New Release แปล : บุปฝาคู่บัลลังก์ ตอน สีน้ำเงินที่มาจากคราม

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release แปล : บุปฝาคู่บัลลังก์ ตอน สีน้ำเงินที่มาจากคราม

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ
นั่นเป็นเรื่องก่อนที่โคชูเรจะเป็นขุนนาง เป็นช่วงที่การสอบข้อเขียนรอบสุดท้ายของการสอบเข้ารับราชการระดับประเทศจบลงแล้วและกำลังรอการประกาศผล....

***

?ฮึ ฮึๆๆๆ?
เสียงหัวเราะที่น่าขนลุกของผู้ที่เป็นทั้งเจ้านายและพ่อบุญธรรมทำให้โคยูเสียวสันหลังวาบ
?จะแบบไหนๆ ก็ทำได้น่าพึงพอใจทั้งนั้น เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม ถึงจะสู้ของจริงไม่ได้ แต่ในขั้นฝึกทำถือว่าสอบผ่าน ถือว่าดีถึงขนาดจะให้รางวัลด้วยการเป็นช่างประจำตระกูลโคก็ยังได้?
โคเรชินที่กลับมาจากที่ใดสักแห่งพึมพำอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัวอยู่หลังพัดอย่างนี้มาครึ่งชั่วยามแล้ว โคยูถูกข้ารับใช้ร้องไห้อ้อนวอนว่าให้ช่วยทำอะไรสักอย่าง แต่เรื่องนั้นเป็นเรื่องยากถึงขนาดที่ว่ามีเพียงคนคนเดียวในโลกนี้จะจัดการได้
ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีปัญญาทำอะไรได้ แต่ที่เขาต้องเข้ามาในห้องก็เพราะมีเรื่องที่ต้องบอกพ่อบุญธรรม
?เอ่อ....ท่านเรชินครับ?
?ฮึๆๆๆๆ?
?ทะ....ท่านเรชิน?
?แค่นึกก็หยุดยิ้มไม่ได้แล้ว?
....ไม่ได้ฟังเลย
ถ้าเป็นทุกทีโคยูคงจะทำตัวรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหางแล้ว แต่วันนี้จะเป็นเช่นนั้นไม่ได้ เขาต้องเก็บความกลัวไว้ทีหลังแล้วงัด ?ไม้ตายสุดท้าย? ขึ้นมา
?....มีจดหมายจากท่านโชกะส่งมาครับ?
?รีบๆ ยื่นมาก่อนที่ข้าจะหาว่าเจ้าเป็นเจ้าโง่นะ!?
เรชินมีปฏิกิริยาตอบรับกับเสียงกระซิบนั้นทันควัน แต่โคยูต้องรีบเฉไฉ
?หา? ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลย ท่านหูแว่วอีกแล้วหรือครับ?
เสียงพัดดัง....ป้าบ
?เดี๋ยวนี้กล้าแต่งเรื่องโกหกข้าเรอะ โคยู ช่างกล้าดีจริงนะ งานของข้าที่กองเอาไว้ เจ้าจัดการแทนข้าให้เสร็จภายในวันเดียวด้วยล่ะ ต้องให้บอกไหมว่าทำเล่นๆ ซะครึ่งวัน ทำจริงอีกครึ่งวันก็พอ รีบๆ ไปทำงานสิ?
?....ครับ?
ทั้งที่ถ้าเรชินจะทำจริงๆ ไม่กี่ชั่วยามก็เสร็จ โคยูได้แต่ร้องไห้อยู่ในใจ แต่ก็สมน้ำหน้าตัวเองที่โกหก
?แล้ว มีธุระอะไรล่ะ??
?ครับ ตั้งแต่วันนี้ไป ชู....แม่ทัพรันจะขอลาหยุดน่ะครับ?
?ไม่เห็นจะเป็นไรเลย เจ้าก็อย่ายุ่งมากนักเลย ข้าจะเพิ่มงานเป็นสามเท่า เจ้าจะได้หมกตัวอยู่แต่ในห้องรองเจ้ากรมสักระยะ ....ไม่ต้องเข้าใกล้ฮ่องเต้ระยะหนึ่งด้วย?
?....ท่านเรชิน?
?อย่าคิดจะเอาใจเจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่นเลย ยิ่งกว่านั้นถึงอย่างไรซะเจ้าก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลโคนะ?
โคยูดีใจที่ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลโค แต่ก็แอบเศร้ากับคำว่า ?ถึงอย่างไรซะ? แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางฝืนคำสั่งของเรชินในฐานะประมุขตระกูลโคได้ และคำพูดของเรชินเองก็มีเหตุผล
โคยูถอนหายใจ
?อ้อ คืนนี้ข้าจะออกไปข้างนอก ฝากบ้านด้วยล่ะ?
เรชินบอกพร้อมกลับมายิ้มแปลกๆ อีกครั้ง

นอกจากความเบิกบานใจที่เป็นปริศนาของโคเรชินซึ่งนับว่าเป็นเรื่องแปลกแล้ว ที่คฤหาสน์ตระกูลรันก็มีชายหนุ่มที่กำลังซึมเศร้าซึ่งนี่ก็นับว่าเป็นเรื่องแปลกอีกเช่นกัน
ในวันหนึ่งในฤดูหนาวที่มีลมหนาวพัดมาไม่หยุดหย่อน มีจดหมายแจ้งข่าวร้ายจากพี่ชายคนหนึ่งส่งมาถึง
?ดูแล ริวเรน สอบเข้ารับราชการระดับประเทศ?
จดหมายที่เขียนห้วนๆ เป็นคำๆ เหมือนเรียกพายุหิมะและลมหนาวมาสู่จิตใจของชูเอ แค่ประโยคคำสั่งสั้นๆ ที่ไม่ยอมรับการปฏิเสธนี้ก็ทำให้ชูเอไม่อาจต้านทานได้แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็อยากจะตอบสักคำ
ชูเอรีบเขียนจดหมายตอบพี่ชาย สิ่งที่จะมาถึงในอนาคตข้างหน้า เขารู้ว่ามันยังอีกยาวไกล แต่ถึงอย่างไรก็จำเป็นต้องเขียน
?ข้ารับผิดชอบไม่ไหว?
....แล้วพวกพี่ชายก็ตอบมาตอนที่การสอบเข้ารับราชการระดับประเทศกำลังจะเสร็จสิ้น
?เราไม่ได้หวังถึงขนาดนั้นหรอก?
ชูเอยิ้มเจื่อนๆ อย่างสิ้นหวังกับคำตอบที่สั้นเหลือเกิน
(พวกพี่ๆ ที่อยู่มณฑลรันนี่ดีจังนะ)
น้องชายต้องเป็นศูนย์กลางของไต้ฝุ่นยักษ์ในการสอบเข้ารับราชการระดับประเทศปีนี้อย่างไม่ต้องสงสัย น้องชายที่อยู่ตรงกลางไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่คนรอบข้างกลับถูกพายุปั่นป่วนขนาดหนัก และเขายังเป็นมหาภัยพิบัติอันน่ากลัวราวกับจะไม่เหลือไว้แม้แต่หญ้าแพรกที่แหลกลาญ
ในจำนวนนั้นเด็กสาวและเด็กชายคู่หนึ่งคือผู้ประสบภัยที่สาหัสที่สุด โชคร้ายที่พวกเขาเป็นคนที่มีคุณสมบัติในการรับมือกับริวเรนซึ่งหาได้ยาก ในสายตาของคนอื่นจึงไม่เห็นว่าพวกเขาเป็นผู้รับเคราะห์ แต่ถูกมองอย่างเหมารวมกับน้องชายของเขาว่าเป็น ?เด็กบ้า? ไปด้วย ทั้งเรื่องที่เป็นเด็กอัจฉริยะในฐานะเด็กวัยรุ่นที่สอบผ่านระดับมณฑลโดยได้ลำดับต้นๆ และความเป็นจริงที่ว่าสามในสี่เป็นเด็กที่มาจากตระกูลสีทั้งเจ็ด.... สองในสี่มีสายเลือดตระกูลโคและตระกูลรันซึ่งเป็นตระกูลชั้นนำ....แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยเมื่ออยู่ต่อหน้าสารานุกรมแห่งความแปลกประหลาดสารพันที่เดินได้อย่างรันริวเรน
(ท่านชูเร....เอเงซึ....ฮาคุเม....ขอโทษจริงๆ นะ....)
เมื่อนึกถึงภัยพิบัติที่พวกเขาได้รับแล้ว ชูเอรู้สึกผิดจากใจ
ทั้งที่พยายามเตือนแล้วแท้ๆ แต่พวกขุนนางระดับสูงก็ยังกระตือรือร้นมาทักทายริวเรนจนต้องกลับไปมือเปล่าให้เสียหน้าจนได้ แค่วันเดียวที่ริวเรนเข้าไปอยู่ในหอพักเพื่อเตรียมเข้าสอบ หอพักนั้นก็ได้รับการขนานนามว่า ?หอสิบสามแห่งคำสาป? ผู้ดูแลหอนั้นยังต้องบุกห้องฝ่ายปกครองเพื่อยื่นใบลาออกไปตามๆ กัน
เสียงตะโกนจากใจหนึ่งในนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังฝังแน่นอยู่ในจิตสำนึกของเขา
?ไม่ ไม่ไหวแล้ว!! ข้าขอถอนตัวจากตำแหน่งผู้ดูแลหอสิบสามที่ใช้ในการพักเพื่อเตรียมสอบ!! นี่มันอะไรกัน กลั่นแกล้งข้าหรือไง ข้าทำอะไรให้หัวหน้าไม่พอใจงั้นเหรอ!? เจ้าเด็กพวกนั้นเป็นปีศาจหรือไง!? ถ้ายัง....เป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่กี่วันหัวข้าคงล้านแน่! ข้ารับมือเจ้าพวกเด็กบ้านั่นไม่ไหวจริงๆ นะ!!?
เขาสลัดมาดที่ปกติจะดูสง่างามทิ้ง ร้องไห้ฟูมฟาย ชูเอเห็นแล้วสงสารจนทนดูไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นคราวนี้ยังเป็นการรวบรวมความปั่นป่วนทุกประเภทมาไว้ด้วยกันเหมือนยัดทะนาน
(แม้จะเทียบกับปีเจ้ากรมโค้วและเจ้ากรมโคที่เป็นฝันร้ายในตำนานไม่ได้ แต่ถือว่าเป็นการสอบเข้ารับราชการระดับประเทศที่สาหัสกว่าตอนของพวกเขา....)
เมื่อคิดว่าตอนนั้นทำให้พวกผู้ใหญ่ปวดหัวแค่ไหน ชูเอก็รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำเมื่อเจ็ดปีก่อนนิดๆ
แต่ผู้ที่เคราะห์ร้ายมากที่สุดจากการสร้างความวุ่นวายมากมายนับไม่ถ้วนของริวเรนต้องเป็นเขาไม่ผิดแน่ เพราะต่อจากนี้ไปแม้ตัวเขาจะก่อคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่จนเป็นที่กล่าวขานสืบไปนับพันปี ก็ยังโดนพ่วงท้ายด้วยประโยคนี้ประโยคเดียวอยู่ดี
?แต่ว่าเป็นพี่ชายของรันริวเรน?
....ชูเอรู้สึกแย่ที่สุด
แล้วในขณะที่รู้สึกเซ็งเต็มแก่ เขาก็ต้องลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจเพื่อไปรับน้องชายที่สอบเข้ารับราชการระดับประเทศวันสุดท้ายเสร็จแล้ว

หนึ่ง

(....ทำไมข้าจะต้องยอมสละเวลาพักที่มีค่าไปเพื่อเจ้านั่นด้วยนะ)
เช้าที่ท้องฟ้าสดใสจนเหมือนจะได้ยินเสียงดังกริ๊ง การมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิทำให้ลมหายใจที่พ่นออกมาในช่วงเวลาเช้าอย่างนี้กลายเป็นสีขาวเหมือนควัน
เป็นเช้าที่น่าจะรู้สึกดี แต่ว่ากลุ่มคนที่ทยอยกันออกมาจากวังล้วนแต่มีสีหน้าเหมือนผีดิบ ราวกับว่าถ้าต้องแสงแดดแล้วจะกลายเป็นเถ้าธุลีไป
การสอบเข้ารับราชการระดับประเทศกินเวลาถึงเจ็ดวัน พวกเขาต้องรีดศักยภาพทั้งหมดออกมา ดังนั้นหากจะให้พวกเขาแหงนหน้ามองฟ้า คงจำเป็นต้องให้เวลาอีกสักหน่อย
ในระหว่างนั้นเสียงขลุ่ยที่ขาดความไพเราะก็ดังแหวกอากาศมาให้ได้ยิน กลุ่มผีดิบได้สติกลับมา และในชั่วพริบตาพื้นที่ระหว่างชูเอและเจ้าของขลุ่ยก็แหวกออกเป็นทาง เมื่อเห็นน้องชายผู้ทำให้เกิดพื้นที่ว่างน่าประหลาดอยู่ในเครื่องแต่งกายบ้าบอสุดขีด ชูเอก็คิดประโยคที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
แต่ว่าที่ต่างไปจากปกติก็คือข้างๆ น้องชายเขามีคนเหลืออยู่อย่างไม่น่าเชื่อ
?....บอกให้พอสักทีไงล่ะ! ทั้งที่ทุกคนเหนื่อยจนหมดแรงแล้ว นี่ยังจะดูดแม้แต่พลังใจให้หมดอีกหรือไง!? พูดก็พูดเถอะ อย่ามาเดินด้วยกันเลยดีกว่า เดี๋ยวถูกคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน คงอายไปถึงลูกถึงหลาน!!?
?คะ....คุณชูเร พูดอ้อมๆ หน่อยก็ได้ครับ?
?อย่าไปตามใจเขาสิ เอเงซึคุง! คิดว่าเราต้องเจอเรื่องแย่ๆ เพราะนายนกยูงนี่แค่ไหนกันล่ะ มาสอบเข้ารับราชการระดับประเทศหรือจะมาสอบเป็นพระกันแน่ก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจเลย ถ้าเป็นตอนนี้ฉันมั่นใจเลยว่าจะสามารถมองเห็นธรรมได้ด้วยสภาวะจิตใจที่ใสสะอาดผ่องแผ้วยิ่งกว่าพวกเซียนซะอีก?
ชูเอหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว ....จริงด้วย ความใจกว้างของท่านชูเร แม้แต่บรรดาเซียนสีทั้งแปดยังเทียบไม่ได้ คำพูดที่โกรธจัดและพยายามจะใจร้ายกับริวเรนนั้นก็ไม่ได้มีความหวังร้ายจนแม้แต่ชูเอยังรับรู้ได้
เสียงขลุ่ยหยุดลงพอดี เสียงชายเสื้อเสียดสีกันดังสวบสาบ
?เป็นความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยมมาก ชูเร เอาล่ะ เพื่อนรักของข้าจะไม่ออกเดินทางไปเรียนรู้ฝึกฝนด้วยกันเหรอ เอเงซึเองก็มีแผนการชีวิตที่ยิ่งใหญ่มากกว่าจะตั้งหน้าตั้งตาไขว่คว้าหาความสุขใกล้ตัวในที่ที่มีแต่สีสันอย่างนี้ เราจะได้สร้างตำนานที่ทำให้แม้แต่เซียนสีทั้งแปดยังหมอง คำพูดทิ้งท้ายที่ข้าอยากจะบอกทั้งสามคนก็คือ ?พวกเราต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีอะไรให้ต้องเสียดาย? การที่พวกเราได้พบกันมันคือพรหมลิขิตนะ?
แม้แต่เอเงซึยังอึ้ง เพราะเรื่องนี้เกินขอบเขตความสามารถในการใช้วาจาของเด็กหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยน ดูเหมือนเขาจะนึกไม่ออกเลยว่าควรปฏิเสธอย่างไร
แต่ว่าชูเรปฏิเสธทันที
?เจ้าตั้งหน้าตั้งตาสร้างตำนานคนเดียวดีกว่า ริวเรน ถ้าเป็นเจ้า แค่ตัวตนของเจ้าก็สามารถไปถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นั้นได้แล้ว ฉันรับประกันได้เลย ยิ่งกว่านั้นโชคร้ายจริงๆ ที่ฉันคิดว่าการสอบเข้ารับราชการระดับประเทศครั้งนี้มันกลายเป็นเรื่อง ?น่าเสียดายในชีวิต? ไปน่ะ?
ชูเอที่ได้ยินทั้งหมดนั้นรู้ได้ทันทีว่านั่นเป็น ?เรื่องที่เกี่ยวพันกับริวเรน? แต่ริวเรนเลิกคิ้วที่ได้รูปขึ้นเหมือนไม่รู้
?อะไรกันเพื่อนรักหมายเลขหนึ่งของข้า ทั้งที่เจ้ามีเรื่องน่าเสียดายหลงเหลือไว้ในประวัติชีวิตแท้ๆ แต่ข้าที่อยู่ใกล้ๆ กลับไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร ข้าไม่สมควรเป็นเพื่อนสนิทเจ้าเลย ไม่สิ ถึงจะรู้ตอนนี้ก็ไม่สายนี่นา! ชูเร ช่วยเล่ารายละเอียดให้ข้าฟังหน่อยสิ ข้าจะพยายามขจัดสิ่งที่ขุ่นมัวในใจเจ้าออกไปให้ได้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอกนะ เพราะมันเป็นเรื่องที่ข้าสมควรจะทำในฐานะเพื่อนสนิทอยู่แล้ว?
แล้วเขาก็เริ่มเป่าขลุ่ยที่ไร้ซึ่งความไพเราะโดยไม่ฟังคำตอบของชูเร ดูแล้วรู้สึกได้ว่าเด็กสาวคงจะเหนื่อยใจผิดหวังว่า....ทำไมถึงได้เป่าขลุ่ยตอนนี้
ทันใดนั้นเอเงซึก็สังเกตเห็นชูเอที่มายืนอยู่ข้างหน้าจึงตาเบิกโพลงอย่างตกใจ
?อ๊ะ อ้าว....แม่ทัพรันไม่ใช่หรือครับ!? แต่งตัวแบบนั้นจำไม่ได้เลย?
ชูเรก็เงยหน้าขึ้น สะดุ้งสุดตัว
?เอ๊ะ!? ว้าย แม่ทัพรัน! เอ่อ....?
ชูเรมองชูเอแล้วเงียบไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพ่นลมออกมาอย่างลืมตัว
?....เอ่อ เป็นพี่น้องกับคนที่เป่าขลุ่ยอยู่ตรงนั้น....จริงๆ สินะคะ?
ชูเรไม่อยากจะคิดว่าชูเอที่แต่งกายด้วยชุดส่วนตัวซึ่งดูดีมีรสนิยมปล่อยผมยาว แค่ยืนเฉยๆ ก็งามสง่าดุจรูปวาดจะเป็นพี่น้องกับนายนกยูงที่เป่าขลุ่ยเสียงดังหนวกหูนั่น
?ตั้งแต่เกิดมาจนอายุสิบแปดปี ข้าก็ยืนยันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ถึงจะเสียใจแต่มันก็เป็นความจริง?
ชูเอถอนหายใจออกมาจากใจแล้วยิ้มให้ชูเรกับเอเงซึ
?คงเหนื่อยกับการสอบสินะครับ ขอโทษนะ....ที่ทำให้เดือดร้อนหลายๆ อย่าง?
เมื่อคิดว่าเสียงขลุ่ยหยุดพอดี ริวเรนก็หันมามองพี่ชายด้วยสายตาเข้มๆ เป็นครั้งแรก
?อะไรกัน? พี่บ้าหมายเลขสี่ ทำให้เพื่อนรักข้าเดือดร้อนได้ยังไง ในฐานะที่เป็นญาติ ข้าล่ะอายจริงๆ เพราะมัวแต่ไล่ตามผู้หญิงถึงได้พัฒนาตัวเองช้าสินะ อ๊ะ แล้วก็ตัวการจริงๆ ของเรื่องที่ทำให้ชูเรเสียดายก็คือพี่บ้าใช่ไหม ข้าน่ะผิดหวังจริงๆ ที่พี่อาศัยทีเผลอกระทำการที่สร้างความด่างพร้อยให้แก่ชีวิตของกุลสตรีคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนรักของข้าด้วย! เจ้าพี่บ้า!!?
ชูเอยังคงยิ้มอยู่ แต่ในใจต้องควบคุมตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ชักดาบซึ่งอยู่ตรงสะโพกขึ้นมา
....เจ้าน้องชายบ้า
?ริวเรน รู้ไหมว่าเป็นเพราะใครทำให้พวกท่านชูเรต้องถูกโยนเข้าไปในคุกน่ะ??
?ก็ต้องเป็นเพราะฮ่องเต้ที่ออกคำสั่งกับพี่สี่บ้าและพวกผู้ใกล้ชิดที่ใจดำอำมหิตน่ะสิ ช่างเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลจริงๆ ดีนะที่เสียงขลุ่ยของข้าเป็นเครื่องปลอบประโลมจิตใจเพื่อนรัก เหมือนให้ความอบอุ่นด้วยหม้อไฟแสนอร่อยของเพื่อนรักหมายเลขหนึ่งไงล่ะ?
ชูเรและเอเงซึพูดไม่ออก
เดือนหนึ่งมานี้เป็นเพราะชายหนุ่มคนหนึ่งทำให้ผู้ดูแลเจ็ดคนยื่นใบลาออก ทำให้เจ็ดในสิบส่วนของผู้ที่มาสอบเข้ารับราชการระดับประเทศซึ่งอยู่ในหอเดียวกันทยอยกันสติแตกไม่หยุดไม่หย่อน เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเริ่มวางแผนหนีออกจาก ?หอสิบสามแห่งคำสาป? สองในสิบส่วนที่โชคร้ายเหลือเกินเพราะยังมีพลังใจจึงอยู่รอดมาได้ก็เริ่มจับกลุ่มคร่ำครวญกับผู้ดูแลว่าจะ ?ขอออกไปจากที่นี่? ราวกับถูกขังรวมกับอาชญากรที่โหดร้าย สรุปแล้วฮ่องเต้ที่เห็นว่าสถานการณ์หนักหนาสาหัสแล้วจึงให้สามคนที่สามารถรับมือริวเรนได้ (โคชูเร โทเอเงซึ และเฮคิฮาคุเม) ทำหน้าที่จับตาดู และก็ต้องติดร่างแหถูกโยนเข้าคุกไปพร้อมกับชายหนุ่มคนนั้น ทุกคนที่สามารถรับมือริวเรนได้ซึ่งเปี่ยมด้วยความฝันและความหวังในวัยเด็กไม่เคยนึกเคยฝันเลยว่าจะต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้ในการสอบเข้ารับราชการระดับประเทศอันทรงเกียรติ แม้จะเป็นช่วงกลางฤดูหนาว แต่กระแสลมที่พัดเข้ามาในใจของพวกเขามันหนาวเย็นยิ่งกว่าสายลมจริงๆ มากนัก
....นายนกยูงคนนี้คิดว่าชายหนุ่มคนนั้นคือใครกันนะ!! ชูเรเองก็ได้แต่ปิดปาก พูดอะไรไม่ออก
ชูเอถอดใจที่จะสนทนาเลยกดขมับแล้วพูดเข้าประเด็นทันที
?ริวเรน กลับมาอยู่บ้านเถอะ?
?ไม่เด็ดขาด?
การสนทนาของพี่น้องจบลงในทันที
แม้ว่าชูเอจะไม่อยากใช้เวลาอยู่กับน้องชายที่เป็นอย่างนี้ แต่ก็ไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งของพวกพี่ชายได้ ยิ่งกว่านั้นชูเอก็เคยทำพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง จะไม่มีครั้งที่สองอีกแล้ว
?....ตอนที่เจ้ามาคิโย แล้วข้าไม่สามารถคุมให้เจ้าอยู่ในบ้านจนกว่าจะถึงเวลาสอบเข้ารับราชการระดับประเทศได้ นั่นเป็นความบกพร่องของข้าไงล่ะ เป็นเพราะเจ้าเข้าไปอยู่ในหอพักสำรองโดยพลการ ไม่ขออนุญาตข้าก่อน ทั้งยังก่อเรื่องไปทั่วถึงทำให้ความน่าเชื่อถือของข้าตกลงฮวบฮาบ?
?หือ สั่งสมความน่าเชื่อถือจนถึงขนาดลดลงได้นี่น่าแปลกใจนะ เรื่องเข้าคุกน่ะช่างเถอะ ว่าแต่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันนี่ดูแววแล้วน่าจะเดือดร้อนอย่างหนักเพราะขาดแคลนทรัพยากรบุคคลนะ?
?ก็คงไม่เท่าข้าที่มีน้องชายอย่างเจ้าหรอก เจ้ามีเหตุผลอะไรที่ไม่อยากกลับบ้าน??
?บ้านพักนั่นมันกว้างเกินเหตุ สวยเกินเหตุ มันไม่เข้ากับมุมมองความงามของข้าน่ะ?
เพื่อส่งเสริมเกียรติยศของตระกูลรัน บ้านพักตระกูลรันซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจในฐานะคฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในเขตสีทั้งเจ็ดจึงได้รับการรังสรรค์โดยช่างไม้และนักจัดสวนที่ดีที่สุดของประเทศมาหลายยุคสมัย แค่ลำพังความเก่าแก่ของไม้ก็ถือว่าเป็นผลงานล้ำค่าอันประณีตจนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสมบัติแห่งชาติแล้ว ชูเอจึงไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดน้องชายถึงมีมุมมองความงามที่แสนจะแปลกประหลาดเยี่ยงนี้
?ถึงจะพูดอย่างนั้น ข้าก็ได้รับมอบหมายจากพวกพี่ๆ ให้ดูแลเจ้า ถ้าไม่อย่างนั้นข้าคงใช้อำนาจของตระกูลรันตะเพิดเจ้าออกไปจากบ้านแล้ว?
ริวเรนขมวดคิ้ว
?ไม่ไหวเลย บ้าเงินทองและอำนาจเหมือนขุนนางกังฉินสินะ ยิ่งคิดว่านี่เป็นพี่ชายข้าหรือเปล่ายิ่งสมเพชเป็นที่สุด ที่จริงตอนนี้มันก็ยังไม่สายไปหรอกที่จะออกไปพเนจรค้นหาตัวเอง ถึงจะคิดว่าไม่มีประโยชน์แต่ข้าจะยอมให้ไปด้วยก็ได้?
?คำแนะนำเหลวไหลนั่นมันเป็นดาบสองคมที่จะสะท้อนกลับไปหาตัวเจ้าเองนะ เจ้าบ้าริวเรน ข้าก็น่าสมเพชจริงๆ นั่นแหละ ถ้าเป็นขุนนางกังฉินจริงๆ ข้าคงหันไปสนใจผู้หญิงที่น่ารักอย่างท่านชูเรมากกว่าน้องชายนิสัยแปลกประหลาดเหมือนเจ้า?
สายตาเจ้าชู้ของพี่ชายทำให้ริวเรนรีบเข้าไปบังชูเรเอาไว้
?ถ้าจะหยาบคายพาลมาพ่นพิษใส่เพื่อนรักหมายเลขหนึ่งของข้า ข้าจะถือว่าไม่มีมารยาท ต่อให้เป็นพี่น้องกันยังไงข้าก็จะไม่ปรานี ถึงจะเนรเทศข้าไปอยู่ที่อื่น สำหรับข้าแล้วเพื่อนรักก็ยังเป็นที่มั่นสุดท้ายอยู่ดี?
ชูเรกับเอเงซึสะดุ้งกับคำว่า ?เพื่อนรัก? ริวเรนจับแขนทั้งสองคนที่ทำท่าจะถอยหลังราวกับมีตาหลัง
?หนึ่งเดือนมานี้พวกเราผูกพันกันในฐานะเพื่อนรักของข้า ไม่ว่าจะมีอุปสรรคแบบไหนเราก็ยืนหยัดสู้ ความผูกพันนี้จะเป็นนิรันดรอย่างแน่นอน! อันที่จริงเจ้าพี่บ้าจะวางแผนอะไรก็สายไปเสียแล้ว เพราะพวกเขายินดีต้อนรับข้าสู่กระต๊อบยังไงล่ะ?
ชูเรอึ้ง กรณีนี้คิดยังไงก็บ่งชัดว่าเป็นบ้านของโชกะ
?ขอโทษนะที่เป็นกระต๊อบ ....ไม่ใช่สิ อย่าพูดเอาเองได้ไหม! เอเงซึคุงยังไม่เท่าไร แต่บ้านฉันไม่ได้ใจกว้างพอที่จะอุปถัมภ์เจ้าหรอกนะ?
ชูเรพูดถึงความใจกว้างตรงๆ แต่ถึงอย่างนั้นริวเรนก็ยังไม่เข้าใจ
?ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าขัดสนเรื่องเงิน จะใช้ใบหัวไช้เท้ามาทำอาหารข้าก็ไม่ว่าหรอก ข้าเข้าใจในฐานะที่เป็นเพื่อนรัก ไม่ใช่พวกไม่รู้จักคิดที่ทำตัวเป็นแขกอย่างไม่ละอายน่ะ ระหว่างที่อาศัยอยู่ข้าก็จะเป่าขลุ่ยแลกเศษเงินเอง สบายใจได้ เพราะว่าตอนข้าเดินทางร่อนเร่ ข้าก็เคยหาเงินแบบนั้นบ่อยๆ?
เป่าขลุ่ยหาเงิน!? ชูเรไม่เชื่อหูตัวเอง แต่เอเงซึฉุกคิดขึ้นมาได้จึงลองถามคำถามที่เสียมารยาทไป
?....นี่คงไม่ใช่ถูกอีกฝ่ายพูดว่า ?จะจ่ายเงินให้ แล้วจะไปที่ไหนก็ไปเร็วๆ เลยนะ? อย่างนั้นหรอกนะ??
?สมแล้วที่เป็นเพื่อนรักหมายเลขสองของข้า ข้าดีใจนะที่เรารู้ใจกัน เข้าใจกันดีอย่างนี้ ขลุ่ยของข้าเหมือนเสียงบาปที่ทำให้หัวใจคนเป็นสุขด้วยท่วงทำนองอันหลากหลาย?
ชูเอรู้สึกเกร็งไปทั้งตัวด้วยสายตาเศร้าๆ ของชูเร สายตาที่บ่งบอกได้กระจ่างแจ้งยิ่งกว่าคำพูดที่ว่า ....ในฐานะที่เป็นพี่ชาย ได้โปรดรับผิดชอบรับนายนกยูงคนนี้ไปดูแลด้วยเถอะ....!!
ชูเอเองก็มีขีดจำกัดเช่นกัน แต่มีแค่น้องชายคนนี้ที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ต้องจับให้ได้ เพราะการปล่อยให้เขาไปเบียดเบียนบ้านโชกะ นอกจากจะเป็นการรบกวนมากเกินไปแล้ว ยังอาจจะทำให้เจ้ากรมบางคนไม่พอใจมากอีกด้วย
เรื่องนั้น....ทำให้ชูเอถอนหายใจยาว
?....ริวเรน ข้าจะพูดอีกครั้งเดียวนะ?
ชูเอแตะดาบที่ห้อยไว้ตรงสะโพก
?ฟังให้ดีนะ ถ้าไม่อย่างนั้นข้าจะชักดาบจริงๆ แล้ว?
น้ำเสียงของชูเอเย็นชากว่าที่เคย ชูเรและเอเงซึรู้สึกได้ทันทีถึงความเยียบเย็น
เป็นคำพูดที่เอาจริงไม่ใช่แค่การขู่ เพราะชูเอรู้ดีว่าถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็ไม่มีทางที่จะเจรจาจริงจังกับน้องชายคนนี้ได้
?ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าซึ่งมีนามว่ารันริวเรนทำตัวเหลวไหลมากไปกว่านี้อีกแล้ว เจ้าน่าจะรู้ตัวได้แล้วนะ....โดยเฉพาะช่วงที่อยู่ในคิโยนี่น่ะ?
สายตาของริวเรนฉายแสงออกมาวูบหนึ่ง แต่เพียงนิดเดียวก็วูบลง เขาขมวดคิ้ว



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รันริวเรน อัจฉริยะผู้จากเมืองหลวงไปทันทีที่สอบเข้ารับราชการระดับประเทศได้ ในที่สุดก็มาแล้ว! พฤติกรรมแปลกประหลาดของเขาซึ่งเป็นคนรักอิสระทำให้ชูเอผู้เป็นพี่ชายกลุ้มใจมาก แต่ริวเรนก็สร้างความอลหม่าน (?ไต้ฝุ่นริวเรนบุกเมืองหลวง?) ให้กับเพื่อนรัก (=ชูเรและเอเงซึ)!? นอกจากนั้นแล้วยังมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น ทั้งยังมี ?เทศกาลฤดูใบไม้ร่วง? ที่ชายหญิงจะถ่ายทอดความรู้สึกรักให้แก่กัน ปิดท้ายด้วยริวเรนนำเที่ยวเมืองหลวงของมณฑลซา ในรวมเรื่องสั้นใหม่ที่ชุลมุนชุลเกของพวกชูเรกับภาคพิเศษสุดประทับใจของซีรี่ส์ยอดฮิต!!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”