New Release : FULL METAL PANIC! ANOTHER VOL.5

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : FULL METAL PANIC! ANOTHER VOL.5

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ

ฉันเกลียดโรงพยาบาล
ทัตสึยะพูดกับตนเอง พลางมองดูพื้นทางเดินสีขาวที่มืดสลัวด้วยอาการเหม่อลอย
บริเวณหน้าห้องผ่าตัดยามดึกเงียบมาก นอกจากทัตสึยะ ที่นี่มีอยู่อีกแค่สองคน หนึ่งคืออเดลีน่า เคเรนสกาย่าซึ่งกำลังติดต่อกับทางสำนักงานใหญ่อยู่ กับอีกหนึ่งคือคลาร่า เหมาที่กำลังนั่งกอดเข้าอยู่บนม้านั่ง
?พระเจ้า....?
คลาร่าก้มหน้า พูดออกมาด้วยเสียงที่แหบพร่า
?หนูขอสัญญา หนูจะไม่หนีออกจากบ้านอีก หม่าม้าพูดอะไรก็จะเชื่อฟังทุกอย่าง จะยอมกินบรอกโคลี จะยอมไปฉีดยา จะไม่ไปยุ่งกับปืนไรเฟิลอีก เพราะฉะนั้น เพราะฉะนั้น....?
ต่อหน้าห้องผ่าตัดที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีคำพูดแก่แดดหรือท่าทางอวดดีแบบเช่นทุกครั้งให้เห็นอีกต่อไป นั่นเพราะเวลานี้คือช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของเมลิสซ่า เหมาผู้เป็นแม่ของเธอ
ร่างเล็กๆ ของเด็กสาวที่อายุยังน้อยและบอบบาง....
?ได้โปรด.... ช่วยหม่าม้า ช่วยหม่าม้าด้วย?
สำหรับทัตสึยะ นี่ช่างคล้ายกับภาพของเขาและน้องสาวเมื่อสี่ปีก่อน
ในวันนั้นที่ทั้งสองต้องสูญเสียชิโฮะผู้เป็นแม่ ยูคาริผู้เป็นน้องซึ่งตอนนั้นยังอยู่แค่ชั้นประถมร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ทัตสึยะพยายามปลอบเธออย่างเต็มที่ ทว่าตัวเขาเองก็ยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
?บ้าเอ๊ย?
สุดท้ายแล้วตัวเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทัตสึยะคร่ำครวญพลางใช้มือขวากุมไปที่หน้า
?อาการผู้ป่วยอยู่ในขั้นวิกฤตมากครับ?
คำอธิบายของแพทย์เมื่อสักครู่ดังก้องขึ้นมาอีกครั้งในจิตใจ
?บริเวณทรวงอกได้รับบาดเจ็บหนัก โชคดีที่หัวใจไม่ได้รับอันตราย แต่ผลจากอาการปอดช้ำทำให้การหายใจติดขัด นอกจากนี้เลือดที่คั่งอยู่ในช่องปอดยังกดทับหัวใจ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว?
?ในช่องท้องพบอวัยวะภายใน เช่น ตับ ม้าม ลำไส้เล็ก เสียหาย อีกทั้งกระดูกเชิงกรานที่หักยังส่งผลให้มีเลือดออกเป็นจำนวนมาก....?
?....ปริมาณเลือดที่ไหลเวียนในร่างกายลดลงทำให้มีอาการช็อก?
?....เลือดออกในเนื้อเยื่อหุ้มสมองเฉียบพลันจากการที่สมองได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง?
?....กระดูกหักทั่วร่าง.... บาดแผลภายนอก.... แผลไฟไหม้....?
คำพูดเหล่านั้นวนเวียนไปมาในหัวนับครั้งไม่ถ้วน
ทันใดนั้นประตูหน้าห้องสำหรับเฝ้าผู้ป่วยผ่าตัดก็เปิดออกพร้อมกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดเล็กน้อย ผู้ชายผิวขาววัยกลางคนคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนเฝ้าระวังความปลอดภัยอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง
?ต้องขอประทานโทษ พวกคุณคือผู้เกี่ยวข้องกับ D.O.M.S. สินะครับ?
แม้จะตัวเล็กแต่หุ่นของเขาดูกำยำแข็งแรง เขาสวมเสื้อโค้ทที่ดูเก่า พลางกางสมุดพกที่ภายในมีหมายเลข ID กับเข็มกลัดสีทองอยู่ด้วยมือข้างซ้าย
?....ตำรวจ??
?โทมัส แมคฟาร์เลน ผู้ช่วยสารวัตรแห่ง LAPD ฝ่ายดูแลความปลอดภัยครับ อยากจะขอสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของมิสเหมาหน่อย ไม่ทราบว่าสะดวกไหมครับ??
?ได้สิ.... ว่ามา?
หลังจากได้ยินคำตอบรับของอเดลีน่าผ่านทางหางตา ทัตสึยะก็พยักหน้ารับตาม
?ถ้างั้นก็เริ่มเลยนะครับ?
ผู้ช่วยสารวัตรแมคฟาร์เลนนั่งลงข้างทัตสึยะ พร้อมกับควักบุหรี่ไฟฟ้าออกมา ในจังหวะนั้นเองอเดลีน่าก็พูดขึ้นมา
?สถานการณ์ของการสืบสวนล่ะ??
?เพิ่งจะตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเสร็จครับ ผู้บาดเจ็บคือเมลิสซ่า เหมา ประธานบริษัททหารรับจ้าง D.O.M.S. และดักลาส แบ็กซ์เตอร์ หัวหน้าหน่วยประจำแผนกฝึกสอน AS ของบริษัทเดียวกัน....?
ทัตสึยะกัดริมฝีปากแน่นเมื่อได้ยินคำพูดของผู้ช่วยสารวัตร สำหรับทัตสึยะกับอเดลีน่าแล้ว เหมาคือประธานบริษัท ส่วนแบ็กซ์เตอร์คือหัวหน้าโดยตรง แต่กลายเป็นว่าทั้งคู่ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการก่อการร้าย
(....ไอ้เลวตัวไหนนะ ที่มันกล้าทำเรื่องระยำแบบนี้!!)
ความโกรธปะทุขึ้นอีกครั้งทำให้ใจของทัตสึยะร้อนรุ่ม
?วิธีการของพวกคนร้ายไม่ได้มีอะไรซับซ้อนครับ เริ่มจากเอาระเบิด TNT ใส่ในลังไม้ จากนั้นเอาไปติดตั้งไว้ในท่อระบายน้ำใต้ดินและติดเซนเซอร์ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนไว้ที่ฝาท่อ เมื่อรถเป้าหมายเข้ามาใกล้ก็กดสวิตช์จากระยะไกลให้เครื่องเริ่มทำงาน พอเป้าหมายซึ่งไม่รู้ตัวเคลื่อนผ่านท่อก็ ตู้ม!?
ผู้ช่วยสารวัตรแมคฟาร์เลนแบมือที่กำไว้ประกอบการบรรยาย ในขณะที่คลาร่านั่งก้มหน้านิ่งตัวสั่น
?ถึงวิธีการจะดูพื้นๆ แต่มีความแม่นยำ น่าจะเป็นพวกมืออาชีพเลยล่ะ?
?ประเด็นคือ นี่ไม่ใช่การก่อการร้ายแบบไม่เลือกหน้าครับ เห็นได้ชัดเลยว่าคนพวกนี้จ้องเอาชีวิตมิสเหมา?
?เรื่องนั้น....?
อยู่ๆ ทัตสึยะก็หยุดพูดไป
D.O.M.S. เป็นบริษัททหารรับจ้าง งานหลักคือนำเสนอโปรแกรมการฝึกซ้อมทางการทหารต่างๆ ไม่ใช่การรบจริง ซึ่งนั่นคือเบื้องหน้า แต่แท้จริงแล้วบริษัทเคยเข้าไปพัวพันกับการก่อการร้าย และผ่านเรื่องอันตรายมาหลายต่อหลายครั้ง
ซึ่งนั่นรวมถึงเรื่องแผนการรัฐประหารในสาธารณรัฐมาลัมปาเมื่อคราวก่อน ที่เกิดจากหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้นแผนการที่ว่ากลับจบลงด้วยความล้มเหลว
(หรือว่า จะเป็นการฆ่าปิดปาก?)
พอคิดเลยเถิดไปถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมา ทัตสึยะก็รู้สึกเสียววาบ ตัวตนอันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวที่เรียกว่าพลังอำนาจทางการเมือง เป็นสิ่งที่ทัตสึยะเคยได้เห็นและสัมผัสมาแล้วในมาลัมปา บางทีสิ่งที่ว่านี้อาจพุ่งเป้ามาที่ D.O.M.S. ก็ได้
?นึกอะไรขึ้นมาได้เหรอครับ??
?อ่อ เปล่า คือ....?
ทัตสึยะตอบคำถามของผู้ช่วยสารวัตรอย่างลังเล
ในความคิดด้านหนึ่งก็มองว่าถ้าอยากช่วยให้คดีคลี่คลาย ควรบอกข้อมูลทุกอย่างที่ตนทราบ แต่อีกความคิดหนึ่งก็รู้สึกว่ามีหลายเรื่องที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้เด็ดขาด
(จะพูดถึงเฉพาะตรงไหน? จะพูดดีมั้ย?)
?........?
ปัญหาข้อนี้สำหรับคนขับ AS ทั่วไปอย่างทัตสึยะแล้วคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะตัดสินใจ และดูเหมือนอเดลีน่าจะเป็นเช่นเดียวกัน สีหน้าของเธอแสดงอาการลังเลให้เห็นแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
ทันใดนั้นก็มีบางสิ่งเข้ามากู้สถานการณ์วิกฤต เป็นเสียงของชายหนุ่มผู้หนึ่ง
?เรื่องนั้น ผมขออนุญาตเป็นผู้ให้คำตอบครับ?
?คุณเบล?
ทัตสึยะรู้สึกโล่งอก เมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงผู้นี้คือ เบอร์นาร์ด เบอร์ทรันด์ นักวิเคราะห์จากแผนกวิเคราะห์กลยุทธ์ของ D.O.M.S.
?ในเมื่อประธานบริษัทของพวกเราตกเป็นเป้าหมาย พวกเราทุกคนย่อมพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับพวกคุณในทุกๆ ด้านเพื่อตามหาความจริง เพียงแต่พวกเราก็จำเป็นต้องรักษาความลับของผู้ว่าจ้าง รวมถึงอาจมีบางประเด็นที่เป็นความลับของทางภาครัฐ เพราะฉะนั้น ณ เวลานี้จึงคงไม่อาจเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดได้?
?เข้าใจแล้วครับ เราเปลี่ยนสถานที่กันหน่อยมั้ยครับ?
เบอร์ทรันด์พยักหน้าตอบรับข้อเสนอของผู้ช่วยสารวัตรแมคฟาร์เลนที่ยืนขึ้น ก่อนจะหันมาคุยเบาๆ กับพวกทัตสึยะ
?เรื่องดั๊ก ผมจัดการเอง ส่วนประธานกับคลาร่า ฝากพวกคุณช่วยดูแลต่อด้วยครับ?
?ได้ครับ?
?ทราบแล้ว?
ทัตสึยะกับอเดลีน่าตอบ ส่วนคลาร่ายังคงนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร

เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ
ประตูห้องผ่าตัดที่หันหน้าหาระเบียงทางเดินและมองผ่านหน้าต่างได้ ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น พวกทัตสึยะผ่านค่ำคืนนี้ไปโดยแทบไม่ได้หลับได้นอน
(ใครกันที่ปองร้ายประธาน?)
ความโกรธ ความกังวล ความสับสน หลากหลายความรู้สึกที่ผสมปนเปกันยังคงคุกรุ่นอยู่ในจิตใจ
ใบหน้าของคนหลายคนปรากฏขึ้นในหัวของทัตสึยะ ตั้งแต่เด็กสาวผมดำที่ดูแล้วชวนให้นึกถึงตุ๊กตาญี่ปุ่น และเด็กหนุ่มที่มีเค้าโครงหน้าคล้ายคลึงกับเด็กผู้หญิงคนดังกล่าว ตามด้วยชายผิวขาววัยกลางคนผู้มีแววตาเยือกเย็น
(คิคุโนะ อากิระ มีไฮลอฟ หรือว่าจะเป็นพวกนาย?)
ทั้งหมดคือผู้ก่อการร้ายที่ทัตสึยะสู้โดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงไปหลายครั้ง ซึ่งถ้าพูดถึง ?ศัตรู? ที่ผ่านมาในชีวิตของเขาแล้ว คนพวกนี้ถือว่าเป็นอันดับแรกๆ ที่นึกถึง
แก้แค้นงั้นรึ หรือว่ามีแผนการอื่น แต่ก่อนอื่น นี่เป็นฝีมือของมีไฮลอฟจริงๆ แน่รึ
ความคิดของทัตสึยะวนเวียนไปมาเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง ไม่มีคำตอบให้กับข้อสงสัย เช่นเดียวกับอเดลีน่าที่จ้องดูมวลอากาศว่างเปล่าตรงหน้าด้วยใบหน้าตึงเครียด
ท้องฟ้าทิศตะวันออกเริ่มสว่างแล้ว
ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก มีพยาบาลหนึ่งคนเดินออกมา
(เสร็จแล้วรึ?)
ทว่าพยาบาลคนนั้นก็เดินผ่านระเบียงทางเดินไป และไม่กลับมาอีก
ประตูห้องผ่าตัดถูกปิดลงอีกครั้งและกลับสู่ความเงียบสงัดดังเดิม ทัตสึยะเดาะลิ้นดังจิ๊ ก่อนจะนั่งลงที่ม้านั่งต่อด้วยท่าทางที่แสดงให้เห็นถึงความหงุดหงิด
ทัตสึยะไม่รู้สึกถึงสายตาของอเดลีน่าที่ตำหนิท่าทางของเขาเลย
จนเมื่อเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาเที่ยงตรง ไฟหน้าห้องผ่าตัดก็ดับลง
?ในที่สุดก็....??
ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก พร้อมกับหมอและพยาบาลที่ถอดชุดผ่าตัดเรียบร้อยแล้วปรากฏขึ้น พวกเขาดูมีอาการเหนื่อยล้า คงเพราะการผ่าตัดในครั้งนี้ใช้เวลายาวนานถึงสิบสองชั่วโมง
ชายผิวดำวัยล่วงชราที่เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น เปิดประตูเข้ามาในห้องรอผู้ป่วย
?ผม อาร์โนลด์ ทอมสัน หัวหน้าทีมแพทย์ครับ พวกคุณคือญาติของมิสเหมาสินะครับ?
อาจจะเพราะต้องการรีบแจ้งญาติผู้ป่วยให้เร็วที่สุดหรืออย่างไรไม่ทราบ เลยมีแค่เพียงนายแพทย์ทอมสันเท่านั้นที่ยังคงใส่ชุดผ่าตัดสีเขียว
?ชะ ใช่แล้วค่ะ คุณหมอ!! หม่าม้า หม่าม้าเป็นยังไงบ้างคะ?
น้ำเสียงของคลาร่าสั่นเครือจากความกังวลและความหวังที่คลุ้มคลั่ง
?การผ่าตัดประสบความสำเร็จครับ แต่ถึงอย่างไรอาการของผู้ป่วยในเวลานี้ยังวางใจไม่ได้ครับ?
ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของแพทย์ดูตึงเครียดมาก

ร่างที่ซูบผอมและมีผ้าพันแผลพันทั่วทั้งตัวถูบจับให้นอนเหยียดอยู่บนเตียงสีขาว
?มิสเหมาค่ะ?
ภาพในห้อง ICU ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของบานหน้าต่างนั้น ถ้าไม่มีคำพูดของพยาบาล คลาร่าอาจไม่ทราบเลยว่าบุคคลผู้นี้คือเหมา
นอกจากท่อช่วยหายใจแล้ว ยังมีสายระโยงระยางอีกมากมาย ทั้งหมดเชื่อมเข้ากับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่คลาร่าไม่รู้จัก
?หม่าม้า....?
คลาร่าเอาหน้ากดกับกระจกหน้าต่าง จ้องมองร่างอันน่าเวทนาของผู้เป็นแม่ด้วยตาที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำตา
?การเย็บผูกหลอดเลือดกับการผ่าตัดอวัยวะที่ได้รับความเสียหาย ช่วยยับยั้งเลือดที่ออกได้สำเร็จครับ ส่วนการเติมเลือดก็ช่วยให้พ้นจากภาวะช็อกครับ?
แม้การผ่าตัดจะกินเวลายาวนาน แต่เสียงพูดของนายแพทย์ทอมสันยังคงชัดเจนและมั่นคง
?ส่วนเลือดที่ออกในสมองกับแผลภายนอก แผลไฟไหม้ ทางเราก็จัดการเรียบร้อย สัญญาณชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชีพจร ความดันเลือด การหายใจ มีแนวโน้มไปในทางที่ดีครับ แต่ก็ยังคาดการณ์อะไรชัดเจนไม่ได้ครับ ที่เหลือขึ้นอยู่กับพลังในการฟื้นตัวของคนไข้เอง?
?........?
ทัตสึยะกับอเดลีน่านิ่งเงียบเมื่อได้ยินคำพูดที่เคร่งขรึมของนายแพทย์ทอมสัน ในจังหวะนั้นเองพยาบาลสาวก็พูดแทรกขึ้น
?นอกจากเด็กคนนั้นแล้ว ยังมีญาติผู้ป่วยท่านอื่นอีกมั้ยคะ??
?ที่จริงก็มีอีกคน แต่ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้น่ะครับ....?
สิ้นเสียงตอบของทัตสึยะ ก็มีเสียงฝีเท้าดังรัวขึ้นก่อนจะมีร่างของคนผู้หนึ่งโผล่พรวดเข้ามาในห้อง
?ที่นี่ใช่มั้ย คลาร่า!??
คนผู้นั้นเป็นชายผิวขาววัยเกินสามสิบ ทั้งชุดและผมสีทองกระเซิงดูไม่เรียบร้อย ใบหน้าคมสันบิดเบี้ยวด้วยความเร่งรีบและแลดูซีด
?ปะป๊า?
คลาร่าตะโกนพร้อมกับโผเข้าสู่อ้อมอกของครุซ เวเบอร์ผู้เป็นพ่อ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ตลอดพรั่งพรูออกมาอย่างเต็มที่ ไหลร่วงลงมาจากแก้มที่ขาวใส
ทางด้านครุซเองก็ลูบหลังลูกสาวผู้เป็นที่รักด้วยความเอ็นดู
?ปะป๊า.... หม่าม้า หม่าม้า เขา....?
?ปะป๊าเข้าใจความรู้สึกของลูก และขอโทษด้วย ทั้งหมดเป็นความผิดของปะป๊าที่ไม่อยู่กับพวกลูก?
ทัตสึยะและอเดลีน่ายืนดูสองพ่อลูกโดยไม่พูดอะไร ทันใดนั้นครุซก็หันหน้ามองมาทางพวกเขา
?ลีน่า ทัตสึยะ พวกนายสองคนกลับไปก่อน?
?แต่ว่า....?
?เอาน่า เวลานี้พวกนายดูโทรมมากแล้ว?
ทัตสึยะกับอเดลีน่าหันมามองหน้ากัน จริงอย่างที่ครุซบอก สีหน้าของทั้งคู่บ่งบอกถึงความอ่อนเพลียทั้งทางกายและใจ
?เมื่อกี้ฉันเจอเจ้าเบล มันบอกว่าดั๊กพ้นขีดอันตรายแล้ว เรื่องเมลิสซ่ากับคลาร่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง พวกนายไปพักก่อนเถอะ?
?ทราบแล้วค่ะ?
?อ้าวเฮ้ย ลีน่า?
ทัตสึยะรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับท่าทางว่าง่ายของอเดลีน่า
?ที่นี่ปล่อยให้เขาจัดการดีกว่า พวกเราไปกันเถอะ?
?อะ อือ รบกวนด้วยนะครับ?
พยักหน้าขอบคุณเสร็จ ทัตสึยะก็เดินตามอเดลีน่าไป

หลังจากไปส่งพวกอเดลีน่ากับทัตสึยะเสร็จแล้ว ครุซก็พาคลาร่ากลับมาที่ห้องพักญาติ
?....ค่อยยังชั่วขึ้นบ้างรึยัง??
คลาร่าพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรตอบน้ำเสียงอ่อนโยนของผู้เป็นพ่อ หลังจากนั้นครุซก็วางร่างเล็กๆ ของลูกสาวไว้บนม้านั่ง
?เอ้านี่?
เธอรับกาแฟกระป๋องที่ครุซยื่นให้แล้วจิบ รสชาติหวานจากนมกับน้ำตาลและความอบอุ่น ซึมลึกเข้าไปในร่างกาย
?รสชาติดีจัง?
คลาร่าจิบกาแฟเบาๆ พลางพึมพำออกมา
?ต้องไปเล่นพวกมันคืนใช่มั้ย ปะป๊า?
คลาร่าตัวสั่นพร้อมกับใช้มือสองข้างบีบกระป๋อง พอเห็นผู้เป็นลูกทำเช่นนั้น ครุซจึงพูดขึ้น
?จะให้ไปเล่นงานใครล่ะลูก??
?ถามได้ ก็เจ้าพวกที่มันทำให้หม่าม้าต้องเป็นแบบนี้น่ะสิ!!?
คลาร่าเงยหน้าขึ้น พูดด้วยเสียงดัง
?ในกลุ่มเพื่อนเก่าของปะป๊า หม่าม้า และ TT มีคนเก่งๆ อยู่เยอะเลยใช่มั้ยล่ะ!? ให้พวกเขาช่วยสิ!?
ครุซจ้องมองคลาร่าที่ร้องขอด้วยแววตาจริงจัง ทว่าคำตอบที่ออกมาของเขากลับตรงข้ามกับความคาดหวังของผู้เป็นลูก
?ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก?
?ทำไมล่ะ!? ทั้งที่แต่ละคนเก่งๆ อย่างกับซีกัลกันหมดไม่ใช่เหรอ!?
?ณ เวลานี้พวกเขาแต่ละคนก็มีชีวิตความเป็นอยู่ในแบบของตนหมดแล้ว จะให้พวกเขาต้องมาลำบากกับเรื่องของเรา มันไม่ถูก?
ครุซย่อตัวคุกเข่าลงก่อนจ้องไปที่ตาของคลาร่า พร้อมกับพูดโน้มน้าว
?คนพวกนั้นใจดี ถ้าพ่อขอไป ถึงแม้พวกเขาจะบ่น แต่สุดท้ายก็คงยอมมาช่วยแน่ เพราะฉะนั้นจะให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ เข้าใจที่พ่อพูดใช่มั้ย?
?....งั้นจะทำยังไงล่ะ?
คลาง่างับปากอย่างไม่ค่อยพอใจ เธอพยายามโต้แย้งความเห็นของผู้เป็นพ่ออย่างเต็มที่
?จะปล่อยเป็นแบบนี้โดยไม่ทำอะไรเลยเรอะไง ทั้งที่พวกมันทำร้ายหม่าม้าตั้งขนาดนี้ แต่เรากลับทำได้แค่เก็บความแค้นแล้วเอาไปนอนร้องไห้เนี่ยนะ?
?ใช่ที่ไหนกันเล่า?
?เอ๋??
น้ำเสียงของครุซเปลี่ยนไป
?บังอาจทำกับเมลิสซ่าของฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ต้องจัดการด้วยตัวเอง จะมายืมมือคนอื่นได้ยังไงกันล่ะ ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้เวรนั่นเป็นใคร แต่ฉันจะลากคอมันออกมา และเป่ากบาลให้เละเลยคอยดู?
?....ปะป๊า?
น้ำเสียงของครุซในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการข่มขู่หรือแสดงความโกรธเหมือนทุกครั้ง แต่กลับเย็นชาและแข็งกระด้างราวกับเหล็ก จนทำให้คลาร่าที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออก
?โอ้ นี่พ่อทำให้ลูกกลัวรึเปล่า เอาเป็นว่าเรื่องนี้ปล่อยให้พ่อเป็นคนจัดการเอง โอเคนะ??
ครุซค่อยๆ กลับมายิ้มอีกครั้ง พลางลูกผมของคลาร่า
?เมื่อสักครู่มีเมลจาก TT เขาบอกจะขึ้นเครื่องมาหา?
คลาร่าพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงค่อย
?หนูจะไปรออยู่ที่บ้าน TT?
?ดีมาก?
ครุซพูดพลางยิ้มเล็กน้อย ในจังหวะนั้นเองคลาร่าก็พุ่งเข้าหาพร้อมกับซบหน้าที่อกของเขา
?เดี๋ยวสิ คลาร่า?
?....แต่วันนี้พวกเราอยู่ด้วยกันก่อนได้ใช่มั้ย?
?อื้ม ได้สิ?

พอออกจากโรงพยาบาล ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเมฆสีเทาที่ลดตัวลงต่ำ
ท้องฟ้ามืดครึ้มราวกับฝนจะตกในอีกไม่ช้า ทัตสึยะตัวสั่นด้วยความหนาวจากลมเย็นที่พัดมาจากทางทิศเหนือ
?อึ๋ย หนาว นี่ก็ใกล้จะหน้าหนาวแล้วด้วยสิ?
?........?
ทัตสึยะเอามือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสแล็ค อเดลีน่าหันไปมองทางเขาแวบหนึ่งโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะมุ่งตรงไปยังลานจอดรถที่อยู่หลังโรงพยาบาล
?เอ๊ย เดี๋ยว รอฉันด้วยสิ?
ทัตสึยะรีบเดินตามเธอไป
ในพื้นที่ของโรงพยาบาล มีตำรวจและเจ้าหน้าที่ของ D.O.M.S. ยืนเฝ้าระวังอยู่ ทัตสึยะสบตาทักทายเพื่อนร่วมงานที่คุ้นหน้าและรีบเดินต่อไป
ตรงข้ามกับอเดลีน่าที่ไม่แม้แต่จะหันไปมองเพื่อนร่วมงานเลย เธอขึ้นไปนั่งบนที่นั่งคนขับของรถยนต์ญี่ปุ่นที่จอดอยู่ แล้วปิดประตูอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง
ทันทีที่ทัตสึยะขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ อเดลีน่าก็บิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ แต่มันกลับไม่ติด
อเดลีน่าเดาะลิ้นเบาๆ ก่อนบิดกุญแจไปมาหลายครั้งอย่างโมโห แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ก็มีแต่เสียงสั่นของเครื่องยนต์
?เฮ้ย ลีน่า?
แม้ได้ยินเสียงเรียกของทัตสึยะ แต่เธอไม่มีที่ท่าว่าจะตอบ ทัตสึยะจึงไม่สนใจและพูดต่อ
?เธอคิดว่านี่เป็นฝีมือของพวกคิคุโนะหรือเปล่า??
?........?
อเดลีน่ากลั้นหายใจ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เครื่องยนต์ของรถติดพอดี ท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์ที่ดูราบรื่นเป็นปกติ อเดลีน่าเอนตัวไปที่พนัก
?....ไม่รู้สิ?
เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ โดยไม่หันไปมองทัตสึยะ
?จริงที่วิธีการกับแรงจูงใจชวนให้สงสัยว่าเป็นฝีมือพวกของมีไฮลอฟได้อยู่ แต่เราไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมมากพอ การจะมาคาดเดาน่ะ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกหรอกนะ เพียงแต่....?
?แต่??
ทัตสึยะย้อนถามด้วยคำพูดเดียวกัน ส่งผลให้น้ำเสียงที่เคยคงความเยือกเย็นมาตลอด สั่นคลอนไปด้วยอารมณ์มากมายที่สะกดไว้ไม่อยู่
?ไม่ว่ามันเป็นใคร ฉันก็จะลงโทษมัน นี่ไม่ใช่ ?การสั่งสอน? ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เจ้าคนที่ทำเรื่องนี้จะต้องได้รับโทษจากบาปที่ก่อขึ้นอย่างสาสม?
?หมายความว่า....?
ทัตสึยะกลืนน้ำลาย เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธของอเดลีน่า
?หมายความว่า เธอจะฆ่าคนคนนั้นรึ??
อเดลีน่าไม่ตอบ และเริ่มเข้าเกียร์ก่อนเหยียบคันเร่ง รถวิ่งไปอย่างราบเรียบไม่มีอาการสะดุดต่างจากสภาพก่อนสตาร์ทติดอย่างสิ้นเชิง
?แล้วเธอล่ะ??
?เอ๋??
อยู่ๆ อเดลีน่าก็ถามกลับ ทำให้ทัตสึยะตกอยู่ในอาการมึนงง
?เอ่อ คือเมื่อกี้เธอพูดว่าจะลงโทษอะไรทำนองนั้นใช่มั้ยนะ??
ทัตสึยะถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ อเดลีน่าไม่ตอบ ถึงกระนั้นทัตสึยะก็เข้าใจความหมายในสิ่งที่เธอถาม
เธอประกาศว่าจะแก้แค้นคนร้ายที่วางระเบิดรถของเหมา เพราะงั้นสิ่งที่เธอถามก็คืออยากรู้ว่าทัตสึยะจะร่วมมือกับเธอด้วยหรือเปล่า
?ฉะ ฉันก็ให้อภัยคนที่ทำเรื่องนี้ไม่ได้ แต่นี่เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะงั้นจะให้ทำไปโดยพลการแบบนั้นแบบนี้เลย มันก็....?
?........?
ทัตสึยะทำได้แค่ให้คำตอบอย่างไม่ชัดเจนเพราะยังรู้สึกลังเล ขณะที่อเดลีน่ายังคงเงียบ ขับรถไปบนเส้นทางหลวงต่อไป
?โทษทีนะ....?
ทัตสึยะพูดพลางหลบสายตาด้วยความรู้สึกเหมือนตนผิด เขาจ้องมองสภาพเมืองด้วยอารมณ์ที่เศร้าหมองผ่านทางกระจก
(ชักอยากกลับโตเกียวแล้วสิ)
อยู่ๆ เขาก็รู้สึกเช่นนี้ขึ้นมา
อิจิโนเสะคอนสตรัคชั่น โรงเรียน ม.ปลาย จินได โทชิยูกิผู้เป็นพ่อ ยูคาริผู้เป็นน้องสาว เพื่อนซี้เคนจิ เพื่อนสมัยเด็กคาเอเดะ.... ภาพทั้งหมดปรากฏขึ้นมาในหัวของทัตสึยะ
การห่างจากบ้านเกิดและผู้คนเหล่านี้มาไกลแสนไกล ทำให้เขารู้สึกคิดถึงมันมาก





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เหมา ผู้ประธานบริษัทได้รับบาดเจ็บจากการก่อการร้าย ทำให้เกิดความระส่ำระสายภายในบริษัททหารรับจ้าง D.O.M.S. ประธานบริษัทลึกลับคนใหม่ กับการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการบริหาร สร้างความไม่ไว้ใจและไม่ประทับใจให้กับพวกอเดลีน่าเป็นอย่างมาก
ทางด้านอิจิโนเสะ ทัตสึยะ หลังจากลาออกจากบริษัทเพื่อกลับบ้าน โรงเรียนจินไดที่เขาเคยอยู่ก็ใกล้เข้าสู่พิธีจบการศึกษาไปทุกขณะ และในช่วงนี้เองที่ทัตสึยะรู้สึกสับสนกับเส้นทางในการดำเนินชีวิต
ทั้งที่ได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทว่าลึกๆ ในใจแล้วทัตสึยะกลับรู้สึกไม่สบายใจ ความคิดของเขาต่างไปจากผู้คนรอบข้าง อีกทั้งยังรู้สึกแปลกแยกจากเพื่อนและครอบครัว และแล้วในที่สุดมิตรสหายผู้นั้นก็มาพบเขาพร้อมกับข้อเสนอ ซึ่งสร้างความลำบากใจให้กับทัตสึยะเป็นอย่างมาก สุดท้ายทางเลือกที่เขาตัดสินใจก็คือ!?
เมื่อมีพบก็ต้องมีจากลา นวนิยายแอคชั่น SF แนวกองทัพ กำลังจะเข้าสู่การพลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่!!


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”