1
จุดเปลี่ยน
รถเก๋งราคาแพงหลายสิบคันจอดเรียงรายบนทางเดินที่ปูด้วยพื้นตัวหนอน บรรดาเศรษฐีและผู้มีอันจะกินต่างทยอยมาร่วมแสดงความยินดีในพิธีหมั้นของทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลบรรณสรณ์ ยักษ์ใหญ่ในวงการค้าที่ดิน
ทันทีที่รถยุโรปคันงามจอดสนิท บุรุษร่างสูงใหญ่ก้าวลงจากรถพร้อมกับสตรีร่างเล็กกะทัดรัด เจ้าของดวงหน้าหวานใส นามว่า ?วกุลทิพย์ วุฒิจิรา? ลอบสังเกตสีหน้าของบุรุษที่เดินเคียงคู่ ใบหน้าสะดุดตาเพศตรงข้ามปรากฏร่องรอยความกังวลจนเห็นได้ชัด คล้ายมีเรื่องหนักใจให้ขบคิด เธอบังเกิดความสงสัยอยู่ครามครัน เพราะเขาดูแปลกไปจากทุกวัน ถามคำตอบคำ ซึ่งไม่ใช่ปกติวิสัยของวีรุตม์
?พี่วีเป็นอะไรหรือเปล่าคะ? เอ่ยถาม พลางเขย่าแขนคนข้างๆ
วีรุตม์ดึงตัวเองออกจากภวังค์ เมื่อรับรู้แรงสัมผัสจากมือน้องสาว ?เปล่านี่ พี่แค่คิดอะไรเพลินๆ น่ะ? ชายหนุ่มยิ้มกลบเกลื่อน ปั้นหน้าสดใส จำใจผิดศีลข้อสี่ว่าด้วยเรื่องมุสา เพราะการบอกเล่าปัญหาให้วกุลทิพย์รับฟัง รังแต่จะสร้างความไม่สบายให้เธอ
?แน่ใจนะคะว่าไม่เป็นอะไร? น้องสาวคาดคั้นเอาความจริงจากพี่ชาย ดวงตากลมโตจ้องมองวีรุตม์อย่างจับผิด
วีรุตม์มองน้องสาว แล้วพูดนิ่งๆ ?พี่ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ วุ้นสบายใจได้? เขาโยกศีรษะวกุลทิพย์อย่างเอ็นดู
ความสดใสที่ฉายชัดบนรูปหน้าคมเข้มสามารถบ่งบอกว่าเจ้าตัวรู้สึกเช่นไร หากแต่ในใจของวีรุตม์กลับนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อเย็นวานนี้
?คุณวีคะ คุณวีช่วยเบญด้วยนะคะ? เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหญิงคนรัก ทำเอาวีรุตม์ถึงกับร้อนใจ
?ใจเย็นๆ ก่อนนะเบญ? เขาปลอบโยน แล้วถามอย่างร้อนรน ?เกิดอะไรขึ้น ตั้งสติแล้วค่อยๆ เล่าให้ผมฟังนะครับ? เขาได้ยินเสียงเบญญาร้องไห้ดังขึ้นเรื่อยๆ วีรุตม์พูดปลอบโยนให้คนปลายสายคลายอารมณ์ขุ่นหมอง เบญญาจึงเงียบเสียงลง
?คุณวีก็รู้ว่าปัญหาของเบญมีแค่เรื่องเดียว? เธอเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ เมื่อคนต้นสายรับรู้แล้วว่าปัญหาที่เธอพูดคือสิ่งใด ?เบญไม่อยากหมั้นกับคุณพฤกษ์?
เบญญารู้ดีว่าวีรุตม์ลำบากใจ เมื่อใดที่พูดเรื่องการหมั้นหมายระหว่างเธอกับพฤกษ์ เมื่อนั้นความเงียบจะเดินทางมาเยือนเบญญา
?เบญจ๋า? เบญฟังผมนะครับ? เขาออดอ้อน ?เบญต้องทำตามหน้าที่ เพราะเบญไม่มีทางเลือก? วีรุตม์พูดเสียงเบาราวกับกระซิบ ด้วยเกรงว่าหากเพิ่มระดับเสียง อาจทำให้ผู้ฟังสะเทือนใจ
?คุณวี!? เบญญาเรียกชื่อเล่นคนรักจนเสียงหลง ไม่นึกมาก่อนว่าจะได้ยินถ้อยคำเหล่านี้จากปากวีรุตม์
วีรุตม์เจ็บร้าวในอก เขารู้ว่าเบญญากำลังจะร้องไห้เป็นคำรบที่สอง จึงรีบชี้แจงเหตุผลให้เธอเข้าใจ ?ถ้าผมทำตามความต้องการของเบญ ก็เท่ากับว่าผมหักหน้านายพฤกษ์ คุณก็รู้ว่าผมกับมันกินเที่ยวด้วยกันมาเกือบห้าปี มอบความไว้วางใจให้กันและกัน จู่ๆ จะให้ผมแสดงตัวว่าเป็นสามีของเบญ ผมทำไม่ได้ เบญคิดดูสิ พ่อแม่ของเบญต้องอับอายขายหน้าแค่ไหน สายตาใครต่อใครที่มองเบญในทางไม่ดี และที่สำคัญผมกับไอ้พฤกษ์คงมองหน้ากันไม่ติด? วีรุตม์อธิบายละเอียดยิบ เขาได้แต่หวังว่าเหตุผลที่บอกออกไปคงหนักแน่นมากพอจะทำให้เบญญาคล้อยตาม
ก่อนหน้านี้เขาและเธอได้คิดค้นวิธีแก้ไขปัญหา แต่จนแล้วจนรอดยังไม่สามารถแก้ปมให้คลายออกจากกัน หันไปทางไหนก็เจอทางตัน เหมือนหลงอยู่ในเขาวงกต เปี่ยมด้วยหนทางสลับซับซ้อน แต่เรื่องราวของเขาและเบญญากลับซับซ้อนยิ่งกว่า
เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ?พฤกษ์ พิตตินันทกุล? เพื่อนสนิทได้แจ้งข่าวเรื่องงานหมั้นให้เขาได้รับทราบอย่างเป็นทางการ เขาแสดงความยินดีกับเพื่อนสนิท ขณะเดียวกันก็มอบความเสียใจให้ตนเอง โลกนี้เต็มไปด้วยความบังเอิญ เพราะคู่หมั้นของพฤกษ์ คือผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียของเขา ฉะนั้นแผนลั่นระฆังวิวาห์ระหว่างเขากับเบญญาต้องล่มกลางคัน วีรุตม์ตำหนิตัวเองที่ปล่อยให้ความกลัวเข้าครอบคลุมจิตใจ จนไม่กล้าแสดงตนให้บุพการีของเธอรับรู้ เพราะเกรงว่าจะถูกผู้ใหญ่กีดกัน จึงปล่อยเลยตามเลยมาจนถึงทุกวันนี้
?คุณวีสนใจแต่คนรอบข้าง แล้วเบญละคะ คุณเคยสนใจเบญบ้างไหม? เธอตัดพ้อด้วยความน้อยใจ ?ไหนบอกว่ารักเบญไงคะ คุณก็ดีแต่พูด ไม่เห็นทำอะไรเพื่อแสดงให้เบญรับรู้และมั่นใจว่าคุณวีรักเบญจริงๆ อย่างที่พร่ำบอก?
วีรุตม์มีสีหน้าเคร่งเครียด หากผลีผลามแก้ไขปัญหาโดยไร้สติ ความวุ่นวายนานัปการจะตามมาเป็นกุรุส ?ผมไม่ได้ทอดทิ้งเบญ ผมกำลังหาทางออกที่ดีที่สุดให้เราสองคน?
?แล้วทางออกอยู่ตรงไหนล่ะคะ? เบญญาสวนกลับอย่างรวดเร็ว
ครั้นคำถามนั้นลอยเข้าหู ทำเอาวีรุตม์ถึงกับอึ้ง เขานิ่งชั่วครู่แล้วพูดอย่างไม่เต็มเสียง ?เบญก็หมั้นกับไอ้พฤกษ์ตามเดิม แค่หมั้นเท่านั้นยังไม่ต้องแต่ง จากนั้น...เอ่อ...ค่อยหาทางถอนหมั้น?
ถ้อยคำที่ชายคนรักเอื้อนเอ่ยดังก้องในหู น้ำตาเม็ดโตร่วงรินจากดวงตาคู่สวย ?คุณวียังรักเบญอยู่ไหมคะ ช่วยบอกให้เบญมั่นใจหน่อยเถอะค่ะ? เบญญาถามกลับเสียงแผ่ว
วีรุตม์ได้ยินชัดเจนเต็มสองหู ชายหนุ่มรู้ดีแก่ใจว่าเหตุใดหญิงคนรักจึงถามเขาเช่นนั้น ?ผมรักเบญเสมอ? วีรุตม์พูดอย่างหนักแน่น ด้วยความรู้สึกทั้งหมดของหัวใจ
เบญญาส่งเสียงหึเบาๆ ในลำคอ ?ถ้าคุณวีรักเบญ ทำไมต้องผลักไสเบญให้คนอื่น เสียแรงที่เบญรักคุณวีหมดหัวใจ เบญยอมอับอายขายหน้า ไม่ใส่ใจว่าพ่อแม่จะรู้สึกอย่างไร เบญยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับคุณ ทำไมคุณวีไม่คิดบ้างว่าถ้าเบญหมั้นกับคุณพฤกษ์แล้วเบญจะทำอย่างไรให้คุณพฤกษ์ยอมถอนหมั้น หรือให้เบญเป็นฝ่ายถอนหมั้นเสียเอง มีวิธีเดียวเท่านั้นแหละค่ะ เบญคงต้องต้องจ้างผู้ชายมาควงเล่นสักคนสองคน เพื่อให้คุณพฤกษ์เข้าใจว่าเบญเป็นผู้หญิงหลายใจ ถึงเวลานั้นคุณพฤกษ์ต้องถอนหมั้นแน่ๆ?
ถ้อยคำต่างๆ ที่พรั่งพรูจากปากเบญญา ประดุจมีดอาบยาพิษผ่ากลางดวงใจวีรุตม์ ร่างสูงใหญ่แทบล้มทั้งยืน เขาฉุกคิด เมื่อฟังคำพูดเธอ นึกสมเพชตัวเองยิ่งนัก เพราะรอยหยักในสมองมีน้อยเกินไป วิธีแก้ไขปัญหาที่แนะนำให้เบญญาปฏิบัติตาม ทำให้เขากลายเป็นคนไร้ความรับผิดชอบในสายตาเธอ
?ครั้งแรกที่เจอเบญ ผมก็ตกหลุมรักเบญทันที ตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งล่วงเลยถึงบัดนี้ ระยะเวลาเกือบสิบปี สี่ในสี่ห้องหัวใจของผมมีแต่ผู้หญิงชื่อเบญญา นามสกุลบรรณสรณ์? วีรุตม์ยืนยันเสียงหนักแน่น เพื่อให้คนรักเชื่อมั่นว่าเธอคือหญิงเดียวในดวงใจ
เบญญาได้ฟังถึงกับตื้นตัน คำพูดจากปากวีรุตม์ประหนึ่งน้ำอมฤตชโลมหัวใจแห้งเหี่ยวให้พองโต เป็นตายรายดีอย่างไร เธอขอลองสู้สักตั้ง สู้เพื่อหัวใจและความรัก เพียงแค่ให้ได้ใช้ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งกับชายหนุ่มที่ตนรัก
?คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว เบญจะไม่ขอใช้ชีวิตกับคนที่เบญไม่รัก? หญิงสาวยื่นคำขาดให้คนรักได้พินิจพิจารณา ก่อนตัดสายทิ้งและปิดอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อพิสูจน์ความรักที่เขามีให้เธอ ถ้าเวลานั้นมาถึง วีรุตม์ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ เธอจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
?เบญ... เบญ... เดี๋ยวก่อนสิครับ อย่าเพิ่งวางสาย? คำขอร้องไม่มีผล เนื่องจากเสียงปลายสายเงียบไป วีรุตม์พยายามโทร.หาเธอ แต่ได้ยินเพียงเสียงให้ฝากข้อความ ดังนั้นเขาจึงโทร.ไปที่บ้านเบญญา ทว่าผลลัพธ์ออกมาไม่ต่างกัน เมื่อผู้รับโทรศัพท์ ซึ่งวีรุตม์เดาว่าคงเป็นสาวใช้ในบ้านบอกว่าเธอไม่ว่าง ชายหนุ่มทอดถอนหายใจและวางสายในที่สุด
ระหว่าง ?เพื่อน? กับ ?คนรัก? เขาจะเลือกใคร เพราะบุคคลทั้งสองต่างมีความสำคัญกับเขา...
เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้น ดึงวีรุตม์ออกจากภวังค์ความคิด เขาหยุดเดิน มองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ขณะที่น้องสาวหันซ้ายหันขวามองหาพี่ชาย และเพิ่งรู้ตัวว่าเดินเพียงลำพัง เพราะคนที่เดินมาด้วยกัน ปล่อยเธอเดินนำหน้ามาหลายก้าว ร่างระหงสมส่วนหยุดเคลื่อนไหวและหันไปมองเบื้องหลัง
?พี่วีเดินเร็วๆ ได้ไหมคะ? วกุลทิพย์เร่งเร้า เห็นเขาชักฝีเท้าให้ช้าลงกว่าปกติก็บังเกิดความหงุดหงิด
ชายผู้พี่สะดุ้งเล็กน้อย สายตามองเห็นน้องสาวกวักมือเรียกอยู่ไม่ไกล วีรุตม์จึงเดินไปหาอย่างอ้อยอิ่ง พร้อมกับส่งเสียงถาม ?จะรีบไปไหน?
วีรุตม์หยุดเดินอีกครั้ง ตรึงสองเท้าไว้บนพื้นตัวหนอน พลางยกข้อมือซ้ายดูเวลา แล้วถอนหายใจหนักหน่วง ร่างสูงยืนจ้องแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านต้นไม้ใหญ่ด้วยใบหน้าอิดโรย เขานอนไม่หลับทั้งคืน มัวแต่ครุ่นคิดปัญหากลัดกลุ้มใจ จนกระทั่งรุ่งสาง ในที่สุดทางเลือกจึงมาพร้อมกับแสงแรกของวันใหม่ ในเมื่อเลือกแล้ว ต้องเดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น
วกุลทิพย์ก้าวฉับๆ เข้าไปหาทันที ครั้นเห็นวีรุตม์ค่อยๆ ยกเท้าก้าวช้าๆ ราวกับเดินจงกรม ?ก็รีบเข้าไปข้างในไงคะ พิธีหมั้นกำลังจะเริ่มแล้ว? เธอให้คำตอบ แล้วดึงวีรุตม์ให้เดินตาม
วีรุตม์ส่ายหน้า ยิ้มบางๆ จำใจทำตามที่น้องสาวต้องการแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นเขาอาจเสียหลักเอาใบหน้าไปวัดพื้นตัวหนอนก็เป็นได้
?เฮ้อ!? วีรุตม์เปล่งเสียงอย่างเหนื่อยใจ
?สารภาพมาเดี๋ยวนี้นะคะว่าพี่วีเป็นอะไร? วกุลทิพย์ขมวดคิ้วสงสัย เธอจ้องหน้าพี่ชายเขม็ง พยายามหาร่องรอยพิรุธ
?ไม่มีอะไรจริงๆ? วีรุตม์ปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทว่านัยน์ตาสีเข้มกลับฉายแววกังวลจนยากจะปิดได้มิดชิด ถ้าวกุลทิพย์สังเกตสักนิด เธอคงเอ่ยคำถามเดิมอีกครั้ง
วีรุตม์มองหญิงสาวอย่างงงๆ เพราะจู่ๆ เธอหยุดเดินแล้วยืนนิ่งเหมือนคิดอะไรออก ?วุ้นรู้แล้วว่าทำไมพี่วีถึงซึมเศร้า? หญิงสาวทำหน้าคิด ยกยิ้มมุมปาก
?รู้ไปหมดทุกเรื่อง ฉลาดจริงๆ นะเรา พันธุ์อะไรเนี่ย? ได้ทีจึงถือโอกาสเหน็บน้องสาว
วงหน้าสวยซึ้งบิดเบี้ยว ครั้นคำหยอกนั้นพุ่งใส่แบบไม่ทันตั้งตัว ?พันธุ์เดียวกับพี่วีนั่นแหละ?
?เดี๋ยวเหอะ? วีรุตม์ตีหน้าดุใส่วกุลทิพย์
วกุลทิพย์ทำไม่รู้ไม่ชี้ ฉีกยิ้มกว้าง เมื่อเห็นคนเป็นพี่ทำตาขวาง วกุลทิพย์รีบวกกลับเข้าประเด็นที่คุยค้างไว้เมื่อครู่ ?พี่วีกลัวล่ะสิที่จะต้องเป็นหนุ่มโสดไปตลอดชีวิต? คนพูดเปล่งเสียงหัวเราะอย่างสุขใจ
ชายหนุ่มส่ายหน้า พลางบีบจมูกคนช่างจินตนาการอย่างมันเขี้ยว ?เข้าใจคิดนะ?
?อ้อ! มีอีกอย่างหนึ่ง สำคัญมากๆ? หญิงสาวเน้นเสียงคำหลังด้วยความตื่นเต้น ?พี่วีอิจฉาที่พี่พฤกษ์แซงหน้าเข้าพิธีหมั้นไปก่อนใช่ไหมคะ?
วีรุตม์นึกขอบคุณความช่างสังเกตและจินตนาการไร้ขอบเขตของวกุลทิพย์ แม้จะรู้สึกผิดที่ต้องพูดโกหกให้น้องสาวสบายใจ
เขาพยักหน้า ยิ้มน้อยๆ ?ทำนองนั้นแหละ ต่อไปนี้ก็เหลือแต่พี่คนเดียวที่เป็นหนุ่มโสดหน้าตาดี?
วกุลทิพย์ย่นจมูกใส่พี่ชายอย่างหมั่นไส้
?บอกตรงๆ นะคะ วุ้นกำลังสงสัยว่าพี่วีเป็นพวกชอบปลูกป่าหรือเปล่า อยู่มาจนอายุสามสิบสาม ไม่เคยเห็นควงสาวไปโน่นมานี่ หรือแม้แต่พามาให้น้องนุ่งรู้จัก... ก็ไม่เคยสักครั้ง?
?บางทีการปลูกป่าก็น่าสนใจเหมือนกันนะ? วีรุตม์พูดจบก็หัวเราะร่วน
ขณะที่วกุลทิพย์ทำท่าจะเป็นลม เธอยกมือกุมขมับ ?ตายแล้ว! ตลอดเวลาที่ผ่านมา วุ้นเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีพี่สาวไม่ใช่พี่ชาย?
?ยายเด็กบ๊อง!? วีรุตม์ยีผมน้องสาว พลันหัวเราะขบขัน เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้ามุ่ย
?โธ่! พี่วี? วกุลทิพย์ครวญลั่น ?วุ้นอุตส่าห์แต่งสวย เสื้อผ้าหน้าผมพร้อมสรรพ พี่วีทำเสียหมดเลย?
?จะแต่งไปให้ใครดู? วีรุตม์ถามยิ้มๆ สายตาจับจ้องวกุลทิพย์ที่โตเป็นสาวเต็มวัย หลังจากเจ้าตัวสำเร็จการศึกษาก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย พร้อมจะประกอบสัมมาชีพในสายวิชาที่ร่ำเรียนมา
?ก็แต่งให้พะ...พี่...? วกุลทิพย์พูดทิ้งไว้แค่นั้น แล้วรีบหุบปากลงฉับ เมื่อรู้ตัวไม่ควรหลุดคำพูดใดๆ ออกไปทั้งสิ้น เพราะรู้แก่ใจว่าต่อให้เธอแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย เขาคนนั้นก็ไม่เคยมองเธอ
ครั้นน้องสาวไม่พูดต่อ วีรุตม์จึงถามทันที ?บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าแต่งตัวสวยมาให้ใครดู?
วกุลทิพย์รู้สึกร้อนที่แก้ม เมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของชายในดวงใจ หากแต่ยังกลบเกลื่อนรอยพิรุธ ทำตัวตามปกติ ?หนุ่มที่ไหนจะชายตามองผู้หญิงอย่างวุ้น?
วีรุตม์ฟังแล้วหัวเราะชอบใจ ?พี่ก็ว่างั้นแหละ ทั้งๆ ที่เราอายุยี่สิบสอง แต่จะมองมุมไหนก็เหมือนเด็กมัธยมปลาย วัยสิบแปดปี?
สาวอายุยี่สิบสองทำปากยื่นปากยาวใส่พี่ชาย วกุลทิพย์อ้าปากจะแย้ง แต่ถูกวีรุตม์ปราม ก่อนจูงมือเธอให้เดินตาม เนื่องจากช่วงเวลาสำคัญใกล้เข้ามาทุกขณะ หากพลาดไปเพียงแค่เสี้ยววินาที นั่นหมายความว่าวีรุตม์จะไม่สามารถย้อนเวลากลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในวันนี้ได้อีก
ห้องรับรองของบ้านบรรณสรณ์ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีมงคล บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความชื่นมื่น
บุรุษผู้นั้นดูสง่าผ่าเผย ภายใต้ชุดสูทสีสะอาดแบบกระดุมแถวเดียว ชายเสื้อตัดตรง แต่ดูหรูหราเข้าชุดกับกางเกงสีเดียวกัน ดวงตาใหญ่คมกริบมองหญิงสาวที่นั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าอย่างภาคภูมิใจ
วงหน้านวลลออแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมราคาแพง ผมยาวดำขลับถูกม้วนเป็นลอนและเกล้าต่ำจัดช่อไว้ท้ายทอย แซมมุกสีขาวบริสุทธิ์ตัดกับพื้นผม
ร่างอรชรอยู่ภายใต้ชุดเดรสตัดเย็บจากผ้าชีฟองชนิดไหม ใส่ลูกเล่นโดยไล่โทนจากสีครีมเทาเป็นสีฟ้าอ่อน จับเดรปเล็กน้อย เพิ่มความเก๋ เสริมให้เบญญาดูโดดเด่น เธองดงามจนทุกคนที่มาร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน
บรรดาแขกเหรื่อที่ถูกเชิญมาร่วมเป็นสักขีพยานในงานหมั้นครั้งนี้ ส่วนใหญ่มีแต่คนสนิทสนม ทั้งนี้เป็นความต้องการของฝ่ายหญิง โดยเบญญาให้เหตุผลว่าควรจัดงานหมั้นเล็กๆ ในหมู่ญาติมิตรและคนคุ้นเคยเท่านั้น แต่เธอรู้ดีว่าเป็นเพียงข้ออ้างที่ยกมาบังหน้า แม้รู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่เธอจะกระทำต่อจากนี้ ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพานพบความอับอาย แต่เบญญาไม่สน เธอขอทำตามใจต้องการ เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากบ่วงพันธนาการ ซึ่งสร้างความทรมานให้เธอไปตลอดชีวิต
?คุณเบญมองอะไรเหรอครับ? พฤกษ์จ้องเบญญาแววตาสงสัย เมื่อสังเกตเห็นคู่หมั้นคนงามเอาแต่ชะเง้อไปที่ประตูห้องรับรอง
?เอ่อ... เปล่าค่ะ? เธอส่ายหน้าปฏิเสธ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย ทว่าหัวใจเบญญากลับเต้นรัวประดุจเสียงกลองศึกที่ตี เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ทหาร ยามออกรบทำสงคราม
เธอลุ้นอย่างระทึกว่าวีรุตม์จะทำตามที่เธอต้องการหรือไม่ ตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมา วีรุตม์โทร.หาเธอนับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอปฏิเสธรับสาย เนื่องจากต้องการพิสูจน์ความรักความจริงใจที่เขามีให้เธอ
บัดนี้คำตอบที่เบญญาอยากรู้ก็ปรากฏตรงหน้าแล้ว เธอค้นหาความรักและความจริงใจจากวีรุตม์ไม่เจอ พลันน้ำตาเอ่อคลอหน่วย เบญญากะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยดน้ำที่ก่อตัวจากความรู้สึกอ่อนไหวตามประสาหญิง เวลาของเธอหมดแล้ว เมื่อกระแสเสียงนุ่มนวลดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้ทราบโดยทั่วกันว่าพิธีมงคลได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
?พฤกษ์สวมแหวนให้หนูเบญสิลูก? ดวงตาสีขาวขุ่นทอประกายความสุข หญิงวัยกลางคนยิ้มแย้มแจ่มใส สีหน้าเบิกบานจนเห็นได้ชัด หากวัตถุทรงกลมถูกประดับบนนิ้วนางข้างซ้ายของเบญญา ย่อมหมายความว่าพิตตินันทกุลและบรรณสรณ์ได้เกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันโดยสมบูรณ์ กิจการของสองตระกูลจะดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงและมั่งคั่ง เนื่องจากฝ่ายหนึ่งทำธุรกิจค้าที่ดิน ส่วนอีกฝ่ายเป็นผู้นำในธุรกิจที่พักอาศัย บ้านและคอนโดมิเนียมในเครือพิตตินันท์กรุ๊ปสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองได้ครอบคลุม ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ ราคา ทำเลที่ตั้งและการบริการหลังการขายอันยอดเยี่ยม
?ครับคุณแม่? พฤกษ์ขานรับ และเอื้อมมือหยิบกล่องกำมะยี่สีแดงที่วางอยู่ด้านบนสุดของพานพุ่มดอกไม้ แล้วเปิดกล่องทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส หยิบวัตถุมีค่าออกมา
แหวนเพชรน้ำงามส่องประกายเจิดจ้า ปรากฏสู่สายตาผู้ร่วมงาน พฤกษ์ดึงมือซ้ายเบญญามากุมไว้ ความเย็นจากมือเธอค่อยๆ กระจายทั่วมือพฤกษ์ ชายหนุ่มยิ้มให้กำลังใจคู่หมั้น เขารู้ว่าเธอตื่นเต้น
เบญญาหลุบตามองสิ่งที่อยู่ในมือพฤกษ์อย่างตื่นตระหนก ราวกับวัตถุล้ำค่าชิ้นนี้แฝงไว้ซึ่งอาถรรพ์และพลังงานเร้นลับที่มองไม่เห็น เธอกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ หากได้มันไว้ในครอบครอง ชีวิตเธอจะไม่สงบสุข วินาทีนี้จึงได้แต่ภาวนาให้วีรุตม์มาทันเวลาและช่วยเธอให้หลุดพ้นจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน แม้รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่รัก แต่ก็อดนึกถึงเขาไม่ได้
ลูกสาวคนเดียวของตระกูลบรรณสรณ์อยากชักมือกลับ หรือไม่ก็อยากหายตัวได้ ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในพิธีหมั้น ซึ่งเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจ ขณะที่เบญญากำลังลุ้นด้วยใจจดจ่อ ทันใดนั้นเสียงทรงอำนาจก็ดังขึ้น เธอยิ้มกว้างอย่างมีความหวัง
?จะไม่มีการหมั้นเกิดขึ้นเด็ดขาด? วีรุตม์ถอนใจอย่างโล่งอก หากมาช้าเพียงวินาทีเดียว เขาคงเสียใจไปตลอดชีวิต
การปรากฏตัวของผู้มาใหม่ เรียกทุกสายตาในห้องรับรองให้หันไปยังมอง เสียงซุบซิบหลากคำถามดังเซ็งแซ่ ทว่าวีรุตม์ไม่สนใจ ดวงตาเขามองไปที่หญิงคนรักและยิ้มให้เธอ
เบญญายิ้มตอบทั้งน้ำตา เธอรู้สึกผิดที่ไม่เชื่อใจชายคนรัก อยากจะพูดจะเอ่ยถ้อยคำเป็นร้อยเป็นพัน แต่ก็พูดไม่ออกสักคำ เธอเชื่อแล้วว่าเขารักเธอ เพราะวีรุตม์พิสูจน์ให้เธอประจักษ์ว่าเขารักและพร้อมจะปกป้องดูแลเธอไปตลอดชีวิต
ขณะที่วกุลทิพย์ไม่เอะใจในวาจาที่พี่ชายเอ่ยออกไป เพราะเธอมัวแต่มองสตรีผู้เป็นคู่หมั้นของพฤกษ์อย่างไม่กะพริบตา ก่อนหยุดสายตาไว้ที่หนุ่มรูปงาม รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเจ้าของ แต่ก็อดแอบมองไม่ได้
?อยากเกิดเป็นผู้หญิงคนนี้จังเลย? เธอคิดในใจด้วยความอิจฉา วกุลทิพย์สะบัดศีรษะไล่ความคิดสีดำออกจากพื้นที่สีขาว พยายามปลอบใจตนเองว่าทั้งสองเป็นคู่สร้างคู่สมที่ทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน ถึงเวลาที่เธอต้องยอมรับความจริงและยุติการแอบรักข้างเดียว เพราะหัวใจพฤกษ์ไม่มีพื้นที่ว่างให้ใคร แต่ถึงมีก็ใช่ว่าเธอจะมีสิทธิ์จับจอง สาวน้อยก้มมองตัวเองแล้วพ่นลมหายใจยาว เธอจะเอาอะไรไปสู้สาวสวยคนนั้นได้ เธอพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้แข่งขัน
?เฮ้อ! ยังไม่ได้แข่งก็แพ้เขาเสียแล้วยายวุ้น? วกุลทิพย์เตือนตัวเองในใจ ความงดงามที่ฉายฉาดออกจากเธอผู้นั้น ทำให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มาร่วมงานดูจืดไปเสียสนิท
ส่วนคนที่ดีใจออกนอกหน้า คงเป็นพระเอกของงาน พฤกษ์ยิ้มร่าเริง เมื่อเห็นเพื่อนสนิทปรากฏตัวได้ทันเวลาพอดี ?มาช้าแล้วยังไม่รู้ตัวอีกเหรอไอ้วี?
?แกต่างหากล่ะไอ้พฤกษ์ที่มาช้า? วีรุตม์โต้กลับเสียงเรียบนิ่ง
พฤกษ์หัวเราะร่วน เนื่องจากตีความหมายไปคนละทาง ?จะช้าก็เพราะแกนั่นแหละ นั่งลงได้แล้ว ฉันจะสวมแหวนให้คุณเบญ? พฤกษ์บอกยิ้มๆ เตรียมสวมเพชรลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเบญญา
?ไอ้พฤกษ์... แกจะหมั้นกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้? น้ำเสียงมั่นคงแน่วแน่ ปราศจากการล้อเล่นโดยสิ้นเชิง ทำเอาพฤกษ์แปลกใจ สายตาตั้งคำถาม เมื่อไม่เข้าใจในคำพูดวีรุตม์
ขณะที่สักขีพยานทั้งหลายต่างตกอยู่ในอาการเดียวกับพฤกษ์ โดยเฉพาะญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายที่กำลังงงงวยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
?แกเมาหรือเปล่าเนี่ยไอ้วี? พฤกษ์ถามในทำนองไม่แน่ใจ พร้อมกับกวาดสายตาสำรวจเพื่อนสนิทตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
?ฉันไม่ได้เมา? วีรุตม์ตอบหน้านิ่งๆ และตัดสินใจบอกความจริงให้ทุกคนได้รับรู้ ?เบญเป็นเมียฉัน เพราะฉะนั้นแกจะหมั้นกับเบญไม่ได้?
ประโยคที่วีรุตม์พูดออกมา เล่นเอาทุกคนที่อยู่ในห้องรับรองถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะคาดไม่ถึงว่าสิ่งที่หนุ่มหน้าคมเอื้อนเอ่ยนั้นจะสร้างเสียงฮือฮาดังก้องทั่วห้อง ไม่เว้นแต่วกุลทิพย์ก็อยู่ในอาการตาโตราวกับไข่ห่าน หลังจากยืนนิ่งสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ จับประเด็นการสนทนาระหว่างสองหนุ่ม
ส่วนเบญญาอาศัยช่วงจังหวะที่ทุกคนกำลังงงงันกับสถานการณ์วุ่นวาย สะบัดมือออกจากมือพฤกษ์ แล้วลุกขึ้นวิ่งมายืนข้างๆ วีรุตม์ นาทีนี้เธอมองข้ามถ้อยคำครหาที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน ญาติผู้ใหญ่ฝั่งพฤกษ์ต่างปั้นหน้าเครียด เตรียมพร้อมยิงคำถามใส่บิดามารดาของเบญญา ทุกคนต่างคาดหวังว่าคำตอบที่ได้รับ ต้องกระจ่างโปร่งใส เมื่ออีกฝ่ายพูดออกมา
?ยายเบญ!? บวรเรียกชื่อเล่นลูกสาวเสียงดังลั่นห้อง ?แกรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่? เขาถามทายาทเพียงคนเดียวเสียงเครียดจัด เมื่อเห็นเบญญาวิ่งไปหาบุรุษท่าทางภูมิฐาน มีความสง่างามไม่น้อยกว่าบุตรชายแห่งพิตตินันทกุล
?เบญรู้ตัวค่ะคุณพ่อ เบญมีสติดีครบถ้วน? เธอตอบคำถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคง
?ยายเบญ... นี่มันเรื่องอะไรกัน? ญาดาถามลูกสาวอย่างสงสัย
?คุณวีเป็นสามีของเบญค่ะ? เธอหันไปบอกมารดา
ญาดาฟังแล้ว เข่าอ่อน พานจะล้มเสียให้ได้ โชคดีที่ญาติผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆ คอยประคองไว้ ส่วนบวรรู้สึกอดสูใจที่ลูกสาวประกาศสถานภาพของตนให้ทุกคนที่มาร่วมงานรับรู้ แต่ความรู้สึกนั้นยังไม่เท่าขุ่นเคืองใจที่ทุกอย่างพังทลายด้วยมือเบญญา
?แกพูดบ้าอะไรของแก? บวรชี้หน้าถามลูกสาว ดวงตาภายใต้กรอบแว่นดุกร้าว
?ไม่ใช่คำพูดบ้าๆ นะครับ? วีรุตม์ชิงตอบเสียเอง เขาต้องปกป้องและอยู่เคียงข้างเธอ ไม่ว่าทุกข์หรือสุข ?ผมเป็นสามีของเบญ?
สองสามีภรรยาราชาค้าที่ดินหน้าเสียละเหี่ยใจที่ฟังความจริง เบญญาน้ำตาไหลพราก เมื่อเห็นบิดามารดามองเธออย่างผิดหวัง แต่เธอยังไม่โยนความตั้งใจอันแน่วแน่ทิ้งไป
?อย่าบังคับใจเบญเลยนะคะ เบญไม่สามารถหมั้นหมายกับคนที่เบญไม่ได้รัก เบญกราบขอโทษคุณพ่อ คุณแม่ และคุณป้ากิ่งแก้ว รวมถึงคุณพฤกษ์ ตลอดจนญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และแขกเหรื่อทุกท่าน ที่เบญทำเรื่องน่าอดสู แต่เบญไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับคุณพฤกษ์มากกว่าเพื่อน ผู้ชายที่เบญรักมีแค่คุณวีคนเดียวเท่านั้น? เบญญาปรายตาไปยังคนรัก รู้สึกซาบซึ้งยิ่งนักที่เขายอมทำเพื่อเธอได้ทุกอย่าง
?กลับมาทำหน้าที่ของแกเดี๋ยวนี้นะยายเบญ? ญาดาออกคำสั่งเสียงห้วน
ลูกสาวส่ายหน้าเร็วๆ ?ไม่ค่ะคุณแม่ เบญตัดสินใจแล้ว เบญจะไปกับคุณวี ยกโทษให้เบญด้วยนะคะคุณพ่อ คุณแม่ คุณป้ากิ่งแก้ว เบญขอบคุณมิตรภาพดีๆ ระหว่างเรานะคะคุณพฤกษ์? เบญญาไล่สายตาไปที่บุพการี เรื่อยมาจนถึงมารดาของพฤกษ์ และหยุดสายตาไว้ที่ชายหนุ่ม
เมื่อความอึ้งนิ่งเงียบรายล้อมรอบห้องรับรอง วีรุตม์จึงอาศัยจังหวะนั้น คว้ามือเบญญา วิ่งออกไปให้พ้นจากสถานการณ์วุ่นวาย
?พี่วี... จะไปไหนคะ... พี่วีรอวุ้นด้วยสิ? วกุลทิพย์เพิ่งมีโอกาสพูดคำต่างๆ ออกมาเป็นประโยค เธอมองคนสองคนที่วิ่งออกไป แล้วหันมามองใครอีกหลายๆ คนที่นั่งเกาศีรษะ อ้าปากค้าง พร้อมกับส่งเสียงถามเกี่ยวกับที่มาที่ไปเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ญาติผู้ใหญ่สองตระกูลต่างเสาะหายาดมกันจ้าละหวั่น เบญญาทำใจแข็ง ไม่หันไปมองเบื้องหลัง ทั้งๆ รู้ว่ามารดากำลังจะหมดสติ เสียงมารดาเรียกชื่อเธอค่อยๆ เบาลง เมื่อเธอกับวีรุตม์วิ่งออกไปจากห้องรับรอง
ส่วนวกุลทิพย์ไม่มีเวลาสนใจใครๆ ทั้งสิ้น นอกจากพี่ชายกับผู้หญิงที่เธอเพิ่งรับรู้ว่าคือพี่สะใภ้ ในใจบังเกิดคำถามหลากหลายข้อ เธอมองไปรอบๆ ห้องรับรอง แล้วก้มหน้านิ่ง เมื่อทุกสายตาต่างจ้องเธออย่างไม่พอใจ พวกเขาเหล่านั้นคงพานเกลียดเธอไปด้วยอีกคน
วกุลทิพย์ขยับเท้า หมุนตัว เตรียมวิ่งออกไปจากห้อง และจังหวะนั้น อาจเป็นเพราะความบังเอิญหรือไม่ วกุลทิพย์ก็สุดจะคาดเดา เมื่อดวงตาคู่สวยสบกับนัยน์ตาคมเข้มของใครบางคนที่นั่งนิ่งไม่ไหวติง คล้ายไม่รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น
วูบหนึ่งถ้าตาไม่ฝาด เธอสังเกตเห็นสายตาคมกริบคู่นั้นเต็มไปด้วยลูกไฟนับไม่ถ้วนจากดวงตาเขา วกุลทิพย์หวาดหวั่นระคนหวาดเกรง เธอไม่รอช้า รีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
พฤกษ์มองตามคนทั้งสามด้วยความรู้สึกหลากหลาย โกรธ เคียดแค้น เสียใจ แต่ที่แน่ๆ ชายหนุ่มตั้งปณิธานเอาไว้ว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เขาไม่เคยมีเพื่อนชื่อวีรุตม์ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับวีรุตม์จะต้องได้รับบทเรียนแห่งความเจ็บปวดอย่างสาสม ดวงตาคมกล้าทอแววอาฆาต เมื่อจ้องมองสตรีที่เขาจะสร้างจุดเปลี่ยนในชีวิตเธอไปชั่วนิรันดร์
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?จะไม่มีการหมั้นเกิดขึ้น...นายแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้นะพฤกษ์? เสียงหนึ่งแทรกเข้ามากลางพิธีหมั้นทว่าพฤกษ์หาได้สนใจไม่เขาเข้าใจว่าเพื่อนเมา แต่แล้วก็เหมือนสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะเมื่อว่าที่คู่หมั้นสาวสารภาพสิ้นจนหมดเปลือก ความชอกช้ำที่งานหมั้นถูกยกเลิกกลางคันเป็นผลกดดันให้ ?พฤกษ์? ทำตัวเสเพล ชายหนุ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ มีผู้หญิงรายล้อมรอบตัวไม่ซ้ำหน้าเพราะพวกหล่อนมีอายุใช้งานไม่เกินเดือน แต่แล้วความคิดใหม่ก็แวบเข้ามาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไอ้เพื่อนตัวแสบมีน้องสาว ซึ่งบาดแผลที่อักเสบเรื้อรังอยู่ตอนนี้คงบรรเทาเบาบางลงบ้างเมื่อได้แก้แค้น ?วกุลทิพย์? คือผู้หญิงที่เขาจะลงทัณฑ์ด้วยความใคร่แล้วเขี่ยทิ้งอย่างไม่ไยดี
?ขอผมทดสอบของเล่นชิ้นใหม่หน่อยนะว่าจะถูกใจหรือเปล่า? พฤกษ์ขยิบตาให้เธอ แล้วจงใจมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย พลางสำรวจเรือนร่างอรชรในชุดกระโปรงตามสมัยนิยม วกุลทิพย์หน้าร้อนผ่าว เข้าใจเจตนารมณ์ของเขา รู้ในทันทีว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่...