New Release : โซ่รักพันธะพิศวาส

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : โซ่รักพันธะพิศวาส

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1


ร่างสูงใหญ่ล่ำสันในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ส่งให้ผู้สวมใส่ดูหล่อเหลาระคนน่าเกรงขาม ได้เดินเข้ามาภายในคฤหาสน์ด้วยท่าทีอ่อนล้าจากการทำงานมาทั้งวัน ขณะเดินผ่านห้องโถงกำลังจะตรงไปยังบันไดบ้านก็ต้องส่ายหน้าอย่างระอา เมื่อเห็นน้องชายนั่งซดบรั่นดีหมดไปครึ่งขวด และด้วยไม่อยากอยู่คุยกับน้องชายซึ่งดูท่าว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องจึงก้าวเท้าขึ้นบันไดบ้าน แต่ก้าวได้แค่เพียงขั้นเดียวก็ถูกผู้เป็นน้องชายเอ่ยเรียกเสียงอ้อแอ้
?ฌอน...ไอ้พี่ชาย...มาดื่มด้วยกันไหมครับ?
ฌอน เจย์ฟอร์ต ผู้ถูกน้องชายเอ่ยเรียกถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็งห้วนพร้อมกับเอ่ยต่อว่าน้องชายไปด้วย
?ไม่ล่ะ พี่เหนื่อย อยากพักผ่อน นายก็เหมือนกัน ควรหยุดดื่มเหล้า ไปนอนพักได้แล้ว คลินต์...?
?ผมยังอยากดื่มต่อ และอยากคุยกับพี่ด้วย มานั่งคุยกันก่อนสิฌอน?
คราวนี้ร่างใหญ่ของคลินต์ เจย์ฟอร์ต เดินเอียงซ้ายเอียงขวาราวกับงูเลื้อยมาจับมือพี่ชายไว้ ฉุดรั้งให้อีกฝ่ายไปนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์ภายในห้องโถงด้วยกัน
ฌอนสะบัดมือหนี ไม่มีอารมณ์ไปนั่งดื่มกับน้องชาย แต่กลับถูกคลินต์จับยึดข้อมือไว้แน่น แถมยังเอ่ยขอร้องเสียงยานด้วย
?ดื่มด้วยกันหน่อย...พี่ชาย ดื่มคนเดียวน่าเบื่อชะมัด? คลินต์พยายามจะลากร่างใหญ่ของพี่ชายให้ก้าวลงจากบันไดบ้านเพื่อไปนั่งดื่มเหล้ากับเขา
ฌอนเริ่มโมโหน้องชายจึงอดต่อว่าไม่ได้
?ถ้านายเบื่อ ก็ลองหาอะไรทำสิ อย่างเช่นไปทำงาน เล่นกีฬา ไม่ใช่นั่งดื่มแต่เหล้า?
?ไม่เอา ผมไม่อยากทำงาน ผมมีหุ้นในบริษัทของเราห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ถึงไม่ทำงานผมก็มีกินมีใช้ไปอีกสิบชาติ ถูกต้องไหมครับ พี่ชาย...?
ฌอนไม่เถียง เพราะที่คลินต์พูดมานั้นคือเรื่องจริง เขาและคลินต์มีกิจการในเครืออยู่มากมายทั่วเมืองชิคาโก และในอีกหลายๆ รัฐทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังมีทรัพย์สินทั้งอสังหาริมทรัพย์และเงินสดที่อยู่ในบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกาและประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึงไม่ทำงานเลยพวกเขาก็มีเงินใช้ตลอดทั้งชาติ แต่! เขาไม่ได้ให้น้องชายไปทำงานเพื่อเงิน แต่เพื่อไม่ให้มีเวลาว่างมานั่งดื่มเหล้าจนกลายเป็นคนติดเหล้าไปแล้วแบบนี้
?พี่ให้นายทำงานเพื่อจะได้ไม่เหงาและไม่เบื่อเหมือนที่นายกำลังบ่นอยู่ตอนนี้ยังไงล่ะ มีงานมากมายล้นมือให้นายทำทั้งวัน จะทำให้นายไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น และไม่ต้องมานั่งซดเหล้าต่างน้ำแบบนี้ด้วย?
?ฌอน...หยุดด่าผมได้ไหม ผมมีเรื่องอยากพูดกับพี่จริงๆ?
คราวนี้คลินต์ขอร้องทั้งสีหน้าและสายตา พลางส่ายหน้าแรงๆ เพื่อไล่อาการมึนเมาออกไปจากหัว
ฌอนถอนหายใจยาว แม้เหน็ดเหนื่อยจากหน้าที่การงาน อยากนอนแช่น้ำอุ่นๆ แล้วเข้านอนมากเพียงใด ก็จำต้องยอมทำตามความต้องการของคลินต์ เมื่อเห็นสีหน้าอ้อนวอนจากอีกฝ่าย
?ก็ได้ พี่ให้เวลานายพร่ำรำพันแค่สิบนาที หลังจากนั้นพี่จะไปพักผ่อน และนายก็ควรหยุดกินเหล้าหลังจากคุยกับพี่เสร็จแล้ว?
?สิบนาที...ได้ครับ?
คลินต์คลี่ยิ้มออกมาได้ และหากฌอนสังเกตสักนิด เขาจะเห็นว่าในรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าหมองที่ปะปนมาด้วย ทว่าฌอนไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะเขาเดินลิ่วๆ นำหน้าน้องชายไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เพื่อรอฟังเรื่องที่คลินต์อยากปรึกษากับเขา
?นายมีเรื่องอะไรจะพูดกับพี่ เริ่มได้เลย?
คลินต์สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ดวงตาซึ่งแดงก่ำจากฤทธิ์ของน้ำสีอำพันจ้องมองพี่ชายเขม็ง ก่อนจะเอ่ยบอกช้าๆ ว่า
?เมื่อห้าปีที่ผ่านมา ผมทำเพื่อนร่วมคลาสท้อง และผมก็ปัดความรับผิดชอบ บอกว่าไม่ใช่ลูกของผม ไล่ให้เธอไปทำแท้ง จากนั้นผมก็ไม่ติดต่อกับเธออีกเลย อีกหลายสัปดาห์ต่อมาเธอก็กลับประเทศไทยทั้งๆ ยังเรียนไม่จบ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเธอได้ทำแท้งหรือว่าเก็บลูกในท้องไว้?
ฌอนมองหน้าของคลินต์ ไม่ได้เชื่อในเรื่องที่น้องชายพูดมา เพราะคิดว่าอีกฝ่ายเมาจนเพี้ยน
?นายเมาหนักแล้วคลินต์ ไปนอนซะ?
ขณะไล่น้องชาย ร่างใหญ่ก็ผุดลุกขึ้นยืนแต่ถูกคลินต์จับยึดข้อมือไว้แน่น ส่ายหน้าปฏิเสธในคำพูด แล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดเคร่งเครียด
?ฌอน...ผมพูดเรื่องจริง ผมทำผู้หญิงท้อง แล้วผมก็ทิ้งเธอไป มันคือเรื่องจริงที่ผมปกปิดไว้ไม่เคยบอกใครแม้แต่คนเดียว?
ฌอนหรี่ตามองน้องชายก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเหมือนเดิม เมื่อเห็นสีหน้าของคลินต์ติดหมองเศร้าไม่มีอาการมึนเมาหลงเหลือให้เห็นอีก
?นายพูดจริงหรือคลินต์?
คลินต์พยักหน้ารับช้าๆ เอ่ยย้ำคำตอบเสียงแผ่วเบาว่า
?ผมพูดเรื่องจริงทั้งหมดครับ?
คราวนี้ฌอนเริ่มเชื่อในคำพูดของน้องชาย พลางซักไซ้ถึงความลับที่คลินต์เก็บงำไว้นานหลายปี
?นายบอกพี่ว่าผู้หญิงหนีกลับประเทศไทย หมายความว่าเธอเป็นคนไทยยังงั้นหรือ?
?ครับ ชีวาพรคือผู้หญิงที่ผมทำท้อง และไม่ยอมรับลูกในท้องของเธอ?
คลินต์เอ่ยเสียงเศร้า รู้สึกเสียใจกับการกระทำในอดีตของตน และเมื่อเชื่อในคำพูดของน้องชายว่าเป็นเรื่องจริง ฌอนก็ถึงกับสบถด่าด้วยความโมโห
?บ้าชะมัด! คลินต์ นายไม่เคยถูกสอนให้เห็นแก่ตัวและเห็นผู้หญิงเป็นแค่เพียงของเล่น หรือเครื่องบำบัดความใคร่นะ พรุ่งนี้เดินทางไปประเทศไทยตามหาชีวาพร และไม่ว่าเธอจะเก็บลูกในท้องไว้หรือไม่ นายก็ควรไปขอโทษเธอ และถ้าหากเธอเก็บลูกไว้ ป่านนี้ลูกของนายคงมีอายุราวๆ สี่ขวบ นายต้องรับผิดชอบในตัวเด็ก ลูกของนายต้องมีสิทธิ์ทุกอย่างในทรัพย์สินของตระกูลเรา?
คลินต์ส่ายหน้าปฏิเสธกับคำด่าแกมแนะนำจากพี่ชาย
?ผมไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับชีวาพรหรอกครับ?
?ทำไมนายถึงกลายเป็นคนขี้ขลาดขึ้นมาได้ กล้าทำก็ต้องกล้ารับผิด และใจนักเลงมากพอที่จะไปขอโทษเธอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปห้าปี สิบปีก็ไม่สายเกินไปที่นายจะขอโทษชีวาพร?
ฌอนด่าซะยืดยาว ได้แต่หวังว่าคลินต์จะยอมทำตาม ก่อนจะเอ่ยขู่ต่อว่า
?ถ้าหากนายไม่ไป พี่นี่แหละจะลากคอนายไปขอโทษชีวาพรเอง?
?ผมมีเวลาเหลือไม่มากถึงเพียงนั้น?
คลินต์ปฏิเสธเสียงแผ่วเบา หลุบสายตาลงมองแก้วบรั่นดีในมือเพื่อไม่ให้ฌอนเห็นบางสิ่งบางอย่างที่วิ่งวนอยู่ทั่วดวงตาของเขา
คำตอบที่ฟังดูไร้เหตุผล ทำให้คลินต์ถูกผู้เป็นพี่ด่ากลับในทันควัน
?ไม่มีเวลาบินไปประเทศไทย แต่นายมีเวลานั่งกินเหล้าเป็นวันๆ นายไม่ควรทำตัวขี้ขลาดแบบนี้?
?บางครั้งผมก็เป็นคนขี้ขลาดเหมือนที่พี่ด่า?
คลินต์ยอมรับ ยังคงจ้องมองแค่เพียงน้ำสีอำพันในแก้วที่ถืออยู่ พร้อมกับบีบแก้วไว้แน่นจนเส้นเอ็นตรงหลังข้อมือปูดโปน ทว่า...ฌอนไม่ได้สังเกต นอกจากตำหนิน้องชายด้วยความโมโห
?พี่ไม่เคยสอนให้นายเป็นคนขี้ขลาดและไร้ซึ่งความรับผิดชอบ ไปนอนซะคลินต์ พี่จะจองตั๋วเครื่องบินให้นาย พรุ่งนี้นายต้องไปประเทศไทย?
?ผมไม่มีเวลาอยู่ได้นานถึงเพียงนั้น?
คลินต์ยังคงพูดประโยคเดิมเหมือนต้องการบอกให้ฌอนรับรู้ถึงสัญญาณบางอย่าง
ฌอนตีสีหน้าบึ้งตึง ออกคำสั่งแกมตวาดพร้อมกับดึงแก้วเหล้าออกจากมือของคลินต์
?ไปนอน! พรุ่งนี้เตรียมตัวเดินทางไปประเทศไทย?
คลินต์เงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย ส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ
?ไม่! ฌอน พี่ไม่เข้าใจ?
?ไม่เข้าใจตรงไหน ถ้างั้นนายช่วยอธิบายให้มันกระจ่างว่าทำไมถึงไม่ไปขอโทษชีวาพร ทำไมถึงไม่ไปพบหน้าลูกของนาย ซึ่งเธออาจจะไม่ได้ทำแท้งก็ได้?
ยิ่งพูด ฌอนก็ยิ่งโกรธน้องชายมากกว่าเดิม
?ผมอยากพบลูกและชีวาพร?
คลินต์บอกถึงความต้องการของตน แววตาเต็มไปด้วยความหมองเศร้าขณะจ้องมอง จับมือของพี่ชายไว้แน่นแล้วเอ่ยขอร้อง
?สัญญาสิฌอน ถ้าหากผมตาย พี่ต้องพาลูกของผมและชีวาพรมาไหว้หลุมศพของผม?
?คลินต์! นายรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา?
ฌอนขมวดคิ้วเข้าหากันให้ยุ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องชายต้องพูดเหมือนกำลังสั่งเสีย
?ผมรู้ว่ากำลังพูดและทำอะไรอยู่ สัญญากับผมสิครับ?
คลินต์เอ่ยขอคำสัญญาอีกครั้ง ยังจับมือของพี่ชายไว้แน่น ดวงตาทั้งคู่จ้องเขม็งรอฟังคำสัญญาจากพี่ชาย
?พี่ไม่สัญญากับนาย...?
ฌอนปฏิเสธเสียงแข็ง สิ่งที่คลินต์ขอร้องไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงที่เขาจะทำให้ แต่...เขาไม่ชอบใจเอาซะเลยที่น้องชายพูดเป็นลางไม่ดี จากนั้นก็สั่งอีกฝ่ายเสียงห้วน
?ปล่อยมือได้แล้วพี่จะไปนอน?
?ได้โปรด...ฌอน...สัญญากับผม...?
คลินต์วิ่งวอน ดวงตาแดงก่ำกับความรู้สึกเศร้าใจที่แล่นมาจุกอก ฌอนเริ่มรำคาญน้องชาย กอปรกับอ่อนเพลียและปวดหัวจากการทำงานมาทั้งวัน อยากไปพักผ่อนสักทีจึงรับปากส่งๆ ไปว่า
?ก็ได้ พี่สัญญา?
?ขอบคุณครับ? คลินต์คลี่ยิ้มออกมาได้ จากนั้นก็สวมกอดร่างกำยำของพี่ชายไว้แน่น ?ขอบคุณที่พี่ยอมทำตามคำขอร้องของผม...ผมรักพี่ ฌอน...?
ฌอนสวมกอดกลับคืน ตบหนักๆ ไปบนบ่าของน้องชายที่แลดูอ่อนแอไม่ต่างจากเด็กตัวน้อย พร้อมกับเอ่ยบอกแกมออกคำสั่งไปในตัว
?เลิกกินเหล้าซะ แล้วไปอาบน้ำให้สร่างเมา พรุ่งนี้เตรียมตัวเดินทางไปไทย พี่จะให้อดัมจองตั๋วให้นายเดี๋ยวนี้?
?อดัม? ที่ฌอนพูดถึงคือเลขาฯ ส่วนตัวของเขา ซึ่งทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ แถมยังเรียกใช้งานได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วย
?ขอบคุณมากครับ...พี่ชาย...ขอบคุณที่ยอมรับปากให้สัญญากับผม?
คลินต์บีบมือฌอนไว้แน่น ก่อนจะปล่อยมือให้พี่ชายได้ไปพักผ่อน ฌอนจ้องมองน้องชายอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน เดินขึ้นบันไดบ้านตรงไปยังห้องนอนของตน โล่งอกระดับหนึ่งที่คลินต์รับปากว่าจะเลิกกินเหล้าและไปนอนพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปประเทศไทย
เจ้าของร่างใหญ่ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาภายในห้องนอน ขณะดึงเนกไทออกจากลำคอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาอดัมด้วย
?อดัม จองตั๋วเครื่องบินไปไทย เที่ยวบินวันพรุ่งนี้ให้คลินต์ด้วย?
ฌอนเอ่ยสั่งในทันทีที่ลูกน้องกดรับโทรศัพท์ สร้างความสงสัยให้กับปลายสายเป็นอย่างมากจนต้องถามซ้ำผ่านโทรศัพท์ว่า
?คุณคลินต์จะไปประเทศไทยหรือครับ?
?ใช่? ฌอนรับคำ พลางเอ่ยสั่งต่อ ?จะจองที่นั่งชั้นหนึ่งหรือชั้นประหยัดก็ได้ ขอแค่มีที่นั่งว่างสำหรับคลินต์ก็พอ?
?ได้ครับเจ้านาย ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ?
อดัมรับคำสั่ง รีบเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อค้นหาตั๋วเครื่องบินและทำการจองตามที่เจ้านายได้สั่งการ
?ได้ตั๋วแล้วโทร.มาบอกเราด้วย?
?ครับ ผมขอเวลาสักหนึ่งชั่วโมงนะครับเจ้านาย?
?จัดการให้เร็วที่สุด?
ฌอนสั่งกำชับอีกครั้งก่อนจะกดวางสาย มั่นใจว่าอดัมจะสามารถจัดการซื้อตั๋วเครื่องบินให้คลินต์เดินทางไปประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ได้อย่างแน่นอน
เมื่อสั่งงานอดัมเรียบร้อยแล้ว ฌอนก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นพร้อมกับเทเกลือหอมใส่อ่างจากุซซี อยากนอนแช่น้ำอุ่นสักชั่วโมงให้คลายความปวดเมื่อยตามร่างกาย
แต่...ไม่ทันได้ถอดเสื้อเชิ้ตออกจากตัว ฌอนก็ต้องสะดุ้งกับเสียงรถยนต์ที่แล่นออกจากบริเวณคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
เอี๊ยดด...
เสียงล้อรถที่เสียดสีกับพื้นถนนกอปรกับเสียงเครื่องยนต์ของรถเฟอรารีที่ดังกระหึ่มขณะออกตัวทำให้ฌอนต้องรีบวิ่งออกจากห้องน้ำตรงไปยังระเบียงนอกห้อง และก็เห็นรถเฟอรารีสีแดงของคลินต์แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว
?บ้าชะมัด! คลินต์ ทำไมขับรถออกไปทั้งๆ ยังเมาอยู่?
ฌอนได้แต่ตะโกนด่าตามหลัง ซึ่งแน่นอนว่าผู้เป็นน้องชายไม่มีทางได้ยิน และด้วยเป็นห่วงเกรงว่าคลินต์จะประสบอุบัติเหตุ ชายหนุ่มจึงวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอน คว้าโทรศัพท์โทร.หาน้องชาย หากคลินต์รับโทรศัพท์ เขาจะสั่งให้อีกฝ่ายกลับบ้านเดี๋ยวนี้
ทว่า...คลินต์ไม่รับโทรศัพท์ และนั่นยิ่งทำให้ฌอนเป็นห่วงน้องชายมากจนต้องรีบวิ่งออกจากห้องนอน ตั้งใจจะขับรถออกไปตามคลินต์ ซึ่งไม่เป็นการยากเพราะรถของคลินต์มีระบบจีพีเอส เขาสามารถเช็กเส้นทางที่น้องชายขับไปได้ แต่เมื่อวิ่งลงบันไดมาได้แค่เพียงครึ่งทาง ก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับเสียงที่แล่นมากระทบโสตประสาท
โครม!!!
?คลินต์...?
ฌอนครางเรียกชื่อน้องชายอยู่ในลำคอ ภาวนาว่าเสียงชนกันดังสนั่นหวั่นไหวไม่ได้เกิดจากรถของคลินต์ แต่คำภาวนาไม่เป็นผล เมื่อคนรับใช้วิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกว่า
?เจ้านาย คุณ...คุณคลินต์ขับรถชน...ชนเสาไฟ?
?คลินต์!?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สภาพรถเฟอรารีสีแดงที่อัดก๊อบปี้อยู่กับเสาไฟ ทำเอาคนที่เพิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุถึงกับเข่าอ่อน คลินต์ขับรถชนเสาไฟอย่างแรงกระทั่งมันเอียงเกือบล้ม ส่วนสภาพรถเฟอรรารีตอนนี้ไม่เหลือเค้าเดิม ฌอนพยายามตั้งสติให้มั่น รีบเข้าไปช่วยน้องชายออกมาจากรถ
?คลินต์ พี่มาแล้ว ได้ยินพี่ไหม?
ฌอนค่อยๆ จับร่างของน้องชายซึ่งฟุบอยู่บนพวงมาลัยรถออกอย่างช้าๆ เลือดที่ไหลเปรอะเต็มใบหน้า กอปรกับลมหายใจที่แผ่วเบาทำให้เขาใจไม่ดี
?คลินต์...นายได้ยินพี่ไหม พี่จะช่วยนายออกจากรถเดี๋ยวนี้?
ฌอนเอ่ยเรียกน้องชายอีกครั้ง ซึ่งอีกฝ่ายพยายามปรือตาขึ้นมอง ทว่าเห็นภาพของพี่ชายเพียงรางๆ เพราะตอนนี้เลือดแดงฉานยังคงไหลจากบาดแผลเต็มใบหน้าไปหมด
?ฌอน...?
คลินต์เอ่ยเรียกเสียงแผ่วเบา สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดขณะพยายามยกมือข้างหนึ่งขึ้น และฌอนก็รีบจับไว้ด้วยความระมัดระวัง เพราะเห็นได้ชัดว่ามือของน้องชายหักจากแรงกระแทก
?พี่อยู่นี่ คลินต์ พี่จะช่วยนายเอง?
ฌอนเอ่ยบอกพร้อมกับค่อยๆ เช็ดคราบเลือดออกจากใบหน้าให้น้องชาย อาการของคลินต์ส่งสัญญาณไม่ดีจนเขามือไม้สั่นไปหมด
คลินต์ส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ เอ่ยบอกเสียงขาดห้วง
?ขา...ขาของผมติดอยู่ในรถ ผมออกไปไม่ได้?
?คลินต์ นายต้องสู้ รอไม่กี่นาทีหน่วยกู้ภัยก็จะมาถึงแล้ว พวกเขาจะช่วยนายออกมาจากรถ...คลินต์!?
ในตอนท้ายฌอนต้องตะโกนร้องเสียงดัง เมื่อคลินต์กระอักเลือดออกมาเต็มปาก ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่ว แถมลมหายใจก็ยิ่งแผ่วเบาลงทุกขณะ ทำเอาเขาถึงกับสบถออกมาด้วยความหวาดกลัว
?บ้าชะมัด! เมื่อไรรถกู้ภัยจะมาถึงสักที?
?ฌอน...?
น้ำเสียงที่เอ่ยเรียกนั้นแสนแผ่วเบาแทบไม่หลุดจากริมฝีปาก ทว่า...ฌอนยังคงได้ยิน ชายหนุ่มเอื้อมมืออีกข้างเช็ดคราบเลือดออกจากริมฝีปากให้น้องชาย และยังคงเอ่ยปลอบให้กำลังใจตลอดเวลา
?นายจะไม่เป็นอะไรนะคลินต์ นายต้องสู้เพื่อพี่?
?ผม...ผมไม่ไหวแล้ว...?
?คลินต์ นายต้องสู้ นายจะยอมแพ้มันไม่ได้?
ฌอนตะโกนสั่งหลังจากได้ยินคำพูดของน้องชาย ยิ่งเห็นอาการของคลินต์ทั้งกระอักเลือด ทั้งตัวสั่นกับฟางเส้นสุดท้ายที่กำลังจะขาดผึงลงก็ยิ่งใจเสีย เอ่ยสั่งน้องชายไปด้วยความลืมตัว
?ได้โปรด...คลินต์ นายต้องอยู่กับพี่?
?ฌอน...สัญญา...สัญญากับผม...ว่าจะพาชีวาพร และ...และลูก...มาไหว้หลุมศพของผม...?
?ไม่! พี่ไม่สัญญา นายต้องไปหาชีวาพรและลูกของนายเอง?
ฌอนตวาดลั่น ขบกรามเข้าหากันแน่น ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที เมื่อรู้ว่าตนเองกำลังจะสูญเสียน้องชาย
?ฌอน...ได้โปรด...ทำเพื่อผม...?
ดวงตาของคลินต์ค่อยๆ ปิดลง เขามีลมหายใจอยู่เพียงเล็กน้อย เพียงเพื่อรอฟังคำสัญญาจากพี่ชายเท่านั้น
ฌอนรับรู้ว่าเวลาของคลินต์เหลือน้อยเต็มทีจึงบีบมือของอีกฝ่ายไว้แน่น ขณะเอ่ยคำสัญญาเสียงติดสั่นเครือ
?พี่สัญญา...พี่จะทำเพื่อนาย จะพาลูกและชีวาพรมาไหว้หลุมศพของนายให้ได้?
?ขะ...ขอบคุณ...ผมรักพี่ ฌอน...?
?คลินต์!!!?
ฌอนตะโกนเรียกน้องชายเสียงดังลั่นพร้อมกับกู่คำรามออกมาไม่ต่างจากสัตว์ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นน้องชายสิ้นลมไปต่อหน้าต่อตา
?คลินต์!!! บ้าชะมัด ทำไมนายต้องทิ้งพี่ไป?
ฌอนชกเข้าไปที่ตัวรถเต็มแรงโดยไม่สนใจอาการเจ็บแปลบที่มือกับการกระทำเช่นนั้น เขาเสียใจเกินกว่าจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดใดๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตน ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำจากการกล้ำกลืนหยาดน้ำตาของลูกผู้ชายไว้
?คลินต์...?
ฌอนเรียกเสียงแผ่วเบาด้วยความเสียใจ ยังคงจ้องมองใบหน้าอันเต็มด้วยเลือด มือใหญ่ทั้งสองกุมมือของน้องชายไว้แน่น กระทั่งคนรับใช้เข้ามาเอ่ยบอกเสียงแผ่วเบาด้วยความเสียใจไม่แพ้กัน
?เจ้านายครับ รถกู้ภัยมาถึงแล้วครับ?
ฌอนพยักหน้ารับ ค่อยๆ ขยับกายออกมาจากตัวรถที่พังเละ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยนำร่างของคลินต์ออกมาจากซากรถ และตลอดเวลาที่จ้องมองเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังใช้เครื่องมือตัดประตูรถก็ขบกรามเพื่อข่มความเสียใจไว้ เพิ่งสังเกตเห็นว่าคลินต์ขับรถชนเสาไฟฟ้าอย่างแรงกระทั่งมันเอียงแทบจะล้มเลยทีเดียว
ต้องใช้เวลาในการตัดซากรถอยู่นานหลายสิบนาที กว่าจะสามารถตัดประตูรถออกได้ ฌอนรีบเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย และขอเป็นคนอุ้มร่างอันไร้วิญญาณของคลินต์ออกมาจากซากรถ พอวางร่างของน้องชายลงบนเปล ฌอนก็เอื้อมมือไปปิดเปลือกตาพร้อมกับก้มลงกระซิบชิดใบหูของคลินต์ว่า
?คลินต์ พี่สัญญาว่าจะพาลูกและชีวาพรมาหานายให้ได้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรพี่ก็ยอม เพื่อทำตามความต้องการของนายให้จงได้?





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คลินต์ เจย์ฟอร์ตเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวฝาแฝดของเธอเสียชีวิตหลังคลอดลูก แม่เลี้ยงจิราพัชร เจ้าของฟาร์มม้าจึงโกรธเกลียดคนในตระกูลเจย์ฟอร์ตทุกคนและเลี้ยงหลานเพียงลำพังจนกระทั่งวันหนึ่ง ฌอน เจย์ฟอร์ต พี่ชายของคนเลวนั่นก็มาตามหาน้องสาวของเธอและเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเธอ มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อคนนี้ต้องการที่จะไถ่โทษแทนน้องชาย หญิงสาวจึงกลั่นแกล้งให้เขาไปเป็นคนงานในฟาร์มคอยล้างคอกม้า ทว่าแม้จะถูกใช้งานสารพัดเขากลับอดทนและคอยอยู่เคียงข้างเสมอจนหัวใจหญิงแกร่งมีอันต้องสั่นคลอนยามถูกสายตาเร่าร้อนนั้นจ้องมองมา

?อย่า...คุณฌอน...?
?ได้โปรด...อย่าห้าม...?
หญิงสาวไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขากำลังทำให้เธอมีความสุขหฤหรรษ์ด้วยริมฝีปากและลิ้นร้อนๆ ของเขา


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”