New Release : GOSICKs II ตอนพิเศษ รถไฟที่แล่นจากไปในฤดูร้อน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : GOSICKs II ตอนพิเศษ รถไฟที่แล่นจากไปในฤดูร้อน

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ


ดูเหมือนว่าในช่วงหลายร้อยปีมานี้ มันจะเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด....
ในปีนี้เองฤดูร้อนก็ค่อยๆ มาเยือนพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลของโรงเรียนเซนต์มาร์เกอริต ซึ่งเป็นโรงเรียนของบุตรหลานตระกูลขุนนางอันเป็นความภาคภูมิใจของราชอาณาจักรเซาวิลล์อีกเช่นเคย
ฤดูร้อนในทวีปยุโรปที่ถูกแสงแดดสีขาวสาดส่อง
สนามหญ้าสีเขียวขจี น้ำพุไหลเอื่อยๆ ดูราวกับเสาน้ำแข็งกำลังละลาย ดอกไม้ในแปลงเวลานี้ต่างผลิบานสะพรั่ง
ไม่ว่าจะเป็นอาคารเรียนขนาดมหึมารูปตัวยูของโรงเรียนที่เข้าสู่ช่วงปิดภาคฤดูร้อน หรือหอพักที่สร้างขึ้นมาอย่างหรูหรางดงามต่างก็ไม่มีนักเรียนให้เห็นเลย แต่ละคนล้วนแล้วแต่สยายปีก....ใช้เวลาในช่วงฤดูร้อนให้เหมาะสมกับการเป็นคนตระกูลขุนนาง

วันแรกของการปิดภาคฤดูร้อน
แสงแดดเจิดจ้าสาดส่องเข้ามาในโรงเรียนที่ไร้วี่แววผู้คน
กระรอกวิ่งออกมาจากป่าแล้วปีนขึ้นไปบนศาลาพักผ่อน
แล้วก็....
ในหอสมุดใหญ่เซนต์มาร์เกอริต ซึ่งเป็นอาคารหินที่ดูเคร่งขรึมตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของพื้นที่โรงเรียน ยังคงมีเด็กผู้หญิงที่น่าพิศวงคนหนึ่งนั่งอยู่ในนั้นดังเช่นที่ผ่านมา
ร่างกายของเธอถูกห่อหุ้มด้วยชุดเดรสสวยงามหรูหราเต็มไปด้วยลูกไม้และจีบระบาย มือข้างหนึ่งถือหนังสือเอาไว้แล้วพองแก้มอย่างไม่สบอารมณ์อะไรบางอย่าง แก้มสีกุหลาบนั่น ดวงตาสีเขียวเข้มราวกับฝังอัญมณีเอาไว้ ผมสีทองยาวเหมือนมัดเส้นไหมที่หลุดลุ่ยทิ้งตัวลงมา
สาวน้อย....วิคตอริก้า เดอ บลัว น่าจะ....ถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตช่วงฤดูร้อนอันยาวนานอยู่ในโรงเรียนอันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ซึ่งไม่มีใครอยู่
นั่นเป็นเพราะว่าเด็กสาวไม่รู้จักวิธีการรั้งเด็กหนุ่ม ไม่รู้จักแม้แต่คำพูดเดียวที่จะบอกว่าอยากให้อยู่ข้างๆ ดังนั้นเธอจึงน่าจะอยู่รับฤดูร้อนคนเดียวเพียงลำพัง
ขณะนั้นเป็นปี ค.ศ.1924....
ราชอาณาจักรเซาวิลล์เป็นประเทศเล็กๆ ในยุโรปตะวันตกซึ่งมีชายแดนติดกับฝรั่งเศส อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ อาณาเขตของประเทศเป็นรูปทรงเรียวยาว หากให้เมืองท่าที่หันสู่อ่าวลียงเป็นประตูบ้านแล้ว ตีนเขาของเทือกเขาแอลป์ซึ่งเป็นชายแดนติดกับสวิตเซอร์แลนด์ก็เรียกได้ว่าเป็นห้องใต้หลังคาแห่งความลับ สำหรับ ?ยักษ์น้อยแห่งยุโรปตะวันตก? ที่ถึงแม้จะเป็นประเทศขนาดเล็กแต่กลับมีอำนาจแข็งแกร่ง บริเวณตีนเขาแห่งนั้นมีโรงเรียนอันลึกลับตั้งอยู่อย่างเงียบๆ ฤดูร้อนแสนสงบและร้อนจัดได้มาเยือนโรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาเจ็ดร้อยกว่าปีแล้ว
เช้าวันแรกของช่วงปิดภาคฤดูร้อน

เด็กหนุ่มยังคงออกจากหอ แล้ววิ่งไปบนสนามหญ้าของสวนที่เขียวขจี
เพื่อไปพบกับเด็กสาวผมสีทองคนนั้น

?แย่แล้ว วิคตอริก้า....! ต้องไปหาวิคตอริก้า!??

ดังนั้นฤดูร้อนแสนยาวนานของทั้งสองคนที่ได้อยู่กันตามลำพังจึงเริ่มต้นขึ้น




บทที่ 1 ปริศนาตัวล่อ

เช้าของฤดูร้อนซึ่งเจิดจ้าไปด้วยแสงแดดสาดส่อง
โรงเรียนเซนต์มาร์เกอริต....

อาคารเรียนขนาดใหญ่รูปตัวยูซึ่งเคยมีนักเรียนในชุดเครื่องแบบเรียงรายกันอยู่ในห้องเรียนทุกห้อง บรรดาครูอาจารย์เดินสวนกันขวักไขว่ไปมาตรงทางเดินในอาคารจนกระทั่งถึงเมื่อวาน.... ในเช้านี้ไม่ว่าจะเป็นทางเดินในอาคารซึ่งมีเพดานสูงและเต็มไปด้วยคาน หรือห้องบรรยายที่มีสเตนกลาสสีเจิดจ้า ทุกที่ล้วนแล้วแต่ไร้วี่แววผู้คน มีเพียงร่องรอยของความวุ่นวายที่ผ่านมาจนถึงเมื่อวานหลงเหลืออยู่ในความเงียบสงัดเท่านั้น
เช้าวันแรกของช่วงปิดภาคฤดูร้อน....
เหล่านักเรียนที่หายไปจากอาคารเรียนนั้น แต่ละคนต่างสวมรองเท้าบูทและเสื้อเชิ้ตหรูหราสวยงาม แต่งกายด้วยชุดเดรสจนดูเป็นผู้ใหญ่ และเมื่อถึงเวลาก็วิ่งกระโจนออกมาจากหอพักพร้อมๆ กัน ใบหน้าของทุกคนล้วนคิดถึงช่วงปิดภาคฤดูร้อนที่ยาวนานถึงสองเดือนซึ่งกำลังจะเริ่มขึ้นต่อจากนี้ และฉายแววยินดีกับคาดหวังออกมา
แสงแดดของฤดูร้อนจากท้องฟ้าสีครามอันสูงลิบฉายลงมายังทุกพื้นที่ แสงสว่างส่องน้ำพุที่ไหลล้นลงมาจนเกิดประกายระยิบระยับ พวกนักเรียนลากกระเป๋าเดินทางท่าทางหนักอึ้งไปในโรงเรียนเพื่อไปให้ถึงประตูหน้าโรงเรียนเซนต์มาร์เกอริตก่อนคนอื่น แต่ละคนพูดโอ้อวดเกี่ยวกับแผนการในช่วงปิดภาคฤดูร้อนกันรัวๆ
เหล่าบุตรหลานตระกูลขุนนางทุกคนต่างก็จะไปเจอกับครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างหรูหรากันในช่วงวันหยุด แล้วไม่กี่นาทีหลังจากนั้นนักเรียนเหล่านี้ก็กรูกันเข้าไปในสถานีรถไฟเล็กๆ ซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียวในหมู่บ้านเพื่อขึ้นรถไฟ
ห่างไกลจากความวุ่นวายและเสียงพูดจอแจอย่างสนุกสนาน เด็กหนุ่มกำลังนั่งเงียบๆ อยู่ในห้องของตนเองที่หอพัก
คุโจ คาซึยะ
เขากางตำราเรียนและสมุดบนโต๊ะที่ทำจากไม้มะฮอกกานีในห้องของตนมาตั้งแต่เมื่อสักครู่นี้ แล้วตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือเรียนดังเช่นทุกครั้ง
(ปิดภาคฤดูร้อนงั้นเหรอ.... ถ้ามีแผนได้ออกไปที่ไหนสักแห่งบ้างก็ดีสินะ แต่ถ้าจะกลับประเทศก็ใช้ทั้งเวลาทั้งค่าเดินทางมากเกินไป เลยทำได้แค่อยู่ในโรงเรียนเท่านั้น....ตั้งสองเดือนเต็มๆ เลยงั้นเหรอ นานจังแฮะ)
ตอนที่ถอนหายใจออกมาดัง....เฮ้อโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง ก็มีเสียงอะไรบางอย่างกระทบหน้าต่างแบบฝรั่งเศสของห้องดังตุ้บ คาซึยะเงยหน้าขึ้นแล้วเอียงคอด้วยความสงสัยว่ามันคืออะไรกัน เสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กระแทกแรงกว่าเดิมนิดหน่อย
....ก้อนหินนี่
คาซึยะเปิดหน้าต่างก่อนจะมองออกไปด้านนอก
มีเด็กสาวกำลังเงยหน้ามองห้องคาซึยะซึ่งอยู่ชั้นสอง เมื่อคาซึยะโผล่หน้าออกไป หน้าตาเธอก็สดใสอย่างดีใจ
เด็กสาวผมสั้นสีทอง ตาดวงโตสีฟ้ากลอกไปมาด้วยท่าทางสนุกสนาน กำลังนั่งอยู่บนกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ข้างๆ ปล่อยแขนขาเรียวยาวที่ดูเก้งก้างอย่างสบายๆ
....อาวริล แบรดลีย์นั่นเอง นักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาจากประเทศอังกฤษเมื่อหลายเดือนก่อนซึ่งสนิทกับคาซึยะเพราะผ่านคดีหลายๆ คดีมาด้วยกัน เธอโบกมือมาทางคาซึยะด้วยท่าทางสดชื่น
?คุโจคุง มีกำหนดการช่วงปิดภาคฤดูร้อนยังไงบ้าง??
?....มะ ไม่มีหรอก??
?ไปทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับฉันมั้ย??
คาซึยะทำหน้าเหลอหลา เอียงคอด้วยความสงสัย
?ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ว่านั่น คือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั่นเหรอ??
อาวริลพยักหน้ารับอย่างสดชื่น เธอหยีตาเพราะแสงจ้าแล้วใช้ฝ่ามือป้องแดดพร้อมกับเงยหน้ามาทางนี้
?อื้ม! คือว่านะ คุณย่าของฉันน่ะ....เลดี้ของเซอร์แบรดลีย์ที่เป็นนักผจญภัยไง....มีบ้านพักตากอากาศที่ถึงจะเล็กแต่อยู่สบายๆ ตรงสถานที่พักผ่อนช่วงฤดูร้อนของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนน่ะ ฉันน่ะ ก่อนกลับไปบ้านที่อังกฤษจะไปพักผ่อนที่ทะเลกับคุณย่าหนึ่งเดือนไง แล้วคุณย่าบอกว่าพาเพื่อนไปด้วยก็ได้ แต่ขอให้เป็นเด็กมารยาทดี ก็เลย....?
?ฉันเหรอ??
?พูดถึงเรื่องมารยาทดีก็ต้องเป็นคุโจคุง ก็เลย คือว่า....?
จู่ๆ อาวริลก็หน้าแดง และมีท่าทางกระสับกระส่ายเล็กน้อย
หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองคาซึยะพลางขมวดคิ้วอย่างกังวลใจ
?ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนงั้นเหรอ....?
คาซึยะมองเหม่อไปไกลๆ แล้วครุ่นคิดโดยไม่รู้ตัว
แสงแดดสีเหลือง ทรายสีขาว เหล่าผู้คนที่อาบแดดสบายๆ มื้ออาหารซึ่งเต็มไปด้วยปลาและหอยสดใหม่
แล้วก็ทะเลฤดูร้อนสีฟ้าที่ทอดไกลสุดลูกหูลูกตา....
ใบหน้าของคาซึยะเป็นประกายเจิดจ้า
?ขอบใจนะ อาวริล ฉันไปด้วยนะ!?
?จริงเหรอ!??
อาวริลเองก็ยิ้มแป้นด้วยท่าทางดีใจ เธอโบกมือทั้งสองข้างไปมาแล้วกระโดดเหยงๆ ด้วยขาเรียวยาว
?เอาล่ะ เดี๋ยวจะไปขึ้นรถไฟขบวนบ่าย เพราะงั้นเก็บข้าวของให้เสร็จก่อนเที่ยงนะ แล้วจะไปคอยตรงประตูโรงเรียน!?
?อื้ม!?
คาซึยะยิ้มพลางโบกมือให้อาวริลด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องเพื่อรีบเก็บข้าวของ
ในขณะที่กำลังแบ่งประเภทสัมภาระ เช่น ตำราเรียนที่จำเป็น เสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนหลายตัว และชุดว่ายน้ำด้วยท่าทางจริงจังอยู่นั้นเอง ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดัง....ก๊อก ก๊อก คาซึยะจึงเงยหน้าขึ้น
?ไม่ได้ล็อกครับ....?
ก่อนที่จะพูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออกอย่างแรง
คุณแม่บ้านหอพักที่ผมออกโทนสีแดงกำลังยืนอยู่ คงเพราะวันนี้เป็นวันแรกของช่วงปิดภาคฤดูร้อนจึงไม่มีผ้ากันเปื้อนผูกรอบเอวเหมือนเช่นทุกครั้ง เธอสวมชุดวันพีซสีแดงเข้ารูปจนเห็นทรวดทรงองค์เอวดูเข้ากันกับสีผม
ในขณะที่คาซึยะหน้าแดงและกำลังจะถามออกไปว่ามีอะไรเหรอครับนั้นเอง
คุณแม่บ้านกลับเอาแต่หันไปมองรอบๆ ห้องของคาซึยะโดยไม่มีทีท่าว่าจะพูดอะไรออกลย
?คือว่า คุณแม่บ้านครับ.... กรุณาหยุดหาเสื้อผ้าหรือของใช้จุกจิกแบบตะวันออกในห้องผมเสียทีเถอะครับ?
?แหะๆ ก็เสื้อผ้ากับของใช้จุกจิกที่หยิบไปโดยพลการจากห้องนี้มีแต่คนชมนี่นา?
?หยิบไปโดยพลการ....? ถ้าจากมุมมองของผมแล้ว คำว่าฉกไปน่าจะใกล้เคียงกว่า.... คือว่า แล้วมีอะไรเหรอครับ?
คุณแม่บ้านที่ตรงเข้ามาใกล้ข้าวของซึ่งวางกองอยู่บนเตียงแล้วถือวิสาสะมองหาของได้สติกลับมาด้วยเสียงพูดของคาซึยะ
?คือว่า ก็มีธุระอะไรบางอย่างน่ะ?
?หา....?
?ลืมไปแล้วแฮะ.... อ๊ะ นึกออกแล้ว! จดหมาย!?
คุณแม่บ้านล้วงมือเข้าไปตรงร่องอกแบบลวกๆ แล้วค้นหาอะไรบางอย่าง ?เอ๋ ไม่ใช่ตรงนี้? เธอพึมพำแล้วหาในกระเป๋าเสื้อตรงอกและเอว จากนั้นพูดส่งท้ายว่า ?ไม่ได้เอามา!? ก่อนจะออกจากห้องไป จนกระทั่งคาซึยะจัดข้าวของเกือบเสร็จและลืมเรื่องคุณแม่บ้านไปแล้ว เธอก็กลับเข้ามาอีกครั้ง
?เอ้า นี่!?
สิ่งที่ถูกยื่นมาให้คือจดหมาย เป็นจดหมายจากครอบครัวที่ส่งมาจากประเทศของคาซึยะ
?ตอนไปที่ไปรษณีย์ พอดีมีจดหมายส่งถึงคุโจคุงเลยรับฝากมา เอ้า เอามาให้แล้วนะ?
?ขะ ขอบคุณครับ...?
?ช่างมันเหอะ?
คุณแม่บ้านตอบกลับโดยใช้คำแปลกๆ และโบกมือ ก่อนจะออกจากห้องแล้วปิดประตู
คาซึยะที่จัดข้าวของเสร็จแล้วมองดูนาฬิกาแขวนผนัง ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะก่อนจะถึงเที่ยง
จึงดูชื่อผู้ส่งจดหมายที่ส่งมาถึงเขา
?....อ๊ะ!??
คิ้วของคาซึยะกระตุก
จากนั้นก็รีบกระโจนออกจากห้องในหอพักโดยทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้อย่างนั้น
?แย่แล้ว! วิ วิคตอริก้า....! ต้องไปหาวิคตอริก้า!??




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สาวน้อยในชุดเดรสสีขาวรอคอยอยู่บนพรมสีเขียว แม้กลิ่นหญ้าจะอบอวลแต่จิตใจก็ผ่อนคลาย เพราะจะได้พบกัน และมีเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่ตรงนี้ ใช่แล้ว สาวน้อยซึ่งดูราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ....วิคตอริก้า ในวันนี้เธอก็กำลังรอเขามา คอยให้เด็กหนุ่ม คุโจ คาซึยะ มาหา สีเขียวของพืชพรรณแตกหน่อ สีฟ้าใสของน้ำที่ล้นมาจากน้ำพุ และสีแดงของพระอาทิตย์ซึ่งสาดส่องสิ่งเหล่านั้น ฤดูร้อน....ฤดูกาลที่สีสันต่างๆ ทวีความเจิดจ้า โอบล้อมด้วยแสง และสิ่งมีชีวิตพยายามดำรงชีวิต ความสงบสุขช่วงเวลาสั้นๆ....ชั่วพริบตา ก่อนการล่มสลายและการพลัดพรากจะมาเยือนในไม่ช้า คาซึยะและวิคตอริก้าใช้เวลาด้วยกันในโรงเรียนที่มีกันเพียงสองคน พูดคุยเรื่องราวของโลก ได้เข้าใจปริศนา....หัวใจที่อยู่อีกฟากหนึ่งของคาออส แล้วก็ได้คิดถึงกันและกัน
เรื่องราวของการแอบนัดพบกันซ้ำไปซ้ำมาในช่วงฤดูร้อนหนึ่ง นิยายรวมเรื่องสั้น GOSICK Mystery


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”