New Release BLY แปล: คุณหมอจอมเซี้ยว เกี้ยวแล้วรับผิดชอบด้วย

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล: คุณหมอจอมเซี้ยว เกี้ยวแล้วรับผิดชอบด้วย

โพสต์ โดย Gals »

The Uniform Series
คุณหมอจอมเซี้ยว เกี้ยวแล้วรับผิดชอบด้วย

บทที่ 1

ท่ามกลางแสงสลัวในบาร์ ที่นี่อบอวลด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะของเพศชาย ที่นี่ไม่มีบันนีเกิร์ลสวมใส่ถุงน่องตาข่ายและมินิสเกิร์ต แต่เต็มไปด้วยบริกรหนุ่มไหล่กว้าง เอวคอด และกล้ามตึงแน่นเท่านั้น เพราะ ?จี๋เย่? แห่งนี้ คือบาร์เกย์นั่นเอง
?สายัณห์สวัสดิ์ครับ คุณผู้ชายท่านนั้นให้ผมยก Angel?s kiss แก้วนี้มาให้กับคุณครับ ดื่มให้อร่อยนะครับ? บริกรหนุ่มที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำยกแก้วค็อกเทลวางลงบนเคาน์เตอร์ รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกสบายตา
?ขอบคุณครับ? เซี่ยเฉิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
บริกรกำลังจะเดินกลับไปแต่ถูกเซี่ยเฉิงยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อน เขาล้วงกระเป๋าเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกง หยิบธนบัตรสองใบวางไว้บนถาดในมือบริกร
?ช่วยแสดงความขอบคุณคุณผู้ชายท่านนั้นด้วย กฎเดิม นายรู้ดี? พูดจบเซี่ยเฉิงก็ขยิบตาให้บริกรอย่างซุกซน
บริกรรู้สึกว่าใบหน้าของตนร้อนผ่าวขึ้นมาแต่ก็เรียกสติกลับมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ?คุณผู้ชายครับ เห็นทีคืนนี้คุณคงหาคนที่เหมาะสมไม่ได้อีกแล้วล่ะครับ? ลูกค้าท่านนี้มีใบหน้าที่งดงามและยังเป็นลูกค้าประจำ ยากเหลือเกินที่เขาจะจำไม่ได้
ในใจของเซี่ยเฉิงรู้สึกอายเล็กน้อย เพราะบริกรใช้คำว่า ?อีกแล้ว? กับเขา ทว่า...
เซี่ยเฉิงวางแก้วเหล้าในมือลงแล้วยักไหล่ บริกรเองก็เข้าใจและรับเงินไว้ พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากเคาน์เตอร์
ค็อกเทลแก้วนี้มีชื่อว่า ?จูบของนางฟ้า? เป็นค็อกเทลที่ชายหนุ่มใช้แสดงความรักต่อหญิงสาวเพื่อขอแลกกับจูบ...นิ้วมือเรียวยาวและขาวผ่องของเซี่ยเฉิงจับแก้วไว้ มุมปากยกสูงขึ้น เอ่ยถามบาร์เทนเดอร์ที่อยู่ด้านในเคาน์เตอร์ว่า ?นี่ วันนี้ฉันแต่งตัวเหมือนผู้หญิงมากเลยเหรอ??
?แน่นอนว่าไม่ใช่ วันนี้คุณแต่งตัวหล่อมากครับ? บาร์เทนเดอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
?หืม? ฮ่าๆๆ...เควิน ปากนายนี่มันหวานเหมือนเหล้าของนายเลยนะ ทำให้ฉันอยากจูบจนแทบทนไม่ไหวเลยล่ะ?
?ถ้าเป็นคุณละก็ ผมยินดีต้อนรับเสมอนะครับ? สายตาของเควินฉายแววจริงจัง ราวกับว่าเขาเตรียมพร้อมที่จะถูกจูบทุกเมื่อ
?เควิน นายรู้ว่าเมื่อกี้ฉันแค่ล้อเล่นใช่ไหม? มือซ้ายของเซี่ยเฉิงเท้าคางบนเคาน์เตอร์ ทั้งร่างแผ่กลิ่นอายเกียจคร้านออกมา ในน้ำเสียงมีความเย้าหยอกอยู่เล็กน้อย
?แน่นอนครับ คุณผู้ชาย ในบาร์แห่งนี้คุณเคยพูดความจริงกับใครด้วยหรือครับ?? เพื่อเป็นการผสมโรงกับเซี่ยเฉิง เควินยังขยิบตาอย่างซุกซนให้ไปหนึ่งที
?เฮอะ น่าเบื่อเป็นบ้า? เซี่ยเฉิงเก็บสีหน้าหยอกเย้ากลับมา นิ้วเคาะด้านข้างของแก้วเบาๆ เควินหยิบสุราออกมาจากในชั้นหนึ่งขวด เติมให้กับเซี่ยเฉิงจนเต็มแก้ว
เซี่ยเฉิงยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดไปค่อนแก้ว เผยให้เห็นลำคอระหงที่ทำให้คนอยากจะกัดลงไปอย่างบ้าคลั่งเพื่อทิ้งร่องรอยสีแดงสดไว้บนนั้น
ร่างกายของเซี่ยเฉิง ใบหน้าของเซี่ยเฉิง บุคลิกของเซี่ยเฉิง ในบาร์แห่งนี้แล้วเขาเหมือนกับแสงสว่าง ไม่ว่าเขาจะนั่งอยู่ในมุมที่ไม่สะดุดตาสักแค่ไหน สุดท้ายก็เรียกความสนใจจากผู้คนได้เสมอ
เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาอันร้อนแรงจากด้านหลัง เซี่ยเฉิงขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย สายตาแทะโลมอย่างอุกอาจเหล่านั้นทำให้เซี่ยเฉิงหมดอารมณ์ เขาสั่งเครื่องดื่มเพิ่มอีกหนึ่งแก้ว กำชับบริกรไปนิดหน่อยเพื่อให้ยกเครื่องดื่มแก้วนั้นไปให้คนที่เขาระบุ
?สายัณห์สวัสดิ์ครับ คุณผู้ชาย นี่คือน้ำส้มคั้นที่คุณผู้ชายที่นั่งตรงเคาน์เตอร์ด้านโน้นมอบให้คุณเป็นการตอบแทนครับ ขอให้ดื่มให้อร่อยนะครับ?
ด้านหลังมีเสียงบริกรดังแว่วมา จิตใจของเซี่ยเฉิงดีขึ้นมาในทันที เขายกแก้วขึ้นแล้วหันตัวกลับไป ตามคาด ชายหนุ่มสวมเสื้อลายผู้มีท่อนแขนใหญ่กำยำและเส้นผมชโลมน้ำมันที่ถูกหวีเรียบแปล้ไปด้านหลังกำลังมองดูน้ำส้มคั้นตรงหน้าด้วยใบหน้าฉุนเฉียว กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาดูเหมือนจะกระตุกเบาๆ ตามจังหวะการหายใจอีกด้วย
เควินเห็นเรื่องแบบนี้จนชิน สำหรับลูกค้าเก่าแก่ของจี๋เย่ท่านนี้ การรับมือกับชายหนุ่มที่หวังอาศัยการชนแก้วมาทำความรู้จักกับเขาพวกนี้ เขามักจะสั่งน้ำส้มคั้นไป ?ตอบแทน? พวกเขาอยู่เป็นประจำ
ราวกับรับรู้ถึงสายตาของเซี่ยเฉิง ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น สายตาของทั้งคู่ประสานกัน เซี่ยเฉิงยกแก้วในมือขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ชายหนุ่มมองดูน้ำส้มคั้นตรงหน้า สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก เซี่ยเฉิงเองก็ไม่บังคับ เขาวางแก้วลง ควักธนบัตรออกมาจากกระเป๋าเงินจำนวนหนึ่งวางลงบนเคาน์เตอร์ แล้วคว้าเสื้อนอกที่พาดไว้ตรงเก้าอี้ขึ้นมา ขาเรียวยาวก้าวไปข้างหน้าเดินหายลับไปตรงประตูทางเข้า

ถนนในยามค่ำคืนประดับประดาไปด้วยแสงไฟสว่างไสว เพราะคืนนี้จะมาดื่มที่บาร์แห่งนี้ ดังนั้นเซี่ยเฉิงจึงจอดรถทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล เขาเลยตัดสินใจเดินกลับบ้านแทน
บาร์แห่งนี้อยู่ไม่ห่างจากบ้านมากนัก ใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงทางเข้าอะพาร์ตเมนต์ เขามองดูนาฬิกาข้อมือ เพิ่งจะสี่ทุ่ม ตัวเองนั่งอยู่ในร้านนั้นเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง เป็นอีกครั้งที่เขาทำลายสถิติที่สั้นที่สุดลง...เซี่ยเฉิงนึกอย่างสะท้อนใจ
เซี่ยเฉิงที่ไม่มีเรื่องบนเตียงมากว่าหนึ่งเดือน เดิมทีเขาคิดจะออกล่าเหยื่อในคืนนี้ แต่ทว่าเมื่อไปถึงจี๋เย่ ความคิดนั้นก็กระเจิดกระเจิงหายไปจนหมด
เห็นทีคืนนี้คงต้องจัดการด้วยมือขวาอีกแล้ว ในฐานะที่เป็นเพศชายแข็งแรงสมบูรณ์คนหนึ่ง เซี่ยเฉิงรู้สึกว่าตนเองที่ไม่อยากมีอะไรเกินเลยกับผู้คนซึ่งถือว่ารูปร่างหน้าตางดงามที่เจอในจี๋เย่นั้นเป็นโรคอย่างหนึ่ง ต้องรีบเข้ารับการรักษาโดยด่วน!
เซี่ยเฉิงเดินเข้าไปหน้าลิฟต์ของอะพาร์ตเมนต์ คนที่รอลิฟต์ด้วยกันยังมีหญิงวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง รอบทิศเงียบสงัด กระทั่งได้ยินเสียง ?ติ๊ง? ของลิฟต์ที่เดินทางมาถึงชั้นหนึ่งเซี่ยเฉิงก็เดินเข้าไป กดปุ่มเปิดประตูค้างไว้จนหญิงวัยกลางคนคนนั้นเดินเข้ามาเรียบร้อย ทันใดนั้นเซี่ยเฉิงคลับคล้ายว่าได้ยินเสียงสุนัขเห่าจึงยื่นมือออกไปกดปุ่มเปิดประตูค้างไว้โดยอัตโนมัติอีกครั้ง สักพักชายหนุ่มที่จูงสุนัขก็วิ่งเข้ามาในลิฟต์ด้วยความรีบร้อน
?ขอบคุณมากครับ!? ชายหนุ่มส่งรอยยิ้มให้กับเซี่ยเฉิง เผยให้เห็นลักยิ้มที่บุ๋มลึกตรงแก้มทั้งสองข้าง
?ไม่เป็นไรครับ? เซี่ยเฉิงกดที่ชั้นยี่สิบก่อนจะถอยหลังไปเล็กน้อย เห็นชายหนุ่มกดที่ชั้นสิบหก ส่วนหญิงวัยกลางคนกดที่ชั้นสิบแปด
ในมือของชายหนุ่มกำเชือกไว้ มีสุนัขพันธุ์ซามอยด์ยืนอยู่ด้านข้าง ซามอยด์ตัวนั้นเงยศีรษะกลมมนของมันขึ้นมองไปทุกทิศอย่างอยากรู้ ยื่นลิ้นออกมาหอบหายใจ ส่วนชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของนั้นสูงมาก เซี่ยเฉิงสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแต่เขายังต้องเงยหน้าขึ้นมอง คาดว่าอีกฝ่ายน่าจะสูงประมาณหนึ่งร้อยเก้าสิบได้ แถมรูปร่างยังกำยำสมส่วนได้ที่จนเหมือนกับไม้แขวนเสื้อเคลื่อนที่
เพิ่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศช่วงกลางคืนค่อนข้างเย็นลงเล็กน้อย ทว่าชายหนุ่มยังคงสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาเข้มเพียงตัวเดียว ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงวอร์มสีดำ เซี่ยเฉิงจึงมองเห็นท่อนแขนแข็งแรงของอีกฝ่ายได้ แม้จะถูกเสื้อผ้าบดบังแต่เขาเชื่อว่าสัมผัสจากกล้ามท้องนั่นจะต้องไม่เลวแน่นอน
?ติ๊ง!? ลิฟต์หยุดตรงชั้นสิบหก ชายหนุ่มจูงสุนัขเดินออกไปเป็นคนแรก
มองดูแผ่นหลังของชายหนุ่มแล้ว เซี่ยเฉิงก็รู้สึกเสียดายในใจ กายเนื้อที่งดงามส่วนใหญ่มักมองได้แต่แตะไม่ได้อยู่เสมอ
ต่อจากนั้นก็ถึงชั้นของหญิงวัยกลางคน สุดท้ายคือชั้นของเซี่ยเฉิง เขาควานหากุญแจห้องจากกระเป๋ากางเกงมาเปิดประตูห้อง
ปิดประตู เปิดไฟ ถอดรองเท้าหนังออก เสื้อสูทตัวนอกถูกโยนทิ้งไว้ตรงโซฟาอย่างไม่ใส่ใจ เขาเดินเท้าเปล่าเข้าไปในห้องนอน ล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างแรง
?ชีวิตช่างน่าเบื่อเหลือเกิน!? มองดูเพดานห้อง เซี่ยเฉิงก็บ่นออกมาอย่างเหม่อลอย
เซี่ยเฉิงคือแพทย์ประจำห้องฉุกเฉิน สวัสดิการของโรงพยาบาลที่เขาอยู่นั้นไม่เลว ทำให้เขาเป็นชายโสดโกลด์คลาสในสายตาของเพื่อนร่วมงาน แต่เขาคือเกย์มาแต่กำเนิด ดังนั้นจึงไม่สามารถมีความรู้สึกเกินเลยใดๆ กับเพศหญิงได้ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์หญิงที่เย็นชา หรือพยาบาลสาวผู้อ่อนหวานในโรงพยาบาล ซึ่งคนในครอบครัวของเซี่ยเฉิงต่างยอมรับเรื่องนี้ได้แล้วเลยไม่มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องความรักของเขาอีก
สเปกของเซี่ยเฉิงคือ ชายหนุ่มที่มีร่างกายฟุ้งไปด้วยฟีโรโมน รูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อบึกบึน คิ้วเข้ม ตาโต สะอาดสะอ้าน ยิ้มเก่ง หากมีลักยิ้มด้วยจะดีที่สุด
สมองของเซี่ยเฉิงอดคิดไปถึงชายหนุ่มที่เพิ่งเจอกันในลิฟต์เมื่อสักครู่ไม่ได้ เขาครางออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ชายหนุ่มวัยกำหนัดที่ไม่มีเรื่องบนเตียงช่างน่ากลัวเหลือเกิน แค่เห็นคนที่ตรงสเปกตัวเองเข้าหน่อยก็ชักจะเตลิดเปิดเปิง
เขาถอดแว่นตาออก พลิกตัวลงเอาหน้ามุดเข้าไปในผ้าห่ม กางแขนกางขาออกนอนแผ่อยู่บนเตียง
นึกย้อนไปถึงสมัยก่อน ต่อให้เขาไม่มีคู่รักหรือคู่นอนที่ตายตัว แต่ทุกครั้งที่ไปร้านจี๋เย่ เขาจะต้องได้ใครสักคนที่ร่วมผ่านค่ำคืนแสนวิเศษไปด้วยกันกลับมาเสมอ เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาของตนเอง เขาไม่เคยต้องปวดหัวกับเรื่องหาคู่นอนมาก่อน
แต่...แต่ว่าตั้งแต่เมื่อสามสัปดาห์ก่อน ตั้งแต่ที่ชายหนุ่มชั้นสิบหกผู้ที่มีรูปร่างดี นิสัยดี บุคลิกดี แถมยังมีลักยิ้มคนนั้นย้ายเข้ามาอะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ นับตั้งแต่ที่ตนเองได้พบกับเขาโดยบังเอิญในลิฟต์เป็นครั้งแรก ครั้งที่สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด...เป็นต้นมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป!
เมื่อเขาไปจี๋เย่เพื่อหาคู่นอนอีกครั้ง ในสมองของเขาจะมีหน้าของชายหนุ่มคนนั้นปรากฏออกมาไม่หยุด จนเขาอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบผู้ชายในร้านกับเขาคนนั้น จากนั้นก็ค้นพบว่าตนเองไม่รู้สึกสนใจใครเลยแม้แต่น้อย
เป็นเพราะหมอนั่นคนเดียวที่ทำให้เขาเหมือนคนป่วยแบบนี้!
ความจริงแล้วในเมื่อถูกใจ จะลอง ?จีบ? ดูก็ไม่เป็นไร ครั้งหนึ่งในลิฟต์เขาเคยจงใจสัมผัสต้นแขนของชายหนุ่มในทำนองกึ่งหยอกเย้ากึ่งเชิญชวน แต่ครั้งแรกที่สัมผัสอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ส่วนครั้งที่สองนั้นชายหนุ่มก้มหน้าลงมองเขาเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่อ่านได้ว่า ?ขอโทษด้วยนะครับ คนแน่นไปหน่อย? ก่อนจะพยายามขยับออกไปด้านข้างเพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างพวกเขา ผลลัพธ์นี้ทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ตนเองถูกใจชายแท้เข้าให้แล้ว...ซึ่งสำหรับเกย์แล้ว เรื่องที่น่ากลัวที่สุดในโลกก็คือ ?สนใจชายแท้? นี่เอง
เซี่ยเฉิงลุกขึ้นจากเตียงอย่างหมดแรง ถอดเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ น้ำอุ่นไหลผ่านไปทั่วร่างกาย เขาหลับตาลง มือขวาเอื้อมไปจับยังส่วนเร่าร้อนตรงกายท่อนล่าง ทว่าในสมองกลับคิดถึงใบหน้าของชายหนุ่มชั้นสิบหก
เขาถลกเสื้อยืดของชายหนุ่มขึ้น สองมือสัมผัสไปบนกล้ามท้องอันแข็งตึง หนึ่งลูก สองลูก สามลูก...ให้สัมผัสที่มือดีเหมือนกับที่เคยคิดไว้ นิ้วมือของเขาค่อยๆ ไล่ต่ำลงจนไปถึงด้านในกางเกงวอร์ม ต่ำลงไป ลงไปอีก...เซี่ยเฉิงเงยหน้าขึ้น เขามองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มค่อยๆ เลือนรางลง เลือนรางลง...
เสียงร้องต่ำๆ ดังขึ้นในห้องน้ำ ของเหลวพุ่งทะลักออกมา เซี่ยเฉิงหายใจหอบ หันร่างไปใช้มือเดียวยันกำแพงไว้ กำลังดื่มด่ำอยู่กับความสุขหลังถึงจุดสุดยอด
มองเห็นอยู่ตรงหน้าแต่กินไม่ได้ทำให้เขาแทบเป็นบ้า
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เซี่ยเฉิงกลับไปบนเตียงใหม่อีกครั้ง นอนกอดหมอนไว้อย่างปลงตก พลิกตัวไปมาบนเตียงเพียงลำพัง พยายามข่มตาหลับอย่างยากลำบาก

***

วันรุ่งขึ้น หมอเซี่ยเดินเข้าไปในโรงพยาบาลพร้อมด้วยขอบตาดำคล้ำ
?เสี่ยวเซี่ยจ้ะ เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ? ดูสิ ขอบตาดำคล้ำเชียว อย่าคิดว่าตัวเองยังหนุ่มยังแน่นจนละเลยเชียว ต้องระวังสุขภาพให้มากนะ? คนที่ทักคือคุณน้าจางซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาดของโรงพยาบาล ปีนี้อายุห้าสิบ ร่างกายอวบท้วมแต่ไม่กระทบต่อการทำงาน ที่สำคัญคือเธอเป็นคนดีมาก ปกติคอยดูแลแพทย์และพยาบาลหนุ่มสาวอยู่เสมอ ดังนั้นทุกคนจึงชื่นชอบเธอมากเป็นพิเศษ
?น้าจางครับ ผมไม่เป็นไร หมอนมันสูงไม่พอดีน่ะครับ เมื่อคืนเลยนอนไม่ค่อยหลับ? เซี่ยเฉิงเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ออกมา และแน่นอนว่าคุณน้าจางตกหลุมรอยยิ้มของเขาไปเต็มๆ
?ถ้าอย่างนั้นหลังเลิกงานอย่าลืมไปซื้อหมอนใบใหม่ด้วยล่ะ เป็นหมอก็เหนื่อยพออยู่แล้ว จะปล่อยให้ตัวเองนอนไม่หลับอีกไม่ได้เด็ดขาดนะ รู้ไหม?
?ครับ ขอบคุณน้าจางมากนะครับ!?
หลังจากบอกลาผู้สูงวัย เมื่อเซี่ยเฉิงก้าวขาเข้าไปยังห้องทำงานก็ถึงคราวเผชิญกับคนหนุ่มสาวบ้าง ซึ่งก็คือพยาบาลสาวประจำห้องฉุกเฉิน หูเจียเจีย นั่นเอง
?หมอเซี่ยคะ นี่ไปทำอะไรมาคะเนี่ย ดูซิ ขอบตาดำจนเหมือนหมีแพนด้าเลย ทะเลาะกับแฟนมาเหรอคะ?? สถานะความรักของหมอเซี่ยนั้นถือว่าเป็นปริศนาประจำโรงพยาบาลเลยทีเดียว มีคนบอกว่าหมอเซี่ยมีแฟนแล้ว มีคนบอกว่าหมอเซี่ยยังโสด และยังมีข่าวลืออีกด้วยว่าหมอเซี่ยมีคู่หมั้นแล้ว...เอาเป็นว่ามีข่าวลือไปต่างๆ นานา เลยทีเดียว
?ทำไม คิดจะมาสืบความลับอะไรอีกล่ะทีนี้ ไหนพูดซิว่าคราวนี้ใครวานให้คุณมาถาม? เซี่ยเฉิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาดอกท้อภายใต้แว่นตาส่องประกาย ทำให้ผู้ที่ถูกจ้องมองหัวใจเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าว แม้แต่วิญญาณยังเกือบถูกดูดไป
หูเจียเจียท่องชื่อแฟนของตนเองในใจวนซ้ำไปมา เมื่อท่องถึงรอบที่สิบจึงสามารถสงบจิตสงบใจลงได้
?แหะๆ...พยาบาลประจำแผนกกระดูกคนหนึ่งค่ะ พูดชื่อไปคุณหมอก็ไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่พูดตามจริงนะคะ พยาบาลที่หวังจะเคลมคุณหมอน่ะ ถ้าจับมาเข้าแถว อย่างน้อยๆ ก็แถวยาวจนเลยห้องฉุกเฉินไปแน่นอน คุณหมอไม่สนใจใครบ้างเลยเหรอคะ??
?หืม? นี่เยอะขนาดนี้แล้วเหรอ ผมไม่รู้เลยนะเนี่ย เอางี้ไหม พวกเราออกจะสนิทกันขนาดนี้ ผมไปบอกกับพวกนั้นว่า ที่จริงแล้วผมแอบรักคุณอยู่แต่เสียดายที่คุณมีแฟนแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงเจ็บปวดกับความรัก...? เซี่ยเฉิงรับแฟ้มคนไข้มาจากมือของหูเจียเจีย ระหว่างที่ดูก็พูดจาเหลวไหลด้วยสีหน้าจริงจังไปด้วย
?หยุดค่ะ หยุด! ฉันผิดไปแล้ว ฉันสำนึกผิดแล้วค่ะ หมอเซี่ยวางใจได้เลยนะคะ ต่อไปนี้ฉันจะพยายามไม่อยากรู้เรื่องของคุณหมออีก ไม่เฉพาะตัวเองนะคะ รับประกันได้ว่าจะไม่ไปพูดเรื่องคุณหมอให้พยาบาลคนอื่นฟังด้วยแน่นอนค่ะ คุณหมอได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ?
หูเจียเจียทำงานในห้องฉุกเฉินมาได้ปีกว่าแล้วจึงพอรู้ถึงนิสัยของเซี่ยเฉิงอยู่บ้าง เวลาทำงานเหมือนเป็นคนบ้า ส่วนชีวิตส่วนตัวนั้นยังคงเป็นปริศนา และในยามแกล้งคนอื่นก็ไม่เคยอ่อนข้อให้แม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นจะตกเป็นเหยื่อของปีศาจตนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!
?ก็ได้? เซี่ยเฉิงเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังไม่เงยหน้า ทว่ากลับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินจากไปจึงถามขึ้นอย่างสงสัยว่า ?ทำไมเหรอ ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่าครับ?? ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้น ขยับแว่นตาเล็กน้อย
?เปล่าค่ะ! เชิญคุณหมอทำงานต่อได้เลยค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ? หากไม่หนีตอนนี้จะหนีตอนไหน หูเจียเจียรีบบึ่งออกมาจากห้องทันที
หลังจากอัญเชิญพยาบาลสาวออกไป เซี่ยเฉิงเปลี่ยนมาใส่เสื้อกาวน์แล้วเดินไปเข้าห้องน้ ส่องกระจกสำรวจตัวเอง แน่นอนว่าขอบตาของเขาดำคล้ำจนเห็นได้ชัด ขัดตาเขาเหลือเกิน
ค่ำคืนอันอ้างว้างและโดดเดี่ยว ในอ้อมอกมีเพียงหมอนใบเดียวให้กอด ในสมองคิดถึงชายแท้คนหนึ่ง นอนเกลือกกลิ้งไปมาบนเตียง สุดท้ายก็นอนไม่หลับ ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าอะไรแบบนี้
ในกระจก สายตาของเซี่ยเฉิงมีทั้งความไม่พอใจที่ทั้งรักทั้งแค้น และความเสียใจที่ไม่ได้ในสิ่งที่ตนหวัง
เซี่ยเฉิงรู้สึกว่าคราวนี้ตนเองคงแย่แล้ว ที่ผ่านมาเขาโลดแล่นอยู่ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้อย่างเริงร่า แต่ครั้งนี้สวรรค์ส่งชายแท้มากำราบเขาแล้ว ชีวิตนี้...ช่างสิ้นหวังเหลือเกิน!
แต่ไม่นานเซี่ยเฉิงก็ไม่มีเวลาดำดิ่งอยู่ในความสิ้นหวังอีกต่อไป
เพราะห้องฉุกเฉินแห่งนี้เปรียบได้กับสนามรบ ทันทีที่ก้าวขาเข้าสู่สนามรบย่อมไม่มีแม้แต่เวลาจะหลบไปพักหายใจ ไม่ว่าเวลากลางวันหรือกลางคืน ในยี่สิบสี่ชั่วโมงของหนึ่งวัน สิ่งที่ห้องฉุกเฉินไม่เคยขาดเลยก็คือ คนไข้นั่นเอง
?หมอเซี่ยคะ ด้านนอกมีคนไข้เป็นไข้และอาเจียน สีหน้าซีดเผือดเลยค่ะ? พยาบาลที่เข้าเวรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน
?ได้ พาเข้ามาก่อน? เซี่ยเฉิงกำลังตรวจดูอาการของคนไข้รายหนึ่งที่มาด้วยอาการปวดท้องรุนแรง
?หมอเซี่ยคะ ด้านนอกมีคนไข้ถูกรถชน แขนและใบหน้าได้รับบาดเจ็บต้องเย็บด่วนค่ะ?
?ได้ ฆ่าเชื้อก่อนนะ เดี๋ยวผมจะรีบตามไป?
หมอเซี่ยคะ หมอเซี่ยคะ หมอเซี่ยคะ...นี่อาจเป็นถ้อยคำที่ถูกเรียกขานมากที่สุดถ้อยคำหนึ่งในบริเวณห้องฉุกเฉินแห่งนี้ เซี่ยเฉิงยุ่งจนหัวหมุนไปหมด
ในที่สุดงานของวันนี้ก็จบสิ้นลง เข็มนาฬิกาตรงผนังชี้บอกเวลาสองทุ่มครึ่ง เซี่ยเฉิงส่งเวรให้กับหมอที่มารับหน้าที่ต่อก่อนจะถอดเสื้อกาวน์ออก ขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางกลับบ้านเขาแวะซื้ออาหารกล่อง ตอนนี้ท้องของเขาหิวจนส่งเสียงร้องจ๊อกๆ ร่างกายเหนื่อยล้าไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอาหาร
ชีวิตประจำวันของเขาก็เป็นแบบนี้ เรียบง่ายและวนเวียน ทว่าเวลากลับผ่านไปเร็วมาก ความไม่สบายใจเมื่อเช้าถูกลืมเลือนไปจนหมดสิ้น
หลังเดินเข้าไปในอะพาร์ตเมนต์ วินาทีก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดเซี่ยเฉิงร้องออกไปว่า ?รอด้วยครับ? จากนั้นประตูลิฟต์ที่กำลังปิดก็เปิดออกอีกครั้ง เขารีบก้าวเท้าไป แล้วก็พบว่าคนที่อยู่ในลิฟต์คือชายหนุ่มจากชั้นสิบหกนั่นเอง
วันนี้ชั้นสิบหกสวมเสื้อวอร์มสีดำ ในมือหิ้วกล่องข้าวไว้เช่นเดียวกัน ดูท่าเขาก็เหมือนกับตนเองที่ยังไม่ได้ทานมื้อเย็น
เซี่ยเฉิงเดินเข้าไปในลิฟต์ พยักหน้าขอบคุณชายหนุ่ม ชายหนุ่มเองก็ผงกศีรษะตอบเพียงแต่วันนี้ไม่ได้ยิ้มให้ ลักยิ้มที่น่ารักจึงไม่ได้ปรากฏออกมาให้เซี่ยเฉิงเห็น ราวกับว่าเจ้าตัวกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ
ลิฟต์ขึ้นไปทีละชั้นๆ ในลิฟต์มีเพียงเซี่ยเฉิงกับชั้นสิบหก...เพราะไม่ทราบว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร เซี่ยเฉิงจึงตั้งชื่อให้ว่า ?ชั้นสิบหก?
เซี่ยเฉิงยืนอยู่ด้านหลังทางซ้ายของชั้นสิบหก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรความไม่พอใจที่เขาลืมมันไปแล้วถึงฟื้นคืนขึ้นมาอีกครั้ง ความหลงใหลในเรือนร่างของอีกฝ่ายทว่าอีกฝ่ายกลับเป็นชายแท้ ความห่อเหี่ยวที่เขาไม่ได้มีเซ็กซ์เลยตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา และความที่เขาต้องแบกขอบตาดำคล้ำคู่นี้ไปทำงาน ชีวิตเหมือนกับจมอยู่ในความสิ้นหวัง ซึ่งความสิ้นหวังนี้มาจากคนคนนี้!
ด้วยเหตุนี้ตอนที่ลิฟต์ส่งเสียงดัง ?ติ๊ง? เพื่อเตือนว่าถึงชั้นสิบหกแล้ว เส้นบางๆ ในสมองของเซี่ยเฉิจึงขาดผึงลง เขาเอื้อมมือออกไปอย่างไม่ทันคิด...
?เพียะ!? เสียงกังวานดังขึ้นในลิฟต์ จากนั้นทั้งคู่ก็นิ่งอึ้งไป เซี่ยเฉิงก้มหน้าลงมองฝ่ามือตนเอง นึกย้อนว่าเมื่อสักครู่ตนทำอะไรลงไป ชั้นสิบหกหันกลับมาจ้องมองเขาด้วยดวงตากลมโตอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
สายตาทั้งคู่ประสานกัน ในสายตาของชั้นสิบหกเต็มไปด้วยความลนลาน ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่ในสายตาของเซี่ยเฉิงนั้นมีความอัศจรรย์ คาดไม่ถึง และได้ใจ และแล้วก็มีเสียง ?เพียะ? ดังขึ้นอีกครั้ง เซี่ยเฉิงใช้ฝ่ามือตบลงไปบนบั้นท้ายของชั้นสิบหกอีกครั้ง ครั้งนี้เขาออกแรงบีบเล็กน้อยด้วย
บั้นท้ายของชั้นสิบหกเด้งดึ๋งเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีเสื้อผ้ากั้นไว้แล้วตีลงไปบนเนื้อโดยตรงน่าจะรู้สึกดีมากกว่านี้แน่นอน
?คุณ...? ชั้นสิบหกไม่อยากเชื่อว่าตนเองกำลังเจอกับอะไร เขาถอยหลังไปสองสามก้าวจนกระทั่งหลุดออกไปนอกลิฟต์
สติของเซี่ยเฉิงนั้นบินหนีไปหมดแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกแค่ว่า ในเมื่อลงมือทำไปแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด คนที่นอนไม่หลับไม่ควรเป็นเขาแค่คนเดียวนี่นา จะดัดชายแท้ให้มารักผู้ชายด้วยกันได้หรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง แต่อย่างน้อยจะปล่อยให้ชั้นสิบหกมีชีวิตผาสุกคนเดียวไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เซี่ยเฉิงจึงขยิบตาให้ชั้นสิบหกที่ยืนตกใจอยู่ด้านนอกลิฟต์หนึ่งครั้งพร้อมกับส่งจูบไปให้อีกหนึ่งที
ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง เซี่ยเฉิงมองเห็นชั้นสิบหกยืนตัวแข็งทื่ออยู่ด้านนอกลิฟต์ ดูท่าคงยังไม่ตื่นจากอาการตกใจเมื่อสักครู่ สีหน้าตึงเครียด และนั่นทำให้มุมปากของเซี่ยเฉิงยกขึ้นเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้
เมื่อมาถึงชั้นยี่สิบ เซี่ยเฉิงอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก เขาเดินฮัมเพลงเบาๆ ไปเปิดประตูห้อง อีกนิดก็จะกระโดดด้วยความดีใจแล้ว ไม่เหลือความไม่พอใจในวันวานอีก แม้แต่กล่องข้าวที่เย็นชืดยังรู้สึกอร่อยขึ้นมา
ความสุขเล็กๆ เกิดขึ้นจากการกลั่นแกล้งชายแท้ ความอัดอั้นกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาได้รับการเยียวยาและเติมเต็มจากสองฝ่ามือเมื่อสักครู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้ชั้นสิบหกจะคิดอะไรอยู่กันนะ? จะนอนหรือยัง? เขาจะนอนไม่หลับหรือเปล่า?
?ฮ่าๆๆ...?
หมอเซี่ยที่นอนกอดหมอนอยู่บนเตียงหัวเราะเสียงดังอย่างไร้น้ำใจ จากนั้นก็นอนรำลึกถึงสัมผัสที่ได้จากบั้นท้ายของชั้นสิบหกแล้วค่อยๆ เข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ให้ฉันเสียสละลองคบกับนายดูดีไหมล่ะ จะสอนให้นายรู้จักรสชาติของความรักเอง?
ลู่เฮ่าเป็นพนักงานดับเพลิงที่สูงถึงหนึ่งร้อยเก้าสิบสอง แต่กลับถูกลวนลามในลิฟต์เป็นประจำ ส่วนหมอบ้าโรคจิตเซี่ยเฉิงที่เป็นผู้ร้ายนั้น ทั้งที่โดนจับได้ว่าเป็นคนลงมือแต่กลับพูดอย่างหน้าไม่อายว่า...ใครบอกให้นายเป็นชายแท้ล่ะ ในเมื่อไม่มีหวังจะได้ขึ้นเตียงกัน ยอมให้ฉันแต๊ะอั๋งนิดๆ หน่อยๆ เพื่อปลอบประโลมใจจะเป็นไรไป! ตามหลักการแล้วการรับมือกับคนประเภทนี้คือ ซ้อมให้หนักแล้วโยนเข้าไปในสถานีตำรวจเสียให้เข็ด ทว่ายามที่เขาได้รับบาดเจ็บกลับเป็นหมอนี่ที่ช่วยดูแลอย่างใส่ใจจนทำให้เขาใจร้ายด้วยไม่ลง แม้กระทั่งตอนเซี่ยเฉิงไม่มีบ้านให้กลับเพราะอะพาร์ตเมนต์ถูกไฟไหม้ เขาก็รับเซี่ยเฉิงมาอยู่ด้วย เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าเพราะอาศัยอยู่ร่วมกันนานเกินไปหรือเปล่า ถึงได้เริ่มติดนิสัยไม่ดีมา ไม่เพียงแต่ใบหน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงเวลาถูกเซี่ยเฉิงแตะเนื้อต้องตัว แต่เมื่อเห็นเซี่ยเฉิงเมามายและถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยครึ่งตัว เขากลับรู้สึกอยากยื่นมือออกไปสัมผัสเหลือเกิน


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”