New Release : เริงรักมาเฟีย

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : เริงรักมาเฟีย

โพสต์ โดย Gals »

ตอน 1
?มะ...ไม่...จริงใช่...ไหม? เสียงแผ่วเบาสั่นสะท้านเอ่ยถามตัวเองวนเวียนไปมา เท้าเรียวค่อยๆ ขยับออกมาจากสถานที่ตรงนั้น ยกมือปิดปากตนเองด้วยเกรงเสียงของความร้าวรานเล็ดลอด ร่างบอบบางดุจกายไร้วิญญาณ แววตาเลื่อนลอยมองภาพทุกอย่างเบื้องหน้าเลือนรางไปหมด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนออกไปอยู่หน้าคอนโดหรูของแฟนหนุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่
อ้อ...เมื่อห้านาทีที่แล้วยังเป็นแฟนกัน แต่ตอนนี้ไม่แล้ว เป็นแค่ ?อดีตแฟน?
มิ่งขวัญ วรารักษ์ ก้าวฉับๆ ไปยืนอยู่ข้างทางมองซ้ายมองขวา สับสนไม่รู้จะไปทางไหน วันนี้เธอตั้งใจมาเซอร์ไพรส์วันเกิดคนรัก แต่สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาในตอนก้าวเข้าไปในห้องบนคอนโดหรูของแฟนหนุ่มช่างเป็นภาพเฉือนสายตา สร้างความตะลึงจนไม่อยากเรียกว่านั่นคือคนที่เธอไว้วางใจ
ปกติหญิงสาวมักขับรถคู่ใจไปไหนมาไหน ทว่าวันนี้เธอวางแผนสวีทกับคนรักด้วยการชวนกันไปนั่งรถของแฟนหนุ่มเพื่อชมวิวเมืองหลวงยามราตรีด้วยกัน...ฉลองวันเกิดของเขาร่วมกัน แล้วตอนนี้ล่ะ...แม้แต่เค้กที่ตั้งใจสั่งให้จากร้านประจำคุ้นลิ้นที่บรรจงทำเพื่อเขาถืออยู่ในมือ ช่างไม่ต่างจากก้อนหินขนาดหนัก
หญิงสาวหัวใจร้าวรานจึงปล่อยให้เค้กในมือร่วงหล่นลงสู่พื้นโดยไม่แยแสมันว่าจะเละสักแค่ไหน แล้วออกย่ำเท้าไปตามเส้นทางอันไร้จุดหมายปลายทาง ในหัวว่างเบาหวิวไหว คิดอะไรไม่ออก จำชื่อตนได้ก็ดีถมไปแล้ว...
ภาพที่เธอเห็นในห้องนอนท่วงท่ารวมไปถึงทั้งเสียงคร่ำครวญซ่านสยิวยังกรีดอยู่ในโสตประสาทของเธอไม่จางหาย และมันคงไม่มีวันจางหาย
ความลับที่ครอบครัวเธอปิดบังไว้คงเป็นสิ่งนี้สินะ
ใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่ไม่อาจยับยั้งมันไว้ได้ ทั้งที่ปกติมิ่งขวัญเป็นผู้หญิงเข้มแข็งดุจแท่งศิลา ตอนนี้ร่างบางไร้เรี่ยวแรงเดินมาถึงจุดใดไม่ทราบได้ รู้ตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงกวนบาทาบ่งบอกความเป็นพลเมืองชั้นเลวเป็นเศษสวะของสังคม ส่งเสียงเห่าหอนอยู่รอบกายเธอ
ผู้ชายแต่งตัวมอซอราวกับขี้ยาในสลัมสามคนยืนล้อมตัวเธอไว้ หญิงสาวมองพวกมันอย่างกับไส้เดือนหรือตัวเงินตัวทองที่กำลังแลบลิ้นจ้องกินเหยื่อประมาณนั้น
?น้องสาว สนใจรับพวกพี่ไปเป็นผัวไหมจ๊ะ? ไอ้เสื้อสีเทาแกว่งปากมาก่อน หน้าตามันบอกยี่ห้อเมายาอย่างเด่นชัด
หญิงสาวไม่ตอบโต้...ก่อนหน้านี้หัวใจปวดร้าวราวโลกระเบิด แต่ตอนนี้รู้สึกด้านชายิ่งกว่าหมอฉีดยาชาเข้าสู่เส้นเลือด
?แน้ หยิ่งซะด้วย ไม่พูดแสดงว่าอยาก...? อีกคนที่สวมเสื้อสีเขียวกางเกงยีนสีซีดขาดๆ พูดขึ้น
?ไปให้พ้น ตอนนี้อารมณ์ฉันไม่ดีเหมือนหน้าตา? มิ่งขวัญไล่พวกมันโดยไม่สนใจความปลอดภัย
?โอ๊ะ...โอ ปากดีซะด้วย อย่างนี้พวกพี่ชอบ? อีกคนที่แต่งกายด้วยกางเกงลายดอกผูกเชือกที่เอวกับเสื้อยืดที่เรียกได้ว่าเป็นผ้าขี้ริ้วได้เลยปากวอนหาเรื่องขึ้นมาอีกคน
?ไม่อยากตายคาตีนฉันก็หลบไปซะ? คุณสมบัติผู้ดีที่เคยพกพาในมโนสำนึกของมิ่งขวัญหายไปทันที คนกำลังเครียด กลุ้ม โลกพานระเบิด ยังมาเจอกับพวกมารสังคมงานการไม่ทำ เที่ยวเห่าหอนไร้สาระ หาคุณความดีไม่เจอ คอยแต่จะรังแกผู้หญิง อารมณ์แล่นพล่านอยากระบายอยู่แล้วทวีพุ่งทะยาน
?เฮ้ย...จับอีนังนี่ไป กูชอบเมียปากดี? คนหนึ่งสั่งเพื่อนมันอีกสองคน
จบคำสั่งที่พวกมันรอคอย สองกุ้ยขี้ยาต่างพร้อมใจตรงมาขนาบข้างซ้ายขวาหญิงสาว ฉุดกระชากลากถูพลางลวนลามด้วยปากถากด้วยสายตา
ทักษะการเอาตัวรอดของมิ่งขวัญมีไม่มากนัก แต่ที่แสดงอาการไม่กลัวพวกมันเพราะอารมณ์ที่ค้างมาจากคอนโดปลุกให้เธออย่ากลัวพวกมัน เพราะถ้าคนพวกนี้เห็นผู้หญิงกลัวมักได้ใจ แต่อาการไม่หวาดหวั่นของเธอไม่ได้ทำให้พวกมันเกรงเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำกลับยิ่งกระตุ้นความอยากของพวกมันให้พุ่งทะยาน
?ช่วยด้วย !!! ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที? เสียงกรีดร้องเท่านั้นที่จะทำให้เธอรอด อย่างน้อยคงมีผู้คนที่เดินอยู่ละแวกนี้ แต่เมื่อทั้งร้องทั้งดิ้นและแสดงอาการขัดขืนพวกมันเต็มที่ กลับไม่มีใครหน้าไหนโผล่มาช่วยเธอ เป็นไงเป็นกันหญิงสาวคิด
เท้าเรียวบนรองเท้าส้นเตี้ยที่เธอชอบสวมใส่ยกเตะไร้อย่างทิศทางเพื่อป้องกันตัว สองมือที่โดนฉุดกระชาก พยายามออกแรงรื้อยุดดึงกลับ ในสมองไม่นึกถึงพ่อแก้วหรือแม่แก้วทั้งสิ้น มีเพียงการช่วยเหลือตัวเองเพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์ตรงนี้คือสิ่งที่ดีที่สุด คนพวกนี้คงไม่มีใครกล้ายุ่งเพราะขืนยุ่งคงเหมือนเอาชีวิตมาทิ้ง
ภาพมวยไทยมวยสากลที่เพื่อนคนหนึ่งชอบดูผุดขึ้นมาในหัวทุกท่า แต่ไม่ว่ากี่ท่าเธอไม่สามารถออกอาวุธได้เลย เพราะแค่เคยดูไม่เคยปฏิบัติ
?โอ๊ย!? พวกมันคนหนึ่งที่ไม่ได้ฉุดลากเธอใช้กำปั้นตุ้ยท้องของเธอ จนร่างบางในชุดกางเกงยีนขาสั้นเสื้อยืดงอก่องอขิง ทั้งเจ็บทั้งจุก เห็นทีคงไม่รอดพ้นเงื้อมมือพวกเดนนรก ต่อให้ต้องตายยังไงไม่มีทางยอมมัน
?ช่วย...? มิ่งขวัญพยายามขยับปากตะโกนขอความช่วยเหลือ หากแต่หมัดที่สองตุ้ยมาที่ท้องเธออีก แม้พยายามเกร็งหน้าท้องสุดชีวิตแล้วหากแต่ยังคงเจ็บเท่าๆ หมัดแรก
?ปากดีได้อีกไหมคนสวย ความฝันที่กูจะมีเมียสวยเหมือนนางฟ้าจะเป็นจริงแล้ววะ แต่ขอบอกซะก่อนนะ งานนี้กูขอก่อน?
?จัดไปลูกพี่ พวกฉันยังไงก็ได้? หนึ่งในสองคนขนาบข้างหิ้วปีกนกน้อยที่ร่วงผล็อยพูดขึ้น
?กูรอดไปได้พวกมึงตายแน่? ร่างที่งอตัวเป็นกุ้งพ่นวาจาด่าว่าพวกมัน ใบหน้างามขมวดมุ่นด้วยความเจ็บ
พวกมันลากเธอไปเรื่อยๆ อย่างไม่ปรานี การที่พวกมันได้ทำชั่วคงเป็นแนวทางและจิตชั่วเบื้องลึก ต่อให้อ้อนวอนมันให้ตายพวกมันคงไม่ยอมปล่อย นอกจากสู้เพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายจึงอุบัติขึ้นเมื่อคำว่ารอดพ้นคือสิ่งที่เธอต้องการ
ร่างบางสะบัดสุดแรงหวังหลุดจากพันธนาการกักขฬะ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนพลเมืองดีก็ไม่มีสักราย แต่...ทันใดนั้นเองบุญเก่ายังมี วาสนายังพอให้ต่อลมหายใจ เสียงรถคันหนึ่งครางกระหึ่มแล่นเข้ามาพร้อมกับดริฟท์วนรอบเป็นวงกลมแบบโดนัท พ่นควันกลบสี่ชีวิตที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชาก
พวกมันไอแควกๆ พอๆ กับหญิงสาวเพราะเธอไม่เหลือมือให้ยกขึ้นปิดปากปิดจมูก พอคนขับดริฟท์ได้ห้ารอบจึงหยุดและจอดรถนิ่ง พวกมันยกมือปัดควันที่กระจายคุ้งรอบตัว มองตามรถยนต์คันดังกล่าวด้วยสายตาทึ่งปนเสียว
กระจกรถคันหรูดังกล่าวเลื่อนลง พร้อมเสียงคนในรถด้านคนขับตะโกนลอดออกมา
?ปล่อยผู้หญิงซะ? เป็นภาษาต่างชาติถ้าฟังไม่ผิดน่าเป็นภาษาญี่ปุ่น ?ปล่อย? คนพูดคนละภาษากับเดนมนุษย์สั่งพร้อมชี้หน้า ไม่มีใครฟังรู้เรื่องแม้แต่มิ่งขวัญเอง แต่พอเดาได้จากสีหน้าและท่าทางของผู้พูด
?พูดอะไรวะฟังไม่รู้เรื่อง เฮ้ย พวกมึงฟังออกไหมวะ? หนึ่งไอ้เดนมนุษย์หันไปถามเพื่อนของมัน
?ไม่วะลูกพี่ ฟังไม่ออกก็ลากนังนี่ไปต่อ? มันไม่ฟังได้แต่ออกแรงบีบข้อมือทั้งต้นแขนของหญิงสาว กระชากให้เดินต่อหากแต่ยังไม่ทนได้ก้าวไปไหน
บุรุษหนุ่มร่างสูงสง่าในชุดสูทสีดำภูมิฐานก้าวลงจากรถ สับขาก้าวว่องไวไปขวางหน้าเดนมนุษย์ทั้งสาม
?ช่วยด้วยค่ะช่วยฉันด้วย พวกมันจะลากฉันไปข่มขืน? มิ่งขวัญไม่รู้ว่าชายผู้นี้ฟังเธอรู้เรื่องหรือไม่ หากแค่ไม่สนข้อนั้น สายตาและท่าทางของเธอที่แสดงออก ทั้งขัดขืนดิ้นรนจากมือพวกมันคงบ่งบอกเขาได้ดีกว่าคำพูดใดๆ ทั้งปวง
?ปล่อยซะ? น้ำเสียงเขาเข้มแข็งดุดัน แม้คนฟังไม่สามารถเข้าใจคำพูดนั้นก็ตาม
?หลีกไปกูฟังไม่รู้เรื่อง ชาวต่างชาติหน้าซีดอย่างมึงอย่ามายุ่ง คนเขาจะมีความสุขกัน? มันพูดขึ้นพร้อมทั้งใช้ฝ่ามือชั่วช้าของมันผลักอกบุรุษหนุ่มตัวสูงชาวญี่ปุ่น
มิ่งขวัญส่งสายตาวิงวอนส่งสัญญาณให้คนตรงหน้ารู้ว่าเธอไม่อยากมีความสุขกับพวกมันอย่างที่มันพล่าม
บุรุษหนุ่มผู้นี้มองมือที่ผลักอกแกร่งของเขา แล้วยกมือปัดตรงที่โดนผลัก กระชับเสื้อสูทอย่างไม่ครั่นคร้าม จากนั้นปลดกระดุมเสื้อสูทโยนทิ้งไป ปลดกระดุมตรงแขนเสื้อเชิ้ตทั้งสองข้างพับขึ้นมาถึงข้อศอก
?มึงจะลองดีใช่ไหมไอ้ยุ่น? มันว่าและท้าทายชาวต่างชาติที่เดาได้จากภาษา เพราะบุรุษตรงหน้าถึงจะใช้ภาษาอักขระเสียงสั้นหากแต่เดาได้ไม่อยากว่านั่นคือภาษาญี่ปุ่น เดนมนุษย์จึงอ้าปากอาจหาญเรียกเขาว่าไอ้ยุ่นทั้งที่ตัวไม่ยุ่น
?ฉันจะบอกแกเป็นครั้งสุดท้าย ปล่อยผู้หญิงซะ? มองยังไงเธอก็ไม่เต็มใจไปกับพวกมัน ต่อให้เขาไม่รู้จักเธอ ครั้นจะปล่อยให้ผู้หญิงร่างบอบบางถูกทำร้ายคงไม่ใช้วิสัยของเขาแน่ ดังนั้นต้องยื่นมือเข้าช่วย แต่ถ้าการช่วยของเขาคือการยุ่งเรื่องของคนอื่นก็ค่อยว่าอีกที
?ไม่ปล่อย มึงจะทำไมกูไอ้ยุ่น? มันว่าอย่างท้าทายพลางปัดมือให้พาผู้หญิงหลบไปห่างๆ
มิ่งขวัญฝืนตัวไม่ยอมทางทำตามง่ายๆ ทั้งสะบัดทั้งดิ้นเมื่อสบโอกาสจึงยกเท้าถีบสะโพกไอ้คนด้านซ้าย มันเซถลาแล้วล้มตึง เห็นดังนั้นจึงรีบลงมือกับคนที่สองด้านขวา เธอฉวยจังหวะทีเผลอของมันที่มองเพื่อน ยกเท้าเตะผ่าหมากมันเต็มแรง แล้วดีดตัวกระโจนไปอยู่ด้านหลังชายชาวต่างชาติที่เสียสละชีวิตเข้ามาช่วยเธอทั้งที่เรื่องไม่ใช่ แล้วถ้าไอ้สามตัวนี่มีอาวุธจะทำอย่างไร
?แม่งเอ๊ย ไม่ได้เรื่องเลยพวกมึง? มันต่อว่าลูกน้องของมัน ไอ้คนที่ล้มรีบลุกขึ้นส่วนไอ้คนที่โดนเตะผ่าหมากยังกุมกล่องดวงใจที่เจ็บปวดจนหน้าเขียว
ร่างบางถูกตวัดให้หลบไปอยู่ด้านหลังของชายหนุ่มตัวสูง ส่วนบุรุษอีกคนหนึ่งเดินลงมาจากรถทำหน้าที่คนขับ
?คุณผู้หญิงขึ้นไปนั่งในรถดีกว่าครับ? เขาเชิญหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสุภาพ มิ่งขวัญฟังไม่รู้เรื่อง แค่ดูท่าผายมือของเขาไปทางรถยนต์จึงพอคาดเดาได้ไม่ยาก
?อ๋อ...ค่ะ? มิ่งขวัญพยักหน้าตอบรับพร้อมก้าวเข้าไปนั่งตรงเบาะหลัง ด้วยจังหวะหัวใจที่ยังเต้นระส่ำกับเหตุการณ์ นึกชอบการดริฟท์ของพ่อหนุ่มคนนี้ เฝ้ามองใบหน้าชายญี่ปุ่นตัวสูงภูมิฐานด้านข้างอย่างนึกชื่นชมในความหล่อเหลาดูดีทุกกระเบียดนิ้ว นี่หรือที่เขาเรียกว่าพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยนางเอก แต่ที่เธอนั่งอยู่ไม่ใช่ม้าขาวแต่เป็นรถหรูที่สุดเท่าที่เธอเคยสัมผัสมา สมรรถนะคงปราดเปรียวน่าดู
หากแต่ในความคิดของเธอเห็นรถสวยทีไรเลือดในกายรุ่มร้อนไปหมด หญิงสาวจึงลดความสนใจเรื่องรถลงชั่วขณะเพราะเรื่องเบื้องหน้านอกตัวรถยังไม่จบปัญหา
แล้วมิ่งขวัญก็ได้มีโอกาสชมการต่อสู้ในรูปแบบเหนือชั้นกว่าพวกสวะว่าเป็นอย่างไร พวกมันทั้งสามถูกเตะถูกต่อยล้มระเนระนาดไม่เป็นท่า หยัดยืนขึ้นมาสู้ใหม่ยังถูกชายตัวสูงทั้งสองจัดการอีก ไม่ทันได้กะพริบตาเสียด้วยซ้ำ สามสวะเดนสังคมล้มแล้วล้มอีก ราวกับพินโบว์ลิ่งโดนลูกกลมๆ กวาดเกลี้ยง พวกมันลนลานไม่ต่างกับหมาขี้เรื้อน บ้างคลานบ้างวิ่งหางจุกตูด ลากกันไปจากตรงนั้นในชั่วพริบตา
บุรุษภูมิฐานมาดนักธุรกิจผู้นั้นปัดมือแล้วก้มลงหยิบเสื้อตัวเองที่ขว้างลงพื้นก่อนหน้านั้น ตวัดพาดบ่าแล้วเดินกลับมาที่รถ
?ไม่ได้รับอันตรายใช่ไหมคุณผู้หญิง? เขาเอ่ยถามด้วยภาษาเดิม เสียงทุ้มนุ่มละมุนหู ผู้หญิงคนนี้ช่างเป็นแรงบันดาลใจให้ชายหนุ่มอยากเรียนภาษาไทยเพื่อคุยกับเธอให้รู้เรื่องซะจริงๆ
?มะ...ไม่ค่ะ ไม่เป็นอะไร? มิ่งขวัญตอบเขาออกไปด้วยภาษาไทย อยากพูดกับเขาภาษาอังกฤษ เกรงว่าจะไม่รู้เรื่องกันไปใหญ่ เพราะต่างคนต่างไม่รู้พื้นฐานภาษากัน รู้อย่างนี้ตอนเรียนเลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่สามก็ดี ที่สถาบันให้เลือกเรียนสามภาษา เธอเลือกอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน เพราะเห็นว่าครอบครัวของเธอร่วมลงทุนกับนักลงทุนประเทศจีนเรียนไว้เพื่อช่วยงานครอบครัวก็ไม่เสียหาย
สำเนียงภาษาของเขาช่างไพเราะนุ่มนวลราวกับปุยเมฆ หญิงสาวรู้สึกกำลังล่องลอยไปในอากาศ ลืมเรื่องทุกข์ใจที่ก่อเกิดก่อนหน้านั้นเสียสนิท ครั้นพอนึกขึ้นได้จึงรีบดีดตัวเปิดประตูก้าวลงมาจากรถเขาทันที
?ฉันขอบคุณมากๆ ที่ช่วย ขอบคุณมากๆ ค่ะ ลาล่ะค่ะ? มิ่งขวัญกล่าวขอบคุณพร้อมกับไหว้แบบไทย และโค้งให้เขาแบบชาวญี่ปุ่น เธอสับสนในตัวเอง อย่ากล่าวหากันเลยที่ไม่เลือกว่าจะทำความเคารพคนที่ช่วยให้เธอพ้นจากการตกเป็นเหยื่อพวกสวะนั่นอย่างไร
?เดี๋ยวก็เจอพวกมันอีกจนได้? เขากล่าวออกไปเพื่อรั้งเธอ ต่อให้สื่อสารกันด้วยภาษาไม่เข้าใจเขาพร้อมจะรั้งเธอไว้ อย่างน้อยมีโอกาสได้ไปส่งเธอที่บ้านคงดี
ปลายเท้าเรียวชะงักหันกลับมามองเขาเพราะอยากรู้ว่าเขาพูดอะไร
?เราคุยกันภาษาอังกฤษดีไหมคะ? หญิงสาวเสนอทางเลือก
?ดีครับ? ชายชาวอาทิตย์อุทัยเห็นด้วย ?เชิญขึ้นรถก่อนครับ ผมจะไปส่ง ถ้าเจอพวกมันย้อนกลับมาอีก คราวนี้ผมคงช่วยคุณให้พ้นจากมือพวกมันไม่ได้แน่?
มิ่งขวัญไม่ตอบ ทว่าก้าวขึ้นรถที่ถูกเปิดประตูอ้าด้วยมือบุรุษอีกคนที่คาดเดาว่าคงเป็นคนขับรถหรือบอดี้การ์ดเพราะมาดขรึมไม่ยิ้มไม่พูดไม่จา ยืนเป็นหุ่นยนต์มีชีวิตผิดจากการต่อสู้กับพวกสวะเมื่อกี้ลิบลับ
?ขอบคุณค่ะ? เธอกล่าวขอบคุณเขาด้วยภาษาสากล
ชายหนุ่มเข้ามานั่งในรถข้างร่างบาง มองหญิงสาวผ่านๆ หากแต่พินิจทุกส่วนด้วยความเงียบขรึม ใจเขาเต้นผิดจังหวะ เพียงทอดมองเรียวขาเนียนที่โผล่พ้นกางเกงยีนขาสั้นสีซีดสมส่วนนั้น อารมณ์อยากเรียนภาษาไทยให้คล่องปรื๋อแล่นขึ้นมาตีตื้นในหัวเลยทีเดียว
?จะให้ไปส่งที่ไหนบอกทางด้วยครับ? บุรุษที่นั่งข้างเธอเอ่ย
?ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน? เธอพูดขึ้นมา ไม่ใช่อยากอยู่กับเขา แต่เพราะจิตใจในตอนนี้แย่ยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดลาวาไหลท่วมร่างซะอีก ไม่อยากกลับไปพบใครๆ ที่บ้าน เกรงปล่อยความอัดอั้นในใจราดรดทุกคนจนบ้านแตกกระเจิง ยามเธอดีแสนดีไม่ต่างจากเจ้าหญิง หากอารมณ์กรุ่นที่สะสมระเบิดคงไม่ต่างจากนิวเคลียร์ลูกย่อมๆ ถ้าได้ไปสงบสตินอกบ้านสักพักคงกลับเข้าบ้านด้วยอาการดีขึ้น
?ช่วยไปส่งฉันผับแถวไหนก็ได้ ได้โปรดส่งเสร็จคุณจะกลับก็เชิญ? หญิงสาวว่า
?มีเรื่องอะไร?
?คุณกับฉันไม่รู้จักกันอย่ารู้เรื่องเลยจะดีกว่า ไปส่งฉันเถอะ ขอร้อง?
เขาพยักหน้าบอกกับคนทำหน้าที่ขับเบื้องหน้าดูท่าแล้วหญิงสาวจะมีความในใจ เขาแค่คาดเดาไม่ได้ฟันธงใช่หรือไม่ใช่
?ถ้าคุณบอกว่าเรายังไม่รู้จักกัน...งั้นเราก็มาทำความรู้จักกันสิ?
?อย่าดีกว่า ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ บางทีการเป็นคนแปลกหน้าต่อกันยังดีกว่ารู้ทุกสิ่งทุกอย่างในกันและกัน?
การที่เธอไม่รู้ไม่เห็นยังเจ็บน้อยกว่าได้ไปรู้ไปเห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง ภาพเสียงเหล่านั้นย้อนกลับมาอีกครา มิ่งขวัญเสสายตาออกนอกตัวรถ ขณะยานพาหนะสมรรถนะเยี่ยมเคลื่อนไปตามถนนในยามค่ำคืนจุดหมายคือสถานเริงรมย์หย่อนใจ หากแต่จิตใจของเธอช่างไร้จุดหมายเหลือเกินในยามนี้
?ยืนยันแบบนั้นหรือ?
?ค่ะ? ตอนนี้เธอไม่อยากรู้จักใครนอกจากตัวเอง การดื่มคงเป็นการเยียวยาใจที่ร้าวรานได้บ้าง ถึงแม้ตื่นขึ้นมาหลังจากสร่างแอลกอฮอล์แล้วภาพทุกภาพเรื่องทุกเรื่องยังคงอยู่ก็ตาม
?ก็ดีครับ? ผู้หญิงคนนี้แปลก สีหน้าแววตาราวกับเก็บงำเรื่องราวเอาไว้มากมาย ตัวเขาก็แปลกอีกเช่นกัน รู้สึกอยากรับรู้เรื่องราวของเธอทั้งๆ ที่เพิ่งพบกัน ลำแขนนี้ก็นึกอยากโอบกอดเธอไว้ อกแกร่งนี้หวังให้เธอมาซบแนบชิดและระบายความอัดอั้น เขานึกแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร
หากทั้งหมดทั้งมวลคงได้แค่คิด เพราะเธอปิดกั้นเส้นทางหมดสิ้นด้วยการไม่อยากรู้จักกันและกัน ปล่อยให้ความแปลกหน้ากลายเป็นความแปลกหน้าต่อไป
คนเราเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่อยากรู้จักคนที่เพิ่งช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากภัยดิบในเมืองหลวงแบบนี้ ดังนั้นเมื่อเธอต้องการแบบนั้นเขาจะเก็บภาพใบหน้างดงามแลดูหมองเศร้าตรงนี้ไว้ในความทรงจำ สักวันอาจมีโอกาสได้พบกันอีก หากเขาต้องเดินทางมาเมืองไทยบ่อยขึ้นเพราะภารกิจที่พ่อมอบหมายให้
?ส่งฉันลงตรงถนนเส้นนี้ก็ได้ค่ะ? มาถึงถนนเส้นที่คลาคล่ำไปด้วยร้านรวงในแหล่งย่ำราตรี ผับไหนร้านไหนก็ได้ที่มีเหล้าดื่มเพื่อดับกลุ้ม
?จะดีหรือ? เขาเอ่ยถาม ผู้หญิงเที่ยวคนเดียวตามสถานที่อโคจรย่อมไม่ปลอดภัยต่ออะไรหลายๆ อย่างโดยเฉพาะผู้ชายที่คิดไม่ซื่อ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายเช่นเขาด้วย เธอสวยสะคราญขนาดนี้เขารู้สึกเป็นห่วง ด้วยตนอยู่ในแวดวงด้านมืดมาจนรู้ทุกสิ่ง แต่ที่ญี่ปุ่นไม่มีคดีข่มขืน ไม่มีการล่วงละเมิดทางเพศ เพราะอิสระด้านเพศรุนแรงกว่าเมืองไทย เด็กวัยมัธยมต้นรู้จักการจูบกับแฟน ไม่ได้ถูกตีกรอบอย่างคนไทย ดังนั้นทั้งหญิงและชายจึงไม่เก็บกดจากเรื่องอย่างว่า
?ดีสิ หรือคุณว่าไม่ดีตรงไหน ถ้าคิดว่าไม่ดีอยากดูแลฉันคุณก็ลงไปเที่ยวกับฉันสิ?
ชายหนุ่มสบตากับคนขับรถ ?ก็ดีผมจะลงไปเที่ยวเป็นเพื่อนคุณ? ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่น้อง ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นทว่าแรงดึงดูดในตัวเธอดึงเขาได้ง่ายดาย
?เอจิเอารถไปจอด วันนี้ฉันขอเที่ยวก่อน? ทั้งที่เพิ่งมาถึงยังไม่เช็กอินเข้าที่พักด้วยซ้ำ หากแต่ตอนขับรถเพื่อเดินทางไปยังโรงแรมประจำที่เคยพัก บุรุษหนุ่มภูมิฐานผู้นี้เห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับหญิงสาว เขาจึงอดรนทนไม่ได้ที่จะแส่เรื่องคนอื่น ตามสัญชาตญาณไม่ชอบเห็นผู้หญิงถูกรังแก จึงไม่รั้งรอในการก้าวขาลงไปช่วย แล้วเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวเต็มตา เขาจึงได้พบว่าตัวเองรู้สึกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ตอนนี้ธุระไม่ใช่แต่เขากลับทิ้งเวลาพักผ่อนเพื่อไปเที่ยวกับคนแปลกหน้าอย่างเธอ
?เจ้านายครับ พรุ่งนี้เจ้านายมีงานนะครับ เรามาที่นี่เพราะงานของนายใหญ่นะครับ?
?ไม่เสียเวลามากหรอกน่า?
?ครับ ผมแค่เตือน?
?ฉันรู้หน้าที่ดี ชีวิตฉันตึงเครียดมานาน ได้เที่ยวปลดปล่อยบ้างคงดีพิลึก? เพราะพ่อเขาไม่ไว้ใจใคร ดังนั้นหน้าที่หนักหน่วงจึงตกมาที่เขา ส่งเขามาสืบหาความจริงหลายๆ อย่างเกี่ยวกับเรื่องการโจรกรรมรถยนต์ที่กำลังเดินทางข้ามประเทศเพื่อส่งต่อให้กับลูกค้ากลับหายไปด้วยนักแซงค์มืออาชีพแบบที่จับมือใครดมไม่ได้ งานนี้สูญรายได้ร่วมหลายล้านเยน มันเป็นสิ่งที่พ่อของเขายอมไม่ได้
สองหนุ่มสาวแปลกหน้าต่อกันเดินควงคู่กันเข้าไปในผับที่ประดับประดาด้วยแสงสีกระตุ้นสายตา ทุกสายตามองมายังสองหนุ่มสาวด้วยความชื่นชมในความดูดีเหมาะสมกัน สาวๆ หลายนางต่างทอดสายตาไปยังชายหนุ่มจากนั้นกระซิบกระซาบพลางส่งยิ้มหวาน ขณะมิ่งขวัญได้รับความชื่นชมด้วยสายตาเช่นกัน
บุรุษหนุ่มเคียงข้างเธอพบกว่าหญิงสาวสวยเจิดจรัสมากกว่าตอนอยู่ในรถกับเขาในยามต้องแสงไฟสาดส่องมายังเธอ นี่ขนาดไม่ได้แต่งแต้มเลยสักนิด ดวงหน้าเนียนใสรับกับดวงตากลมโตตีกรอบด้วยแพขนตางอนงาม จมูกโด่งปรากฏรอยรั้นนิดๆ ช่างสร้างเสน่ห์แก่เธอไม่ยากเย็นนัก กลีบปากได้รูปอิ่มเอิบดั่งคนสุขภาพดีชมพูระเรื่อน่าจุมพิต เขาเผลอมองกระทั่งเธอเดินไปจนสุดทางเดินถึงเคาน์เตอร์บาร์สลัวด้วยแสงนีออนที่ลดน้อยลง
?ขอเครื่องดื่มแรงๆ แก้วหนึ่ง คุณเอาด้วยไหม? สั่งของตัวเองเสร็จหญิงสาวหันมาถามเขาด้วยความมีน้ำใจในฐานะเจ้าบ้าน
?อืม...? ดีนะเธอไม่ลืมว่าเขามาด้วย มาเพราะความเป็นห่วง แต่ไม่อาจตอบโจทย์ในใจได้ว่าทำไมต้องห่วงแม่สาวสวยนัยน์ตาโศกคนนี้
?มิจัง? ของเขา ชายหนุ่มแอบเรียกหญิงสาวในแบบที่เขาต้องการในใจ ในเมื่อไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม เขาคงต้องตั้งชื่อให้เธอในแบบที่เขาชอบ
ดรายมาตินีในแก้วถูกวางลง มือบางยกขึ้นกระดกรวดเดียวหมดแก้ว แล้วสั่งแก้วใหม่แล้วแก้วที่สองจึงหมดตามแก้วก่อนหน้าตามกันไปเช่นกัน บุรุษข้างกายมองเหตุการณ์ด้วยอาการตกตะลึง ถ้าเธอไม่โดนมรสุมรุมทำร้าย เธอคงเจออะไรมากมายถึงได้ดื่มยังกับจะทำให้ตัวเองกลายเป็นบ่อหมักเหล้าปานนี้
มิ่งขวัญไม่ใช่คนคอแข็งปกติไม่ดื่มด้วยซ้ำ กิจกรรมและงานของเธอค่อนข้างต้องดูแลตัวเองรวมทั้งใช้สมาธิอยู่ตลอด ไม่อย่างนั้นอาจตายไม่รู้ตัว เหตุทั้งหมดที่มานั่งดื่มไม่คิดชีวิตเนื่องจากต้องการลืมทุกอย่างให้เร็วที่สุด เพราะใครมักชอบพูดว่าดื่มเพื่อลืม หวังว่ามันคงทำให้เธอลืมได้
?น้อง...เอามาทั้งขวด? เสียงอ้อแอ้สั่งบาร์เทนเดอร์หลังจากดื่มเรียงกันไปสี่แก้วรวดแบบไร้มิกเซอร์ มาตินีเหล้าใสๆ ถูกยกมาวางทั้งขวด มือบางยกขวดรินลงในแก้วทรงกรวยก้านจับยาวเกือบล้น ไม่ละเมียดรินแบบบาร์เทนเดอร์รินเลยทีเดียว ขนาดนี้ยกดื่มทั้งขวดอาจจะดีกว่า
?พอๆ ผมว่าคุณไม่ไหวแล้ว? มือหนาแย่งขวดดรายมาตินีจากมือบาง เขาเศร้าแทนเธออยากเสียสละอกนี้ให้เธอได้ระบายความอัดอั้น
?คุณคนแปลกหน้า...อย่ายุ่ง ฉันอยากเมา คุณไม่รู้หรอกฉันเพิ่งเจออะไรมา? น้ำเสียงเธออ้อแอ้เต็มที มองคนหล่ออย่างเขามีหลายหน้า รู้สึกคนหล่อเต็มไปหมด ?ดื่มเพื่อลืมความเลวร้ายในชีวิต?
มิ่งขวัญโอดครวญด้วยภาษาไทย ที่คนข้างกายฟังไม่รู้เรื่องเพียงแต่เขาจับใจความจากน้ำเสียงไม่ปกติของเธอได้ ?ขอบคุณๆ ที่อยู่เป็นเพื่อนคุณคนแปลกหน้า?
เธอเลือกที่จะไม่รู้จักเขา เพราะเกรงหัวใจที่แหลกสลายมักง่ายไปชอบเขาแล้วคว้าเขามาดามหัวใจชั่วคราว เพราะเขาช่างหล่อบาดหัวใจ หล่อกว่าแฟนหนุ่มทรยศของเธอหลายร้อยเท่า
มิ่งขวัญคร่ำครวญไปกรอกดรายมาตินีไป ลงคออึกแล้วอึกเล่าโดยไม่ง้อแก้วให้เสียเวลา สุดท้ายดรายมาตินีลดลงมาครึ่งขวด สาวคออ่อนแต่สั่งเหล้าแรงจึงกลายเป็นคนที่ไม่เหมือนเดิมและพร้อมปิดเปลือกตาทุกวินาทีต่อจากนี้
?ไปโรงแรม? ชายหนุ่มสั่งผู้ติดตาม ร่างบางฟุบหลับลงกับเคาน์เตอร์บาร์เรียบร้อยไปแล้ว เขากระดิกนิ้วเรียกผู้ติดตามและสั่งให้พาไปยังโรงแรมที่เขาพัก ทำไงได้ไม่รู้จักที่พักของเธอ ขืนทิ้งไว้ตรงนี้คงมีผู้ชายหน้าหื่นสักคนหิ้วเธอไปแน่ เขาบอกตัวเองไม่ควรทิ้งเธอไว้ตามลำพังในสภาพแบบนี้
ความเป็นสุภาพบุรุษแล่นมาโดยไม่ได้นัดหมาย ปกติรู้สึกรู้สากับเรื่องนี้เสียที่ไหน สำหรับเธอเขากลับบอกตัวเองว่าต้องดูแลจนกว่าเธอจะกลับมาอยู่ในสภาพพร้อมดูแลตัวเองมากกว่านี้


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในหัวใจของ ?มิ่งขวัญ? กลัดกลุ้มเกินจะทนทั้งเรื่องบ้านและชายคนที่เคยรัก เมื่อโลกนี้ไม่มีความลับสิ่งที่รู้ทำให้หล่อนเสียใจจนเกินจะทนรับได้ การตามใจตัวเองจึงปะทุขึ้นอย่างไม่ยั้งคิดโดยเอ่ยปากขอให้เขาร่วมบันทึกประสบการณ์รักกับหล่อน ?เคนยูทาโร? ต้องประคับประคองสติให้อยู่กับตัวตลอดเวลาที่จับเจ้าหล่อนอาบน้ำเพื่อล้างอ้วก แต่แล้วบทรักก็เป็นไปตามธรรมชาติเรียกร้องโดยที่ทั้งสองไม่คิดว่าจะเจอกันอีกแต่ลึกๆ ไม่เคยลืม จนกระทั่งสนามแข่งรถเปิดต้อนรับนักประลองความเร็วมิ่งขวัญจึงได้ไปเยือนแดนอาทิตย์อุทัย และสิ่งที่ไม่คาดฝันคือการได้พบเจอกันอีกครั้ง...มิ่งขวัญบอกตัวเองว่าไม่ใช่เขาหากแต่เขาบอกว่าใช่หล่อนแน่ เมื่อเขาแน่ใจสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้คือความตั้งใจที่จะยึดตัวและหัวใจมิ่งขวัญเอาไว้กับเคนยูทาโรตลอดกาล
?ยะ...หยุด...เดี๋ยวนี้? มิ่งขวัญรวบรวมเสียงที่พอมีห้ามปรามการกระทำอันอุกอาจ และเป็นสาเหตุให้เธอไม่สามารถทรงตัวได้ทุกครั้งที่ถูกโจนจ้วงนั้น ?คุณหวานไปทั้งตัว ไม่ว่าอยู่บนบกหรือในน้ำ...มิจัง? ชายหนุ่มบอกกับเธอราวกับคนเพ้อ


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”