ผมคิดว่าการที่มีโรงเรียนติดประกาศแสดงลำดับผลการสอบเอาไว้บริเวณทางเดินของตึกนั้น เป็นเพียงแค่ตำนานสยองขวัญประจำถิ่นเท่านั้น ดังนั้นเมื่อผมมองเห็นคนจำนวนมากมาออกันอยู่บริเวณระเบียงหน้าห้องเรียนหลังจากสิ้นสุดช่วงปิดเรียนหลังสอบปลายภาค ผมก็ยืนตัวแข็งเป็นท่อนไม้ด้วยความตกใจว่า นี่มันอะไรกัน
?คะแนนเฉลี่ยมันสูงขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยไม่ใช่รึไง??
?แย่แล้ว คะแนนอยู่ในช่วงครึ่งท้ายของห้องเลย?
?จริงเหรอ ที่ว่าได้เต็มทุกวิชาน่ะ??
?เลิกคิดเรื่องที่จะย้ายภาควิชาดีกว่าแฮะ?
ผมฝ่าบรรดานักเรียนที่ส่งเสียงดังฮือฮาเพื่อเข้าไปใกล้ป้ายประกาศที่ติดกระดาษเอาไว้หลายแผ่น โดยมีรายชื่อของนักเรียนเรียงรายเต็มไปหมด และที่ชื่อของแต่ละคนก็มีตัวเลขปริศนาเขียนไว้สามตัว
....ไม่สิ นี่ไม่ใช่ปริศนาอะไรเลย เลิกหลอกตัวเองได้แล้ว มันก็มีเขียนเอาไว้ที่ด้านบนสุดของกระดาษอยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่ามันคือคะแนนรวมของการสอบปลายภาค ลำดับรวมของทั้งภาควิชา และลำดับในห้องเรียน นี่เอาของนักเรียนทุกคนมาติดไว้อย่างนี้เลยเหรอ? รายละเอียดเต็มเอี๊ยดแจ่มแจ้งชัดเจนโดยไม่ปกปิดข้อมูลขนาดนี้กันเลยเหรอ? นี่มันดีแล้วเหรอ ถูกต้องแล้วเหรอ ไม่ขัดต่อกฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างนั้นเหรอ? เนื่องจากผมมัวแต่ตกใจเป็นอย่างมากทำให้ลืมหาชื่อของตัวเองไปเลย
?มาคิมุระคุง อรุณสวัสดิ์!?
จู่ๆ ก็มีเสียงทักทายดังขึ้น เมื่อผมหันกลับไปมองด้วยความสงสัยก็พบว่าเป็นคุณฮายามะ เด็กผู้หญิงที่ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการห้องเรียนของผมนั่นเอง
?ของห้องเราติดเอาไว้ตรงโน้นต่างหาก โน่นไงล่ะ?
ผมถูกคุณฮายามะลากแขนเบียดฝูงชนไปทางด้านซ้ายสุดของป้ายประกาศ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นรายชื่อนักเรียนทั้งสามสิบคนของปี 1 ห้อง F เรียงกันตามลำดับหมายเลขนักเรียน
อย่างนี้นี่เอง เรียงตามลำดับหมายเลขนักเรียนแยกตามห้องเพื่อที่จะได้หาง่ายๆ อย่างนั้นเองเหรอ ดีจังที่ไม่ได้เรียงตามลำดับคะแนน....
?สุดยอดไปเลยมาคิมุระคุง ได้อันดับที่ 30 ของห้อง ได้ที่ 130 ของชั้นปี! ตัวเลขดับเบิลตรงกันพอดีเป๊ะเลย!?
?คุณฮายามะ....? ผมรู้ตัวดีว่าเสียงของผมแผ่วเบาลงด้วยความปวดใจพลางถามออกไปว่า ?ห้องเรามีทั้งหมดกี่คนเหรอ?
?ก็ 30 คนไงเล่า! ทำไมถึงจำไม่ได้กันนะ?
?งั้นผลออกมาแบบนี้ ผมก็คือที่โหล่ไม่ใช่หรอกหรือขอรับ? ผมเผลอพูดสุภาพออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
?ไม่เป็นไรน่า เหนือฟ้าก็ยังคงมีฟ้านะ!? รู้แล้วน่า ก็มีแต่คนที่เหนือกว่าเท่านั้นไงเล่า
ผมรู้ตัวดีว่าเรียนตามเพื่อนไม่ทันเลย แต่ก็ไม่คิดว่าจะต่างชั้นกับเพื่อนในห้องเรียนมากถึงขนาดนี้
?แต่ว่านะ ที่ผ่านมาก็มีสอบมาแล้วตั้งหลายครั้งหลายหน ไม่เคยเห็นเอามาปิดป้ายประกาศทั้งหมดแบบนี้เลยสักครั้งนี่?
?อ๊ะ มาคิมุระคุงย้ายมาจากโรงเรียนอื่นก็เลยไม่รู้อย่างนั้นสินะ ที่เอามาติดแบบนี้น่ะ มีแค่ตอนสอบปลายภาคเท่านั้นแหละ เป็นอีเวนท์เล็กๆ ที่จัดขึ้นปีละสามครั้งไงเล่า?
แล้วเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ที่อยู่ห้องเดียวกับผมก็พากันเดินเข้ามาดูบอร์ดพร้อมกับเริ่มส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวแสดงความเห็นในทำนองที่ว่า อย่างที่คิดเอาไว้เลย หรือไม่ก็เราพนันข้าวกลางวันกันเอาไว้สินะ ฟังดูสบายใจมากเหมือนกำลังเที่ยวงานวัดจริงๆ แต่ผมกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น ก็ไม่ประหลาดไปหน่อยเหรอ? นักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง ภาควิชาทั่วไป ฝ่ายมัธยมปลาย มีทั้งหมดประมาณ 200 คน แล้วผมได้ตั้งที่ 130 (จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ลำดับที่น่าเอามาโอ้อวดเลย) ซึ่งก็อยู่ในช่วงท้ายๆ ของลำดับที่อยู่กลางๆ ไม่ใช่รึไงกัน แล้วทำไมถึงได้อันดับบ๊วยของห้องล่ะ คะแนนเฉลี่ยของห้อง F นี่มันไม่สูงเกินไปหน่อยเหรอ? นี่มันห้อง F นะ ห้อง F เป็นห้องที่อยู่ในลำดับที่ 6 จากทั้งหมด 7 ห้องใช่มั้ย?
?คุณฮิจิริบาชิติดท็อปเท็นอีกแล้วเหรอ?
ผมตกใจกับคำพูดของเพื่อนร่วมห้องแล้วมองไปตามสายตาของเธอ
ด้านขวาสุดของป้ายที่เรียงลำดับแยกตามห้องเรียนนั้น มีกระดาษที่พิมพ์ด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่เป็นเท่าตัวจนเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษติดเอาไว้อยู่ ดูเหมือนว่าจะเรียงลำดับผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดสิบอันดับแรกของทั้งชั้นปีแยกออกไปในประกาศอีกแผ่น มีชื่อของ ฮิจิริบาชิ คิริกะ อยู่ในลำดับที่หก
คิริกะเป็นกรรมการสภานักเรียนเช่นเดียวกับผม และเป็นเด็กที่เอาแต่โดดเรียน ทั้งที่ไม่เคยเข้าเรียนเลยแม้แต่คาบเดียว แต่กลับมีผลการเรียนที่ดี ทั้งที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องสภานักเรียนและเอาแต่ทำงานเหรัญญิกแท้ๆ แล้วไปอ่านหนังสือตอนไหนกันนะ ถ้าเล่นทำคะแนนสูงจนติดอันดับท็อปเท็นได้สบายๆ แบบนี้ ก็ทำให้ผมยกเอาเหตุผลที่ว่ายุ่งอยู่กับกิจกรรมของสภานักเรียนมาเป็นข้ออ้างที่คะแนนต่ำไม่ได้เลย
แล้วในตอนนั้นเอง ก็ทำให้ผมสังเกตเห็นสิ่งที่น่ากลัวเข้าให้
นั่นคือในรายชื่อของคนที่ติดอันดับท็อปเท็น เป็นนักเรียนห้อง G ไปเก้าคน โดยมีเพียงคิริกะคนเดียวที่อยู่ห้อง F
?....คุณฮายามะ คุณฮายามะ? ผมเรียกเธอด้วยเสียงอ่อนแรงเหมือนกับเสียงกระพือปีกของตัวเหลือบที่กำลังใกล้ตาย
?อะไรเหรอ??
?ไอ้การแยกห้องเรียนเนี่ย แยกตามผลการเรียนของปีก่อนใช่มั้ย?
?ใช่แล้วล่ะ?
?หรือว่าห้อง G นี่ มีผลการเรียนดีที่สุดงั้นเหรอ??
?ปีหน้ามาพยายามให้ได้เลื่อนไปห้อง G ด้วยกันเนอะ!?
คะแนนเฉลี่ยของห้อง F ไม่ได้สูงเกินไปหรอก คะแนนของผมต่ำไปต่างหาก ผมหน้ามืดตาลายกับความเป็นจริงที่จู่โจมเข้ามา
*
หลังเลิกเรียนวันนั้น เมื่อผมเล่าเรื่องดังกล่าวให้ประธานฟังในห้องสภานักเรียนแล้ว ประธานก็หัวเราะออกมาก๊ากใหญ่
?แปลว่าที่ผ่านมา นายคิดว่าห้อง F เป็นห้องรองบ๊วยสินะ? ประธานนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาแล้วพูดออกมา พลางใช้มือจับผมที่มัดแกละของตัวเองยกขึ้นสลับกับปล่อยให้ตกลงมา
?ก็ปกติห้อง A ต้องเป็นห้องที่เก่งที่สุดไม่ใช่เหรอครับ?
?ถ้าพูดถึง A แล้ว มันก็หมายถึงระดับเริ่มต้นไม่ใช่รึไง อย่างถ้าบอกว่า ?ยังแค่ A อยู่เลย? ก็แปลว่ายังแค่จูบเท่านั้น?
?เอาล่ะ สต๊อป! ห้ามพูดต่อมากไปกว่านั้นนะครับ ไม่ได้นะครับ เพราะเดี๋ยวมันจะตรงเข้ามุกทะลึ่งสัปดนแล้วนะครับ! เพราะตั้งแต่ B ไปนี่ก็อยู่ในขั้นอาชญากรรมแล้วนะครับ!?
เมื่อผมส่งเสียงห้ามอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อศีลธรรมอันดีงามของสภานักเรียน ประธานก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเอียงคอด้วยความสงสัย
?อยากให้สาธิตให้ดูมากกว่าอธิบายด้วยคำพูดงั้นเหรอ??
?ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่สิครับ!?
?ไม่เป็นไรหรอกน่า เพราะฉันจะพูดอ้อมๆ เพื่อการศึกษาอันสมบูรณ์แบบของเยาวชนคนหนุ่มสาว?
ประธานวางท่าด้วยการกระแอมแล้วพูดต่ออีกครั้ง
?B คือการสร้างบรรยากาศ C คือการสร้างบุตร?
?นี่มันพูดอ้อมๆ ตรงไหนกัน?
?ถ้าจะให้ทำก็ทำได้?
?วุ่นวายชะมัด?
ผมเกือบจะเอากำปั้นทุบโต๊ะกระจก แต่ประธานก็ยังคงพูดต่อโดยที่ไม่สนใจ
?ต่อไปก็เป็นตัวต่อจาก C?
?บอกแล้วว่าไม่ต้องพูดก็ได้ครับ เพราะยังไงก็คงจะพูดอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควรกว่าเดิมอีกใช่มั้ยครับ?
?D คือตัว D ที่มาจากคำว่า Dekichatta Kekkon ?
?น่ายินดีชะมัด!?
?E คืออีโรติกเกินไปจนให้ออกมาจากปากฉันไม่ได้น่ะ?
?ก็พูดออกมาหมดแล้วนี่!?
?เอาล่ะ หลังจากเฉไฉไปนานในที่สุดก็กลับมาที่ F จนได้เสียที?
?ก็เธอนั่นแหละที่พาเฉไฉ!?
ประธานจ้องไปที่ประตูห้องเหรัญญิก
?พอได้ยินเรื่องที่ว่าคิริกะมีผลการเรียนติดอันดับทุกๆ ครั้ง ก็คงจะเดาออกได้ไม่ยากเลยใช่มั้ย ว่าผลการเรียนของห้อง F นั้นเป็นยังไง?
พอกลับมาเข้าเรื่องจริงๆ ก็ทำให้ผมมึนตึ้บขึ้นมาเพราะปรับตัวไม่ทัน จึงได้แต่ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามประธานแล้วตอบคำถาม
?อา.... ผมคิดว่าอย่างคิริกะน่ะ คงเป็นเคสพิเศษล่ะมั้ง?
?เคสพิเศษงั้นเหรอ สำหรับโรงเรียนที่เน้นผลการเรียนแบบถึงที่สุดอย่างฮาขุจุไดแล้ว การที่เด็กคนนั้นได้อยู่ห้อง F ก็เป็นเพราะมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ กับโดดสอบย่อยบ่อยๆ น่ะ?
เมื่อประธานบอกว่าลงได้ทำข้อสอบครบทั้งหมดก็คงจะได้อยู่ห้อง G อย่างแน่นอน ทำให้ผมเกิดข้อสงสัยอย่างอื่นขึ้นมา
?คือว่า บางทีคนที่ถือเป็นเคสพิเศษก็คือผมอย่างนั้นเหรอครับ?
?ถูกต้องตามนั้นค่ะ!?
จู่ๆ ก็มีเสียงคนพูดดังขึ้น ตามด้วยเจ้าตัวที่เดินเข้ามาจากประตูบานใหญ่ของห้องสภานักเรียนซึ่งเปิดเอาไว้ พร้อมกับผมสีทองอันเจิดจ้าพลิ้วไสว รุ่นพี่มิโซโนะที่เป็นรองประธานนั่นเอง
?อันที่จริงถ้าดูจากผลการสอบย้ายโรงเรียนแล้ว คุณฮิคาเงะจะต้องได้อยู่ห้อง D แต่ฉันใช้อิทธิพลลึกลับทำให้ได้อยู่ห้องเดียวกับคุณคิริกะน่ะค่ะ!?
อย่าพูดเองเออเองสิว่าเป็นอิทธิพลลึกลับ จะว่าไปมันมีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ
?ถ้าจะให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนก็ต้องทำแบบนี้? รุ่นพี่มิโซโนะทิ้งตัวลงนั่งข้างผมแล้ววางมือลงที่หัวเข่า?แล้วขอร้องด้วยการช้อนตามองจากมุมต่ำเล็กน้อยไงคะ?
ผมรู้สึกปั่นป่วนจึงหลบสายตาจากใบหน้าของรุ่นพี่ที่อยู่ตรงหน้าในทันที
?แบบนี้น่ะ เอ่อ.... เขาเรียกว่าหว่านเสน่ห์นี่ครับ?
?พะ พูดอะไรอย่างนั้นกันคะ คุณฮิคาเงะ!? รุ่นพี่หน้าแดงก่ำด้วยความโมโห ?เสน่ห์ของฉันน่ะ มีไว้เพื่อคุณฮิคาเงะเท่านั้นนะคะ ที่เมื่อกี้มีการถูกเนื้อต้องตัวกันนิดๆ หน่อยๆ ก็เพราะว่าเป็นคุณฮิคาเงะยังไงล่ะคะ นี่พูดจริงๆ นะคะ เข้าใจมั้ย? ฉันไม่ได้ทำแบบเมื่อกี้กับใครเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ผู้ดูแลหลักสูตร อาจารย์ใหญ่ นายกเทศมนตรี ประธานสำนักงานเลขานุการ หัวหน้านโยบายพรรค หรือเลขาธิการพรรค!?
ผมมีหลายๆ อย่างที่อยากจะถามออกไป (เช่นพรรคไหนเหรอ?) แต่ถ้าจะคุยเรื่องที่สุ่มเสี่ยงมากไปกว่านี้คงแย่ เลยกัดฟันอดทนไม่ถามออกไป ผมถอนหายใจออกมาแล้วจัดท่านั่งที่โซฟาใหม่อีกครั้ง
งั้นหรอกเหรอ การที่ผมได้คะแนนต่ำที่สุดในห้อง F นี่ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างนั้นสินะ ไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉินอะไรสักหน่อย ดีจัง ดีจัง!
....ไม่ดีสิ!
ผมใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้า ก้มศีรษะคอตก รุ่นพี่มิโซโนะจึงจ้องหน้าผมด้วยความเป็นห่วง
?คุณฮิคาเงะ? แย่ตรงไหนรึเปล่าคะ??
?....ครับ คะแนนของผมไง?
พอพูดออกไปเองแล้วทำให้ยิ่งหดหู่มากขึ้น
?ฉันคิดว่านายจะเป็นคนไม่ใส่ใจกับคะแนนสอบเสียอีก? ประธานพูดขึ้นมา
?ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะย้ายไปเรียนภาควิชาสารสนเทศน่ะครับ แต่กลับต้องมาสอบซ่อมวิชาคณิตศาสตร์ด้วย ถ้าผลการสอบเป็นอย่างนี้แล้วบางทีตอนสอบย้ายภาควิชาก็คง?
เสียงประตูเปิดออกอย่างรุนแรงดังขึ้นมาขัดจังหวะบทสนทนาของผม เมื่อผมตกใจเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าคิริกะกำลังออกมาจากห้องเหรัญญิก
?ย้ายภาควิชาเหรอ??
?อ่า อื้ม ก็คิดอะไรทำนองนั้นอยู่?
?ไม่ได้!? ทำไมกันเล่า
?เพราะอะไรเหรอ คิริกะ? ประธานถามพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม
?ก็เพราะว่า เรื่องนั้นน่ะ อือ?
คิริกะหดคอลงไปซ่อนใบหน้าหลังปลอกแขนที่พันอยู่รอบคอจนหายไปครึ่งหน้า
?....ถ้าเธอไปเรียนที่ห้องอื่นแล้ว คือว่า เวลามีเอกสารแจกในห้อง หรืออาจารย์ติดต่ออะไรมา ใครจะเป็นคนเอามาให้ล่ะ!?
ผมไม่ได้อยู่ห้อง F เพื่อทำหน้าที่เป็นคนส่งของให้คิริกะแต่อย่างใด ทว่าหน้าตาท่าทางจริงจังจนน่ากลัวทำให้ผมพูดกลบเกลื่อนออกไป
?คือว่า ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ผมถอดใจเรื่องสอบย้ายภาควิชาแล้วล่ะ?
คิริกะกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ ริบบิ้นสีขาวและดำขนาดใหญ่พลิ้วไหว เธอมุดหน้าหลบหลังปลอกแขนลงไปอีก
?....เหรอ? ....ถ้างั้น ก็ดีแล้ว?
?คุณฮิคาเงะ อยากเรียนทางด้านที่เกี่ยวกับไอทีอย่างนั้นเหรอคะ?? รุ่นพี่มิโซโนะถามขึ้นมา
?อ่า คือว่า ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ? ผมพูดออกไปโดยปกปิดความอายเอาไว้ ?แรกเริ่มเดิมทีผมเรียนตามเพื่อนไม่ทันเลย แล้วตอนอยู่บ้านก็ใช้คอมพิวเตอร์อยู่บ่อยๆ เลยคิดว่าภาควิชาสารสนเทศนี่น่าจะเรียนสบายกว่าน่ะครับ?
?คิดอะไรตื้นๆ อย่างนั้น ถ้าได้ย้ายไปเรียนภาควิชาสารสนเทศแล้วจะยิ่งเรียนตามคนอื่นไม่ทันเข้าไปใหญ่นะ เพราะที่นั่นมีแต่พวกที่ตั้งใจจะสร้างซิลิคอนแวลลีย์ เวอร์ชั่นญี่ปุ่นทั้งนั้น?
?นั่นสินะครับ....?
การที่เรียนตามเพื่อนไม่ทันนั่นก็เป็นเพราะผลกรรมของตัวเอง ผมผิดเองที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนที่จะเข้าเรียนที่ฮาขุจุไดว่าเป็นหลักสูตรพิเศษหกปี แล้วผมก็ผิดยิ่งขึ้นอีกที่ไม่ตั้งใจเรียนตามคนอื่นให้ทัน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากสอบย้ายไปภาควิชาสารสนเทศด้วยเหตุผลที่ว่าท่าทางจะเรียนสบายกว่า แต่กลับสอบไม่ผ่าน ผมคงจะโดนความสมเพชตัวเองบีบคั้นจนต้องออกเดินทางเพื่อเผชิญโลกกว้างก็เป็นได้
?เรื่องที่ย้ายไปภาควิชาสารสนเทศน่ะ ไว้ผลการเรียนในภาควิชาทั่วไปออกมาดีก่อนแล้วค่อยย้ายครับ?
?ฮิคาเงะอยู่ห้อง F ไปตลอดชีวิตก็ดีอยู่แล้ว!? คิริกะพูดด้วยความเกรี้ยวกราด แล้วทำไมต้องตลอดชีวิตด้วยเล่า ผมก็อยากเรียนจบตอนปีสามนะ
?เอ๋? แต่ว่า คุณฮิคาเงะ ถ้าผลการเรียนยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะก็ ตอนที่เลื่อนชั้นขึ้นปีสองก็คงจะไม่ได้อยู่ห้อง F ไม่ใช่เหรอคะ?
?อา จะว่าไปมันก็.... นั่นสิครับ ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว ต้องตกไปที่ห้องลำดับแย่กว่าแน่ๆ?
ริบบิ้นของคิริกะที่อยู่ข้างๆ ผมสั่นไหวอย่างรุนแรง จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งเข้าไปในห้องเหรัญญิก ก่อนใช้มือทั้งสองข้างหอบหนังสือกองโตกลับมาโยนลงบนโต๊ะกระจก
ตำราเรียนนี่นา
?ฮิคาเงะอ่านหนังสือเรียนซะ!?
ผมอ้าปากหวอเงยหน้ามองสีหน้าจริงจังของคิริกะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมได้เริ่มทำงานในฐานะของเลขานุการในสภานักเรียนซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการนักเรียนกว่า 8,000 คน ช่วงปิดภาคฤดูร้อนแรกของโรงเรียนมัธยมปลายที่มาถึงนั้นเต็มไปอีเวนต์และการเที่ยวเล่นอันแสนสนุกสนาน..... เสียเมื่อไหร่กัน แต่เป็นช่วงที่ต้องจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวันโดยมีแต่บรรดาสาวเพี้ยนรุมแกล้งอยู่ในสภานักเรียนเหมือนเช่นกับทุกที
มีข้อสงสัยเรื่องการโกงข้อสอบจนทำให้ต้องสู้เพื่อความถูกต้องโดยการลุยกันตรงๆ กับประธานกรรมการศีลธรรมที่เอาแต่ไล่อาละวาด และเมื่อพูดถึงฤดูร้อนแล้วก็ต้องมีสระว่ายน้ำ! ซึ่งการประจันหน้ากันเรื่องว่ายน้ำให้ความใจโหดและไนซ์บอดี้ของรุ่นพี่มิโซโนะผู้เป็นรองประธานสภานักเรียนระเบิดออกมา? ในที่สุด ด้วยเหตุผลต่างๆ นานาทำให้คิริกะ "นักสืบสภานักเรียน" เองก็ต้องสวมชุดว่ายน้ำ
เรื่องราวความรักสนุกสนาน ลึกลับของโรงเรียนสุดไฮเปอร์เต็มพิกัดระลอกที่ 3!
