New Release : เมื่อพิศวาสยาตรา

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : เมื่อพิศวาสยาตรา

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1
ปณาลี รัศมีมานะ พาคนงานในไร่ของหล่อนไปโรงพยาบาลประจำจังหวัดเมื่อวานนี้ และวันนี้ก็ไปเยี่ยมดูตามหน้าที่...
?เป็นไงมั่งโอษ...?
หญิงสาวถามหัวหน้าคนงานด้วยความห่วงใย พร้อมกับวางถุงผลไม้ที่เก็บมาจากในไร่ลงบนโต๊ะหัวเตียงของอีกฝ่าย...
?ดีขึ้นมากแล้วครับคุณลี ผมคิดว่าพรุ่งนี้คงกลับได้...?
นายโอษรีบลุกขึ้นนั่งแล้วตอบหล่อน
?แน่ใจแล้วเหรอ...รอถามหมอก่อนดีไหม...?
?ผมคุยกับหมอแล้วครับ...หมอบอกว่าถ้าวันนี้ไม่มีปัญหาอะไร...พรุ่งนี้จะให้กลับได้ครับ...พรุ่งนี้คุณลีมาสายกว่านี้ก็ได้ครับ...ถ้าหมอให้กลับ ผมจะนั่งรออยู่หน้าโรงพยาบาลเลยครับ...?
ขณะที่กำลังฟังนายโอษพูดอยู่นั้น หญิงสาวก็ทอดสายตาไปมองเตียงใกล้ๆ กันซึ่งเขาหันมามองหล่อนอยู่พอดี...
นายโอษมองตามสายตาของหล่อนก่อนจะบอกให้รู้ว่า...
?เขาชื่อนายดำครับ...เพิ่งเข้ามาเมื่อคืนนี้เอง ถูกขโมยมันลอบตีหัวเอาครับ ลอกคราบไปหมดตัวเลย...เหลือแต่กางเกงใน นี่ยังดีนะครับที่มันยังไว้ชีวิต...คนเราสมัยนี้มันใจร้ายนะครับ...?
นายโอษพูดพร้อมกับทอดตามองไปยังชายหนุ่มที่หน้าตาดีมากๆ ซึ่งตอนนี้ถูกผ้าพันแผลพันศีรษะไว้โดยรอบ...และทอดดวงตาคมของเขามายังหญิงสาวอย่างสนใจ
?นี่ไงนายดำ เจ้านายของฉันที่พูดถึงน่ะ...ถ้าไม่มีคุณลีพาส่งโรงพยาบาล พี่โอษคนนี้คงม่องเท่งไปแล้ว...?
นายโอษพูดต่อ แสดงให้หญิงสาวรู้ว่าทั้งคู่คงได้รู้จักกันแล้ว
?แล้วใครพามาส่งโรงพยาบาลล่ะ...?
หล่อนถามนายดำขณะที่ทอดตามองเขา
?ก็คนแถวสนามบินน่ะครับ...?
ชายหนุ่มตอบพร้อมกับขยับร่างสูงในชุดเสื้อผ้าของโรงพยาบาลมานั่งห้อยขาตามสบาย
?โอ้โฮ...มาเครื่องบินเชียวรึ...?
คราวนี้นายโอษถามบ้าง
?ค่าเครื่องบินตอนนี้พอๆ กับรถทัวร์เลยนะ...แถมไม่ต้องนั่งเป็นวันๆ...?
คำตอบของเขาทำให้คนฟังอย่างปณาลีต้องยอมรับ เพราะหล่อนได้ยินโฆษณาบ่อยๆ ทางทีวี
?แล้วมีญาติมาดูแลหรือยังล่ะ...มีใครรู้บ้างหรือยัง...?
หล่อนถามอย่างห่วงใยตามนิสัยของตัวเอง
?ผมโทรศัพท์ไปบอกเขาเมื่อเช้าแล้วครับ...เดี๋ยวคงมากัน...?
ชายหนุ่มตอบและทอดตามองมายังหล่อนอย่างขอบใจ
หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะหันไปบอกหัวหน้าคนงานว่า...
?ฉันต้องรีบกลับนะนายโอษ แล้วพรุ่งนี้จะมารับ...?
?ครับผม...เชิญคุณเถอะครับ...?
แล้วหญิงสาวก็ส่งยิ้มให้หัวหน้าคนงานและนายดำ ก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นไป...
นายโอษมองตามหล่อนไปจนลับตาก่อนจะหันมาพูดกับเพื่อนใหม่ว่า...
?เป็นไงล่ะ...เจ้านายฉันสวยไหม...?
?สวย...?
อีกคนตอบรับยิ้มๆ โดยไม่เปลี่ยนสายตาที่มองตามหล่อนไปจนลับตากลับมาเลย...
?ถ้านายกำลังจะหางานทำล่ะก็ บอกมาได้เลยนะ ฉันจะฝากให้...?
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทำเอา ?นายดำ? ยิ้มต่อไปอีก แต่หลบตานายโอษเมื่อตอบออกไปว่า...
?ฉันมีงานอยู่แล้ว...ไร่ติดๆ กับพี่โอษนั่นแหละ?
?เรอะ ไร่ไหนล่ะ...ไร่ท่านชายหรือไร่นายไกรลาส...?
นายโอษถามอย่างสนใจ...
?ไร่ท่านชายเอกดำรงนั่นแหละ?
เพื่อนใหม่ของนายโอษตอบ ก่อนจะทอดดวงตาคมไปเห็นคนคุ้นตาเดินผ่านห้องพยาบาลไปพอดี จึงหันไปบอกนายโอษว่า...
?คนรู้จักฉันมาแล้ว...ขอตัวก่อนนะ?
พูดจบร่างสูงของ ?นายดำ? ก็โดดลงจากเตียง แล้วเดินตามคนที่เดินผ่านหน้าห้องพยาบาลไปอย่างรวดเร็ว...

*************************************

?นั่นแกไปไหนมา...?
อนงค์อร มารดาเลี้ยงของปณาลีถามทันทีที่หญิงสาวเดินผ่านประตูคฤหาสน์ ซึ่งเป็นบ้านของตัวเองแท้ๆ เข้าไป...
?ไปดูนายโอษมาค่ะ เขาสบายดีขึ้นแล้ว...หมอสั่งให้กลับได้พรุ่งนี้?
คำรายงานของลูกเลี้ยงทำให้ ?สีหน้า? มารดาเลี้ยงดีขึ้นนิดหนึ่งก็จริง แต่ก็ยังไม่พอใจอยู่ดีที่หล่อนไปไหนโดยไม่บอก...
?เมื่อกี้คนงานมาบอกว่ามีหมาที่ไหนไม่รู้เข้ามาเพ่นพ่านในไร่ ไปดูซิ...รีบจับมันไปปล่อยนะ ฉันไม่ต้องการเลี้ยงอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก...ไม่ว่าคนหรือหมา อ้อ...แล้วไปรับชุดที่ส่งไปซักรีดกลับมาให้คุณโฉมกับคุณวีด้วยนะ?
?จะให้ไปรับเมื่อไหร่คะ?
หญิงสาวถามกลับไปเสียงเรียบ
?วันนี้สิ...?
แม่เลี้ยงเสียงสูงขึ้นมา
?พรุ่งนี้ได้ไหมคะ หนูไปรับนายโอษแล้วจะแวะรับเสื้อมาด้วย...?
ปณาลีแจงรายละเอียดให้มารดาเลี้ยงฟัง
?ไม่ได้...?
อนงค์อรเสียงแข็ง มองหน้าลูกเลี้ยงอย่างเอาเรื่อง
?ไปสองวันจะเปลืองน้ำมันนะคะ?
ปณาลีดักคอเพราะรู้นิสัยแม่เลี้ยงดีอยู่ ทำเอานางอนงค์อรชะงักไปหลายนาทีก่อนจะตอบว่า...
?นั่นแหละ...เปลืองก็เปลือง...?
แม่เลี้ยงตอบก่อนจะสะบัดร่างที่แต่งตัวสวยงามอยู่ตลอดเวลาเดินห่างไป...ทำให้ปณาลีต้องถอนใจ...
แม่เลี้ยงหล่อนเป็นแบบนี้เอง ประหยัดแบบไม่น่าประหยัด...แต่ที่ควรประหยัดมักไม่ทำ
หญิงสาวเดินออกไปจากบ้านไปยังบ้านพักคนงาน แล้วเจอภรรยานายโอษอยู่ในบริเวณนั้นพอดี...
?เหมียว...ได้ยินว่ามีหมาเข้ามาป้วนเปี้ยนในไร่รึ?
ปณาลีเอ่ยถาม
?ค่ะ...เหมียวพยายามจะจับมัน แต่มันหนีไปทางไร่ไกรลาสแล้วค่ะ...?
?มันมากันกี่ตัวล่ะ?
หล่อนยกมือขึ้นกอดอก ก่อนเอ่ยถาม
?ตัวเดียวเท่านั้นค่ะ...คงหลงมา...แล้วพี่โอษเป็นไงบ้างคะ...?
เหมียวถามด้วยสีหน้ากังวล
ความจริงหล่อนจะตามไปดูอาการของสามีอยู่แล้วถ้าปณาลีจะไม่รับอาสาไปดูให้ แล้วปล่อยให้เหมียวเลี้ยงลูกอ่อนอยู่บ้าน
?ดีขึ้นแล้ว...พรุ่งนี้หมอให้กลับบ้านได้แล้ว...?
คำตอบของหญิงสาวทำให้เหมียวมีสีหน้าดีขึ้นทันที เพราะสามีมีอาการอาหารเป็นพิษจนต้องส่งเข้าโรงพยาบาล
?เหมียวต้องขอบคุณคุณลีมากเลยนะคะที่เป็นธุระให้ทุกอย่าง?
เหมียวมองปณาลีด้วยความรู้สึกซาบซึ้งอย่างจริงใจ เพราะถ้าอีกฝ่ายไม่ตัดสินใจพานายโอษไปส่งโรงพยาบาล...เขาอาจจะตายไปแล้ว
?ไม่เป็นไร...?
นายหญิงตอบสั้นๆ ก่อนจะหันหลังเดินห่างไป
?แล้วคุณลีจะเข้าไร่ไหมคะ...นายพรเขาว่าไม่ต้องห่วงค่ะ วันนี้ทุกคนจะช่วยกันทำหน้าที่แทนพี่โอษ?
เหมียวรายงานให้นายสาวฟัง
?ฉันจะเข้าไปเอาเสื้อผ้าให้คุณโฉมกับคุณวีในเมืองน่ะ?
ปณาลีตอบคนงานด้วยเสียงราบเรียบ
?ไปอีกแล้ว!? ก็เพิ่งเข้าไปดูพี่โอษมาไม่ใช่หรือคะ!??
เหมียวถามอย่างไม่เข้าใจด้วยความรู้สึกเห็นใจ
?คุณนายเขาสั่ง...จะเอาวันนี้...?
พูดจบปณาลีก็เดินจากไป ปล่อยให้เหมียวมองตามไปอย่างเห็นใจ...
ทุกๆ คนในไร่นี้รู้กันทั้งนั้นว่าแม้คุณลีจะเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณพิสิษฐ์ผู้ล่วงลับ...แต่ก็มีชีวิตอยู่แบบคนรับใช้ไม่มีผิดเพี้ยน ส่วนคุณโฉมยงและคุณวีระอนงค์...น้องสาวต่างมารดาซึ่งมาทีหลังแท้ๆ กลับอยู่อย่างเจ้าหญิงกันทั้งคู่...
ทั้งสองคนไม่ต้องทำอะไรเลย วันๆ ได้แต่แต่งตัวสวย แล้วก็ไปงานเลี้ยงที่โน่นที่นี่ แล้วแต่ใครจะเชิญมาเท่านั้น...
แล้วที่กำลังจะไปรับเสื้อผ้ามานี่ ก็มาให้คุณน้องสาวทั้งคู่แต่งตัวไปงานเลี้ยงที่ตัวจังหวัด...ส่วนคุณลีจะได้ไปกับเขาหรือเปล่ายังไม่รู้
เหมียวได้แต่ถอนใจ เพราะหล่อนช่วยอะไรคุณลีไม่ได้เลย...

***********************************

?ถ้าคุณชายบอกผมเสียแต่แรก ให้ผมไปรับที่สนามบิน...คงไม่มีเรื่องแบบนี้หรอกครับ...?
เถลิง พ่อบ้านหัวหน้าคนรับใช้ของบ้านบอกกับหม่อมหลวงดำรงยศ ภูวดลภิบาล เมื่อนั่งรถกลับมาจากโรงพยาบาลด้วยกัน ด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก
?ลุงเถลิงก็รู้ว่าฉันชอบทำอะไรด้วยตัวเองเงียบๆ...ไม่ต้องให้วุ่นวายกัน?
เขาตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก
?แล้วเป็นยังไงล่ะครับ ดีว่ามันตีคุณชายแค่สลบนะครับ ถ้ามันทำอะไรมากกว่านี้ทางนี้คงวุ่น...?
เถลิงพูดพลางมอง ?คุณชาย? ที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กจนโตเป็นหนุ่มใหญ่ในวันนี้...
?เอาล่ะ ฉันยอมรับว่าผิดที่ไม่บอก...พอใจไหม...?
คุณชายของเถลิงถามกลับด้วยน้ำเสียงเน้นหนัก
?ผมเพียงห่วงเท่านั้นครับ ตอนนี้ไร่เราไม่มีใครแล้วนะครับ มีแต่คุณชายคนเดียวเท่านั้น...ถ้าคุณชายเป็นอะไรไปอีกคน...ตระกูลภูวดลภิบาลก็จะไม่เหลือใครแล้ว...?
นายเถลิงพูดแล้วถอนใจยาวด้วยความห่วงใยอย่างจริงจัง...
ขณะที่หม่อมราชวงศ์ดำรงยศก็ได้แต่ถอนใจเช่นกันที่ต้องรับภาระทุกอย่างของครอบครัวใหญ่รุ่นนี้อยู่เพียงคนเดียว...
พูดไปแล้วมันก็ไม่น่าเชื่อที่ราชสกุลใหญ่แบบภูวดลภิบาลจะเหลือเพียงเขาคนเดียวในเวลานี้...แต่มันเป็นไปแล้วจริงๆ

**********************************

วันต่อมา นายโอษออกมานั่งรออยู่หน้าโรงพยาบาลจริงๆ เมื่อปณาลีไปถึงและรับเขากลับไร่
พอเกือบถึงอาณาเขตไร่รัศมีมานะเท่านั้น เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้ปณาลีหยุดรถทันที พร้อมกับมองหาที่มาของเสียงปืน แต่มันกลับเงียบสนิท...ไม่ปรากฏที่มาและสาเหตุของเสียงปืนนั้น
หล่อนเกือบจะไปต่ออยู่แล้วถ้าไม่มีเสียงปืนดังขึ้นอีก ทำให้หล่อนหันไปมองหาที่มาของเสียงอีกครั้ง...
นาทีต่อมาหญิงสาวมองเห็นหมาตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากรั้วไร่ไกรลาศซึ่งอยู่ติดกับไร่ของหล่อน ข้ามถนนเล็กๆ ไปยังไร่ท่านชายซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแถบนั้น
หญิงสาวขับรถตรงไปยังจุดที่เห็นหมาวิ่งข้ามถนนไปกับตา แล้วหยุดรถลงไปดูรอยเลือดของมันที่หยดเป็นทางจากไร่หนึ่งเข้าไปยังอีกไร่หนึ่ง...
?อะไรครับคุณลี...?
นายโอษถามอย่างสงสัยเพราะมองเห็นไม่ทัน
?หมาที่ไหนไม่รู้ มันหลงเข้ามาในไร่เรา...แล้วก็หนีเข้าไปในไร่ไกรลาศ นี่ถูกยิงเข้าไปในไร่ท่านชายแล้ว...?
หล่อนตอบแล้วมองตามไปด้วยความสงสารตามนิสัยของหล่อน...
?คุณลีจะตามเข้าไปดูไหมครับ ว่ามันเป็นยังไงมั่ง ผมจะเข้าไปเป็นเพื่อน ผมกับนายเลิศ หัวหน้าคนงานในไร่นั้นรู้จักกันดีครับ?
ข้อเสนอของนายโอษทำให้ปณาลีพยักหน้าทันที...
?ไป...ไปดูกันหน่อย...มันถูกยิงเข้าที่สำคัญแน่ เลือดถึงออกมากมายขนาดนี้...?
หล่อนพึมพำแล้วก้าวลงจากรถ เดินเข้าประตูไร่ท่านชายเข้าไปทันที




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ปณาลี รัศมีมานะ? ไปเยี่ยมคนงานในไร่ของหล่อนที่โรงพยาบาล และบังเอิญได้รู้จักกับ ?นายดำ? ที่ถูกตีหัวและปล้นทรัพย์หมดตัว หล่อนคิดว่าเขาคงเป็นคนงานจากไร่ไหนสักแห่งในอาณาเขตแห่งนั้น และแม่เลี้ยงของหล่อนก็คิดเช่นนั้นเช่นกันจึงหาทางไล่หล่อนออกจากคฤหาสน์ แม่เลี้ยงปรักปรำว่าหล่อนกับนายดำรักกันและเหตุการณ์บางอย่างก็เป็นใจ ชายหนุ่มเองก็ยินดีที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีของปณาลีขึ้นมาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง และเขาจึงใช้โอกาสนี้เปิดเผยตัวเองกับทุกคนที่ดูหมิ่นเหยียดแคลน ด้วยการจัดงานแต่งงานระดับช้างและบอกทุกคนว่าเขาคือ ?หม่อมราชวงศ์ดำรงยศ ภูวดลภิบาล?

?ผมอยากมีลูกกับคุณสักหกคน...คุณเห็นด้วยไหม...?
หล่อนทำเสียงหนักใจในลำคอ
ก่อนจะถูกจูบเอาหนักๆ
ปลายลิ้นอุ่นซ่านแทรกเข้าไปลิ้มรสริมฝีปากของหล่อนอย่างดูดดื่ม
ร่างบางกลมกลึงถูกช้อนอุ้มตรงไปยังเตียงกว้าง
เพื่อแสดงให้รู้ว่าเขาอยากมีลูกจริงๆ ทุกนาทีที่อยู่กับหล่อน...


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”