั่งให้ทหารช่วยหญิงสาวหอบดอกไม้เข้าไปในบ้าน แล้วผายมือเชิญแขก
อมาวสีก้าวตามและให้นายทหารวางดอกไม้ที่ห้องนั่งเล่น จากนั้นก็หยิบแจกันที่ตั้งอยู่ในห้องมาจัดแต่ง อับบาสยืนมองมือเล็กประดิดประดอยดอกไม้เพลินๆ
?คุณมาจัดดอกไม้ที่นี่ทุกวันเหรอครับ? อับบาสชวนคุย
?มาเฉพาะช่วงมีแขกเข้าพักค่ะ พอดีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งไว้ใจก็เลยให้มาทำ คงไม่รบกวนนะคะ เสร็จแล้วฉันก็จะกลับเลย คงอยู่ไม่นาน? เธอหันไปยิ้มให้แล้วถือแจกันที่จัดเสร็จแล้วไปวางไว้ที่เดิม
?ผมชื่ออับบาสครับ เป็นทหารมาจากเซกัส? อับบาสแนะนำตัวเองและยื่นมือออกมารอข้างหน้า อมาวสียื่นมือไปจับแล้วแนะนำตัวเช่นกัน
?ฉันอมาวสีค่ะ?
?ชื่อยาวแล้วก็เรียกยากมากครับ? อับบาสลูบท้ายทอยตัวเองแก้เก้อเพราะกลัวเอ่ยชื่อเธอผิด อมาวสียิ้มกับคนตัวใหญ่ที่กำลังอาย ซึ่งเธอไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก
?เรียกตัวเล็กหรือจัสมินก็ได้ค่ะ?
?ผมขอเรียกคุณจัสมินก็แล้วกันนะครับ? อับบาสบอกขณะมองความน่ารักของหญิงสาว ทั้งสองคุยกันเพลินๆ เลยไม่มีใครเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อกล้ามรัดรูปกับกางเกงวอร์มสีดำที่ยืนพิงขอบประตูอยู่
?จะคุยกันอีกนานไหม?
เสียงเข้มออกจะหงุดหงิดนิดๆ ดึงความสนใจของคนทั้งคู่หันไปมอง อับบาสเห็นสายตาผู้บังคับบัญชาถึงกับเย็นยะเยือกไปทั้งตัว ในขณะที่อมาวสีนิ่งงัน รู้สึกคุ้นๆ กับเสียงและใบหน้านั้น
?เอ่อ?? อับบาสยืดตัวตรงและเอ่ยปากได้เท่านั้นก็เห็นสัญญาณให้เงียบ ร่างสูงเดินไปหยุดกลางห้อง มองไปรอบๆ แล้วมาหยุดสายตาที่ใบหน้าสวยหวานหมดจดของอมาวสี
?ดอกไม้กับนายทหารดูจะไม่เข้ากันเท่าไรนะ?
?ดอกไม้ทำให้เรารู้สึกสดชื่นและอารมณ์ดี แต่ถ้าคุณรู้สึกตรงข้ามฉันก็จนใจค่ะ ขอตัวนะคะฉันหมดหน้าที่แล้ว? อมาวสีเห็นสายตาดูแคลนของอีกฝ่ายก็ไม่อยากต่อปากต่อคำ ร่างบอบบางเดินไปเก็บอุปกรณ์ใส่กล่องเตรียมจะกลับบ้าน
อับบาสเห็นใบหน้าคมเข้มตึงขึ้นก็หวั่นใจ เธอคงไม่รู้ว่ากำลังก่อกวนพายุทะเลทรายเข้าแล้ว อมาวสีเก็บของเสร็จก็หมุนตัวจะกลับ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อร่างสูงใหญ่มายืนชิดจนหน้าเธอชนกับอกกว้าง
?อุ๊ย?? อมาวสีตกใจเซไปด้านหลัง วงแขนแข็งแกร่งจึงโอบเอวบางไว้ หญิงสาวตกใจดิ้นออกจากวงแขนเขา ?ปล่อยนะ??
?เธอจะล้ม ฉันก็เลยช่วย? เสียงเข้มดังเหนือหัวในขณะที่วงแขนรัดแน่นกว่าเดิม ?เอาของของคุณผู้หญิงไปเก็บที่รถ? ฟาฮิมสั่งขณะที่สายตายังคงมองหน้าเธอไม่วางตา
?ฉันถือไปเองได้ค่ะ ปล่อย ฉันจะกลับแล้ว? ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไม่มีใครรับฟัง ฟาฮิมแย่งกล่องในมือเธอส่งให้คนสนิท อับบาสรับเสร็จก็เดินออกจากห้อง ปล่อยให้อมาวสีเผชิญหน้ากับชีคหนุ่มเพียงลำพัง
?กรุณาปล่อยฉันด้วยค่ะ มากอดฉันแบบนี้คนไทยเขาถือ? อมาวสีย้ำคำพูดของตัวเองชัดๆ หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเมื่อเขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธออย่างที่ต้องการ
?ถือทำไมให้หนัก เธอชื่อตัวเล็กใช่ไหม? ฟาฮิมเปลี่ยนภาษาพูดเป็นภาษาไทยชัดเจน เล่นเอาอมาวสีมองตาโตและเริ่มจะกลัวเขามากขึ้น
?คุณพูดไทยได้??
?ก็นิดหน่อย?? ฟาฮิมไม่ได้อวดตัวเองทั้งๆ ที่พูดได้ถึงเจ็ดภาษา แต่ที่ใช้บ่อยที่สุดเห็นจะเป็นภาษาอังกฤษเพราะต้องติดต่องานกับประเทศในแถบยุโรปซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่โอ้อวดตัวเองอมาวสียังส่งค้อนให้ นี่นะนิดหน่อย พูดไทยชัดกว่าคนไทยบางคนซะอีก
?รู้ชื่อฉันแล้วก็ปล่อยสิคะ?? เธอขู่เขาด้วยสายตา
ฟาฮิมเหยียดยิ้ม กระชับวงแขนแน่นเข้าไปอีก ความแนบชิดทำให้ชีคหนุ่มรับรู้ความนุ่มหยุ่นของคนในวงแขน โดยเฉพาะหน้าอกที่ไม่ได้เล็กอย่างชื่อเลย พวงแก้มปลั่งสีชมพูธรรมชาติก็เนียนใสและคงหอมเหมือนดอกไม้ของเธอ
?กินมื้อเช้าด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับ ฉันไม่อยากนั่งกินคนเดียว? เขาสรุปง่ายๆ แต่เธอหน้าเหลอไม่คิดว่าจะถูกคนแปลกหน้าชวนกินมื้อเช้าแบบนี้
?คุณไม่อยากกินคนเดียวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ? เธอพยายามแกะมือเขาออกจากเอว คนที่ไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธมาก่อนหน้าตึงขึ้นทันที อมาวสีเห็นแล้วใจเต้นระส่ำ มองเขาด้วยความหวาดระแวง
?เกี่ยวตรงที่เธอมาอยู่ถูกที่ถูกเวลาน่ะสิ?
?บ้าน่ะสิ ฉันมาทำงานของฉันนะคะ ไม่ได้มากินมื้อเช้ากับคุณ?
อมาวสีออกแรงดิ้น มือผลักอกกว้างออกห่าง แต่ยิ่งผลักเขายิ่งกอดแน่น ใบหน้าคมเข้มดุดันตามแบบฉบับหนุ่มอาหรับโน้มลงมาใกล้จนลมหายใจปะทะกัน หญิงสาวตัดสินใจก้มลงไปกัดต้นแขนแข็งแรงแล้วฝังเขี้ยวลงไป
?อ๊ากกก?? ฟาฮิมร้องเสียงต่ำ จับปลายคางมนออกแรงบีบจนเธอยอมปล่อย แล้วดันปลายคางเธอเชิดขึ้น ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อจิ้มลิ้มเผยอห่างไม่ถึงคืบ
?หมาบ้า เล่นกัดจนเลือดออกแบบนี้ ฉันต้องกัดตอบ ไม่งั้นไม่หายเจ็บ? ความเจ็บทำให้ฟาฮิมต้องการลงโทษเธอให้เข็ดหลาบ
?จะทำอะไร?? และเธอก็ได้คำตอบเมื่อปากได้รูปฉกวูบลงมาบนกลีบปากนุ่มของเธอ บดขยี้จนปากเธอบิดเบี้ยวเพราะต้องการให้เจ็บ แล้วเขายังขบเม้มกลีบปากนุ่มดูดดึงเข้าปากอีกต่างหาก
ความหวานล้ำของริมฝีปากอิ่มทำเอาชีคหนุ่มถึงกับติดใจไม่ยอมผละห่างทั้งที่ตั้งใจเพียงกำราบเธอเท่านั้น จูบกับผู้หญิงมาหลายชาติหลายภาษา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ริมฝีปากสาวจะหวานซึ้งตรึงใจขนาดนี้มาก่อน แล้วเขาก็เพิ่มแรงกดบดขยี้พร้อมกับสอดลิ้นสากซอกซอนสำรวจทั่วโพรงปากเธอ
ร่างงามสะท้าน หัวใจที่เต้นตุบๆ อยู่ด้านซ้ายเต้นกระหน่ำจนนับไม่ทัน ส่งให้เลือดในกายสูบฉีดแรงเร็วจนร้อนไปทั้งตัว สมองเริ่มปะติดปะต่อความคิดตัวเองแต่ก็ดูจะไร้ผล แรงดิ้นรนเท่ามดค่อยๆ หมดลงเรื่อยๆ จนแทบทรงตัวไม่อยู่ โชคดีที่มีลำแขนสีน้ำตาลโอบกอดไว้
?อื้อ?อื้อ? เธอครางประท้วง แต่ลิ้นร้อนก็รุกหนักกว่าเดิม ปาดป่ายสอดล้ำพื้นที่ส่วนตัวเธอถึงโคนลิ้น ดุนดันกระพุ้งแก้มจนเธอสะดุดลมหายใจตัวเองหลายต่อหลายครั้ง แล้วก็มีเสียงสวรรค์ช่วยให้เธอพ้นจากความวาบหวามของรสจูบเร่าร้อนในที่สุด
?ชีคครับ?? อับบาสชะงักอยู่หน้าห้องนั่งเล่นเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ฟาฮิมผละห่างแต่วงแขนยังโอบกอดเธอไว้ อมาวสีรวบรวมแรงสะบัดตัวหลุดออกจากวงแขนแกร่ง แล้วฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าคมเต็มแรง
เพียะ!!!...
แรงกระแทกที่เต็มไปด้วยความโมโหทำเอาหัวใจขององครักษ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หยุดเต้นไปตามๆ กัน ใบหน้าคมเข้มแดงก่ำหันกลับมาช้าๆ สายตาดุดันมองใบหน้างามที่เชิดขึ้น ประกาศให้ชีคผู้ยิ่งใหญ่แห่งพื้นทรายรู้ว่า?เธอไม่กลัวแม้จะตัวเท่ามดก็เถอะ?
?นี่สำหรับศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงของฉัน อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของกองทัพแล้วจะทำอะไรใครก็ได้? พูดจบร่างบอบบางที่กำลังสวมหัวใจสิงห์ก็ก้าวจากไปอย่างสง่า อับบาสและองครักษ์อีกสองนายจะขยับตาม แต่เสียงเข้มทรงอำนาจเอ่ยห้ามเสียก่อน
?ปล่อยเธอ?? ฟาฮิมประกาศกร้าวในขณะที่กรามแกร่งขบกันจนนูนเป็นสัน ดวงตาสีอำพันเข้มดุจอัญมณีน้ำงามเรืองรองน่ากลัวจากการสะกดกลั้นอารมณ์ ซึ่งนั่นทำเอาคนสนิทอย่างอับบาสแปลกใจ เพราะหากอยู่ที่เซกัส ใครที่กล้าแตะต้องผู้ครองรัฐหรือพระญาติต้องถูกประหารแล้ว แต่นี่กลับปล่อยหญิงสาวให้เดินจากไปอย่างสง่า มันน่าแปลกไหมล่ะ!
+++++++++++++++++++++++++++++++
หน้าร้านดอกไม้จัสมินฟลาวเวอร์ เมรียืนรอน้องสาวอยู่หน้าร้านด้วยความเป็นห่วง ป้าจันทร์คนเก่าแก่ของมารดาที่นับถือกันเหมือนญาติเดินมาจับมือเรียวขาวพาไปนั่งที่ม้านั่งไม้หน้าร้าน
?ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณเมย์ ค่ายทหารปลอดภัยที่สุดแล้ว?
?แล้วทำไมไปนานจังล่ะคะ ค่ายอยู่ใกล้แค่นี้เอง? เมรีมองถนนที่ตรงไปประมาณสิบห้ากิโลเมตรก็ถึงค่าย ถ้าเธอคาดคะเน ทั้งเดินทางไปกลับและจัดดอกไม้ใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงเท่านั้น แต่นี่เกือบชั่วโมงครึ่งแล้ว
?บางทีคุณตัวเล็กอาจจะหยุดคุยกับคนรู้จักอยู่ก็ได้นะคะ รออีกสักหน่อยเถอะค่ะ ถ้านานผิดปกติเราค่อยโทร.ตาม? ป้าจันทร์ปลอบ เมรีถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้น หญิงสาวจึงหยิบออกจากกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของบิดา เธอก็เดินเลี่ยงไปรับโทรศัพท์
?ค่ะพ่อ??
?มีงานด่วน รีบกลับมา? เสียงแหบพร่าของบิดาที่ดังมาตามสายทำเอาเมรีถอนหายใจแรงๆ
?แต่เมย์เพิ่งอยู่กับน้องคืนเดียวเองนะคะ งานอะไรจะด่วนขนาดนั้นล่ะ ถ้าเขารอไม่ได้พ่อก็ไม่ต้องรับสิ? เมรีต่อรองกับบิดาเพราะอยากอยู่กับน้องสาวนานๆ
?ไม่ได้ พ่อรับเงินเขามาแล้ว รายละเอียดพ่อจะส่งไปให้ ลูกเดินทางไปที่เซกัสจะมีคนมารอรับที่สนามบินพร้อมกับอุปกรณ์ทำงาน? เสียงคนปลายสายแม้จะเนิบนาบตามอายุ แต่เด็ดขาดจนคนเป็นลูกไม่กล้าขัด
?ให้ตายสิพ่อ งานร้อนอย่างกับจะให้รีบฆ่าใครอย่างนั้นแหละ? เมรียกมือตบหน้าผากตัวเอง และคำตอบที่ได้กลับมาทำเอาเธออึ้ง
?ใช่ ฆ่าชีคฟาฮิมกับน้องชาย?
?พระเจ้า?? เมรีอุทานด้วยความคาดไม่ถึง เพราะที่ผ่านมาพ่อเธอรับทำงานกำจัดเฉพาะคนไม่ดีเท่านั้น แล้วทำไมคราวนี้ถึงกลายเป็นกำจัดผู้นำรัฐแบบนี้
?เกิดอะไรขึ้นเมย์ ทำไมอุทานตกใจขนาดนั้น? เสียงหวานๆ ของอมาวสีทำเอาคนเป็นพี่สะดุ้ง รีบหันกลับมาหาแต่ยังเก็บอาการไว้ได้
?เอ่อ?พ่อโทร.มา? เมรีชี้ไปที่โทรศัพท์ ทำให้แฝดคนน้องตาโตด้วยความดีใจ ?จะคุยกับพ่อไหม?
อมาวสีพยักหน้าแล้วรับโทรศัพท์มาแนบหู
?พ่อขา ตัวเล็กเองค่ะ?
?ตัวเล็กหรือลูก โอววว?พ่อคิดถึงหนูเหลือเกิน ลูกเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม? ความรักและความห่วงใยของบิดาถ่ายทอดมาทางน้ำเสียงจนหญิงสาวน้ำตาซึม
?สบายดีค่ะ พ่อล่ะคะเป็นยังไงบ้าง?
?สบายดีลูก ตัวเล็กมาอยู่กับพ่อที่อเมริกาดีไหม เราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าซะที? เป็นครั้งที่เท่าไรอมาวสีก็จำไม่ได้ที่บิดาเอ่ยชวนให้ไปอยู่ด้วยกัน แต่เธอรักมารดาเกินกว่าจะทิ้งมรดกของมารดาไปได้
?เอาไว้ตัวเล็กเก็บเงินค่าตั๋วเครื่องบินได้แล้วจะไปหาพ่อนะคะ? เธอบอกบิดาเสียงสดใสเพื่อให้ทุกคนหมดห่วง เมรีมองร่างบอบบางที่เป็นเงาของเธอด้วยความรัก
?พ่อจะรอตัวเล็กนะลูก? คนเป็นพ่อทิ้งท้ายเสียงเครือ อมาวสีเองก็รู้สึกสะเทือนใจไม่ต่างจากบิดาที่ครอบครัวต้องห่างกันแบบนี้ ?ตัวเล็กคงไม่ว่าอะไรนะ ถ้าเมย์จะต้องไปทำงานด่วนให้พ่อพรุ่งนี้?
?พรุ่งนี้เหรอคะ? อมาวสีมองพี่สาวฝาแฝดอย่างใจหาย ?งานด่วนขนาดนั้นเลยเหรอคะพ่อ เราสองคนเพิ่งเจอกันวันเดียวเอง?
?เสร็จงานนี้แล้วเมย์จะอยู่กับตัวเล็กเท่าที่ต้องการเลย? คนเป็นพ่อบอกด้วยความสงสารลูกสาวคนเล็ก อมาวสีตาโตมองหน้าพี่สาวฝาแฝดแล้วกระซิบบอกกันเบาๆ
?พ่อบอกว่าเสร็จงานนี้ตัวจะอยู่กับเค้าได้นานเท่าที่ต้องการเลยล่ะ? อมาวสีบอกอย่างดีใจ ในขณะที่เมรีโผเข้าไปกอดร่างน้องสาวอย่างรักใคร่จนคนถูกกอดตกใจและต้องวางสายจากบิดา
?เมย์รักตัวเล็กนะ? เมรีโยกร่างบอบบางไปมา อมาวสีรับรู้ความหนักอึ้งของอีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องพูดออกมา จนต้องเอนตัวออกจากอ้อมกอด
?ตัวมีอะไรหรือเปล่า? อมาวสีถามอย่างสงสัย เมรีหลบสายตาแล้วจับมือบางมากุม
?ไม่มี แต่หิวมากเพราะรอตัวเล็กมากินข้าวพร้อมกัน? เมรีย่นจมูกใส่แล้วจับมือกันเดินเข้าไปในร้าน อมาวสียิ้มร่า แกว่งมือพี่สาวอย่างมีความสุข ในขณะที่เมรีหนักอึ้งไปทั้งใจกับภารกิจที่ต้องทำ




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทั้งที่เธอเป็นเพียงเจ้าของร้านดอกไม้ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ทว่าอมาวสี กลับถูกจับตัวไปสอบสวนในข้อหาลอบสังหาร น้องชายของฟาฮิม ผู้ปกครองรัฐเซกัสที่เธอไม่แม้จะรู้จัก ก็ใครเล่าจะคิดว่าหญิงสาวมีพี่น้องฝาแฝดเป็นนักฆ่า ชายหนุ่มจึงมองความอ่อนหวานน่าถนอมนี้เป็นเพียงมายาที่เขาจะต้องมอบบทลงโทษให้สาสมกับสิ่งที่เธอกระทำ หากแต่เพียงปลายนิ้วสัมผัสถูกผิวนุ่มละมุนของนวลเนื้อนาง จากทัณฑ์โทษที่มีให้จึงกลับกลายเป็นทัณฑ์พิศวาสแสนหวาน


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”