New Release ร้อยรัก : อาญารักจอมราชัน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : อาญารักจอมราชัน

โพสต์ โดย Gals »

อาญารักจอมราชัน โดย ดาหลา

1
หมู่บ้านเซวาตั้งอยู่เขตชายแดนระหว่างรัฐไวย่าห์และรัฐฮาซัน ชาวเมืองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชเพราะในเขตนี้มีโอเอซิสเซวาที่มีชื่อเหมือนกับชื่อหมู่บ้าน มีน้ำตลอดปี ทำให้พื้นที่แถบนี้มีสีเขียวขจีกระจายอยู่รอบๆ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ หมู่บ้านแห่งนี้มีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่าสายเลือดแท้ๆ ของเซวาจะมีจิตละเอียด สามารถหยั่งรู้เรื่องราวในอนาคตได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าคนคนนั้นมีจริงหรือไม่
ภายในอาณาเขตของหมู่บ้าน บ้านดินหลายสิบหลังก่อสร้างกระจัดกระจายเป็นวงกว้าง โอเอซิสอยู่ท้ายหมู่บ้านติดกับเขตรัฐฮาซัน กลางหมู่บ้านมีบ้านดินหลังใหญ่และกระโจมสองหลัง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กที่หมอประจำหมู่บ้านได้ขอแรงชาวบ้านมาช่วยกันทำเพื่อเป็นสถานที่รักษาคนเจ็บป่วยในหมู่บ้าน
นายแพทย์ยูซุฟและแพทย์หญิงมินมุนาบุตรสาวต่างรักษาชาวเมืองสุดกำลัง แม้ยาและเวชภัณฑ์ที่ทางการส่งมาให้มีไม่เพียงพอ แต่ก็ได้มินมุนาซึ่งรู้เรื่องสมุนไพรอยู่บ้างได้นำพืชสมุนไพรที่หาได้ในทะเลทรายมาช่วยรักษาคนป่วยแก้ขัดไปก่อน
?อย่าลืมกินยาตามที่หมอบอกนะ สามวันถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็กลับมาหาหมอใหม่ได้?
เสียงหวานบอกคนไข้พร้อมกับรอยยิ้ม เมื่อคนไข้ออกจากห้องไป มินมุนาก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วหลับตาลงเพื่อพักสายตา ขณะที่หลับตาเธอก็เห็นภาพกลุ่มควันและลูกไฟดวงใหญ่สว่างวาบขึ้น เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถูกยิง และผู้หญิงคนนั้นก็ออกวิ่ง มือทั้งสองข้างกอดห่อผ้าแนบอก
เมื่อภาพนิมิตเกิดขึ้น มินมุนาก็สะดุ้ง รีบเปิดเปลือกตาขึ้นด้วยความตื่นตระหนก เมื่อได้สติคุณหมอสาวก็รีบวิ่งออกจากกระโจมสวนกับคนเป็นพ่อ
?จะไปไหนมิน?
?ไปที่โอเอซิสค่ะพ่อ มินได้กลิ่นคาวเลือดมาจากที่นั่น? บอกเสร็จเธอก็วิ่งจากไป ผู้เฒ่ายูซุฟมองตามบุตรสาวอย่างเป็นห่วง
?ระวังตัวนะมิน?
?ค่ะ??
เธอตอบแต่ไม่ยอมหันกลับมา รีบวิ่งฝ่าไอแดดร้อนระอุไปอย่างร้อนใจไม่แพ้แสงของดวงตะวัน มือเล็กยกขึ้นเช็ดเหงื่อเป็นระยะหวังจะไปให้ทันช่วยใครสักคนให้มีชีวิตรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ท่ามกลางแดดร้อนระอุ ชายชุดดำมีผ้ากัฟฟีเยปิดบังใบหน้าสิบสามคนพร้อมอาวุธครบมือกำลังหมอบราบกับเนินเมซา สายตาของแต่ละคนพุ่งเป้าไปข้างหน้าราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง ไม่นานขบวนรถที่มีตราสัญลักษณ์ติดอยู่ข้างรถสามคันก็วิ่งฝ่าไอร้อนมาแต่ไกล กลุ่มละอองทรายละเอียดลอยฟุ้งขึ้นสูงจนเกิดเป็นเงาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ ชายคนหนึ่งใช้กล้องส่องทางไกลมองคนในรถ เมื่อเห็นเป้าหมายอยู่ในขบวนรถก็ให้สัญญาณเตรียมพร้อม
ภายในรถคันใหญ่ที่วิ่งอยู่ตรงกลาง ท่านหญิงคาริดา ฮาฟิช อัลอัฟซา บาฮิม นั่งมองบุตรชายสุดที่รักที่หลับอยู่ในอ้อมแขนด้วยสายตาอ่อนโยน
?ใกล้ถึงบ้านแล้วนะครับคนเก่งของแม่?
ท่านหญิงคาริดาแตะปลายนิ้วบนริมฝีปากแดงของบุตรชายพลางคิดถึงสามีสุดที่รักที่เธอจากมาเพื่อมาเยี่ยมบ้านเกิดเกือบสามสัปดาห์ ปกติชีคฮารีซจะไม่ปล่อยเธอกับลูกเดินทางไปไหนถ้าไม่ไปด้วย แต่ครั้งนี้สามีต้องเดินทางไปประชุมเรื่องสำคัญที่ไคโร และแผนการเยี่ยมบ้านเกิดของเธอก็เปลี่ยนไม่ได้เนื่องจากชีคไฟซาลพี่ชายได้รับตำแหน่งทูตสันถวไมตรีในสามรัฐ เธอจึงต้องเดินทางมาแสดงความยินดีแทนสามี
ขณะที่คาริดากำลังอยู่ในห้วงภวังค์ เสียงวัตถุก็กระทบกับตัวรถจนรถส่ายไปมาแต่ยังทรงตัวต่อไปได้ กระจกกั้นระหว่างห้องผู้โดยสารกับห้องคนขับเปิดออก
?เกิดอะไรขึ้นเซติ??
?มีกลุ่มโจรดักปล้นขบวนรถครับ ท่านหญิงระวังตัวด้วย?
เซติหัวหน้าองครักษ์รายงานแล้วสั่งพลขับเร่งความเร็ว โดยมีรถขององครักษ์วิ่งคุ้มกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
คาริดาหน้าซีดเผือด กอดบุตรชายแน่น เสียงกระสุนปืนกระทบข้างรถดังถี่ยิบราวกับพายุทรายลูกใหญ่โถมใส่
?ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะคนเก่ง แม่จะปกป้องหนูด้วยชีวิตของแม่? คาริดาปลอบเมื่อชีคน้อยสะดุ้งในอ้อมแขนของมารดาเป็นระยะ
?วิ่งฝ่าไป พาท่านหญิงหนีไปให้ได้ ฉันกับองครักษ์จะหลอกมันไปอีกทาง?
เสียงเซติดังแว่วเข้ามาในห้องโดยสาร รถท่านหญิงแยกจากขบวนมุ่งไปอีกทาง รถของกลุ่มคนร้ายก็แยกเป็นสองกลุ่มขับตามมาติดๆ เซติเปิดกระจกลงยิงต่อสู้อย่างกล้าหาญจนกระทั่งถูกยิง
?อ๊ากกก??
?เซติ ท่านถูกยิง?
คาริดาอุทานเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากต้นแขนของหัวหน้าองครักษ์ ก่อนจะหันกลับไปมองรถที่วิ่งไล่มา
?ผมไม่เป็นไร? เซติกัดฟันบอก เม็ดเหงื่อผุดมาเต็มใบหน้า ?ไปที่หมู่บ้านเซวาเร็ว? คนขับเปลี่ยนเส้นทางและขับไปด้วยความเร็วสูง ทิ้งห่างรถคนร้ายไกลพอสมควร เซติเปิดสัญญาณขอความช่วยเหลือจากชีคไฟซาลและชีคฮารีซก่อนจะมองเนินเมซาสูง
?ขับไปจอดหลังเนินเมซา?
?จอดทำไมเซติ เราต้องรีบไปนะ? คาริดาถามอย่างหวาดหวั่น เซติสูดลมหายใจเพื่อไล่ความเจ็บแล้วก้มศีรษะให้คาริดา
?มิได้ครับ ท่านหญิงต้องไปกับพลขับ ผมจะล่อมันไปอีกทาง รีบไปเถอะครับ พลขับจะพาท่านหญิงไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าหมู่บ้านเซวา?
?ไม่เซติ เราต้องไปด้วยกัน? ท่านหญิงปฏิเสธ ขณะที่พลขับจอดรถแล้วลงไปเปิดประตูให้
?รีบไปครับ เราไม่มีเวลาแล้ว รีบพาท่านหญิงไป?
ประโยคท้ายเซติสั่งการเสียงดังลั่นแล้วลงไปยืนข้างรถ คาริดาลงจากรถ เซติก้มศีรษะน้อมส่ง
?รักษาตัวด้วยครับ กองกำลังของชีคไฟซาลจะมาถึงอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า ขอให้ฟ้าคุ้มครอง?
?เช่นกันเซติ?? บอกเสร็จคาริดาก็กอดลูกแน่น วิ่งตามพลขับไป
เซติขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับแล้วขับออกไป คนร้ายเห็นรถวิ่งอ้อมเนินเมซาออกมาก็ขับตาม เซติแสยะยิ้มเร่งความเร็วหนี รถคนร้ายที่แยกตัวไปวิ่งมารวมกันอีกครั้ง เขามองกระจกหลังด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ถ้าพวกมันมารวมกันก็เท่ากับว่าองครักษ์ทั้งหมดถูกเก็บเรียบหมดแล้ว ขณะที่เซติขับรถหนี คนร้ายก็ใช้จรวดยิงใส่แต่เขาไม่ยอมเป็นเป้านิ่ง
ตูมมม!!!
เซติขับรถส่ายไปมา คนร้ายใช้เครื่องยิงจรวดวางบนบ่าแล้วยิงแบบไม่ยั้ง กระทั่งจรวดวิ่งไปกระแทกตัวรถ แรงปะทะทำให้เกิดเสียงดังสนั่น รถของเซติลอยขึ้นแล้วระเบิดกลางอากาศ
ตูมมม!!! ตูมมม!!!
ลูกไฟดวงใหญ่สว่างวาบท่ามกลางละอองทรายเม็ดเล็กแล้วตกลงมากระแทกพื้น รถของคนร้ายวิ่งแยกกันตีกรอบเป็นวงกลม คนร้ายคนหนึ่งหยิบกล้องส่องดูร่างที่ถูกไฟคลอก
?บ้าเอ๊ย มันหลอกเรา ออกตามหาท่านหญิงคาริดากับชีคน้อยเร็ว? สิ้นเสียงคนร้ายที่คาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าสั่งการ รถก็แยกกันไปคนละทางเพื่อค้นหาเป้าหมาย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คาริดากอดลูกแน่นขณะวิ่งย่ำไปบนเม็ดทรายร้อนระอุโดยไม่นำพาความเจ็บระบมของเท้า ขอเพียงลูกของเธอปลอดภัยก็พอ
?ทางนี้ครับท่านหญิง? พลขับบอกพลางมองด้านหลัง ละอองทรายที่ลอยละล่องขึ้นสูงเป็นเงาทะมึนทำให้รู้ว่ามีบางอย่างกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ?ไหวไหมครับ?
?ไหว?ไปเถอะ?
ท่านหญิงสั่งแล้ววิ่งไป คนร้ายเห็นคนทั้งสองวิ่งไปที่โอเอซิสเซวาก็ลงจากรถวิ่งตามไป พลขับเห็นคนร้ายก็ยิงเข้าใส่ พวกมันจึงยิงตอบโต้กลับมาถูกร่างพลขับจนพรุนไปทั้งร่าง
ปังๆ ๆ ๆ
คาริดาหันกลับไปมองถึงกับผงะ แต่ก็กอดลูกวิ่งต่อ คนร้ายเล็งปืนไปที่คาริดาแล้วยิงเข้าที่กลางหลังของเธอจนล้มกลิ้งไปตามเนินเมซา ตกลงไปที่โอเอซิสเซวา
ตูม!
เสียงวัตถุหนักๆ ตกลงไปในแอ่งน้ำ ทำให้แพทย์หญิงมินมุนาที่นั่งล้างมือริมตลิ่งมองหาต้นเสียง ดวงตาคมโตดำขลับมองคลื่นน้ำที่ตีวงกว้างออกมา เท้าเรียวรีบวิ่งไปที่ตลิ่งอีกด้านและมองหาสิ่งผิดปกติ
?ช่วย?ด้วย...?
แม้เสียงจะเบาหวิว แต่มินมุนาก็เงี่ยหูฟังและมองหาเจ้าของเสียง จนกระทั่งเธอเห็นชายชุดคาฟตานใกล้กับโขดหินริมตลิ่ง คุณหมอสาวรีบวิ่งไปดู พอเห็นภาพคนตรงหน้าก็ถึงกับผงะด้วยความตกใจ
?ท่านหญิงคาริดา?? มินมุนารีบนั่งคุกเข่าและก้มศีรษะแตะพื้นทำความเคารพสายเลือดสูงศักดิ์ของไวย่าห์
คาริดาฝืนยิ้มน้อยๆ มือกอดลูกแน่น
?ไม่ต้องมากพิธี?
คาริดาบอกเสียงเบา ดวงหน้าซีดขาวราวกระดาษ มินมุนามองเลือดสีแดงสดไหลลงสู่ผืนน้ำอย่างใจไม่ดี
?ท่านหญิงบาดเจ็บ?
คาริดายิ้มบางๆ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้ายาวเหยียด หวังจะต่อลมหายใจให้ได้กอดลูกรักอีกสักนิด มินมุนาใจหาย
?ฉัน แพทย์หญิงมินมุนาขอตรวจอาการสักครู่นะคะ? หญิงสาวขยับจะเข้าไปตรวจอาการ แต่คาริดาส่ายหน้าซีดขาวช้าๆ
?ไม่มีประโยชน์ เรารู้ตัวดี?ฝากลูกเราด้วย เอาเขากลับไปหาชีคไฟซาล ชีคไฟซาลเท่านั้นนะ?รับปาก?เราสิ?? คาริดาพยายามเปล่งเสียงออกมาให้ดังที่สุด แต่เสียงเบาหวิวติดที่ริมฝีปากเท่านั้น
มินมุนาขยับไปอุ้มร่างกลมป้อมที่ดิ้นในอ้อมแขนคนเป็นแม่
?ค่ะ??
หญิงสาวรับปากแล้วอุ้มชีคน้อยมาแนบอก คนเป็นแม่ถึงกับผ่อนลมหายใจอย่างหมดห่วงและมองลูกน้อยด้วยความอาวรณ์
?นี่เป็นแหวนประจำตัวเรา เอาให้พี่ไฟซาลเพื่อยืนยันฐานะของลูกเราเมื่อถึงเวลา ถ้าไม่มีใครต้องการแก ช่วยเลี้ยงแกด้วย เราคงหมดโอกาสที่จะเป็นแม่เขาแล้ว?
ท่านหญิงคาริดาบอกพร้อมกับน้ำตาไหลออกมา มือสั่นเทาวางบนศีรษะลูกน้อย
?ขอให้ลูกของแม่แคล้วคลาดปลอดภัยนะจ๊ะ?
เสียงเอ่ยอำลาเบาหวิว หัวอกของคนเป็นแม่ร้าวรานถึงจุดแตกดับเมื่อต้องพรากจากแก้วตาดวงใจ
?ฉันจะรักษาท่านหญิงเองค่ะ?
มินมุนาก้มศีรษะ น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความสงสารท่านหญิงผู้อาภัพจับใจ
?ไม่มีประ?โยชน์ ฝาก...ลูก...เราด้วย??
เสียงประโยคท้ายเบาหวิว ลมหายใจรวยรินลงทุกขณะ มินมุนาใช้มือข้างหนึ่งจับชีพจรด้วยความกังวล
?ขอบใจ??
ประโยคสุดท้ายแว่วแผ่วดุจสายลมจบลงพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายหลุดออกจากของร่างท่านหญิงผู้น่าสงสาร ชีคน้อยเหมือนจะรู้การจากลาของมารดา ส่งเสียงร้องดังลั่นคุ้งน้ำ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มมาแต่ไกล มินมุนากอดร่างกลมป้อมแนบอกและมองท่านหญิงคาริดาเป็นครั้งสุดท้าย
?ฉันจะดูแลชีคน้อยอย่างดีค่ะ?
มินมุนาก้มศีรษะแตะพื้น แล้วพาร่างน้อยวิ่งไปที่ม้า โหนตัวขึ้นไปนั่งและบังคับให้ออกวิ่ง คล้อยหลังคุณหมอสาว กลุ่มคนร้ายก็มาถึง เมื่อเห็นศพของคาริดาก็ยิ้มอย่างยินดีที่งานสำเร็จ
?ชีคน้อยคงตกลงไปในน้ำ หาศพให้เจอ เราจะได้มั่นใจว่าทั้งสองคนตายไปแล้วจริงๆ ?
คนเป็นหัวหน้าประกาศกร้าว คนร้ายที่เหลือกระโจนลงน้ำ ดำผุดดำว่ายอยู่นานก็ไม่เห็น จนกระทั่งเสียงเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ดังมาแต่ไกล
?มีฮอมา พวกเราถอยก่อน? พวกมันพากันขึ้นจากน้ำรีบวิ่งไปที่รถแล้วขับออกไป
เฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทชั้นนำในอเมริกาโรยตัวลงจอดบนพื้นทราย ไม่นานห้องผู้โดยสารก็เปิดออก ร่างสูงสง่าของชีคไฟซาล ฮาฟิช อัลอัฟซา บาฮิมในชุดพรางทหารกระโดดลงมาอย่างรีบร้อน ดวงตาคมเข้มภายใต้แว่นกันแดดหนามองซากรถที่มีตราสัญลักษณ์รูปหัวราชสีห์ด้วยประกายตาแข็งกร้าว
?ไอ้สารเลวเอ๊ย? ไฟซาลสบถอย่างโกรธแค้น ?ตามหาท่านหญิงและลูกเร็วที่สุด? เสียงประกาศกร้าวดุดันน่ากลัว สายตาคมกริบกวาดมองหาความผิดปกติรอบตัว ทหารกระจายตัวออกไปค้นหาทุกตารางนิ้ว
?ทหารรายงานว่าพบศพองครักษ์ห่างจากที่นี่ไม่ไกลครับ?
?ไอ้พวกสารเลวคนไหนที่มันกล้าทำร้ายน้องสาวกับหลานชายฉัน ล่าตัวมันมาลงโทษให้ได้? ไฟซาลบอกอย่างโกรธแค้น จนองครักษ์คนสนิทอย่างบาศก์รับรู้ได้
?ครับ??
ไฟซาลเดินตรวจบริเวณใกล้เคียงด้วยตัวเอง ในใจเดือดดาลจนแทบระเบิดเพราะความโกรธแค้น ดวงตาคมกริบมองเขตแดนระหว่างสองรัฐด้วยความดุดัน และพานคิดไปถึงชีคฮารีซน้องเขยที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้ามากนัก แต่เพราะความรักที่คนทั้งสองมีให้กัน ทำให้เขาต้องยอมให้น้องสาวต่างมารดาแต่งงานกับชีคฮารีซ แม้รู้ทั้งรู้ว่าชีคฮารีซมีผู้หญิงมากมายในชีวิต แต่เพราะความรักน้อง ไฟซาลจึงไม่อยากขัดใจ
?ชีคครับ? บาศก์เดินมาหยุดตรงหน้าชีคหนุ่มด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ?พบท่านหญิงคาริดาที่โอเอซิสเซวาครับ?
ไฟซาลฟังไม่ทันจบดีก็รีบเดินไปขึ้นรถที่วิ่งมาจอดรอ บาศก์ขึ้นไปนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับและสั่งออกรถด้วยความร้อนใจไม่แพ้เจ้าชีวิต
รถวิ่งมาด้วยความเร็วสูงไม่นานก็มาถึง ร่างสูงสง่าก้าวลงจากรถช้าๆ สายตามองร่างบอบบางที่นอนอยู่บนผ้าขาว หัวใจของคนเป็นพี่เจ็บปวดจนพูดออกมาไม่ได้ ก้าวเท้าไปหาแล้วทรุดนั่งลงข้างๆ องครักษ์สิบนายยืนนิ่งไว้อาลัยอย่างจงรักภักดี
?น้องพี่?? ไฟซาลจับมือซีดขาวบีบแรงๆ หัวใจแกร่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าร้าวรานกับการสูญเสียมากแค่ไหน กระนั้นก็ไม่มีน้ำตาสักหยดไหลออกมา
?ชีคน้อย?ทหารพยายามหาแล้วแต่ไม่พบครับ?
บาศก์รายงานอย่างเจ็บปวดไม่ต่างกัน ไฟซาลกัดกรามแน่น แค้นสุดแค้นคนที่ทำร้ายสองชีวิต
?ตามล่ามันมาให้ได้ ใครขวางหรือเกี่ยวข้องจัดการได้ทันที?
ไฟซาลประกาศกร้าวแล้วช้อนร่างน้องสาวไปขึ้นรถ บาศก์และทหารทุกคนก้มศีรษะน้อมส่งท่านหญิงด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มินมุนากอดห่อผ้าแน่น มืออีกข้างจับเชือกบังคับม้าเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ชาวบ้านยิ้มทักทายคุณหมอผู้ใจดีแล้วเดินผ่านไป เมื่อมาถึงบ้านหญิงสาวรีบลงจากม้าแล้วรีบเข้าไปในบ้านดิน ยูซุฟรักษาคนไข้ที่กระโจมใกล้ๆ เห็นท่าทีร้อนรนของบุตรสาวก็สั่งงานผู้ช่วยแล้วเดินตามเข้าไป
มินมุนาวางร่างเล็กไว้บนเตียงแล้วถอยห่างออกมา ยูซุฟเปิดประตูเข้าไปในห้องบุตรสาว เห็นเด็กที่ถูกวางบนเตียงก็แปลกใจ
?มิน เกิดอะไรขึ้นลูก??
มินมุนาเดินผ่านหน้าบิดาไปปิดประตู แล้วจับมือบิดาพาไปนั่งริมขอบเตียง ยูซุฟมองร่างกลมป้อมในห่อผ้าสีทองก่อนจะเงยหน้ามองบุตรสาว
?หลานชายของชีคไฟซาลค่ะพ่อ?
มินมุนาบอกบิดาเสียงเบา กลัวว่าเรื่องที่จะเล่าต่อจะมีบุคคลอื่นได้ยิน ยูซุฟได้ยินชื่อผู้ปกครองรัฐก็ตกใจ
?หมายความว่ายังไง?
?ขบวนรถของท่านหญิงคาริดาที่เดินทางกลับรัฐฮาซันถูกดักปล้นค่ะ พวกมันฆ่าทุกคนรวมไปถึงท่านหญิง ตอนที่ลูกไปถึงท่านอาการหนักมากแล้ว ก่อนสิ้นใจท่านหญิงมอบหมายงานสำคัญให้ลูก คือส่งคืนชีคน้อยให้ถึงมือชีคไฟซาล?
?พระเจ้า?? ยูซุฟอุทาน ตาฝ้าฟางมองชีคน้อยอย่างเวทนาที่กำพร้าตั้งแต่วัยเยาว์ ?ทำไมไม่ส่งให้ชีคฮารีซล่ะมิน?
?ไม่รู้สิคะพ่อ ท่านหญิงย้ำลูกหลายครั้งเรื่องนี้ หรือการปล้นครั้งนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังคะ?
ยูซุฟคิดตามคำพูดบุตรสาว ความห่วงใยในหัวอกคนเป็นพ่อก่อตัวเป็นริ้วๆ เพราะบุตรสาวเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ใหญ่เกินตัว
?พรุ่งนี้เราจะเข้าเมือง เอาหลานไปให้ชีคไฟซาล? ยูซุฟเร่งเพื่อให้จบความยุ่งยากที่จะตามมา มินมุนาสบตากลมใสของชีคน้อยอย่างใจหาย
?ไม่ค่ะพ่อ พรุ่งนี้ลูกจะเข้าไปดูลาดเลาในเมืองก่อน แล้วหาโอกาสพบชีคไฟซาลเพื่อบอกเรื่องนี้กับท่าน? มินมุนาแย้งบิดา
?ชีคไฟซาลใช่ว่าจะเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ นะมิน องครักษ์ฝีมือระดับพระกาฬทั้งนั้น โดยเฉพาะหน่วยอัลฟาที่รักพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งใด?
?ลูกจะระวังตัวค่ะพ่อ ฝากพ่อดูแลด้วยนะคะ ลูกรู้สึกผูกพันกับเด็กคนนี้ยังไงไม่รู้?
เมื่อเห็นบุตรสาวตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ยูซุฟก็พยักหน้าอนุญาต มินมุนาจับมือเล็ก จึงรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่ออกมาจากชีคน้อย
?เด็กมีไข้ค่ะพ่อ?
มินมุนาแตะมือที่หน้าผากเล็กก่อนจะรีบเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานก็ออกมาพร้อมกับกะละมังและผ้าผืนเล็ก นำมาเช็ดตัวลดความร้อน
?พ่อจะไปเอายาที่ห้องพยาบาล?
ยูซุฟออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ ในขณะที่มินมุนาถอดเสื้อผ้าออกจากร่างเล็ก เช็ดตัวลดไอร้อนอย่างไม่สบายใจ
เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงไข้ก็ลดลง ชีคน้อยหลับอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา โดยมีมินมุนาและบิดามองด้วยความกังวล
?ไม่น่าเชื่อนะคะพ่อว่าชีวิตจะพลิกผันได้เร็วจนบางครั้งเราตั้งตัวไม่ทันด้วยซ้ำ?
มินมานาเอ่ยขึ้นมาลอยๆ คำถามและเรื่องราวต่างๆ ยังต้องค้นหาคำตอบ แต่สิ่งที่สร้างความหนักใจในตอนนี้คือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถเข้าถึงตัวชีคไฟซาลเพื่อบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความตั้งใจที่จะเดินทางไปพบชีคไฟซาลของมินมุนาถูกเลื่อนออกมาถึงสามวันเพราะอาการชีคน้อยน่าเป็นห่วง เมื่ออาการดีขึ้นเธอจึงฝากชีคน้อยกับบิดาและเดินทางเข้าเมืองตั้งแต่เช้ามืด จนเวลานี้พระอาทิตย์ตรงหัวคุณหมอสาวจึงหยุดพักข้างโอเอซิสเล็กๆ ของชานเมือง มือบางจูงม้าไปกินน้ำแล้วผูกติดกับต้นปาล์มใหญ่ ส่วนเจ้าตัวก็เดินไปวักน้ำมาล้างหน้าล้างตา
แต่ขณะที่มินมุนากำลังนั่งพักอยู่นั้น เสียงพูดคุยก็แว่วมาเข้าหู เธอจึงขยับตัวแล้วค่อยๆ เดินหาต้นเสียง จนกระทั่งดวงตาคมโตเห็นหลังชายชุดดำสองคนยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งหน้าตาสะสวย แต่งตัวด้วยเสื้อผ้างดงาม มินมุนามองหน้าเรียวขาวของเธอคนนั้นไม่วางตา
?เจ้าสองคนว่าอะไรนะ หาชีคน้อยไม่เจอเหรอ?
?เราพยายามแล้วครับท่านหญิง? หนึ่งในสองชายชุดดำตอบก่อนจะหลบสายตา
?พวกเจ้าพยายามยังไม่พอ หาศพชีคน้อยให้เจอ ฉันจะได้มั่นใจว่ากำจัดเสี้ยนหนามมันทั้งแม่ทั้งลูกไปแล้ว?
เมื่อประโยคนี้หลุดออกมาจากปากผู้หญิงคนนั้น มินมุนาถึงกับยกมือปิดปากตัวเองเพื่อกันเสียงอุทานหลุดออกมา การสิ้นชีพของท่านหญิงคาริดา เกิดขึ้นเพราะมีคนวางแผนลอบสังหาร?พระเจ้า?
มินมุนานิ่งฟังคำสั่งอีกสองสามประโยคจนทั้งสามแยกย้ายกันไป คุณหมอสาวหลบในพุ่มไม้นานจนมั่นใจว่าทั้งสามไม่กลับมาอีกจึงออกจากที่ซ่อน สมองเต็มไปด้วยคำถามกับสิ่งที่ได้รับรู้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้หมู่บ้านบูบาร่าซึ่งอยู่ติดกับเมืองหลวงไวย่าห์คลาคล่ำไปด้วยองครักษ์ทะเลทรายที่อยู่ในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ แทรกซึมเข้าปะปนกับชาวเมืองเพื่ออารักขาชีคไฟซาลซึ่งเดินทางมาเยี่ยมชาวเมืองหลังจากจัดพิธีฝังศพของท่านหญิงคาริดาเพียงสองวัน แม้แสงแดดจะร้อนระอุสักปานใด ชาวเมืองก็ไม่ยอมลุกไปไหน ยังคงนั่งรอรับด้วยแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี
มินมุนาผูกม้ากับต้นไม้ใหญ่แล้วเดินไปรวมกลุ่มกับชาวเมือง
?ขอโทษนะคะท่านน้า จะมีใครมาเหรอคะ? คุณหมอสาวถามหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
?พวกเรามารับชีคไฟซาลน่ะสิ นั่นไงขบวนมาแล้ว?
หญิงวัยกลางคนรีบแทรกผู้คนไปนั่งด้านหน้า มินมุนายิ้มออกแล้วรีบแทรกตัวไปนั่งด้านหน้าเช่นกัน มือบางจับชายผ้าคลุมผมตวัดคลุมครึ่งใบหน้า
ขบวนรถคาดิลแลควิ่งมาจอดหน้าชาวเมือง ไม่นานร่างสูงสง่าในชุดพรางทหารสีเขียวก็ก้าวลงจากรถ ชาวเมืองต่างก้มศีรษะแนบกับพื้นทรายทำความเคารพเจ้าเหนือหัวด้วยความจงรักภักดี มินมุนามัวแต่มองจึงไม่ก้มศีรษะลงเหมือนคนอื่นๆ หน้าคมเข้มจึงหันไปมอง ดวงตาสองคู่สบกันในระยะห่างพอสมควร
?ก้มลง! ก้มลง!? เสียงองครักษ์สั่งดังลั่นทำให้มินมุนาได้สติ รีบก้มศีรษะแนบพื้นเหมือนคนอื่นๆ จนกระทั่งเสียงทุ้มเต็มไปด้วยความเมตตาของชีคไฟซาลดังขึ้น
?ตามสบายทุกคน วันนี้เรามาเยี่ยมตามปกติไม่ต้องมากพิธีอะไร หากใครมีเรื่องเดือดร้อนหรือต้องการให้ช่วยไปร้องเรียนด้านโน้นได้เลย?
ไฟซาลชี้ไปยังกระโจมที่พักหลังใหญ่ มินมุนามองตามแล้วหันไปมองร่างสูงสง่าที่เดินทักทายชาวเมืองอย่างเป็นกันเองจนกระทั่งมาหยุดตรงหน้าเธอ
?ดูเจ้าจะมีปัญหานะ?
ไฟซาลสบตาคมโตแฝงไปด้วยความหวาดหวั่นที่โผล่ออกมาจากผ้าคลุมหน้า มินมุนาทำอะไรไม่ถูก คำพูดที่เตรียมไว้หายไปจากสมอง แล้วอยู่ๆ ภาพความวุ่นวายก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธอ ปลายกระบอกปืนของใครคนหนึ่งที่เธอไม่เห็นหน้าเล็งมาที่ร่างสูงใหญ่ของชีคไฟซาล และหัวใจเธอก็หยุดเต้นเมื่อเสียงปืนดังขึ้น ไม่นานเลือดก็ไหลออกมาจากร่างของประมุขแห่งไวย่าห์
?เราถาม ทำไมไม่ตอบ เจ้ามีปัญหาอะไร?
เสียงห้วนดังมาพร้อมกับภาพความวุ่นวายในหัวของมินมุนาหายไป หญิงสาวเงอะงะทำอะไรไม่ถูก ขนตางอนยาวกะพริบปริบๆ อย่างสับสน บาศก์ขยับไปยืนเคียงข้างเจ้าเหนือหัวเพื่อป้องกันเหตุร้าย
?เอ่อ?เอ่อ?มีค่ะ?
มินมุนาเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอและเตรียมจะพูดต่อ แต่เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังมาก่อนตัว
?ชีคไฟซาลคะ ไปพักที่กระโจมก่อนเถอะค่ะ?
เรย่าห์ก้าวลงมาจากรถอีกคัน แล้วเดินไปยืนเคียงข้างชีคหนุ่ม
มินมุนาเห็นถึงกับผงะ เพราะเรย่าห์คือคนที่เธอเห็นที่โอเอซิสนอกเมือง
?ถ้าร้อนก็ไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไป? ไฟซาลสั่งอย่างไม่ใส่ใจ แล้วหันไปสบตาคมโตดำขลับที่โผล่พ้นผ้าคลุมหน้า ?ถ้ามีเรื่องเดือดร้อนก็ไปแจ้งไว้กับเจ้าหน้าที่ในกระโจม?
?แต่ฉันต้องแจ้งกับชีคเท่านั้นค่ะ?
?บังอาจ เจ้าเป็นใครถึงกล้าพูดกับเจ้าชีวิตแบบนี้ ทหาร เอานังชั้นต่ำคนนี้ไปลงโทษให้หลาบจำ? เรย่าห์สั่งองครักษ์ สายตาจ้องหน้ามินมุนาเขม็ง องครักษ์ขยับเข้ามาใกล้หากไฟซาลยกมือห้าม
?ไม่เป็นไร ฉันจะคุยกับเธอเอง? ไฟซาลมองแววตาจริงจังและมุ่งมั่นของอีกฝ่ายอย่างกังขา
ริมฝีปากอวบอิ่มที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าสีเข้มยิ้มน้อยๆ อย่างยินดี แต่พอก้มศีรษะทำความเคารพ หางตาก็เห็นปลายกระบอกปืนโผล่ออกมาจากชายเสื้อคลุมสีดำของชายคนหนึ่ง มินมุนามองไฟซาลสลับกับปลายปืน เมื่อรู้เป้าหมายของปืนปริศนาคุณหมอสาวถึงกับผงะ
?ชีคไฟซาล ระวัง!?
มินมุนาตะโกนลั่นพร้อมกับถลาไปกระแทกร่างสูงให้พ้นวิถีกระสุน ไฟซาลรับร่างหญิงสาวไว้ หากแรงกระแทกทำให้เสียหลักล้มลง แต่ก็ช้ากว่ากระสุนที่วิ่งออกจากปืนเก็บเสียง
ปุ! ปุ!
กระสุนสองนัดวิ่งออกจากรังเพลิง นัดแรกเจาะเข้าที่แขนขวาของชีคหนุ่ม นัดสองถูกชาวเมืองคนหนึ่งล้มลง แล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้น ชาวเมืองลุกฮือวิ่งหนีกันอลหม่าน เรย่าห์วิ่งหาที่หลบและเฝ้ามองความวุ่นวายอยู่เงียบๆ
องครักษ์กรูเข้าไปอารักขาเจ้าเหนือหัวเต็มกำลัง คนร้ายอาศัยช่วงชุลมุนแทรกตัวหนีไปกับชาวเมือง ไฟซาลมองหาและเห็นร่างสูงใหญ่ผิดจากชาวเมืองธรรมดาก็ตะโกนลั่น
?ผู้ชายคนนั้นบาศก์?
บาศก์มองตามพอดีกับคนร้ายหันมา เขาเล็งปืนใส่แต่ไม่ทันยิงคนร้ายก็วิ่งปะปนไปกับชาวเมือง องครักษ์นับสิบวิ่งตามไปทันที
?อารักขาองค์ไฟซาลเต็มกำลัง? บาศก์ตะโกนลั่นและวิ่งไปดูอาการของไฟซาล ในขณะที่ชีคหนุ่มยังโอบกอดมินมุนาแน่น ?ชีคเป็นยังไงบ้างครับ?
มินมุนาได้ยินก็ดันตัวออกจากวงแขนแกร่ง มือเรียวสัมผัสกับน้ำเหนียวๆ ที่ต้นแขนขวาก็ก้มลงไปมอง เห็นเสื้อพรางทหารเปียกชื้นก็ตกใจ
?ชีคถูกยิง?
หญิงสาวมองมือตัวเองด้วยความตกใจและรีบลงจากร่างกำยำ จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทำให้รีบประเมินอาการเบื้องต้น ผ้าคลุมหน้าถูกดึงออกมากดทับแผลเพื่อห้ามเลือด เผยใบหน้าสวยผุดผ่องให้ไฟซาลได้เห็น
?ชีค?? บาศก์ถลาไปหาด้วยสีหน้าเครียด หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ
?ชีคจะต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน?
มินมุนาเงยหน้าบอกหัวหน้าองครักษ์ ไฟซาลมองหน้าเรียวสวยที่ไร้ผ้าคลุมหน้าปิดบัง ความเจ็บทำให้ตาเริ่มพร่ามัวแต่ก็ยังมีสติอยู่
?คุณเป็นใคร?? บาศก์ถามเสียงห้วนและมองเธออย่างจับพิรุธ
?อย่าถามตอนนี้เลย ช่วยชีคไฟซาลก่อนเถอะ ถ้าชักช้าเลือดออกหมดตัวแน่?
?ฮอกำลังมา คุณเป็นหมอหรือไง?
?ใช่ค่ะ แต่กว่าจะไปถึงโรงพยาบาลหลวง ฉันกลัวว่าชีคจะเสียเลือดมากเกินไป เราจำเป็นต้องผ่าเอากระสุนออกเร็วที่สุด?
เธอบอกอย่างเร่งรีบ เพราะเวลาแต่ละเสี้ยววินาทีหมายถึงชีวิตของผู้นำรัฐ
?มันเสี่ยงเกินไป ที่นี่ไม่สะอาดพอและเครื่องมือมีเพียงชุดผ่าตัดสดเท่านั้น?
?ทำตามเธอ บาศก์? ไฟซาลสั่ง ตาไม่ยอมละจากใบหน้าหญิงสาว
?ขอบคุณที่ไว้ใจฉันนะคะ ฉันจะระมัดระวังที่สุด ช่วยพาชีคไปที่กระโจมทีค่ะ? หญิงสาวบอกพลางขยับห่างออกมาเพื่อให้องครักษ์ทำงานได้สะดวกขึ้น
การผ่าตัดถูกเตรียมขึ้นอย่างรวดเร็ว มินมุนาชูมีดผ่าตัดเล่มเล็กให้คนเจ็บดู เพียงเห็นใบหน้าหวานของหญิงสาว ชีคไฟซาลมีกำลังใจขึ้นมาเยอะทีเดียว
บาศก์ช่วยชีคไฟซาลถอดเสื้อออก มินมุนาแม้จะเห็นร่างกายผู้คนมามากมาย แต่พอเห็นเรือนกายท่อนบนของชีคหนุ่มก็หน้าเห่อแดง
?มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สักนิดไหมคะ? เธอถามเสร็จขวดเหล้าก็ถูกส่งมาให้ หญิงสาวใช้เหล้าแทนแอลกอฮอล์ เทราดลงบนแผล ไฟซาลคำรามเบาๆ
?อ๊ากกก??
?อดทนนิดนะคะ?? เสียงหวานปลอบโยน ไฟซาลคลี่ยิ้มรับน้อยๆ ?หลับตาค่ะ? เธอสั่งต่อ คนที่ไม่เคยฟังคำสั่งใครอย่างชีคหนุ่มรู้สึกขัดใจนิดๆ ที่ไม่ได้เห็นหน้าคนผ่า
แล้วมีดเล่มเล็กก็กรีดลงบนเนื้อ คนเจ็บถึงกับสะดุ้งเฮือกแต่ไม่มีเสียงร้องออกมา มีดเล่มเล็กเริ่มกดเข้าสู่เนื้อใกล้จุดที่กระสุนฝังอยู่ ร่างหนาเกร็งด้วยความเจ็บปวด บาศก์ยืนมองอย่างเอาใจช่วย เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงการผ่าตัดสดก็จบลง
?เจ็บหรือเปล่าคะ?
?ไม่...? เสียงนั้นสั่นเล็กน้อยจนเธอรู้สึกได้ หญิงสาวยกลูกกระสุนที่ถูกคีบไว้ให้ดูแล้ววางลงไปในถาด หลังจากนั้นก็เย็บแผลอย่างชำนาญ
?เจ็บก็บอกว่าเจ็บนะคะ ฉันจะได้เบามือ?
รอยยิ้มปรากฏบนหน้าคมที่ตอนนี้ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานดวงตาแดงก่ำด้วยพิษบาดแผลก็ค่อยๆ ปิดลงแม้จะพยายามฝืนไว้แล้วก็ตาม
บาศก์มองดูการผ่าตัดของมินมุนาและประจักษ์แล้วว่าการรักษาของเธอมีความเป็นมืออาชีพจริงๆ เมื่อเห็นเจ้าเหนือหัวอาการบรรเทาลง บาศก์จึงขยับเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยถามทันที
?อาการชีคเป็นยังไงบ้างหมอ?
?ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว ให้กินยาแก้อักเสบทันทีที่รู้สึกตัวนะคะ? เธอบอกขณะล้างทำความสะอาดมือ พอเสร็จก็หันไปมองคนเจ็บที่นอนอยู่บนเตียงแบบทหาร
?เอาล่ะ หมดหน้าที่ฉันแล้ว ฉันต้องขอลาเพราะต้องเดินทางกลับบ้านอีกไกล?
เธอเดินผ่านหน้าบาศก์ไป หากองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูขยับมาขวางทางไว้ มินมุนาหันไปมองด้านหลังอย่างไม่เข้าใจ
?ผมคงปล่อยคุณหมอไปไม่ได้ จนกว่าชีคจะฟื้น?
?ฉันอยู่ไม่ได้เพราะมีลูกน้อยต้องให้นม ขอโทษด้วยนะคะคุณองครักษ์ ช่วยให้คนของคุณเปิดทางด้วย? เสียงหวานเยือกเย็นผิดกับอากาศร้อนระอุด้านนอก บาศก์มองหน้าคุณแม่ลูกอ่อนอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เธอบอก
?คุณแต่งงานแล้ว?? บาศก์เอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ
มินมุนาไม่ตอบแต่มองเลยไปที่ร่างสูงบนเตียงกว้าง บาศก์มองตามด้วยความห่วงใยเจ้าเหนือหัว
?ชีคทำงานหนักเพื่อชาวเมืองมาตลอด เจ็บแบบนี้ไม่รู้จะหยุดภารกิจหรือเปล่า?
?ยังไงก็ต้องให้หยุดพัก เพราะแผลอาจจะอักเสบหรือติดเชื้อได้?
?ท่านชีคไม่เคยฟังใครนอกจากเสียงของชาวเมือง เจ็บแบบนี้คงหงุดหงิดใจน่าดู?
หัวหน้าองครักษ์ถึงกับถอนหายใจแรงๆ เพราะรู้ใจชีคไฟซาลดี ขณะที่ทั้งสองมองไปที่เตียงคนเจ็บเรย่าห์ก็เข้ามา พอเห็นมินมุนาก็ตวัดสายตาไปมอง
?นี่เธอมาร้องทุกข์ถึงที่นี่เลยเหรอ ทหาร...จับผู้หญิงคนนี้โยนออกไป แล้วอย่าให้เข้ามารบกวนชีคอีกเป็นอันขาด?
เรย่าห์บอกเสียงห้วนขณะมองหน้าผุดผ่องอย่างไม่พอใจ เธอไม่ชอบผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ชีคไฟซาลก็ว่าได้
?ไม่ต้องโยนหรอกค่ะ ฉันกำลังจะกลับพอดี? เธอก้มศีรษะทำความเคารพแล้วเดินออกจากกระโจมไป บาศก์ขยับตามทันที
?เดี๋ยวคุณหมอ?
?มีอะไรคะ?
?ค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ครับ? บาศก์ส่งถุงเงินให้ มินมุนาก้มมองแล้วยิ้มให้
?ฉันไม่รับหรอกค่ะ เพราะถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ใครมีโอกาสก็อยากปกป้องผู้นำกันทั้งนั้น ขอตัวนะคะ? มินมุนาเดินไปที่ม้า บาศก์ตามมาส่ง
?คุณหมอรู้ได้ยังไงว่ามีคนร้าย?
มินมุนาหยุดเดินแล้วหันมามองคนถามด้วยแววตาเยือกเย็น
?ฉันบอกไปคุณอาจจะไม่เชื่อ หรืออาจจะคิดว่าฉันเป็นคนบ้าไปเลยก็ได้?
?ลางบอกเหตุหรือครับ?
?คล้ายๆ ค่ะ แต่ฉันเห็นภาพนั้นก่อนจะเกิดเรื่องไม่ถึงสิบนาที จนเตือนไม่ทัน?
บาศก์สบตาคมโตราวกับค้นหาความจริงบางอย่างในตัวเธอ
?หมอมาจากไหนครับ หมู่บ้านเซวาหรือเปล่า?
บาศก์เอ่ยถามเพราะมีบางอย่างบอกให้รู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่ มินมุนาพยักหน้า บาศก์เงียบไปและคิดถึงตำนานปรำปราที่คนเฒ่าคนแก่เล่าสู่ลูกหลานฟัง
?ฉันไม่ใช่คนในตำนานหรอกนะคะ ฉันเป็นแค่หมอชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง? เธอยิ้มให้ หัวหน้าองครักษ์หนุ่มยิ้มตอบแก้เก้อ
?คุณหมอมีเรื่องจะร้องเรียนเหรอครับ ฝากผมไว้ก็ได้ ถ้าท่านชีคฟื้นผมจะแจ้งท่านให้? บาศก์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าเมื่อสักครู่ มินมุนามองไปที่กระโจมหลังใหญ่แล้วถอนหายใจเบาๆ
?คงไม่จำเป็นแล้วล่ะค่ะ ถ้าฉันถามบางอย่างเกี่ยวกับชีค ฉันจะมีความผิดไหมคะ?
?ได้เลยครับ เรื่องนี้จะรู้แค่เราสองคน?
?ผู้หญิงคนเมื่อสักครู่เป็นใครคะ?
?ท่านเรย่าห์ เป็นน้องสาวของชีคโอมานครับ เธอมาเที่ยวที่ไวย่าห์ อาทิตย์หน้าจะครบกำหนดกลับแล้ว? บาศก์บอกความจริงเพียงครึ่งเดียว
มินมุนาครุ่นคิดต่อ เคยทราบมาว่าท่านหญิงคนนี้เป็นคู่หมายของชีคฮารีซ แต่สุดท้ายเกิดอะไรขึ้นเธอก็ไม่อาจรู้ได้เมื่อชีคฮารีซแต่งงานกับท่านหญิงคาริดา
?เธอคงสนิทกับชีคไฟซาลมากถึงห่วงขนาดนั้น?
มินมุนาเอ่ยเป็นเชิงถามขณะจับเชือกบังคับม้ามาถือไว้ บาศก์ใช้ความเงียบแทนคำตอบทำให้คุณหมอสาวไม่ถามต่อ
?ระวังคนรอบกายชีคไว้บ้างก็ดีนะคะคุณหัวหน้าองครักษ์ บางครั้งความงามก็เคลือบด้วยยาพิษ กว่าเราจะรู้สึกว่าเป็นอันตราย พิษก็ซึมไปถึงขั้วหัวใจแล้ว?
มินมุนาบอกเสร็จก็โหนตัวขึ้นนั่งบนหลังม้าและขี่ม้าจากไป บาศก์นิ่งงันครุ่นคิดตามคำพูดของหญิงสาว
?ความงามที่เคลือบด้วยยาพิษอย่างนั้นเหรอ? เขาพึมพำด้วยความเคร่งเครียด ตามองฝุ่นทรายที่ฟุ้งไปตามแรงย่ำเท้าของม้า ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในกระโจม







++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วินาทีที่ผ้าคลุมหน้าผืนนั้นถูกปลดออกมาเพื่อกดซับเลือดจากบาดแผลของเขา
หัวใจของ ชีคไฟซาล ก็พลันกระตุกไหวทันทีที่เห็นดวงหน้างดงามหมดจดของหมอสาว
เป็นเวลาถึงสี่ปีหลังจากนั้นที่ไม่ได้พบกัน...หากแต่ มินมุนา ไม่เคยจางหายไปจากใจของชีคหนุ่ม
ทว่าการพบกันอีกครั้งเธอกลับกลายเป็นนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ที่เขาจะต้องพิพากษา
ทัณฑ์จากความสิเน่หาที่ซ่อนไว้จึงถูกถ่ายเทไปยังร่างบอบบางเพื่อเป็นการลงโทษ
ขณะที่เชลยสาวทราบดีว่าอาญาที่จะได้รับครานี้ร้ายแรงนัก
แต่ที่ไม่รู้คือโทษประหารที่สมควรได้รับกลายกลับเป็นอาญารักผูกมัดตัวเธอไว้กับเขา
จนผืนทรายแห้งแล้งว่างเปล่าพลันชุ่มชื้นเพียงต้องละอองไอแห่งรักหยดแรกที่เขาปรนเปรอ


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”