เสียงปฏิเสธหนักแน่นชัดเจนจากหญิงสาวอีกคนที่มีศักดิ์เป็นญาติผู้พี่ ทำให้วฬาลีโกรธเสียจนเกือบพลั้งปากพูดถ้อยคำอะไรสักอย่างที่ทำให้คนฟังเสียความรู้สึกจนอาจเดินหนีไปเสียเดี๋ยวนี้ก็เป็นได้
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือนี้มีความสำคัญต่อชีวิตเธออย่างยิ่ง มีหรือที่วฬาลีจะยอมเอ่ยปากขอร้อง ?พี่จัน? ที่มีฐานะเป็นเพียงคนอาศัยคนหนึ่งในบ้านอิศรา ถึงจะพ่วงตำแหน่งญาติผู้พี่ แต่ก็เป็นเพียงญาติที่ไม่ได้สนิทใกล้ชิด
พ่อแม่ของพี่จัน วฬาลีก็แทบไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ ไม่เคยคิดอยากจะรู้จักญาติที่มีฐานะแตกต่างจากสังคมที่หญิงสาวเชิดหน้าอยู่ แต่ก็รู้มาว่าแม่ของพี่จันนั้นเป็นญาติห่างๆ กับพ่อของเธอ และถ้าไม่ใช่คำสั่งของบิดาที่กำชับนักหนาว่าให้ปฏิบัติต่อหญิงสาวเสมือนพี่คนหนึ่ง วฬาลีก็ไม่ได้เห็นว่าญาติผู้พี่ที่มาอาศัยบ้านเธออยู่คนนี้จะต่างจากคนรับใช้ในบ้านแต่อย่างใด
มองแผ่นหลังของคนตรงหน้าแล้ว วฬาลีก็กัดริมฝีปากตัวเองแน่น ถึงจะรู้สึกไม่พอใจมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่เวลาที่เธอจะแผดเสียงกรีดร้องหรือโวยวายได้เช่นทุกครั้ง ให้ผ่านเรื่องนี้ไปเสียก่อนเถอะ โทษที่กล้ายืนหันหลังปฏิเสธเสียงแข็งกับเธอแบบนี้ ต้องได้รับคืนอย่างสาสมแน่
?ลีไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ พี่จัน ถือว่าช่วยลีสักครั้งนะ แล้วชีวิตนี้ลีจะไม่ขออะไรอีกเลย?
ถอนใจหนักหน่วง ไม่เคยมีครั้งไหนที่วฬาลีจะพูดจาเสียงอ่อนกับเธอได้ถึงขนาดนี้ ค่อยๆ หันกลับยังญาติผู้น้องที่อายุน้อยกว่าสี่ปี คนที่เธอรักไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่ง ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกับน้องลีในวัยห้าขวบ เธอก็รักและเอ็นดูเด็กหญิงตัวน้อยช่างเอาแต่ใจคนนั้นเรื่อยมา จนในวันนี้ที่เด็กหญิงกลายเป็นหญิงสาวที่สวยสะพรั่ง ความรักที่มีต่อน้องก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แม้ในบางครั้ง วฬาลีจะทำตัวเหมือนนายมากกว่าน้องก็ตาม
?ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากช่วย แต่เรื่องนี้เป็นความต้องการของคุณลุง ถ้าคุณลุงทราบว่าพี่ช่วยน้องลีขัดคำสั่ง สุดท้ายคุณลุงก็ต้องตามตัวน้องลีกลับมา พี่เองในฐานะคนที่ให้ความช่วยเหลือ คงต้องโดนลงโทษอย่างหนัก?
?แต่นี่มันชีวิตลีทั้งชีวิตเลยนะพี่จัน ลีเพิ่งกลับจากเมืองนอกมาได้ไม่กี่วัน คุณพ่อก็จะให้ลีดูตัวแล้วก็หมั้นกับใครที่ไหนก็ไม่รู้?
วฬาลีทรุดตัวลงนั่งกับที่นอนอย่างหมดหนทาง ใช่...เธอไม่รู้จักกับว่าที่คู่หมั้นที่บิดาจัดหามาให้ รู้เพียงว่าเขาเป็นลูกชายของเพื่อนรักเพื่อนตายของพ่อ ฐานะร่ำรวยและมีอิทธิพลอยู่ทางใต้ก็ฟังดูน่าสนใจอยู่หรอก แต่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ไอย พี่อัศ นี่แหละที่ทำให้หญิงสาวรับไม่ได้
ท่าทางสิ้นหวังของวฬาลีทำให้อดเห็นใจไม่ได้ แต่จะให้ช่วยพาหนีก็ลำบากใจ บิดาของวฬาลีมีบุญคุณกับเธอมาก ไม่อยากทำให้ท่านต้องเสียใจ
?ลองไปพบเขาก่อนไหม? เขาอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่น้องลีคิด หรือไม่อย่างนั้น เขาก็อาจจะไม่อยากหมั้นเหมือนกันกับน้องลีก็ได้ ไม่แน่นะ เขาอาจจะช่วยพูดให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายล้มเลิกการหมั้นหมายนี้ได้นะ?
?ไม่มีทาง! ผู้ชายคนนั้นต้องแก่แล้วก็น่าเกลียด หาผู้หญิงแต่งงานด้วยไม่ได้ เขาถึงเพิ่งจะมาดูตัวทั้งที่อายุตั้งสี่สิบกว่า พอเขาเห็นลี เขาคงรีบจับลีแต่งงาน?
ถอนใจเบาๆ กับจินตนาการไปไกลของวฬาลี หญิงสาวตีโพยตีพายทั้งที่คิดไปเองคนเดียว เดินไปนั่งข้างๆ เอื้อมไปจับมือญาติผู้น้องอย่างต้องการจะปลอบใจ แต่อีกฝ่ายชักมือออกโดยแรงจนเกือบเป็นการกระชาก ขยับถอยออกห่างราวกับรังเกียจ จ้องมองด้วยดวงตาแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้ นอกจากความผิดหวังเสียใจ ยังมีความโกรธเคืองฉายชัดอยู่ในแววตาคู่นั้น
?ลีมีคนรักอยู่แล้ว ชีวิตนี้ลีจะแต่งงานกับเขาเท่านั้น ถ้าพี่จันไม่ช่วย ก็ไม่ต้องมาพูดกันอีก แล้วออกจากห้องลีไปเดี๋ยวนี้เลย!?
จบประโยคสุดท้าย วฬาลีก็เริ่มขว้างปาหมอนที่อยู่ใกล้มือใส่อย่างไม่เกรงใจ ความตั้งใจที่จะอดทนอ้อนวอนขอความเห็นใจสิ้นสุดอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่ให้ความช่วยเหลือกันก็ไม่ต้องอยู่ให้เห็นหน้า ส่วนคนถูกปาก็รับบ้างหลบบ้าง และต้องรีบถอยออกมาเพราะเกรงว่า หากไม่มีหมอนให้ปาแล้ว หญิงสาวผู้เอาแต่ใจคนนี้คงคว้าเอาโคมไฟหรืออะไรก็ตามที่อยู่ใกล้มือเขวี้ยงใส่เป็นแน่
***
ถอนใจหนักหน่วงเมื่อกลับมาถึงห้องนอนส่วนตัว หวนนึกถึงคนที่เพิ่งขว้างปาข้าวของใส่เมื่อครู่ วฬาลีเอาแต่ใจเพราะได้รับการเลี้ยงดูอย่างเอาอกเอาใจมากกว่าใครทั้งหมด ลูกสาวคนสุดท้องผู้เป็นที่รักใคร่ที่สุดของตระกูลอิศราที่มีฐานะร่ำรวย มีหน้ามีตาในสังคม อยากได้อะไร ต้องการอะไร ก็ต้องได้เดี๋ยวนั้น ไม่มีใครขัดใจ
จันทิมาเดินมานั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอย่างเหนื่อยใจ เธอจ้องสบตากับเงาของตัวเองในกระจก แลเห็นหญิงสาวหน้าตาจืดชืด สวมแว่นตา รวบผมยาวตรงสีดำสนิทเป็นหางม้าอยู่เสมอ การแต่งตัวก็แสนจะธรรมดา แตกต่างกับวฬาลีโดยสิ้นเชิง รายนั้นไม่ว่าจะอะไรก็ต้องดีที่สุด ทันสมัยที่สุด ล้ำกว่า เหนือกว่าคนอื่นได้ก็ยิ่งดี ไม่ใช่ว่าเธอจะรู้สึกอิจฉาญาติผู้น้อง แต่เป็นห่วงอนาคตของหญิงสาวเสียมากกว่า ที่รู้จักแต่ความสุขของการได้รับเพียงอย่างเดียว เพราะเอาแต่ใจและไม่รู้จักแบ่งปัน หากไม่เปลี่ยนแปลงนิสัยที่เป็นอยู่ในตอนนี้ สุดท้ายวฬาลีก็จะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ไม่สามารถอยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นได้
คุณลุงพัฒนะพ่อของวฬาลี รับจันทิมามาดูแลตั้งแต่เธออายุเพียงเก้าขวบ เพราะสงสารแม่ของเธอที่มีฐานะลำบาก ซ้ำยังเป็นหม้ายสามีเสียชีวิต ท่านส่งเสียเลี้ยงดู ให้การศึกษาแก่จันทิมา ให้เกียรติในบ้านนี้ไม่ต่างจากลูกหลานคนหนึ่ง ทั้งที่เธอเป็นเพียงลูกสาวของญาติห่างๆ ที่ไม่ได้มีหน้าตาหรือชาติตระกูลในวงสังคม ดังนั้น จันทิมาจึงตั้งใจตอบแทนพระคุณของลุงพัฒนะเป็นอย่างดีที่สุด ทั้งการประพฤติตัว การเรียน เธอหวังว่าคุณลุงจะภาคภูมิใจในตัวเธอ และวันหนึ่งคงมอบหมายให้เธอได้ทำงานในบริษัทของท่าน แต่สุดท้ายเมื่อหญิงสาวจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คำตอบที่ได้รับคือ
?ลุงอยากให้จันช่วยดูแลยัยลี และดูแลความเรียบร้อยในบ้านนี้ ที่บริษัทมีคนทำงานมากพอแล้ว แต่คนที่ลุงจะไว้วางใจให้ดูแลบ้าน ดูแลคนในครอบครัวของลุง มีแต่จันเท่านั้น?
นั่นคือประโยคที่คุณลุงพัฒนะเคยบอกกับเธอเมื่อครั้งที่จันทิมาขออนุญาตไปสมัครงานที่บริษัท แม้จะรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่เมื่อเป็นความต้องการของคุณลุง หญิงสาวก็ไม่คิดจะขัดคำสั่ง
แต่เรื่องของน้องลีนี่สิ จะทำอย่างไรดี ลุงพัฒนะหมายมั่นผู้ชายคนนั้นเอาไว้มาก บอกว่าเป็นคนที่เหมาะสมจะดูแลวฬาลีที่สุด เพียบพร้อมด้วยความสามารถ หน้าตาทางสังคม และทรัพย์สมบติ เมื่อครู่วฬาลีเพิ่งบอกว่ามีคนรักแล้ว อาจจะรู้จักกันตอนที่หญิงสาวไปเรียนเมืองนอก นี่ถ้าคุณลุงทราบเรื่องนี้เข้าคงไม่พอใจมาก แม้จะไม่อยากขัดคำสั่งของลุงพัฒนะ แต่จันทิมาก็เห็นใจวฬาลีไม่น้อย หากเป็นเธอเองที่ถูกสั่งให้ดูตัวกับใครที่ไม่รู้จัก หลังจากนั้นก็มีคนตัดสินใจเสร็จสรรพให้หมั้นและแต่งงาน ก็อาจคิดอยากหนีไปกับคนรักเหมือนอย่างวฬาลีในเวลานี้ก็ได้
วฬาลีญาติผู้น้องคนนี้เป็นบุตรสาวที่เกิดกับคุณรมิดาภรรยาใหม่ของคุณลุงพัฒนะ ในขณะที่หญิงสาวเพิ่งอายุเพียงยี่สิบสามปี แต่ไอยราและอัศไนยลูกชายคนโตและลูกชายคนรองของคุณลุงที่เกิดกับภรรยาคนแรกที่เสียไปนานหลายปีแล้วกลับมีอายุมากถึงสี่สิบกว่า
ไอยราในวัยสี่สิบห้าปี หน้าตามีเค้าความหล่อในสมัยหนุ่ม แต่ผมบนศีรษะเหลือน้อยและมีพื้นที่ว่างลึกเข้าไปกว่าครึ่งศีรษะ ซ้ำยังมีผมสีขาวมากกว่าสีดำ ส่วนอัศไนยอายุสี่สิบสามปี รูปร่างอ้วนลงพุง ทำให้การเดินเหินดูไม่คล่องแคล่วและขาดความสง่า แต่ท่าทางใจดีของพี่อัศทำให้เขาดูเหมือนคุณลุงซานต้าเวอร์ชันไทย
ในมุมมองของจันทิมา เรื่องรูปกายภายนอกเหล่านั้นเป็นข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฐานะ หน้าที่การงาน และนิลัยใจคออันดีของญาติผู้พี่ทั้งสอง พี่ไอยและพี่อัศเป็นคนขยัน มีความรับผิดชอบทั้งในเรื่องงานและเรื่องครอบครัว จันทิมานับถือที่พวกเขาไม่เคยนอกลู่นอกทางและซื่อสัตย์กับภรรยา เหน็ดเหนื่อยจากการงานแค่ไหน ในวันหยุดที่มีโอกาสอยู่บ้าน พวกเขาจะสอนการบ้าน เป็นเพื่อนเล่นกับลูกๆ และหากมีโอกาสได้หยุดพักผ่อนยาว ก็จะพาครอบครัวไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่ทิวทัศน์สวยงามและบรรยากาศดี
แนวความคิดในการเลือกคบหาผู้ชายของจันทิมาตรงข้ามกับวฬาลีโดยสิ้นเชิง หญิงสาวผู้เกิดมาอย่างสมบูรณ์พร้อมเช่นน้องลี ไม่มีทางยอมเข้าพิธีหมั้นและแต่งงานกับผู้ชายที่อายุมากกว่าจนเกือบจะเป็นพ่อของเธอได้ ยิ่งถ้ารูปลักษณ์ภายนอกไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่หล่อเหลาจนสามารถพาอวดใครต่อใครในวงสังคมได้แล้วล่ะก็ยิ่งไม่มีทาง คนที่ไม่เคยยอมอะไรอย่างวฬาลี จันทิมาไม่อยากคิดเลยว่า ท้ายที่สุด หากลุงพัฒนะยังจะบังคับให้มีการดูตัวครั้งนี้เกิดขึ้น น้องลีจะแผลงฤทธิ์อย่างไรบ้าง
หรือเธอควรนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับคุณลุงพัฒนะ วฬาลีเป็นลูกสาวที่คุณลุงรักมาก หากคุณลุงทราบว่าบุตรสาวมีคนรักอยู่แล้วก็คงไม่บังคับใจอีก แต่ถ้าคนรักของวฬาลีไม่เป็นที่พอใจของคุณลุงพัฒนะเล่าจะทำอย่างไร หากเรื่องยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม คุณลุงพัฒนะบังคับให้วฬาลีเลิกกับคนรักแล้วจับแต่งงานกับคนที่คุณลุงเลือกให้ จันทิมาคิดทบทวนไปมาหลายรอบจนปวดหัว ก็ยังไม่เห็นทางออก เรื่องละเอียดอ่อนและมีผลกระทบหลายด้านอย่างนี้ เธอคงต้องคิดอะไรให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำอะไร หรือเลือกอยู่ข้างใคร
***
?ขอเลื่อนกำหนดการดูตัวเหรอคะ?!?
น้ำเสียงแสดงความแปลกใจแต่มีน้ำหนักไปทางดีใจเสียมากกว่าของวฬาลีเอ่ยถามเมื่อบิดาแจ้งเรื่องนี้บนโต๊ะอาหารในเช้าวันหนึ่ง สมาชิกทุกคนในครอบครัวพร้อมนั่งทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา
?ใช่ อาภักดีเขาโทร.มาแจ้งว่ามีธุระสำคัญมาก ต้องไปติดต่องานที่ต่างประเทศโดยด่วน ขอเลื่อนการดูตัวเป็นปลายเดือนหน้า?
?เลื่อนไปชาติหน้าเลยก็ได้?
วฬาลีคิดในใจ ถึงความจริงจะไม่เป็นไปอย่างที่เธอต้องการ อย่างน้อยตอนนี้ก็มีเวลาให้เธอคิดหาทางออกจากการดูตัวบ้าๆ นี้ วฬาลีแน่ใจว่าหลังการดูตัวไม่นาน บิดาต้องจับเธอเข้าพิธีหมั้นกับตาแก่นั่น และตามด้วยพิธีแต่งงานที่จะถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสงสัย
เหลือบสายตามองดูพี่ชายทั้งสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารแล้วแอบเบะปากอย่างรังเกียจ ผู้ชายที่ชื่อธรณ์คนนั้นก็คงมีสภาพที่ไม่ดีไปกว่านี้นักหรอก ไล่เลยไปยังพี่สะใภ้ทั้งคู่ที่รูปร่างอวบเกินพอดีจากการมีบุตรและวัยสาวที่ล่วงเลยกำลังวุ่นกับการบอกลูกๆ ให้ใส่ใจทานอาหารตรงหน้าเพราะจะต้องรีบไปโรงเรียน แต่เด็กๆ ที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำคะแนนกับเกมส์ในไอแพดก็ดูจะไม่เชื่อฟังคุณแม่สักเท่าไร
สุดท้ายก็ปรายตาไปมองทางจันทิมาที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะอาหารตัวยาว บังเอิญที่ญาติสาวหันมาสบสายตาพอดี วฬาลีจึงส่งสายตาขุ่นเคืองไปให้ จันทิมาได้แต่ลอบถอนใจเบาๆ และเป็นฝ่ายหลบสายตาเสียเอง
หันกลับมาสนใจกับอาหารเช้าตรงหน้า พลันก็นึกอะไรบางอย่างออก คุณอาภักดีไม่อยู่ ช่วงนี้ทั้งพัฒนะ ไอยราและอัศไนยก็มีงานยุ่ง และมีประชุมสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้ พวกหลานๆ ก็ใกล้จะสอบ พี่สะใภ้ทั้งสองก็ต้องดูแลลูก บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสดีก็ได้ วฬาลียิ้มกับความคิดที่เพิ่งผุดขึ้นมา เธอหันไปถามพัฒนะด้วยน้ำเสียงแจ่มใส
?คุณพ่อคะ ได้ยินว่าพี่ธรณ์เขาอยู่ทางโน้น มีบ้านติดชายหาดไม่ใช่เหรอคะ??
?ใช่ มีอะไรหรือเปล่า? ลีอยากไปเที่ยวเหรอลูก??
?ค่ะ ลีอยากไปเที่ยวทะเล อยากไปทำความรู้จักกับพี่ธรณ์ด้วยว่านิสัยใจคอเป็นอย่างไร ถ้าลียอมรับพี่ธรณ์ได้ ลีก็จะยอมหมั้นกับพี่เขาก่อน...?
วฬาลีเว้นช่วง ช้อนสายตามองพัฒนะอย่างจริงจัง
?แต่ถ้า...เราได้เจอกันแล้ว ทั้งพี่ธรณ์กับลีเห็นตรงกันว่าเราเข้ากันไม่ได้จริงๆ คุณพ่อก็จะไม่บังคับลีอีกใช่ไหมคะ??
คำถามสุดท้ายไม่ถูกใจพัฒนะนัก แต่เขาเชื่อมั่นว่าถ้าวฬาลีได้พบและรู้จักกับธรณ์ ลูกสาวคนสวยต้องเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน รู้มาว่าธรณ์เองก็ยังไม่ได้ชอบพอหรือคบหากับใคร หากภักดีต้องการให้ธรณ์แต่งงานกับวฬาลี อย่างไรชายหนุ่มก็ไม่มีทางปฏิเสธบิดาได้
?ถ้าได้รู้จักกันแล้ว ทั้งลีและธรณ์ยังยืนยันว่าไม่อยากหมั้น ไม่อยากแต่ง พ่อก็จะไม่บังคับอีก?
วฬาลียิ้มอย่างพึงพอใจกับคำตอบที่ได้รับ แม้บิดาจะเป็นคนเฉียบขาด คำสั่งใดที่ได้สั่งการลงไปแล้ว ทุกคนไม่มีใครกล้าขัดโดยเด็ดขาด แต่พัฒนะก็เป็นคนที่รักษาคำพูดมากเช่นกัน เมื่อรับปากแล้วก็คือสัจจะสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่มีการบ่ายเบี่ยง
?ขอบคุณค่ะ ลีเชื่อคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อรับปากแบบนี้ ลีก็จะลองไปพบกับพี่ธรณ์ค่ะ?
?แล้วลีจะไปเมื่อไร??
?พรุ่งนี้ค่ะ?
?พรุ่งนี้!?
คำตอบที่ทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารพูดประโยคเดียวแทบจะพร้อมกันและหันมามองวฬาลีเป็นสายตาเดียว แต่หญิงสาวทำเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ ยังคงยิ้มอย่างสดใสให้กับสมาชิกในครอบครัว
?แต่พ่อกับพี่ไอยและพี่อัศมีประชุมและมีงานด่วนที่ปฏิเสธไม่ได้นะลี? พัฒนะเอ่ยอย่างเป็นห่วง
?ฉันไปเป็นเพื่อนลูกก็ได้ค่ะ เสร็จงานแล้ว คุณค่อยพาทุกคนตามไป ดีเหมือนกันนะคะ เราไม่ได้ไปเที่ยวเป็นครอบครัวใหญ่แบบนี้มานานแล้ว? รมิดาเอ่ยเสนอตัว เพราะเป็นคนเดียวที่ดูจะไม่มีภาระอะไรให้ต้องกังวล
แต่ทุกความเห็นถูกปฏิเสธจากหญิงสาว
?ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณแม่อยู่เป็นเพื่อนคุณพ่อดีกว่า ขืนลีพาคุณแม่ไปด้วย คุณพ่อก็เหงาแย่สิคะ ทุกคนไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เพราะลีจะไปกับพี่จัน?
คนถูกเสนอชื่อหันมามองอย่างแปลกใจ วฬาลีเองก็หันมายิ้มให้จันทิมาเช่นกัน รอยยิ้มสวยๆ นั้นประดับบนริมฝีปากสีชมพูสด แต่แววตาของวฬาลีนี่สิ คนอื่นอาจจะไม่สังกตเห็น แต่จันทิมารู้ดีว่าสายตาแบบนี้ของวฬาลี มักมีอะไรแอบแฝงเสมอ
ใบหน้าจืดชืดของจันทิมาไม่ได้น่ามองสักนิด วฬาลีเองก็ไม่ได้อยากจะยิ้มให้แม้สักน้อย แต่นี่แหละ แผนทำลายการจับคู่แบบคลุมถุงชนของบิดาที่เพิ่งผุดขึ้นมาในสมอง แผนการที่จะทำให้เธอรอดพ้นการถูกจับแต่งงานกับผู้ชายแก่น่ารังเกียจ และเอาคืนจันทิมาที่กล้าปฏิเสธไม่ยอมช่วยเหลือเธอ
***
?ฝากดูแลยัยลีด้วยนะจัน มีอะไรก็โทร.มาบอกลุงได้ทันที?
พัฒนะฝากฝังอย่างเป็นห่วง แม้วันนี้จะมีประชุมสำคัญ แต่ก็รีบมาส่งวฬาลีที่สนามบินก่อน ด้วยความรักและห่วงใยลูกสาวเพียงคนเดียว สายตาทอดมองหญิงสาวหน้าตาสะสวย แต่งตัวโฉบเฉี่ยวที่กำลังกอดและหอมแก้มลารมิดา พูดเย้าแหย่กับพี่ชายทั้งสอง พี่สะใภ้และหลานๆ
?ไม่ต้องห่วงค่ะ จันจะดูแลน้องลีเป็นอย่างดี และจะบอกให้น้องลีหมั่นโทรหาคุณลุงนะคะ?
จันทิมาเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้ม เธอกะพริบตาบ่อยเพราะไม่คุ้นกับคอนแทคเลนส์ที่ใส่ และเก้อเขินกับชุดกระโปรงลายดอกสีอ่อนหวานที่วฬาลีบังคับให้สวม เท่านั้นไม่พอ วฬาลียังจับเธอแต่งหน้าอีกด้วย โชคยังดีที่ไม่ได้จับใส่กระโปรงสั้นกับเสื้อรัดรูปที่อวดไหล่และแผ่นหลังแบบเดียวกับที่หญิงสาวสวมอยู่ พอถามว่าทำไมต้องจับเธอแต่งตัวอย่างนี้ด้วย
?นานๆ จะได้ไปเที่ยวกันสักที พี่จันแต่งตัวให้มันสดใสเป็นเพื่อนลีหน่อยไม่ได้หรือไง? พอเลยนะเสื้อผ้าเชยๆ พวกนั้นน่ะ ไม่ต้องเอาไปเลย ลีเตรียมกระเป๋าไว้ให้พี่จันแล้ว แว่นตานั่นก็เหมือนกัน ถอดออกแล้วใส่คอนแทคเลนส์เดี๋ยวนี้เลย?
นั่นคือเหตุผลที่วฬาลีบอกแก่จันทิมา แต่ถึงเธอจะแต่งตัวแต่งหน้าให้สดใสขึ้นมาอย่างไร เมื่อมีวฬาลีมาเป็นตัวเปรียบเทียบ จันทิมาก็ดูด้อยกว่าอยู่ดี ผู้ชายทุกคนที่มีโอกาสได้พบจันทิมาและวฬาลี ร้อยทั้งร้อยเลือกจะทำความสนิทสนมเพื่อใกล้ชิดวฬาลี แม้จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองอยู่บ้าง แต่ความรักที่มีต่อน้องลี ก็ทำให้จันทิมาชื่นชมยินดีที่น้องลีเป็นคนสวยมีเสน่ห์ หวังว่าการไปพบคุณธรณ์ครั้งนี้ เขาจะเป็นคนมีเหตุผลและช่วยพูดให้ผู้ใหญ่เข้าใจ วฬาลีจะได้สมหวังกับคนที่เธอรัก
?ลีไปก่อนนะคะคุณพ่อ แล้วจะโทร.หานะคะ?
น้ำเสียงสดใสของวฬาลีเอ่ยบอกพัฒนะ หญิงสาวเดินมากอดผู้เป็นบิดา หอมแก้มซ้ายขวาอย่างออดอ้อน
?ทำตัวดีๆ นะลี ถึงพ่อกับอาภักดีจะสนิทกัน แต่ไปอยู่บ้านเขาก็ต้องเกรงใจ จะเอาแต่ใจเหมือนอยู่กับพ่อไม่ได้?
?ทราบแล้วค่ะ คุณพ่ออย่ากังวลเลย พี่จันก็อยู่กับลีทั้งคน?
วฬาลีเดินมาโอบเอวจันทิมาและส่งยิ้มให้ราวกับน้องสาวช่างอ้อน จันทิมายิ้มตอบรอยยิ้มสดใสนั้น และหันไปยิ้มตอบให้คุณลุง โล่งใจที่น้องลีหายโกรธเรื่องวันก่อน
แม้จะมีจันทิมาร่วมเดินทางไปด้วย แต่พัฒนะก็อดห่วงหญิงสาวไม่ได้ และถึงจะเชื่อใจว่าบุตรชายเพื่อนที่อยู่ทางโน้นเป็นสุภาพบุรุษ และจะให้การดูแลวฬาลีเป็นอย่างดี แต่บุตรสาวคนนี้ก็ดื้อดึงไม่น้อย การที่ภักดีไม่อยู่ และพัฒนะไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย เขาจึงเป็นกังวลและหวังว่าจันทิมาจะช่วยควบคุมไม่ให้วฬาลีไปออกฤทธิ์ออกเดชกับว่าที่คู่หมั้น
เครื่องบินโดยสารส่วนตัวขนาดเล็กที่จอดรอผู้โดยสารพิเศษเพียงสองท่าน ทำให้จันทิมาอดทึ่งกับผู้ชายที่ชื่อธรณ์คนนั้นไม่ได้ คุณลุงพัฒนะเพิ่งโทร.แจ้งเมื่อวานช่วงบ่ายว่าวฬาลีต้องการเดินทางไปพักผ่อนและทำความรู้จัก ผู้ชายคนนั้นก็จัดหาพาหนะชั้นเลิศนี้มารับว่าที่คู่หมั้นในเช้าวันต่อมา สำหรับจันทิมาแล้ว แค่จัดหารถสักคันมารับก็เพียงพอ แต่สำหรับวฬาลีที่ชื่นชอบความเลิศหรู และพิเศษกว่าใคร หญิงสาวดูจะพออกพอใจกับเครื่องบินที่มารอรับอย่างมาก เดินกรีดกราดไปยังเครื่องบิน โดยปล่อยให้จันทิมาลากกระเป๋าทั้งของตัวเองและของวฬาลีราวกับเป็นคนรับใช้
ต้องยอมรับว่าเป็นการเดินทางที่ช่างหรูหราและราคาแพง ไม่รู้ว่าเครื่องบินลำนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของธรณ์ หรือเป็นเครื่องบินที่เช่าเหมาลำ แต่ถึงจะเป็นอย่างหลัง คุณธรณ์คนนั้นก็คงหมดค่าใช้จ่ายนับแสนเลยทีเดียว
จันทิมาทอดมองภายในด้านในของห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบาย มีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารหกคน ส่วนญาติผู้น้องคนสวย เมื่อพ้นจากสายตาพัฒนะ วฬาลีก็ทำเหมือนจันทิมาไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น ญาติผู้น้องแยกนั่งห่างออกมา ไม่ว่าจันทิมาจะพูดคุยหรือชวนทานขนมและเครื่องดื่มที่มีบริการบนเครื่องบิน วฬาลีก็ทำหูทวนลม ไม่หันมามองเสียด้วยซ้ำ สุดท้ายน้องลีก็หยิบหูฟังขึ้นมาสวมปิดกั้นเสียงของจันทิมาเสีย เป็นการบอกทางอ้อมว่าไม่ต้องการจะสนทนาด้วย ทั้งที่ตอนก่อนขึ้นเครื่องยังมากอดเอวและยิ้มให้เธออยู่เลย
จันทิมามองน้องลีที่ทำเมินเฉยอย่างหนักใจ แค่เริ่มต้นเดินทางมาด้วยกัน วฬาลียังแสดงทีท่ากับเธออย่างนี้ แล้วต้องอยู่ด้วยกันอีกเป็นสัปดาห์ ไม่รู้ว่าจันทิมาจะรับมือไหวหรือเปล่า แต่รับปากลุงพัฒนะแล้ว อย่างไรก็ต้องดูแลวฬาลีให้ดีที่สุด ตอนนี้น้องลีก็เพียงแต่ยังโกรธเรื่องที่จันทิมาไม่ยอมช่วยเมื่อวันก่อน เดี๋ยวหายโกรธก็คงพูดคุยกับเธอเหมือนเดิม
***
จันทิมาเดินลากกระเป๋าสัมภาระของเธอมาตามทางเดิน หันกลับมามองวฬาลีที่เดินตามมาห่างๆ เห็นหญิงสาวเหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกำลังมองหาใคร
?มีอะไรหรือเปล่าน้องลี??
?ลีอยากไปห้องน้ำ พี่จันไปรอตรงที่พักผู้โดยสารทางนั้นก่อนก็แล้วกัน?
?เอากระเป๋าของน้องลีมาฝากพี่ก่อนไหม? จะได้สะดวก?
จันทิมาพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปรับกระเป๋าลากของญาติผู้น้องอย่างหวังดี แต่วฬาลีกลับกระชากหูลากกระเป๋าถอยห่างออกมา
?ไม่ต้องหรอกค่ะ มันมีของที่ลีต้องใช้ พี่จันไปรอทางโน้นเถอะ?
บอกเพียงเท่านั้นก็ลากกระเป๋าผลุนผลันจากไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้วฬาลียังปล่อยให้จันทิมาลากกระเป๋าทั้งสองใบเพียงคนเดียว พอตอนนี้กลับไม่ยอมให้แตะเสียอย่างนั้น
พอนั่งรออยู่เกือบยี่สิบนาทีก็มีเสียงสายเรียกเข้า หน้าจอโทรศัพท์แสดงชื่อของคนที่จะมารับทั้งคู่ไปยังบ้านของลุงภักดีตามที่พัฒนะบอกเธอไว้
?สวัสดีค่ะ คุณไพบูลย์ใช่ไหมคะ??
?สวัสดีครับ ผมไพบูลย์ คุณหนูวฬาลีมาถึงแล้วใช่ไหมครับ? ไม่ทราบตอนนี้อยู่ตรงไหนครับ??
?ค่ะ เราอยู่ตรงที่พักผู้โดยสารค่ะ?
?รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมจะเข้าไปรับ?
วางสายจากคนที่จะมารับพวกเธอไปบ้านของคุณภักดี จันทิมาก็โทร.หาวฬาลีทันที เพราะเห็นว่าหญิงสาวหายไปพักใหญ่แล้ว
?น้องลี อยู่ไหนจ๊ะ? เขาส่งคนมารับแล้วนะ?
?พี่จันไปคนเดียวก็แล้วกัน ลีนัดแฟนไว้ที่นี่ ช่วยไปบอกนายธรณ์อะไรนั่นด้วยว่าลีไม่หมั้น ไม่แต่ง พี่จันจะอ้างว่าเป็นลีก็ได้ ลีอนุญาต จะทำอะไร หรือวิธีไหนก็ได้ให้นายนั่นไม่อยากแต่งงานกับลี?
?น้องลีพูดอะไร?!?
จันทิมาตกใจจนเกือบพูดตะกุกตะกัก ไม่คิดว่าน้องลีจะวางแผนทำแบบนี้กับเธอ มองซ้ายมองขวาเผื่อจะเจอวฬาลีอยู่ตรงไหนสักแห่ง ก็พบเพียงกลุ่มคนที่ไม่คุ้นหน้าเดินผ่านไปมา
?กลับมาก่อนเถอะนะน้องลี มีอะไรก็คุยกันดีๆ ไม่ชอบเขาก็บอกไปตรงๆ เขาคงเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะเข้าใจเหตุผลและไม่บังคับน้องลีหรอก?
?ไม่! ลีไม่ไปเจอคนคนนั้นเด็ดขาด พี่จันต้องจัดการเรื่องทุกอย่างให้ลีโดยเร็วที่สุด ถ้านายธรณ์อะไรนั่นยกเลิกทุกอย่างเมื่อไร ลีจะกลับไปเอง และห้ามบอกคุณพ่อเด็ดขาดว่าลีหนีไม่ไปเจอนายธรณ์ ไม่อย่างนั้นคราวนี้ ลีจะหนีไปจริงๆ แล้วไม่กลับมาอีกเลย?
วฬาลีที่แอบยืนมองจากมุมลับตา เห็นจันทิมาที่หน้าซีดเผือด พยายามมองหาเธอท่ามกลางผู้คน สะใจเหลือเกินที่ได้เป็นฝ่ายปฏิเสธความช่วยเหลือบ้าง จำได้ดีเลยว่าวันนั้นพี่จันบอกกับเธอไว้อย่างไร คราวนี้แหละที่จะได้เอาคืนบ้าง เชิญจันทิมาไปพบตาแก่ธรณ์นั่นคนเดียวเถอะ แล้วจะใช้วิธีการอย่างไรก็ทำไป แค่วฬาลีไม่ต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นก็พอ
?น้องลี กลับมาก่อนเถอะ อย่าทำแบบนี้เลยนะ?
?ลีอวยพรให้พี่จันทำงานนี้สำเร็จโดยเร็ว แค่นี้นะคะ?
?โธ่! น้องลี เดี๋ยว! น้องลี! น้องลี!?
ปลายสายตัดบทการสนทนาด้วยการวางสายไปเสียแล้ว จันทิมาพยายามกดโทรหา แต่วฬาลีปิดเครื่องหนีไม่ยอมพูดคุย เพิ่งเข้าใจเหตุผลที่แท้จริง นี่เองที่น้องลีจัดแจงให้เธอแต่งหน้าแต่งตัว ก็เพราะวางแผนไว้แต่แรกว่าจะให้จันทิมาเป็นตัวแทน บอกทุกคนว่าจะมาพบคุณธรณ์เพื่อทำความรู้จักในขณะที่คุณลุงภักดีไม่อยู่ เพราะมีแต่คุณลุงภักดีที่เคยพบกับวฬาลี ถ้าโทรไปบอกคุณลุงพัฒนะให้ทราบเรื่องแล้ววฬาลีทำตามที่ขู่ไว้ หนีเตลิดไปกับคนรักที่เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จันทิมาคิดหาหนทางให้ตัวเองไม่ออกจริงๆ
?คุณหนูวฬาลีใช่ไหมครับ??
เสียงทุ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีเอ่ยทักมาจากด้านหลัง จันทิมาค่อยๆ หันกลับมามองอีกฝ่ายด้วยสายตาสับสนของคนที่กำลังพบปัญหาใหญ่และไม่รู้จะทำอย่างไรดี รอยยิ้มอบอุ่นของชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทำให้จันทิมาต้องกลืนน้ำลายและเมินสายตาไปทางอื่นก่อนตอบ
?ค่ะ?
ไม่เคยต้องโกหกคำโตขนาดนี้มาก่อน เธอเนี่ยนะ! จันทิมาจะเป็นวฬาลีได้อย่างไร แต่ก็คิดหาหนทางอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ คงต้องไปพบคุณธรณ์เสียก่อน แล้วจากนั้น... แล้วจากนั้นจะทำอย่างไรต่อ?! จันทิมาก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน
?ผมเป็นพ่อบ้านของบ้านภาสวรรณรักษ์ครับ ชื่อไพบูลย์ เรียกนายบูลย์ก็ได้?
ไพบูลย์ทำท่าเหลียวมองซ้ายขวา ?คุณพัฒนะแจ้งว่าจะมากันสองท่าน แล้วอีกท่านไม่ทราบไปไหนหรือครับ??
?เขานัดเจอเพื่อนไว้ที่นี่ เลยมาด้วยกัน...? จันทิมากลืนก้อนแข็งๆ ในลงคอก่อนเอ่ยประโยคต่อไป ?แต่เขาไปหาเพื่อนที่นัดไว้แล้วค่ะ?
ตอบไปด้วยน้ำเสียงเบาหวิวราวกับกระซิบ ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะโกหกออกไปอีก ทั้งที่หลบตา น้ำเสียงสั่นระริก และมือก็เย็นเฉียบขนาดนี้
?อย่างนั้นหรือครับ? น่าเสียดายจริง คราวหน้าเราคงได้มีโอกาสต้อนรับครอบครัวและเพื่อนของคุณหนูทุกท่านนะครับ?
?ค่ะ?
จันทิมาก้มหน้าก้มตาตอบ จะได้มีคราวหน้าหรือเปล่า? ถ้าเธอทำตามที่วฬาลีต้องการไม่สำเร็จ หรือถ้าลุงพัฒนะทราบเรื่องนี้เข้า คงไม่มีคราวหน้าสำหรับจันทิมาอีกแล้ว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากที่อาละวาดจนบ้านแทบแตกไปแล้ววฬาลีก็คิดแผนการหนึ่งขึ้นมา ในเมื่อบิดาดูจะรู้เห็นเป็นใจให้หล่อนแต่งงานกับไอ้หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบนั่นเหลือเกิน วฬาลีจึงยัดเหยียดภาระนี้ให้พี่สาวห่างๆ ที่หล่อนไม่คิดจะนับถือสักเท่าไหร่ จึงขอร้องแกมสั่งให้ ?จันทิมา? ติดตามหล่อนไปเที่ยวบ้านติดชายหาดของว่าที่คู่หมั้น อีกทั้งจับจันทิมาแปลงโฉมจากสาวรุ่นป้าซึ่งพี่สาวต้องทำตามอย่างไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรได้ แล้ววฬาลีก็หนีหายไปกับคนรัก มีแต่คำสั่งให้จันทิมาทำหน้าที่คุณหนูลีจำเป็น จันทิมาจำใจพูดปดด้วยการโกหกออกไปว่าตัวเองคือคู่หมั้นของ ?ธรณ์? ความจำเป็นนี้ทำให้จันทิมารู้สึกผิดและคิดจะบอกความจริงทุกอย่าง แต่เมื่อได้มาเจอผู้ชายเจ้าเล่ห์อวดดีอย่างธรณ์เข้า จันทิมาจึงคิดจะสั่งสอนให้รู้จักความรักเสียบ้าง
?คุณเป็นของผมโดยสมบูรณ์และถูกต้องแล้ว คืนนี้ผมจะใช้สิทธิ์ของผมอย่างเต็มที่? ชายหนุ่มลูบไล้ใบหน้าสวยอย่างเป็นเจ้าของ แนบความแข็งแกร่งอันร้อนผ่าวกับกายสาวอันอ่อนนุ่ม ?พร้อมแล้วใช่ไหมที่รัก??
