New Release BLY :The Uniform Seriesสักยกนะครับคุณตำรวจที่รัก

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release BLY :The Uniform Seriesสักยกนะครับคุณตำรวจที่รัก

โพสต์ โดย Gals »

The Uniform Series สักยกนะครับ คุณตำรวจที่รัก

บทที่ 1

โกดังร้างตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ที่อ้างว้างและไร้ซึ่งเงาของผู้คน กิ่งของต้นไม้เก่าแก่ที่ตั้งตระหง่านโน้มลงสู่เบื้องล่าง โบกไหวไปมาในสายลมยามค่ำคืน ทั้งสี่ทิศเงียบสงัด มีเพียงเสียงร้องของกบต้นไม้ที่แผ่ไปทั่วบริเวณอย่างแผ่วเบา
ทั้งมืดและทึบ แถมยังเงียบสงัดอย่างนี้ หากไม่ใช่เพราะมีแสงไฟสีเหลืองนวลจากโกดัง ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่กำลังรุกคืบสู่โกดังแทบไม่อยากเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้จะมีมนุษย์อาศัยอยู่ด้วย
ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษนายหนึ่งเข้ายืนในตำแหน่งที่ได้เปรียบอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ พวกเขาพากันกลั้นลมหายใจ สายตาประดุจเหยี่ยวจ้องตรงไปยังโกดังซึ่งถูกทิ้งร้างแห่งนี้
เสียงเจรจาภายในค่อยๆ เล็ดลอดออกมา แม้จะพยายามกดเสียงให้เบา แต่เนื่องจากรอบข้างเงียบสงัดเกินไป พวกเขาที่อยู่ด้านนอกจึงได้ยินไปด้วย
?เงินล่ะครับ??
?ขอตรวจสอบของก่อนค่อยว่ากัน เรื่องเงินนี่น่ะ จะเอาเท่าไรก็ได้ กลัวก็แต่สินค้าจะไม่ได้เรื่อง ดูท่าทางขี้ขลาดของนายนี่สิ ของเล็กน้อยแค่นี้ยังต้องเปลี่ยนสถานที่ไปมาตั้งห้าหกรอบกว่าจะกล้าขาย ใจเสาะซะจริงๆ ทั้งขี้กลัวทั้งตาขาวยังจะมาทำธุรกิจนี้ทำไมกัน รีบเปลี่ยนไปทำงานร้านแฮมเบอร์เกอร์ดีกว่ามั้ง? ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกหนึ่งครั้ง และเหมือนกับพ่นควันบุหรี่ออกมาด้วย น้ำเสียงของเขาแหบเล็กน้อย เป็นลักษณะของคนติดบุหรี่ น้ำเสียงที่เยาะเย้ยนั่นบวกกับถ้อยคำเสียดสีนั้นทำให้ผู้ฟังโมโหเอาได้ง่ายๆ
?ประธานเหยาครับ ของอย่างนี้มันก็ต้องระวังตัวกันหน่อย สินค้าครั้งนี้หายากมากเลยนะครับ...? ชายหนุ่มผู้ขายสินค้าตอบกลับอย่างประจบประแจง
?หายากบ้าบออะไรกันล่ะ ตอนอยู่เมืองนอกฉันเห็นเกลื่อนถนนไปหมด มีแต่พวกนายนั่นแหละที่เห็นเป็นของมีค่า รีบเอาสินค้ามาได้แล้ว อย่ามัวแต่อืดอาดยืดยาด บ้าชะมัด นี่ถ้าไม่ใช่เพราะถูกพ่อบังคับให้กลับประเทศละก็ มีหรือที่ของเพียงแค่นี้ยังต้องให้ฉันออกมาเอาเอง?
คำพูดนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่า พวกเขากำลังเจรจาซื้อขายยาเสพติดกันแล้ว!
ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษทั้งหลายพากันสูดลมหายใจเข้าปอด เงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวภายในต่อไป
ตามรายงานจากสายข่าว โกดังแห่งนี้เป็นที่พักยาเสพติดชั่วคราว มียาเสพติดชนิดใหม่จากต่างประเทศล็อตใหญ่ถูกลำเลียงมาไว้ที่นี่ ยาเสพติดชนิดนี้ออกฤทธิ์รุนแรงและทำให้ผู้เสพติดได้ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงถูกจัดให้เป็นยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง
ในเมื่อพวกเขาได้รับข่าวมาแล้ว จึงจำเป็นต้องจัดการยึดสินค้าล็อตนี้ทั้งหมดให้ได้...
คนด้านในยังเจรจาต่ออีกเล็กน้อย เจ้าหน้าที่นายหนึ่งซึ่งอยู่ข้างหน้าต่างมองเห็นชายหนุ่มผมดำด้านในรับผงสีขาวมาหนึ่งห่อ ชัดเจนว่ากำลังตรวจของกันอยู่จึงรีบหันหน้ามาบอกกับหัวหน้าหน่วย
หัวหน้าหน่วยสวี่เฉิงจื้อยกมือขึ้นให้สัญญาณ ประตูถูกถีบให้เปิดออกในทันที ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่อยู่ในเครื่องแบบพากันบุกเข้าไปในโกดังที่ทั้งรกและเหม็นอย่างพร้อมเพรียง
?บ้าเอ๊ย ตำรวจ! ไอ้แมลงเหม็น แกหลอกฉัน...?
ชายหนุ่มผมดำที่กำลังตรวจสินค้าอยู่เอ่ยปากด่ากราด แต่แม้ปากจะด่าอยู่ ทว่าสมองยังคงทำงาน เขารีบคว้าสินค้าเก็บเข้าไปในกระเป๋า จากนั้นก็รีบหลบหนีอย่างว่องไว...เขาทำลายหลอดไฟที่แขวนอยู่ในโกดังจนแตก
เมื่อสูญเสียแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวไป อย่าว่าพวกพ่อค้ายาเสพติดเลย แม้แต่กลุ่มตำรวจเองก็ลนลานขึ้นมาไม่น้อย
มนุษย์เราหวาดกลัวการตกจากที่สว่างไปสู่ความมืดอย่างกะทันหันเป็นที่สุด เพราะว่าเวลาไม่กี่วินาทีในช่วงแรกทุกคนจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งใดได้เลย ไม่รู้ว่าคนข้างๆ เป็นมิตรหรือศัตรูจึงยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการจับผู้ร้าย การกระทำ ลมหายใจ และเสียงของทุกคนต่างผ่อนเบาลง แม้แต่การจับผู้ร้ายของตำรวจยังหยุดชะงักไปชั่วขณะอย่างน่าอัศจรรย์
จนกระทั่งได้ยินเสียงวัตถุตกพื้นดังปึงๆ ปังๆ พร้อมกับเสียงกระจกแตกดังขึ้น ทุกคนจึงเริ่มได้สติกลับมา
เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มที่ทำลายหลอดไฟนั้นศึกษาทางหนีทีไล่ของโกดังแห่งนี้มาเป็นอย่างดีแล้ว เขาผลักสินค้าที่กองระเนระนาดในโกดังแห่งนี้ให้ล้มลงจนอุดทางไว้หมด จากนั้นก็รีบทุบกระจกหน้าต่างบานที่ใกล้ที่สุด ยกขาเรียวยาวนั้นขึ้นเหยียบไปบนบานหน้าต่างเตรียมพร้อมที่จะกระโดดหนี
และในเวลานี้เองที่ทุกคนในโกดังเริ่มชินกับความมืด ฝ่ายตำรวจเปิดไฟฉายให้แสงสว่าง
เมื่อเห็นการกระทำที่อาจหาญเช่นนี้แล้ว มีหรือที่พ่อค้ายาเสพติดแมลงเหม็นจะไม่เข้าใจ เขาตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว ?เหยาหยงฟง แกเป็นคนเรียกหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาใช่ไหม ไอ้สารเลว สินค้าล็อตนี้ได้มายากขนาดไหนแกไม่รู้รึไง? แกกลับกล้าใช้วิธีโจรจับโจร!?
?แกต่างหากที่เป็นคนเรียกตำรวจมา ไอ้ชั่ว ไปบอกเจ้านายของแกด้วยว่าสินค้าล็อตนี้มีแค่นิดเดียว ให้ฉันเล่นยังไม่พอเลย ถ้าไงฉันจะช่วยเก็บรักษาไว้ก่อนแล้วกัน เพราะถ้าปล่อยให้ตำรวจยึดก็น่าเสียดายเกินไป?
เขากระโดดลงจากหน้าต่างอย่างง่ายดาย รองเท้าบูทยาวเหยียบลงบนพื้นหญ้าโดยไม่ส่งเสียง ทว่าเขากลับยืนแข็งทื่อไม่ขยับ เพราะว่าการหยุดกะทันหันทำให้กล้ามเนื้อน่องที่อยู่ใต้กางเกงเกร็งอย่างรุนแรง ส่งผลให้กล้ามเนื้อด้านบนพลอยเกร็งไปด้วย
เขาได้ยินเสียงแกรกเบาๆ นั่นคือเสียงขึ้นนกปืน เขาหยุดการเคลื่อนไหวทันทีแล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้น อดไม่ได้ที่จะสบถออกมา ?บ้าเอ๊ย แม้แต่ที่นี่ก็มีคนดักรออยู่?
เขาพ่นคำหยาบออกมายาวเป็นขบวนรถไฟแบบไม่ซ้ำคำกันเลยแม้แต่คำเดียว เพราะเวลานี้กระบอกปืนเย็นเฉียบกำลังชี้ตรงมายังตัวเขา ปากกระบอกปืนสีดำเมี่ยมดูราวกับปากของอสุรกายที่สามารถกลืนกินเขาได้ทุกเมื่อ
ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษอายุน้อยคนหนึ่งยืนถือปืนอยู่ตรงหน้าเขา ชุดบนร่างกายเหมือนกับผ่านการรีดมาแล้ว กลีบเสื้อทั้งตรงทั้งเรียบ รูปทรงเหมือนกับตัดเย็บมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ เข้ารูปอย่างเหมาะเจาะ ช่วยขับให้เห็นไหล่ที่ผึ่งผาย กล้ามเนื้อที่ตึงแน่น และขาเรียวยาวได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
คิ้วละเอียดราวกับสตรี ดวงตาก็ฉ่ำหวานราวกับหญิงสาว ขนตาทั้งงอนทั้งยาว ทว่ากลับขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นจนทำให้ดูเคร่งขรึม แต่ใบหน้าที่เคร่งขรึมเช่นนี้กลับทำให้รู้สึกว่าเขาคนนี้เป็นคนที่เด็ดเดี่ยวและไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
ท่ามกลางแสงจันทร์อ่อนจางที่สาดส่องเช่นนี้ คนตรงหน้าสวยเสียจนชวนให้คนโมโห
มีความงามแบบยูนิเซ็กซ์ทั้งที น่าจะยืนอยู่บนเวทีแฟชั่นเพื่อมอบความสดใสและสวยงามมากกว่า ไม่น่าสวมชุดเครื่องแบบที่ปกปิดไปหมดทุกส่วนแล้วมายืนขวางทางตนเองอยู่นอกโกดังที่ทั้งมืดและเหม็นอย่างนี้
ม่อเย่าหมิงเข้าใกล้เขาแล้วล้วงยาเสพติดออกมาจากกระเป๋าตุงๆ นั่น กะประมาณน้ำหนักด้วยมือ ขณะที่สายตาเต็มไปด้วยความดูแคลน ลำพังแค่พ่อค้ายาเสพติดก็น่ารังเกียจพออยู่แล้ว ทว่าคนที่ใช้วิธีโจรจับโจรยิ่งต่ำช้ากว่า เป็นเหมือนกับแมลงสาบที่ทุกคนต้องช่วยกันตีให้ตาย
?ใช้วิธีโจรจับโจร นายนี่กล้าหาญไม่เบาเลยนะ?
?คุณตำรวจ นี่คือผงแป้งที่ขายใกล้บ้านผมเอง ห้าร้อยกรัมยี่สิบหยวน? เหยาหยงฟงเอ่ยหน้าระรื่น ไม่มีทีท่าของคนที่กำลังโดนจับตัวอยู่แม้แต่น้อย
?ถ้ายังพล่ามอีกฉันจะยิงนายซะ?
?ยิงเลยสิ ยิงเลย ถ้าแน่จริงก็ต่อยผมเลย รู้หรือเปล่าว่าผมเป็นใคร?? เสียงของเหยาหยงฟงสะดุดหยุดลง เพราะหน้าผากของเขาโดนกระแทกเข้าอย่างจัง ?บ้าชะมัด นี่ต่อยจริงเหรอเนี่ย...? เขาตะโกนด่าอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วก็ได้รับแรงกระแทกอีกหนึ่งทีจนเขาถึงกับเวียนศีรษะเลยทีเดียว
อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ใช้มือต่อย ทว่าใช้ด้ามปืนทุบ ทุบจนเขาหัวแตกเลือดไหล ลงมือได้.็ดขาดและมีแนวโน้มว่าหากเขายังปากพล่อยไม่เข้าเรื่อง ก็จะทุบตีเขาจนหมดลมหายใจอย่างแน่นอน
บ้าชะมัด หมอนี่มันนักเลงในคราบตำรวจต่างหาก!
ไม่ใช่ว่าตำรวจต้องเคารพกฎหมายอย่างเคร่งครัดหรอกรึ? การลงไม้ลงมือโดยพลการอย่างนี้ถูกแล้วเหรอ? เจ้าเด็กนี่มาจากไหนกัน ถึงได้กล้าลงมือกับเขาแบบนี้!
เมื่อรู้สึกถึงของเหลวที่ไหลลงมาจากหน้าผาก เหยาหยงฟงก็เอื้อมมือไปสัมผัส เห็นสีแดงที่เหนอะหนะเต็มมือ ประกอบกับกลิ่นคาวเลือดที่ลอยอยู่โดยรอบ สายตาของเขาก็มีประกายแห่งความอันตรายวาบขึ้นมา
?พวกโรคจิตที่ร้องขอให้เตะต่อยอย่างนายนี่เจอได้ไม่บ่อย ตั้งแต่มีหูมาฉันก็เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ฉันเลยช่วยสนองความต้องการให้นายไงล่ะ?
ไม่ใช่ว่าไม่เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยไฟโทสะของเหยาหยงฟง แต่ม่อเย่าหมิงไม่เห็นอยู่ในสายตาต่างหาก เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย ร่องรอยของการเยาะเย้ยเต็มเปี่ยม
หากจะพูดว่ารอยยิ้มนั้นงดงามสักเพียงใดก็คงจะงดงามถึงเพียงนั้น ทั้งๆ ที่สวมเครื่องแบบเฉิ่มเชยแบบนี้ แต่กลับไม่ช่วยบั่นทอนความงามให้ลดลงไปเลย ทำให้อยากจะเข้าไปกัดให้หายแค้นสักคำ
มองเขาแล้วเหยาหยงฟงก็เช็ดมือที่เปื้อนเลือดกับขากางเกง บนใบหน้ามีรอยยิ้มที่ออกจะพิลึกพิลั่น สายตาเต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้ และยิ่งโหมกระหน่ำมากขึ้น
ตลอดหลายปีที่เขามีชีวิตอยู่มา มีแต่เขาที่เล่นงานคนอื่น เคยโดนเล่นงานแบบนี้ซะที่ไหน?
?นายจะปากดีได้ก็เฉพาะตอนนี้แหละ ไม่นานนายจะรู้ซึ้งเองว่าการตีฉันจะต้องชดใช้ด้วยอะไรบ้าง ถึงตอนนั้นต่อให้นายขายตูด ขายเครื่องใน ขายตับ ขายไตก็ไม่ทันการณ์แล้ว?
เป็นพวกตุ้งติ้งไม่ใช่เรอะ? เขาเคยนอนกับคนประเภทนี้มาแล้วไม่น้อย แม้จะไม่ถึงพันก็เกินร้อย ขอพูดไม่น่าฟังหน่อย ด้วยก้นที่ไม่มีเนื้อนั่นน่ะ ต่อให้ขอร้องให้เขาขยำ เขายังไม่อยากแตะเลย
?นายห่วงตับไตของตัวเองก่อนเถอะ?
สิ้นเสียงของม่อเย่าหมิง เหยาหยงฟงที่กำลังจะยกบุหรี่ขึ้นมาคาบก็ถูกม่อเย่าหมิงที่ไม่ชอบหน้าเขาต่อยจนต้องทรุดลงไปนั่งกับพื้น
ยังไม่เคยเห็นผู้ร้ายค้ายาเสพติดคนไหนถูกจับแล้ววางก้ามแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน ในเมื่อทำผิดกฎหมายก็ไม่มีเหตุผลที่จะปล่อยให้ลอยนวลอีกต่อไป
เห็นชัดเลยว่าพ่อค้ายาคนนี้ไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา อย่างนั้นเขาก็จะจัดการให้เขารู้สำนึกเอง!
ม่อเย่าหมิงงอขาขึ้น ใช้หัวเข่ากระทุ้งไปตรงท้องซึ่งตรงกับตำแหน่งตับของเหยาหยงฟงอย่างแรง แถมยังอุตส่าห์ค้างไว้ตรงนั้นแล้วเพิ่มแรงขยี้เข้าไปเป็นพิเศษ ชัดเจนว่าจะสั่งสอนเขา
เหยาหยงฟงหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เจ็บปวดราวกับเครื่องในถูกบดทับจนละเอียด เจ็บจนกัดฟันแน่น ในที่สุดเขาก็ไม่ได้ต่อต้านอีกแล้วล้มลงนอนคุดคู้อยู่บนพื้นพร้อมกับกุมท้องไว้แน่น มองดูบุหรี่ที่หล่นอยู่ถูกรองเท้าบูทของม่อเย่าหมิงเหยียบจนแบนแต๊ดแต๋
?รู้หรือเปล่าว่าบุหรี่นั่นมวนละเท่าไร??
?หยุดพล่ามได้แล้ว ยกสองมือขึ้นจับหัวไว้ ห้ามทำอะไรพิเรนทร์อีก ไม่งั้นเดี๋ยวเจอดีอีกแน่?
?ไอ้ตุ้งติ้ง!?
?ว่าไงนะ?? น้ำเสียงของม่อเย่าหมิงทุ้มต่ำลง ยกรองเท้าบูทที่ถูกขัดจนสะอาดวาววับขึ้น อยากจะเหยียบเขาให้ตายคาเท้าซะจริง
?ไอ้ตุ้งติ้ง ถ้านายเอาชนะฉันได้ ฉันยอมเขียนชื่อตัวเองแบบกลับหัวเลย เอ้า? เหยาหยงฟงไม่โกรธแต่กลับหัวเราะแทน ท่ามกลางความมืดมิดอย่างนี้ ฟันขาวๆ นั้นส่องประกายจนน่าตกใจ
ทว่าต่อจากนั้นรองเท้าก็ประทับลงบนใบหน้าของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นการแสดงผลลัพธ์ของการปากพล่อยได้เป็นอย่างดี

***

?เฮอะ คิดจะให้เงินจำนวนเล็กน้อยเท่านี้เป็นค่ารักษาพยาบาลผมจริงรึ ค่าชดเชยงั้นเรอะ? ค่าชดเชยมีประโยชน์ตรงไหนกัน ไม่รู้หรือว่าบ้านของผมเป็นอย่างไร ร่างกายของผมมีค่าแค่ไหน แค่ถูกทำร้ายจนเป็นแผลเล็กน้อย ผมรับรองได้เลยว่าวันรุ่งขึ้นหุ้นสามารถตกลงไปได้หลายพันจุด ค่าชดเชยแค่นี้น่ะ ยังเทียบไม่ได้กับรายรับหนึ่งเดือนของบริษัทผมเลย?
หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษสวี่เฉิงจื้อฟังชายหนุ่มตรงหน้าร้องโวย ทว่ากลับไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไร แผ่นหลังเปียกชุ่มไปหมดเหมือนกับเพิ่งตากฝนมาอย่างไรอย่างนั้น หากเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับหน้า รับรองว่าต้องเปียกชุ่มไปทั้งผืนเป็นแน่
รอจนอีกฝ่ายหนึ่งหยุดพักหายใจแล้ว เขาก็รีบเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจว่า ?เข้าใจผิดน่ะครับ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งนั้น?
?เข้าใจผิดกับผีน่ะสิ เห็นนี่หรือเปล่า แผลบนหน้าผากของผมมันกว้างขนาดนี้ ไม่แน่ว่าสมองอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนก็ได้?
นิ้วมือของเหยาหยงฟงชี้ไปยังหน้าผากที่พันด้วยผ้าพันแผล ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจราวกับมีตัวอักษรคำว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่เกินสมควรแก่เหตุ เห็นชีวิตคนเหมือนต้นหญ้าสลักอยู่ ทว่าสายตากลับมองไปยังม่อเย่าหมิงที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวหน้าหน่วย
ม่อเย่าหมิงกำหมัดแน่นตั้งแต่ที่อีกฝ่ายหนึ่งเริ่มโวยวาย พอได้ยินคำกล่าวหาของเขาก็อดพึมพำเสียงเบาออกมาไม่ได้ ?พวกปัญญาอ่อนไม่มีสมองนี่ เพราะงั้นก็ไม่น่าจะมีสมองให้ได้รับความกระทบกระเทือน?
นอกจากนี้คนแซ่เหยาคนนี้ยังมาด่าเขาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยได้ขนาดนี้ แสดงว่าอาการไม่ได้หนักหนาถึงขั้นนั้นแน่นอน
สองประโยคนี้เป็นเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟอย่างไม่ต้องสงสัย สวี่เฉิงจื้อยกมือขึ้นกุมขมับ เขาใกล้จะเป็นลมเต็มทีแล้ว
ใครก็ได้มาบอกเขาหน่อยว่าจะทำอย่างไรกับลูกน้องที่ไม่รู้จักอ่านสีหน้าคนอื่นอย่างม่อเย่าหมิงคนนี้ดี? ตอนนี้ในสมองของสวี่เฉิงจื้อมีถ้อยคำต่างๆ วนเวียนไปมาเต็มไปหมด ทว่ากลับไม่มีคำไหนที่จะช่วยปลอบใจเขาได้เลย เพราะคำเหล่านั้นไม่พ้นไปจากคำว่า ขอตายชดใช้ความผิด หรือก้มหน้าก้มตายอมรับผิดให้ถึงที่สุด ก็คือมองหาวิธีตายอย่างที่ตนต้องการดีกว่า...
เหยาหยงฟงหันหน้ามา สองมือป้องปากไว้ให้เป็นเหมือนกับลำโพง ใช้น้ำเสียงก้องกังวานที่ไม่เหมือนผู้ป่วยสักนิดเอ่ยด้วยเสียงอันดังในห้องประชุมว่า ?เมื่อกี้มีคนด่าว่าผมเป็นคนปัญญาอ่อนหรือเปล่า? ฮัลโหล มีใครบางคนพูดอะไรหรือเปล่า??
?ไม่มีใครพูดอะไรหรอกครับ ประธานเหยา คุณคงฟังผิดไปน่ะครับ? สวี่เฉิงจื้อเอ่ยแบบกระอักกระอ่วน
เหยาหยงฟงหรี่ตาลง ยกท่อนขาอันเรียวยาวขึ้นพาดบนโต๊ะ แสดงลักษณะอันธพาลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ?อ๋า ผมฟังผิดงั้นเหรอ แสดงว่าหูของผมก็ถูกตีจนมีปัญหางั้นสินะ? หัวหน้าหน่วย ไม่ใช่ว่าผมใจร้าย แต่ว่าจะให้ผมยอมรับการถูกกระทำที่ไร้ความยุติธรรมแบบนี้ได้อย่างไรกัน? ถ้ายังมีผู้เสียหายคนถัดไปอีกจะทำอย่างไร? เพราะงั้นผมจะต้องฟ้องพวกคุณให้ได้ จะฟ้องจนพวกคุณต้องตายไปเลย ฟ้องจนพวกคุณต้องสิ้นเนื้อประดาตัว จนชื่อเสียงป่นปี้ย่อยยับ จะต้องประกาศให้ประชาชนรู้ว่าตำรวจนั้นชั่วช้าขนาดไหน?
สวี่เฉิงจื้อใกล้จะร้องไห้ออกมาเต็มที ?ประธานเหยาครับ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ เรื่องเข้าใจผิด?
?เข้าใจผิดอะไรกัน? แผลของผมใหญ่ขนาดนี้ยังเข้าใจผิดอีกเหรอ? คุณไม่เห็นรอยรองเท้าที่ฝากไว้บนหน้าของผมเหรอ แม้แต่พ่อผมยังไม่เคยใช้เท้าเตะผมมาก่อนเลย แต่ผมกลับถูกไอ้ตุ้งติ้งคนหนึ่งเตะซะได้?
คำว่าไอ้ตุ้งติ้งทำให้ม่อเย่าหมิงก้าวเท้าออกมาหนึ่งก้าว สีหน้าเริ่มมีน้ำโห แต่ถูกรองหัวหน้าหน่วยจ้าวขั่นเฉิงดึงไว้ก่อนเขาจึงหยุดเดิน ทว่าสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่ปกปิดไม่มิดอีกต่อไป
ก็แค่มีเงินเหลือกินเหลือใช้เท่านั้นเองไม่ใช่รึ?
ก็แค่เป็นลูกคนรวยที่ไม่เอาถ่านไม่ใช่รึ?
เหยาหยงฟงคนนี้มีพ่อเป็นเหยาหลุนตุน เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ ทุกประเทศต่างหวังให้เหยาหลุนตุนไปลงทุนสร้างโรงงานในประเทศของพวกเขา ซึ่งแต่ละประเทศก็แข่งกันเสนอเงื่อนไขการลงทุนให้กับเหยาหลุนตุน แต่ได้ข่าวมาว่าเหยาหลุนตุนเห็นว่าตนเองอายุมากแล้วเลยให้ความสำคัญกับบ้านเกิด ดังนั้นช่วงนี้จึงลงทุนขนานใหญ่ในประเทศ โดยมูลค่าเงินลงทุนนั้นมากมายเสียจนทำให้เจ้าหน้าที่รัฐหุบยิ้มไม่ลงกันเลยทีเดียว แม้กระทั่งชื่อเสียงของเหยาหยงฟงเองก็เป็นที่รู้จักไปพร้อมกัน
แม้ว่าเขาจะเป็นประธานของบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ภายใต้กลุ่มบริษัทของพ่อเขา ทว่าเวลาออกไปข้างนอกก็ถูกทุกคนยกยอเรียกว่าประธานเหยา
แต่ใครบ้างจะไม่รู้ว่าเขาเป็นประเภทดีแต่อาศัยบารมีพ่อ!


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?พวกโรคจิตที่ร้องขอให้เตะต่อยอย่างนายนี่เจอได้ไม่บ่อย ฉันเลยช่วยสนองความต้องการให้นายไงล่ะ?
จากปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดครั้งหนึ่งทำให้เหยาหยงฟงต้องรู้จักกับนายตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษม่อเย่าหมิงอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหยาหยงฟงที่หน้าฉากเป็นคนติดยาทว่าแท้จริงแล้วเป็นสายลับถูกซ้อมจนสะบักสะบอม ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้แค้น...ไม่สิ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้สมกับบทบาททายาทเศรษฐีผู้ไร้สมองจอมล้างผลาญต่างหาก และก็เพื่อตรวจสอบว่ามีเกลือเป็นหนอนในหน่วยปฏิบัติการพิเศษหรือไม่ เขาจึงใช้อำนาจในทางมิชอบบังคับให้ม่อเย่าหมิงต้องมารับใช้เขาที่บ้าน แต่คาดไม่ถึงว่าไม่เพียงแต่เขาไม่สามารถเล่นงานม่อเย่าหมิงให้ต้องหลั่งน้ำตาได้เท่านั้น กลับเป็นเขาเสียเองที่อยากจะคุกเข่าขอยอมแพ้
เขาจงใจสั่งให้ม่อเย่าหมิงทำอาหารเย็นอย่างหรูหรา แต่กลับถูกอีกฝ่ายกุมกระเพาะเอาไว้ได้ เขาจงใจลวนลามม่อเย่าหมิง แต่กลับรู้สึกว่าใบหน้าเขินอายที่แดงก่ำและไร้เดียงสาของม่อเย่าหมิงน่ารักเป็นที่สุด แม้กระทั่งยามที่ม่อเย่าหมิงโมโหอาละวาด เขาก็เห็นว่านั่นเป็นการแสดงออกที่แปลความได้ว่า ด่าคือชอบ ตีคือรัก
บ้าที่สุด ม่อเย่าหมิงมากระตุกต่อม M ของเขาให้ตื่นขึ้นเสียแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอให้ม่อเย่าหมิงรับผิดชอบด้วย!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”