New Release : เล่ห์สวาทจอมมาร

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : เล่ห์สวาทจอมมาร

โพสต์ โดย Gals »

เล่ห์สวาทจอมมาร โดย ดาหลา

1
บนสนามหญ้าสีเขียวขจีริมชายหาดสีขาวสะอาด มีพิธีแต่งงานเล็กๆ แต่อบอุ่นของบุตรสาวผู้ว่าฯ เมืองภูเก็ตกับเจ้าบ่าวชาวต่างชาติ แขกเหรื่อทั้งชายหญิงแต่งตัวด้วยเนื้อผ้าพลิ้วไหวสีสันสดใส ซุ้มอาหารราวสามสี่ซุ้มจัดไว้บริการแขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินทักทายแขกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจนกระทั่งมาถึงกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวที่ยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างาน
?นิก้า ยัยหมอมาหรือยัง? เพ็ญอุไรเจ้าสาวคนสวยเอ่ยถามเพื่อนแล้วชะเง้อมองถนนด้านหน้าโบสถ์
?ยังเลย แต่ฉันโทร.เช็กแล้วกำลังมา? นิก้า สาวลูกครึ่งไทยอเมริกันบอกพลางมองนาฬิกาข้อมือ ?มันน่าจะถึงแล้วนะฉันว่า? นิก้าคาดการณ์ คนที่รอยังไม่มา แต่คนที่ไม่ได้รอกลับมาถึงก่อนเสียอีก
รถยุโรปคันหรูสีดำมันวาบสะท้อนกับแสงอาทิตย์วิ่งมาจอดริมฟุตปาธ ทำให้สองสาวหันไปมอง ไม่นานร่างสูงสง่าในสูทสากลสีเข้ม บนใบหน้ามีแว่นกันแดดปิดไว้กว่าครึ่งก็ก้าวลงจากรถ
?ว้าว ใครมาน่ะเพ็ญ เท่ระเบิดเลย? นิก้าตื่นเต้นเมื่อเห็นร่างสูงสง่าเดินเข้ามาในงาน โดยมีชายชุดดำสองคนเดินขนาบข้าง
?เพื่อนผมเองครับ ออสติน ฌอนสัน? ไมเคิล เจ้าบ่าวไขข้อข้องใจของสองสาวแล้วเดินยิ้มไปรับเพื่อน ?ฮัลโหลออสติน คิดว่านายจะเบี้ยวงานแต่งฉันซะแล้ว?
ไมเคิลจับมือเพื่อนรักสมัยเรียนเขย่าแรงๆ แล้วสวมกอดกันอย่างคิดถึง
?เพื่อนรักแต่งงานไม่มาได้ไงวะ? ออสตินบอกพลางมองเจ้าสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกล ?เจ้าสาวสวยนี่หว่าเพื่อน? มือหนาตบบ่าเพื่อนอย่างสัพยอก
?สาวไทยมีเสน่ห์มาก เพื่อนๆ เพ็ญน่ารักหลายคน ฉันจะแนะนำให้ถ้านายสนใจ? ไมเคิลเอนตัวไปกระซิบเบาๆ ขณะเดินมาหยุดตรงหน้าสองสาว ออสตินหัวเราะหึๆ ในลำคอ
?เพ็ญครับ นี่ออสติน ฌอนสัน เพื่อนรักผมเองครับ? ไมเคิลแนะนำเพื่อนให้เจ้าสาวรู้จัก
?สวัสดีครับ ยินดีด้วยนะครับ? ออสตินยื่นมือไปจับกับเพ็ญอุไร
?เช่นกันค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่สละเวลามางานแต่งเล็กๆ ของเราสองคน ไมเคิลคุยเรื่องคุณให้ฉันฟังบ่อยๆ เพิ่งได้เห็นตัวจริงวันนี้? เจ้าสาวบอกด้วยน้ำเสียงสดใสแล้วหันไปยิ้มหวานให้เจ้าบ่าว
?หมอนี่มีเรื่องให้นินทาเยอะมากที่รัก เป็นตำนานเลยล่ะ? เจ้าบ่าวยกมือโอบบ่าเจ้าสาวและมองกันอย่างมีความสุขจนออสตินอมยิ้ม
?เอ่อ?เดี๋ยวนะคะทุกคน นิก้าขอแนะนำตัวสักนิด?
นิก้าแตะนิ้วประกอบคำพูด แล้วขยับมายืนข้างๆ คู่บ่าวสาว พอออสตินหันมามอง เธอก็ตาโตขยับแว่นสายตาเพื่อมองความหล่อเหลาของเขาให้ชัดขึ้น
?ว้าวแม่เจ้า?ผู้ชายในฝัน? ท่าทางขี้เล่นกับรูปร่างเจ้าเนื้อน่ารักของนิก้าเรียกรอยยิ้มจากคนใกล้ตัวทันที
?ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมก็ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง? ออสตินออกตัว
?แบบนี้รักเลยค่ะ ดิฉันนิก้านะคะ เป็นเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าวเจ้าสาวค่ะ? นิก้ายื่นมือไปจับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ออสตินจับมืออูมเขย่าเบาๆ แล้วทิ้งมือลงข้างตัว
?อย่าไปถือสาแม่คนนี้เลยนะคะ นิก้าเป็นโรคแพ้ความหล่อค่ะ? เจ้าสาวแซว ยิ่งทำให้นิก้าบิดตัวไปมาด้วยความขัดเขิน พอดีกับที่อิงกฤตเพื่อนสนิทอีกคนเดินเข้ามาในงาน
?อิง ทางนี้? นิก้ายกมือทักทาย แพทย์หญิงอิงกฤต อินทรชัยที่สวมชุดเดรสสีฟ้าน้ำทะเลยาวเหนือเข่าเดินยิ้มมาแต่ไกล
?ทำไมไม่มาช่วยเขาเก็บของเลยล่ะยะยัยหมอ? นิก้าแซวพลางสวมกอดเพื่อน
อิงกฤตโยกร่างเจ้าเนื้อไปมาอย่างมันเขี้ยว เพราะมัวแต่ทักทายเพื่อนทำให้อิงกฤตไม่ทันสังเกตร่างสูงสง่าที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้าบ่าว
?โอ๊ย?เพ็ญช่วยด้วย ฉันโดนช้างกอด? อิงกฤตพูดปนหัวเราะ ทำเอาทุกคนพลอยขำไปด้วย ?อย่าโกรธเลยนะแม่นิก้าคนงาม ฉันรู้ว่าแกมาเป็นแม่งานแล้วไง ก็เลยยกหน้าที่ให้แกหมดเลย?
?ชมว่าฉันสวย อภัยให้ก็ได้? นิก้าทำแก้มป่องแล้วคลายอ้อมแขนออก ส่วนเจ้าสาวกางมือออกรอกอดเพื่อน
?ขอบใจนะอิง? เพ็ญอุไรกอดเพื่อนแน่น รู้ดีว่าอิงกฤตงานยุ่งแค่ไหน สำหรับเพื่อนคนนี้เป็นที่รักของเพื่อนๆ เสมอ
?ดีใจด้วยนะ แล้วก็ขอให้มีความสุขมากๆ? อิงกฤตอวยพรก่อนจะหันไปยิ้มกับเจ้าบ่าว ?คุณไมเคิลแต่งชุดไทยแล้วหล่อมากเลยค่ะ? เธอแซวจนเจ้าบ่าวหน้าแดง
?แต่คงสู้คนนี้ไม่ได้ครับ? ไมเคิลขยับไปหาเจ้าสาว เปิดทางให้คนข้างหลัง
อิงกฤตมองศีรษะที่ก้มมองพื้น แล้วคนหล่อของไมเคิลก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ มือข้างหนึ่งดึงแว่นกันแดดออกจากสันจมูก เมื่อเห็นหน้าคมเข้มชัดเจน ร่างโปร่งระหงถึงกับนิ่งงัน สองคนจ้องมองกันด้วยความคาดไม่ถึง
?คุณ?? ทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน สายตาสองคู่สบประสาน ทุกสรรพสิ่งรอบกายหยุดนิ่งราวกับต้องการให้ทั้งคู่ทบทวนเรื่องราวในอดีต ความรู้สึกโหยหาลึกๆ และความหลังครั้งวันวานแจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง
ปฏิกิริยาของเธอและเขาก่อให้เกิดความสงสัยแก่สายตาสามคู่ที่เฝ้ามองอยู่ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวและนิก้ามองหน้ากันอย่างสงสัย
?เอ่อ เดี๋ยวนะครับ คุณออสตินคุณอิงกฤต คุณสองคนไม่ต้องจ้องกันนานแบบนั้นก็ได้ครับ? ไมเคิลพูดติดตลกทำให้ทั้งสองได้สติ ?คนนี้คือออสติน ฌอนสัน เป็นเพื่อนรักผมเองครับคุณหมอ แล้วนี่คุณหมออิงกฤต อินทรชัย? ไมเคิลทำหน้าที่แนะนำ
?เรารู้จักกันนานแล้วใช่ไหมครับหมอ? ประโยคท้ายออสตินเอ่ยพลางมองใบหน้าหมดจดที่ตราตรึงอยู่ในใจ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีหากภาพเธอไม่เคยลืมเลือนไปจากใจของเขา
?เซอร์ไพรส์ว่ะเพื่อน?
?นั่นสิ อิงรู้จักกับคุณออสตินก็ไม่บอกกันบ้าง? นิก้าทำแก้มป่องใส่เพื่อนอย่างน่ารัก
?เราเคยรู้จักกันตอนที่ฉันไปฝึกงานที่ลอนดอนค่ะ นานมาก มากจนฉันลืมไปแล้ว? ประโยคแรกอิงกฤตเน้นเสียงหนักจนริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มน้อยๆ หากแววตาดุดันขึ้นกว่าเมื่อครู่
?ไม่เหมือนผมที่จดจำทุกเรื่องราวได้แม่นยำเสมอ?
ออสตินมองดวงหน้าหมดจดผ่านเลนส์แว่นกันแดดที่เพิ่งสวมกลับเข้าไปใหม่ จนอิงกฤตไม่มีโอกาสได้เห็นแววตาคาดโทษของคนมอง ก่อนที่บรรยากาศจะลุกลามไปมากกว่าเดิม เสียงระฆังก็กังวานขึ้น
?อุ๊ยตายแล้ว ได้เวลาเข้าโบสถ์แล้วค่ะไมเคิล? เมื่อได้ฤกษ์เข้าโบสถ์ การสนทนาจึงยุติ นิก้าในฐานะแม่งานพาเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปเตรียมตัว อิงกฤตขยับจะตามไปแต่มือถูกคว้าเอาไว้
?ไม่ต้องตามไปหรอกหมอ ปล่อยให้คุณนิก้าจัดการดีกว่า?
อิงกฤตบิดข้อมือออกแล้วหันไปมองร่างสูงที่ขยับมาจนเกือบตัวติดกัน เธอจึงต้องถอยห่างออกมา
?คุณไม่ไปก็อยู่คนเดียวสิคะ ฉันจะไปหาเพื่อนฉัน?
?หนีเก่งเหมือนเดิม? เขายิ้ม จับมือเธอไม่ยอมปล่อย ?ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะครับ? เขาถามขณะไล้นิ้วกับหลังมือนุ่ม
?นี่คุณ กรุณาปล่อยมือฉันด้วย คนอื่นเห็นมันไม่ดี เพราะที่นี่คือเมืองไทย? เธอบอกหน้าตึงอย่างไม่พอใจ แต่มีหรือที่ออสตินจะสน
?ถ้าไม่อยากให้คนเห็นก็ไปคุยกันด้านโน้น? เขามองไปที่ศาลาริมชายหาด ออกแรงนิดๆ บังคับเธอเดินเคียงข้าง อิงกฤตมองหาคนช่วย แต่ทุกคนก็ทยอยเดินเข้าโบสถ์เพื่อร่วมพิธีสำคัญ
?แต่ใกล้ถึงเวลาทำพิธีแล้วนะคุณ? อิงกฤตพยายามชักมือกลับแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้
?อย่าดื้อน่าหมอ ผมไม่อยากจูบหมอโชว์เท่าไรหรอกนะ ถ้าจะดื้อก็ดื้อเวลาอยู่กับผมสองคน จะได้ทำอะไรสะดวกหน่อย?
เขาพูดเหมือนไม่แคร์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ กับผู้หญิงคนนี้เขาต้องค่อยเป็นค่อยไปเพราะต้องการมัดเธอแนบกายและใจด้วยหมัดน็อกเพียงหมัดเดียว ชนิดที่เธอหาข้ออ้างใดๆ มาโต้แย้งไม่ได้
อิงกฤตมองหน้าคม เขายิ้มให้ แววตาบ่งบอกว่าไม่ได้พูดเล่นแน่นอน คุณหมอสาวจำต้องเดินเคียงข้างร่างสูงไปที่ชายหาด
?มาดามกับทุกคนเป็นยังไงบ้างคะ? เธอชวนคุยขณะเดินขึ้นศาลาไปพร้อมเขา ออสตินยิ้มบางๆ เมื่อคิดถึงคำพูดของพี่ชาย?ขยายธุรกิจไปเมืองไทย มีแผนไปตามหาหัวใจหรือเปล่าวะ...
?สบายดีครับ เด็กๆ กำลังน่ารัก ทุกคนมีความสุขดียกเว้นผม?
?ฉันเห็นคุณตามปกนิตยสารก็ดูมีความสุขดีนี่คะ เห็นไปเที่ยวอาบแดด กินข้าวกับสาวๆ ออกบ่อย? อิงกฤตพูดจบก็อยากกัดลิ้นตัวเองที่เผลอบอกให้เขารู้ว่าเธอก็ตามข่าวเขาอยู่
ออสตินหันไปมองหน้าเห่อแดงอย่างถูกใจ รู้ลึกรู้จริงแบบนี้คงแอบดูความเคลื่อนไหวของเขาอยู่แน่ ยัยหมอปากร้าย
?ส่วนใหญ่ก็เรื่องงานครับ หมอสบายใจได้?
?ทำไมฉันต้องสบายใจด้วยล่ะคะ คุณจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้ว คุณมีเรื่องจะคุยแค่นี้ใช่ไหมคะ ถ้างั้นฉันขอตัว? เธอแกะมือหนาออกแล้วเดินจากไป หากอิงกฤตหันกลับมามองสักนิด คงได้รู้ว่าเธอกำลังท้าทายอำนาจมืดของฌอนสันโดยไม่รู้ตัว
ออสตินเดินเข้ามาในโบสถ์แล้วเลือกที่นั่งข้างอิงกฤตเมื่อได้เวลาตัวแทนจุดเทียนเป็นผู้เริ่มจุดเทียนที่อยู่ด้านซ้ายและขวาของบริเวณพิธี วงดนตรีเริ่มบรรเลงเพลงขับกล่อมจากเปียโน ขบวนเจ้าสาวเดินเข้าสู่พิธี ทุกสายตามองเจ้าของงานอย่างชื่นชม
?เห็นแล้วอยากแต่งบ้างไหมหมอ? ออสตินเอนตัวไปกระซิบถามใกล้ๆ จนอิงกฤตสะดุ้งเล็กน้อยและหันไปถลึงตาปราม
?ไม่ค่ะ เพราะผู้ชายหาดีไม่ได้สักคน? เธอตอบกลับอย่างไม่สนใจว่าเขาจะโกรธ
พ่อเจ้าสาวเดินไปส่งเจ้าสาวถึงมือเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่บนแท่นพิธี เพื่อเป็นการส่งต่อการดูแลให้เจ้าบ่าวเป็นผู้รับผิดชอบตั้งแต่นี้เป็นต้นไป บาทหลวงเริ่มต้นอ่านคัมภีร์คู่ชีวิตเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ เพื่อให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวรับรู้ถึงภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติหลังจากแต่งงานเป็นคู่ชีวิตกันแล้ว จากนั้นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็กล่าวปฏิญาณตน
เมื่อทั้งคู่แลกแหวนแต่งงานที่เตรียมมา และลงนามในเอกสารแต่งงานที่โบสถ์ออกให้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าบ่าวก็เดินไปจุดเทียนทางขวา เจ้าสาวจุดเทียนทางซ้าย แล้วกลับมาจุดเทียนตรงกลางโบสถ์พร้อมกัน โดยมีบาทหลวงเป็นผู้ให้พรและประกาศให้ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการ
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการต่างๆ แล้ว เจ้าสาวออกมาด้านหน้าโบสถ์โดยมีแขกที่มางานร่วมโปรยดอกไม้ตลอดทาง จากนั้นก็โยนดอกไม้ให้แขกที่มาร่วมงาน ซึ่งสาวๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานมักจะรอรับดอกไม้จากเจ้าสาวเพื่อเป็นเคล็ด
ขณะนั้นอิงกฤตยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มสาวๆ โดยมีออสตินยืนอยู่ข้างๆ ทั้งสองพลอยลุ้นไปด้วยว่าใครจะเป็นผู้โชคดีได้รับช่อดอกไม้
?ทางนี้...ทางนี้? นิก้ายกมือรอและอาศัยร่างใหญ่เบียดสาวคนอื่นๆ อิงกฤตอมยิ้มและเอาใจช่วยเพื่อน เพ็ญอุไรจับมือเจ้าบ่าวแล้วเอี้ยวตัวไปมองด้านหลังนิดหนึ่งก่อนจะโยนช่อดอกไม้ข้ามศีรษะมา ช่อดอกไม้ลอยลิ่วข้ามกลุ่มสาวๆ ไปด้านหลัง ลอยไประหว่างอิงกฤตและออสตินทำให้ทั้งสองรับช่อดอกไม้ไว้พร้อมกันอย่างไม่ตั้งใจ ทุกคนหันไปมองเห็นออสตินและอิงกฤตจับช่อดอกไม้ด้วยกันก็พากันเฮลั่น
?เฮ?!?
อิงกฤตรีบเบี่ยงมือออกแต่ออสตินถือโอกาสจับไว้พร้อมช่อดอกไม้
?หมอคงอยู่เป็นโสดไม่ได้แล้วล่ะ เพราะงานแต่งครั้งต่อไปคงเป็นคู่ของเรา?
?บ้าน่ะสิ?? หญิงสาวบอกเบาๆ พอได้ยินกันสองคน พอดีกับนิก้าเดินมาหยุดมองคนทั้งสองอย่างยินดี ?นิก้าอย่ามองแบบนั้นสิ ฉันไม่ได้ตั้งใจรับเลยนะ? อิงกฤตกลัวเพื่อนเสียใจจึงรีบแก้ต่างอย่างร้อนใจ นิก้ายิ้มหวานมองคนทั้งสองแววตาซุกซน
?บ้า ฉันดีใจต่างหากที่แกจะได้ลงจากคานสักที ยินดีด้วยนะคะคุณออสติน? นิก้าจับมือบางเขย่าเบาๆ อิงกฤตแก้มแดงระเรื่อ ไม่เชื่อว่าเพียงแค่รับดอกไม้งานแต่งแล้วจะได้แต่งงาน ยิ่งระหว่างเธอกับเขายิ่งไม่มีเค้าความเป็นไปได้เลย
?รับดอกไม้งานแต่งใช่ว่าจะได้แต่งนี่ จะยินดีทำไม? อิงกฤตแก้ต่างในใจ เริ่มกังวลที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมาเฟียตัวพ่ออย่างออสติน ฌอนสัน เพราะสี่ปีที่ห่างกัน วันเวลาได้หล่อหลอมผู้ชายคนนี้ให้แกร่งและน่าเกรงขามขึ้น และเซนส์ของเธอก็บอกว่าการมาเมืองไทยของเขาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย และหนึ่งในจุดมุ่งหมายของเขามีบางอย่างซ่อนอยู่
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากงานแต่งงานของเพื่อนผ่านไปหนึ่งเดือนเต็มๆ ออสตินก็ไม่ได้เจอกับอิงกฤตอีกเลย เพราะยุ่งอยู่กับงานโรงแรมแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป หากในใจยังคิดถึงหน้าหวานๆ ตาคมดุๆ ที่ชอบส่งค้อนให้เขายามขัดใจ ยิ่งได้เห็นหน้าในงานแต่งโดยที่ไม่ต้องให้คนสืบหาที่อยู่ ยิ่งทำให้หัวใจเขาโหยหาเธอยิ่งกว่าเดิม
บ้านพักตากอากาศเรสซิเดนต์วิลลาสุดหรูบนเกาะภูเก็ตตั้งอยู่บนหาดส่วนตัวติดเนินเขาท่ามกลางแมกไม้ ออกแบบร่วมสมัยแนวเขตร้อน หันหน้าไปทางตะวันตก ล้อมรอบไปด้วยหมู่เกาะและวิวพระอาทิตย์ตกดิน เป็นโครงการบ้านพักตากอากาศและโรงแรมสุดหรูแบบพูลวิลลา ทั้งยังเปิดให้เห็นวิวแสนสวยของท้องทะเลอันดามัน
วิลลาทุกหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบอินฟินิตีพูลที่สามารถลงเล่นน้ำจากศาลา ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือแม้แต่ห้องอาบน้ำเอาต์ดอร์ได้โดยตรง โอบล้อมด้วยวิวฝั่งทะเลสีครามของทะเลอันดามันแบบสามร้อยองศา
ความงดงามของวิลลาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าไม่ได้ทำให้ใบหน้าคมเข้มของเจ้าของสดชื่นขึ้นมาได้ ดวงตาคมสีน้ำเงินเข้มภายใต้แว่นกันแดดเรียบเฉยหากในหัวมีภาพของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นชัดเจน สี่ปีแล้วสินะที่เขาไม่ได้พบเธอเลยจนกระทั่งเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วที่เขาได้เจอเธออีกครั้งในงานแต่งของเพื่อนเธอและเพื่อนเขา เวลาผ่านไปนานแต่เธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ยังคงน่ารักและสวยบาดใจเขาเสมอ
ออสติน ฌอนสัน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเวลานี้ กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ของอดีตที่ฉุดรั้งเขาให้จดจ่ออยู่กับใบหน้าเรียวรูปไข่ของผู้หญิงไทยคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ทำให้เขารุ่มร้อนใจจนต้องมาตามหา เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนด้านหลัง หากร่างสูงสง่าไม่สนใจหันไปมอง ทำให้คาร์เตอร์มือขวาของออสตินที่ทำหน้าที่บอดี้การ์ดต้องยืนรอ ไม่นานร่างสูงก็หันมาหาและพิงสะโพกกับราวเหล็กสีเงิน
?ประวัติคุณหมออิงกฤต อินทรชัยครับ? คาร์เตอร์ยื่นซองเอกสารให้เจ้านาย
ออสตินรับไปเปิดแล้วหยิบเอกสารและรูปออกมา ดวงตาคมมองใบหน้าหมดจดที่มีรอยยิ้มจางๆ ตาไม่กะพริบ คาร์เตอร์เห็นอาการตกตะลึงของเจ้านายหนุ่มก็อมยิ้ม ตั้งแต่โดนย้ายจากลาสเวกัสมาทำหน้าที่บอดี้การ์ดให้ทายาทคนเล็กของฌอนสัน คาร์เตอร์ยังไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มคนนี้มองสาวคนไหนนานเท่านี้มาก่อน
?รูปเธอมีปัญหาหรือเปล่าครับ?
?ไม่มี ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? ออสตินเอ่ยถามพลางอ่านรายละเอียดของอิงกฤตไปด้วย
?อยู่ที่ภูเก็ตครับ? คำตอบของคนสนิทดึงความสนใจจากใบหน้าคมเข้มที่หันมามองอย่างแปลกใจ เพราะในประวัติเธอทำงานที่กรุงเทพฯ ?คุณหมอย้ายมาช่วยงานที่นี่ชั่วคราวครับบอส?
?ผู้หญิงที่ยืนข้างเธอเป็นใคร? ออสตินหยิบรูปใบหนึ่งส่งให้ คาร์เตอร์รับมาดูแล้วเงยหน้าขึ้นตอบคำถามเจ้านายหนุ่มที่ดูเหมือนจะออกอาการไม่พอใจนิดๆ
?คุณรื่นจิต แม่เลี้ยงของคุณหมออิงครับ ครอบครัวเธอเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งของเมืองไทยภายใต้ชื่อบีจีเวชการ?? คาร์เตอร์บอกชื่อโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำที่ติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ?เท่าที่สายของเรารายงานมา คุณหมออิงกฤตทำงานในโรงพยาบาลตั้งแต่กลับจากอังกฤษคราวนั้น จนกระทั่งบิดาเสียชีวิตก็ลาออกและใช้เงินส่วนตัวใช้ทุนเรียนคืนให้รัฐ แล้วถึงมาช่วยธุรกิจครอบครัวเต็มตัวครับ?
ริมฝีปากได้รูปยกโค้งนิดๆ อย่างพอใจกับคำตอบ คาร์เตอร์หาข้อมูลเชิงลึกได้ดีเหมือนทุกครั้ง ทำให้เขารู้เรื่องของเธออย่างละเอียดเพื่อจะทำในสิ่งที่ต้องการโดยไม่ผิดพลาด
?ฉันอยากได้หุ้นของบีจีเวชการทั้งหมด? นั่นคือคำสั่งประกาศิตที่คนสนิทอย่างคาร์เตอร์ต้องทำ และไม่ใช่เรื่องยากเพราะข่าวเชิงลึกของเขาก็บอกอีกว่าบีจีเวชการกำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน
?ไม่มีปัญหาครับบอส เพราะผมได้ข่าวมาว่ากลุ่มบริษัทบีจีเวชการกำลังขาดสภาพคล่องทางการเงิน ตอนนี้มองหาผู้ร่วมทุนเพื่อพยุงกิจการอยู่?
?ดี รีบจัดการด่วนเลย ฉันไม่อยากรอ? เพราะเขารอมาแล้วสี่ปีและไม่อยากรออะไรอีก นั่นคือสิ่งที่ออสตินบอกตัวเองอย่างมาดมั่น
?จัดให้ครับบอส เย็นนี้บอสจะไปหาหมอสักหน่อยไหมครับ เผื่อแพ้อากาศเพราะที่นี่กับลอนดอนอากาศไม่เหมือนกัน? คนสนิทเปิดทาง
ออสตินครุ่นคิดนิดหนึ่งแล้วเดินออกจากห้อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจุดหมายของเจ้านายคือที่ไหน เมื่อขึ้นรถเสร็จเรียบร้อยคาร์เตอร์ก็สั่งคนขับมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลทันที
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ออสตินมาถึงโรงพยาบาลก็นั่งรอ จนกระทั่งสี่โมงเย็นจึงก้าวลงจากรถเดินเข้าไปในห้องโถงกว้าง เจ้าหน้าที่รีบเข้ามาต้อนรับด้วยกิริยานอบน้อม
?สวัสดีค่ะ โรงพยาบาลเรายินดีต้อนรับค่ะ?
?ผมมาพบหมออิงกฤต? เสียงทุ้มยิ้มให้พีอาร์สาวนิดหนึ่ง เท่านั้นก็ทำเอาสาวๆ ในห้องโถงพากันเคลิ้ม ?ไม่ทราบว่าเธอว่างหรือเปล่า?
?สักครู่นะคะ? พีอาร์สาวเดินกลับไปเช็กตารางของคุณหมอสาวไม่นานก็เดินกลับมาแจ้งพร้อมรอยยิ้มหวาน ?คุณหมอว่างพอดีเลยค่ะ จะให้เรียนว่าใครต้องการพบคะ?
?ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปพบเธอเอง?
เจ้าหน้าที่บอกตำแหน่งห้องทำงานของอิงกฤตเสร็จ ร่างสูงสง่าในชุดลำลองสบายๆ ก็เดินเข้าไปในลิฟต์ ไม่ถึงสามนาทีออสตินก็มาหยุดหน้าห้องตรวจพิเศษ พยาบาลหน้าห้องยิ้มต้อนรับและพนมมือไหว้แบบไทยๆ อย่างอ่อนช้อย
?สวัสดีค่ะ มาพบคุณหมอใช่ไหมคะ? ออสตินพยักหน้าขึ้นลงนิดๆ ?รอสักครู่นะคะ? พยาบาลสาวเดินเข้าไปไม่นานก็กลับออกมา ประตูเปิดกว้างรอให้ร่างสูงเดินเข้าไป
ดวงตาคมมองเข้าไปในห้อง เห็นคนที่ต้องการพบมานานก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารบนโต๊ะ รองเท้าราคาแพงลิบก้าวเข้าไปช้าๆ จนกระทั่งมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานของคุณหมอสาว
?สวัสดีค่ะ วันนี้ไม่สบายเป็นอะไรคะ? อิงกฤตเอ่ยถามเสียงหวานขณะเก็บแฟ้มคนไข้ที่เพิ่งตรวจเสร็จเมื่อสักครู่ไปวางด้านซ้าย พอเงยหน้าขึ้นมองคนไข้คนใหม่ คุณหมอสาวก็นิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาคมโตดำขลับสุกใสสบตาคมสีน้ำเงินเข้มนิ่ง ออสตินยิ้มนิดๆ กับแววตาเต็มไปด้วยคำถามของเธอ
?ผมนั่งได้หรือยัง? เสียงทุ้มปนขำทำให้เธอได้สติ และพยายามทำเหมือนเขาเป็นคนไข้ทั่วไป ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูธรรมชาติยิ้มทักทายตามมารยาท
?เชิญค่ะ ไม่ทราบเป็นอะไรคะ? เธอขยับตัวเข้ามาใกล้เขาเพื่อตรวจอาการและเก็บความตื่นเต้นเอาไว้จนมิด คนแกล้งป่วยหน้าตึงที่ถูกสาวเมินเป็นครั้งแรก
?ถ้ารู้คงไม่มาหาหมอหรอก? คนไข้เริ่มกวนประสาท ท่าทีและน้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนว่ามาหาเรื่องมากกว่ามาหาหมอ หรือไม่ก็ไม่พอใจอะไรบางอย่าง คุณหมอสาวไม่ต่อปากต่อคำ ใช้หูฟังแนบกับหัวใจแกร่งเพื่อฟังการเต้นของหัวใจ นั่นทำให้เธอได้ประจักษ์ว่าหัวใจเขาเต้นแรงเร็วราวกับเจ้าของหัวใจดวงนี้กำลังตื่นเต้น แต่หน้าคมที่จ้องเธออยู่กลับนิ่งสนิทไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา
?อ้าปากค่ะ? เธอสั่งหลังจากวัดระดับการเต้นหัวใจเสร็จ ออสตินทำตามอย่างว่าง่าย คุณหมอสาวใช้ไฟฉายเล็กส่องดูในช่องปากไม่นานก็ขยับห่าง ?อาการทั่วไปปกตินะคะ ถ้าคุณเครียด หมอจะให้ยาแก้เครียดไปทานนะคะ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หมอแนะนำให้นั่งสมาธิ ความคิดจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน?
เธอบอกขณะเขียนใบสั่งยา พอเงยหน้าขึ้นมองคนไข้ ใบหน้าคมก็ลอยอยู่ใกล้ๆ จนปลายจมูกเกือบชิดกัน ดวงตาสองคู่สบกันในระยะใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดดวงหน้ากันและกัน?
?เอาสิ?วัดใจกันหน่อยคุณหมอว่าใครจะอดทนได้มากกว่ากัน?
ออสตินยิ้มกริ่มในขณะที่อีกฝ่ายเริ่มเห็นอันตรายที่แฝงอยู่ในดวงตาคม
?เสร็จแล้วค่ะ เชิญไปรอข้างนอกนะคะ เดี๋ยวพยาบาลจะพาคนของคุณไปรับยา? เธอผายมือเชิญ เมื่อร่างสูงไม่ขยับเธอจึงเดินไปเปิดประตูรอ ทำให้เห็นคาร์เตอร์และการ์ดอีกสองคนที่รออยู่หน้าห้องกับพยาบาลหันมามอง
?พาคนไข้ไปรับยาด้วยนะคะ? เธอส่งใบสั่งยาให้พยาบาล ร่างสูงเดินไปที่ประตูแต่ไม่ยอมเดินออกไป และเป็นฝ่ายปิดประตูเสียเอง
?ผมยังไม่อยากไปตอนนี้? เขาเดินเข้าไปหา แววตาคมเรียบลึกจนเธอเดาไม่ออกว่าเขากำลังจะทำอะไร หากสัญชาตญาณอันตรายทำให้ต้องระวังตัว เพราะทายาทฌอนสันอันตรายทุกคน?นั่นคือคำพูดของเขาเมื่อสี่ปีก่อนที่เจอกัน
?คุณจะทำอะไร? อิงกฤตถอยหลังไปชนขอบโต๊ะและขยับจะหลบออกไปทางซ้าย แต่ออสตินก็ไวกว่า เท้าแขนคร่อมร่างกลมกลึงกักเธอไว้และยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ?นี่คุณออสติน ถอยออกไปนะ?
?อืม ความจำเริ่มกลับมาแล้วนี่หมอ? เขายั่วด้วยรอยยิ้ม ดวงตาคมกวาดมองทั่วดวงหน้างดงามที่ฝังลึกกลางหัวใจมาหลายปี
?คุณต้องการอะไรกันแน่? เธอถามเสียงห้วน มือดันบ่าเขาออกห่าง ร่างสูงยืดตัวขึ้น มือหนาเลื่อนไปโอบเอวบางเข้าหาตัว อิงกฤตตาโต ไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมแบบนี้ ?นี่คุณ?ปล่อย??
?หมออยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าผมต้องการอะไร? เสียงเขาแหบพร่า ดวงตาสีน้ำเงินเข้มลามเลียไปทั่วไม่เว้นแม้แต่รอยแยกของสาบเสื้อทำงาน
?คุณคงไม่คิดจะซื้อโรงพยาบาลนี้หรอกนะ?
ออสตินหัวเราะในลำคอพลางกระชับวงแขนแน่นกว่าเดิม
?ถ้าผมอยากได้ก็ต้องได้ ไม่ว่าจะยากง่ายผมก็ต้องได้มาครองแน่นอน? เขาข่มขู่กลายๆ อิงกฤตมองหน้าคมราวกับไม่เคยเห็น
?คุณไม่ใช่ออสตินที่ฉันรู้จัก?
?เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนหมอ? แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยเปลี่ยนตามเวลานั่นคือหัวใจ...ประโยคท้ายออสตินบอกกับเธอในใจ หัวใจที่มีเงาของผู้หญิงคนนี้ซุกซ่อนอยู่ แม้พยายามลืมแต่ทุกรายละเอียดของเธอไม่ได้เลือนรางไปตามกาลเวลาแม้แต่น้อย
?จริงสินะคะ เพราะออสตินที่ฉันรู้จักเมื่อสี่ปีก่อนไม่ใช่นักธุรกิจมาเฟีย ถึงเขาจะชอบข่มขู่แต่ไม่เคยล่วงเกินผู้หญิงแบบนี้?
?ผมชักอยากจะตะบันหน้าไอ้หมอนั่นขึ้นมาแล้วสิ ที่มันทำให้คุณจดจำมันได้ขนาดนี้?
?คนพาล?? เธอบอกเสร็จก็เมินหน้าหนีไปอีกทาง แต่มืออีกข้างของเขาจับคางมนบังคับหันกลับมา ?ถ้าคุณแค่แวะมาทักทายและประกาศให้ฉันรู้ว่าคุณจะได้ทุกอย่างที่อยากได้ ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ปล่อยฉันได้หรือยังคะ?
?ยัง เพราะมีอีกอย่างที่ผมอยากได้ แต่ยังไม่ได้?
?อะไร?? เธอถาม ในใจหวั่นๆ กลัวว่าสิ่งที่เขาอยากได้จะเกี่ยวข้องกับเธอ หากเป็นอย่างนั้นจริง เธอคงต้องหนีผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิตเป็นแน่
?อยากมีเมีย?? ออสตินย้ำทุกคำพูดชัดเจน เล่นเอาคนฟังถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่ดิ้นขลุกขลักในวงแขนแกร่ง ?ชัดเจนไหมหมอ?
?ชัดค่ะ แต่สิ่งที่คุณอยากได้ไม่ได้เกี่ยวกับฉันนี่ ปล่อย?
?ผมกำลังจะทำให้เราเกี่ยวกันโดยที่คุณเลี่ยงไม่ได้?
อิงกฤตมองหน้าคมอย่างไม่เข้าใจ แต่รอยยิ้มแกมเยาะของเขาทำให้เธอมั่นใจว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะเปลี่ยนผู้ชายอารมณ์เย็นให้กลายมาเป็นคนอารมณ์ร้ายได้ขนาดนี้
?หมายความว่ายังไง?
?คำตอบผมชัดเจนอยู่แล้วหมออิง ถ้าหมอเล่นแง่ รับรองผมจัดหนักแบบไม่มีเงื่อนไขแน่? สีหน้าและแววตาจริงจังของเขาทำเอาอิงกฤตเลือดขึ้นหน้า ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาอยากได้เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย
?เพื่ออะไรไม่ทราบ หรือเพื่อต้องการเอาชนะระรานฉัน ที่ไม่ยอมเข้าไปซบอกคุณเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ?
คุณหมอสาวพยายามแกะมือเขาออก แต่ยิ่งแกะเขายิ่งรัดแน่น อกอวบบดเบียดอกกว้างจนเธอรู้สึกเจ็บ แต่อีกฝ่ายนั้นร้อนฉ่า เลือดลมในตัววิ่งพล่านตั้งแต่ได้สัมผัสเธอแล้ว
?เพื่ออะไรดีล่ะ? เขาทิ้งท้ายขณะหรี่ตามองริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู ?เพื่อจะได้ฟัดหมอมั้ง? เขาบอกแววตาพราวระยับ อิงกฤตหน้าแดงก่ำทั้งโมโหทั้งอายกับคำพูดไม่อ้อมค้อมของอีกฝ่าย
?ไอ้?? เธอไม่กล้าหลุดคำหยาบเพราะกลัวหลงเข้าไปในแผนเขา ออสตินจุปากสองสามครั้งเพื่อเตือนไม่ให้เธอพูดคำหยาบ
?พูดไม่สุภาพ คนไข้อาจจะหัวใจวายได้นะหมอ?
?ฉันจะพูดสุภาพกับคนที่สุภาพเท่านั้น ไม่ใช่มาเฟียที่หลงไปเกิดในคราบผู้ดีอย่างคุณ? เธอว่าให้เขาอย่างเจ็บแสบ แต่ดูเหมือนคนฟังจะพอใจกับฉายาใหม่
?หมอปากจัดแบบนี้นี่เอง โรงพยาบาลถึงได้ขาดทุนจนขาดสภาพคล่องทางการเงิน? ประโยคที่หลุดออกมาจากปากได้รูปทำเอาอิงกฤตอึ้งเป็นครั้งที่สอง
?คุณรู้ได้ยังไง? เธอจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง
?ผมรู้ทุกอย่างที่อยากรู้ จำไว้ว่าจากนี้คนที่จะบงการทุกอย่างคือผม ไม่ใช่หมอ?
คำพูดจริงจังกับแววตาที่มุ่งมั่นทำให้อิงกฤตรู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มไม่ได้พูดเล่นอย่างแน่นอน แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่เขาอยากได้
?คุณต้องการอะไรกันแน่ คุณออสติน? อิงกฤตเชิดหน้าถามเสียงห้วน
ออสตินกระตุกยิ้มที่มุมปาก กวาดตามองดวงหน้าเรียวสวย ฝ่ามือเริ่มเคลื่อนไหวลูบไล้แผ่นหลังบางจนเธอหายใจติดๆ ขัดๆ
?ผมบอกไปแล้วนี่ว่าต้องการอะไร ถ้าหมอไม่ใช่ปลาทองคงจะจำคำพูดผมได้?
?สำหรับคุณฉันไม่มีความทรงจำอะไรเลย เราแค่เคยรู้จักกันเท่านั้น ปล่อย?? คำตอบของคุณหมอสาวทำเอาใบหน้าคมหล่อเหลาตึงขึ้นทันที
?ไม่เหมือนผม ที่ทั้งจดและจำคนที่ผมสนใจ? เขาโน้มใบหน้าลงมาหา เธอเอนตัวออกห่าง ฝ่ามือนุ่มดันอกกว้างเอาไว้ ออสตินเริ่มรำคาญมือน้อยๆ นั่นจึงจับมือทั้งสองข้างไขว้ไปด้านหลัง แล้วก้มมองรอยแยกของคอเสื้อเชิ้ต อกตูมเต่งที่ซ่อนอยู่ใต้เนื้อผ้า ไม่ต้องเห็นขนาดชายหนุ่มก็พอเดาไซส์ได้ไม่ยาก
?คุณ?? เธอตวาด เขาจูบปากอิ่มอย่างรวดเร็วแล้วผละห่าง เธอก็ทุบอกแกร่งแรงๆ ทีหนึ่ง ออสตินมองหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธอย่างถูกใจ
?ดื้อแบบนี้คงต้องปราบกันแรงหน่อยล่ะมั้ง? เขาไล้ปลายนิ้วไปหลังลำคอระหงช้าๆ แผ่วเบาแต่ทำเอาอิงกฤตขนลุกชัน หัวใจเต้นแรงรัวประหนึ่งว่ากำลังตื่นเต้นที่ได้สัมผัสอกกว้างของชายชาตรีมากไปด้วยเสน่ห์เช่นเขา
?อะไรของคุณเนี่ยคุณออสติน คุณกำลังทำให้ฉันบ้ารู้ไหม เราแค่เคยรู้จักกันนะ? อิงกฤตย้ำความสัมพันธ์ในอดีตให้เขาฟัง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รับรู้นอกจากทำตามความต้องการของตัวเอง ขณะที่อิงกฤตกำลังเครียดกับการรุกหนักของออสติน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้เธอหันไปมอง
?ปล่อยค่ะ ฉันจะรับโทรศัพท์?
ออสตินเกี่ยวเอวบางไว้ มืออีกข้างก็ยื่นไปรับโทรศัพท์มาส่งให้ แล้วกอดเธอด้วยมือทั้งสองข้างเช่นเดิม หญิงสาวเห็นเบอร์โทร.ก็กดรับทันที
?ค่ะคุณน้า? อิงกฤตทักทายคนปลายสายและพยายามเบนหน้าไปอีกทาง
?ยุ่งอยู่หรือเปล่าอิง ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกยาวนิดหน่อย? รื่นจิตบอกมาตามสาย ทำให้อิงกฤตขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ
?คุณน้ามีอะไรคะ ถ้าเป็นเรื่องเงิน อิงไม่มีให้แล้วนะคะ?
ใบหน้านวลเนียนหม่นเศร้าลงจนออสตินสังเกตเห็น เลยพาเธอไปนั่งคุยโทรศัพท์ที่โซฟาข้างหน้าต่าง แต่เธอพยายามขยับหนีเพราะไม่อยากให้เขารู้เรื่องในครอบครัว
?แกไม่ต้องพูดดักคอฉันเลยยัยอิง ต่อไปฉันจะไม่ยุ่งกับหนี้สินหรือเงินของพ่อแกแล้ว ฉันจะขายหุ้นในส่วนของฉันทั้งหมดให้คนอื่น?
?อะไรนะคะ คุณน้าจะขายหุ้นโรงพยาบาลเหรอ ไม่ได้นะคะ? เธอลืมตัวตอบกลับเสียงดังและเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมสันนิดหนึ่ง ออสตินคลี่ยิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย แสดงว่าคาร์เตอร์เปิดฉากเจรจาแล้ว
?ทำไมจะไม่ได้ ฉันไม่ยอมแบกภาระหนี้สินกับแกหรอกนะอิง? รื่นจิตบอกปัดอย่างไม่มีเยื่อใย
อิงกฤตเจ็บร้าวไปทั้งใจเมื่อโรงพยาบาลที่บิดาสร้างมากับมือกำลังจะมีคนอื่นเข้ามาร่วมบริหาร
?ถ้าอย่างนั้นอิงขอหุ้นของคุณน้าสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ อิงอยากทำโรงพยาบาลต่อ ถึงจะขาดทุนแต่อิงก็จะประคองสิ่งที่พ่อสร้างมากับมือไว้ให้นานที่สุด?
?ขอฟรีๆ ไม่ได้นะ แกจะต้องซื้อเท่ากับราคาของคนที่ให้ราคาฉัน?
?ได้ค่ะ แต่อิงขอเวลาเคลียร์เรื่องรายรับรายจ่ายเดือนนี้ก่อนนะคะ รับรองว่าอิงซื้อแน่นอน? เธอรับปาก น้ำใสๆ คลอออกมาเจือดวงตาคู่งามจนต้องเงยหน้ามองโคมไฟเพื่อให้ความอ่อนแอไหลกลับเข้าไปข้างใน
ออสตินเห็นความเหนื่อยหนักในหัวใจเธอ หัวใจแกร่งพลันกระตุกวูบ
?มีอะไรเหรอหมอ ดูท่าทางซีเรียสจัง?
?เรื่องส่วนตัวค่ะ ว่าแต่คุณเถอะ มาหาหมอหรือมาหาเรื่องกันแน่? เธอเบี่ยงตัวออกจากวงแขน เขาก็ยอมปล่อยโดยดี หากดวงตาคมกวาดมองดวงหน้าหวานๆ ที่ปลุกปั่นอารมณ์ในกายเขาให้เดือดพล่าน ความเร่าร้อนฉายชัดออกมาอย่างเปิดเผยจนอิงกฤตขยับตัว
?ก็?ทั้งสองอย่าง มาหาหมอเพราะหัวใจ มาหาเรื่องเพราะคุณดื้อจนผมต้องปราบต่างหาก? เขาหันมาหาเธอทั้งตัว แขนข้างหนึ่งเท้ากับพนักพิง ขาเรียวแข็งแรงไขว่ห้างพร้อมกับขยับไปมา นั่นทำให้อิงกฤตอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่เอ๊ะ?เขามาหาหมอเพราะหัวใจ มันหมายความว่ายังไง?
?จะซื้อหุ้นเหรอ ผมให้ยืมเงินได้นะ ไม่คิดดอกเบี้ยเป็นเงิน แต่ขอเป็นอย่างอื่นแทน? เขาพูดง่ายๆ ราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา หญิงสาวสูดหายใจเข้าแรงๆ เพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธอชักจะทนไม่ไหวแล้ว
?ไอ้คนทุเรศเอ๊ย?? อิงกฤตบอกเสียงต่ำ มือกำเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธ ไม่คิดว่าเวลาสี่ปีจะทำให้เขาห่ามได้ขนาดนี้
?ปากจัดนักนะ มาจูบทีซิ? เขาจับเอวบางยกร่างเธอมานั่งบนตักด้วยเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที อิงกฤตมัวแต่ตกใจกับคำพูดเลยไม่ทันระวังการกระทำของเขา ร่างจึงลอยหวือขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งแถมทับสรีระของผู้ชายจนเจ้าตัวสะดุ้ง
?ปะ อื้อ?? อิงกฤตหมดโอกาสพูดเมื่อปากร้อนฉกวูบลงมาแนบเรียวปากอิ่ม เขาบดเบียดขบเม้มแรงๆ เพื่อให้เธอเผยอปากออกรับสัมผัสร้อน เธอเจ็บจนต้องเปิดปาก เขาซุกไซ้ซอกซอนลิ้นเข้าไปหาเรียวลิ้นเล็กอย่างว่องไว อิงกฤตถูกเขากอดแน่นจนช่วยตัวเองไม่ได้ แถมลมหายใจยังถูกเขาสูบเอาไปจนหมด
?ฮึ่ม?? เธอครางประท้วง เขาจูบแล้วจูบอีกราวกับหิวโหยรสรักมานาน ความซาบซ่านแผ่ผ่านไปตามรูขุมขนจนร่างงามอ่อนระทดระทวยเอนตัวซบกับอกกว้าง
?พะ...พอค่ะ ฉันหายใจไม่ออก? เธอเบือนหน้าหลบแล้วหอบกระเส่า ผิวแก้มผ่องนวลเนียนแดงระเรื่อ
ออสตินคลี่ยิ้ม ไล้ผิวแก้มนุ่มของเธอแล้วหอมอีกครั้ง
?หอม หวานทั้งแก้มทั้งปาก? เขาชมนัยน์ตาหวานฉ่ำ หากความรุ่มร้อนในกายอัดแน่นจนเซลล์แทบระเบิด
ส่วนหญิงสาวขบริมฝีปากแน่น ครั้นเมินหน้าหนีเขาก็จับปลายคางมนบังคับหันกลับมา
?รู้แล้วก็ปล่อยสิ? เธอดิ้นลงจากตัก เสียดสีสะโพกกับสันนูนที่ดุนดันแก้มก้นงอนงาม
?ดิ้นเข้าไปสิ ไอ้ลูกชายผมมันยิ่งห่างเรื่องอย่างว่ามาหลายวัน มันคึกคักพร้อมออกรบตลอดเวลาอยู่แล้ว? เขาไม่ได้ขู่ เพราะขืนเธอดิ้นไปมาแบบนี้มีหวังเขาพากลับวิลลาแน่ อิงกฤตเข้าใจความหมายก็หยุดกึกราวกับสั่งได้
?ลองออกมาโชว์สิ ฉันจะวางยาสลบคุณแล้วก็ตัดมันทิ้งซะ จะได้ไม่ต้องโชว์ให้ใครเห็นอีก? เธอกดเสียงต่ำ แววตาจริงจัง ออสตันหัวเราะร่า ถูกใจนักหนากับคุณหมอปากร้าย
?ตัดได้ลงเหรอ ขนาดมันหายากด้วยนะจะบอกให้?
?กรี๊ด ไอ้?ฉันจะด่าคุณยังไงดีนะ? เธอคำรามให้ลำคอด้วยความโมโห ฟันซี่เล็กขบกันอย่างระงับอารมณ์ตัวเองเต็มที่ ออสตินกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างนุ่ม จมูกและปากก็จูบไซ้ไปทั่วดวงหน้า เลื่อนลงไปหาลำคอ บ่าและไหล่ อิงกฤตออกแรงดันบ่ากว้างออกห่าง ออสตินผละห่างจากลำคอเธออย่างเสียดาย
?ตกลงเรื่องหุ้นจะให้ผมช่วยไหม แค่สิบเปอร์เซ็นต์ผมลงทุนให้ได้นะ? เขาเปลี่ยนมาคุยเรื่องงาน
?ไม่ค่ะ ขอบคุณ ฉันมีเงินพอที่จะซื้อ?
?ตามใจ ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกได้? เขาพูดเหมือนไม่สนใจ แต่ในหัวแผนการต่างๆ ถูกวางไว้อย่างแยบยลแล้ว ?ไปเถอะผมหิวแล้ว? เขายกร่างเล็กลงนั่งข้างตัว อิงกฤตรีบลุกขึ้นแล้วจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่
?หิวก็ไปเองสิคะ ฉันจะกลับบ้าน? เธอเดินไปคว้ากระเป๋า วิ่งไปที่ประตูแล้วเปิดออกไปอย่างรวดเร็ว ออสตินมองแผ่นหลังบาง มุมปากกระตุกยิ้มนิดๆ แล้วเดินตามออกไปอย่างใจเย็น
อิงกฤตเดินแกมวิ่งมาที่รถและหันไปมองร่างสูงที่เดินตามมาช้าๆ เธอรีบกดรีโมตแต่ยังไม่ทันเปิดประตู ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างเมื่อเห็นล้อรถแบนติดพื้น
?เฮ้ย ยางแบน? หญิงสาวมองล้อหน้าแล้วหันไปมองล้อหลัง ?ล้อหลังก็แบน? เท้าเรียวเดินวนรอบรถ ปรากฏว่าล้อรถแบนทั้งสี่ล้อพร้อมกัน และเธอมั่นใจว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มีคนทำให้เกิดขึ้น ใบหน้างามหันขวับไปมองคนต้นเรื่องที่ยืนพิงรถคันหรูอย่างสบายอารมณ์
?โรคจิต เห็นคนอื่นลำบากแล้วสบายใจ?
ร่างระหงก้าวไปหา ออสตินก็ก้าวขึ้นไปนั่งในรถ แต่คาร์เตอร์ยังไม่ปิดประตู อิงกฤตจึงเดินไปหา โน้มตัวลงไปพูดกับเขา จึงถูกชายหนุ่มดึงตัวเธอเข้ามาในรถโดยมีคาร์เตอร์ช่วยช้อนเรียวขาเธอเข้าไปแล้วรีบปิดประตู ก่อนก้าวขึ้นไปนั่งตรงข้ามกับคนขับ จากนั้นก็สั่งออกรถทันทีและไม่ลืมปิดฉากกั้นระหว่างห้องโดยสารกับคนขับ
?ว้าย?จอดรถเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะลง จอดสิ จอด!? อิงกฤตเลื่อนฉากกั้นเปิดออกพร้อมกับบอกเสียงดัง แต่คนของฌอนสันไม่เคยรับคำสั่งใครนอกจากคนเป็นนาย เมื่อร้องบอกจนเจ็บคอ เธอก็หันมาเล่นงานคนข้างตัว ออสตินเห็นคนงามกลายเป็นนางยักษ์ก็หันมามองทั้งตัว
?ถ้าพูดไม่เข้าหูจะจูบปาก ถ้าแตะต้องตัวผมโดนปล้ำ ถ้าไม่ทำอะไรเลยจะโดนกอดแบบนี้? เขารั้งร่างเธอมาชิด หญิงสาวทั้งดิ้นทั้งทุบอกกว้าง
?ตาบ้า ฉันโดนทั้งขึ้นทั้งล่องน่ะสิ? เธอดิ้นจนเหนื่อยแล้วก็หยุดหอบหายใจ มองเขาตาเขียว ออสตินกดศีรษะนุ่มซบอกกว้าง กอดรัดเธอไว้ทั้งตัว ไม่นานอิงกฤตก็เผลอหลับในอ้อมกอดอุ่น
รถวิ่งมาจอดหน้าโรงแรมหรูในเครือฌอนสันกรุ๊ปที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่คนในวงแขนยังหลับปุ๋ยแถมเบียดตัวเข้าหาอกกว้างอีกต่างหาก ออสตินหัวเราะเบาๆ ปลายนิ้วไล้บนผิวแก้มนุ่มหอมอย่างเสน่หา
?อิง ตื่นได้แล้วครับ? เขากระซิบปลุกข้างหูเล็กแล้วถือโอกาสจุ๊บเบาๆ คนหลับลืมตาขึ้นทันที สองมือผลักอกกว้างเต็มแรง ออสตินขยับห่างตามใจเธอ
?คนฉวยโอกาส? เธอสะบัดหน้าใส่แล้วก้าวลงจากรถ ออสตินหัวเราะ รู้สึกอารมณ์ดีที่เห็นเธอออกอาการงอนๆ เพราะมันยังดีกว่าที่เธอเย็นชาใส่



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แม่เลี้ยงกำลังจะขายหุ้นครึ่งหนึ่งของโรงพยาบาลที่พ่อเธอเป็นคนสร้างขึ้นเพราะต้องการเงินไปใช้หนี้การพนัน ทำให้แพทย์หญิงอิงกฤต ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะซื้อหุ้นในส่วนนั้นไว้
ออสติน ฌอนสัน จึงสบโอกาสเหมาะตรงนี้ดำเนินแผนการบางอย่างเพื่อให้ได้ตัวคุณหมอสาวซึ่งขโมยหัวใจของเขาไปเมื่อสี่ปีก่อนมาครอบครอง
ขณะที่เธอเองไม่รู้เลยว่ากำลังเดินตามเกมของนักธุรกิจมาเฟียผู้นี้อยู่ ในเมื่อสิ่งที่รับรู้ได้ตอนนี้มีเพียงความรุ่มร้อนที่ส่งผ่านมาทางริมฝีปากอุ่นนั้นจนแม้เสียงห้ามแผ่วหวานก็ไม่สามารถหยุดยั้งเพลิงพิศวาสของเขาได้


?ถ้าคุณแค่แวะมาทักทายและประกาศให้ฉันรู้ว่าคุณจะได้ทุกอย่างที่อยากได้
ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ปล่อยฉันได้หรือยังคะ?
?ยัง เพราะมีอีกอย่างที่ผมอยากได้ แต่ยังไม่ได้?
?อะไร??
?อยากมีเมีย?



รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”