New Release : พิศวาสรักนางบำเรอจำยอม

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : พิศวาสรักนางบำเรอจำยอม

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ

ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่โตของเศรษฐีคู่หนึ่งซึ่งชีวิตพรั่งพร้อมไปทุกอย่าง มีเงินทองจับจ่ายใช้สอยไม่ขาดมือ แต่พวกเขากลับไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตคู่ที่ยังไม่สมบูรณ์เสียทีเดียว นั่นก็เป็นเพราะว่าทั้งสองยังไม่มีลูกน้อยเป็นบ่วงคล้องใจ ทั้งๆ แต่งงานมานานเกือบสิบปีแล้ว
อรสุดาผู้เป็นภรรยาอยากมีลูกใจจะขาด หญิงสาวพยายามทำทุกวิถีทางทั้งทางธรรมชาติและทางวิทยาศาสตร์ ทว่าไม่มีลูกสักที และตอนนี้หญิงสาวก็กำลังนั่งน้ำตาซึมขณะดูรายการทีวีแล้วมีโฆษณาครีมอาบน้ำเด็กขั้นรายการ
?ลูกของดาราคนนี้น่ารักมากเลยนะคะ...คุณวิน?
ปวินทร์ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ที่กำลังอ่านอยู่เพื่อมองโฆษณาตามคำบอกของภรรยา พร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย
?อืม...ครับ เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ โตขึ้นคงสวยเหมือนแม่?
เอ่ยบอกภรรยาไปแล้วก็หลุบสายตาอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ โดยไม่ทันได้มองดวงตาของภรรยาซึ่งแดงก่ำมีน้ำตาคลอเบ้า สะอื้นออกมาเบาๆ ขณะเอ่ยตัดพ้อกับสามี
?ทำไมเราไม่มีบุญเหมือนคนอื่นๆ ทั้งปรึกษาหมอ ทั้งทำกิ๊ฟต์แต่ก็ไม่สำเร็จ...เราอยากมีลูกใจจะขาด เรามีเงินทองมากมายที่จะเลี้ยงลูกได้เป็นอย่างดี แต่ทำไม...ทำไมลูกไม่มาเกิดกับพวกเรา?
อรสุดาสะอื้นไห้จนตัวสั่นโยน พลันนั้นก็เหลือบสายตาเห็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งมีภาพและเนื้อหาข่าวเขียนถึงทารกที่ถูกทิ้งในกองขยะ ก็คว้าหนังสือพิมพ์มากำไว้แน่น น้ำตานองใบหน้า น้อยใจกับวาสนาของตัวเองที่ไม่มีโอกาสได้เป็นแม่คน
?เด็กแรกเกิดถูกทิ้งอยู่ในกองขยะ ถูกมดแมลงรุมกันปางตาย โธ่...ทำไมไม่มาเกิดกับเรา ทำไมต้องไปเกิดกับแม่ใจยักษ์ใจมารที่ทิ้งลูกได้ลงคอ?
?อร...หยุดร้องไห้เถอะครับ สักวันลูกต้องมาเกิดกับพวกเราแน่นอน?
ปวินทร์โอบกอดปลอบประโลมให้ภรรยาหายเสียใจ ใช่ว่าจะมีแค่ภรรยาที่อยากมีลูก เขาเองก็อยากมีลูกมาก เขากับภรรยาสรรหาและทำทุกอย่างแล้วแต่ก็ยังไร้วี่แววจนเขาเริ่มถอดใจ
แทนที่จะหยุดร้องไห้ อรสุดากลับร้องไห้หนักกว่าเดิม
?เราทำกิ๊ฟต์ไปหลายรอบแล้วนะคะ แต่ลูกก็ไม่มาเกิดกับเรา อรคงเป็นพวกบาปหนา ถึงไม่มีลูกเหมือนคนอื่นๆ?
?อย่าโทษตัวเองสิครับ...เชื่อผมนะครับว่าสักวันเราต้องมีลูกด้วยกันแน่ๆ?
ปวินทร์ได้แต่หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น และในนาทีนี้เขาทำได้แค่เพียงเอ่ยปลอบภรรยาให้หายจากอาการโศกเศร้า แต่ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวสมอง จึงเอ่ยถามภรรยาว่า
?อร...เคยได้ยินเรื่องลูกอิจฉาไหมครับ?
?ลูกอิจฉาอย่างนั้นหรือคะ? อรสุดายกมือเช็ดคราบน้ำตา เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความงุนงงขณะเอ่ยถามต่อ ?คุณวินหมายถึงอะไรคะ?
?ผมเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดว่า ใครมีลูกยากให้ไปขอเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม หลังจากนั้นไม่นานก็จะมีลูกของตัวเอง ลูกที่เกิดมาจึงเรียกว่าลูกอิจฉาอย่างไรล่ะครับ?
?เหมือนเป็นการแก้เคล็ดที่มีลูกยากใช่ไหมคะ? อรสุดาพึมพำแกมถามไปในตัว เริ่มคิดตามที่สามีเอ่ยบอก
?ใช่แล้วครับ บางรายรอเป็นสิบๆ ปี ทำกิ๊ฟต์ไปไม่รู้กี่รอบแต่ก็ไม่มีลูก แต่พอขอเด็กกำพร้ามาเลี้ยง ไม่ทันข้ามปีเมียก็ท้องแล้ว?
คำบอกเล่าของสามีทำให้อรสุดามีความหวังขึ้นมาทันที
?ถ้าอย่างนั้นเราลองไปทำเรื่องขอเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดีไหมคะ เผื่อว่าอรจะท้อง มีลูกอิจฉาให้พวกเราจริงๆ?
ปวินทร์พยักหน้ารับกับคำปรึกษาจากภรรยา
?ผมก็คิดจะทำแบบนั้นนานแล้วแต่ไม่ได้บอกอรสักที?
?ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราไปติดต่อขอเด็กกำพร้ามาเลี้ยงเลยนะคะ อรใจร้อน อยากเป็นแม่คนแล้วค่ะ?
?ได้ครับ พรุ่งนี้เราจะไปสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เช้าเลยครับ แต่ถ้าเรารับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงแล้วเราไม่มีลูกของตัวเองก็ไม่เป็นไร เราจะเลี้ยงดูเด็กคนนั้นเป็นอย่างดี เสมือนเขาเป็นลูกของเราเอง?
?ค่ะ เราจะเลี้ยงเด็กคนนั้นให้ดีที่สุดค่ะ?
อรสุดาคลี่ยิ้มกว้าง ใบหน้าระบายไปด้วยความสุข เธอจะขออุปการะเด็กกำพร้ามาเป็นลูก หากเป็นเหมือนคนเฒ่าคนแก่พูดว่าเมื่อมีลูกบุญธรรมแล้วจะมีลูกอิจฉาเกิดตามมาก็ยิ่งเป็นการดี แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะเลี้ยงเด็กกำพร้าคนนั้นไม่ต่างจากลูกในไส้ของตนเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สามสัปดาห์ต่อมา...หลังจากทำเอกสารเรื่องติดต่อขอรับเด็กกำพร้ามาเป็นบุตรบุญธรรม และผ่านการตรวจสอบจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเรียบร้อยแล้ว ในวันนี้เป็นวันที่อรสุดาตื่นเต้นมากที่สุด หญิงสาวเตรียมตัวตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อไปรับเด็กกำพร้ามาเป็นลูกบุญธรรม
?อรตื่นเต้นจังเลยค่ะคุณวิน อีกไม่กี่นาทีเราก็จะได้เห็นเด็กที่จะรับมาเลี้ยงแล้ว?
?ผมก็ตื่นเต้นไม่แพ้คุณ อยากรู้ด้วยว่าเด็กจะเข้ากับเราได้ไหม? ปวินทร์หันมาคลี่ยิ้มให้กับภรรยา ขณะขับรถเลี้ยวเข้าไปในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
?มือของอรเย็นไปหมดแล้วค่ะ?
ไม่ได้เอ่ยบอกเพียงเท่านั้น อรสุดาเอื้อมมือไปจับต้นแขนของสามี เพื่อให้พิสูจน์ว่าเธอตื่นเต้นจนมือไม้เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งก็ไม่ปาน
?ผมคิดว่ามือของผมเย็นกว่านะครับ?
ปวินทร์เอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะร่วน พอจอดรถในลานจอดได้แล้วก็เอื้อมมือไปวางบนพวงแก้มของภรรยา เอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มว่า
?เห็นไหมครับว่าเย็นเฉียบ เพราะผมตื่นเต้นกว่าอรอีก?
?ค่ะๆ เชื่อแล้วค่ะ? อรสุดาหัวเราะร่วน พอมองเห็นผู้อำนวยการสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามายืนรอต้อนรับก็รีบลงจากรถในทันที ?ไปเถอะค่ะ คุณสุมาลินมารอพวกเราแล้ว?
?ครับผม?
ปวินทร์กุมมือภรรยาให้เดินตรงไปหาผู้อำนวยการที่ชื่อสุมาลิน พร้อมกับยกมือไหว้ทักทายอีกฝ่ายพร้อมๆ กันกับภรรยา
?สวัสดีค่ะคุณสุมาลิน?
?สวัสดีครับ?
?สวัสดีค่ะ เชิญคุณทั้งสองเข้าไปในห้องทำงานของดิฉันเลยค่ะ เด็กรอคุณอรสุดาอยู่ในห้องแล้วค่ะ? ผู้อำนวยการทักทายพร้อมกับผายมือเชิญด้วย
?ตื่นเต้นจังเลยค่ะคุณวิน?
อรสุดาหันมาเอ่ยบอกสามีขณะกุมมือกันเดินเข้าไปในห้องของผู้อำนวยการ และทันทีที่เห็นเด็กหญิงวัยห้าขวบที่ตนเองได้ติดต่อขอรับเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งนั่งก้มหน้านิ่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆ กับพี่เลี้ยงก็ปรี่เข้าไปสวมกอดไว้แน่น
?หนูน่ารักมากเลยลูก ไปอยู่กับคุณแม่นะคะ? อรสุดาเอ่ยพูดกับเด็กน้อยพลางหอมแก้มยุ้ยๆ ซ้ายขวาฟอดใหญ่ด้วยความรัก
เด็กน้อยไม่ตอบ นอกจากเงยหน้าขึ้นมองผู้อำนวยการสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ตนเองเรียกว่า ?แม่ใหญ่? ราวกับกำลังขอความเห็นจากท่าน
?นลิน ยกมือไหว้คุณแม่สิลูก? สุมาลินหรือแม่ใหญ่เอ่ยบอก เด็กน้อยรีบทำตามอย่างรวดเร็ว
?สวัสดีค่ะคุณแม่? ปากน้อยๆ กล่าวสวัสดีเสียงใสพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยกิริยาอ่อนช้อยเพราะถูกแม่ใหญ่และพี่เลี้ยงสอนมาดี
?น่ารัก น่าเอ็นดูที่สุดเลยลูก? อรสุดายิ้มกว้าง หอมแก้มลูกบุญธรรมอีกหลายฟอด ก่อนจะหันไปเอ่ยถามความเห็นจากผู้อำนวยการ
?ให้เด็กใช้ชื่อเดิมที่เอ่อ...แม่ของเธอตั้งให้ตั้งแต่แรกเกิดใช่ไหมคะ?
สุมาลินพยักหน้ารับคำ ต้องการให้เป็นเช่นนั้น ท่านไม่อยากให้ผู้อุปการะเปลี่ยนชื่อเด็ก เผื่อว่าสักวันพ่อแม่ที่แท้จริงกลับมาตามหาลูก ก็จะได้ตามพบได้ง่ายๆ จากชื่อเดิมที่พวกเขาได้ตั้งไว้
?ใช่ค่ะ เด็กถูกทิ้งไว้พร้อมกับระบุชื่อว่านลินดา ดิฉันเรียกสั้นๆ ว่านลิน คุณอรสุดาใช้ชื่อนี้ได้เลยค่ะ?
?แม่ของเด็กช่างรู้จักตั้งชื่อนะคะ ความหมายดีซะด้วย เพราะนลินแปลว่าดอกบัว? อรสุดาทอดสายตามองเด็กน้อย ถูกชะตากับเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก
?ใช่แล้วค่ะ นลินแปลว่าดอกบัว...มีคำโบราณบอกว่าดอกบัวเป็นดอกไม้ที่อยู่ใต้น้ำ แต่สุดท้ายก็โผล่พ้นอยู่เหนือผืนน้ำ กลายเป็นดอกไม้ที่บอบบางและบริสุทธิ์ยิ่งนัก?
สุมาลินทรุดตัวลงนั่งยองๆ อยู่ด้านหน้านลินดา สองมือที่เคยอุ้มชูเด็กน้อยมาหลายปีเอื้อมไปประคองใบหน้าปลั่งไว้แล้วเอ่ยสั่งสอนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะให้นลินดาไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม
?นลิน จำคำพูดของแม่ใหญ่ไว้นะลูก จงเป็นเด็กดี ทำตัวให้เหมือนดั่งดอกบัว ซึ่งสักวันก็จะเผยความงดงามอยู่เหนือผืนน้ำ ที่ผ่านมาหนูถูกพ่อแม่แท้ๆ ทิ้งไป แต่หนูก็ยังโชคดีมีคุณแม่อรสุดาและคุณพ่อปวินทร์รับไปเลี้ยงดู จงรู้จักทดแทนคุณและทำตัวเป็นลูกที่ดีของท่านทั้งสองนะคะ?
?ค่ะแม่ใหญ่ นลินจะจำคำพูดของแม่ใหญ่ไว้ค่ะ?
นลินดารับคำเสียงแผ่วเบา ตาแดงๆ เหมือนกำลังจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีก็ต้องจากแม่ใหญ่ไปแล้ว และก็ถูกแม่ใหญ่ห้ามในทันที
?อย่าร้องนะนลิน แม่ใหญ่สอนให้ลูกของแม่ทุกคนเข้มแข็ง อย่าร้องไห้ให้กับอุปสรรคหรือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ?
?ค่ะแม่ใหญ่ นลินจะไม่ร้องไห้ค่ะ? แม้อยากร้องไห้มากเพียงใด แต่นลินดาก็เชื่อฟังคำพูดของแม่ใหญ่และพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้สุดกำลัง
?ไปกับคุณแม่อรสุดาได้แล้ว แม่ใหญ่ขอให้หนูโชคดีในชีวิต? ว่าแล้วแม่ใหญ่ก็ยกร่างของเด็กน้อยให้ลงจากเก้าอี้ จับมือเล็กไปส่งให้กับอรสุดาและปวินทร์ที่ยืนรออยู่
?ฝากดูแลลูกของดิฉันด้วยนะคะ? สุมาลินเอ่ยฝากฝังเป็นครั้งสุดท้าย
?ค่ะ เราจะดูแลนลินดาให้ดีที่สุดเหมือนเป็นลูกของเราเองเลยค่ะ? อรสุดารับคำ พลางก้มลงอุ้มนลินดามาไว้ในอ้อมแขน
?ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมกับภรรยาจะดูแลนลินต่อจากคุณสุมาลิน เราจะให้การศึกษาแก่นลินโดยไม่ขาดตกบกพร่องครับ?
ปวินทร์ให้คำมั่นสัญญาอีกคน พลางเอื้อมมือรับกระเป๋าเสื้อผ้าซึ่งมีแค่ไม่กี่ตัวของนลินดามาจากสุมาลินก่อนจะกล่าวคำลา
?เรากลับก่อนนะครับ?
?ค่ะ ดิฉันจะไปส่งที่รถค่ะ?
สุมาลินเดินตามไปยังรถยนต์ รู้สึกใจหายอยู่บ้างเมื่อเด็กน้อยที่ตนเองเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะกำลังจะจากไปอยู่กับคนอื่น และก่อนปวินทร์จะปิดประตูรถยนต์ สุมาลินก็ไม่ลืมก้มหน้าลงไปอวยพรให้กับนลินดาอีกครั้ง
?ขอให้โชคดี เป็นที่รักของพ่อและแม่นะนลิน...?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คำอวยพรของแม่ใหญ่แห่งสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าสัมฤทธิผลอยู่ได้ไม่นาน นลินดาเป็นที่รักของพ่อแม่บุญธรรมแค่เพียงปีเดียวเท่านั้น เมื่อในเช้าวันหนึ่งอรสุดาออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับที่ตรวจครรภ์และบอกข่าวดีกับสามีว่า
?คุณวินคะ เรากำลังจะมีลูกด้วยกันแล้ว อรท้องแล้วค่ะ!?
?โอ้วว...ผมดีใจที่สุดเลย เราจะมีลูกของเราแล้ว?
?ฝันของเรากำลังจะเป็นจริงแล้วค่ะคุณวิน?
?ผมมีความสุขที่สุดเลยครับ?
?อรก็เหมือนกันค่ะ อรตั้งชื่อลูกไว้แล้วนะคะ หากเป็นผู้หญิงอรจะให้ชื่อเอริณค่ะ? อรสุดาเอ่ยบอกด้วยความตื่นเต้น ใบหน้ามีรอยยิ้มแห่งความสุขประดับให้เห็น
ว่าที่คุณพ่ออย่างปวินทร์ก็มีความสุขไม่แพ้ภรรยา ขณะโอบกอดร่างของภรรยาไว้ก็เอ่ยถามพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง
?ถ้าลูกเป็นผู้ชาย...อรจะตั้งชื่อว่าอะไรครับ?
อรสุดาส่ายหน้าปฏิเสธ เอ่ยกลั้วเสียงหัวเราะร่วน
?อรยังนึกไม่ออกค่ะ แต่อรมั่นใจว่าเราต้องได้ลูกผู้หญิงแน่นอนค่ะ อรดีใจจนแทบร้องไห้ออกมาให้ได้ ในที่สุดเราก็มีลูกของเราแล้ว?
สองสามีภรรยาสวมกอดกันไว้แนบแน่น ดีใจและมีความสุขเมื่อมีลูกน้อยกำลังถือกำเนิดอยู่ในท้อง แน่นอนว่าทันทีที่มีลูกอิจฉาเกิดขึ้น นลินดาเด็กที่ถูกขอมาเลี้ยงก็หมดความหมายในทันที

บทที่ 1

จากที่เคยเป็นลูกรักของพ่อแม่บุญธรรม ทันทีที่ลูกอิจฉาคลอดออกมานลินดาก็เป็นไม่ต่างจากหมาหัวเน่า ความรักความเอ็นดูที่เคยได้รับไม่มีเหลือ จากที่เคยนอนในห้องนอนหรูหราภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ก็ถูกไล่ให้มานอนในบ้านพักของคนใช้ คืนวันผ่านพ้นไปยี่สิบปี นลินดาตกอยู่ในฐานะไม่ต่างจากคนรับใช้ในบ้านหลังนี้
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่นลินดาถูกเรียกใช้ตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวสำเร็จการศึกษาจากเมืองผู้ดีประเทศอังกฤษ อรสุดาและปวินทร์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เตรียมจัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างใหญ่โต และคนที่รับศึกหนักเรื่องการทำความสะอาดห้องก็หนีไม่พ้นนลินดา!
?นังนลิน ดูแลความเรียบร้อยห้องของหนูเอริณหรือยัง อีกไม่กี่ชั่วโมงหนูเอริณก็บินมาถึงไทยแล้ว ถ้าห้องไม่สะอาด มีฝุ่นแม้แต่นิดเดียวแกโดนแน่?
อรสุดาสั่งเสียงห้วนพร้อมกับยืนกำกับจ้องมองว่านลินดาจะทำตามคำสั่งของนางหรือเปล่า
นลินดาในวัยยี่สิบห้าปีแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ ลอบถอนหายใจยาวด้วยความเหน็ดเหนื่อย เธอทำความสะอาดห้องนอนของเอริณทุกวัน แทบจะวันละสามเวลาตามคำสั่ง แต่ก็ดูเหมือนยังไม่เพียงพอสำหรับผู้เป็นมารดา
?นลินทำความสะอาดห้องของน้องเอริณทุกซอกทุกมุมเลยค่ะคุณแม่ รับรองได้ว่าไม่มีฝุ่นติดในห้องแม้แต่นิดเดียวค่ะ?
?อย่ามาเถียง! ฉันบอกให้ทำก็ทำไป?
อรสุดาตวาดเสียงดังลั่นห้อง สีหน้าถมึงทึงเพราะความโกรธ และด้วยไม่พอใจกับคำพูดของลูกบุญธรรมจึงออกคำสั่งว่า
?ลงมือทำความสะอาดห้องใหม่เดี๋ยวนี้ เปลี่ยนผ้าปู ผ้าห่ม ปลอกหมอน เช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น และต้องเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมงเข้าใจไหม...นลิน?
?แต่คุณแม่คะ นลินเพิ่งเปลี่ยนผ้าปูเตียงไปเมื่อวานนี้เองนะคะ?
นลินดาเอ่ยค้านไม่ทันจบประโยคก็ถูกมารดาตบลงบนใบหน้าเล็กรูปไข่เต็มแรงจนหน้างามหันไปตามแรงสะบัดตบ
เพียะ!
?ฉันสั่งให้แกทำอะไรก็ทำตามสิ อย่ามาโต้เถียง อย่าขัดคำสั่งของฉัน...ฉันบอกให้เปลี่ยนผ้าปูก็เปลี่ยนเดี๋ยวนี้ เข้าใจไหม!?
อรสุดาชี้นิ้วสั่ง เมื่อไม่มีความรัก ไม่มีความเมตตาหลงเหลือให้กับลูกบุญธรรม ไม่ว่านลินดาจะทำอะไรก็ไม่ถูกใจและดูผิดไปซะทุกอย่าง
?แต่...?
?หุบปาก! นังนลิน?
อรสุดาตะคอกลั่น ไม่ใช่แค่ตบหน้าลูกบุญธรรมจนเห็นรอยนิ้วมือทั้งห้า นางยังเค้นเสียงด่าลำเลิกบุญคุณของตนเองด้วย
?อย่ามาขี้เกียจสันหลังยาว ฉันใช้ให้ทำอะไรเพื่อหนูเอริณแกต้องทำตามทุกอย่าง และจงจำใส่หัวสมองไว้ว่าเพราะฉันไปรับแกมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เอาแกมาเลี้ยงดูให้การศึกษา แกถึงได้มีชีวิตสุขสบายเหมือนทุกวันนี้ หากไม่ได้ฉันรับแกมาเลี้ยงดูอุ้มชู ป่านนี้แกอาจเป็นโสเภณีท้องไม่มีพ่อแล้วก็คลอดลูกทิ้งเหมือนแม่ของแกก็ได้ เพราะฉะนั้นจงตอบแทนบุญคุณที่ฉันเลี้ยงดูแกมาซะ?
?ค่ะคุณแม่ นลินขอโทษค่ะ?
มือเล็กที่สั่นเทายกขึ้นพนมไหว้ขอโทษ กล้ำกลืนน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา คงมีแค่เพียงดวงตาอันแดงก่ำที่จ้องมองมารดาขณะเอ่ยบอกต่อ
?นลินจะทำตามคำสั่งของคุณแม่เดี๋ยวนี้ค่ะ?
?ดีมาก! ให้รู้จักสำนึกถึงข้าวแดงแกงร้อนที่ฉันให้แกกินอยู่ทุกวันบ้าง?
อรสุดาตอกย้ำถึงบุญคุณของตนเอง และก่อนจะเดินออกจากห้องของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนก็ไม่ลืมสั่งลูกบุญธรรม
?ทำความสะอาดห้องเสร็จแล้วก็ไปช่วยป้ากาญจัดสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยงต้อนรับหนูเอริณในเย็นวันนี้ และจำไว้ว่าให้ใส่ชุดคนรับใช้ เวลาแขกเหรื่อถามว่าเป็นใคร ให้ตอบว่าอย่างไร!?
นลินสะดุ้งกับน้ำเสียงห้วนจัด พอมองสบตากับดวงตาของมารดาซึ่งจ้องมองเขม็งก็ลนลานตัวสั่นละล่ำละลักเอ่ยตอบตามที่ถูกกรอกหูในทุกวัน





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ชีวิตของ นลินดา เหมือนนิยายน้ำเน่าดีๆ นี่เอง
เมื่อหญิงสาวถูกขอมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก
ทว่าไม่ทันไรพ่อแม่บุญธรรมก็ให้กำเนิดลูกของตนเอง
เธอจึงกลับกลายเป็นคนใช้คอยรองมือรองเท้า เอริณ ลูกสาวตัวจริงของบ้าน
ยิ่งเมื่อ รามิล ทายาทมาเฟียรัสเซียมาให้ความสนใจหญิงสาว
เอริณที่เป็นเพียงคู่นอนของเขาก็ยิ่งเกลียดนลินดาจนหาเรื่องไล่ออกจากบ้าน
ทั้งที่เขาเป็นต้นเหตุแท้ๆ ทว่าชายหนุ่มกลับช่วยเหลือเธอด้วยการ
ยื่นข้อเสนอนางบำเรอสวาทมาให้ราวกับเขารอเวลานี้อยู่แล้ว!

ดวงตาสีฟ้าฉายแววเจ้าเล่ห์ขณะจ้องมองแล้วเสนอทางเลือกให้
?หากคุณไม่มีที่ไป ผมช่วยคุณได้นะนลิน?
เธอไม่ตอบคำถามที่กระซิบถามชิดเรียวปาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันช่างหวามรัญจวน


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”