ซาคาโมโตะ ริวอิจิ...
ฝาแฝดคนสุดท้องแห่งจตุรเทพมังกร ที่ว่ากันว่าเขามีความสามารถที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้...
เขาอายุ 20 ปี เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซนต์เฟมัส คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา ชั้นปีที่ 2
เขาเป็นนักกีฬาที่ไม่สามารถระบุประเภทได้
กล่าวคือ... ริวอิจิเป็นนักกีฬาทุกชนิดที่มีอยู่บนโลกใบนี้!
ซาคาโมโตะ ริวอิจิ เป็นมือวางอันดับหนึ่งในการแข่งขันเก้าอี้ดนตรีสมัยอนุบาลสามปีซ้อน (ก็นับว่าเป็นกีฬาของเด็กเล็กน่ะนะ) เป็นเจ้าพ่อการแข่งขันชักเย่อ วิ่งเปี้ยว วิ่งกระสอบ สมัยเรียนอยู่ชั้นประถม จนถูกครูประจำชั้นสั่งห้ามลงแข่งขันเพื่อที่จะได้แบ่งรางวัลให้กับคนอื่นบ้าง
และพอก้าวเข้าสู่มัธยม ริวอิจิก็ปลดปล่อยพละกำลังอันเหลือเฟือด้วยการสมัครเข้าชมรมกรีฑา บาสเกตบอล ฟุตบอล วอลเลย์บอล เทนนิส แบดมินตัน ฟันดาบ รักบี้ ยูโด เทควันโด คาราเต้ มวยไทย เรือใบ เรือพาย ยิงธนู ว่ายน้ำ เปตอง ปิงปอง และอีกมากมาย
ซึ่งไม่ใช่ว่าเขาแค่เล่นเป็นเท่านั้น ในบรรดารายชื่อกีฬาที่ร่ายมาทั้งหมด คงต้องกล่าวเพิ่มไปด้วยว่า... ริวอิจิคืออันดับหนึ่ง!
กระทั่งริวอิจิเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย เขาก็เริ่มเพลาๆ กิจกรรมกีฬาลงไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นทุกชมรมต่างก็ต้องการตัวเขา ริวอิจิจึงกลายเป็นนักศึกษาที่มีชื่ออยู่ในชมรมกีฬาเกือบทุกประเภทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สรุปก็คือ... ซาคาโมโตะ ริวอิจิ คือสุดยอดนักกีฬาที่มวลมนุษยชาติต้องการ!
ซาคาโมโตะ ริวจิน
ฝาแฝดคนที่หนึ่งของตระกูล ซึ่งปัจจุบันเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 กล่าวไว้ว่า...
?เพราะเหรียญทอง โล่รางวัล และใบประกาศนียบัตรของริวอิจิ ทำให้ห้องนอนของหมอนั่นมีขนาดใหญ่กว่าของพวกเรา -_- แต่มันก็เทียบไม่ได้กับขนาดห้องวิจัยของฉันหรอกนะ?
ซาคาโมโตะ เซริว
ฝาแฝดคนที่สอง นักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบตกแต่งภายใน ปัจจุบันเป็นนายแบบหนุ่มสุดฮอต เคยพูดเอาไว้ว่า...
?ถ้าผมเล่นกีฬาและออกกำลังกายได้เท่าริวอิจิ หุ่นของผมคงเฟิร์มกว่านี้แน่ แต่ช่างเหอะ... ผมขี้เกียจอาบน้ำหลังจากออกกำลังกายน่ะ -_-;?
ซาคาโมโตะ โอริว
ฝาแฝดคนที่สาม นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ ที่ควบตำแหน่งเจ้าของภัตตาคาร Dragon King Kitchen อันโด่งดัง เคยบอกเอาไว้ว่า...
?กลิ่นของริวอิจิทำให้เกิดพละกำลังและความฮึกเหิม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบดมกลิ่นตัวของมันหรอกนะ -_-?
และ...ซาคาโมโตะ ริวอิจิ
เคยพูดถึงตัวเองเอาไว้ว่า...
?ใช่ว่าจะมีแค่ผมที่มีความสามารถพิเศษนี่! ไอ้พวกนั้น... ผมหมายถึงริวจิน เซริว และโอริวน่ะ พวกเราต่างก็มีความสามารถพิเศษกันทั้งนั้นแหละ?
ใช่... เพราะสี่พี่น้องฝาแฝดจตุรเทพมังกรแห่งตระกูลซาคาโมโตะต่างก็มีความสามารถพิเศษที่เหนือธรรมชาติด้วยกันทั้งนั้น
และนี่...ก็คือเรื่องราวสุดแสนพิเศษของซาคาโมโตะ ริวอิจิ'
1
?ช่วยรับใบปลิวนี้ไว้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่า >_<?
?อ๊ะ ขอโทษนะค้า รับใบปลิวไว้หน่อยนะ เป็นการประชาสัมพันธ์ชมรมนักสืบค่า?
?ถ้าอยากให้ช่วยไขคดีปริศนา เชิญที่ชมรมนักสืบของเราได้เลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ?
?รับใบปลิวไว้หน่อยนะคะ จากชมรมนักสืบค่า?
โอ๊ะ หมดแล้วแฮะ >_<
เฮ้อ~ ในที่สุดใบปลิวโฆษณาชมรมนักสืบจำนวน 100 แผ่นของวันนี้ก็หมดลงจนได้ เหนื่อยสุดๆ ไปเลย นี่ขนาดว่าฉันเปลี่ยนสถานที่จากหน้าคณะบัญชีมาเป็นคณะนิเทศฯ แล้วนะ แต่นักศึกษาพวกนี้ก็ยังไม่ค่อยยอมรับใบปลิวจากฉันสักเท่าไหร่เลย เพราะส่วนใหญ่ต่างก็ส่ายหน้าหนี ไม่ยอมรับใบปลิวจากฉันบ้างล่ะ ขยำทิ้งต่อหน้าต่อตาบ้างล่ะ หรือพวกที่รับไปแล้วก็ยังมาบ่นไล่หลังให้ฉันได้ยินอีกต่างหาก
?อะไรเนี่ย เพราะคำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว... เชิญปรึกษาฟรีที่ชมรมนักสืบ เฮอะ ไร้สาระจัง?
T_T พูดแบบนี้ฉันเสียใจนะ...
แต่ช่างเถอะ ก็มันไม่มีวิธีไหนที่จะโปรโมทชมรมนักสืบของฉันได้ดีเท่านี้แล้วนี่นา ถึงใครจะไม่สนใจ แต่อย่างน้อยๆ ข้อความในกระดาษพวกนั้นก็คงจะผ่านตาพวกเขาไปบ้าง ไม่เหมือนกับตอนที่ฉันไปตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดของทางมหาวิทยาลัยหรอก เพราะที่นั่นน่ะนะ... ถึงจะเป็นเว็บบอร์ดสาธารณะที่นักศึกษาทุกคนมีสิทธิ์ใช้งานได้ก็จริง แต่นอกจากกระทู้ ?สี่จตุรเทพมังกร? แล้ว ก็ไม่มีคนสนใจที่จะเข้าไปดูกระทู้อื่นหรอก และกว่า 90% ในนั้น ก็เป็นกระทู้ที่เกี่ยวกับแฝดสี่อภินิหารเกือบทั้งหมดด้วยเหอะ -_-
กระทู้โปรโมทชมรมนักสืบของฉันน่ะ แค่สองชั่วโมงก็รันไปอยู่หน้าอื่น ขุดหากันแทบไม่เจอแล้วล่ะ T_T
เลิกบ่นดีกว่า ในเมื่อทำงานเสร็จแล้ว หัวหน้าชมรมนักสืบอย่างฉันก็ควรจะกลับไปสแตนด์บายที่ห้อง เผื่อว่ามีคนใช้บริการ ฉันจะได้ต้อนรับอย่างอบอุ่น >_<
ล้า ลา ลา~ ปูนาขาเก เฮ้ เฮ เห่~ เจนีวาลั้นลา เพราะเจอปูนาขาเก~ ฮูเร่!
ฉันเดินร้องเพลง (ที่แต่งขึ้นเอง >_<) อย่างอารมณ์ดี ระหว่างทางเดินกลับห้องชมรมซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ห้องคอมพิวเตอร์ของคณะบัญชีแห่งมหาวิทยาลัยเซนต์เฟมัสแห่งนี้ ที่นั่นเคยเป็นห้องเก็บของมาก่อน และมันก็ถูกทิ้งให้รกร้างว่างเปล่าจนน่าเสียดาย ฉันก็เลยไปขออนุญาตอาจารย์ประจำภาควิชาเพื่อขอใช้ห้องนั้นเป็นที่ประกอบการของชมรมนักสืบ ทีแรกอาจารย์ก็ไม่อนุญาตหรอก ท่านบอกว่าฉันไม่มีสิทธิ์ก่อตั้งชมรมอะไรแบบนี้ แต่เพราะฉันเป็นเด็กดีที่เข้าไปช่วยพิมพ์ข้อสอบของเด็กปี 1 ท่านก็เลยยอม (คือฉันทำงานหวังผลน่ะ -O-) แต่ก็มีข้อแม้ว่าฉันต้องไม่สร้างความเดือดร้อนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่อย่างนั้นห้องจะถูกยึด และชมรมก็จะถูกยุบทันที!
โอย น่ากลัวชะมัด >_<
ล้า ลา ลา~ ปูนาขาเก เฮ้... เอ๊ะ! O_O
((ชมรมนักสบ))
กรี๊ดดด! ทำไมป้ายหน้าห้องชมรมนักสืบที่ฉันบรรจงตัดสติ๊กเกอร์มาแปะไว้กับมือเมื่อเช้านี้ถึงกลายเป็น ?ชมรมนักสบ? ไปได้ล่ะ
สระอือหายไปไหน! ใครขโมยสระอือของฉันปายยย TOT~
โอ้ว ม่ายนะ เหลือแค่ ?ชมรมนักสบ? แบบนี้... มันไม่เป็นมงคลเอาเสียเลย!
มันต้องมีใครคิดจะลองดีกับเจนีวาคนนี้แน่ๆ แต่หึ... ฉันไม่สนหรอก แล้วคอยดูเถอะ นี่จะเป็นคดีแรกที่ฉันไขปริศนาได้ หลังจากก่อตั้งชมรมอย่างเป็นทางการ
ไอ้พวกมือบอนที่มาแกะสระอือของฉันไปจะต้องโดนลงโทษสถานหนัก!
แต่ก่อนอื่น... ฉันควรเติมสระอือให้กับ ?ชมรมนักสบ? นี่เสียก่อนสินะ =_=
ฉันกลับเข้ามาในห้อง หลังจากที่ใช้กล้องบันทึกภาพที่เกิดเหตุเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงหลักฐานต่างๆ ที่หน้าประตูนั่นด้วย มันน่าแปลกใจอยู่อย่างหนึ่งก็ตรงที่หน้าห้องชมรมของฉันมีฝุ่นมากมายผิดปกติ ราวกับถูกกวาดมาจากที่อื่นและมากองไว้ที่หน้าห้องชมรมของฉันแทน
ส่วนสระอือที่หายไปนั่น ฉันก็จัดการเอากระดาษสีดำไปแปะเรียบร้อยแล้ว ห้องชมรมของฉันกลับมาเป็น ?ชมรมนักสืบ? อีกครั้งอย่างน่าภาคภูมิ >_<
เอ่อ มัวแต่เม้าท์เพลิน ลืมแนะนำตัวเองเลย =O=
ฉันชื่อ ?เจนีวา? ค่ะ เป็นนักศึกษาคณะบัญชี ชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยเซนต์เฟมัสที่มีค่าเล่าเรียนแสนแพง T_T แต่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันเป็นเด็กทุน โชคดีที่ตอนมัธยมเรียนดีเกินพิกัด แถมยังเป็นนักเรียนที่น่าภูมิใจของที่นั่นอีกด้วย บรรดาผู้อำนวยการกับเหล่าคณาจารย์ทั้งหมดจึงส่งรายชื่อฉันให้เป็นเด็กนักเรียนดีเด่นที่ได้รับทุนการศึกษาให้เรียนฟรีที่มหาวิทยาลัยเซนต์เฟมัสแห่งนี้นี่เอง ฮี่ๆ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ฉันขึ้นทำเนียบเด็กนักเรียนที่น่าภูมิใจของโรงเรียนสตรีหนองอีค้อ (ชื่อโรงเรียนเก่าฉันเอง =O=) ก็เพราะว่าตอนที่ฉันเรียนอยู่ชั้น ม.5 ข้อสอบวัดระดับปลายภาคดันหายไปอย่างไร้ร่องรอย ฉันผู้ซึ่งตามติดชีวิตโคนัน เอ้ย! ผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนันเป็นพิเศษ ก็เลยอาสาตามสืบให้ และหลังจากนั้นเพียงสองวัน ฉันก็ไขคดีปริศนานี้จนกระจ่าง
ข้อสอบนั่นไม่ได้หายไปไหนเล้ย! พวกอาจารย์นั่นแหละที่ประมาทเลินเล่อเอาไปวางทิ้งไว้ในโรงอาหาร จนไอ้ตูบสุนัขที่ภารโรงเลี้ยงไว้คาบไปฟัดเล่นที่ข้างๆ เตาเผาขยะ โชคดีสุดๆ ที่ตอนฉันตามไปเจอ ข้อสอบนั่นยังถูกบรรจุอยู่ในซองเอกสารอย่างดี ไม่มีส่วนใดชำรุดทรุดโทรม
ในตอนนั้นเองที่ฉันได้ชื่อว่าเป็น ?เจนีวา สุดยอดนักสืบแห่งสตรีหนองอีค้อ?
น่าภูมิใจสุดๆ ไปเล้ยยย! >O<
แต่เอ่อ... เอาเข้าจริงฉันก็ไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้นหรอก ตอนนั้นที่ตามสืบหาข้อสอบจนเจอได้ก็อาศัยดวงล้วนๆ =O= ฉันไปไล่ถามข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องพร้อมกับประกาศก้องว่าจะไขคดีนี้ให้ได้ก็จริง แต่การที่ฉันสืบจนรู้ว่าข้อสอบอยู่กับเจ้าตูบ ก็เป็นเพราะเจ้าตูบดันมาคาบถุงลูกชิ้นปิ้งของฉันไป ซึ่งพอฉันวิ่งตามไปเอาคืน ถึงได้รู้ว่าข้อสอบนั่นก็อยู่ในฐานทัพของเจ้าตูบตัวน้อยนั่นเอง
ชู่ววว! ความลับนะ! >_< ได้โปรดอย่าไปบอกใครว่าฉันไขคดีปริศนานี้ได้เพราะความตะกละและขี้งกของตัวเองเลย
นั่นคือประวัติของฉันและที่มาของการที่ท่านผู้อำนวยการส่งฉันเข้าเรียนที่นี่ฟรีๆ โดยไม่เสียค่าเทอมสักบาท แต่ถึงอย่างนั้นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นก็แพงมากอยู่ดี ค่าหนังสือเอย ค่าเอกสารการเรียนรู้เอย แล้วไหนจะค่าทำกิจกรรมโน่นนี่นั่นอีก ฉันจึงจำเป็นต้องหารายได้พิเศษด้วยการเปิดชมรมนักสืบที่ไม่แสวงหาผลกำไรเกินตัวยังไงล่ะ
เอ่อ... ถึงมันจะไม่ฟรี แต่อย่างน้อยก็ไม่แพงเว่อร์เหมือนพวกนักสืบเอกชนหรอกน่า!
แต่ทว่าฉันเปิดชมรมนี้มาตั้ง 6 เดือนแล้ว ก็ยังไม่มีใครเข้ามาขอใช้บริการสักคน น่าเศร้าจริงๆ...
แอ๊ด...
ขวับ!
ทันทีที่เสียงประตูห้องชมรมถูกเปิดออกดังขึ้น ฉันก็รีบหันไปมอง เพราะแอบหวังว่าจะมีใครสักคนเปิดประตูห้องนี้เพื่อต้องการความช่วยเหลือจากสุดยอดนักสืบแบบฉัน แต่กลายเป็นว่าบุคคลที่ยืนอยู่ตรงประตูนั้น...
?เจนีวา เอาข้อสอบพวกนี้ไปถ่ายเอกสารให้อาจารย์หน่อยสิ?
เป็นอาจารย์วรรณีที่มาใช้งานฉันนั่นเอง T_T
ฉันรับข้อสอบพวกนั้นไว้พร้อมกับรับปากว่าจะถ่ายเอกสารให้เสร็จก่อนหกโมงเย็น เฮ้อ นี่ก็เป็นหนึ่งในข้อแลกเปลี่ยนของการใช้ห้องชมรมนี้แหละ อาจารย์วรรณีบอกว่าฉันต้องเป็นผู้ช่วยของท่าน ไม่ว่าท่านจะเรียกให้พิมพ์งาน ถ่ายเอกสาร ส่งของ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ท่านขี้เกียจทำด้วยตัวเอง (อุ๊ย!) ฉันก็ต้องรับหน้าที่ทำให้ทั้งหมด ฟังดูอาจน่าเบื่อ แต่ฉันไม่คิดแบบนั้นหรอก เพราะถ้าแลกกับการได้ห้องชมรมเป็นสัดเป็นส่วนแบบนี้แล้วมันก็คุ้ม
แต่พอฉันเดินเอาข้อสอบพวกนั้นไปวางไว้ที่มุมโต๊ะข้างหน้าต่างไม่ทันไร ประตูห้องชมรมนักสืบของฉันก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง
แอ๊ด...
?อาจารย์มีอะไรให้หนูช่วย...?
?นี่คือชมรมนักสืบเหรอเนี่ย -*-?
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยค คนตรงหน้าประตูที่ฉันแอบคิดไปเองว่าเป็นอาจารย์วรรณีเจ้าเดิมก็ส่งเสียงทักทายขึ้นมา ซึ่งฉันก็แปลกใจนิดหน่อยที่ไม่ใช่อาจารย์อย่างที่คิด แต่เป็นผู้หญิงแสนสวยในชุดนักศึกษารัดติ้วจนกระดุมเสื้อปริออกจากกัน กับกระโปรงสั้นเสมอหู และรองเท้าส้นสูงถึงสี่นิ้วนั่นแทน =O=
?ฉันถามว่านี่ใช่ชมรมนักสืบหรือเปล่า?
?ใช่ค่ะ ใช่ๆๆ?
ฉันรีบตอบก่อนที่นักศึกษาสาวนั่นจะหงุดหงิด เพราะแค่น้ำเสียงเอ่ยถามครั้งที่สองก็ฟังดูน่ากลัวแล้ว ฉันโผไปที่หน้าประตู และทำการต้อนรับแขกผู้มีเกียรติคนนั้นทันที
รูปร่างสะโอดสะองสมส่วนชวนให้น้ำลายไหล (เพราะเธอเซ็กซี่มาก!) ของเจ้าหล่อนเดินกรีดกรายตามฉันมานั่งที่เก้าอี้แต่โดยดี พร้อมกับสะบัดผมสีน้ำตาลทองที่ดัดเป็นลอนยาวถึงกลางหลังด้วยท่าทีสุดเปรี้ยว
ฉันมองทุกการกระทำของเธออย่างริษยา ผู้หญิงคนนี้สวยมากจริงๆ อะ -O- ดวงตากลมโตก็มีการกรีดด้วยอายไลเนอร์จนดูเหมือนตาของนางแมวยั่วสวาท แถมยังติดขนตาปลอมหนาเป็นแพเหมือนกันสาดบังแดดบังฝน ฉันมั่นใจเลยว่าต่อให้เธอไปยืนกลางสายฝน ขนตาปลอมนั่นก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องแน่ =O= จมูกสวยๆ ของเธอก็โด่งมนเป็นรูปหยดน้ำแบบที่คนสมัยนี้ชอบไปทำศัลยกรรมอีกต่างหาก ริมฝีปากบางได้รูปก็เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีแดงเร่าร้อนชวนให้สัมผัส...
โอ๊ะ! ฉันไม่ได้อยากสัมผัสเธอหรอกนะ ก็แค่บรรยายไปตามภาพที่เห็นเท่านั้นเอง
ว่าแต่... ทั้งหมดทั้งมวลที่บรรยายมานี่ มันเป็นคุณลักษณะเฉพาะของนางร้ายในนิยายทั้งนั้นเลยนี่นา -O-;
?ห้องนี้ร้อนจัง ไม่มีแอร์เหรอยะ -*-?
เอ่อ... ท่าจะจริงแฮะ เพราะคงไม่มีนางเอกคนไหนก้าวเข้าห้องชมรมคนอื่นมาได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็พูดจาเหน็บแนมกันแบบนี้หรอก แล้วไหนจะทำตาจิกใส่ฉันอีกล่ะ เฮ้อ...
?ไม่มีหรอกค่ะ?
?เธอเป็นบุคลากรชั้นสองของมหาวิทยาลัยนี้หรือไงเนี่ย?
?มันเกี่ยวอะไรกันล่ะคะ -O-?
?เธอไม่รู้หรือไงว่าทุกชมรมที่ถูกก่อตั้งขึ้นภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ล้วนแล้วแต่มีห้องชมรมที่ติดแอร์ และมีขนาดเท่ากับห้องบรรยายวิชาการหนึ่งห้อง!?
ริมฝีปากบางที่ทาลิปสติกสีแดงสดนั้นพูดฉอดๆ เธอมองไปรอบห้อง ก่อนจะพูดต่อ
?แต่ดูห้องชมรมของเธอสิ เล็กกว่าห้องเก็บรองเท้าที่บ้านฉันซะอีก แถมยังร้อนตับแตก แค่พัดลมดูดอากาศยังไม่มีเลย?
?เอ่อ...?
ฉันได้ห้องชมรมมาคุ้มกะลาหัวก็ดีเท่าไหร่แล้ว =_=
?แต่ช่างเถอะ ฉันคงไม่ได้อยู่ที่นี่นานนักหรอก แล้วไหนล่ะ ประธานชมรม?
?ฉันเองค่ะ?
?อะไรนะ -*-?
ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ เพราะแบบนั้นฉันก็เลยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการเสียที
?ฉันชื่อเจนีวา อยู่คณะบัญชี ปี 2 เป็นประธานชมรมนักสืบค่ะ?
?เธอเนี่ยนะเป็นประธาน??
?ค่ะ -_-?
และถ้าจะพูดให้ถูก ฉันก็ควบตำแหน่งรองประธาน เลขาธิการ เหรัญญิก ฝ่ายประสานงาน พนักงานต้อนรับลูกค้า และสมาชิกทั่วไปด้วยนั่นแหละ
พูดง่ายๆ ก็คือ... ทั้งชมรมนี้มีแค่ฉันคนเดียว -_-
?เป็นชมรมที่ไม่มีความน่าเชื่อถือเอาเสียเลย?
?ง่า...?
?แต่เอาเถอะ น้อยคนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี งั้นฉันขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ฉันมาจ้างเธอทำงาน?
ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าเหม็นเบื่อ ก่อนจะสะบัดปอยผมข้างหน้าและหันมาพูดกับฉันอีกรอบ และพอฉันได้ยินแบบนั้น ต่อมขยันก็.ือรืออยากทำงานขึ้นมาทันที
?ยินดีค่ะ!?
ฉันลุกขึ้นรวดเร็วจนคุณลูกค้าตกใจ (เปลี่ยนสรรพนามให้โดยเฉียบพลัน >_<) เพราะอย่างน้อยๆ งานแรกที่ฉันจะได้ทำก็มาจากผู้หญิง คือฉันไม่ค่อยชอบสุงสิงกับเพศตรงข้ามเท่าไหร่น่ะ แค่คุยด้วยก็พอได้อยู่ แต่ถ้าแตะเนื้อต้องตัวเมื่อไหร่ ฉันขนลุกขนชันทุกที T_T
แต่ก่อนที่เราจะมาตกลงกันเรื่องงานที่ต้องไปสืบหากับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าเราควรทำงานให้เป็นระบบ ฉันจึงเดินไปหยิบเอกสารที่อยู่ในลิ้นชักส่งให้คุณลูกค้าทันที แต่เธอไม่ยอมรับไว้ และเลือกที่จะเอ่ยถามออกมาแทน
?อะไร?
?ใบสมัครค่ะ เอ่อ ไม่ใช่สิ มันเป็นใบกรอกข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับชื่อและที่อยู่ของคุณลูกค้าน่ะค่ะ?
?ไม่จำเป็น!? พอฉันพูดจบ คนตรงหน้าก็ปัดกระดาษในมือฉันทิ้งไปทันที ?ฉันอยากให้เรื่องนี้เป็นนามธรรมที่สุด?
?แต่ว่า...? ถ้าเกิดเธอเบี้ยวขึ้นมา...
?ฉันจะจ่ายเงินมัดจำให้เธอครึ่งหนึ่งก่อน?
?โอ๊ะ!? เหมือนรู้ทันความคิดฉันเลยแฮะ =O=
?เพราะงั้นฉันจะไม่ลงนามในสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น?
คุณลูกค้าพูดแล้วก็สะบัดผมไปด้านหลัง ฉันเห็นเหงื่อซึมออกมาจากไรผมของเธอด้วย โอ้โห ร้อนขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ฉันนั่งอยู่ในนี้มาตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงยังไม่มีอาการเสียน้ำสักหยด นอกจากน้ำลายที่หกไปหน่อยนึง ตอนแอบกินลูกชิ้นปิ้ง -O-
?ก็ได้ค่ะ ถ้างั้นคุณลูกค้าช่วย...?
?ฉันชื่อเทย่า?
?เอ๋??
?เรียกชื่อฉัน แทนที่จะเป็นคุณลูกค้าเถอะ ฉันฟังแล้วจะอ้วก?
?ก็ได้ค่ะ คุณลูกค้าเทย่า?
?-*-!?
?ค่ะ... คุณเทย่า แหะๆ?
อะไรกัน ฉันอุตส่าห์ให้เกียรติ ไม่เห็นต้องทำหน้าง้ำหน้างอขนาดนั้นเลย นี่แสดงว่าเธอเป็นนางร้ายเหมือนในนิยายจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย
?ถ้างั้นคุณเทย่าช่วยเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ทางเราฟังหน่อยนะคะ มันเกิดจากอะไร เป็นยังไง และจะให้ชมรมนักสืบของเราทำอะไร เพื่อที่ทางเราจะได้ประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้อง และรวมไปถึงประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นด้วยค่ะ?
?หนึ่งแสนบาท?
?คะ??
?ค่าจ้างสำหรับงานนี้คือหนึ่งแสนบาท?
?O[]O? แม่จ้าววว! ทำไมมันมากมายมหาศาลแบบนี้ล่ะ ?เอ่อ ฉันเป็นแค่นักสืบนะคะ ไม่ใช่มือปืนรับจ้าง ค่าแรงเยอะขนาดนั้น...?
จะให้ฉันไปฆ่าใครตายหรือเปล่าเนี่ย แง้ TOT
โฮๆๆ เจนีวาเอ๋ย เปิดชมรมมาก็รกร้างนานถึง 6 เดือน พอทำทีว่าจะได้ผลงานชิ้นแรก ก็ส่อแววเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางที่ฉันต้องรับบทเป็นฆาตกรเองเลยงั้นเรอะ!
ไม่เอาน้า TOT~
?ฉันไม่ได้ให้เธอไปยิงหัวกบาลใคร ก็แค่ตามถ่ายรูปแฟนฉันในช่วงที่ฉันไม่อยู่ก็เท่านั้นแหละยัยบ้า!?
?อ้อ...? ฉันโล่งใจทันทีเมื่อได้ยินคำอธิบาย
ฮู่ว! โชคดีหน่อยที่เธอไม่ได้มาเพื่อจ้างฉันไปฆ่าคน แต่ว่า... ถ้าแค่ตามถ่ายรูปแบบที่เทย่าพูดจริงๆ แล้วทำไมต้องจ่ายค่าแรงเยอะขนาดนั้นด้วยล่ะ
?ฉันจะไปอังกฤษหนึ่งเดือน ระหว่างนั้นฉันกับแฟนต้องอยู่ห่างกัน ฉันอยากให้เธอคอยรายงานว่าแฟนฉันทำอะไรอยู่ที่ไหน กินข้าวกับใคร ไปไหนมาไหนและทำอะไรบ้างตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง?
?=O=?
?และที่สำคัญ... ต้องไม่ให้เขารู้ตัว?
ไอ้ไม่ให้รู้ตัวนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ 24 ชั่วโมงนี่... มันไม่หนักหนาเกินไปหน่อยเรอะ!
เทย่าคิดว่าฉันเป็นตากล้องรายการอคาเดมีแฟนเทเซียหรือไง ถึงจะสอดส่องแฟนเธอได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบนั้น
?คือฉันคิดว่า...?
?ห้าหมื่นบาทจะถูกโอนเข้าบัญชีทันทีที่เธอตอบตกลง?
?ตกลงค่ะ!?
อุ๊บส์ OxO
ทำไมฉันปากไวแบบนี้ TOT~
แต่แหม นั่นมันห้าหมื่นบาทเลยนะ ห้าหมื่น! เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของฉันครึ่งปีได้เลยเถอะ
ซึ่งพอเทย่าได้ยินแบบนั้น เธอก็เหยียดยิ้มที่มุมปากน่าสยดสยอง โอ๊ย ชัดเลย! นี่มันนางร้ายชัดๆ ว่าแต่... ฉันยังไม่รู้เลยนะว่าผู้ชายที่เป็นแฟนของเทย่าคือใคร
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยถาม ผู้หญิงแสนสวยตรงหน้าก็เป็นฝ่ายพูดออกมาเอง...
?ซาคาโมโตะ ริวอิจิ?
???
?ชื่อแฟนของฉันยังไงล่ะ J?
?O_O?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็คือการเล่นกีฬา ทั้งฟุตบอล วอลเล่ย์ คาราเต้ มวยไทย ฯลฯ ผมคว้าเหรียญทองมาแล้วทั้งนั้น แต่ถ้าถามเรื่องความรักน่ะเหรอ ผมไม่คิดจะขวนขวายหาหรอก เพราะผมเชื่อว่าวันหนึ่งพรหมลิขิตจะพาเนื้อคู่มาหาผมเอง และดูเหมือนวันนั้นจะมาถึงเร็วกว่าที่คิดแฮะ ^0^ เธอชื่อ ?เจนีวา? เราพบกันเพราะเธอขี่จักรยานมาเสยท้ายจากัวร์สุดหรูของผม ถึงเธอจะมีโรคประหลาดคือจะเป็นลมทุกครั้งที่โดนผู้ชายแตะตัว แต่ความสัมพันธ์ของเราก็ดำเนินไปด้วยดี และมันคงจะดีขึ้นไปกว่านี้ถ้าผมไม่รู้ความจริงซะก่อนว่า เธอจงใจเข้ามาในชีวิตของผมตามคำสั่งใครบางคน กล้าเอาความรู้สึกผมมาล้อเล่นขนาดนี้ใครจะยอมได้ รู้จัก ?ซาคาโมโตะ ริวอิจิ? คนนี้น้อยไปซะแล้ว งานนี้ผมจะเอาคืนแบบทบต้นทบดอกเลย คอยดูสิ!
