ข่าวการพ้นคุกของชยุตม์ ตรีบูรณ์ กระทบกระเทือนครอบครัวของอมรฤกษ์มากที่สุดก็ว่าได้ ทั้งไวภพและลัดดา อมรฤกษ์ ต่างทรุดตัวลงบนเก้าอี้ในห้องพักผ่อนด้วยสีหน้าท่าทางกังวลใจอย่างยิ่งยวด...
ทั้งคู่มองหน้ากันและกะพริบตาปริบๆ เมื่อนึกถึงปัญหาที่กำลังจะย่างกรายเข้ามาอย่างปฏิเสธไม่ได้...
วิเศษ ตรีบูรณ์ เป็นเจ้าหนี้คนสำคัญของผัวเมียคู่นี้ และได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนหนี้จำนวนร่วมล้านด้วยการหมั้นชยุตม์กับมนปรียา ลูกสาวคนโตไว้ด้วยกัน...
ความต้องการของวิเศษ ตรีบูรณ์ เวลานั้นก็เพื่อต้องการเชื่อมอาณาจักรอันกว้างขวางนับพันไร่ทั้งสองนี้เข้าด้วยกัน และไวภพก็ไม่เห็นเป็นเรื่องเสียหายหรือขาดทุนจึงยอมตกลงด้วยดี...
แต่เวลาที่ผ่านไป...ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปมากมายอย่างคาดไม่ถึง...
ชยุตม์ ตรีบูรณ์ ต้องติดคุกฐานฆ่าคนตายถึงห้าปี แม้จะรับสารภาพลดโทษเมื่อศาลพิจารณาแล้วว่าทำไปเพราะขาดสติชั่ววูบ...
วิเศษ ตรีบูรณ์ ผู้เป็นพ่อหัวใจวายตายคาบ้านทันทีที่รู้ว่าลูกชายฆ่าคนตายและถูกตำรวจจับ...ขณะที่น้องสาวของชยุตม์คือ สลิลทิพย์ ตรีบูรณ์ หายสาบสูญไปอย่างไม่มีวี่แวว
ไม่มีใครรู้รายละเอียดความเป็นไปของครอบครัวที่กำลังรุ่งเรืองสุดขีด แล้วจู่ๆ ก็พังพินาศลงแทบไม่มีชิ้นดีนี้เลย...ต่างคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปสารพัด...ตามแต่จะคิด...
หากแต่บัดนี้...เขาได้กลับมาแล้ว กลับมาใหม่เพื่อทวงหนี้ชีวิตของตนกลับคืนมา และไวภพกับลัดดา อมรฤกษ์ก็เป็นคนคู่แรกที่ต้องคืนหนี้ที่ติดค้างกันอยู่นั้นให้...
มันอาจไม่ใช่ปัญหา แม้อาจจะมีอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้างถ้าตัวมนปรียา ลูกสาวคนโตยังอยู่...
แต่นี่...มนปรียาไม่อยู่เสียแล้ว เมื่อมีจดหมายของชยุตม์ ตรีบูรณ์มาถึง...จะทำยังไง ไวภพและลัดดาจะบอกชยุตม์ว่ามนปรียาแต่งงานและติดตามสามีเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ ร่วมสี่ปีเข้าไปแล้วยังไง
ทั้งสองนั่งมองหน้ากันนิ่ง พร้อมกับถอนใจยาว...
ขณะนั้นประตูครัวก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างบางของสาวน้อยคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา...ในมือของหล่อนมีถาดสำรับกับข้าวบรรจุอาหารคาวหวานมาเรียบร้อย และวางลงตรงหน้าบิดามารดาเลี้ยงทั้งคู่...
วิชิตาเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกนำมาเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่แบเบาะ แม่ของหล่อนเป็นคนงานในไร่ที่ท้องขึ้นมาโดยไม่มีพ่อ...และไม่มีผู้ชายคนไหนคิดจะดูแลรับผิดชอบ
ลัดดาไปพบเข้าก็นำมาเลี้ยงด้วยความสงสาร เพราะตัวเองมีลูกสาวคนเดียวคือมนปรียา...
ลัดดาเลี้ยงหล่อนกึ่งลูกกึ่งเด็กรับใช้ใกล้ชิดมาตลอด หล่อนได้เรียนจบชั้นมัธยมปลายและเกือบเข้าไปต่อในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แล้ว ถ้ามนปรียาจะไม่ทำเรื่องขึ้นเสียก่อน...
สี่ปีที่ผ่านมาถ้าวิชิตาเรียนต่อ บัดนี้หล่อนก็ต้องจบมหาวิทยาลัยแน่นอน เพราะวิชิตาเรียนเก่งและรักการเรียนมาตลอด หากชะตาชีวิตที่ผันผวนทำให้อนาคตวิชิตาจบลงแค่นั้น แล้วหันมาทำงานช่วยบิดามารดาเลี้ยงแทนพี่สาว...
มนปรียา...ซึ่งแม้จะเคยพอใจชยุตม์อยู่ในตอนหมั้นกันใหม่ๆ แต่พอเขาติดคุกและมีนายทหารหนุ่มเข้ามาพัวพันใกล้ชิด มนปรียาเปลี่ยนใจไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย...
หล่อนท้องกับนายทหารคนนั้น และปล่อยให้ไวภพผู้เป็นพ่อต้องวิ่งเต้นจัดการแต่งงานขึ้นอย่างรีบด่วน และยอมปล่อยให้ลูกตามผู้เป็นสามีเข้าไปในกรุงเทพฯ อย่างไม่มีทางที่จะห้ามได้...
ลัดดาหุบปากที่กำลังอ้าขึ้นจะพูดลง รอจนวิชิตานำอาหารมาวางบนโต๊ะเรียบร้อยและถอยออกไปแล้วนั่นแหละ มารดาเลี้ยงจึงรำพันขึ้นมา
?จะทำยังไงกันล่ะคุณ ไปบอกเขาตามตรงเสียก่อนดีไหม ว่าอะไรๆ มันไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว...?
ลัดดาปรึกษากับสามี หากแต่ไวภพกลับมองตามหลังลูกเลี้ยงไปอย่างครุ่นคิด...ลัดดาที่มองเห็นสายตานั้น...แล้วขยับตัวมองตามไปพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น
?คุณคิดอะไรอยู่น่ะ?
หล่อนถามสามีอย่างสงสัย
ไวภพหันมาสบตากับภรรยาแล้วปรารภว่า
?คุณว่ายายตามันเป็นสาวแล้วไม่ใช่หรือ...?
?แล้วยังไง...?
ลัดดาถามอย่างไม่แน่ใจ...
?จะเป็นไปได้ไหมว่า...?
ไวภพทิ้งคำพูดไว้เป็นปริศนาเมื่อหันมาเลิกคิ้วกับภรรยาอย่างมีความหมาย...
?คิดว่าจะยอมง่ายๆ รึ...?
ลัดดาถามออกมาเมื่อพอเข้าใจความคิดของสามี...
?ฉันคิดว่าควรจะลองดูนะคุณ...?
คำพูดของไวภพทำให้ลัดดามองผ่านหน้าต่างออกไปจนลับตา...มองวิชิตาโหนตัวขึ้นหลังม้าตัวโปรดของหล่อนอย่างครุ่นคิด...
หญิงสาวชอบใช้มันตรวจไปตามไร่แทนรถจี๊ปเสมอ และเป็นหูเป็นตาให้ไวภพได้อย่างดีแทบทุกกรณี...
ลัดดามองดูลูกเลี้ยงสาวอย่างพิจารณาลึกซึ้งเป็นครั้งแรก...
ความจริงแล้ว...วิชิตาเป็นเด็กสาวที่งามซึ้งคนหนึ่งทีเดียวแม้จะไม่สะดุดตาอย่างมนปรียา...หล่อนไว้ผมสั้นซอยได้รับกับใบหน้าเรียวรูปไข่และเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋ม
ผิวของวิชิตาเป็นสีน้ำผึ้ง...ไม่ขาวสะอาดเป็นน้ำนมอย่างมนปรียา ทว่ารูปร่างของวิชิตาบางกลมกลึงกว่ามนปรียาที่ค่อนข้างจะอวบอัดยวนตา
ถ้าเอาวิชิตามาเปรียบเทียบความสวยกับมนปรียาแล้วและพิศให้นานๆ จะเห็นว่ามนปรียาได้เปรียบก็เพียงสีผิวและสัดส่วนที่ดึงดูดสายตาผู้ชายมากกว่าเท่านั้น...
ถ้ามนปรียาทำให้ผู้ชายเกิดความรู้สึกต้องการเมื่อเห็น...วิชิตาก็ทำให้เกิดความรู้สึกเอ็นดูและใคร่ทะนุถนอมมากกว่า...
ผู้สูงวัยทั้งคู่ต่างมองดูหล่อนจนลับไปกับสายตาก่อนจะหันมาสบตากันใหม่อีกครั้ง...
?คุณคิดว่ายายตาจะว่าไง...?
ไวภพถามขึ้นใหม่ ขณะที่ลัดดาส่ายหน้า
?นั่นไม่ใช่ปัญหา...ปัญหามันอยู่ที่ว่าเจ้าหนี้รายใหญ่ของคุณเขาจะยอมหรือเปล่า...?
ผู้เป็นภรรยาพึมพำอย่างครุ่นคิด...
***
?คุณก็รู้อยู่ว่าคู่หมั้นของคุณ เขาไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว...จะไปทำไมกัน...?
คำถามนั้นเป็นของชายวัยรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเขา
อาวิมเป็นคนเดียวที่ไม่ทิ้ง ?ตรีบูรณ์? ไปไหนตลอดระยะเวลาห้าปีที่แล้วมา...แม้จะทำอะไรไม่ได้มาก แต่วิมก็ปรารถนาจะรอ และรอจนกระทั่ง ?นายหนุ่ม? ของเขากลับมาอีกครั้ง...
ชยุตม์กลับมาถึงไร่ตรีบูรณ์ในบ่ายวันหนึ่ง มันเงียบสงบ สงัด และรกเรื้อไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและพืชที่คอยเวลาตาย...
ไม่มีใครไปรับ...ไม่มีใครรู้ว่าเขากลับมาแล้ว...
ห้าปีในคุกสอนอะไรแก่เขามากมาย และชายหนุ่มก็เลือกเอามาเฉพาะสิ่งที่ว่าจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเอง...
เขาแข็งแกร่งและอดทนมากขึ้นทั้งกายและใจ ใจเย็นและคิดมากกว่าเดิมนับเป็นสิบๆ เท่าตัว...
ชยุตม์เข้าคุกไม่ใช่เพราะหมดหวังเหมือนคนอื่น และเมื่อออกจากคุกเขาก็ออกมาด้วยความตั้งใจอันมั่นคงที่จะพลิกแผ่นดินที่ตายแล้วมาร่วมห้าปีให้ฟื้นขึ้นมาใหม่...
เขาต้องการเปิดอาณาจักรไพศาลขึ้นอีกครั้ง และต้องการยึดหลักฐานให้มั่นคงยิ่งขึ้น...
อาวิมออกมาเห็นเข้า และส่งยิ้มให้อย่างยินดีก่อนจะอ้าแขนออกต้อนรับ
ดวงตาผู้สูงวัยกวาดไปทั่วร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างของนายหนุ่มอย่างพินิจพิเคราะห์ ห้าปีเปลี่ยนชยุตม์ให้กลายเป็นชายฉกรรจ์ขึ้นได้อย่างน่าพอใจ
ดวงตาสีเข้มคู่นั้นของชยุตม์ไม่ได้มองโลกอย่างรื่นรมย์สถานเดียวอีกต่อไป แต่มันแฝงเอาไว้ด้วยความลึกซึ้ง...เท่าทันและรู้คิดขึ้นมากกว่าเดิม
วินภาวนาให้บุรุษหนุ่มตรงหน้าตนยังคงไว้ซึ่งความดีที่เขาเคยติดมาแต่สันดาน ความผิดพลาดและประสบการณ์ในทางลบมากมายในคุก...ขออย่าได้ติดตัวให้น่ากลัวนัก...
วิมยิ้มกว้างและตบบ่าชยุตม์หนักๆ ก่อนจะเดินนำเขาเข้าไปในบ้านใหญ่ที่เงียบเหงามานมนาน...
หลังจากที่วุ่นอยู่กับการวางแผนทำงานสำหรับฤดูฝนที่กำลังจะมาเรียบร้อยลง...ชยุตม์ก็นึกถึงหล่อน...
คู่หมั้นของเขา...ผู้หญิงสวยเซ็กซี่คนนั้น...มนปรียา เขาถามอาวิมถึงหล่อน แล้วก็ได้คำตอบที่น่าจะรู้อยู่แล้ว...
มนปรียาหรือจะคอยคู่หมั้นขี้คุกอย่างเขา...ชยุตม์ควรรู้
คำบอกเล่าของอาวิมทำให้ชายหนุ่มนั่งเงียบ เหยียดขายาวๆ ของตนชี้ไปยังผนังเตาผิงฝาห้อง...เอาหลังพิงกับพนักเก้าอี้ ในมือมีแก้วบรั่นดีถืออยู่อย่างครุ่นคิด...
เขาพยายามนึกถึงใบหน้าของมนปรียา แต่ก็จำได้ไม่ถนัดนัก...
เขาพบหล่อนเพียงสองสามครั้งตั้งแต่หมั้น แต่ในตอนนั้นก็จำได้ว่าไม่ได้รังเกียจหล่อนเลย หล่อนสวย...ถูกใจว่างั้นเถอะ และเขาก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาหลังการแต่งงานถึงจะยังไม่ได้รักหล่อนในขณะนั้น
แต่เหตุการณ์สำคัญที่ตามมาติดๆ ทำให้ความหวังต้องพังทลายลงโดยสิ้นเชิง ชยุตม์ถอนใจเมื่อเงาผู้หญิงอีกคนหนึ่งแทรกเข้ามาในความคิด
สลิลทิพย์ น้องสาวของเขาเอง น้องสาวแท้ๆ แต่ทรยศพี่ชายอย่างเลือดเย็น...
ชยุตม์ยิ้มเครียดๆ เมื่อนึกถึงผู้หญิงสองคน...
คนแรกน้องสาว...คนหลังคู่หมั้น...
หล่อนทั้งคู่ทำร้ายเขาอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใดนอกจากตัวเอง...
ชายหนุ่มยกเหล้าขึ้นจิบ แล้วทอด ตามองไฟในเตาผิงที่กำลังมอดไหม้ลงเหลือแต่เถ้าถ่าน...
เขาไม่ได้อาลัยอาวรณ์มนปรียาเสียหนักหนา แต่ต้องการรู้ว่าพ่อแม่ของหล่อนจะทำยังไงกับหนี้สินเรือนล้านที่ยังเป็นหนี้เขาอยู่...
ชยุตม์จะไปที่นั่นเพื่อทวงถาม แต่ไม่คิดจะทวงหล่อนคืนเลยสักนิด
***
จากเนินเขาแห่งนั้น...วิชิตาหยุดม้าของหล่อนลงมองรถจี๊ปที่แล่นเข้ามาตามถนนเข้าไร่ช้าๆ อย่างสนใจ ผู้ชายที่อยู่บนรถคุ้นหน้าวิชิตานัก แต่นึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร
หล่อนขยับม้าขึ้นไปตามเนิน...ขนานกับรถไปเรื่อยๆ อย่างสงสัย และอีกฝ่ายก็เหลือบหางตามาเห็นเข้าพอดี
ชยุตม์หยุดรถและเงยหน้าขึ้นมองหล่อนเต็มตา ผู้หญิงสาวบนหลังม้าคนนั้น...เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลา แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นหล่อนที่ไหน...
วินาทีนั้นเองที่วิชิตาจำได้ก่อน หล่อนเคยเห็นเขากับมนปรียาหนหนึ่ง...
ตอนนั้นวิชิตาแต่งเครื่องแบบนักเรียนออกมาจากโรงเรียน ส่วนเขาควงคู่มากับมนปรียาเข้าไปในภัตตาคารแห่งหนึ่งใกล้ๆ ขณะที่มนปรียาเห็นน้องแต่ไม่หยุดทักทายสักนิด...กลับเดินเลยผ่านไปเหมือนไม่รู้จัก
วิชิตาเห็นเขาอีกครั้งในวันหมั้น ซึ่งเวลานั้นหล่อนยังเป็นนักเรียนอยู่เลย
ความจริงในสายตาของวิชิตา เขากับพี่สาวหล่อนก็สมกันดี ถ้า...
ใช่แล้ว ถ้า...ถ้าเขาไม่ติดคุกและพี่สาวหล่อนไม่แต่งงานไปแล้วซะก่อน แล้ววันนี้เขามาที่นี่เรื่องอะไร วิชิตาขมวดคิ้วอย่างสงสัยและมองเขานิ่งอย่างอยากรู้...
ชยุตม์เปลี่ยนสายตากลับมายังถนนลูกรังข้างหน้าตามเดิมแล้วเคลื่อนรถต่อไปใหม่...
คราวนี้เขาต้องเหลือบตามองม้าสีดำสนิทและวิ่งขนานทางรถไปบนเนินนั้นหลายครั้ง จนแน่ใจว่าหล่อนตามมาเรื่อยโดยไม่คิดจะเปลี่ยนเส้นทางไปไหน และมีความแน่ใจว่าต้องพบหล่อน ณ จุดหมายที่ไปนี่แน่นอน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อ ?ชยุตม์? พ้นโทษเขาตั้งใจพลิกแผ่นดินที่ตายมาร่วมห้าปีให้ฟื้นขึ้น เขาไม่เคยหมดหวังในชีวิตและสิ่งที่ทำลงไปเขาสารภาพสิ้นว่าขาดสติ เวลานั้นเส้นโมโหของเขาขาดผึงและทุกสิ่งที่กำลังรุ่งเรืองพังพินาศลง ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้ชยุตม์กลายเป็นคนที่รู้เท่าทันคน เขาต้องการทวงคืนทุกอย่างที่เคยเป็นของของเขาแม้แต่คู่หมั้นที่ใช้ล้างหนี้ หากแต่เวลานี้ผู้หญิงคนที่เคยเอาอกเอาใจเขาหนีไปแต่งงานแล้ว และข้อเสนอใหม่ของพ่อแม่ผู้หญิงใจดำคนนั้นคือ ?วิชิตา? ลูกสาวที่พวกเขาเก็บมาเลี้ยง การคลุมถุงชนนี้จึงเหมือนการจับคนที่ไม่มีใครต้องการให้มาอยู่คู่กัน แล้ววิวาห์วอนของชยุตม์และวิชิตาจะไปตลอดรอดฝั่งรักได้หรือไม่
?ที่รัก...?
ชยุตม์กระซิบเรียกพร้อมกับจรดริมฝีปากลงจูบไล้บ่าไหล่เนียนนุ่มเปล่าเปลือยนั้น
วิชิตารับสัมผัสนั้นอย่างเผลอไผล
ครวญครางออกมาเบาๆ เมื่อริมฝีปากของเขาไต่ลงมาจับจองเป็นเจ้าของมันด้วยพร้อมๆ กับปลายนิ้ว...
