New Release BLY แปล : คุณพ่อบ้านเย็นชา มาจุ๊บทีหนึ่ง

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY แปล : คุณพ่อบ้านเย็นชา มาจุ๊บทีหนึ่ง

โพสต์ โดย Gals »

The Uniform Series คุณพ่อบ้านเย็นชา มาจุ๊บทีหนึ่ง


บทที่ 1

?ผมบอกคุณตั้งกี่ครั้งแล้ว ว่ามีดาราหน้าใหม่ตั้งมากมายที่พยายามเข้าหาคุณเพื่อสร้างกระแส ทำไมคุณยัง...เอาเถอะ คุณเต็มใจให้พวกนั้นหลอกใช้ พวกคุณต่างฝ่ายต่างตักตวงผลประโยชน์ที่ต้องการกันผมก็จะไม่เข้าไปยุ่ง แต่อย่างน้อยคุณควรคำนึงถึงภาพลักษณ์บ้าง ตอนนี้สังคมไม่นิยมคาแรกเตอร์ประเภทผู้ชายเจ้าชู้หรือแบดบอยกันแล้ว ต่อให้คุณจะออกไปลักกินขโมยกินก็ไม่ควรให้คนอื่นถ่ายภาพไว้ได้นี่นา!?
หลังจากสิ้นเสียงตะโกนก่นด่าเป็นชุด บรรณาธิการก็สูดลมหายใจลึกๆ หลายครั้งเพื่อปรับอารมณ์ของตนเอง จากนั้นก็ดึงเสื้อสูทที่ยับยู่ยี่และเนกไทที่บิดเบี้ยวให้เข้าที่เล็กน้อยก่อนจะหันหน้ากลับมาดูชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา
กงเจินอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน สวมเพียงกางเกงวอร์มสีดำ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อแข็งแรงที่ได้มาจากการออกกำลังกายอยู่เสมอ เขาไม่ค่อยจะเหมือนคนที่หมกตัวอยู่กับห้องเพื่อเขียนผลงานเป็นประจำสักเท่าไร ประกอบกับส่วนสูงที่สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบสองเซนติเมตร ทำให้เขาดูเหมือนนักกีฬาเสียมากกว่า
ไม่สนใจบรรณาธิการที่กำลังอาละวาด กงเจินพิงโซฟานั่งดูโทรทัศน์ไปพลางกินเค้กไปพลาง นั่นคือเค้กที่บรรณาธิการต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเข้าแถวนานถึงหนึ่งชั่วโมงจึงซื้อมาได้ เค้กนี้จำกัดการขายไว้ที่หนึ่งร้อยชิ้นต่อวันและซื้อได้ไม่เกินคนละสองชิ้นเท่านั้น
กงเจินกินทั้งชิ้นหมดภายในสองคำแล้วยื่นมือออกไปเตรียมหยิบชิ้นที่สองขึ้นมา ในโทรทัศน์กำลังถ่ายทอดข่าวซุบซิบของเขากับนักแสดงสาวที่พยายามดันตัวเองให้ดังอยู่ตอนนี้ ดาราสาวหน้าเด็กอวบอึ๋มสวมชุดเดรสอกต่ำเพื่อเผยให้เห็นร่องอกลึกของตนเองกำลังเอ่ยต่อหน้ากล้องด้วยความขวยเขินว่า ?ฉันกับคุณกง พวกเราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ ค่ะ...? แม้จะพูดอย่างนี้แต่สีหน้ากลับทำให้คนคิดเตลิดไปได้ไกลแสนไกล
เมื่อนักข่าวถามว่าเธอจะร่วมแสดงละครโทรทัศน์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของกงเจินหรือไม่ เธอก็ตอบด้วยใบหน้าไร้เดียงสาแต่แฝงความคาดหวังว่า คงต้องดูอีกทีว่าทางทีมงานจะติดต่อมาหรือเปล่า
ฝีมือการแสดงในเวลานี้ของเธอดีกว่าตอนเล่นละครตั้งเยอะ...กงเจินยิ้มเย็นออกมาหนึ่งที
?ผมว่าคุณชายครับ คุณกำลังฟังที่ผมพูดอยู่หรือเปล่า?? ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีการตอบรับใดๆ บรรณาธิการเริ่มระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่
?ผมฟังอยู่นี่ไง...? กงเจินเปลี่ยนช่องไปมาโดยไม่แม้จะหันหน้าไปมอง
บรรณาธิการก้าวไปยืนแยกขาบังอยู่ตรงหน้าโทรทัศน์ สองมือกอดอกไว้แน่น จ้องหน้ากงเจินเขม็ง
กงเจินเงยหน้าขึ้นมองเขาทีหนึ่งก่อนจะก้มลงจ้องมองหว่างขาของบรรณาธิการที่แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในระดับสายตาเลยทีเดียว จากนั้นก็ยิ้มอย่างเย้าแหย่ว่า ?ตอนนี้ผมเพิ่งค้นพบว่าขนาดของคุณก็ไม่เลวเลยทีเดียว...?
มุมปากของบรรณาธิการกระตุกเบาๆ หนึ่งที พร่ำบอกตนเองในใจรอบแล้วรอบเล่าว่า...เขาต้องอดทนไว้ ผ่านมาก็หลายปีเขาควรจะชินเสียที ขอเพียงอดทนสักพัก อีกสองปีไม่แน่ว่าเขาอาจได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการแล้วก็ได้
มองดูใบหน้าฝืนทนของบรรณาธิการแล้วกงเจินก็หัวเราะออกมาทีหนึ่ง ปิดโทรทัศน์ จากนั้นก็โยนรีโมตไปอีกด้าน
?ผมไม่ได้ลักกินขโมยกินสักหน่อย ใช่ว่าคุณจะไม่เข้าใจผม ผมอยู่กับใครผมเปิดเผยเสมอแหละ วันนี้ก็แค่เจอเธอโดยบังเอิญ เธอเป็นฝ่ายเข้ามาทักทายผมเองต่างหาก แม้แต่เธอเป็นใครผมยังไม่รู้เลย? พูดไปกงเจินก็หยิบเค้กอีกชิ้นหนึ่งส่งเข้าปาก หลังจากที่กัดไปหนึ่งคำ สองตาก็มองดูบรรณาธิการพลางเลียครีมตรงมุมปากหนึ่งครั้ง ปลายลิ้นสีชมพูของเขาวาดผ่านมุมปากช้าๆ ทว่ากลับยั่วยวนอย่างประหลาด
แต่ในสายตาของบรรณาธิการแล้ว นี่คือนกยูงสีสันฉูดฉาดกำลังรำแพนยั่วยวนอยู่ต่างหาก
กงเจินเหมือนกับนกยูงที่สวยงามตัวหนึ่ง เป็นเครื่องจักรทางเพศ ที่สำคัญคือเขาไม่เกี่ยงชายหญิง ชีวิตส่วนตัวของกงเจินนั้นขึ้นชื่อเรื่องความมั่ว แต่ความสามารถของกงเจินก็เป็นของจริงด้วยเช่นกัน
แม้ว่าความสามารถของคนคนหนึ่งจะไม่อาจชดเชยได้ทุกสิ่ง แต่ก็ง่ายต่อความเข้าใจและได้รับการให้อภัยจากผู้อื่นมากขึ้น
นิสัยแย่ๆ ของกงเจินเป็นที่รับรู้กันอย่างเปิดเผย
แต่คำว่านิสัยแย่ๆ นั้นก็ต้องดูด้วยว่าเป็นของใคร หากดารานิสัยไม่ดี นั่นคือหยิ่ง แต่หากคนที่นิสัยไม่ดีเป็นนักเขียนแล้วละก็ นั่นคือมีความเป็นตัวของตัวเอง หรือไม่ก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนักเขียน
กงเจินในฐานะที่เป็นนักเขียนชื่อดังทั้งหนุ่มแน่นและหล่อเหลา เพียงแค่สองจุดนี้ก็เพียงพอที่จะดึงดูดผู้อื่น เป็นดั่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองของบริษัท ดังนั้นแม้จะนิสัยแย่ ชีวิตส่วนตัวมั่วซั่ว บรรณาธิการก็ทำได้เพียงแค่อดทนเท่านั้น ความรู้สึกที่บรรณาธิการมีต่อกงเจินนั้น ทั้งรักและแค้นเลยทีเดียว
ตลอดหลายปีที่บรรณาธิการมารับผิดชอบกงเจิน เขารู้สึกว่าตนเองเหมือนแก่ลงไปหลายปี เปลี่ยนผ่านจากวัยผู้ใหญ่ไปสู่วัยกลางคนอย่างไม่ทันรู้ตัว เหมือนตนเองทำเวลาหายไปเป็นสิบปี
?ได้ เรายังไม่พูดถึงเรื่องอื่นแล้วกัน ตอนนี้พวกเรามาคุยเรื่องซีเรียสกันหน่อยนะครับ? บรรณาธิการถอนหายใจหนึ่งเฮือก พร้อมกับปรับสภาพอารมณ์ของตนเองอยู่ชั่วครู่ เพราะไม่ว่าอย่างไรเรื่องที่จะทำต่อไปนี้ต่างหากที่สำคัญ
วันนี้เขามาคุยกับกงเจินเพื่อหารือเรื่องตารางงานเกี่ยวกับละครโทรทัศน์ที่กำลังจะเปิดกล้องเร็วๆ นี้
กงเจินมีนิยายเรื่องหนึ่งที่กำลังจะถูกดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ ทั้งหมดถูกเตรียมการไว้พร้อมแล้วและจะเปิดกล้องในไม่ช้า นิยายเรื่องนี้เล่าถึงการฆาตกรรมต่อเนื่องในโรงแรมแห่งหนึ่ง พูดได้ว่าเป็นผลงานที่เผาสมองของเขาเลยทีเดียว เพราะมีทั้งปมคดีและความรักจึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านหลายช่วงอายุ แม้ทุกวันนี้การอ่านแบบออนไลน์จะแพร่หลายอย่างกว้างขวาง ทว่าหลังจากตีพิมพ์ นิยายเรื่องนี้เคยขึ้นแท่นหนังสือขายดีอันดับหนึ่งเป็นเวลานานหลายเดือน การดัดแปลงเป็นบทละครโทรทัศน์ในครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีผลงานชิ้นหนึ่งของกงเจินถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้ว แต่ในฐานะที่เป็นผลงานชิ้นแรกที่ได้รับการดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ ประกอบกับทางผู้อ่านเองก็คาดหวังเป็นอย่างมาก เรื่องนี้จึงเป็นที่จับตามองอยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่เริ่มมีการโฆษณาว่าจะมีการเปิดกล้องในเร็วๆ นี้
ในฐานะที่เป็นผู้ประพันธ์เดิมและหนึ่งในผู้เขียนบท ครั้งนี้กงเจินจึงต้องเข้าร่วมการถ่ายทำด้วยจนจบการถ่ายทำ นี่เป็นข้อเรียกร้องที่กงเจินยื่นต่อทีมงานถ่ายทำตั้งแต่แรก ซึ่งผู้อำนวยการผลิตเองก็ต้องการเช่นนี้อยู่แล้ว เพราะหากกงเจินเข้าร่วมการถ่ายทำกับทีมงาน แน่นอนว่าจะช่วยเพิ่มจุดสนใจให้กับละครเรื่องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะที่ผู้อำนวยการผลิตพึงพอใจ บรรณาธิการกลับเครียดแทน เพราะมีแต่ตนเองเท่านั้นที่รู้ว่าเทพกงเจินองค์นี้ ใช่ว่าใครจะสามารถปรนนิบัติเขาได้
?สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่อยู่ในโรงแรม ดังนั้นจึงไม่ต้องออกโลเกชันบ่อยๆ...?
บรรณาธิการแนะนำสถานที่ถ่ายทำในครั้งนี้ให้กับกงเจิน ดูเหมือนกงเจินไม่ค่อยจะสนใจเท่าไรนักแต่ก็รับฟังอย่างตั้งใจ แถมยังถามแทรกบ้างเป็นบางครั้ง
เมื่อแจ้งสถานการณ์โดยทั่วไปเรียบร้อยแล้ว บรรณาธิการก็เก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ ทว่าพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ ?ใช่แล้ว ทางผู้ผลิตให้ผมมาถามคุณว่า คุณจะเป็นนักแสดงรับเชิญในครั้งนี้ด้วยไหมครับ??
?ผมไม่สนใจแสดงละคร? กงเจินเปิดโทรทัศน์ขึ้นใหม่อีกครั้ง ระหว่างที่เปลี่ยนช่องดูก็เอ่ยขึ้นว่า ?งานของผมคือเขียนบทละคร เรื่องอื่นผมจะไม่เข้าร่วมอะไรทั้งนั้น?
สำหรับเรื่องนี้บรรณาธิการเห็นด้วยกับกงเจินอย่างเต็มที่ ในด้านการทำงานแล้วกงเจินเป็นมืออาชีพมาตลอด ต่อให้เขาส่งงานช้า นั่นก็เพราะตัวงานมีความจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติม ต่อให้เขาต้องส่งงานเลยกำหนด ก็ต้องแก้จนกว่าตนเองจะพอใจ
?งั้น ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะครับ? บรรณาธิการนึกไปนึกมาจึงเอ่ยขึ้นอย่างไม่วางใจว่า ?มีอะไรก็โทรเข้ามือถือผมนะครับ?
กงเจินยิ้มออกมา เงยหน้าขึ้นพูดกับเขาว่า ?คุณชักจะเหมือนแม่ผมเข้าทุกวันแล้วนะครับ?
?ช่างมันเถอะครับ อย่างมากผมก็เป็นได้แค่พี่เลี้ยง?
หลังจากที่บรรณาธิการกลับไป กงเจินเปลี่ยนช่องอย่างเบื่อหน่ายอีกสักพัก เมื่อพบว่าไม่มีรายการที่น่าสนใจเขาก็ตัดสินใจปิดโทรทัศน์แล้วลุกขึ้นมายังโต๊ะคอมพิวเตอร์สำหรับทำงาน
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเครื่องนี้อยู่ในสภาพเปิดเครื่องตลอดเวลา ไฟล์ก็ถูกเปิดไว้เช่นกัน ด้านบนนั้นมีตัวอักษรเป็นช่วงๆ เพียงไม่กี่บรรทัด แม้จะยังเขียนบทนำไม่เสร็จ แต่ด้านล่างกลับเขียนไว้ไม่น้อย
นี่เป็นผลงานชิ้นใหม่ ยังไม่ได้ตกลงว่าจะตีพิมพ์เมื่อไร ดังนั้นจึงยังไม่รีบ ยามมีเวลาว่างเขาจะเขียนเพิ่มทีละนิดทีละหน่อยไปเรื่อยๆ
หลังจากพิมพ์ตัวอักษรด้วยความรวดเร็วไปหลายบรรทัด กงเจินขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือออกไปหยิบบุหรี่ที่วางไว้ด้านข้าง จุดหนึ่งมวนมาคาบไว้ในปาก มือหนึ่งเท้าคางมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์
นี่เป็นฉากที่พระเอกกำลังบอกลาคนรัก มันขมขื่นแต่ก็มีความอ่อนโยนแฝงอยู่ด้วยเล็กน้อย...หากพูดตามคำพูดทั่วไปแล้วก็คือ น้ำเน่านั่นเอง
กงเจินหยิบบุหรี่ออกแล้วพ่นควันออกมา เขาขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนจะยื่นนิ้วชี้ไปกดปุ่มลบ จัดการลบตัวอักษรไม่กี่บรรทัดที่เพิ่งพิมพ์ไปเมื่อครู่จนหมดสิ้นถึงรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นอีกครั้ง
บางทีเขาลองเปลี่ยนรสชาติดูก็ไม่เลว ลองเปลี่ยนไปลิ้มลองผลงานแนวอื่นดูบ้าง อย่างเช่น...นิยายอีโรติกอะไรพวกนี้?
คิดไปคิดมาแล้วกงเจินก็ดับบุหรี่ลง จากนั้นลุกขึ้นยืนพร้อมกับพับหน้าจอโน้ตบุ๊กลง

***

สถานที่ถ่ายทำหลักของละครเรื่องนี้คือโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่ออันไพเราะว่า...หลิงหลง
โรงแรมหลิงหลงตั้งอยู่ในภูเขา ล้อมรอบไปด้วยป่าเขาและลำธาร วิวสวย อากาศดี อาคารสร้างแบบเรือนโบราณจำนวนหกชั้นดูเก่าแก่และอลังการ ได้ยินมาว่าบางส่วนของอาคารมีประวัติกว่าร้อยปี เห็นว่าเคยเป็นบ้านพักของตระกูลใหญ่ในพื้นที่มาก่อน แต่ไม่มีคนอาศัยอยู่นานหลายปีจนถูกปรับปรุงต่อเติมอย่างประณีตในภายหลังโดยรักษารูปแบบอาคารสมัยเก่าแบบดั้งเดิมไว้ แต่เพิ่มเติมความทันสมัยแบบสมัยใหม่เข้าไป กลายเป็นโรงแรมตากอากาศที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนต้องมีการจองห้องล่วงหน้า
ทีมงานเข้าพักในโรงแรมอย่างเอิกเกริก เพราะว่ามีการติดต่อมาล่วงหน้าแล้วแขกส่วนใหญ่ของโรงแรมในช่วงนี้จึงเป็นพวกทีมงาน และนั่นทำให้พวกเขาสามารถถ่ายทำได้อย่างวางใจ
หลังจากทีมงานทุกคนเข้าพักเรียบร้อยแล้ว กงเจินเพิ่งจะมาถึงเอาตอนเย็นของวันนั้น เขาใส่ชุดลำลอง สวมแว่นตานักบิน ด้านหลังลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีดำ แถมยังสะพายเป้มาด้วยอีกหนึ่งใบ ทันทีที่เข้ามาในโรงแรมก็ดึงดูดสายตาไม่น้อย
พนักงานต้อนรับประจำเคาน์เตอร์ยืนยันตัวตนของกงเจินก่อนจะหยิบเอกสารคืนให้พร้อมกับคีย์การ์ด ?นี่เป็นห้องสแตนดาร์ดของคุณค่ะ?
กงเจินเลิกคิ้วขึ้น พูดขึ้นว่า ?ผมต้องการเปลี่ยนห้อง?
?ได้ค่ะ คุณต้องการเปลี่ยนเป็นห้องอะไรคะ?? พนักงานต้อนรับสาวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
?ห้องที่ดีที่สุดของพวกคุณคือห้องอะไรครับ??
?พวกเรามีห้องเพรสซิเดนเชียลสวีตค่ะ? พนักงานต้อนรับสาวก้มหน้าลงตรวจสอบในหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว ?ตอนนี้ยังเหลือห้องว่างอีกสองห้อง เพียงคุณชำระส่วนต่างราคาห้องก็สามารถดำเนินการให้คุณได้ทันทีค่ะ?
กงเจินควักกระเป๋าเงินออกมาอย่างไม่ลังเล แล้วหยิบบัตรเครดิตออกมายื่นให้
?กรุณารอสักครู่นะคะ? พนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์ใช้สองมือรับบัตรเครดิตจากกงเจินมาเพื่อดำเนินการให้กับเขา
ในช่วงเวลาแห่งการรอคอยอันแสนสั้นนี้ กงเจินมองสำรวจรอบข้างอย่างเบื่อๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีคนเดินผ่านด้านหลังของตนเองไป เขาหันหน้ากลับไปดูโดยอัตโนมัติ คนเดินเข้าออกโรงแรมจำนวนไม่น้อยแต่กงเจินสามารถมองเห็นแผ่นหลังสูงใหญ่นั้นได้ทันที ไหล่ของชายหนุ่มกว้างมาก เข้ากับเสื้อสูทที่เขาสวมใส่อยู่อย่างพอดีตัว
คนคนนั้นเดินออกประตูใหญ่ พนักงานต้อนรับตรงหน้าประตูยิ้มทักทายเขา เขาเองก็หยุดลงเล็กน้อย พยักหน้าให้กับอีกฝ่าย
ตั้งแต่ต้นจนจบกงเจินเห็นเพียงแค่ใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่มเท่านั้น กงเจินเก็บสายตากลับมา แม้แต่ตนเองยังรู้สึกประหลาด เพราะอะไรถึงได้มองคนแปลกหน้านานขนาดนี้กันนะ...
หลังจากดำเนินการเรื่องเข้าพักเสร็จ พนักงานขนสัมภาระก็พากงเจินพร้อมกับสัมภาระของเขาไปยังห้องเพรสซิเดนเชียลสวีตซึ่งอยู่ชั้นสูงสุดของโรงแรม ห้องพักตกแต่งโดยผสมผสานระหว่างสมัยเก่าและสมัยใหม่อย่างลงตัว ในห้องสวีตมีห้องรับแขกขนาดใหญ่พร้อมบาร์ ห้องครัว ส่วนห้องนอนแยกออกต่างหากอย่างเป็นสัดเป็นส่วน วิวด้านนอกวิเศษที่สุด สามารถมองทิวทัศน์งดงามซึ่งแตกต่างกันผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทั้งสองบาน ด้านหนึ่งคือขุนเขา อีกด้านหนึ่งคือสายน้ำ หากตื่นเช้าสักหน่อยยังมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้อีกด้วย
ตอนนี้ทั้งสี่ทิศอบอวลด้วยกลิ่นหอมของไม้หอมจางๆ คล้ายจะมีแต่ก็เหมือนไม่มี...
กงเจินค่อนข้างพอใจกับสภาพห้องจึงให้ทิปไปอย่างใจกว้าง หลังจากที่พนักงานขนสัมภาระจากไปแล้ว เขาถอดแว่นกันแดดออกไปยืนตรงหน้าหน้าต่างบานหนึ่ง หนึ่งมือยันไว้กับกระจก ชื่นชมกับทิวทัศน์ด้านนอก
ทัศนียภาพรอบข้างเป็นไปตามคำเล่าลือ ทิวเขาขึ้นลงทอดยาวออกไป ยอดภูเขาลูกหนึ่งที่ไม่ห่างไกลมากนักมีดอกสีขาวบานสะพรั่งจนเห็นเป็นทุ่งขาวโพลนไปทั้งยอดเขา เทียบกับในเมืองซึ่งเต็มไปด้วยอาคารตึกสูงที่แข็งกระด้างแล้ว สีเขียวสุดลูกหูลูกตาเช่นนี้ทำให้สบายไปหมดทั้งร่างกายและจิตใจ จนรู้สึกผ่อนคลายลงอย่างไม่รู้ตัว
กงเจินหายใจยาวๆ หนึ่งครั้ง จิตใจที่หม่นหมองของเขาตลอดหลายวันมานี้ได้รับการเยียวยาขึ้นเล็กน้อย เขาหันหลังเดินเข้าไปในห้องนอน เพิ่งจะถอดเสื้อนอกโยนลงบนโซฟาก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตูดังขึ้น
เมื่อเปิดประตูแล้วผู้ที่เข้ามามีอายุราวยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดปี หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง สวมชุดสูทสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาวด้านใน ยืนตัวตรงทำให้เขาดูภูมิฐานและสง่า
?สวัสดีครับ คุณกง? ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพออกมา ?ผมคือพ่อบ้านประจำห้องเพรสซิเดนเชียลสวีตของคุณครับ...ฟังหยาง?
พ่อบ้าน? กงเจินมองคนตรงหน้าขึ้นลงอย่างพินิจพิจารณา
?แขกห้องเพรสซิเดนเชียลสวีตของพวกเราจะมีพ่อบ้านประจำตัวครับ โดยจะให้บริการคุณทุกอย่างอย่างครบครัน เพื่อให้คุณได้มีช่วงเวลาอันน่าประทับใจในการพักผ่อนอยู่ที่นี่ครับ? ฟังหยางอธิบาย
ไม่ได้เอ่ยคำพูด กงเจินเพียงแค่ส่งรอยยิ้มให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก
รอยยิ้มของฟังหยางยังคงสดใสเช่นเดิม ?ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ผมจะเป็นผู้รับผิดชอบให้บริการคุณเองครับ หากมีความต้องการหรือข้อเรียกร้องใด คุณสามารถบอกผมได้เลยนะครับ?
มุมปากของกงเจินยกขึ้นเล็กน้อย ?เป็นคำพูดที่เป็นทางการจังเลยน้า?
ฟังหยางกะพริบตาหนึ่งที รอยยิ้มยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ?แม้จะฟังดูแล้วเป็นทางการ แต่บริการของพวกเรานั้นเป็นชั้นหนึ่งแน่นอนครับ ผมเชื่อมั่นว่าคุณจะได้สัมผัสมันด้วยตัวเองอย่างแน่นอน?
กงเจินไม่ยินดียินร้ายกับถ้อยคำของฟงหยาง
?คุณมีข้อเรียกร้องในด้านอาหารและการพักอาศัยอะไรเป็นพิเศษไหมครับ?? ฟังหยางเอ่ยถาม ?เช่น มีอาหารใดที่ไม่ชอบรับประทาน หรือต้องการเวลาส่วนตัวเวลาใดเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าครับ??
?ฉันต้องการความสงบ ไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามารบกวน?
?ไม่มีปัญหาครับ? ฟังหยางพยักหน้า ?พวกเราสามารถกำหนดเวลาทำความสะอาดล่วงหน้าได้ นอกจากเวลาดังกล่าวแล้ว จะไม่มีใครมารบกวนคุณแน่นอนครับ? เคยมีแขกท่านหนึ่งมาพักที่โรงแรมเป็นเวลาหนึ่งเดือนโดยไม่ก้าวเท้าออกจากห้องเลย คงเป็นแขกที่รักความสงบเช่นเดียวกัน
กงเจินพยักหน้า แล้วกลับไปพิจารณาฟังหยางอย่างละเอียดอีกครั้ง
สายตาของกงเจินค่อนข้างแหลมคมแฝงไว้ด้วยการพินิจ ฟังหยางเองก็ไม่สนใจ ก่อนมาที่นี่เขาได้ทราบแล้วว่ากงเจินเป็นนักเขียนชื่อดัง ครั้งนี้มาร่วมการถ่ายทำกับทีมงาน คนเป็นนักเขียนก็ต้องมีนิสัยเสียบ้างเป็นธรรมดา
ฟังหยางอธิบายบริการของห้องเพรสซิเดนเชียลสวีตอย่างง่ายหนึ่งรอบ สุดท้ายก็พูดขึ้นว่า ?หวังว่าช่วงเวลาที่คุณอยู่ที่นี่ คุณจะรู้สึกสบายเหมือนกับอยู่บ้านของตนเองนะครับ?
กงเจินยิ้มบางๆ ให้เขาก่อนจะพาดขายาวทั้งคู่ลงบนโต๊ะรับแขกไม้ที่แกะสลักเป็นรูปดอกไม้สวยงาม เอ่ยขึ้นว่า ?ฉันก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน?
?เช่นนั้นผมไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณแล้วนะครับ? ฟังหยางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงหันหลังเดินออกไป
ที่ด้านหลัง กงเจินมองตามแผ่นหลังของฟังหยางพลางขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย...



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?จากนี้ไปหากคุณมีความต้องการใดอีก สามารถบอกผมได้เลยนะครับ ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถ?

กงเจินรู้ดีว่านอกจากใบหน้า รูปร่าง และความสามารถในการประพันธ์แล้วตนเองก็หาข้อดีอย่างอื่นไม่ได้อีกเลย ไม่ว่าจะเป็นนิสัยใจคอไปจนถึงชีวิตส่วนตัว แต่ถึงอย่างนั้นสวรรค์ก็ไม่น่าต้องส่งศัตรูคู่ปรับมากำราบเขานี่? นับตั้งแต่ที่เขาเข้าพักยังห้องเพรสซิเดนเชียลสวีตแห่งนี้และพบกับพ่อบ้านส่วนตัวฟังลี่เป็นต้นมา เขาก็เหมือนโดนข่มอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าเขาจะพยายามเล่นงานเจ้าคนหน้าตายนั่นอย่างไร ท้ายสุดก็จะโดนหมอนั่นเล่นงานกลับมาได้เสมอ แม้กระทั่งการจงใจกลั่นแกล้งโดยขอให้ฟังลี่ช่วยบรรเทาความใคร่ของเขา...
เดี๋ยวก่อน! หมอนี่กลับทำตามคำสั่งอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย?! แม้ว่าตั้งแต่ที่ฟังลี่ช่วยนวดให้เขาในบ่อน้ำแร่จะทำให้เขาเริ่มสนใจในเนื้อตัวของฟังลี่ก็ตาม ทว่าฟังลี่กลับตกปากรับคำอย่างง่ายดายแบบนี้...บ้าชะมัด คงไม่ใช่ว่าเขากำลังตกลงไปในหลุมกับดักหรอกนะ?


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”