New Release : คิริกะ นักสืบสภานักเรียน เล่ม 6

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : คิริกะ นักสืบสภานักเรียน เล่ม 6

โพสต์ โดย Gals »

1

?คิดว่า 1+1 เป็นเท่าไหร่??
ประธานที่กำลังนอนเอกเขนกอยู่บนเปลญวนในห้องที่มืดสลัวถามเช่นนั้นออกมา
เท็นโนจิ โคเท็ตสึ....ในวันนั้น ราชินีผู้ปกครองโรงเรียนแห่งนี้ปล่อยผมสยายชวนให้ประหลาดใจ เนื่องจากปกติแล้วจะเห็นแค่มัดผมแกละสองข้างเท่านั้น เลยทำให้ดูไม่เรียบร้อยยิ่งขึ้นไปอีก
ตัวอักขระที่สลักเต็มกำแพงด้านหลังของเธอนั้นดูราวกับแมลงหลายหมื่นตัวที่กลายเป็นฟอสซิล ขับความงดงามอันแสนอันตรายของราชินีผู้นอนอยู่ในความมืดให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ชวนให้รู้สึกใจคอไม่ดี
?คง.... ไม่ใช่ 2 สินะ เล่นจงใจถามออกมาอย่างนี้?
ผมเดินเข้าไปใกล้ประตูแล้วตอบออกไปอย่างระมัดระวัง ผมถูกเรียกตัวเข้าไปในห้องประธานด้วยเหตุผลที่ว่าจะอบรมหลักสูตรการเป็นจักรพรรดิที่ดีให้นั่นเอง เพราะอย่างนั้นคงเป็นคำตอบธรรมดาไปเสียไม่ได้ ประธานหัวเราะคิกคักพร้อมกับกระโดดบิดตัวลงจากเปลญวนมาสู่พื้นเบาๆ โดยไม่เกิดเสียงราวกับแมว
?แน่นอน ในโลกของการเมืองนั้นการบวกลบไม่ใช่แค่การบวกลบธรรมดา?
ประธานเข้ามาใกล้กระทั่งอยู่ตรงหน้าแล้วยื่นมือซ้ายมาทางด้านข้างใบหน้าของผม เนื่องจากด้านหลังของผมเป็นประตูที่ปิดอยู่ทำให้ไม่สามารถหนีได้
?จะพูดให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็แล้วกัน หมู่บ้านกลางภูเขามีคนอาศัยอยู่ 100 คน และไม่มีไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน แล้วสมมติให้ค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟอยู่ที่ 1 หมื่นเยนต่อ 1 กิโลเมตร?
นิ้วมือของประธานวาดเส้นโค้งไปมาบนหน้าอกเสื้อคลุมเบลเซอร์ของผม
?ระยะทางจากสถานีจ่ายไฟฟ้าไปจนถึงหมู่บ้านคือ 100 กิโลเมตร ถ้าคนในหมู่บ้านออกเงินคนละ 1 หมื่นเยนแล้วก็จะต่อไฟเข้าหมู่บ้านได้ใช่มั้ย??
ผมพยักหน้ารับขณะที่ยืดตัวอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้อยู่ห่างจากใบหน้าของประธานที่กำลังยื่นเข้ามา
?แต่เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่ยากจน เพราะอย่างนั้นคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านจึงไม่อยากจะออกเงิน คนที่ยินดีจ่ายเงิน 1 หมื่นเยนมีอยู่แค่ 2 คนเท่านั้น แล้วคน 2 คนนี้จะได้หนี้บุญคุณที่สมน้ำสมเนื้อกับเงิน 1 หมื่นเยนงั้นเหรอ??
ประโยคนั้นไม่ใช่คำถาม หากแต่เป็นประโยคย้อนถาม ประธานพูดต่อในทันที
?แน่นอนว่าไม่ได้ การที่เดินสายไฟมาแค่ 2 กิโลเมตรนั้นมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย พูดอีกอย่างก็คือ 1+1 ไม่เท่ากับ 2 แต่เป็นศูนย์ ต่อให้ร่วมมือกัน 50 คนซึ่งก็คือครึ่งหนึ่ง ไม่สิ ต่อให้คนตกลงกันถึง 99 คนก็ตาม แต่สิ่งที่ได้ก็คือศูนย์ ตราบใดที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหมู่บ้าน เสาไฟฟ้าก็ไม่ต่างอะไรไปจากต้นไม้ที่ให้นกเกาะเลย แต่ทันทีที่ครบ 100 แล้วละก็....?
จู่ๆ ไฟห้องประธานก็สว่าง ผมหยีตาเพราะแสงจ้า ประธานกดสวิตช์ไฟข้างประตูนั่นเอง
?....ไฟฟ้าก็จะเข้าถึง?
เธอยิ้มเล็กน้อยด้วยท่าทางห้าวหาญไม่หวั่นเกรงในตำแหน่งที่ย้อนแสง
?แล้วบุญคุณของไฟฟ้าที่มีต่อหมู่บ้านนั้นก็ไม่ใช่แค่ 1 ล้านเยน ในความหมายตรงกันข้ามกับ 1+1 ไม่เท่ากับ 2 คำตอบของการเอา 1 มารวมกัน 100 ครั้งไม่ใช่ 100 เพราะการรวมพลังกันของคนไม่ใช่การเอามาบวกกัน คงเข้าใจสินะ??
?....หา?
?ทำไมมนุษย์จะต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ทำไมต้องมุ่งมั่นเป็นหนึ่งเดียวกันจนกระทั่งเอาชนะค่านิยมที่แตกต่างกันด้วย พูดอีกอย่างก็คือ ทำไมการเมืองถึงเป็นสิ่งจำเป็น เหตุผลโดยพื้นฐานก็คือนี่แหละ?
พลังของคนไม่ได้คำนวณโดยการบวกกันง่ายๆ ผลที่ได้อาจไร้ความหมายหรือเพิ่มหลายหมื่นหลายร้อยล้านเท่าขึ้นอยู่กับจำนวนและทิศทาง เพราะอย่างนั้นมนุษย์ถึงได้อยากสร้างกลุ่ม สร้างเมือง สร้างประเทศขึ้นมา เพื่อที่จะสร้างสะพาน สร้างจรวดบินไปดวงจันทร์ หรือเอาชนะในสงคราม
เรื่องที่พูดมาก็เข้าใจอยู่ เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก
แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจถึงสาเหตุที่ประธานมาพูดเรื่องแบบนั้นกับผม
?นายกับฉันเองก็เป็นแบบนั้นนะ?
ผมถูกสายตาของประธานจับจ้องจนหายใจไม่ออก และไม่สามารถหลบสายตาไปทางอื่นได้
?นายหนึ่งคนกับฉันหนึ่งคน รวมกันแล้วไม่ใช่แค่ 2?
บทสนทนาเรื่องการเมืองและการรวมพลังของคน หรือนี่กำลังจะบอกว่า ....ให้เลิกเปลี่ยนฝ่ายไปเป็นศัตรู แล้วจงมาร่วมมือกับฉันอย่างนั้นเหรอ? ผมถูกประเมินค่าต่ำมากเลยนะ ผมจะไม่ยอมโดนเกลี้ยกล่อมอย่างง่ายดายด้วยบทสนทนาพรรค์นั้นหรอกนะ ต้องพูดให้ชัดเจน....
?ถ้าเรามาสร้างลูกด้วยกันแล้วก็จะเป็น 3 ก็ได้ เป็น 4 ก็ได้?
?เรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ!? ผมผลักประธานออก ?ผมมันบ้าเองที่ตั้งใจฟังตั้งนานครับ!?
?ให้พูดสั้นๆ ดีกว่างั้นเหรอ? เข้าใจแล้ว ฮิคาเงะ มามีเพศสัม....?
?สตอป!? ผมลนลานรีบเอามือทั้งสองข้างปิดปากประธาน
?อุกๆ? ประธานจับข้อมือของผมดันกลับ แล้วสูดหายใจเข้า ?ไม่คิดมาก่อนเลยว่านายจะใช้วิธีรุนแรงแบบนี้มาบังคับให้จูบฝ่ามือนี่?
?ปะ เปล่านะครับ! ก็เพราะว่าประธานกำลังจะพูดจาบัดสีบัดเถลิงอย่าง ?มีเพศสัมพันธ์ ? ต่างหากล่ะครับ?
?ไม่ได้พูดสักหน่อย จะพูดว่า ?แม็กไกว ? ต่างหาก ที่เป็นนักกีฬาที่ทำสถิติตีได้เบส 70 ครั้งช่วงซีซั่นปี 1998 ในเมเจอร์ลีกไงเล่า?
?อย่าแก้ตัวข้างๆ คูๆ เลย! จากการไหลของบทสนทนาเมื่อกี้นี้จะเป็นคำอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากคำว่ามีเพศสัมพันธ์!?
?จะว่าไปแล้ว ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ มีแต่นายเท่านั้นแหละที่รัวพูดคำบัดสีบัดเถลิงออกมา ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว?
?อ๊าาาาาาา พลาดแล้ว ตกหลุมพรางจนได้?
?ไม่ได้นะคะ คุณฮิคาเงะ ?สอดใส่ ? อะไรกัน น่าอาย!?
เมื่อเสียงพูดดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ผมกำลังพิงหลังอยู่ถูกเปิดออก ?หวาา? ทำให้ผมล้มหงายหลัง รุ่นพี่มิโซโนะนั่งยองๆ ลงที่พรมแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม
?มิโซโนะ ฮิคาเงะไม่ได้พูดอะไรอย่างนั้นสักหน่อย กำลังจะพูดว่า ?ฮาเมรุน ? ต่างหากเล่า?
?ไม่ต้องแถข้างๆ คูๆ แบบนั้นก็ได้?
?ไม่ได้นะคะ เป่าปี่อะไรกัน น่าอาย!?
?ตรงไหนกัน??
?ละ ลองคิดดูสิคะ คุณฮิคาเงะ ใช้ปากคาบแล้วใช้นิ้วสัมผัสอย่างอ่อนโยน ส่งลมหายใจอันร้อนผ่าวเข้าไปแบบนั้น ถ้าไม่ใช่ปี่แล้วมันจะบัดสีบัดเถลิงขนาดไหนกัน?
?ที่มันบัดสีเพราะไปคิดว่าไม่ใช่ปี่ใช่มั้ยล่ะ??
?เอ๋?
วุ่นวายชะมัด!
?กำลังทำอะไรกันอยู่?
น้ำเสียงเอือมระอาอันแสนเย็นชาดังขึ้นมา เมื่อดันรุ่นพี่มิโซโนะหลบก็เห็นว่าคิริกะกำลังก้มหน้ามองพวกเราอยู่
?เฮ้อ ฮิคาเงะ อย่าเข้าไปในห้องประธานสิ!?
คิริกะดึงแขนให้ผมลุกขึ้นยืน
?ห้องของกรรมการบริหารถือว่าเป็นห้องส่วนตัว อย่าเข้านอกออกในตามสบายสิ!?
งั้นหรอกเหรอ? ถึงว่า มีที่นอนอยู่ด้วย
?ฮิคาเงะก็เข้าๆ ออกๆ ห้องเหรัญญิกอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่รึไงกัน?
ประธานมองหน้าผมสลับกับคิริกะ
?อะ อันนั้นไม่เป็นไร!? คิริกะหน้าแดงแล้วพูดโต้กลับ ?เพราะมันเป็นเรื่องงาน ฮิคาเงะมีธุระสำคัญหลายๆ อย่าง ที่ห้องของฉันไงล่ะ อย่างเช่น ต้องมาอ่านนิทานประกอบภาพให้ฟัง? อันนั้นไม่ใช่เรื่องงานนะ นี่คิดว่าผมเป็นตัวอะไรกัน
?ทำอย่างนั้นไม่ได้นะคะ? รุ่นพี่มิโซโนะใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าอันแดงก่ำ ?เล่นอะไรเป็นเด็กเล็กๆ มันน่าอายออก?
ประธานพูดแทรกก่อนที่ผมจะตบมุก
?มิโซโนะ การเล่นเป็นเด็กเล็กๆ น่ะ โดยปกติแล้วคือทางฝั่งผู้ชายจะเล่นให้มีเด็กเล็กๆ นะ?
?อย่างนั้นเองเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นก็โอเคสินะคะ?
?โอเคซะที่ไหนกันเล่า!?
?หืม ฮิคาเงะทำเรื่องที่ไม่โอเคกับคิริกะงั้นเหรอ??
?ไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย?
?ไม่ได้ทำ!? คิริกะตะโกนหน้าแดงก่ำ
ในขณะที่ชุลมุนกันอยู่นั้นเอง ก็ได้ยินเสียงคนจงใจกระแอมเป็นอย่างมากดังมาจากประตูทางเข้าห้องสภานักเรียน คิริกะตั้งสติได้จึงพูดออกมา
?จะ จริงด้วย ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทำอะไรแบบนี้ มีแขกมา!?
คิริกะยกนิ้วขึ้นมาชี้ ทำให้พวกผมหันไปมองทางนั้นพร้อมๆ กัน
ประตูบานใหญ่เปิดออก แล้วกลุ่มชายหนุ่มก็เดินเรียงแถวตอนลึกสองแถวเข้ามาในห้องอย่างเป็นระเบียบไม่มีแตกแถว การแต่งกายของพวกเขาทำให้ผมตกตะลึง เพราะไม่ใช่เครื่องแบบของโรงเรียน เสื้อและกางเกงเป็นสีขาวล้วน มีดาวประดับบ่า และมีตราสัญลักษณ์ขนาดใหญ่เย็บติดอยู่บนหมวก ไม่ว่าจะดูตรงไหนก็คือชุดเครื่องแบบทหาร
?หักขวาสุดกำลัง!?
ชายที่อยู่หัวแถวพูด แล้วกลุ่มชายในเครื่องแบบทหารเรือก็พากันเดินขบวนอย่างเป็นจังหวะอ้อมโต๊ะตรงมาทางพวกผม
?ทอดสมอ?
ทุกคนหยุดเดินพร้อมกับเสียงที่ตะโกนขึ้นมา ผมไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เอาแต่คิดวนเวียนไปมาว่าเรียกตำรวจมาเลยดีมั้ยนะ ทหารกับตำรวจใครแข็งแกร่งกว่ากันนะ
ชายที่อยู่หัวแถวยืดตัวตรงแล้วพูดว่า
?ประธาน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ! ปีนี้เองก็ใกล้ถึงฤดูกาลแล้วนะครับ!?
ผมมองไปทางประธาน คนรู้จักเหรอ?
?มุซาชิ ดีใจนะที่มา พอได้เห็นความหาญกล้าของพวกนายแล้ว จิตใจพร้อมที่จะต่อสู้มันก็พวยพุ่งมากขึ้นเลยนะ?
ประธานและชายคนที่ถูกเรียกว่ามุซาชิคนนั้นจับมือกันแน่น เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่มิโซโนะและคิริกะไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรเป็นพิเศษทำให้คิดว่าเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับสภานักเรียนงั้นเหรอ ว่าแต่เป็นนักเรียนหรอกเหรอ ก็คิดว่าตัวเองรู้วัฒนธรรมที่ให้อิสระของโรงเรียนดีแล้ว แต่นี่ถึงขนาดมองข้ามและยอมให้สวมเครื่องแบบที่เตะตาขนาดนี้เลยงั้นเหรอ
?อ่า คือว่า คนพวกนี้??
ผมแอบถามรุ่นพี่มิโซโนะ
?ทุกคนคือคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไงล่ะคะ?
ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินที่กำลังคุยกันหรือเปล่า แต่พวกที่สวมเครื่องแบบทหารต่างกลับหลังหันโดยพร้อมเพรียงกันแล้วยืนตัวตรงไม่ขยับเขยื้อน
?กรรมการการเลือกตั้ง มุซาชิครับ!?
?กรรมการการเลือกตั้ง ยามาโตะครับ!?
?กรรมการการเลือกตั้ง คางะครับ!?
?กรรมการการเลือกตั้ง ฮิวงะครับ!?
?กรรมการการเลือกตั้ง อิเซะครับ!?
แต่ละคนพากันตะเบ๊ะแล้วบอกชื่อตัวเองออกมาด้วยท่าทางหาญกล้า
กรรมการการเลือกตั้ง อ้อ พ้องเสียงกับคำว่าเรือรบสินะ ก็เลยสวมเครื่องแบบทหารของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นอย่างนั้นสินะ....
?เป็นธรรมเนียมประเพณีของกรรมการการเลือกตั้งโรงเรียนเราน่ะ? ประธานพูดอย่างภาคภูมิใจ
?แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะบังเอิญมีนักเรียนที่ชื่อตรงกับเรือรบทุกๆ ปีเสมอไปนี่....?
?ทุกปีมีนักเรียนเข้าใหม่พันกว่าคน เพราะอย่างนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไรครับ!?
กรรมการการเลือกตั้งที่ชื่อคุณยามาโตะยืดอกพูด
?เพราะเราปล่อยข่าวลือออกไปว่า ผู้เข้าสอบที่มีชื่อแบบนั้นจะได้รับสิทธิพิเศษ ก็เลยทำให้ผู้สมัครเป็นกรรมการการเลือกตั้งมีจำนวนมากไปโดยปริยายครับ!?
กรรมการการเลือกตั้งที่ชื่อคุณคางะยืดอกพูด ....ไม่นะ ทำแบบนั้นก็ได้เหรอ?
ประธานมองแถวของเครื่องแบบทหารเรือไปทั่วแล้วพูดว่า
?คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นหน่วยงานที่ต้องการความเป็นกลางมากที่สุดใช่มั้ยล่ะ? จะใช้ปัจจัยอะไรตามอำเภอใจในการสรรหาบุคลากรไม่ได้ เพราะอย่างนั้นการสรรหาคนโดยดูจากชื่ออย่างเดียวจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้วไง?
อย่างนี้นี่เอง ผมเริ่มคล้อยตามแล้ว ไม่สิ ไม่สิ ไม่สิ ถ้าอย่างนั้นแล้วจับฉลากเอาก็ได้ใช่มั้ยล่ะ ถ้าดูให้ดีๆ แล้วจะเห็นว่าคนที่มีท่าทางมุ่งมั่นมีแค่ห้าคนที่อยู่แถวหน้าเท่านั้น ส่วนพวกคนดูอายุน้อยๆ ซึ่งอยู่แถวหลัง ทุกคนต่างพากันทำหน้าราวกับว่า ?ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย....? ถ้าให้ทำแค่งานของคณะกรรมการอย่างเดียวก็ยังพอทำเนา แต่นี่โดนบังคับให้แต่งตัวแปลกๆ เลียนแบบทหารด้วยก็เลยกล้ำกลืนฝืนทนกันอยู่ล่ะมั้ง น่าสงสารที่เกิดมาในครอบครัวที่มีชื่อสกุลญี่ปุ่นโบราณ
?เอาล่ะ ในปีนี้ก็จะขอรับฝากไปก่อนนะครับ!?
กรรมการการเลือกตั้งที่ชื่อคุณมุซาชิพูด รับฝากงั้นเหรอ? ผมมองไปทางประธาน
สิ่งที่เธอหยิบออกมาจากลิ้นชักของโต๊ะประธานนักเรียนแล้วส่งให้คุณมุซาชิก็คือกุญแจเก่าๆ หนึ่งดอก ผมใจหายวาบ ผมจำมันได้ กุญแจที่ให้ผมดูในวันงานกีฬาสี กุญแจหนึ่งในสามดอกที่ใช้สำหรับเปิดประตูมหากฎบัตร
คุณมุซาชิรับกุญแจไปอย่างนอบน้อมแล้วใส่ลงกล่องไม้เล็กๆ ที่ห่อด้วยผ้าสีขาว
?รับฝากเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ?
ทุกคนตบส้นรองเท้าโดยพร้อมเพรียงกันแล้วตะเบ๊ะอีกครั้ง
?ยกสมอ?
ทุกคนลดมือลงพร้อมๆ กับเสียงออกคำสั่ง
?หักซ้ายสุดกำลัง!?
บรรดากรรมการการเลือกตั้งออกจากห้องสภานักเรียนโดยใช้เส้นทางเดียวกันกับตอนที่เข้ามาเป๊ะ
ลมทะเลที่พัดอยู่ในท้องทะเลอันไร้ขอบเขตพัดเอาความเงียบสงัดเข้ามา ผมเองก็ได้แต่ยืนนิ่งอ้าปากหวอโดยที่ไม่ค่อยรู้เหมือนกันว่าตนเองกำลังมีความรู้สึกแบบไหนกัน
?มีข้อกำหนดว่าต้องฝากกุญแจดอกนั้นเอาไว้ที่กรรมการการเลือกตั้ง ในช่วงตั้งแต่จบงานวัฒนธรรมไปจนกว่าจะเปิดหีบนับคะแนน?
ประธานจับจ้องไปยังประตูแล้วพูดออกมา
?มันก็เหมือนกับถ้วยรางวัลของแชมป์ล่ะนะ?
คนต่อไปที่จะได้รับกุญแจดอกนั้น ก็คือประธานสภานักเรียนสมัยต่อไปที่ชนะการเลือกตั้งครั้งใหม่อย่างนั้นเองเหรอ
?....งานเทศกาลสนุกๆ จบลงไปหมดแล้วสินะคะ?
รุ่นพี่มิโซโนะเองก็จ้องไปทางประตูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเหงาหงอย
การประชุมสามัญใหญ่ของนักเรียน ปิดภาคฤดูร้อน งานกีฬาสี และงานวัฒนธรรม ตั้งแต่ผมเข้าโรงเรียนฮาขุจุไดแห่งนี้มาก็ได้สัมผัสประสบการณ์ในเหตุการณ์วุ่นวายยุ่งเหยิงต่างๆ มากมาย ทั้งที่น่าจะเป็นช่วงเวลาเจ็ดเดือนที่อัดแน่นจนแทบไม่ได้หายใจแท้ๆ แต่เมื่อย้อนคิดกลับไปแล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันผ่านไปอย่างรวดเร็วจนบอกไม่ถูก เพราะอะไรกันนะ? เป็นเพราะยังคงอาลัยอาวรณ์ช่วงเวลาอันเจิดจ้าซึ่งผ่านพ้นไปแล้วอย่างนั้นเหรอ หรือเป็นเพราะรู้สึกเสียใจที่ต้องเข้าสู่ฤดูกาลใหม่โดยที่ยังไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรเลยกันนะ
บางทีอาจจะใช่ทั้งคู่ หรือไม่ใช่ทั้งคู่



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในที่สุดก็มาถึงฤดูกาลแห่งการเลือกตั้งสภานักเรียนของโรงเรียนขนาดยักษ์ซึ่งมีจำนวนนักเรียนมากกว่า 8,000 คน ผมซึ่งลุกขึ้นมาปฏิวัติราชาตลอดกาลอย่างประธานเท็นโนจิ โคเท็ตสึ ก็ได้จับมือกับคุณโทคิโกะซึ่งเป็นผู้สมัครชิงชัยฝ่ายตรงข้ามเพื่อช่วยกันหาหนทางสู่ชัยชนะ กุญแจสำคัญของการแพ้-ชนะก็คือ ผู้สมัครตำแหน่งรองประธานสภานักเรียน.... ทว่าคงไม่น่าจะหาคนที่มีความสามารถโดดเด่นเหนือกว่ารุ่นพี่มิโซโนะได้
ส่วนคิริกะ นักสืบสภานักเรียนก็พยายามไล่เบี้ยปริศนาที่ว่าทำไมประธานถึงได้เลือกรุ่นพี่มิโซโนะเป็นคู่หู กระทั่งในที่สุดข้อเท็จจริงอันน่าตกตะลึงก็ถูกเปิดเผย อีกทั้งยังต้องบุกจู่โจมในมิติที่แตกต่างเกินคาดในการชิงชัยเลือกตั้งโดยใช้กลยุทธ์อันสุดแสนอันตรายที่ผมคิดขึ้นมา! เรื่องราวความรักสนุกสนานและลึกลับในโรงเรียนสุดไฮเปอร์กำลังจะเข้าสู่ศึกชิงชัยครั้งยิ่งใหญ่ระลอกที่ 6!


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”