ประเทศคาลาส์เป็นประเทศเล็กๆ ในดินแดนแถบตะวันออกกลาง ทว่า...ประเทศคาลาส์กลับเป็นที่รู้จักของบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
นั่นก็เป็นเพราะว่าประเทศคาลาส์มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดติดอันดับโลก ไม่ว่าจะเป็นเนินทะเลทรายสีทองอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา หรือโอเอซิสกลางทะเลทรายที่สวยตรึงใจ รวมทั้งมีอินทผลัมหวานอร่อยให้นักท่องเที่ยวได้กินไม่อั้น และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องประดับอันลือชื่อที่เรียกว่าทองคำ!
เครื่องประดับอันวิจิตรงดงามที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์และรัตนชาติ เป็นอัญมณีล้ำค่าที่นักท่องเที่ยวแทบทุกรายต่างซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึก เมื่อได้มาเยือนยังดินแดนแห่งนี้
ทองคำเนื้อบริสุทธิ์จากประเทศคาลาส์เป็นที่ต้องการของลูกค้าทั่วโลก เป็นธุรกิจส่งออกที่ทำเงินเข้าประเทศได้จำนวนมหาศาล รวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวด้วย
ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามานับล้านๆ คน สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับราษฎร์ชาวคาลาส์เป็นจำนวนมาก และนอกจากนั้นยังเป็นแหล่งรายได้ของกองโจรหลายกลุ่มที่คอยดักปล้นบรรดานักท่องเที่ยวด้วย
กองโจรที่.่ากลัวที่สุด มีลูกน้องชั่วใต้อาณัติเป็นร้อยคน เป็นที่ต้องการตัวจากทางรัฐบาลคาลาส์มากคือกองโจรนาฟซา ซึ่งมี ?นาฟซา? เป็นหัวหน้ากองโจร!
ว่ากันว่า...นาฟซาเคยเข้าร่วมฝึกในหน่วย US Navy SEALs (ยูเอส เนวี ซีล คำว่า SEALs ย่อมาจากหน่วยทาง Sea ทะเล, Air อากาศ, Land บนบก เป็นนักรบสุดแกร่งของหน่วยซีลประจำกองทัพเรือสหรัฐ ต้องเอาชีวิตรอดให้ได้ในสภาพต่างๆ ที่ทารุณ ไม่ว่าจะเป็นกลางป่าทึบ ทะเลทรายร้อนระอุ หรือในอุณหภูมิติดลบ เป็นหน่วยที่ถูกฝึกหนักที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษด้วยกันเองของทุกเหล่าทัพ) เป็นเวลาหลายสัปดาห์ แม้จะไม่จบหลักสูตร แต่นาฟซาก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักรบที่แกร่งคนหนึ่ง
ทว่า...แทนที่นาฟซาจะใช้ความสามารถทางด้านการทหารมาช่วยเหลือรัฐบาลคาลาส์เพื่อบริหารประเทศให้เจริญรุ่งเรืองดังความต้องการของ ?ชีคมาคิม เดอาร์ คาริม? ผู้ปกครองประเทศ แต่นาฟซากลับละโมบ ต้องการเป็นใหญ่ จึงระดมเงินทุนไว้สำหรับก่อการใหญ่ด้วยการตั้งกองโจร ออกปล้นบรรดานักท่องเที่ยว รวมทั้งบรรดาเศรษฐีที่เป็นชาวคาลาส์เอง ส่งผลให้เดือดร้อนไปทั่วประเทศ
นักท่องเที่ยวเริ่มหวาดกลัวที่จะเดินทางมายังแผ่นดินทะเลทรายแห่งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจึงลดลงเรื่อยๆ ชาวคาลาส์เองก็แทบไม่กล้าออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากปล่อยไว้เช่นนี้ก็จะทำให้สูญเสียรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก
เมื่อถูกปล้นบ่อยๆ เดือดร้อนหนักเข้า ชีคมาคิมจึงประกาศตามล่าและให้ค่าหัวนาฟซา หัวหน้ากองโจรคนนี้เป็นเงินจำนวนมาก
ทว่าผ่านไปหนึ่งปีแล้วยังไม่มีใครสามารถเด็ดหัวของนาฟซาได้ ยังไม่เคยมีใครได้เห็นใบหน้าอันแท้จริง และเข้าใกล้หัวหน้าโจรที่.ิตคนนี้ได้เลย
หน่วยสอดแหนมคนแล้วคนเล่าที่ชีคมาคิมส่งเข้าไปสอดแหนมอยู่ในกองโจร ถูกจับได้และฆ่าทิ้งอย่.้ความปรานี ทำเอาชีคมาคิมถอดใจ แทบไม่อยากส่งใครไปตายอีก
แต่...มีทหารกล้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ยอมเสี่ยงตาย! และอาสาเข้าไปสอดแหนมเพื่อตามล่าหาตัวนาฟซา เด็ดหัวของหัวหน้ากองโจร และทะลายกองโจรกลุ่มนี้ให้ราบคาบด้วยฝีมือของเขา ทว่าชีคมาคิมไม่เห็นดีด้วยที่จะให้ทหารเหล่านี้เข้าไปอยู่ในดงโจร นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้ที่จะเข้าไปสอดแนมนั้นเป็นบุตรชายของท่านนั่นเอง
?ผู้พันครับ...?
ร้อยเอกฟาดิส ผู้เป็นลูกน้องคนสนิท ซึ่งได้รับคำสั่งตรงจากท่านชีคมาคิมให้มาทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามและคอยอารักขาท่านชาย ผู้ลอบเข้ามาสอดแหนมในกองโจรแห่งนี้ ได้เอ่ยเรียกผู้บังคับบัญชาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะเกรงว่าจะมีคนอื่นลอบดักฟังการสนทนาของพวกเขา
?ว่ายังไง...?
พันเอกฮาคิม เดอาร์ คาริม บุตรของชีคมาคิมเอ่ยรับคำอยู่ในลำคอ โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองลูกน้องคนสนิท มือใหญ่ทั้งสองยังคงวุ่นอยู่กับการเช็ดทำความสะอาดอาวุธปืน ซึ่งวางเรียงรายหลายกระบอกอยู่บนโต๊ะเล็กตรงหน้าของตนเอง
ร้อยเอกฟาดิสหันซ้ายหันขวา มั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในรัศมีที่จะได้ยินเสียงการสนทนาระหว่างตนเองกับผู้บังคับบัญชา จึงเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดแผ่วเบาเช่นเดิมว่า
?ท่านชีค...สั่งมาว่า...?
?ตอบข้อความกลับไปว่ายังไงๆ เราก็ไม่กลับ หากไม่ได้เด็ดหัวของไอ้นาฟซาซะก่อน และก็บอกท่านพ่อด้วยว่าไม่ต้องส่งข้อความมาอีก เพราะเสี่ยงกับการถูกจับได้ในสักวัน?
พันเอกฮาคิมถอนหายใจลึก เอ่ยแทรกก่อนผู้กองฟาดิสจะทันพูดจบ ด้วยรู้ดีว่าท่านพ่อกำลังต้องการอะไร และขณะเอ่ยตอบออกไปนั้น ผู้พันหนุ่มก็ยังคงให้ความสนใจปืนที่ถืออยู่ในมือ เช็ดทำความสะอาดหยอดน้ำมันไปเรื่อยๆ จนครบทุกกระบอก
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกสั่งให้กลับวัง ยกเลิกภารกิจสอดแนม แต่...มีหรือที่ผู้พันฮาคิมซึ่งบ้าดีเดือดจะยอมทำตามคำสั่งของท่านพ่อง่ายๆ
?ผมตอบท่านชีคไปแล้วครับ แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้ท่านชีคต้องการให้ผู้พันถอนตัวให้ได้ ท่านจะส่งหน่วยสอดแนมคนอื่นมาแทนครับ?
ร้อยเอกฟาดิสยังคงเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาติดระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะมีใครมาได้ยินเข้า และล่วงรู้ถึงฐานะอันแท้จริงของเขากับผู้พันฮาคิม ว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่พวกเร่ร่อนไร้ที่อยู่อาศัยจนต้องกระโจนมาเข้าร่วมกับกองโจรของนาฟซา
ผู้พันฮาคิมวางปืนในมือลง พลางลุกขึ้นยืนจ้องมองไปยังทิศทางของบ้านพักหรูหราของหัวหน้ากองโจรอย่างนาฟซา แล้วเอ่ยบอกถึงความจริงที่ผู้กองฟาดิสก็รู้ดีเช่นเดียวกัน
?ส่งคนอื่นมาก็ตายเปล่า...กี่คนแล้วที่ถูกจับได้ และถูกไอ้นาฟซาเด็ดหัวอย่างทารุณ ก่อนจะส่งกลับไปเป็นของกำนัลให้ท่านพ่อ?
หน่วยสอดแนมที่ส่งมาในก่อนหน้านี้ปฏิบัติภารกิจล้มเหลวทุกทีม พอนาฟซาจับได้ก็ถูกทรมาน ถูกฆ่าอย่. แล้วนำศพไปทิ้งไว้กลางเมืองหลวงคาลาส์ เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู และเยาะเย้ยที่ทางการไม่สามารถจับตัวนาฟซาได้แม้แต่ครั้งเดียว
แม้จะเป็นจริงดั่งที่ผู้พันฮาคิมเอ่ยออกมา แต่ผู้กองฟาดิสก็อดค้านออกมาไม่ได้
?ท่านชีคไม่อยากให้ผู้พันเป็นรายต่อไป จึงให้ถอนตัวจากภารกิจนี้ครับ?
?เราไม่ยอมให้ถูกสอยร่วงหรอกน่า...?
ผู้พันฮาคิมตอบเสียงเข้ม ไม่เคยหวาดกลัวที่ต้องอยู่ในดินแดนของกองโจร ซ้ายก็โจรใจโหด ขวาก็โจรใจอำมหิต เพราะเขาเตรียมตัวมาอย่างดี ไม่มีพลาดท่าให้นาฟซาง่ายๆ
?แต่...?
ผู้กองฟาดิสกำลังจะเอ่ยค้าน แต่ก็ถูกผู้พันฮาคิมยกมือห้ามปราม แล้วบอกถึงเป้าหมายของภารกิจสำคัญในชีวิตของเขา
?เราจะกลับก็ต่อเมื่อเด็ดหัวไอ้นาฟซาได้แล้ว บอกท่านพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรา...เราปลอดภัยดี เพราะมีนายคอยคุ้มกันอยู่ด้วย อีกอย่างเราสองคนก็ใช่ว่าจะเป็นคนเร่ร่อนไร้ฝีมือเหมือนที่ไอ้นาฟซามันคิด ยังไงๆ พวกเราก็รับมือไอ้นาฟซาและลูกน้องของพวกมันได้อยู่แล้ว?
?ครับ ผมจะส่งข้อความตอบท่านชีคตามนี้ครับ?
ผู้กองฟาดิสพยักหน้ารับคำสั่ง ไม่มีคัดค้านอีกต่อไป เพราะรู้ดีว่าผู้บังคับบัญชาของตนนั้นมีฝีมือฉกาจในระดับแนวหน้าของนักรบ
แน่นอนว่าพันเอกฮาคิม เดอาร์ คาริม ไม่ใช่คนเร่ร่อน หรือเป็นแค่ทหารกระจอกไร้ฝีมือ แม้จะเป็นบุตรชายของท่านชีคมาคิม ผู้ปกครองประเทศคาลาส์ แต่ผู้พันฮาคิมก็ไม่เคยใช้เส้นสายของท่านพ่อเพื่อให้ได้มาซึ่งยศที่ดูโก้หรู แต่ยศที่ประดับบนบ่าเกิดจากความสามารถของผู้พันล้วนๆ
พันเอกฮาคิม มีเลือดผสมระหว่างคาลาส์และรัสเซีย ผู้พันได้เข้าฝึกในหน่วยรบพิเศษที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุด นั่นก็คือหน่วย ?สเปซนาซ? ของรัสเซีย
หน่วยสเปซนาซถูกฝึกมาเพื่อรับผิดชอบความมั่นคงภายใน ภัยก่อการร้าย ภัยจากการจับเป็นตัวประกัน และภัยจากอาชญากรรมต่างๆ รวมทั้งการควบคุมฝูงชน การปราบปรามจลาจลด้วย
แน่นอนว่าผู้พันฮาคิมถูกฝึกอย่างหนักจวนเจียนเข้าใกล้ความตาย และผู้พันก็ได้คะแนนจากการฝึกเป็นอันดับสองในทีมด้วย
โจรร้ายอย่างนาฟซาเคยเข้าฝึกในหน่อยซีลจนเกือบจบหลักสูตร เพราะฉะนั้นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับนาฟซาที่สุดก็ต้องเป็นพันเอกฮาคิม เดอาร์ คาริมเท่านั้น
จะฆ่างูให้ตายก็ต้องเด็ดที่หัวงู หากจะทลายซ่องโจรแห่งนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง ถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินทะเลทราย ก็ต้องจัดการที่ไอ้นาฟซาซึ่งเป็นหัวหน้ากองโจร ผู้พันฮาคิมจึงต้องลงมือทำหน้าที่เป็นคนเด็ดหัวนาฟซาเอง
?ผู้พันครับ?
?ฟาดิส หยุดพูดก่อน ลูกน้องของไอ้นาฟซากำลังเดินตรงมาที่พวกเรา?
ผู้พันฮาคิมรีบเอ่ยห้ามลูกน้องของตนเองเมื่อมองข้ามไหล่ของผู้กองฟาดิสไปเห็นลูกน้องของนาฟซากำลังเดินตรงมา และเพื่อเป็นการกลบเกลื่อนไม่ให้เป็นที่สงสัยมากเกินไป จึงทรุดตัวลงนั่งแล้วประกอบปืนที่ถอดออกเป็นชิ้นๆ เพื่อทำความสะอาดในก่อนหน้านี้กลับคืน จากนั้นก็จงใจยกปืนเล็งไปที่หน้าผากของลูกน้องคนสนิทของนาฟซาให้มันได้ตกใจเล่นๆ
แชะ!
ผู้พันฮาคิมกระตุกยิ้มเยาะตรงมุมปาก ตอนเล็งปืนไปยังกลางหน้าผากแล้วกดไกปืนดังแชะให้อีกฝ่ายต้องสะดุ้งโหยง ตาเบิกโพลงเพราะความตกใจ
?ตกใจหรือ? ไอ้ชิยาด์ ปืนไม่มีลูก ต่อให้ยิงถูกยังไงๆ มึงก็ไม่ตาย?
สิ้นเสียงเยาะหยันจากผู้พันฮาคิมก็มีเสียงกัดฟันดังกรอด ตามด้วยแววตาที่จ้องมองอย่างเคียดแค้นจากชิยาด์
เขาคือลูกน้องคนสนิทที่อยู่กับนาฟซาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และเป็นคนรับคำสั่งจากหัวหน้ากองโจรให้มาบอกชายเร่ร่อนคนนี้ ซึ่งเขาทั้งเกลียดทั้งอยากฆ่าทิ้งในทันทีที่มีโอกาส
ไม่มีใครล่วงรู้ถึงฐานะอันแท้จริงของผู้พันฮาคิมและผู้กองฟาดิส ทุกคนในกองโจรแห่งนี้คิดว่าผู้ชายที่ชื่อฮาคิมและฟาดิสเป็นชายเร่ร่อนที่เข้ามาอยู่ในกองโจรเพราะฝีมือการต่อสู้เข้าตานาฟซา
และตอนนี้ฮาคิมกำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็นคนสนิทของนาฟซาอีกคน ทำให้ชิยาด์เกลียดฮาคิมเป็นอย่างมาก และต้องการกำจัดฮาคิมให้สิ้นชื่อแต่ก็ไม่สบโอกาสที่จะทำเช่นนั้นสักที
?อย่าให้ถึงทีของกูบ้างนะไอ้ฮาคิม กูจะลั่นลูกกระสุนใส่ตรงกลางหน้าผากของมึง?
ชิยาด์ประกาศศึกดังก้องอยู่ในใจ จ้องมองผู้พันฮาคิมเขม็งไม่กะพริบตา กัดฟันดังกรอดๆ ขณะเค้นเสียงบอกห้วนๆ
?ถ้ามึงยิงกู มึงไม่ได้ตายดีแน่?
?กูยอมตาย ถ้าได้กำจัด ?สวะ? อย่างพวกมึงทิ้ง?
ผู้พันฮาคิมเค้นเสียงเยาะ มั่นใจว่าชิยาด์คงอยากฆ่าเขาเต็มทน แต่คนอย่างผู้พันฮาคิมไม่มีหวาดกลัว และไม่มีทางปล่อยให้ถูกฆ่าง่ายๆ อย่างแน่นอน
?กูต่างหากที่จะเป็นฝ่ายกำจัดมึงทิ้ง?
หากทำดั่งที่ปากพูดได้ ชิยาด์คงทำในทันที แต่เขาก็ไม่เคยทำสำเร็จ เพราะผู้พันฮาคิมไหวตัวทันในทุกทีที่เขาเข้าใกล้
?แล้วจะรอ?
ผู้ฮาคิมท้าทายพร้อมกับแหงนหน้าหัวเราะร่วนเสียงดัง เพิ่มความโกรธแค้นในตัวของชิยาด์ให้พุ่งสูงมากกว่าเดิม
จากนั้นเขาก็หมดความสนใจในตัวชิยาด์ มือใหญ่เอื้อมไปหยิบปืนพกทรงประสิทธิภาพ แถมยังเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในวงการปืนมาถือไว้ในมือ ก่อนจะค่อยๆ บรรจุลูกกระสุนเต็มอัตราศึก แล้วแกล้งเล็งปลายกระบอกปืนไปยังชิยาด์ให้อีกฝ่ายได้สะดุ้งโหยงอีกรอบ
?คราวนี้กระสุนเต็มแม็ก อยากลองกินลูกปืนสักนัดสองนัดไหม ไอ้ชิยาด์?
คนที่ถูกถามถึงกับผงะถอยหลัง หน้าซีดทันตาเห็น ทำเอาผู้พันฮาคิมกับผู้กองฟาดิสต้องหลุดเสียงหัวเราะร่วนออกมาในทันที
?เป็นเป้านิ่งให้ฮาคิมเจิมปืนกระบอกใหม่สักนัด ก็ท่าจะดีเหมือนกันนะชิยาด์?
ผู้กองฟาดิสเยาะเย้ยบ้าง มั่นใจว่าชิยาด์กำลังโกรธจัดและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เห็นได้จากใบหน้าที่ขาวซีดไม่ต่างจากไก่ต้มค้างคืน
?ท่านนาฟซาเรียกประชุมด่วนภายในสิบนาทีนี้?
ชิยาด์เค้นบอกเสียงห้วน จ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเคียดแค้น ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับผู้พันฮาคิมนานกว่านี้ เพราะไม่อยากทำให้อีกฝ่ายโกรธ และระบายความโกรธด้วยการลั่นลูกกระสุนใส่ร่างของเขา
ปืนอยู่ในมือแถมยังมีลูกกระสุนเต็มแม็ก เขาจะถูกยิงเมื่อไรก็ได้
?แล้วจะรีบไปตามคำสั่งของนาฟซา?
ผู้พันฮาคิมเอ่ยตอบแกมเหน็บแนมตามหลังชิยาด์ ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายเดินเผ่นหนีลูกปืนไปแล้ว
เมื่ออยู่กันตามลำพังกับผู้พันฮาคิมอีกครั้ง ผู้กองฟาดิสก็เอ่ยถามผู้บังคับบัญชา ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
?ผู้พันคิดว่าวันนี้เราจะได้เห็นใบหน้าอันแท้จริงของไอ้นาฟซาไหมครับ?
ผู้พันฮาคิมส่ายหน้าปฏิเสธ
?คิดว่าไม่...ไอ้นาฟซามันฉลาดนัก นอกจากไอ้ชิยาด์แล้ว มันไม่ยอมให้ใครเห็นหน้าของมันแม้แต่คนเดียว?
?แบบนี้ก็ทำให้พวกเราควานหาตัวมันยากยิ่งกว่าเดิม?
ผู้กองฟาดิสเอ่ยเสียงเครียดไม่แพ้ครั้งแรก แถมสีหน้ายังเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดเจน
นาฟซาหัวหน้ากองโจรคนนี้ฉลาดเป็นกรด ในทุกครั้งที่มีการเรียกประชุมลูกน้องในกองโจร นาฟซาจะปรากฏตัวพร้อมๆ กับหน้ากากสีทองอันใหญ่ ซึ่งปกปิดใบหน้าของมันไว้
คงมีแค่เพียงลูกน้องคนสนิทที่อยู่กับมันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอย่างไอ้ชิยาด์เท่านั้นที่ได้เห็นใบหน้าอันแท้จริงของนาฟซา
?ยากแค่ไหน เราก็จะหามันให้เจอ แล้วลากคอมันไปรับใช้กรรมที่มันก่อในคุก?
ผู้พันฮาคิมเค้นตอบเสียงเข้ม ดวงตาคมกริบไหววาบ
แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการควานหาคนหนึ่งคนที่ไม่รู้ว่าหน้าตาที่แท้จริงเป็นเช่นไรภายในกองโจรที่มีลูกน้องเป็นร้อย เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าคนไหนคือนาฟซา แต่เขาก็จะตามหาหัวหน้ากองโจรคนนี้ให้เจอโดยเร็วที่สุด
และวิธีที่จะทำให้ได้เห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากสีทองของไอ้นาฟซา คือการพยายามสร้างผลงาน ?ปล้น? ให้เป็นที่ถูกอกถูกใจของนาฟซามากที่สุด เพื่อจะได้เลื่อนขั้นไปเป็นลูกน้องคนสนิทคนโปรด และได้อยู่ใกล้ชิดกับมันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
?ไปกันเถอะฟาดิส เราอยากรู้ว่าไอ้นาฟซามันเรียกประชุมด่วนเรื่องอะไร?
ผู้พันฮาคิมผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง โดยไม่ลืมเหน็บปืนพกไว้กับซอกรักแร้ทั้งสองด้านด้วย
?ครับผู้พัน?
ผู้กองฟาดิสเองก็ซ่อนปืนพกทรงประสิทธิภาพไว้ตรงซอกเอวทั้งสองด้าน พลางเดินเคียงคู่กันตรงไปยังลานประชุม
อยากรู้ใจจะขาดถึงเรื่องที่นาฟซาจะพูดในวันนี้ เพราะนั่นอาจเป็นช่องทางให้ผู้พันฮาคิมได้สร้างผลงานเป็นที่ถูกใจ เพื่อจะได้เป็นลูกน้องคนโปรด เข้าไปยืนแทนที่ไอ้ชิยาด์ และทำการเด็ดหัวนาฟซา กำจัดกองโจรนี้ให้สิ้นซากไปจากแผ่นดินประเทศคาลาส์...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พันเอกฮาคิม เดอาร์ คาริม บุตรชายของชีคผู้ครองประเทศคาลาส์ แฝงตัวเข้าไปในกองโจรนาฟซาที่ต้องการเป็นใหญ่ในประเทศนี้ เพื่อหาตัวหัวหน้ากองโจรที่มักจะใส่หน้ากากทองตลอดเวลา จนได้ล่วงรู้แผนการของพวกมันที่จะจับตัวท่านหญิงสูงศักดิ์มาเรียกค่าไถ่เพื่อระดมเงินทุน
ท่านหญิงไลอาด์ มาดา ราฟาห์ ไม่รู้เลยว่าตนกำลังตกเป็นเหยื่อของผู้ร้าย ได้แต่ฝังใจว่าพันเอกฮาคิมชายคนรักทิ้งเธอไปโดยไม่บอกกล่าวหรือส่งข่าวอะไรให้รู้ เมื่อถูกเขาลักพาตัวมาไว้ที่ฐานทัพลับกลางหุบเขาโดยไม่รู้สาเหตุจึงแผลงฤทธิ์ใส่ หากทว่าพอร่างบางดิ้นขลุกขลักก็ถูกกอดเสียเต็มรัก จนรสสวาทแต่หนหลังประดังเข้ามาให้ซ่านกระสันไปทั้งกาย
