รัฐวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา
เช้าวันแรกของการทำงาน หน้าสำนักงานหน่วยข่าวกรองของสหรัฐเต็มไปด้วยนักข่าวเศรษฐกิจที่มาจากทั่วสารทิศ เพราะวันนี้มีการนำผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมอาวุธสงครามล็อตใหญ่เมื่อสามวันที่แล้วเข้าพบเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ
หนึ่งในนั้นคือภาคิน แลมพาร์ก ประธานบริหารแลมพาร์กกรุ๊ป มหาเศรษฐีเลือดผสมไทย-อเมริกัน ผู้ที่กุมตลาดด้านอสังหาริมทรัพย์และพลังงานเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในสหรัฐเมริกา จึงทำให้นักข่าวจากทุกสำนักให้ความสนใจและต้องการรู้ความจริงเรื่องนี้
เมื่อขบวนรถคันหรูสามคันวิ่งมาจอดหน้าบันไดทางขึ้นอาคาร นักข่าวก็กรูเข้าไปหา
?มาแล้ว?มาแล้ว?? เสียงนักข่าวสาวคนหนึ่งตะโกนบอกเพื่อนร่วมอาชีพ ตำรวจที่อยู่ในรถนำขบวนรีบเปิดประตูออกมากันกองทัพนักข่าวให้ออกห่างจากรถแวนคันใหญ่
ชายฉกรรจ์สวมสูทสากลสีดำนับสิบก้าวลงมายืนรออารักขาบุคคลสำคัญ ไม่นานร่างสูงสง่าสวมสูทสีเข้มของภาคิน แลมพาร์กก็ก้าวลงมายืนกับพื้น ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาถูกปิดบังด้วยแว่นกันแดดหนา แต่ทุกอย่างบนเครื่องหน้ารวมไปถึงแววตาที่ซ่อนอยู่ภายใต้แว่นกันแดดนั้นเรียบลึกจนยากที่คนอื่นจะรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ยกเว้นคนใกล้ชิดอย่างเรส แลมพาร์ก น้องชายต่างมารดาเท่านั้นที่รู้ว่ายามนี้พี่ชายโกรธแค้นคนที่กล้าดึงแลมพาร์กเข้าไปเกี่ยวข้องมากแค่ไหน
?หลีกทางด้วยครับ?? การ์ดคนหนึ่งกล่าวขอทาง เพื่อให้ร่างสูงสง่าก้าวผ่านไปช้าๆ แต่มั่นคง กองทัพนักข่าวก็ยังกรูเข้าไปล้อมหน้าล้อมหลังเพื่อที่จะถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
?ขอสัมภาษณ์สักครู่นะคะท่าน?? ภาคินผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วหยุดยืนที่เชิงบันไดพร้อมกับหันไปมองนักข่าว เรสหันไปมองหน้าคมอย่างเห็นใจ
?ผมมีเวลาให้เพียงห้านาทีครับ หลังจากนั้นจะมีการแถลงข่าวที่ตึกทำการของแลมพาร์ก??
สิ้นเสียงทรงอำนาจ นักข่าวต่างแย่งกันถามจนฟังไม่ได้ศัพท์ เรสยกมือห้ามและชี้ตัวนักข่าวที่มีสิทธิ์ถาม
?สามคำถามในห้านาทีคงพอนะครับ เชิญคุณก่อนเลยครับ?? เรสชี้ไปที่นักข่าวชายคนหนึ่ง และคำถามที่ทุกคนพยายามจะถามแต่ภาคินไม่อยากตอบก็ดังขึ้น
?อาวุธสงครามพวกนั้นเป็นของแลมพาร์กอย่างที่คนร้ายกล่าวอ้างจริงหรือเปล่าครับ??
ภาคินคลี่ยิ้มให้นักข่าว แล้วตอบออกไปอย่างชัดเจนและจริงจัง
?เวลานี้ถ้าผมจะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็คงไม่ได้ เพราะเอฟบีไอมีทั้งหลักฐานและพยานบุคคล แลมพาร์กเองก็ได้ตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้วด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกกับทุกคน แลมพาร์กทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจพลังงานมานานหลายช่วงอายุคน และผม...ในฐานะประธานคนปัจจุบันก็ยังยืนยันนโยบายเดิม เราไม่มีนโยบายทำลายล้างชีวิตผู้บริสุทธิ์ครับ มีแต่จะส่งเสริมให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการมีที่อยู่อาศัยที่ครบบริบูรณ์ท่ามกลางเทคโนโลยีที่ทันสมัย??
?เป็นไปได้ไหมคะว่าคู่แข่งของแลมพาร์กอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?? ภาคินชำเลืองมองหน้าน้องชายแล้วยิ้มส่งให้คนถาม
?เรื่องนั้น...อีกไม่นานทุกอย่างจะกระจ่างครับ??
?ขออีกหนึ่งคำถามได้ไหมคะ??
?ผมว่าแค่นี้ก่อนนะครับ เพราะท่านนายพลแฮมบิทรอพวกเราอยู่ ถ้าใครสงสัยหรือใคร่จะถามเรื่องอื่นๆ กรุณาไปรอที่ชั้นล่างของตึกแลมพาร์กนะครับ??
เรสตัดบทและดุนหลังพี่ชายเดินเข้าไปในอาคารของหน่วยกรองสอบสวนคดีพิเศษ
?อย่าให้รู้นะว่าใครอยู่เบื้องหลัง พ่อจะยิงให้สมองกระจายเลย?? เรสสบถออกมาอย่างหงุดหงิด ภาคินหันไปมองคนข้างตัวและยิ้มบางๆ บนใบหน้า
?ใจเย็นๆ เรส อีกไม่นานหนูที่มุดหัวอยู่ในรูมันก็จะออกมาเพ่นพ่านแน่ แค่เราแกล้งโง่เปิดทางอีกหน่อยเพื่ออ่อยมัน ความโลภจะทำให้มันออกมาหาเราแน่นอน??
ภาคินบอกอย่างมั่นใจขณะเดินไปหยุดหน้าห้องทำงานของนายพลแฮมบิท ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกรมสอบสวนคดีพิเศษ
?แต่ผมว่าปัญหาใหญ่ของเราคือทำยังไงให้คนในห้องเชื่อในสิ่งที่เราบอก?? เรสเอ่ยเสียงเครียด แต่คนเป็นพี่ไหวไหล่และหยิบแว่นกันแดดออกจากสันจมูกโด่ง
?นายลืมไปแล้วเหรอว่า พี่ชายของนายเคยทำอะไรมาก่อน?? เรสตาโตมองหน้าคมเข้มเมื่อนึกได้ว่าพี่ชายเคยทำงานสายลับมาก่อน ภาคินยิ้มที่มุมปากและใช้ขาแว่นตาชี้ที่อกเรส
?พี่อย่าบอกนะว่าจะกลับไปอยู่ในดงกระสุนอีกอ่ะ??
?ถ้านายโอเค?? ภาคินต่อให้ แต่เรสทำหน้าเหมือนคนกำลังจะไปออกรบ ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นเสมออกเพื่อปฏิเสธวิธีการของคนตรงหน้า
?โนเคครับท่านประธาน เพราะผมไม่ชอบทำงานบนหอคอย?? เรสรีบบอก เพราะเขาชอบงานที่ต้องตระเวนไปรอบโลกมากกว่าจะนั่งบัญชาการอยู่ที่ตึกแลมพาร์ก
?สองคนนั่นจะคุยกันอีกนานไหม ตาแก่อย่างฉันจะได้กลับไปรอที่บ้าน?? เสียงแหบพร่าของนายพลแฮมบิทดังมาจากด้านใน ทำเอาสองหนุ่มต้องหยุดการสนทนาโดยปริยาย
ภาคินเปิดประตูเข้าไปในห้องโดยมีเรสเดินหน้าบึ้งตามเข้ามา
?สวัสดีครับท่าน ต้องขอโทษที่ทำให้รอครับ?? ภาคินยื่นมือไปจับกับนายพลใกล้เกษียน แล้วคลายมือออกเพื่อให้เรสเข้าไปทักทาย
?สวัสดีทั้งสองคน รู้สึกว่าเที่ยวนี้จะโดนเล่นของหนักนะ?? นายพลแฮมบิทเอ่ยทักทายอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะผายมือเชิญแขกนั่งลงหน้าโต๊ะทำงาน สายตาคมเข้มของภาคินมองรอบห้องทำงานใหญ่ของคนที่มีศักดิ์เป็นอา ก่อนจะหยุดสายตาที่กระจกทึบบานใหญ่ที่ใช้แทนผนัง ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มและยกมือถูที่หางตาซ้ายเบาๆ เพราะรู้ว่าเบื้องหลังกระจกทึบนั้น คงมีนายตำรวจระดับสูงหลายคนยืนดูการสอบสวนอยู่เป็นแน่
?ทำไมไม่เชิญคนที่ยืนอยู่ข้างนอกเข้ามาฟังด้วยละครับท่านนายพล?? นายพลแฮมบิทหัวเราะในลำคออย่างถูกใจ ที่ภาคินยังคงมีไหวพริบและคาดการณ์ได้เยี่ยมเช่นเดิม
?การสอบสวนเที่ยวนี้เป็นการสอบสวนเชิงลึก คนที่อยู่ด้านนอกทำงานที่เอฟบีไอ ซีไอเอ และท่านรัฐมนตรีกลาโหม??
?ระดับบิ๊กๆ แบบนี้สงสัยท่านๆ คงจะว่าง??
?ไม่เลยเรส พวกเขามาเพื่อเป็นพยานในการสอบสวนและฟังแผนการของเรา?? ภาคินเหลือบตามองและถอนหายใจเบาๆ
?กองทัพมีส่วนกับการใส่สีแลมพาร์ก?? ภาคินยิงคำถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึม นายพลแฮมบิทยังคงใจเย็น ใบหน้ายับย่นแววตาพร่าเลือนมองอดีตสายลับมือดีที่เป็นถึงทายาทมหาเศรษฐีคนดังอย่างภูมิใจ
?ก็ไม่เชิง อาวุธนั่นเป็นของคนร้ายกลุ่มหนึ่งที่พยายามจะส่งไปแบกแดด โชคดีที่เราสกัดไว้ได้??
?แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแลมพาร์กครับคุณอา?? เรสถามอย่างเหลืออด และรู้สึกว่าตัวเองถูกดึงมาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติไปแล้ว
นายพลชราหยิบเอกสารบางอย่างวางตรงหน้า ภาคินและเรสหยิบมาอ่านรายละเอียดคร่าวๆ
?อาวุธสงครามพวกนั้นถูกผลิตขึ้นที่ทางตอนเหนือของวอชิงตัน และขนย้ายโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแลมพาร์ก โดยลายเซ็นคนอนุมัติขนไปที่ท่าเรือคือภาคิน แลมพาร์ก??
ภาคินมองลายเซ็นที่อยู่ด้านล่างของกระดาษอย่างแปลกใจ
?บัดซบ...ใครมันกล้าปลอมลายเซ็นฉันวะ?? ภาคินทิ้งเอกสารลงบนโต๊ะอย่างหัวเสีย
?ถ้าให้ฉันเดา คงมีใครยืมมือแลมพาร์กทำเรื่องสกปรกพวกนี้??
นายพลแฮมบิทเบ้ปากและชี้ไปที่เอกสาร
?ผมจะเด็ดหัวมันเอง??
?อย่าวู่วามเรส คนพวกนี้ทำงานเป็นขบวนการ?? นายพลแฮมบิทอธิบาย
?แต่เราไม่เกี่ยวข้องด้วยเลยนะครับอา?? เรสลุกขึ้นโวยวาย ภาคินส่งสายตาไปปราม เรสจึงยอมนั่งลงที่เดิม
?เรารู้ว่าภาคินและแลมพาร์กไม่เกี่ยวกับเรื่องอาวุธนั่น แต่ที่เรียกมาสอบสวนเพื่อต้องการให้ร่วมมือกับเรา?? ภาคินสบตากับคนตรงหน้าเขม็ง
?ท่านต้องการอะไรพูดมาตรงๆ ดีกว่าครับ??
?นี่เป็นรายละเอียดที่เราได้มาจากสายลับคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว?? เสียงแหบพร่าเศร้าในตอนท้ายเมื่อคิดถึงเพื่อนเก่าที่ถูกฆ่าตายไปเมื่อหลายปีก่อน โดยทิ้งความลับต่างๆ เอาไว้กับบุตรสาว
?นี่มัน...โทมัสกับรามิเรสนี่ครับ?? เรสเงยหน้าถามอย่างสงสัย แต่ภาคินไม่แปลกใจมากนักเพราะรู้มาบ้างว่าธุรกิจของคู่แข่งอย่างรามิเรสไม่ได้ขาวสะอาดเท่าไหร่นัก แต่ไม่คิดว่าจะมีคนของแลมพาร์กเข้าไปมีส่วนด้วยเท่านั้นเอง
?นั่นแหละคือผู้ต้องสงสัยตัวจริง แต่ที่อาให้ภาคินมาวันนี้ก็เพื่อจะให้ช่วยสืบเรื่องนี้ให้หน่อย เพราะมีไม่กี่คนที่รู้ว่าภาคินเป็นสายลับมาก่อน??
?อาจะให้ผมหาหลักฐานเอาผิดกับรามิเรสใช่ไหมครับ??
?นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่มีอีกงานที่อาอยากให้ช่วย?? นายพลแฮมบิทมองหลานชายทั้งสองคนแล้วยิ้มอย่างถูกใจที่เห็นเรสนั่งหน้าบอกบุญไม่รับ ที่ถูกมัดมือชกให้นั่งอยู่บนหอคอย
?เรื่องอะไรครับ??
?คุ้มครองผู้หญิงคนหนึ่ง?? ภาคินขยับจะค้านเพราะเขาไม่ชอบทำงานกับผู้หญิง แต่ถ้าให้มีอะไรด้วยเขาสู้ไม่ถอย
?เธอสำคัญยังไงครับ ถึงให้พี่คินไปคุ้มครอง?? มือยับย่นของนายพลชราหยิบรูปสาวสวยคนหนึ่งวางบนโต๊ะแล้วเลื่อนไปตรงหน้าภาคิน
?ทับทิม ดาวัลโญ่ เจ้าของไร่ดาวัลโญ่?? ภาคินสบตากลมโตของคนในรูปหัวใจก็กระตุกแปลกๆ ขึ้นมาทันที ?เธอเป็นลูกสาวเพื่อนอาเอง ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย??
?ทำไมอาไม่พาเธอมาดูแลเองเสียล่ะครับ เรื่องจะได้จบๆ ผมก็ไม่ต้องนั่งอยู่บนหอคอยด้วย?? นายพลหัวเราะกับวาทะของหลานชายคนเล็ก
?ทำไมต้องดูแลเธอด้วยครับ?? ภาคินถามอย่างต้องการคำอธิบาย
?เพราะพื้นที่บริเวณนั้นมีการสำรวจพบสายแร่ชนิดหนึ่งที่จะนำไปผลิตอาวุธสงคราม และทีมงานสำรวจทั้งหมดถูกฆาตกรรมเมื่อหลายปีก่อน...ยกเว้นพ่อของรามิเรส แล้วความลับเรื่องนี้ก็รั่วออกไปถึงหูคนโลภ พวกมันกว้านซื้อที่บริเวณใกล้เคียงจนหมดเพื่อบีบให้เธอขาย แต่เธอก็สู้ไม่ถอยและไม่ยอมขายให้ใคร??
?เก่งขนาดนั้นทำไมต้องดูแลครับ?? ภาคินถามเสียงเรียบและหยิบภาพหญิงสาวขึ้นมาดูใกล้ๆ เรสชำเลืองมองใบหน้าคมและเอนตัวไปถาม
?ถ้าไม่อยากดูแลเปลี่ยนผมไปแทนก็ได้นะครับท่านพี่ รับรองยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเด็ดขาด?? เรสเสนอตัวอย่างขี้เล่น
?ผู้หญิงจะเก่งไปได้สักกี่น้ำ อาได้ข่าวมาว่ารามิเรสสนิทกับเธอมาก อาเกรงว่าเขาจะใช้วิธีสกปรกยึดที่จากเธอ??
?ถ้าเธอไม่เต็มใจให้ผมคุ้มครองล่ะครับ??
?อารู้ว่าคินมีวิธี แต่ยังไงสืบทั้งสองเรื่องไปพร้อมๆ กันเลยจะได้ไม่เสียเวลา??
ภาคินไม่สามารถปฏิเสธภารกิจนี้ได้ เพราะมีชื่อเสียงของแลมพาร์กเป็นเดิมพัน มือหนาหยิบภาพหญิงสาวใส่กระเป๋าเสื้อ นั่นถือว่าเขายอมทำตามเงื่อนไข
นายพลแฮมบิทยิ้มและลุกขึ้นยืน
?ยินดีต้อนรับสายลับรหัสศูนย์ศูนย์สาม??
นายพลยื่นมือไปรอด้านหน้า ภาคินลุกตามและยื่นมือไปจับเขย่าเบาๆ
?ผมจะทำให้เต็มที่ครับ?? เมื่อทุกอย่างลงตัว คนที่ยืนฟังอยู่หลังกระจกบานทึบก็ทยอยกันเข้ามาในห้องและจับมือยินดีที่ได้ร่วมงานกับชายหนุ่มอีกครั้ง
มีเพียงเรสที่นั่งหน้าตรึงอยู่ที่เดิม แต่ภาคินรู้ดีว่าน้องชายต่างมารดาเต็มใจที่จะนั่งอยู่บนหอคอย ที่ทำหน้าบึ้งอยู่แบบนั้นเพราะไม่ได้เตรียมใจไว้มากกว่า เสร็จงานนี้เขาคงต้องวางมือจากงานสายลับจริงจังเสียที หรือบางทีอาจจะหาใครสักคนมาดูแลและมาแชร์ชีวิตด้วยท่าจะดี ชีวีจะได้ไม่เหงา?ภาคินยิ้มอย่างครึ้มใจกับความคิดของตัวเอง
??????
สถานีรถบัสในเมืองเล็กๆ ของเมาต์เวอร์นอนในรัฐวอชิงตัน
ร่างโปร่งระหงของทับทิม ดาวัลโญ่ อยู่ในชุดกางเกงยีนสีซีดกับเสื้อเชิ้ตตาหมากรุกน้ำตาลสลับดำ ยืนพิงประตูรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่อยู่หน้าร้านกาแฟ นาฬิกาที่ข้อมือบางถูกยกขึ้นดูเวลาอยู่เป็นระยะ ไม่นานรถบัสสีเหลืองก็วิ่งผ่านหน้าเธอไปจอดข้างฟุตปาธ แล้วร่างกลมป้อมของเด็กชายวัยสี่ขวบที่หน้าตาคล้ายกันราวกับแกะก็กระโดดลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่มายืนยิ้มให้เธอ
?อาทิม?? เสียงใสของเด็กชายภูเบตและราเมศหลานชายวัยซนดังขึ้นพร้อมๆ กัน ทับทิมยิ้มอย่างดีใจแล้วกางแขนรับสองร่างที่วิ่งเข้ามาหา
?สวัสดีครับสองแสบของอาทิม?? ลำแขนกลมป้อมโอบกอดอาสาวอย่างดีใจ ภูเบตและราเมศเป็นลูกชายของอารอน พี่ชายคนโตของทับทิมที่ทำงานด้านกฎหมายอยู่ในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในวอชิงตัน พอปิดเทอมก็จะส่งลูกๆ มาอยู่เป็นเพื่อนเธอและลีลา น้องสาวที่เป็นหมออยู่ในเมือง
?คิดถึงอาทิมที่สุดในโลกเหรอครับ?? ภูเบตบอกพลางยื่นปากแดงไปจุ๊บแก้มนวล เล่นเอาหนุ่มๆ ที่เดินผ่านอิจฉาและหันไปมองอย่างสนใจ
?อาก็คิดถึงเราสองคนมากรู้ไหม?? ทับทิมวางมือบนศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมหยักศกสีน้ำตาลไปมาอย่างเอ็นดู ?กลับบ้านกันนะ อาให้แมรี่ทำของโปรดเราสองคนไว้เพียบเลย??
?ไชโย รักอาทิมที่สุดเลย?? ราเมศกระโดดเกาะบ่าบางจนทับทิมเซไปชนกับชายร่างยักษ์ที่เดินผ่านมา แต่ก่อนจะล้มพร้อมหลานชาย วงแขนแข็งแรงของใครคนหนึ่งก็คว้าเอวเธอไว้
?โอ้?ขอโทษค่ะ ฉันกับหลานไม่ทันระวัง?? มือบางกอดร่างราเมศแนบอกอย่างปกป้อง ทำให้สองอาหลานตกอยู่ในวงแขนแข็งแรงของชายแปลกหน้าโดยปริยาย
?ระวังหน่อยคุณผู้หญิง?? เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูดึงสติของหญิงสาวกลับมา ใบหน้าเรียวสวยเงยขึ้นมองหน้าคมสันที่ถูกซ่อนไว้ใต้แว่นตากันแดดอันใหญ่ แต่เธอมั่นใจว่าเขามองเธออยู่เช่นกัน หัวใจแกร่งของภาคินกระตุกแรงอีกครั้งเมื่อสบตากลมโตของเธอ
?เอ่อ?ขอบคุณค่ะ?? รัศมีของความร้ายกาจและอ่อนโยนที่กระจายอยู่รอบตัวชายหนุ่ม ทำให้ทับทิมอุ้มหลานเบี่ยงตัวออกจากวงแขน
?ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีช่วยโดยเฉพาะสาวๆ ?? เขายิ้มให้แล้วก้มมองภูเบตที่ขยับไปยืนด้านหน้าอาสาวและยกมือผลักขาแข็งแรงของเขาให้ขยับออกห่าง ภาคินหัวเราะเบาๆ แล้วยอมถอยออกมาสองก้าว ?ลูกชายคุณท่าทางจะหวงแม่นะครับ??
?อย่ายุ่งกับอาทิม ถ้าไม่อยากเจ็บตัว?? ภูเบตบอกพลางทำแก้มป่องเพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ ภาคินมองรอบตัวก่อนจะก้มไปยิ้มให้เด็กชาย
?วันนี้คงไม่ยุ่งเพราะมีธุระ เอาไว้วันหน้าจะไปจีบให้ถึงบ้านนะเจ้าหนู?? ภาคินโยกศีรษะภูเบตไปมาแล้วเดินผละไป
?ไม่มีทางหรอก?? ภูเบตตะโกนไล่หลังแล้วใช้ปลายนิ้วปัดปลายจมูกเหมือนนักเลงโต ทับทิมส่ายหน้ายิ้มๆ กับท่าทีหลานชาย
?ไปเถอะจ้ะ?? มือข้างที่ว่างเปิดประตูและวางราเมศนั่งบนเบาะ แล้วย่อตัวอุ้มภูเบตขึ้นไปนั่งข้างกัน ร่างงามเดินอ้อมไปขึ้นประจำที่คนขับและขับออกไป โดยมีสายตาคมเข้มของภาคินที่แอบอยู่มุมตึกมองท้ายรถไปจนกระทั่งลับตา ร่างสูงออกจากที่ซ่อนเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ริมฟุตปาธและขับตามไปเรื่อยๆ
ทับทิมขับรถไปตามถนนด้วยความปกติ โดยมีเสียงพูดคุยของสองแสบดังอยู่ข้างๆ เรื่องราวของพี่ชายที่ไม่ได้พบกันมาหลายเดือน กับเรื่องของเพื่อนๆ ในโรงเรียนถูกบอกเล่าจากริมฝีปากแดงอย่างสนุกสนาน บางครั้งก็แย่งกันเล่าความประทับใจให้อาสาวฟัง และพอจบเรื่องของตัวเองสองหนุ่มน้อยก็หันไปมองคนขับพร้อมกัน
?เราไม่อยู่มีใครมารังแกอาทิมหรือเปล่าฮะ?? ราเมศถามอย่างเป็นงานเป็นการ จนทับทิมหันไปยิ้มให้หลานชายจอมแสบ
?ใครจะกล้า มีหลายชายเก่งขนาดนี้?? เธอยิ้มอย่างล้อเลียน พอหันกลับไปมองถนนเธอก็ต้องเหยียบเบรกจนตัวโก่งเมื่อรถยุบลงไป ทับทิมตกใจรีบจอดรถข้างทาง
?รถเป็นไรครับ?? ภูเบตหันไปถาม
?ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ แต่ดูเหมือนว่าเราจะเจอปัญหาที่ล้อรถแล้ว?? เธอตอบแล้วเปิดประตูลงไปดู ?เฮ้อ?แบนได้ไง??
ทับทิมอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นล้อหน้าแบนทั้งสองล้อ ภูเบตยื่นหน้าไปวางที่ขอบประตู
?ทำไงดีครับอา?? ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบ รถของภาคินก็วิ่งไปจอดต่อท้าย ทับทิมหันไปมองอย่างระวังตัว
?รถเป็นอะไรครับคุณผู้หญิง?? ภาคินเปิดประตูลงไปถาม ก่อนจะก้มมองล้อรถฝั่งคนขับ ?โชคร้ายไปหน่อยนะคุณ แบนทั้งสองล้อเลย??
?คุณนั่นเอง มาทำอะไรแถวนี้คะ?? เธอถามพลางมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
ภูเบตและราเมศเปิดประตูลงไปยืนข้างอาสาว
?ผมก็ขับรถมากินลมชมวิวไปเรื่อยๆ?? ภาคินมองความเขียวชอุ่มรอบตัว ?ให้ผมช่วยอะไรไหม??
?ไม่เป็นไรค่ะ เปลี่ยนยางเสร็จก็คงวิ่งได้เหมือนเดิม และฉันคิดว่าการเจอกันถึงสองครั้งคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่??
ร่างสูงเอนตัวพิงกับตัวรถและมองถนนที่เพิ่งวิ่งผ่านมา
?การเจอกันของเราเป็นเรื่องบังเอิญคุณผู้หญิง แต่รถที่กำลังวิ่งมาทางนั้นอาจจะจงใจมาที่นี่ เร็วครับ พาหลานคุณไปหลบหลังต้นไม้นั่น?? ภาคินบอกหน้าเครียดเมื่อเห็นรถกระบะวิ่งเข้ามาใกล้ ทับทิมยังคงยืนมองเขาอย่างไม่เข้าใจจนกระทั่งชายหนุ่มต้องสั่งอีกครั้ง ?ไปเร็วเข้า??
ภาคินหยิบปืนออกจากเอว และดุนสามอาหลานออกวิ่ง ทับทิมตกใจ รีบจับมือหลานชายวิ่งไปตามคำสั่ง ภาคินหลบอยู่ข้างรถ มองคนชุดดำสามคนเล็งปืนมาที่รถของทับทิม แล้วเสียงปืนก็ดังขึ้นติดๆ กันหลายนัด
ปังๆๆๆๆ?ทับทิมกดศีรษะหลานชายกับอกอย่างหวาดหวั่น ภาคินยิงสวนกลับไปถูกพวกมันคนหนึ่งล้มลง พอเห็นเพื่อนตายพวกมันก็กระโดดลงมาและกราดยิงเข้าใส่ไม่ยั้ง ภาคินก็ยิงตอบโต้อย่างแม่นยำ คนขับเห็นท่าไม่ดีก็ขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว ภาคินไล่ยิงตามไปแต่ไม่ทัน
แม้เสียงปืนเงียบไปนาน แต่ทับทิมก็กอดร่างกลมป้อมแน่นอย่างปลอบโยน
?ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ปลอดภัยแล้วนะ?? หลานชายพยักหน้าพร้อมกันแล้วเดินออกมาพร้อมอาสาว ภาคินมองใบหน้าซีดขาวกับท่าทีหวาดวิตกของหญิงสาวอย่างสงสาร
?ศัตรูเก่าคุณเหรอ??
?ฉันไม่เคยมีศัตรูที่ไหน??
?แปลก กลางวันแสกๆ แบบนี้มันคงยิงไม่ผิดตัวแน่?? ภาคินบอกอย่างไม่ต้องการคำตอบและรู้สึกห่วงคนตรงหน้าขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะดูจากความแม่นยำในการใช้ปืนของคนพวกนั้น ไม่ใช่นักเลงกระจอกแต่เป็นลูกน้องเจ้าพ่ออย่างแน่นอน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
งานแต่งสายฟ้าแล่บของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์อย่าง ?ภาคิน? กับ ?ทับทิม? เจ้าสาวที่มีอาณาเขตไร่กว้างขวางแถมที่ตรงนั้นยังมีสายแร่สำคัญที่ทุกคนอยากครอบครอง กลายเป็นเรื่องทอคออฟเดอะทาวน์ที่ทุกคนฮือฮาในชั่วเวลาแค่ข้ามคืน ด้วยเพราะเจ้าบ่าวไม่อยากที่จะซ้อมบทเข้าหอกับทัมทิมอีกแล้ว มันถึงเวลาแห่งความสุขเสียทีเพราะทั้งสองผ่านวิกฤตมาจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ภาคินก็ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องผู้หญิงที่เขาไม่เคยรู้จัก เพราะทันทีที่ได้เจอทับทิมเขาก็รู้ต้องสลัดคราบคาสโนว่าให้สิ้นซาก พร้อมทั้งหาเหตุผลที่ดีที่สุดว่าทำไมเขาจึงต้องปลอมตัวเข้ามาที่ไร่แห่งนี้
?เปลี่ยนใจไม่ทันแล้วเมียจ๋า ไหนๆ พรุ่งนี้จะเข้าหอแล้ว เรามาซ้อมกันอีกสักรอบนะครับ?? เขาบอกเสียงพร่า ทับทิมร้องห้าม แต่สุดท้ายก็ไม่อาจต้านแรงเสน่หาที่เขาร่ายมนต์ ร่างงามจึงโอนอ่อนขับเคลื่อนไปตามจังหวะรักที่เขานำพาอย่างเต็มใจ
