ปัจจุบัน
?นี่ถ้ายัยกันย์ยังอยู่...แม่นั่นคงตัดชุดเจ้าสาวให้ฉันด้วยผ้าไทยที่สวยที่สุดในโลกให้แน่ๆ แล้วคงเป็นชุดแต่งงานที่สวยที่สุดในชีวิตของฉันเลยก็ว่าได้ จริงไหมยัยหมอ?
ตุลยดา มหาสุขสกุล มองชุดไทยสำหรับใช้เป็นชุดเจ้าสาวในงานเช้าพลางรำพันกับมีนรดา
?แกอย่าพูดสิ ฉันคิดถึงยัยนั่น เราสามคนเป็นเพื่อนรักกัน ฉันอยากให้ยัยเจ้าของห้องเสื้อกันยาบูติกมาร่วมยินดีในวันดีๆ ของเรา แต่จะทำอย่างไรได้ ยัยกันย์จากเราไปแล้ว? สีหน้าหมอมีนรดาหมองไม่ต่างกับตุลยดา
?เราสามคนเป็นเพื่อนรักกัน ไม่คิดเลยว่าอีกคนจะด่วนจากกันไปแบบนี้ ยัยกันย์อายุสั้นชะมัด? ว่าที่เจ้าสาวเศร้าหมอง คิดถึงแต่เพื่อนรักที่จากไป ต่อให้วันพรุ่งนี้เป็นวันแสนสุขก็ยังไม่เคยคลายความคิดลงได้
ตุลยดายืนมองชุดไทยจักรีสำหรับใส่ในพิธีเช้าด้วยความคิดถึงเพื่อนผู้จากไปไม่มีวันกลับ นัยน์ตาส่วนหนึ่งมีความสุขที่ตนจะได้แต่งงานกับชายที่รัก ความรักของเธอนานเกินไป ตอนนี้เข้าอาถรรพ์เลขเจ็ดอย่างที่หลายๆ คนกลัวเกรง อีกส่วนกลับคิดถึงเพื่อนจับใจ
หมอมีนท้องแก่ใกล้คลอด อุ้ยอ้ายเต็มที ท้องนี้คือลูกคนที่สอง แพทย์หญิงเองก็ต้องการให้เพื่อนรักได้อยู่พร้อมหน้ากันทั้งสามคนเพื่อร่วมยินดีในวันแสนสุข แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ กันยากรจากไปร่วมสามปี ทิ้งไว้แต่ความดีให้โลกอาลัยคำนึงถึงผลงานของเธอ
?ทำใจให้สบายเถอะนะตุลย์ ต่อไปนี้แกก็จะมีครอบครัวกับพี่นน?
ชานนคือแฟน หรือว่าที่สามีตุลยดา เขาเป็นหนุ่มสังคมค่อนข้างจัด เป็นคนเจ้าเสน่ห์ ต่างมีผู้หญิงทอดกายให้ท่าอยู่ไม่ขาด แต่เพราะเขารักจริงหวังแต่งกับตุลยดา ครอบครัวสาวทายาทเจ้าของร้านอาหารไทยฟิลชันคนนี้ได้ทำการพิสูจน์ความรักของชายหนุ่มจนเชื่อว่าสามารถดูแลปกป้องตุลยดาได้จึงอนุญาตให้แต่งกัน งานแต่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งได้เตรียมงานไว้เรียบร้อยไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง
?ขอบใจมากหมอ? มือบอบบางเนียนละเอียดของตุลยดาวางตรงหลังมือเพื่อนสนิท ?เดือนหน้าแกก็คลอดแล้วสิ? พลางวางมือลูบไล้ท้องนูนๆ ของเพื่อนรัก เธอก็อยากมีครอบครัวสมบูรณ์แบบอย่างมีนรดาเช่นกัน
?จ้ะ...ฉันไปล่ะนะ โน่น พี่ธัชมารับแล้ว? มองไปเห็นสามีที่เดินใกล้เข้ามาจึงเอ่ยขอตัวกับเพื่อนรัก ?พรุ่งนี้ฉันจะมาแต่เช้า ช่วยแกแต่งตัว?
?แกท้องแก่ ไม่ต้องก็ได้ ฉันจ้างช่างไว้ คนพวกนี้ล้วนมีฝีมือ ไม่ต้องห่วงหรอก?
?งั้นก็ได้? ท้องนี้ของมีนรดาติดนอนตื่นสาย เพราะได้พัก ไม่ต้องไปทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว เนื่องจากนั่งๆ เดินๆ ดูแลคนไข้ไม่ไหว ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลจึงอนุญาตให้เธอลาพักก่อนคลอด
ค่ำคืนที่คนเป็นว่าที่เจ้าสาวนอนไม่หลับ ตื่นเต้นในวันสำคัญของตัวเองที่จะมาถึง หากแต่ว่าที่เจ้าบ่าวกลับปิดผับเพื่อฉลองปาร์ตี้สละโสด เข้าออกได้เพียงเพื่อนสนิทที่เขาเชื้อเชิญ ที่สำคัญผู้ที่ได้รับการยกเว้นให้เข้ามาในงานได้สบายๆ คือผู้หญิงทุกคน ชานนเป็นหนุ่มสังคม ฐานะทางครอบครัวดีเยี่ยม นั่งตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของบริษัทผลิตและจำหน่ายกาแฟชื่อดังที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ ?เดอ คอฟฟี่? จำกัดมหาชน บริหารงานโดยชานน ศุภปัทท์
ข่าวที่เป็นสาเหตุทำให้วงการปั่นป่วนที่สุดคือการสละโสดกับสาวสวยเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ดังนั้นจึงมีทั้งเสียงอวยพรยินดีเท่าๆ กับเสียงอิจฉาริษยาว่าที่เจ้าสาวผู้ได้ครองร่างกายและหัวใจหนุ่มเจ้าเสน่ห์คนนี้ งานแต่งเห็นว่าจะถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตด้วยสินสอดที่เสนอให้ฝ่ายเจ้าสาวถึงสามร้อยล้าน นับว่าขนหน้าแข้งเจ้าสัวชัชชัยบิดาของเขาไม่มีวันร่วงแม้แต่เส้นเดียว
?ดื่ม...ฉลองให้กับคืนสุดท้ายของการเป็นโสดโว้ย? ชานนชนแก้วกับเพื่อนฝูงคนสนิททั้งสี่ อันได้แก่ภพ วินท์ แป๋ง สกาย ที่ล้วนเป็นเพื่อนและนักธุรกิจชื่อดังทั้งนั้น
?สาวๆ ทั่วบ้านทั่วเมืองคงอกหักเป็นแถว? ภพกล่าว
?แต่งแล้วก็ไม่ได้เข้าไปอยู่ในกรงนี่หว่า? ว่าที่เจ้าบ่าวค้าน
?มีเมียก็ต้องรักเมีย อยู่ในโอวาทเมียสิวะ? วินท์เห็นมานักต่อนัก พวกงูมีพิษ พอได้เมียมักกลัวเมียหัวหด
?ต่อหน้าเมียก็รักเมีย ลับหลังใครจะเหี่ยวอยู่ได้ล่ะวะ? ว่าที่เจ้าบ่าวไม่เคยเชื่อว่าการแต่งงานจะทำให้เขาสงบ ในเมื่อเกิดเป็นผู้ชายมันต้องลองของใหม่ๆ ให้ชุ่มหัวใจ มีชีวิตชีวาอยู่บ่อยๆ ไม่อย่างนั้นเซ็งตาย
?แกจะไม่เข้าสมาคมกลัวเมียว่างั้น? วินท์คือหนุ่มที่แต่งงานแล้วกับสาวสวย เขากลัวเมียจนขนลุกเวลาพูดถึงเมีย แต่ต่อหน้าเพื่อนทำกร่างไม่กลัวเมีย ?ฉันคนหนึ่งแหละที่ไม่เข้า? อ้างไปอย่างนั้น
?เหรอ...ไอ้วินท์? แป๋งท้วงคำพูดวินท์
?เมียต้องอยู่ในโอวาทโว้ย กลัวให้เสียเชิงทำไม? ว่าที่เจ้าบ่าวอวดอ้างในความเป็นพ่อบ้านใจกล้า
?คบกันมากี่ปีว้า รีบแต่งแล้ว? สกายไปอยู่เมืองนอกนาน กลับมาไม่กี่เดือนก็ได้รับการ์ดเชิญสีชมพูหอมๆ จากเพื่อนคนนี้ เขาจึงสงสัยความสัมพันธ์ที่รุดหน้าเร็วมาก เพราะเขาไม่นิยมแต่งงาน เชื่อว่าเป็นการผูกมัดชีวิตความสำราญ
?นี่...ไอ้กาย แกรู้จักฉันไม่ดีพอหรือวะ ฉันคบกับตุลย์มาเจ็ดปี และเพื่อทำลายอาถรรพ์เลขเจ็ดฉันเลยต้องแต่งงาน อีกอย่างตุลย์ไม่มีอะไรบกพร่อง งานบ้านงานเรือน อาหาร รวมไปถึงงานนอกบ้านก็เก่ง มีอะไรที่ทำให้ฉันไม่ต้องแต่งกับเธอวะ?
?เซ็กซ์ยังไงเล่า หลายคู่เห็นว่าเหมาะสมทุกอย่าง แต่พอแต่งกัน เซ็กซ์กลับทำให้ทั้งคู่ไม่สมหวัง ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเตียงหัก เหตุผลเดียว เรา...เข้ากันไม่ได้ ทั้งๆ ที่เข้ากันทุกวัน? สกายก็พูดเกินไป เขาต่อต้านการแต่งงานอะไรมากขนาดนั้น
?ตุลย์ของฉันน่ารัก เป็นสาวยุคใหม่ที่ไม่งี่เง่า เราคบกันมาหลายปี ฉันรู้จักเธอดี?
?เวลาส่วนใหญ่ของแกหมดไปกับการทำงานและผู้หญิงนอกบ้าน จริงๆ แล้วระยะเวลาเจ็ดปีที่ว่า แกให้ความสำคัญกับแฟนแกแค่ไหนว้าไอ้นน?
คำนี้จากปากสกายทำให้ชานนเริ่มคิดหนัก จังหวะนั้นเองสาวๆ ต่างทยอยเข้ามาในงานด้วยชุดเซ็กซี่สีดำที่เจ้าของงานเป็นคนกำหนดให้สาวๆ ที่จะเข้ามาร่วมงานสวมชุดดำ เขาชอบผู้หญิงใส่ชุดดำอวดรูปร่างเซ็กซี่ ชุดสีดำทำให้พวกเธอกลายเป็นสาวเปี่ยมด้วยเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา เขาอยากค้นหาผู้หญิงอื่นในคืนนี้ที่เป็นคืนส่งท้าย
ชานนชนแก้วกับผู้หญิงคนนั้นทีคนนี้ที สายตาเขาเชิญชวนพวกหล่อน มากด้วยขุมพลังทางเพศที่เปล่งประกายในคืนอำลาวงการหนุ่มโสด ผู้หญิงทุกคนชอบท่าทีเจ้าชู้เสน่ห์ล้นๆ ของชายหนุ่ม ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเงินมหาศาลของเขา
?คุณนนไม่คิดดูอีกทีหรือคะ?
?คิดอะไรครับ? เขาไม่รู้จักแม้แต่ชื่อผู้หญิงคนที่พูด แต่เธอดูดี เซ็กซี่ในเสื้อผ้าชุดรัดรึงสั้น อวดเรียวขาเกือบถึงแก้มก้น ชายหนุ่มเจรจาด้วยท่าทีกรุ้มกริ่ม
?สละโสดไงคะ?
?คุณจะให้ผมทำอะไรครับ?
?ยกเลิกสิคะ?
?ผมเป็นของทุกคน ต่อให้แต่งงานแล้ว ก็สามารถสนุกกับคุณได้?
?คิตตี้ไม่อยากแย่งคนที่มีเจ้าของค่ะ คิตตี้เป็นคนมีคุณธรรม?
?คิตตี้หรือครับ?
?ค่ะ...คิตตี้? แทนตัวเองด้วยชื่อเป็นการแนะนำตัวอ้อมๆ
?ยินดีที่ได้รู้จักครับ?
?ค่ะ?
?คิตตี้ไม่จำเป็นต้อง...แย่งนี่ครับ ใช้ผมร่วมกับแฟนผมได้?
?อุ๊ย...คุณนนล่ะก็?
?เต็มใจไหมล่ะครับ? เขาจับมือหล่อนขึ้นมาจรดจูบหลังมือ
?นี่ค่ะ โทร.มานะคะ? กดเบอร์โทรศัพท์ตัวเองพร้อมพิมพ์ชื่อลงไปในโทรศัพท์ของชายหนุ่ม อาศัยความไวดึงไปจากกระเป๋าเสื้อสูทของเขา
?ไม่โทร.ได้ไหม ขอเป็นตอนนี้คืนนี้เลย?
?จัดการตัวเองให้ได้ก่อนเถอะค่ะ สำหรับคิตตี้ไม่มีปัญหา...? เธอขยับเข้าใกล้ชายหนุ่ม เขย่งปลายเท้าขึ้นกระซิบชิดหูเขา ?...มีแต่ตัณหา? หล่อนกระซิบเสียงแผ่วสยิวใจ
ชานนหัวเราะเบาๆ ในลำคอ จังหวะที่กำลังตกลงกับแม่สาวคิตตี้ ปากประตูมีร่างสะโอดสะองรัดรึงในอาภรณ์หนังดำเย้ายวนก้าวเข้ามา สายตาทุกคู่หันไปทางแม่สาวคนนั้นเป็นตาเดียว แม้แต่ชานนก็ไม่มีข้อยกเว้น เขามองไปยังหล่อน จุดหมายของเขาเปลี่ยนไปทันที
ชานนหยุดมองผู้หญิงคนที่ก้าวเข้ามาใหม่ด้วยอาการสะท้านเยือก ขณะที่คิตตี้ฉุนกึกเพราะถูกแย่งความสำคัญไป ปลาตัวใหญ่กำลังติดเบ็ดอยู่แล้วแท้ๆ
สาวคนนั้นสวยโดดเด่นกว่าคนอื่นนั่นคือความจริง ปากแดงจรัส เด่นเห็นมาแต่ไกล แม้ในแสงสลัวก็ตาม ผมยาวสีอ่อนจากการย้อมดัดลอนตามสมัยนิยม ผู้หญิงประเภทนี้สวยเด่นไม่ธรรมดา อกเอวรับกันกับความสูงเพรียวของรูปร่าง ผิวขาวเปล่งปลั่ง ปลั่งจนแสบตาเวลาแสงไฟสาดส่องที่ตัวเธอ
?ผมควรจะทราบชื่อคนที่ย่างก้าวเข้ามาในงานผม ดูเหมือนคุณจะไม่ได้แจ้งชื่อไว้?
?ฉันไม่มีสิทธิ์มาตามคำเชิญตรงป้ายที่ตั้งไว้ตรงด้านหน้าหรือคะ?
หล่อนพูดจาเนิบนาบเล่นหูเล่นตา เล็บแดงปากแดงของหล่อนตัดกับชุดหนังสีดำรัดรูป น่าถอดออกไปให้พ้นๆ ภายใต้ชุดหนังสีดำนั้นคงจะขาวเนียนน่าสัมผัส ไอ้น้องชายใต้กางเกงอยากสัมผัสกับหล่อนจนเริ่มตุงแน่นคับเป้า
เขาสำรวจคุณสมบัติของหล่อนด้วยสายตา ?อืม...จัดได้ว่าถูกต้อง ชุดดำผ่าน แต่...? เขาขยับเข้าไปหาหล่อนในท่าทีคุกคามพอสมควร ก้มลงกระซิบ ?ถ้าคุณไม่ใส่ผมว่าจะถูกกติกามากกว่า?
?ก็ขึ้นอยู่กับว่าฉันอยู่ที่ไหน?
?แล้วอยู่ที่ไหนคุณถึงไม่ต้องใส่อะไรล่ะครับ?
?อยู่กับคุณ...หรือเปล่าน้า...?
ชานนระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี คืนนี้ช่างเป็นคืนสละโสดที่วิเศษสุดๆ
?บอกชื่อคุณได้ไหมครับ? ว่าที่เจ้าบ่าวถามผู้หญิงที่ไม่ใช่เจ้าสาวด้วยท่าทีอยากหวังงาบหล่อนเต็มแก่
?อัม...พิ...กา ไอซ์ค่ะ? มือเรียวถูกยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่ม เพื่อให้เขาจับทำความรู้จักในแบบฝรั่ง
?ชื่อคุณดูท่าจะเย็น? เขาจ้องมองหล่อนราวกับจะกิน
?เปล่าค่ะ...? ปฏิเสธคำพูดของชายผู้มากด้วยขุมพลังทุกอย่าง สมบัติ ความหล่อ ความมีเสน่ห์ รวมไปถึงลีลาชั้นเชิงความเป็นหนุ่มเจ้าชู้
?แล้วยังไงครับ? เขาอยากรู้คำปฏิเสธของหล่อน
?ร้อนต่างหาก? เสียงพูดกระเส่าเชิญชวน ให้ท่าอย่างชัดเจน
?ผม...ดับร้อนให้ไอซ์ได้นะครับ? เขาเสนอตัวโดยไม่เกรงใจคนรออยู่ที่บ้าน รอวันเข้าพิธีวิวาห์กับเขาแม้แต่นิดเดียว ต่อหน้าตุลยดาชานนไม่ใช่ผู้ชายที่แสดงออกต่อผู้หญิงคนอื่นอย่างกะลิ้มกะเหลี่ย เขาสุภาพมากจนผู้ใหญ่ไว้ใจ
?ที่นี่หรือคะ?
?คุณมีที่ดีๆ สำหรับเราไหมล่ะ?
?แต่นี่มันเป็นงานปาร์ตี้ของคุณไม่ใช่หรือคะคุณนน?
?คุณรู้จักผมแล้ว?
?ใครไม่รู้จักคุณชานน ศุภปัทท์ ซีอีโอแห่งเดอ คอฟฟี่ ก็ถือว่าตกยุค?
หล่อนตามติดข่าวเขามานานพอสมควร พอทราบว่าเขาจะจัดปาร์ตี้สละโสด เอมพิกาก็ไม่คิดจะพลาดโอกาสสุดท้ายในชีวิตเพื่อให้ได้ใกล้ชิดชานน ต่อให้เป็นนาทีสุดท้ายหล่อนก็ยังเชื่อว่าตัวเองมีสิทธิ์ในตัวผู้ชายคนนี้
?นน...? วินท์เดินมาตบบ่าเพื่อน ชานนมองหน้าวินท์อย่างไม่เข้าใจ หมอนี่จะมาขัดจังหวะเขาทำไม ?พอเถอะ เกรงใจคุณตุลย์บ้าง?
วินท์เชื่อเรื่องเลขเจ็ดแห่งความอาถรรพ์ ต่อให้ชานนตัดสินใจแต่งงานกับตุลยดาแฟนสาว แต่ถ้าขืนทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยในคืนสละโสด เห็นทีงานแต่งพรุ่งนี้ต้องมีปัญหา เขาในฐานะเพื่อนที่คบหากันมานานควรปรามชานนไม่ให้ล้ำเส้นจนเกินไป แค่ดื่มกินอย่างเดียวก็น่าจะพอ
?ไม่มีอะไรน่าวินท์ ฉันคุมได้?
?คุมอารมณ์ตัวเอง หรือคุม...? วินท์ชำเลืองมองสาวเซ็กซี่ใกล้ๆ ตัวชานน เธอดูร้อนแรงมากเกินกว่าจะหยุดทุกอย่างลงง่ายๆ ซ้ำยังปั้นหน้าไม่เดือดร้อนต่อการกระทำเกินเลยของตัวเอง ผู้หญิงสมัยนี้ไม่น่าไว้ใจในความคิดเบื้องลึก
?แกก็รู้จักฉันดี ไม่มีใครอยู่เหนือฉันได้ ฉันเป็นคนคุมเกมเสมอ ถ้าฉันไม่อยาก ใครจะกล้าบังคับ?
?แกอยากหรือยังวะ? วินท์ลากชานนออกมาห่างๆ หญิงสาวผิวขาวเปล่งออร่า เขารู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้ แต่คิดไม่ออกว่าเป็นใคร
?ก็นิดหน่อย แกเห็นไม่ใช่หรือว่าเธอตั้งใจอ่อยฉัน?
?คนกำลังจะแต่งงานก็เนื้อหอมอย่างนี้แหละว้า ระวังตัวหน่อยก็ดี?
?พูดอย่างกับแกไม่รู้จักฉัน?
?เออ...ผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกันโว้ย บางคนยุ่งแล้วจบกันไป บางคนยุ่งแล้วไม่จบก็มีเยอะแยะ?
?เอาเถอะ ฉันเอาอยู่? ชานนยังคงมั่นใจในตัวเอง เขาผยองเสมอ แม้แต่ครั้งนี้ก็ด้วย
ผู้หญิงถ้าแต่งมาแล้วเอามาเป็นนาย อยู่เหนือชีวิตเรา จะแต่งเพื่ออะไร เขาคิดว่าตัวเองสามารถคุมเกมได้จึงตัดสินใจแต่งกับตุลยดา เธอไม่ได้มีข้อบกพร่องอะไร ตลอดระยะเวลาที่คบกันหญิงสาวดีทุกอย่าง หญิงอื่นคือทางผ่านเพื่อรสชาติสีสันในชีวิต
?แกไปสนุกกับสาวๆ เถอะ?
ชานนดันหลังวินท์ให้ไปสนุกกับสาวสวยที่มากันแน่นพื้นที่ผับหรู เขาลงทุนเหมาตลอดทั้งคืน ก่อนหันมาชนแก้วกับไอซ์...สาวเปรี้ยวจี๊ด รู้สึกอยากชิมรสชาติในคืนปาร์ตี้สละโสด ขำๆ ไม่ได้คิดไปไกล ถึงขนาดคบหากันยืดยาว ชานนเป็นคนคิดอะไรง่ายๆ ในแบบผู้ชายมีเงิน เขาคิดว่าโลกนี้อะไรก็ง่ายไปหมดถ้ามีเงินซะอย่าง ลองเขาไม่มีเงินสิ ผู้หญิงพวกนี้จะเข้าหาไหม ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงาน
ชานนยักคิ้วส่งให้เพื่อน หันกลับมายกแก้วชนกับหญิงสาวที่มีชื่อเย็นๆ แต่ท่าที สายตา ร่างกายของหล่อนค่อนข้างสวนทางกับชื่อ
?ในนี้ร้อนอบอ้าวนะครับ? ชานนที่ดื่มไปหลายแก้วเปรยขึ้นลอยๆ พร้อมกับทำท่ายกมือโบกไปมาไล่ความร้อน
?ไอซ์พอจะทำให้คุณนนเย็นได้ไหมคะ? สาวเปรี้ยวกรีดนิ้วชี้ลงบนต้นแขนของเขา ส่งสายตาให้ท่า เลียหยดน้ำบนปากสีแดงของหล่อน ปากของแม่สาวเปรี้ยวแสบทรวงเซ็กซี่ แม้อยู่นิ่งๆ ก็ชวนมองชวนฝัน คนกำลังจะแต่งงานมองผู้หญิงคนอื่นสวยย่อมไม่น่าไว้วางใจ
?ต้องพิสูจน์?
ดูสายตาเขาเถอะ มองมาที่สาวชื่อเย็นๆ ชวนละลาย หญิงสาวร้อนวูบวาบไปทั้งตัว นั่นไม่ใช่ฤทธิ์ของเครื่องดื่ม แต่เพราะเป็นพลังอำนาจจากชานน ใครได้อยู่ใกล้เขาไม่ร้อนไม่สะดีดสะดิ้ง เห็นจะเป็นพวกผักปลาไร้ความรู้สึก ไอซ์มีเลือดเนื้อไม่ใช่พวกผักปลา จุดประสงค์การมาที่นี่ก็เพื่อพบกับชานน
ไม่น่าเชื่อว่าการลงทุนขั้นสูงสุดครั้งนี้จะสำเร็จ ไม่ว่าการแต่งตัว แต่งหน้า ย่างก้าวแต่ละก้าวต้องการสะกดสายตาให้เขาหันมาสนใจ ทีแรกคิดว่าข้างกายชายหนุ่มคงมีผู้หญิงมากมาย ไม่มีเวลาชายตามาแลคนอย่างหล่อน สุดท้ายเป็นอย่างไร หล่อนกลับทำสำเร็จ ได้ชัยชนะเหนือผู้หญิงคนอื่นที่ต่างมองมาทางหล่อนด้วยดวงตาขวาง
อัมพิกาทำท่าทางยกตนข่มท่าน ยิ้มประกาศชัยชนะต่อพวกผู้หญิงสวยเซ็กซี่ทั้งหลายเหล่านั้น ในแววตาเต็มไปด้วยความถากถาง ?คนนี้ห้ามยุ่ง ฉันจอง?
ไอซ์ไม่ใช่ไม่รู้สถานะในวันพรุ่งนี้ของชานน เพราะรู้แก่ใจถึงได้มาปาร์ตี้นี้ สาวเปรี้ยวจี๊ดช่างมั่นใจในเสน่ห์ตนใช้นิ้วเรียวที่มีเล็บแดงเกี่ยวเนกไทของชายหนุ่ม ดึงให้ก้าวตามหล่อนไปตรงทางหนีไฟเพื่อหลบมุมสายตาผู้คน ตรงนี้คงจะปลอดกล้องวงจรปิด
?ที่นี่หรือครับ? ชานนแกล้งซื่อมองหากล้อง เกรงตัวเองจะกลายเป็นดาราดังโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะคนอย่างเขาดังอยู่แล้ว จึงเบี่ยงหน้าหลบหันไปทางวิวด้านนอกมากกว่าหันเข้ามาทางตัวอาคาร
นิ้วของหล่อนทำงานด้วยการปลดคลายเนกไทของเขาออก ชานนได้แต่ยืนนิ่งๆ ให้น้องไอซ์ได้ทำหน้าที่โดยเขาไม่คิดขัดขวาง หล่อนคลายมันให้หลวมแล้วใช้ความพลิ้วไหวของนิ้วเรียวแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา
?หายร้อนบ้างหรือยังคะ? สาบเสื้อเชิ้ตเปิดออกหลังจากกระดุมสามเม็ดถูกนิ้วเรียวแกะออก
?ร้อนมากขึ้นสิไม่ว่า?
เขากระชากตัวหล่อนเข้ามากระแทกร่าง หญิงสาวไว้ตัวเอนกายหนีจมูกโด่งที่โน้มมารุกรานแก้มและซอกคอระหง กลิ่นตัวหล่อนหอมปลุกความต้องการของผู้ชายได้ในระดับรุนแรง นับว่าผู้หญิงคนนี้ทำการบ้านมาดี
?คุณหอมจัง?
?ตรงไหนคะ? คนสวยแกล้งไก๋
?ผมไม่แน่ใจ จนกว่าจะ...?
ชานนเว้นวรรคประโยค ผสานสายตาสำรวจระคนเร่าร้อนในคราวเดียว เขาช่างเป็นผู้ชายมีเสน่ห์ล้นต่อสายตาผู้หญิง ทั้งปากหวาน เอาใจเก่ง ไม่มีใครเกินชานนคนนี้ไปได้ ที่สำคัญแม้เขาเจ้าชู้แบบนี้ กลับไม่เคยทำให้ว่าที่เจ้าสาวที่คบหากันมานานถึงเจ็ดปีเสียใจจากความเจ้าชู้ของเขาสักครั้ง ถือว่าเขาสับรางเก่ง ปิดบังซ่อนเร้นเก่ง
ชานนเชื่อว่าตัวจริงอย่างไรก็คือตัวจริง เขาจะไม่ยอมให้เธอรู้เรื่องที่เขาทำผิดต่อเธอได้
เจ้าของงานปาร์ตี้หายออกไปจากงาน ปล่อยให้คนอื่นๆ สนุกสนานเฮฮากันเอง
ประตูห้องสวยสีหวาน จัดตกแต่งแบบผู้หญิงถูกเปิดออก พร้อมสองร่างพยุงกันเข้าไปภายในห้อง ตอนนี้ชานนเหมือนคนเมามากกว่ามีสติ เขาอยากทำอย่างอื่น อยากทำหลายๆ อย่างกับแม่สาวตัวหอม ทว่าเหมือนจะไม่สามารถพยุงตัวเองให้ทำอะไรได้นอกจากเดินตามแรงฉุดของหล่อนเข้าไปภายในห้องกลิ่นสะอาด ไม่คุ้นจมูก ร่างของเขาถูกปล่อยลงบนที่นอนนุ่มโดยมีร่างหอมตามลงมาคลอเคลีย
?เป็นยังไงบ้างคะคุณนน? เสียงหวานอ้อนของหล่อนคลอเคล้าอยู่ใกล้ๆ ขณะดึงเขาเข้าไปจูบ
ชายหนุ่มจูบตอบ ทั้งสองพัวพันกันสุดสวาท ร่างกายชานนถูกเอาใจด้วยการปลดเปลื้องเสื้อผ้าโยนทิ้งไกลตา หญิงสาวก้าวขึ้นก่ายเกยบนตัวเขา หล่อนเปลื้องผ้าไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียวเช่นกัน แนบร่างเปล่าเปลือยกับร่างบึกบึนสมชายของผู้ชายใต้ร่างอิ่มสล้างด้วยวัยสาว
?คืนนี้คุณนนต้องเป็นของไอซ์? หล่อนพูดเสียงเบาพร้อมกับใช้ร่างกายเร่าร้อนของตัวเองแนบนาบเพื่อจะหลอมเป็นร่างเดียวกับเขา
ชานนร้อนวูบวาบ แยกไม่ออกระหว่างฤทธิ์ของเครื่องดื่มรสแรงหรือความต้องการแบบผู้ชายที่อัดแน่น เขาใช้ร่างกายทุกส่วนตอบสนองอารมณ์ตัวเอง และการเอาอกเอาใจจากหญิงสาวที่ครอบครองร่างแสนแกร่งของเขาไว้ มือใหญ่ร้อนระอุจัดการเคล้นเคล้าหน้าอกคู่อิ่มที่อยู่เบื้องบนใกล้ชิดใบหน้า หล่อนบิดเร่ารัญจวนท่วงท่าเซ็กซี่ บ่งบอกอารมณ์ร้อนแรงประทุ
หากแต่...ในวินาทีที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย สติของชานนพลันดับวูบ เขาเมามากได้อย่างไรในค่ำคืนสละโสด ซ้ำได้กินของร้อนอย่างน้องไอซ์ ชานนหลับกลางอากาศพร้อมกับทิ้งอารมณ์ค้างไว้กับน้องไอซ์ อัมพิกา
หล่อนรับรู้ถึงการไม่ไปต่อ จึงชะงักการเล้าโลมมองคนเบื้องล่าง
?นี่...คุณนน...คุณนน? ฝ่ามือบอบบางตบใบหน้าเขาเบาๆ เพื่อเรียกสติให้คนด้านล่างกลับมาทำอะไรต่อมิอะไรกับหล่อนให้จบ ทว่าเรียกเท่าไรชานนกลับเงียบ
?เซ็งชะมัด? อัมพิกาทิ้งกายลงนอน เซ็งสุดๆ กับคนที่หลับกลางอากาศขณะอารมณ์กำลังได้ที่ ?กล้าทำอย่างนี้กับไอซ์ได้ยังไงคุณนน? หล่อนบ่นอุบ ทว่า...ในเสี้ยวความคิดหนึ่งจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปหลายมุม มองไปยังกองเสื้อผ้าที่ตกหล่นอยู่ รอยยิ้มผุดพรายประดับบนดวงหน้าสวยเฉี่ยวอย่างสาวเปรี้ยวราวกับนางมารร้ายหมายทำลายบางอย่าง
อัมพิการู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปกับชานน หล่อนรู้สึกสมใจเมื่อมองร่างเปล่าเปลือยนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ถ้าไม่ใช้วิธีนี้มีหรือจะพาเขามาถึงห้องได้ ซ้ำตอนนี้หล่อนยังมีรูปเขาทุกซอกทุกมุมอีกด้วย มุมปากเจ้าเล่ห์แสยะยิ้ม
?ไอซ์หลงรักคุณมานานแล้ว คุณไม่เคยรู้ตัวเลยหรือคะคุณนน? หล่อนลูบไล้แก้มสากของเขา จ้องมองเขาด้วยอาการหลงใหล ?คุณต้องเป็นของไอซ์ค่ะ ของไอซ์เท่านั้น?
หล่อนพูดอยู่คนเดียว สายตาส่อแต่แววสมหวัง ลงมือจัดท่าทางให้เขานอน ส่วนตัวหล่อนแทรกตัวไปนอนเคียงข้าง ถ่ายรูปคู่ไว้เป็นหลักฐาน โอววว อย่าว่าหลักฐานสิ เรียกว่าเป็นที่ระลึกระหว่างกันและกันถึงจะถูก อัมพิกาคิดแบบนั้นแล้วก็เก็บโทรศัพท์หลังถ่ายรูปจนพอใจลงในลิ้นชักตู้ข้างเตียง
?ถ้างานแต่งงานไม่มีเจ้าบ่าว ดูซิจะแต่งได้ไหม? หล่อนยิ้มอย่างผู้มีชัย แล้วก็ซุกกายเข้าไปในผ้าห่ม ใช้ร่างเปลือยเปล่านอนเคียงแนบชิดกับชายหนุ่ม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตุลยดาได้รับกระจกโบราณบานหนึ่งเป็นของขวัญวันแต่งงานที่งานแต่งล่มไม่เป็นท่าเพราะว่าที่เจ้าบ่าวดันไปนอนกับสาวอื่นเสียก่อน ในคืนหนึ่งที่มีฝนดาวตกเธอถูกกระจกลึกลับบานนี้ดูดเข้าไปขณะหลับใหล และตื่นขึ้นในยุคอดีตปีพ.ศ.๒๔๗๕ ท่ามกลางสวนกุหลาบงามสะพรั่ง หนำซ้ำยังถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแม่โอบ หญิงคนรักที่หายตัวไปนานห้าปีของเจษฎากร เจ้าของสวนกุหลาบแห่งเรือนปั้นหยานี้ เพราะดวงหน้าจิ้มลิ้มนั้นพิมพ์เดียวกับแม่โอบทุกกระเบียด หญิงสาวจึงจำต้องแสดงบทคนรักของเขาท่ามกลางสายตาริษยาของแม่เอี่ยม ผู้หญิงที่มีดวงหน้าไม่ผิดเพี้ยนเธออีกคน!
