New Release : FULL METAL PANIC! ANOTHER VOL.8

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : FULL METAL PANIC! ANOTHER VOL.8

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ

บทเพลง ?อาโอเงบะ โทวโตชิ? ดังก้องไปทั่วลานกว้างของโรงเรียนในเดือนมีนาคม
วันนี้ที่โรงเรียน ม.ปลาย จินได มีการจัดพิธีจบการศึกษาประจำปีเฮย์เซย์ที่ 23 (ปี 2011)
ตัวงานจบลงไปแล้ว แต่เสียงเพลงจากลำโพงยังคงดังและชวนให้รู้สึกเศร้าอยู่อย่างต่อเนื่อง พวกนักเรียนที่จบการศึกษากว่าครึ่งยังคงอยู่ในโรงเรียน
พวกเด็กผู้ชายมองดูอาคารเรียนที่ตนเรียนผ่านมากว่าสามปีด้วยใบหน้าที่ดูเศร้า พวกเด็กผู้หญิงพากันกอดคอร้องไห้ ทว่าในนั้นก็ยังมีพวกไม่สนโลก ยืดตัวบิดขี้เกียจด้วยใบหน้าสดใสราวกับรู้สึกโล่งใจ
อิจิโนเสะ ยูคาริมองไปยังมุมหนึ่งของลานกว้างซึ่งมีนักเรียนกลุ่มนี้อยู่ ก่อนก้มหน้าด้วยอาการที่เหมือนกับคับข้องใจ
?....พี่?
เสียงเล็กๆ ดังลอดออกมา
ทั้งที่ในความเป็นจริง ในคนกลุ่มนั้นควรจะมีทัตสึยะ พี่ชายของเธออยู่ด้วย
?หนาว....?
ลมจากทางเหนือยังคงหนาวอยู่ ทำให้ไหล่ที่อยู่ใต้ชุดเครื่องแบบบางๆ ของเธอสั่นเล็กน้อย ทันใดนั้นเธอก็แหงนหน้าขึ้นมองดูต้นซากุระในสวนที่ไหวไปกับลม
ดอกของต้นซากุระยังไม่บาน แต่เริ่มมีสีแดงเรื่อให้เห็นบ้างแล้ว อีกไม่นานก็จะถึงฤดูดอกไม้ แม้จะสัมผัสได้ถึงลมหายใจของฤดูใบไม้ผลิ แต่ในใจของยูคาริกลับไม่รู้สึกตื่นเต้นเลย
(สุดท้ายก็ไม่กลับมา)
เธอไม่ได้เจอทัตสึยะผู้เป็นพี่มากว่าสองเดือนแล้ว ช่วงวันขึ้นปีใหม่ ผู้เป็นพี่ออกเดินทางตามคำชวนของอเดลีน่าซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน อีกทั้งในตอนที่ออกจากบ้านก็เป็นเวลาเช้าตรู่ ทำให้ยูคาริไม่มีโอกาสแม้แต่จะล่ำลา
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย ไม่ว่าจะส่งเมลไปหรือโทรไปกี่ครั้งก็ไม่มีคำตอบ สิ่งที่ยืนยันว่าทัตสึยะปลอดภัยมีเพียงเงินสดจำนวนมากที่ถูกโอนเข้ามายังบัญชีของทางบ้าน
ทันใดนั้นดวงตาที่เหม่อลอยก็มองไปทางประตูทางเข้าโรงเรียน
?ยูคาริจัง?
ยูคาริหันไปทางต้นเสียงที่คุ้นเคย เธอไม่ลืมที่จะปั้นรอยยิ้มบนใบหน้า
?คุณคาเอเดะ รุ่นพี่ทาเคมุระก็มาด้วย?
ที่อยู่ตรงหน้าคือผู้ที่จบการศึกษาสองคน เป็นนักเรียนหญิงใส่แว่นที่ร่าเริงแจ่มใส กับนักเรียนชายตัวใหญ่และดูใจดี
มากิชิมะ คาเอเดะกับทาเคมุระ เคนจิ ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทของทัตสึยะและเป็นรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลือยูคาริในหลายเรื่อง
?ยินดีด้วยนะคะ?
?ขอบใจจ้ะ?
คาเอเดะชูกระบอกประกาศนียบัตรขึ้นพร้อมกับขยิบตาให้กับยูคาริ ในตอนนั้นเองเคนจิก็พูดขึ้นมาเบาๆ
?ยูคาริจัง หรือว่าเธอมารออิจิโนเสะ?
?ค่ะ แอบหวังอยู่หน่อยๆ ก็เลยมารอ?
ยูคาริพยักหน้ารับด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
?คิดว่าบางทีถ้าเป็นพิธีจบการศึกษาพี่อาจจะกลับมา?
?ฉันขอโทษที่ถามเรื่องไม่เป็นเรื่อง?
?ใช่เลย เคนจังน่าจะคิดให้รอบคอบกว่านี้นะ?
คาเอเดะใช้ศอกกระทุ้งที่สีข้างของเคนจิเหมือนเป็นการลงโทษ แต่แล้วยูคาริก็ส่ายหน้าปฏิเสธทั้งคู่
?ไม่หรอกค่ะ หนูเองก็คิดอยู่ว่าคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปหรือเปล่า?
?ก็ไม่แน่นะ?
ยูคาริตาโตด้วยความงุนงงกับเสียงใครบางคนที่ดังแทรกขึ้นมา
?อาจารย์โอโนะ D?
?ก็บอกว่าอย่าเรียกฉันว่าโอโนะ D.... นี่ก็ตั้งปีแล้วนะ ยังเรียกแบบเดิมอีก ให้ตายสิ?
โอโนเดระ โคทาโร่เป็นครูประจำชั้นปี 3 ห้อง 3 ของพวกทัตสึยะและคาเอเดะ นอกจากนี้เขายังเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนนี้ด้วย
?ยังไงซะนี่ก็วันพิเศษ ไม่แน่คนที่หายหน้าไปนานอย่างหมอนั่นอาจจะโผล่มาก็ได้?
?....??
โอโนเดระเหม่อมองด้วยแววตาที่สงบ จนกระทั่งเห็นท่าทีของทั้งสามแปลกไปเขาจึงกระแอมออกมา
?โอ๊ะ ลืมเรื่องสำคัญไปเลย เอ้านี่ คุณน้องอิจิโนเสะ?
?อะ ค่ะ?
?ฝากนี่ด้วย?
ที่ยื่นออกมาคือกระบอกประกาศนียบัตรแบบเดียวกับของพวกคาเอเดะและเคนจิ
?หรือว่า นี่จะเป็น?
?อื้อ ประกาศนียบัตรจบการศึกษาของพี่เธอน่ะ?
?........?
ยูคาริพูดไม่ออกไปพักใหญ่
เธอมองลงดูกระบอกที่อยู่ในมือ ก่อนจะเงยหน้ามองโอโนเดระอีกครั้ง โอโนเดระใช้มือตบลงที่ไหล่ของเธอเบาๆ
?เอางี้ละกัน ถ้าเจ้าบ้านั่นกลับมา เอาไอ้นี่ฟาดให้เต็มแรง ไม่ต้องเกรงใจเลยละกัน?
โอโนเดระพูดด้วยคำพูดที่ดูขัดกับบทบาทการเป็นครูพร้อมกับกำหมัดแน่น คาเอเดะก็พยักหน้าเห็นด้วยตามด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง พลางกวัดแกว่งกระบอกประกาศนียบัตรในมือไปมา
?เห็นด้วย ต้องจัดการ ฉันเองก็จะเอาด้วยคน ฟาดหัวทักคุงสักป๊า....?
?ทำแบบนี้ไม่ได้นะคุณคาเอเดะ ถ้าจะฟาดก็ต้องเอากระแทกตามแนวดิ่ง ใช้ด้านที่แข็งให้เป็นประโยชน์?
ในระหว่างที่ทั้งสามหารือเรื่องอันตรายอยู่นั่นเอง น้ำตาที่กลั้นไว้เมื่อสักครู่ของยูคาริก็เอ่อทะลักออกมา
?ยูคาริจัง?
?ขอโทษที คุณน้องอิจิโนเสะ พอดีอารมณ์มันพาไป?
?เอ่อ คือ พวกพี่พูดเล่นน่ะ....?
ยูคาริรีบเช็ดน้ำตาที่ขอบตาทั้งสองข้าง
?มะ ไม่หรอกค่ะ หนูเข้าใจดี?
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าเธอ แม้ว่าจะไม่ใช่รอยยิ้มกว้างก็ตาม
....พี่
ยูคาริพึมพำในใจพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
....ที่นี่ยังมีคนที่รอการกลับมาของพี่อยู่นะ
ภาพประกอบหน้า 11



ตอนที่ 1 ก่อนพายุ

1

ณ ทุ่งรกร้างแห้ง เสียงเครื่องยนต์ไอพ่นดังหยุดๆ สลับไปมาพร้อมกับเสียงเท้าเหล็กกล้าบดเหยียบก้อนกรวดจนแตกละเอียด
AS สีฟ้าเข้มตัวหนึ่งเคลื่อนผ่านฝุ่นทรายที่ถูกพัดไปมา พลาสมาถูกขับออกมาจากทรัสเตอร์ขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากเอว ตัวมันบินเลียดไปข้างหน้าขนานกับพื้น
AS-1 <เบลซ เรเวน> หมายเลขหนึ่งรุ่นปรับปรุง ในค็อกพิทของหุ่นดังกล่าวอิจิโนเสะ ทัตสึยะกำลังจ้องไปยังจอมอนิเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า
ภาพทิวทัศน์อันตระการตาและพบเห็นได้ยากตั้งแต่ดินแดง ทรายดูด ไปจนถึงเขาหินหลายต่อหลายลูก ทิวทัศน์เหล่านี้เคลื่อนผ่านไปด้านหลังด้วยความเร็วสูง และในระหว่างที่เคลื่อนด้วยความเร็วกว่า 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มุมหนึ่งของตาก็มองเห็น ?เป้าหมาย?
ที่เผยออกมาจากเนินทรายฝั่งตรงข้ามเป็นรถหุ้มเกราะที่ดูเก่าคร่ำครึ เป็นเป้าแบบเคลื่อนที่สำหรับฝึกซ้อมซึ่งถูกบังคับจากระยะไกล
อาจจะช้าไปหน่อย แต่ในที่สุดโกชซึ่งเป็น AI ของหมายเลขหนึ่งก็พูดขึ้นด้วยเสียงสังเคราะห์
<พบ T7 ทิศทาง 2 นาฬิกา ระยะ 300>
?กำลังเข้าใกล้ T7 หลังจากนี้ OTHILA4 จะเริ่มการทำการจู่โจม?
ทัตสึยะเอ่ยขึ้นเช่นนั้นเพื่อเป็นการบันทึก พร้อมกับเหยียบคันบังคับด้านขวาและกดปุ่มบนแท่งควบคุม
<เรเวน> เคลื่อนไหวตามที่ทัตสึยะต้องการ มันกระโจนตัวขึ้นจากพื้นที่เป็นก้อนกรวดพร้อมกับเปิดใช้งานทรัสเตอร์เสริมที่อยู่ตรงไหล่ขวาสั้นๆ ส่งผลให้วิถีการเคลื่อนที่เบี่ยงจากแนวตรงกลายเป็นเฉียงซ้าย
และไม่ได้เปลี่ยนครั้งเดียว เริ่มจากซ้ายไปขวา ต่อด้วยซ้าย ซ้าย ขวา....ดูแล้วชวนตาลาย แนวการเคลื่อนที่ของ <เรเวน> หลงเหลือให้เห็นเป็นแนวแสงอยู่เหนือพื้นดิน
แม้ตัวของทัตสึยะในค็อกพิทจะถูกเหวี่ยงไปมาด้วยแรง G ที่หนักหน่วง แต่เขายังจ้องไปทางเป้าหมายอย่างไม่ลดละ เนื่องจากความเร็วของทั้งสองมีความต่างมากเกินไปจึงทำให้ไม่สามารถใช้การเล็งยิงแบบอัตโนมัติได้ ทัตสึยะปรับไปใช้มาสเตอร์โหมด 3 เพื่อเล็งยิงด้วยตนเอง
เมื่อทัตสึยะขยับแขนขวาที่หุ้มอยู่ในมาสเตอร์สูท แขนขวาของ <เรเวน> ก็ขยับตาม ปืนลูกซองที่ติดตั้งอยู่ตรงปลายแขนถูกเล็งไปทางเป้าเคลื่อนที่ด้วยการคำนวณแบบ AOA
บนจอภาพ เส้นเล็งของปืนลูกซองไล่ตามรถหุ้มเกราะซึ่งเป็นเป้าซ้อมด้วยความรวดเร็ว กระทั่งเมื่อเส้นเล็งซ้อนทับกับเป้าจึงมีเสียงเตือนดังขึ้นสั้นๆ ทัตสึยะขยับมือขวาเพียงเล็กน้อยเพื่อลั่นไก
ปืนถูกยิงออกไป แต่ไม่ได้เป็นกระสุนจริงหรือกระสุนสี นั่นเพราะตัวส่งสัญญาณที่ติดตั้งอยู่บนปืนลูกซองจะปล่อยแสงเลเซอร์ออกไปหาเครื่องรับสัญญาณที่ติดตั้งอยู่บนเป้าซ้อม ข้อมูลและตัวแปรต่างๆ ที่ได้รับจะถูกคำนวณผ่านระบบเครือข่ายเพื่อตัดสินว่ายิงโดนหรือไม่โดยใช้เวลาเพียงสั้นๆ เท่านั้น
นี่คือระบบสำหรับซ้อมรบที่ D.O.M.S. พัฒนาขึ้นเองโดยมีชื่อว่าระบบมัวริสต์ เมื่อระบบให้ผลการตัดสินเป็น ?ยิงโดน เป้าหมายถูกทำลาย? รถหุ้มเกราะที่เป็นเป้าซ้อมก็หยุดการเคลื่อนที่ไปในทันที
และในตอนนั้นเองก็มีการติดต่อเข้ามาจากกองบัญชาการของฐานที่มั่น
?ยืนยัน เป้าหมายทุกตัวถูกทำลาย จบการฝึกซ้อม ยินดีด้วยครับ?
?ทราบแล้ว?
ทัตสึยะตอบรับเบอร์นาร์ด เบอร์ทรันด์ ผู้ช่วยประธานบริษัท D.O.M.S. สั้นๆ ก่อนเตรียมย่ำคันบังคับเพื่อกลับฐานที่มั่น แต่แล้วในตอนนั้นเอง....
?เฮ้อ ยังไม่หนำใจเลยค่ะ?
เสียงอ่อนใสของเด็กสาวผู้หนึ่งดังออกมาจากเครื่องรับส่งวิทยุ มุมจอปรากฏภาพวัตถุบางอย่างกระโจนออกมาจากทางด้านหลัง
?ว่าแล้วเชียว....?
ทัตสึยะไม่ได้แสดงอาการตื่นตกใจ มิหนำซ้ำยังบ่นพร้อมกับถอนหายใจ ก่อนที่เอามือจับไปแท่นควบคุม
?นึกแล้ว....?
อาไจล์ ทรัสเตอร์ที่ติดอยู่ตรงเอวทั้งสองข้างเปลี่ยนสถานะจากเริ่มต้นไปเป็นพร้อมทำงาน ช่องไอพ่นซึ่งมีลักษณะคล้ายรวงผึ้งแต่ละข้างหันไปในทิศทางตรงข้ามกัน ด้านขวาหันไปด้านหน้า ด้านซ้ายหันไปทางด้านหลัง
?ว่าเธอต้องมา....?
ทรัสเตอร์ทั้งสองข้างทำงานขึ้นในเวลาสั้นๆ ทำให้เกิดโมเมนตัมในทิศทางตรงกันข้าม ส่งผลให้ลำตัวของหมายเลขหนึ่งหมุนกลับด้วยมุมเกือบ 180 องศาในทันที
?คิคุโนะ!?
ทัตสึยะตะโกนขึ้นพร้อมกับจับหอกกางเขน <ดราก้อนฟลาย> อาวุธต่อสู้ระยะประชิดที่อยู่ในมือทั้งสองข้างขึ้นมาไขว้เพื่อรับดาบที่ฟันแสกลงมาตรงเหนือหัว
?หุหุ ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ?
AS ที่ฟันลงมาเมื่อสักครู่โดดถอยออกไปหลังจากประดาบพร้อมกับฝากรอยยิ้ม
แม้ดีไซน์ของมันจะเป็นแบบเดียวกันกับ <เรเวน> หมายเลขหนึ่งของทัตสึยะ แต่ลำตัวดูล่ำบึกกว่า แขนอวบทั้งสองข้างของมันถือคัตเตอร์โมเลกุลเดี่ยวแบบยาวซึ่งถอดแบบมาจากดาบญี่ปุ่นชี้ตรงไปหาอีกฝ่าย
แม้คมดาบจะถูกหุ้มด้วยปลอกสำหรับการฝึกซ้อม แต่ปลายดาบที่ชี้เข้าหาก็ทำให้รู้สึกเสียววาบที่หลัง
AS-1 <อีจิส เรเวน> ....ทัตสึยะมองเห็นรอยยิ้มอันตรายของซันโจว คิคุโนะ คนขับซ้อนทับกับตัวหุ่น
?อยู่ๆ ก็โจมตีจากทางด้านหลังเฉยเลย?
?เมื่อกี้เป็นแค่การทักทายค่ะ?
คิคุโนะตอบพร้อมกับบังคับให้หมายเลขสี่ชักคัตเตอร์โมเลกุลเดี่ยวอีกเล่มออกมา ตั้งอยู่ในท่าเตรียมของดาบคู่ ซึ่งเป็นสไตล์การต่อสู้แต่เดิมของคิคุโนะ
?แต่หลังจากนี้จะเอาจริงแล้วค่ะ?
?เอาจริงบ้าบออะไรของเธอ!?
เสียงของบุคคลที่สามดังขึ้น พร้อมกันนั้นหมายเลขสี่ก็เบี่ยงตัวไปทางด้านหลังเต็มที่
?ว้าย!??
?คิคุโนะ!??
แม้จะเกือบล้มแต่ก็ยันตัวไว้ได้ทันในท่าสะพานโค้ง เมื่อมองดูก็พบว่าตรงส่วนหัวมีกระสุนสีที่ใช้สำหรับฝึกซ้อมเลอะติดอยู่
หมายเลขหนึ่งหันหลังกลับไป หลังจากรับรู้ได้ถึงเสียงฝีเท้าที่ดังกึกก้องราวกับจงใจให้ได้ยิน ทัตสึยะที่นั่งอยู่ด้านในค็อกพิทถอนหายใจ จากนั้นก็ต่อสายไปยังอีกฝ่าย
?นี่ ลีน่า เตือนแรงเกินไปหน่อยมั้ย??
?นี่น่ะสมควรแล้ว?
ที่แสดงอยู่บนจอภาพคือ <เรเวน> ตัวที่สาม ซึ่งตัวนี้ลำตัวของมันเป็นสีแดง มือขวาเป็นเดโมลิชั่นกัน มือซ้ายเป็นเชนกัน ตรงไหล่สองข้างเองก็ติดตั้งอาวุธ ทำให้ภาพลักษณ์ดูน่าเกรงขาม
AS-1 หมายเลขสอง <บลาสต์ เรเวน> หุ่นของอเดลีน่า เคเรนสกาย่า เพื่อนร่วมงานที่ฝึกเสร็จไปก่อนแล้ว
ในแมกกาซีนของเดโมลิชั่นกันที่ชูขึ้นเหนือหัวบรรจุกระสุนสีสำหรับฝึกซ้อม เนื่องจากระบบมัวริสต์ไม่สามารถจำลองการโจมตีระยะไกลของปืนใหญ่วิถีโค้งได้ อย่างไรก็ดีแม้จะเป็นกระสุนสี แต่การยิงเข้าตัวโดยตรงนั้นก็เป็นเรื่องอันตราย หากยิงใส่คนตัวเปล่าๆ ก็ถึงตายได้เลย
?จู่โจมประชิดตัวในระหว่างซ้อมยิงกันเนี่ยนะ!? ตารางฝึกเขียนยังไงก็ทำตามนั้นไปสิ?
อเดลีน่าตวาดเสียงแข็งใส่ พลางชี้ดาบโมเลกุลเดี่ยวที่ติดอยู่ตรงปลายกระบอกปืนไปทางหมายเลขสี่ของคิคุโนะ
?เฮ้อ.... นานๆ จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดคุณทัตสึยะทั้งที ก็เข้ามาขัดขวางซะงั้นพวกชอบแกล้งคน?
?หมายถึงใครไม่ทราบ นี่ฟังนะ ถึงจะไม่เต็มใจนัก แต่ในเมื่อเธอเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของ D.O.M.S. ฉันก็ต้องทำให้เธอปฏิบัติตามกฎของที่นี่! เพราะงั้นงานแรกสุดก็คือ การดัดนิสัยชั่วๆ ของผู้ก่อการร้ายนั่น?
?ผู้ก่อการร้ายเลยเหรอคะ โหดร้ายกันจัง ทั้งที่ดิฉันยังไม่เคยทำร้ายอีกฝ่ายจริงๆ ในระหว่างการซ้อมเลย?
(หมายเลขสองของ) อเดลีน่าหันไปทางคิคุโนะซึ่งยิ้มแบบมีเลศนัย ก่อนหยุดนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง
?....นี่เธอรู้เรื่องนั่นได้ยังไง?
?ดิฉันได้ฟังหลายเรื่องมาจากท่านประธานน่ะค่ะ?
?ยัยคลาร่า พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง....?
(สองคนนั่นพูดเรื่องอะไรกันหว่า)
การพูดจาทะเลาะกันผ่าน AS ของเด็กสาววัยรุ่นสองคน ทัตสึยะทำท่าเบื่อหน่ายก่อนบังคับให้หมายเลขหนึ่งหันหลังให้กับความสุขที่ไม่คาดว่าจะได้รับ



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เรื่องเข้าสู่การสู้รบเพื่อตัดสิน....D.O.M.S ตั้งใหม่ที่ไล่ตามรอย ?โปรเจกต์ไกซาร์? ได้มาถึงสาธารณรัฐกัลนาสถาน ประเทศที่อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ที่นั่นทัตสึยะกับอเดลีน่าได้พบกับชายหนุ่มและหญิงสาวคนของประเทศนี้โดยบังเอิญ พวกเขาคือออร์กัน ลูกชายของประธานาธิบดีแห่งกัลนาสถาน กับเพื่อนสนิทของเขา โซลาย่า.... ทั้งคู่เป็นห่วงอนาคตของประเทศแม่ พวกทัตสึยะตกลงที่จะช่วย แต่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่โลกต้องสะเทือน อุดมคติ ความทะเยอทะยาน และความรักบนแผ่นดินอันกว้างใหญ่และเวิ้งว้างของเอเชียกลาง กับแผนการชั่วร้ายที่กำลังจะเร่งไฟสงครามในที่นี้ให้รุนแรงขึ้น
นวนิยายแอคชั่น SF แนวสงครามที่มีทั้งความรัก การพลัดพราก จากลา และความทุกข์ เข้าสู่ช่วงพรีไคลแมกซ์แล้ว!!


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”