New Release : หัวใจอสูร

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : หัวใจอสูร

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1
?ท่าน...นั่น...!??
สิ้นเสียงอุทานของอสุเรศ อสุรราชก็เห็นรถเก๋งคันเล็กสีขาวพุ่งออกจากไหล่ทางลงมาปะทะกับต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นระเกะระกะอยู่ข้างๆ
เสียงเบรกเอี๊ยดอ๊าด...ตามมาด้วยเสียงกระแทกดังสนั่นหวั่นไหว
ทั้งอสุรราชและอสุเรศหันมามองตากันก่อนที่ร่างของทั้งสองจะจางหายไปพร้อมๆ กันทั้งคู่
วินาทีต่อมา...ร่างของ ?มนุษย์ผู้ชาย? สองร่างก็ปรากฏกายขึ้นข้างๆ รถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุคันนั้น
และก่อนที่ต้นไม้ซึ่งถูกปะทะจะถอนรากถอนโคนพารถที่พุ่งเข้ามาติดค้างอยู่ลงเหวไปด้วย มือที่ทรงไปด้วยพลังมหาศาลคู่หนึ่งก็ยื่นมารั้งกันชนด้านหลังเอาไว้ได้ทัน
มือนั้นขยับเพียงนิดเดียว...รถทั้งคันก็เลื่อนถอยหลังกลับมาโดยอัตโนมัติ
อสุรราชรอให้ผู้ติดตามดึงรถขึ้นมาจนเรียบร้อยก็ตรงเข้าไปจัดการดึงประตูข้างที่ถูกล็อกติดแน่นหลุดออกมาทั้งบาน...
?ท่าน!?
อสุเรศรีบเตือนอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นผู้เป็น ?นาย? เตรียม ?ลาก? ร่างของมนุษย์น้อยๆ นั้นลงจากเบาะรถ
?เถอะน่า...รู้แล้ว?
เสียงทุ้มลึกของอสุรราชดังตอบมา ก่อนจะค่อยๆ สอดลำแขนเข้าไปช้อนอุ้มร่างที่สิ้นสติสมประดีออกมาอย่างระมัดระวัง
แน่นอนที่อสุเรศรีบเตือนนาย ก็เพราะรู้ว่า ?แรง? ของตนและนายนั้น ?มิใช้น้อย?
ถ้าใช้เต็มกำลัง แข้งขาของมนุษย์อาจจะหลุดตามมาโดยง่าย
อสุเรศมองดูเจ้านายประคองร่างนั้นลงมาวางบนพื้นหญ้าอย่างสนใจจนกระทั่งเห็นใบหน้าที่หลับพริ้มไม่ได้สตินั้นถนัด
ดวงตาของอสุเรศเบิกกว้างเต็มที่ พอๆ กับ ?เจ้านาย? ที่ทำท่าเข่าอ่อนขึ้นมาแทบทันทีทันควันเช่นกัน
ใบหน้าที่ดูเข้มคมโน้มลงไปใกล้ใบหน้าอ่อนละมุนที่นอนหลับตานิ่งหมดสติอยู่อย่างตกใจ และไม่คาดคิด
?แสงระวี...?
อสุรราชพึมพำกับตนเอง
?แสงระวีจริงๆ หรือนี่...โอ้...คุณพระ?
ขณะที่อสุรราชมัวตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก อสุเรศก็ขยับเข้าไปคุกเข่าลงข้างร่างบางระหงและกวาดตามองให้ถนัด
?ใช่แน่แล้วท่าน แม่นางแสงระวีจริงๆ แม่นางแสงระวีมาเกิดแล้วจริงๆ?
อสุเรศพึมพำพร้อมกับเอื้อมมือมาแตะบ่าของผู้เป็นนายอย่างยินดี...
?นานเหลือเกินแสงระวี...นานเหลือเกิน...?
อสุรราชรำพึงพร้อมกับประคองมือนุ่มนิ่มขึ้นมาแนบแก้มที่สากระคายของตนอย่างตื้นตันใจ
?แม่นางกำลังบาดเจ็บนะท่าน...เราต้องรีบรักษา?
อสุเรศเตือน ซึ่งก็ทำให้คำรำพึงรำพันของอีกฝ่ายเงียบหายไปทันที
?งั้นพากลับปราสาทก่อน...เราจะดูแลรักษาเอง...?
ร่างสูงไหล่กว้างอย่างมนุษย์ผู้ชายรูปงามทั้งหลายช้อนอุ้มร่างบอบบางอบอุ่นขึ้นแนบอก เดินดุ่มลงจากเขาสูงชันนั้นไปอย่างรวดเร็ว
อสุเรศก้าวตามไปพร้อมกับถอนใจยาว...
และไม่ช้า...ร่างของ ?อสูร? ทั้งคู่ก็รางเลือนหายไปกับอากาศธาตุ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ใครน่ะ...!??
?ใคร...!??
?ใคร...!??
เสียงอื้ออึงรับต่อกันไปเป็นช่วงๆ ทั่วปราสาทตลอดทางที่อสุรราชในร่างมนุษย์ผู้ชายรูปงามเคลื่อนที่ไป
เสียงของทั้งสองเพศทั้งชายและหญิง เสียงเคลื่อนไหว และเสียงฝีเท้าขวักไขว่
?ผู้หญิง...?
ใครคนหนึ่งพึมพำ...
?มนุษย์ผู้หญิง...อุ๊ยหอม...?
ใครอีกคนหนึ่งว่าพลางสูดลมหายใจยาว
?โอย...กลิ่นมนุษย์...ใครที่ไหนกัน?
และยังคงไม่มีคำตอบตามเคย...
อสุรราชพาร่างแน่งน้อย กลมกลึงน่าทะนุถนอมนั้นผ่านเขตชั้นนอกเข้าไปจนถึงชั้นใน
ภายในห้องเพดานสูงลิบลิ่ว กว้างใหญ่...งดงามไปด้วยเครื่องประดับเก่าแก่ สูงค่า มีราคามิอาจประเมินได้
ร่างสูงตระหง่านพาร่างที่อุ้มอยู่ตรงเข้าไปยังเตียงกว้างใหญ่...และวางลงอย่างระมัดระวัง
ผู้ที่ตามมาหยุดลงแค่หน้าประตูบานสูง...ยกเว้นผู้มีหน้าที่ ?รักษา?
ร่าง ?มนุษย์? จำแลงสูงอายุเดินผ่านเข้ามาช้าๆ และโน้มใบหน้าลงมองผู้ที่ถูกนำมาก่อนจะเบิกตากว้างตกใจ...
?โอ...พระช่วย...?
เสียงอุทานนั้นบ่งบอกความปรีดา และดวงตาที่เงยขึ้นสบกับอสุรราชก็บ่งความยินดี...
?จริงหรือนี่...?
?จะจริงหรือไม่ก็ช่วยรักษาเธอเถอะ?
อสุรราชสั่งเบาๆ พร้อมกับกวาดสายตาไปโดยรอบปราสาทอย่างครุ่นคิด...
ร่างสูงเดินห่างออกมา เมื่อ ?หมอ? เริ่มดูอาการผู้ป่วย...จนกระทั่งถึงประตูกว้าง ซึ่งอสุเรศยืนนิ่งรออยู่ที่นั่น
?จะทำอย่างไรกันดี...?
อสุเรศถามขึ้นพลางมองหน้า ?เจ้านาย? เขม็ง...
อสุรราชหันหน้ามา และปรายตากลับไปมองบนเตียงกว้างนั้นใหม่ด้วยสายตาเช่นเดิม แต่ไม่กล่าวอะไร...นอกจากจะออกไปหยุดยืนนิ่งตรงหน้าประตูโค้งกว้าง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กลิ่นหอมอบอวลของธูปและควันเทียนปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากการหลับอย่างยาวนาน
ร่างกายที่บาดเจ็บ...บัดนี้ถูกสมานให้กลับมาดีเหมือนเดิมดัง ?เนรมิต?
?หมอ? ลุกจากเตียงคนไข้ และหอบเอา ?ล่วมยาวิเศษ? ใบใหญ่นั่นออกจากห้องไปเงียบๆ
แสงระวีกะพริบเปลือกตาถี่ๆ แล้วก็ค่อยๆ เบิกดวงตากว้างขึ้นเต็มที่...
สมองเริ่มทบทวนความจำก่อนที่จะทรงตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว...
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นอีก เมื่อเห็นร่างของคนที่ก้าวผ่านประตูเข้ามาถนัด
ผู้ชายร่างสูง ไหล่กว้าง ในเครื่องแต่งกายค่อนข้างประณีตตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ผมดำสนิทเส้นเล็กสลวยถูกตัดเจียนเข้ากับรูปศีรษะ และรับกับใบหน้าเข้มคมสะดุดตา ดวงตาใหญ่กว้างดำสนิทราวกับนิลน้ำดีทอดมองมายังหล่อน...ดั้งจมูกโด่งเป็นสันตรงรับกับริมฝีปากหยักลึกได้รูป เผยอออกยิ้มราวจะทักทาย
หากแต่พอมาหยุดยืนใกล้ๆ เข้าจริงๆ กลับหุบสนิทไปตามเดิม...
?เป็นอย่างไรบ้าง...สบายดีแล้วหรือคุณ...?
เขาทักหล่อนด้วยเสียงเรียบ ขณะที่กวาดสายตาสำรวจบาดแผล และสังเกตความเจ็บปวดจากสีหน้า หากแต่แสงระวีพ้นภาวะนั้นมาแล้ว และเวลานี้หล่อนสบายดีเหมือนไม่เคยบาดเจ็บสาหัสเลยด้วยซ้ำ...
?ค่ะ...สบายดีแล้ว...คุณ...เอ้อ...คุณช่วยฉันหรือคะ?
เขาพยักหน้าแทนคำตอบแล้วอธิบายต่อว่า
?เราไปพบรถคุณเกือบตกลงหน้าผาไปแล้ว...ที่รอดมาได้เห็นจะเพราะโชค...?
ปากของอสุรราชพูดถึง ?โชค? ในขณะที่ใจคิดถึง ?บุญ? มากกว่า...
บุญที่ได้พยายามบำเพ็ญมาเนิ่นนาน เพื่อรอคอยหล่อน
แสงระวีก้มลงสำรวจเนื้อตัวและบาดแผลของตัวเอง ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขาเป็นเชิงถามอีก...
?ฉันไม่บาดเจ็บเท่าไหร่ใช่ไหมคะ?
คำถามนี้แทบทำให้คนถูกถามเกือบหัวเราะ หากแต่นึกขึ้นมาได้ว่าถ้าบอกความจริงไป...คนบนเตียงคงไม่เชื่อ
วิธีการรักษาแขน ขาที่หักของมนุษย์คงต้องใช้ ?เวลา? และ ?ยา? มากมายและยาวนานกว่าที่หมอ ?อสุรา? รักษานัก...
?คุณคงขยับตัวได้แล้ว?
เขาถามมาอีกพร้อมกับเลิกคิ้วเข้มขึ้นสูง แสงระวีรีบพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น และขยับเท้าก้าวลงจากเตียงแทบทันที
ความรีบทำให้หล่อนเกือบเสียหลักล้ม ถ้ามือใหญ่อบอุ่นของคนใกล้ๆ ไม่ยื่นมาช่วยรั้งต้นแขนเอาไว้เสียก่อน...
อะไรบางอย่างจากสัมผัสนั้น...พุ่งผ่านเข้าถึงหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...
ขณะที่ใบหน้างดงามชนิดหนึ่งไม่มีสองถึงกับเงยแหงนขึ้นสบตากับอีกฝ่ายอย่างตกใจ...
เปลือกตาของอสุรราชหลุบต่ำลงเช่นกัน...
ดวงตาดำใหญ่สีเข้ม...มองไปทั่วใบหน้าหวานละมุนนั้นอย่างพิจารณา ด้วยความคิดถึง และรอคอยอันเนิ่นนาน...
หากแต่อีกฝ่ายหาเข้าใจได้ลึกซึ้งเท่าผู้มองไม่...
แก้มเนียนละเอียดมีจุดเรื่อขึ้นจุดหนึ่ง...ก่อนจะกระจายไปจนทั่ว
แม้แต่เจ้าของเองก็ยังอึกอัก...ขัดเขินจนบอกไม่ถูก...อธิบายไม่ได้...
?ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ...คุณเดินได้แน่...?
เสียงทุ้มลึกดังกังวานด้วยกระแสเสียงที่ทั้งปลอบประโลมและปลอบโยน
?นี่คือสิ่งที่คุ้นเคยหรือเปล่า?
?คุณมาจากไหน และกำลังจะไปไหน...?
เขาถามต่อด้วยท่าทางปกติธรรมดา ไม่ได้แสดงให้รู้สักนิดว่าสนใจเป็นพิเศษมากมาย
?มาทำงานค่ะ...เสร็จงานแล้วจะรีบกลับบ้านก็มาพบอุบัติเหตุเสียก่อน...?
?คุณทำงานอะไรล่ะ...?
?รับออกแบบตกแต่งค่ะ?
?งั้นเชียว...?
เขาเลิกคิ้วอีก
?ความจริงที่นี่จัดไว้สวยนะคะ?
หล่อนออกความเห็นขณะกวาดตาไปรอบห้องที่มานอนพักอยู่...
?เพียงแต่มันเก่าแก่และโบราณมากแล้ว?
?ใช่...มันเก่าแก่ และโบราณมากจริงๆ แล้วบ้านคุณอยู่ไหน?
อสุรราชถามสิ่งที่ตนต้องการรู้
?กรุงเทพฯ ค่ะ...?
?มาทำงานถึงนี่...ค่อนข้างไกลนะ?
เขาฟังแล้วย้อนถามอย่างไม่อยากเชื่อ...
?ค่ะ...อยากลอง และลองรถใหม่ด้วย...แต่โชคไม่ค่อยดี ไม่ทราบว่ารถเป็นอย่างไรมั่ง...?
?ก็ยุบล่ะข้างหน้า...แต่ก็ซ่อมให้แล้ว...?
เขาตอบในขณะที่อีกฝ่ายทำตาโต
?ซ่อมให้ด้วยหรือคะ...?
?ใช่...?
เขาตอบสั้นๆ พลางหมุนตัวเดินนำไปที่ประตูห้อง...
?และจะไปส่งให้ถึงบ้านด้วย...?
ข้อเสนอนี้ทำให้คนได้ยินค้านไม่ออก...นอกจากจะก้าวตามไปอย่างรวดเร็ว
?ไม่อยากรบกวนเลยค่ะ...แค่ช่วยดูแลและซ่อมรถให้ก็เป็นพระคุณมากแล้ว...?
?ผมต้องการไปส่งคุณ อยากให้แน่ใจว่าคุณปลอดภัย?
เขาย้ำขณะที่ทอดขายาวๆ ไปตามทางเดินสู่ประตูโค้งใหญ่ของปราสาทด้านนอก
ร่างบางครึ่งวิ่งครึ่งเดินตาม ขณะที่แหงนหน้ากวาดตามองไปรอบๆ บริเวณอย่างแปลกใจ...หล่อนไม่นึกเลยว่าจะมีปราสาทอยู่กลางป่าเขาเช่นนี้
มันเป็นประติมากรรมเก่าแก่ และมีอายุยาวนานจนไม่อยากเชื่อ
แสงระวีเดินแกมวิ่งออกมาทันเขาที่ประตูโค้งด้านหน้าด้วยความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าอ่อนเพลีย...หรือมีร่องรอยบาดเจ็บแต่ประการใด ยกเว้นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างขะมุกขะมอมเลอะเทอะไปด้วยฝุ่นละอองและรอยฉีกขาด
หญิงสาวมองดูรถคันเล็กสีขาวของตนซึ่งถูกซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อย และบัดนี้มีคนหนึ่งประจำที่คนขับอยู่แล้ว เตรียมขับตามไปให้
?ฉันคงสลบไปนานเชียวนะคะนี่...คุณจึงมีเวลาซ่อมรถเสร็จทัน?
?ก็...สองสามวัน?
อสุรราชหันไปปรายตามองรถของหล่อนนิดหนึ่งเมื่อตอบ...และเอื้อมมือไปเปิดประตูรถคันใหญ่สีดำสนิทออก เบี่ยงร่างให้หล่อนก้าวขึ้นไปก่อน...
แสงระวีมองหน้าเขาอย่างลังเลอยู่แค่อึดใจ ก็ก้าวเท้าขึ้นไป
หญิงสาวนึกอยู่ในใจว่าจะไปมัวกลัวอะไรอยู่...ถ้าเขาจะทำอันตรายหล่อนก็คงทำเมื่อหล่อนหมดสติไปเป็นเวลาหลายต่อหลายวันนั่นแล้ว...ไม่รอจนฟื้นขึ้นมานี่หรอก
เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ต้องถอนใจยาว...สงบใจของตนลง รอร่างสูงก้าวขึ้นมานั่งเคียงข้าง รอให้สารถีรูปร่างสูงใหญ่ด้านหน้าเคลื่อนพาหนะออกไปจากที่นั่นอย่างนุ่มนวล...
หญิงสาวหันไปมองปราสาทหลังนั้นอย่างเต็มตาอีกครั้ง...ก่อนที่มันจะค่อยๆ ลับหายไปในที่สุด...





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แสงระวีถูกช่วยชีวิตไว้จากอุบัติเหตุรถยนต์โดยอสุรราช และเขายังได้ว่าจ้างหล่อนซึ่งเป็นนักตกแต่งภายในมาตกแต่งบ้านใหม่ของเขา รวมทั้งเชิญมางานเลี้ยงแฟนซีสวมหน้ากากที่เขาจัดขึ้นอย่างจงใจ แม้หญิงสาวจะคิดว่าทั้งหมดเป็นความบังเอิญ หากทว่ามันไม่เคยบังเอิญเลยในหัวใจพญาอสูรเช่นเขาที่เฝ้ารอคอยหล่อนมานานนับร้อยปีเพื่อให้ได้ครองรักกันอีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยนางมนุษย์ผู้เป็นยอดดวงใจไปไหนอีก แต่จะใช้สัมผัสละมุนละไมล่อหัวใจหล่อนให้หลงอยู่ในพิศวาส

?ผมอยากให้คุณช่วยตกแต่งภายใน...?
?ค่าแรงแพงนะคะ? หล่อนลองหยั่งเสียง
?ผมสู้แค่หมดหัวใจ...? คำตอบนั้นทำให้อีกฝ่ายหุบปากลงเสียแทบจะทันทีราวกับไม่ได้ยินทั้งๆ ที่มันเข้าไปดังก้องอยู่ทั่วหัวใจและจิตสำนึกของตนเอง


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”