New Release : เมื่อผมจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นครูในชุดเดรส 3

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : เมื่อผมจับพลัดจับผลูต้องมาเป็นครูในชุดเดรส 3

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1 ถ้าพูดถึงห้องปิดตาย มันก็ต้องเป็นงานของนักสืบนี่แหละ

???ทำยังไงดี กลินด้า

อานิสส่งเสียงกระซิบพร้อมกับช้อนดวงตาที่ดูชุ่มชื้นและร้อนรุ่มขึ้นมอง
ใบหน้าของพวกเราอยู่ในระยะใกล้จนแทบจะหายใจรดกัน เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบต่ำเหมือนกำลังว้าวุ่นใจ

???บางทีฉันคงจะหลงรักชาร์ลเข้าจริงๆ ซะแล้วล่ะ

พอได้ยินอานิสสารภาพรักกับ ?ตัวผม? ผมก็ถึงกับหน้าแดงก่ำ

แม้ว่าตอนนี้ผมจะอยู่ในฐานะกลินด้า ดอยล์ เพื่อนของอานิส???-หรือก็คือในฐานะเด็กสาวอายุ 17 ปีซึ่งผูกโบที่ผมและสวมชุดเดรสที่มีชายกระโปรงบานฟูฟ่องก็ตาม

? ? ?

?ตอนนี้กลินด้ากำลังมีความรักอยู่ใช่ม้า?
พอถูกถามด้วยน้ำเสียงสดใสและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมซึ่งกำลังเหม่อลอยอยู่ก็สะดุ้งเฮือก
เด็กผู้หญิงสองคนซึ่งมีหน้าตาคล้ายคลึงกันมากกำลังแอบมองใบหน้าของผมอยู่ ผมสีทองซึ่งผูกเป็นทรงทวินเทลดูพลิ้วสลวยของพวกเธอราวกับถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์
แย่ล่ะสิ ยังอยู่ในคาบเรียนนี่นา!
ผมรีบทำเป็นยิ้มด้วยความตื่นตระหนก และถามเหมือนไม่รู้ไม่ชี้
?มะ มะ มะ มะ มะ มะ มีอะไรเหรอก๊ะ?
ง่ะ ลิ้นพันกันซะงั้น!
ณ ช่วงเวลาก่อนเที่ยงของวันที่แสนสงบในฤดูร้อน
ผมกำลังสอนวิชาประวัติศาสตร์โลกให้กับพวกเด็กๆ เช่นเดียวกับที่ผ่านมา กษัตริย์ซีซาเอลแห่งอาณาจักรเอเลนนั้นมีบุตรธิดาถึงหกคน นอกจากองค์หญิงรินนะที่เพิ่งจะเกิดเมื่อฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาแล้ว พวกเด็กๆ ทั้งห้าคนก็เป็นนักเรียนของผมทั้งหมด
องค์ชายริวจู พี่ชายคนโตซึ่งเป็นองค์รัชทายาท อายุสิบเอ็ดขวบ รองลงมาคือองค์หญิงเซย์ระ อายุเก้าขวบ องค์หญิงฝาแฝดซาราสะกับองค์หญิงโอริเอะ อายุแปดขวบ และองค์ชายชิน อายุห้าขวบ
วันนี้ผมให้การบ้านกับพวกเด็กๆ โดยให้แต่ละคนแต่งเพลงที่อ้างอิงจากหัวข้อในประวัติศาสตร์
องค์ชายริวจูนั้นเป็นเด็กที่จริงจังและมุ่งมั่นจะเป็นกษัตริย์ที่ยอดเยี่ยมตามรอยผู้เป็นพ่อให้ได้ เขาเปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญกษัตริย์ผู้กล้าในตำนานของอาณาจักรเอเลนอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่เสียงร้องที่ออกมานั้น....โทนเสียงมันฟังดูเพี้ยนมากเลย
อืม....องค์ชายรัชทายาทแห่งเอเลนคนนี้....ไม่มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงเอาซะเลยแฮะ
?หนูว่าอย่างท่านพี่เนี่ย ไม่ควรไปร้องเพลงต่อหน้าคนอื่นเด็ดขาดเลยนะ?
?จริงด้วย ถึงจะทำวางมาดขนาดไหน แต่ถ้าร้องเพลงเสียงหลงแบบนี้ ความน่าเกรงขามก็หายหมดพอดี จะว่าไปคนที่ร้องเพลงไม่เป็นขนาดที่ร้องเพี้ยนตั้งแต่จังหวะแรกแบบนี้ หนูเห็นมีแต่ท่านพี่คนเดียวนี่แหละ?
พอพูดจบองค์หญิงฝาแฝดทั้งสองก็ถอนหายใจ
องค์ชายริวจูหน้าแดงก่ำพร้อมกับส่งเสียงโวยวายออกมา
?หนวกหูน่า ตั้งใจฟังหน่อยสิ!?
ส่วนองค์หญิงฝาแฝดนั้นร้องเพลงคู่ประสานเสียง เกี่ยวกับเส้นทางความรักของราชินีผู้มีฉายาว่าเมดี้เลือดสาด เธอคือราชินีโฉมงามซึ่งสังหารสามีของตนมาคนแล้วคนเล่า การร้องเพลงที่มีเนื้อหาสยดสยองด้วยเสียงร้องอันสดใสของพวกเธอทำเอาผมแทบลมจับ
เนื้อร้องในเพลงมีทั้ง ?จะขอตัดคอเธอผู้เป็นที่รักดังฉับ!? ไม่ก็ ?อุ๊ยตาย หัวกลิ้งหลุนๆ!? เด็กผู้หญิงวัยแปดขวบอย่างพวกเธอมาร้องเพลงน่าสยดสยองด้วยรอยยิ้มแบบนี้มันจะดีเรอะ.... ถ้าเกิดอาจารย์สอนวิชาขนบธรรมเนียมและมารยาทมาได้ยินเข้ามีหวังผมคงโดนไล่ออกแหง ผมควรจะเตือนพวกเธอดีไหมว่า พวกเธอเองก็อย่าไปร้องเพลงนั้นต่อหน้าคนอื่นเด็ดขาดเลยนะ
ส่วนเพลงของเซย์ระนั้นกล่าวถึงการอพยพครั้งใหญ่เนื่องจากสงครามศาสนา มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการตีความประวัติศาสตร์ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และเสริมการตีความใหม่ลงไปด้วย ช่างยอดเยี่ยมสมกับเป็นเซย์ระจริงๆ
แต่เสียงร้องเพลงของเซย์ระไม่ได้ไพเราะเลิศเลอเหมือนกับเสียงไวโอลินของเธอ เสียงร้องของเธอเป็นเสียงที่ราบเรียบและแผ่วเบาเหมือนกำลังพึมพำเสียมากกว่า ถ้าจะให้พูดชัดๆ คงต้องบอกว่ามันเป็นเสียงที่ฟังดูมืดมน
หากนำเนื้อเพลงซึ่งกล่าวถึงโศกนาฏกรรมเช่นนั้นมาร้องด้วยน้ำเสียงสดใส อารมณ์ของเพลงอาจจะกลายเป็นแบบเดียวกับเพลงขององค์หญิงฝาแฝดก็ได้ ถึงกระนั้นพอได้เห็นเด็กผู้หญิงซึ่งมีรูปโฉมงดงามเกินเด็กปกติทั่วไปมาร้องเพลงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แบบนั้น ผมก็รู้สึกอยากกุมขมับขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก
คนสุดท้ายคือองค์ชายชิน เขาร้องเพลงด้วยเสียงและสีหน้าที่เหมือนกำลังง่วงเหงาหาวนอนว่า ?ฮิปโป ฮิปโป ดึ๋งดั๋ง? ซ้ำไปซ้ำมา ดูเหมือนเขาจะแต่งเพลงนี้ขึ้นมาจากเรื่อง ?การผจญภัยของเจ้าชายฮิปโป? ที่ตัวเองชอบอ่านช่วงนี้ แต่นั่นมันเป็นหนังสือนิทานภาพนี่นา ไม่ใช่ประวัติศาสตร์สักหน่อย....
เอาเถอะ เขายังอายุแค่ห้าขวบเองนี่นะ จะว่าไปพอได้ยินคำว่า ?ดึ๋งดั๋ง? ซ้ำแล้วซ้ำอีกแบบนี้ ผมก็พลอยนึกถึงเรื่องที่คุยกับอานิสเมื่อคืนขึ้นมา
แต่ขอบอกไว้ก่อน ผมไม่ได้หมายความว่าอานิสคล้ายกับฮิปโปหรอกนะ
เธอเป็นเด็กสาวธรรมดาที่ทั้งน่ารักและสดใสร่าเริงตรงกับสเปกของผม แถมหน้าอกยังใหญ่เบ้อเริ่ม เวลาวิ่งมันคงจะเด้งขึ้นลงดึ๋งดั๋ง???เอ๊ย เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ ไม่สิ นั่นมันเรื่องสำคัญเลยต่างหาก แต่ถึงมันจะสำคัญยังไงก็???เอาเป็นว่าอย่าพูดถึงมันดีกว่าแฮะ!
เมื่อคืนนี้หลังจากที่อานิสทำงานในฐานะเมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็แวะมาที่ห้องผมเช่นเดียวกับทุกครั้ง และอยู่ๆ เธอก็ถามว่า

???นี่ กลินด้า....ถ้าเห็นผู้ชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังร้องไห้ กลินด้าจะรู้สึกยังไงเหรอ?

ทะ ที่พูดนั่นหมายถึงตัวผมเองสินะ? หวา
ตอนที่ผมไปบ้านอานิส พอพูดถึงเรื่องของกลินด้า ผมก็รู้สึกหัวใจถูกบีบคั้นจนร้องไห้ออกมาต่อหน้าอานิส หรือผมจะทำให้เธอลำบากใจ?
ผมหน้าแดงก่ำและตอบไปว่านั่นเป็นการกระทำของคนอ่อนแอปวกเปียก แต่ไม่รู้ทำไมอานิสถึงตอบกลับมาว่า

???แต่ฉันรู้สึกใจเต้นเหมือนกันนะ

จากนั้นเธอก็ทำหน้าเหมือนกำลังปวดใจและบอกอีกว่า ?ฉันรู้สึกว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อเขาน่ะจ้ะ? แถมยังพูดปิดท้ายด้วยว่า

???บางทีฉันคงจะหลงรักชาร์ลเข้าจริงๆ ซะแล้วล่ะ

เธอบอกเช่นนั้นด้วยแววตาเคลิบเคลิ้มดูมีเสน่ห์
อย่างไรก็ตาม อานิสคงยังไม่รู้แน่นอนว่าจริงๆ แล้วชาร์ลก็คือผมนี่แหละ พอได้ยินอานิส ?สารภาพรัก? ต่อหน้าต่อตา เมื่อคืนผมจึงเอาแต่คิดเรื่องนั้นจนนอนไม่หลับเลย
เพราะเวลาที่ผมหลับตา ภาพของอานิสที่กำลังทำตาเคลิบเคลิ้มจะผุดขึ้นมาทุกที

?คงจะหลงรักชาร์ลเข้าจริงๆ ซะแล้วล่ะ?

น้ำเสียงแหบต่ำที่แฝงไว้ด้วยความกังวลของเธอยังตราตรึงอยู่ในใจผม???

ด้วยเหตุนี้เพลงฮิปโปขององค์ชายชินจึงทำให้ผมหวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืน พอถูกองค์หญิงซาราสะกับองค์หญิงโอริเอะแซว ผมก็เกิดอาการลนลานทันที
นี่ผมหลงรักอานิสงั้นเหรอ!?
มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอ!?
ไม่ๆๆ ไม่หรอก ถึงอานิสจะน่ารักมากก็เถอะ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลามารักใครหรอก
?ฉะ ฉัน มะ ไม่ได้มีความรัก สักหน่อยนะคะ?
แย่ล่ะสิ! ทั้งที่ตั้งใจจะปฏิเสธอย่างหนักแน่นแท้ๆ แต่ดันตื่นเต้นจนพูดตะกุกตะกักเลยอ้ะ
?เอ๋~! ต้องกำลังมีความรักอยู่แน่ๆ เลย เนอะ โอริเอะ?
?นั่นสิเนอะ ซาราสะ?
?ทะ ทะ ทะ ทะ ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ?
อ๊า เลิกพูดติดอ่างซะทีเถอะ แถมใบหน้าก็เริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาแล้วด้วย
องค์หญิงฝาแฝดทำสีหน้าเจ้าเล่ห์แล้วพูดขึ้น
?อย่างมิแรนด้าที่ทำงานอยู่โรงครัวก็หลงรักรูดี้ที่เป็นนักกีฬาขี่ม้า เธอเอาแต่เหม่อทั้งวัน จนเผลอปอกเปลือกมันฝรั่งไปตั้งร้อยลูกแน่ะ จริงๆ แล้วทีแรกจะใช้แค่สามสิบลูก เมนูอาหารวันนั้นเลยมีแต่มันฝรั่ง ทั้งซุปมันฝรั่ง สลัดมันฝรั่ง กราแตงมันฝรั่ง แม้แต่ของหวานก็ยังเป็นมูสมันฝรั่งเลยล่ะ?
?ใช่ๆ ทั้งที่มันฝรั่งมันทานแล้วอ้วนแท้ๆ เนอะ ดูสิ กลินด้าก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันเลย?
องค์หญิงชี้มาที่กองเศษกระดาษซึ่งถูกบิดเป็นเกลียวเล็กๆ จำนวนมาก ดูเหมือนผมจะเผลอฉีกส่วนปลายของกระดาษและใช้นิ้วบิดมันไปมาจนเป็นเกลียวโดยไม่รู้ตัว
พอรู้สึกตัวอีกที ผมก็เห็นว่าคนที่มองกองเศษกระดาษนั้นอยู่ไม่ใช่แค่องค์หญิงฝาแฝด แต่องค์ชายริวจูกับเซย์ระก็กำลังจ้องกองเศษกระดาษนั้นอยู่เช่นกัน
องค์ชายริวจูทำสีหน้าบึ้งตึง ส่วนเซย์ระก็ทำสายตาเย็นชา
มีเพียงองค์ชายชินคนเดียวที่หลังจากร้องเพลงฮิปโปจบแล้วก็นั่งปั้นดินเหนียวด้วยท่าทางเหม่อลอย
เหงื่อกาฬของผมแตกพลั่ก
?พะ พอดีฉันชอบทำแบบนี้จนเป็นนิสัยน่ะค่ะ???ดูสิ อย่างองค์ชายชินยังชอบปั้นดินเหนียวเลยนี่นา มันก็เหมือนกันนั่นแหละค่ะ พอดีมือมันว่างก็เลยเผลอน่ะ?
?ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นกลินด้านั่งบิดกระดาษเป็นเกลียวแบบนี้เลยนี่นา เนอะ โอริเอะ?
?ไม่เคยเห็นเลยเนอะ ซาราสะ?
องค์ชายริวจูกัดฟันแน่น ส่วนเซย์ระก็ทำสายตาเย็นชายิ่งขึ้น
?........?
หวา เซย์ระดูท่าทางไม่สบอารมณ์สุดๆ เลย
ใต้รักแร้ของผมยิ่งมีเหงื่อออกมามากขึ้น
?คือปกติฉันจะทำในห้องน่ะค่ะ! ช่วงเวลาส่วนตัวฉันทำกองเป็นภูเขาเยอะกว่านี้อีก แค่นิ้วมันขยับไปเองเท่านั้นแหละ ไม่เกี่ยวอะไรกับความรักเลยสักนิดค่ะ พวกองค์หญิงชอบเอาเรื่องต่างๆ ไปโยงกับความรักมากไปหน่อยแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันมุ่งแต่เรื่องงาน ยังไม่สนเรื่องความรักหรอกค่ะ?
คราวนี้ผมพูดออกไปได้ลื่นไหลโดยลิ้นไม่พันกัน
?ถ้างั้นขอจบคาบเรียนในวันนี้แต่เพียงเท่านี้นะคะ พรุ่งนี้เราจะมาเรียนเรื่องสงครามชาฝรั่งระหว่างอาณาจักรออแลนด์กับอาณาจักรโรมันเซีย ทุกคนก็อย่าลืมอ่านเตรียมไว้ล่วงหน้าด้วยนะคะ?
จากนั้นผมก็รีบหันหลังขวับเดินออกจากห้องไปเพื่อหลีกหนีสายตาแห่งความสงสัยขององค์หญิงฝาแฝด สายตาเย็นชาของเซย์ระ และสายตาที่จ้องเขม็งขององค์ชายริวจู

? ? ?

?เฮ้อ มัวแต่คิดฟุ้งซ่านในคาบเรียนจนถูกนักเรียนจับผิดเอาจนได้?
ขณะที่กำลังเดินอยู่บนทางเดิน ผมก็สำนึกในความผิด
ทั้งที่ตอนผมปฏิเสธการขอแต่งงานของฮารูนและตัดสินใจอยู่ที่อาณาจักรเอเลนแห่งนี้ต่อ ผมได้ตระหนักถึงจุดยืนของตัวเองแล้วว่าผมไม่ใช่ตัวแทนของกลินด้า แต่จะตั้งใจทำหน้าที่ ?อาจารย์? ของเซย์ระและพวกองค์ชายริวจูให้ดีที่สุด
ผมตั้งใจว่าจากนี้จะพยายามให้มากยิ่งขึ้นในฐานะ ?อาจารย์?
ที่ผ่านมาความรักของผมมีแต่การอกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีผู้หญิงมาพูดกับผมว่า ?คงจะหลงรักเข้าจริงๆ ซะแล้วล่ะ?
ในหัวของผมมีภาพอานิสผุดขึ้นมารางๆ
เธอมองผมด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม สองมือของเธอที่กุมไว้ตรงหน้าอกนั้นยิ่งเป็นการเน้นให้หน้าอกใหญ่ๆ ของเธอนูนและเห็นร่องอกชัดยิ่งขึ้น

???ฉันคงจะหลงรักชาร์ล....

หวาาาา! ไม่ได้นะ! อย่าคิดเรื่องนั้นสิ! สมองผมแทบจะละลาย หัวใจก็เต้นตึกตักจนแทบจะระเบิด แถมใบหน้าก็ร้อนผ่าวจนแทบจะมีไฟลุกอยู่แล้วเนี่ย
หรือจะลองบอกความจริงกับอานิสตรงๆ ไปเลยว่าผมคือชาร์ล ผมเองก็ไม่ได้รังเกียจอานิสด้วย ไม่สิ เรียกว่ารู้สึกชอบเธอเสียด้วยซ้ำ แถมเธอยังเป็นสาวที่ตรงสเปกผมอีกต่างหาก ถ้าได้เป็นแฟนกับเด็กสาวที่สดใสน่ารักขนาดนั้น โลกของผมคงกลายเป็นสีชมพูเลยล่ะ
แต่ตอนนี้ผมเป็นตัวแทนของพี่สาวฝาแฝดที่เป็นอัจฉริยะรอบด้าน จึงต้องมาสวมชุดเดรสและเป็นอาจารย์พิเศษให้กับพวกเด็กๆ ในราชวงศ์ของอาณาจักรพันธมิตรอยู่
ถ้าความแตกขึ้นมา ความสัมพันธ์ของจักรวรรดิวิสทอเรียกับอาณาจักรเอเลนก็จะพังทลายลง ส่วนผมก็คงถูกจับเข้าคุก หรือบางทีอาจจะถูกจับแขวนคอเลยก็ได้
ผมจึงจำเป็นต้องเก็บความลับเรื่องนี้ไว้ เพราะนี่ไม่ใช่ปัญหาของผมเพียงคนเดียว
อืออออ แต่ผมก็ยังทำใจไม่ได้เหมือนกัน??? เพราะชีวิตของผมหลังจากนี้อาจจะไม่มีเด็กสาวน่ารัก หน้าอกใหญ่ แถมนิสัยดีแบบนั้นมาบอกรักอีกแล้วก็ได้
ไม่อะ! คงไม่มีแน่! ที่ผ่านมาผมมักจะบ่นกับพระผู้เป็นเจ้าอยู่เป็นประจำ ท่านคงจะรู้สึกรำคาญก็เลยประทานโอกาสสุดท้ายนี้เพื่อเป็นของขวัญมาให้ผม
ถ้าอย่างนั้นผมจะเป็นแฟนกับอานิสในฐานะ ?ชาร์ล? โดยที่ยังคงเก็บความลับของตัวเองไว้ได้หรือเปล่า?
ไม่สิ ไม่หรอก แบบนั้นคงต้องโดนจับได้ชัวร์!
อีกอย่างตอนนี้ผมก็ตั้งใจจะมุ่งแต่เรื่องงาน ยังไม่อยากสนใจเรื่องความรักตามที่บอกกับพวกองค์หญิงด้วย???แต่ว่า แต่ว่ามัน
ขณะที่ผมกำลังยืนถ่างแข้งถ่างขาพลางเกาหัวยิกๆ โดยลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่บนทางเดินนั้นเอง
ก็มีพวกทหารองครักษ์ในปราสาทวิ่งกรูผ่านผมไป
เอ๋? เกิดอะไรขึ้นน่ะ?
ผมสังเกตว่าตรงด้านหน้ามีคนมายืนออกันเต็มไปหมด บรรยากาศดูตึงเครียด.... นอกจากนี้ยังมีเสียงตะโกนอีกด้วย
ท่ามกลางกลุ่มฝูงชนเหล่านั้นมีเด็กสาวผมแดงสวมชุดเมดคนหนึ่งกำลังยืนห่อไหล่ก้มหน้าอยู่ เมื่อเห็นเธอ ผมก็ใจเต้นแรง
เอ๋? นั่นอานิสนี่นา?
ผมรีบเข้าไปหา เมื่อพวกทหารเห็นผม พวกเขาก็เปิดทางให้
?มิสกลินด้านี่นา?
?มิสกลินด้าอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?
?เอ่อ มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ??
?คือว่ารูปปั้นลอร์ดดีค ฟิลโมนี่ถูกขโมยไปน่ะครับ?
?ดีค ฟิลโมนี่ที่ว่า หมายถึงรูปปั้นนั่นน่ะเหรอ....?
ในตอนนั้นเอง อานิสก็เงยหน้าขึ้นและวิ่งเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
?ทำยังไงดี กลินด้า! ฉันอาจจะโดนไล่ออกก็ได้!?

? ? ?

?สาวใช้คนนั้นเป็นคนขโมยรูปปั้นผู้กล้า ลอร์ดดีค ฟิลโมนี่ที่เป็นของขวัญจากกษัตริย์แห่งอาณาจักรออแลนด์!?
หลังจากที่อานิสโผเข้ามาหาผม ชายพุงพลุ้ยที่อยู่ด้านหลังเธอก็ส่งเสียงตะโกนออกมาเช่นนั้น???เขาคือเสนาบดีแกสต็องนั่นเอง เขาเป็นตาลุงนิสัยเสียที่ชอบหาเรื่องกลั่นแกล้งผม และเป็นลุงของกิลเมอร์แห่งกลุ่มอัศวินเช่นกัน แม้ตอนนี้กิลเมอร์จอมหลงตัวเองคนนั้นจะเป็นคนตัวผอมหุ่นล้ำบึ้ก แต่ถ้าเวลาผ่านไปอีกหลายสิบปี เขาจะกลายเป็นตาลุงอ้วนพุงพลุ้ยแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่านะ
?ฉันแค่เข้ามาทำความสะอาดเท่านั้นเองนะคะ?
?อย่ามาโกหก! ความจริงเธอเป็นสายลับของอาณาจักรศัตรูล่ะสิ อาณาจักรไหนส่งเธอมากันแน่! รูบีเนียงั้นเรอะ! หรือโรมันเซีย! หรือวิสทอเรีย!?
?เปล่านะคะ?
อ๊าา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย ดูเหมือนอานิสจะถูกเสนาบดีแกสต็องสงสัยอยู่
เสนาบดีแกสต็องเอาแต่ส่งเสียงโวยวายแบบนี้ เลยไม่รู้เรื่องสักทีว่าเกิดอะไรขึ้น แถมอานิสก็กำลังสับสนอยู่ด้วย
?ใจเย็นๆ ก่อนนะ อานิส ที่บอกว่ารูปปั้นหายไปนั่นมันหมายความว่าไงน่ะ? ลองค่อยๆ อธิบายตั้งแต่เริ่มแรกได้มั้ย?
ผมวางมือบนบ่าของอานิสและพยายามเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ อานิสน้ำตาคลอพลางพูดว่า ?กลินด้า....? จากนั้นเธอก็เริ่มเล่าเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นให้ผมฟัง
?รูปปั้นลอร์ดดีค ฟิลโมนี่หายไปจากห้องที่ฉันเข้าไปทำความสะอาดน่ะจ้ะ?
?ไม่ได้หายไปหรอก! ยัยสาวใช้นั่นเป็นคนขโมยไปต่างหาก!?
ผมทำเป็นไม่สนใจเสียงโวยวายของเสนาบดีแกสต็อง แล้วบอกให้อานิสเล่าต่อ
รูปปั้นลอร์ดดีค ฟิลโมนี่ คือรูปปั้นปูนปลาสเตอร์ซึ่งกษัตริย์แห่งอาณาจักรออแลนด์ส่งมาให้เป็นของขวัญ เพื่อเป็นหลักฐานในการกระชับความสัมพันธ์กับอาณาจักรเอเลน
ในกลุ่มพวกผมมักจะเรียกรูปปั้นนี้ว่า ?ท่านเหยี่ยว? ?มนุษย์เหยี่ยว? หรือไม่ก็ ?คุณล่ำบึ้ก?
สาเหตุที่เรียกแบบนั้นเพราะรูปปั้นนั้นมีรูปร่างที่แปลกประหลาด โดยส่วนของร่างกายตั้งแต่ช่วงคอลงมาจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์เพศชาย และส่วนศีรษะจะเป็นนกเหยี่ยว แถมส่วนของร่างกายยังเป็นร่างเปลือยท่อนบนซึ่งมีกล้ามเนื้อบึกบึนจนดูโอเวอร์ ส่วนร่างกายท่อนล่างนั้นคาดด้วยผ้าเตี่ยวและมีเข็มขัดคาดเป็นแนวเฉียง นอกจากนี้ยังทำท่าแบกดาบไว้กลางหลังพร้อมกับแอ่นตัวโชว์กล้ามอกดูพิลึกพิลั่น เห็นแล้วแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่เลยทีเดียว....
เมื่อดูจากภายนอก มันดูเหมือนรูปปั้นของนักดาบธรรมดาๆ ที่นำหมวกหัวนกเหยี่ยวมาครอบศีรษะ (แถมยังดูเหมือนตัวร้ายอีกต่างหาก) ต้นแบบของรูปปั้นคือผู้กล้าซึ่งเป็นครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ในตำนาน และเป็นที่นิยมชมชอบของประชาชนชาวออแลนด์เป็นอย่างมากเช่นเดียวกับลอร์ดเจอราร์ด นักล่ามังกร
ออแลนด์นั้นถูกขนานนามว่าเป็น ?อาณาจักรแห่งอัศวิน? ซึ่งเลื่องลือด้านกำลังทหารและเคร่งครัดเรื่องมารยาท แต่ในทางกลับกัน รสนิยมด้านศิลปะนั้นออกจะดูหยาบกร้าน รูปปั้นหรือภาพวาดก็มีแต่การเน้นส่วนของกล้ามเนื้อ ประมาณว่าขอแค่ดูกล้ามโตๆ ล่ำบึ้กเป็นพอ อาณาจักรอื่นจึงมองว่าออแลนด์เป็นอาณาจักรที่ไม่ค่อยจะมีเซนส์ในด้านความงาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจักรวรรดิวิสทอเรียที่ผมเติบโตมานั้นเป็นจักรวรรดิแห่งศิลปะและวัฒนธรรม ผู้คนในวิสทอเรียจึงมักจะดูถูกออแลนด์ว่า ?เป็นศูนย์รวมของอารยชนที่ไม่เข้าใจในความงดงามอันละเอียดอ่อน?
ในทางกลับกัน ผู้คนของอาณาจักรออแลนด์ก็มองจักรวรรดิวิสทอเรียในแง่ลบเช่นเดียวกันว่า ?เป็นพวกอ่อนปวกเปียกที่เอาแต่สนใจศิลปะอันไร้ประโยชน์ ไม่มองโลกแห่งความเป็นจริง?
แม้ว่ามเหสีขององค์จักรพรรดิแห่งวิสทอเรียจะยังคงรักษาสัมพันธ์อันดีกับองค์หญิงลำดับที่ 1 แห่งออแลนด์ไว้ แต่ความจริงลับหลังนั้นก็แอบเขม่นกันอยู่
ตอนที่เอเลนเปิดอาณาจักรสู่โลกภายนอก ดูเหมือนทางออแลนด์ต้องการกระชับสัมพันธ์เพื่อผลประโยชน์ในอนาคตจึงพยายามเสนอการสนับสนุนด้านการทหารให้แก่เอเลนหลายต่อหลายครั้ง เสนาบดีแกสต็องเองก็อยู่ฝ่ายออแลนด์เช่นกัน เขาบอกว่าเอเลนควรจะสนิทสนมกับทางออแลนด์ไว้ เพราะออแลนด์คือพันธมิตรที่ดีที่สุดของเอเลน
ด้วยเหตุนี้เมื่อกลินด้า ดอยล์ อัจฉริยะรอบด้านซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนของจักรวรรดิแห่งวัฒนธรรมมาเยือนเอเลนตามคำสั่งของจักรพรรดิแห่งวิสทอเรีย เสนาบดีแกสต็องจึงรู้สึกขวางหูขวางตาเป็นเรื่องธรรมดา
จะว่าไปกษัตริย์ซีซาเอลก็คงรู้สึกลำบากใจที่ต้องรับรูปปั้นมนุษย์เหยี่ยวล่ำบึ้กจากอาณาจักรที่ไม่มีเซนส์ด้านศิลปะมาแบบนี้กระมัง
ถ้าขืนเอารูปปั้นนี้ไปตั้งในที่ที่มีผู้คนผ่านไปผ่านมาคงจะเด่นสะดุดตาอย่างแรง และทำให้ผู้คนสงสัยในเซนส์ด้านศิลปะของอาณาจักรเอเลนด้วยแน่ๆ
แต่ถึงกระนั้นการจะนำของขวัญจากกษัตริย์ของอาณาจักรอื่นไปทำลายทิ้งก็คงไม่ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ที่ชั้นบนสุดของอาคารซึ่งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของปราสาท จะมีห้องไว้สำหรับเก็บรวบรวมสิ่งของเจ้าปัญหาประเภทนี้อยู่
ที่นั่นถูกตั้งชื่อว่า ?หอสมบัติลับของกษัตริย์? ทว่าภายในนั้นมีแต่ของแปลกๆ เก็บไว้ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดที่ดูไม่รู้เรื่อง ไหซึ่งถูกประดับด้วยอัญมณีเต็มไปหมดจนดูรกมากกว่าสวย ชักโครกทองคำ (!) ซึ่งคงไม่มีใครกล้าใช้ ม้าทำจากกระดาษ???ซึ่งมีโอกาสได้ใช้แค่ปีละครั้งในงานเทศกาล หรือหน้ากากผี เรียกได้ว่ามีแต่ของพิลึกเก็บไว้มั่วซั่วไปหมด
รูปปั้นมนุษย์เหยี่ยวเองก็ถูกนำไปเก็บไว้ในหอสมบัติลับเช่นเดียวกัน โดยถูกวางไว้ตรงกลางห้องเด่นเป็นสง่า
แต่ถึงอย่างไรของที่เก็บอยู่ในห้องนั้นก็เป็นของมีค่า จึงมีการล็อกประตูไว้ และมีทหารรักษาความปลอดภัยคอยสอดส่องดูแลหนึ่งนาย
และจะมีสาวใช้ไขกุญแจเข้าไปในห้องเพื่อทำความสะอาดสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
ที่ผ่านมาอานิสเข้า-ออกห้องนี้มาหลายครั้งแล้ว คนที่บอกผมว่าในนั้นมีรูปปั้นมนุษย์เหยี่ยวแอ่นอกตั้งอยู่กลางห้องก็คือเธอนี่แหละ
ถึงทุกคนจะหัวเราะเยาะรูปปั้นมนุษย์เหยี่ยวนั้น แต่อานิสกลับถูกใจมันมาก
?กล้ามบึกบึนแบบนั้นมันยอดไปเลยล่ะ! ให้อารมณ์เป็น ?ฝ่ายรุก? ได้ดีจริงๆ! แน่นอนว่าถึงฉันจะชอบเฮล X ซีซาที่เป็นท่านเฮลมุท X ฝ่าบาทที่สุดก็เถอะ แต่ถ้าเป็นลอร์ดดีค ฟิลโมนี่ X ฝ่าบาทก็คงดีเหมือนกันเนอะ! ผู้กล้าครึ่งเทพครึ่งมนุษย์มีหัวเป็นเหยี่ยวและร่างกายอันบึกบึนที่จะคอยเข้ามาหาฝ่าบาทในห้องบรรทมทุกคืน! วิญญาณของเขาสิงสถิตอยู่ในรูปปั้นและฟื้นคืนชีพขึ้นมาในชาติภพนี้! ความรักที่ข้ามผ่านห้วงมิติเวลาแบบนี้มันช่างโรแมนติกมากเลยใช่ม้า! ทุกครั้งที่ฉันไปทำความสะอาดห้องนั้น ก็จะจินตนาการถึงดีค X ซีซาจนใจเต้นระรัวหายใจแทบไม่ทันเลยล่ะ?
อานิสกล่าวด้วยแววตาเป็นประกายปิ๊งๆ
ผมคิดว่าอานิสผู้แสนน่ารักและนิสัยดีคนนั้นมีจุดที่น่าเสียดายอย่างเดียวก็ตรงรสนิยม ?ฝ่ายรุก? กับ ?ฝ่ายรับ? ของเธอนี่แหละ ทุกครั้งที่เธอพูดเรื่องแบบนี้กับผม ผมก็จะทำเป็นตอบเออออตามน้ำไปว่า ?อืม....? หรือไม่ก็ ?งะ งั้นเหรอ?




++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมคือชาร์ล (?) เด็กหนุ่มซึ่งต้องปลอมตัวเป็นหญิงมายังอาณาจักรเอเลนเพื่อมารับหน้าที่อาจารย์พิเศษของเหล่าเด็ก ๆ ในราชวงศ์แทนกลินด้า ดอยล์ พี่สาวฝาแฝดอัจฉริยะที่หายตัวไป เพื่อแก้ต่างให้อานิสที่ถูกกล่าวหา ผมจึงต้องไขปริศนาคดีในห้องปิดตาย (อย่างผมน่ะเป็นยอดนักสืบไม่ไหวหรอก!) แถมยังต้องพาพวกเด็ก ๆ ไปงานเทศกาล (แต่ไม่รู้ทำไมองค์ชายริวจูกับเซย์ระดันมาแข่งกันโดยมีผมเป็นเป้าหมายซะอย่างนั้น!?) วันนี้ผมก็ต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากเต็มไปหมด! แต่ได้ยินว่ากลินด้าไปปรากฏตัวในงานเทศกาลนั้นด้วย------ ขอเชิญพบกับนิยายแฟนตาซีคอมเมดี้ของอาจารย์พิเศษในราชวงศ์ เล่ม 3 กันได้เลย!!

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”