New Release : พิศวาสไม่วาย

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : พิศวาสไม่วาย

โพสต์ โดย Gals »

พิศวาสไม่วาย โดย นภาลัย ไผ่สีทอง

บทที่ 1
เวลานั้นดึกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างรอบบริเวณโรงพยาบาลเล็กๆ ในชนบทกำลังเงียบสงัด
?คุณหมอ...คุณหมอครับ...เร็วครับ...?
เสียงเรียก...เสียงเร่งอันกระหืดกระหอบนั่นทำให้จันทิมันตุ์ จินต์วรา...ต้องวางมือจากงานบ้านที่ทำอยู่โผล่หน้าต่างออกมาทันที
?เอ้าลุงเป็ง...มีอะไรหรือ??
?ไปที่โรงพยาบาลหน่อยครับ...มีเรื่องแล้ว...?
?หือ...เรื่องอะไร!??
ดวงตากลมโตของหญิงสาวเบิกกว้างขึ้นอย่างสงสัย
?มะ...มะ...มี...คนไข้พิเศษครับ ถูกยิงมา...เลือดโซมเลยคุณหมอ เขาให้ผมมาตามตัวคุณหมอด่วน เร็วเถอะครับ?
ฟังเพียงแค่นั้นจันทิมันตุ์ก็ไม่คิดจะถามต่อ ผลุบร่างเข้าไปในบ้านตามเดิม...พร้อมกับคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนอย่างรวดเร็ว ไม่กี่อึดใจต่อมาหล่อนก็วิ่งลงมาจากบ้านพักหลังเล็กๆ ตามหลังลุงเป็งที่เดินนำหน้าไปติดๆ
แต่ทันทีที่วิ่งเข้าใกล้ห้องฉุกเฉินที่คิดว่าคนไข้จะต้องรออยู่ที่นั่น ฝีเท้าของจันทิมันตุ์ก็ต้องราลงโดยอัตโนมัติ เมื่อทอดสายตาไปเห็นร่างหลายร่างในชุดพรางทหารมอมแมมจนดูไม่ออกว่าเป็นสีอะไร...และข้อสำคัญ...มีอาวุธอยู่ครบมือ ไม่รวมสายกระสุนปืนที่คล้องเป็นรูปกากบาทเอาไว้ทั้งสองบ่าทุกคน...ทำเอาหญิงสาวต้องหยุดกึกลงในที่สุด เป็นเหตุให้ลุงเป็งหันมามอง
?เข้ามาเถอะครับคุณหมอ...เขาควบคุมพยาบาลของเราเอาไว้ข้างในเป็นตัวประกัน?
ได้ยินเพียงเท่านั้นจันทิมันตุ์ก็พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร...และถึงแม้จะไม่เต็มใจอย่างไร เวลานี้หล่อนก็คงจะปฏิเสธหรือเดินหนีไม่ได้อย่างแน่นอน
ร่างบางเดินผ่านคนเหล่านั้นซึ่งต่างก็ยืนสงบนิ่ง...ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จนโผล่เข้าไปในห้องพยาบาลก็ต้องชะงักอีกเป็นครั้งที่สอง เพราะในห้องนั้นเวลานี้มีบุคคลที่แต่งตัวแบบเดียวกันอยู่อีกสี่ห้าคนเต็มห้องไปหมด...ส่วนพยาบาลผู้ร่วมงานอีกสองคนถูกกักให้นั่งอยู่มุมหนึ่งของห้อง...ไม่มีใครกล้ากระดุกกระดิกไปไหน
ทุกคนหันมามองหล่อนเป็นตาเดียวเมื่อเห็นหญิงสาว...และต่างก็รอจนหล่อนขยับตัวไปยังเตียงคนไข้ ซึ่งบัดนี้มีร่างร่างหนึ่งนอนยืดยาวอยู่...
ดวงตาใต้คิ้วดกยาวเป็นปื้นนั้นลืมขึ้นทันทีที่หล่อนก้าวเข้าไปใกล้ และแฝงไว้ด้วยความหวาดระแวงระแวดระวังอยู่พร้อมมูล...
หญิงสาวมองตาคู่นั้นอยู่ชั่วครู่ก็เลื่อนลงไปมองที่แผล ซึ่งบัดนี้เลือดหยุดไหลแล้ว...ด้วยการห้ามเลือดของพยาบาล และรอการดำเนินการต่อของหมออยู่
ขณะที่จันทิมันตุ์มองดูคนป่วยอยู่นั้น ใครคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาใกล้แล้วบอกหล่อนว่า...
?ผ่าตัดให้เขาทีหมอ แล้วเราจะไปโดยไม่แตะต้องอะไรทั้งสิ้น...?
ภาษาที่พูดนั้นเป็นภาษาไทยชัดเจน...ผิดจากชาวบ้านส่วนใหญ่ที่พูดไทยแทบไม่รู้เรื่องรอบบริเวณนี้
หญิงสาวเหลือบตามองใบหน้าดำเกรียมเป็นมัน เต็มไปด้วยหนวดเคราของผู้พูดอยู่ชั่วอึดใจ...ก่อนจะตอบออกไปว่า...
?พวกคุณออกไปคอยข้างนอกก่อนแล้วกัน...ปล่อยให้เราจัดการเอง?
คนคนนั้นฟังและมองตาหญิงสาวอยู่ชั่วขณะก่อนจะหันไปสั่งพรรคพวกด้วยภาษาที่จันทิมันตุ์ฟังไม่รู้เรื่องเลยสักคำตามเคย แต่การเคลื่อนไหวของทุกคนในเวลาต่อมาก็ทำให้หญิงสาวทราบว่าการขอของตนถูกปฏิบัติตามแต่โดยดี
หล่อนจึงก้มมองคนป่วยอีกครั้ง และยื่นมือไปสำรวจแผลที่เปิดอยู่...หากมือบางยังไม่ทันได้แตะต้องอะไร...มือใหญ่สากสีคล้ำก็ยื่นมาคว้าข้อมือของหล่อนไว้ก่อนอย่างรวดเร็ว
ปฏิกิริยาอันนั้นทำเอาหญิงสาวแทบสะดุ้ง...ใจเต้นโครมครามขึ้นมาทันทีตามสัญชาตญาณของมนุษย์...ดวงตาเหลือบขึ้นจ้องมองดวงตาของอีกฝ่ายอย่างตกใจ
ขณะนั้น...ทุกคนในห้องที่เห็นก็พากันตกใจไปตามๆ กันเช่นกัน...
หากคนป่วยที่ใครๆ คิดว่าหมดฤทธิ์แล้วนั้นกลับมองดูหน้าเรียวใสนั้นเขม็ง มองดูหล่อนราวกับจะพิจารณาจดจำไว้ทุกกระเบียดนิ้ว...ก่อนจะค่อยๆ ลดสายตาลงมองมือบางในอุ้งมือของตน
?ผมขอเตือนนะหมอ...อย่าเล่นตลก...อย่าส่งข่าวให้ใครรู้ทั้งนั้นว่าพวกเรามาที่นี่ ไม่งั้นคราวหน้าผมจะไม่มาและไปอย่างเฉยๆ เหมือนคราวนี้?
คำเตือนนั้นเป็นภาษาไทยชัดเจน...แสดงว่าผู้พูดมีความรู้อยู่ไม่น้อย สังเกตได้จากสำนวนที่เขาใช้...และคำพูดที่พูดทุกคำ
ขณะที่พูดนั้น นิ้วแข็งกระด้างนั้นก็เลื่อนลูบไปตามฝ่ามือบางและผิวเนื้อหล่อน ราวกับจะสำรวจดูความนุ่มนวลของมันอย่างพึงพอใจ...ยังผลให้จันทิมันตุ์ต้องเหลือบตาขึ้นสบตากับอีกฝ่ายอย่างฉิวๆ ก่อนจะกระชากมือออกมาเต็มแรง
หล่อนเกือบเซ...แต่อีกฝ่ายกลับหลับตาลง มือแข็งๆ ที่คว้ามือหล่อนอยู่เมื่อกี้วางข้างตัวตามเดิมช้าๆ ราวกับไม่ใส่ใจอะไรอีกต่อไป...ไม่ว่าตัวจะเป็นหรือตาย
หล่อนมองคนคนนั้นอย่างโมโห...ถ้าไม่คิดสักนิดว่านี่คือหน้าที่ และหล่อนคนเดียวที่จะช่วยให้ทุกๆ คนในโรงพยาบาลนี่ปลอดภัยล่ะก็...หล่อนคงได้ออกไปจากห้องนี้แล้ว
หญิงสาวได้แต่กัดฟันกรอด ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ทุกๆ คนเข้าประจำหน้าที่เตรียมพร้อมการผ่าตัด มีกระสุนฝังในอยู่สองนัด...นอกนั้นทะลุไปเลย สองนัดตรงจุดสำคัญทั้งนั้น แบบนี้มันน่าจะตาย...ไม่น่ามีชีวิตรอดอยู่เลย...
หล่อนคิดเมื่อทำการสำรวจบาดแผลทุกแห่งโดยละเอียด ด้วยความรอบคอบ...และอดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองหน้าคนที่นอนอยู่อีกครั้งไม่ได้
เขามีความอดทนสูงทีเดียว...ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่อดทน มีหวังจอดไปแล้ว แต่นั่นแหละ...พวกโจรเหล่านี้มีธาตุทรหดอยู่แล้วในตัว
หล่อนคิดเมื่อยืดตัวขึ้นถอนใจยาว และขยับถอยออกมาให้พยาบาลได้จัดการเตรียมคนไข้ให้พร้อมสำหรับการผ่าตัด รวมทั้งตัวของหมอเองด้วย
จันทิมันตุ์เดินเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่งเพื่อจัดการทำความสะอาดล้างมือล้างไม้ให้กับตนเอง โดยมีสายตาของพรรคพวกคนป่วยมองตามมาเป็นระยะ...
หญิงสาวหันไปมองคนเหล่านั้นด้วยความคิดว่า ขอให้เขามาและไปเงียบๆ อย่างที่พูดเถอะ...ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นที่นี่เลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลายชั่วโมงต่อมาแพทย์สาวก็เดินออกมาจากห้องผ่าตัด และบอกให้ทุกคนที่รอคอยอยู่รู้โดยทั่วกันว่า...
?เรียบร้อยค่ะ...คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว?
เพียงแค่นั้นเองนายคนที่พูดกับหล่อนเป็นคนแรกก็ก้าวสวนเข้าไปในห้องผ่าตัดทันที เล่นเอาหญิงสาวต้องก้าวตามไปอย่างตกใจ
?นี่ๆ คุณ...ยังเยี่ยมไม่ได้ เขาเสียเลือดมาก ต้องให้เวลาเขาพักฟื้นก่อน ออกไปคอยข้างนอกก่อน?
นายคนนั้นหันมามองหล่อน...จันทิมันตุ์ก็ประสานสายตาด้วยอย่างไม่พอใจ
?คุณต้องให้เวลาเขาพักผ่อน อย่าเพิ่งกวน?
หล่อนย้ำอีกครั้งให้เข้าใจ...แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ฟัง เขาเดินไปจนถึงเตียงผ่าตัดโดยมีหญิงสาวตามไปติดๆ แล้วเวลาต่อมาก็ดึงเตียงไปยังประตูโดยไม่ฟังเสียงหล่อน
?นี่...คุณจะทำอะไรฮึ!...เขาอาจจะตายก็ได้นะ?
จันทิมันตุ์ตะโกนเสียงหลงด้วยความโกรธ...พร้อมกับถลาเข้าไปดึงเตียงเอาไว้แน่นอย่างไม่พอใจ
?เขาไม่ตายหรอกคุณหมอ?
คนคนนั้นตอบโดยไม่ใส่ใจจันทิมันตุ์เลยสักนิด พร้อมกับใช้แรงที่มากกว่าดึงเตียงจนหลุดไปจากมือหล่อน
หญิงสาวได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อมองดูพรรคพวกที่เหลืออุ้มคนป่วยลงจากเตียงไปวางไว้บนเปลสนามที่ติดมาด้วย แล้วหิ้วไปต่อหน้าต่อตา แต่ในเวลานั้น...สถานการณ์และสิ่งแวดล้อมทำให้หญิงสาวทำอะไรไม่ได้ตามใจคิด
จันทิมันตุ์อยากจะเข้าไปขวางเพื่อดึงตัวคนไข้ไว้รักษาให้หายกับหล่อนเสียก่อน...แต่มาคิดอีกทีหนึ่ง ตราบใดที่คนคนนั้นยังอยู่...โรงพยาบาลของหล่อนและลูกน้องของหล่อนก็คงจะต้องตกอยู่ใต้อิทธิพลของคนเหล่านั้น โดยไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะฉะนั้นการที่พวกเขาไปได้เร็วเท่าไรดูจะดีที่สุดสำหรับสถานที่นี้
ดังนั้น...ในเวลาไม่นานนัก ทั่วบริเวณโรงพยาบาลก็เหลือแต่เพียงความเงียบ ท่ามกลางความมืดของราตรีกาลตามเดิม
นาฬิกาบนข้างฝาตีบอกเวลาตีสี่กว่าๆ เมื่อคนเหล่านั้นออกจากโรงพยาบาลไป จันทิมันตุ์ไม่รู้หรอกว่าคนป่วยที่ถูกหิ้วทุลักทุเลไปนั้น เขาทรหดเหลือเชื่อ
เปลือกตาที่แต่งด้วยขนตายาวตรงไม่แพ้ผู้หญิงนั้น เปิดขึ้นมองพรรคพวกเพื่อนฝูงที่พาเขาไปพักอยู่ในป่าไกลพอสมควรในเวลาไม่นานนัก
?น้ำ...?
เสียงเรียกหาน้ำเบาๆ ทำให้ทุกคนหันมามองดูผู้เป็นเจ้านายเป็นตาเดียว...พร้อมกระติกน้ำที่ถูกจ่อถึงริมฝีปากอย่างทันใจ
?ทำใจให้สบายผู้กอง...คุณปลอดภัยแล้ว...?
คนที่ลากเขาออกมาจากห้องผ่าตัดก้มหน้าลงสบตากับอีกฝ่าย
?นี่เราอยู่ไหน...?
?กำลังกลับฐาน...หมอจัดการผ่ากระสุนให้เรียบร้อยแล้ว?
เมื่อพูดถึง ?หมอ? ดวงตาสีดำคมดูจะเปล่งแสงขึ้นทันที
?แล้วหมอล่ะ...?
?เราทำตามคำสั่งคุณ...ไม่แตะต้องอะไรที่นั่นเลย?
?ดีแล้ว...?
ผู้เป็นหัวหน้าพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง โดยมีใบหน้าเรียบเย็นของหมอที่เข้ามาลอยอยู่ในความคิดคำนึงได้อย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปกติข่าวการสู้รบของบุคคลสองเชื้อสาย...ระหว่างกะเหรี่ยงกับพม่า ถึงมันจะเป็นเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวสำหรับคนกรุงผู้สุขสบาย แต่สำหรับชาวบ้านที่อยู่ตามตะเข็บชายแดนแล้ว...รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าไม่มีการยิงการตามฆ่ากัน...ก็มีการติดต่อค้าขายกันไปตามเรื่อง แต่ถ้าเมื่อใดมันเปรี้ยงปร้างขึ้นมาที ก็หอบข้าวของหอบชีวิตหนีกันที...ที่ตายก็ตายไป ที่อยู่ก็สู้กับชีวิตไป...ไม่มีใครคิดหวั่นกลัวอะไร
และสำหรับหมอจันทิมันตุ์ก็เช่นเดียวกัน...หลังจากที่ผ่าตัดให้พวกนั้นแล้วหล่อนก็ไม่ได้คิดไม่ได้จดจำอะไรอีก จนเกือบลืมเหตุการณ์นั้นแล้วเสียด้วยซ้ำ จนกระทั่งวันหนึ่ง?
วันนี้เป็นเวลาเข้าไต้เข้าไฟเต็มที...หล่อนออกเวรแล้ว และกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่บนบ้าน ก่อนที่จะยกช้อนค้างเมื่อรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น...
รอบๆ บ้านพักของหล่อนเต็มไปด้วยเสียงชนิดหนึ่งที่จันทิมันตุ์จำได้ว่าเป็นเสียงฝีเท้าของคนแน่นอน...และต้องมีมากกว่าหนึ่ง หล่อนจึงวางช้อนทันทีและเตรียมจะลุก...แต่ยังช้ากว่าผู้ที่บุกรุกเข้ามานั่น
คราวนี้พอได้เห็นหน้าของผู้ที่บุกรุกเข้ามาเท่านั้น จันทิมันตุ์ก็ต้องตะลึงทำอะไรไม่ถูก...จนกระทั่งพรรคพวกของเขาหามคนเจ็บตามเข้ามา
หญิงสาวมองตามร่างสูงที่ถูกแบกไปวางลงบนเก้าอี้นอนข้างห้อง...แล้วตามเข้าไปดูอาการโดยไม่ต้องถาม
หล่อนรู้หน้าที่...และคนที่พากันมาที่นี่ก็พอจะรู้แล้วว่าหล่อนต้องช่วย หากคราวนี้คนเจ็บไม่ใช่เขา...แต่เป็นคนที่เคยเจอ เป็นผู้นำเขามาส่งให้หล่อนผ่าตัดในครั้งนั้นนั่นเอง
จันทิมันตุ์ตรวจดูบาดแผล...แล้วก็รู้ว่าไม่ได้น้อยไปกว่าที่ใครอีกคนได้รับเมื่อคราวที่แล้วเลย...
?พาเขาไปที่โรงพยาบาล....ที่นั่นมีเครื่องมือพร้อม?
หล่อนหันมาบอกร่างสูงที่ก้าวเข้ามาใกล้ และยืนค้ำหัวอยู่ไม่ห่าง
?ไปไม่ได้ ตอนนี้มีทหารเฝ้าอยู่?
คำตอบของเขาทำให้หล่อนนึกออก...จริงนั่นแหละ จากเหตุการณ์ครั้งที่แล้ว ทำให้ทั้งตำรวจและทหารต้องจัดเวรกันมาดูแลโรงพยาบาล ไม่ให้ถูกบุกรุกจากขบวนการพลัดถิ่นพวกนั้นอีก...
?เราต้องการความช่วยเหลือเท่านั้นหมอ...ไม่ต้องการทำร้ายใคร ไม่ต้องการแม้แต่จะให้ใครเดือดร้อน?
เขาบอกกับหล่อนขณะที่จันทิมันตุ์ทรงตัวลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเขา โดยอีกฝ่ายไม่ยอมห่างไปแม้แต่ก้าวเดียว...ทำให้หล่อนมองเห็นเขาในระยะประชิดอยู่พอควร...
ดวงตาคมคู่นั้นจ้องมองมาอย่างเอาการเอางาน แต่มันก็ยังซ่อนแววบางประการไว้ไม่เม้นมิด...และดวงตาประเภทนั้น ไม่ว่าผู้หญิงชาติใดได้เห็น...สัญชาตญาณบางอย่างก็จะบอกให้ระวังตัว อย่างเช่นที่จันทิมันตุ์รู้สึกได้ และถอยห่างออกมาโดยทันทีนั่น
?แต่ที่นี่ไม่มีเครื่องมืออะไรเลย มันอันตรายมาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อ?
หล่อนย้ำบอก...และคำตอบที่ได้ก็คือกล่องเครื่องมือที่ใครคนหนึ่งด้านหลังก้าวออกมายื่นให้เกือบทันที...ทำเอาหญิงสาวถึงกับขมวดคิ้วเมื่อรับมาเปิดดูแล้วถามออกไปว่า
?นี่ได้มายังไง?
?หมอของเราเพิ่งตาย...คุณต้องช่วยเขา?
คำตอบที่ได้รับทำเอาหล่อนพูดไม่ออกไปหลายนาที...และรู้ว่าคงไม่มีทางเลี่ยงเป็นแน่แท้ หล่อนจึงนำเอากล่องนั้นไปวางบนโต๊ะอาหารใกล้ๆ และสำรวจดูเครื่องมือแต่ละชิ้นโดยละเอียด...ไม่นานนักก็หันมาบอกเขาว่า
?โอเค...ฉันจะทำให้ ช่วยเคลียร์พื้นที่บนโต๊ะหน่อยแล้วกัน ฉันจะต้มเครื่องมือพวกนี้?
หล่อนบอกกับเขาแล้วเดินเข้าไปในครัวเล็กๆ ใกล้กัน ขณะที่อีกฝ่ายหันไปส่งภาษาของเขากับลูกน้องอย่างรวดเร็ว
ไม่นานต่อมาก็มีการขยับตัวกันตามคำสั่ง...โดยร่างสูงก้าวตามหลังหล่อนเข้าไปยืนอยู่ในครัวเล็กๆ นั้นเงียบๆ
จันทิมันตุ์หันมามอง...และเห็นคนคนนั้นยืนอิงบ่ากับกรอบประตู พร้อมทั้งยกมือขึ้นกอดอก ดวงตาดำสนิททอดมองมาที่หล่อนนิ่ง
หล่อนมองเขาอยู่แวบเดียวก็หันมาสนใจกับเตาแก๊ส...และหม้อต้มน้ำที่ต้องเอามาใช้ต้มเครื่องมือกันชั่วคราว จึงไม่รู้หรอกว่าดวงตาของอีกฝ่ายได้แอบมองร่างบางตั้งแต่ผมดำที่เวลานี้ปล่อยยาวระบ่าสบายๆ เพราะอยู่บ้าน ลงมาตามช่วงตัวที่สวมเสื้อคอกลมแขนกุดสบายๆ เข้าชุดกับกางเกงสีเดียวกัน มาจนถึงตรงปลายเท้าเรียวสะอาด ไม่ได้สวมอะไรเมื่ออยู่ในบ้าน





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจนมีผู้คนบาดเจ็บไม่เว้นวัน ดูเหมือนบุคลากรทางการแพทย์จะเป็นที่ต้องการมากที่สุด จันทิมันตุ์ แพทย์หญิงมากฝีมือจึงถูกลักพาตัวมาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยมีเชนี ผู้นำชนกลุ่มน้อยคอยปกป้องและสัญญาว่าจะส่งหล่อนกลับทันทีที่คุณหมอสาวทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์ หากแต่ลึกๆ แล้วเขารู้ดีว่าไม่อยากห่างร่างนุ่มแม้เพียงเสี้ยว ขณะอีกใจก็ตระหนักถึงเส้นทางชีวิตของทั้งสองที่ยากจะบรรจบ จึงทำได้แค่แอบจุมพิตยามหล่อนหลับใหลโดยมีเพียงดวงดาวมากมายบนท้องฟ้าเท่านั้นที่รับรู้

เชนีขยับปลายนิ้วยาวแข็งแรงของตนไปแตะผิวหล่อนอย่างแผ่วเบา
กลัวอีกฝ่ายจะตื่น...แต่หล่อนไม่รู้สึกตัว ยังคงหลับเฉย...
เขาจึงก้มลงไปจุมพิตด้วยความรู้สึกอ่อนโยนที่ไม่เคยเกิดกับผู้หญิงคนใด


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”