ท้องฟ้าฉาบทาด้วยสีม่วงเข้ม เพื่อเข้าสู่ชีวิตกลางคืนอีกคืนแล้วสินะสำหรับใครหลายคน หากแต่นางสาวมธุรดา วิรากานต์กำลังตั้งหน้าตั้งตาบึ่งรถคันใหญ่ที่ขอยืมมาจากผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง ลำพังเธอเหรอไม่มีปัญญาขับรถหรูขนาดนี้แน่นอน อาศัยระบบขนส่งสาธารณะประจำ
ครั้นพอบึ่งรถมาถึงลานจอดรถท่าอากาศยานนานาชาติ มธุรดาสอดสายตามองหาที่จอดรถ ขับวนอยู่สองสามรอบก็โชคดีจึงรีบถอยเข้าไปจอดตรงซองพอดีในรอบเดียว ไม่ต้องขยับซ้ายขวาหน้าหลังเหมือนอีกคันที่ขยับเข้าๆ ออกๆ อยู่หลายครั้งกว่าจะตรงซอง เมื่อจอดรถนิ่งสนิท ร่างบางรัดรึงในกางเกงยีนสีซีดรัดรูปเข้ารูปร่างเย้ายวน เอวคอด สะโพกงอนงาม กับเสื้อยืดสีขาวคอกลมก็ก้าวลงจากห้องโดยสารคล่องแคล่ว
ก่อนถึงเวลาขอเข้าไปเติมคาเฟอินในร้านกาแฟสักหน่อย เมล็ดกาแฟสดอะราบิก้าเตะจมูกโด่ง จนต้องย่นจมูกฟุดฟิดตามกลิ่นกาแฟที่ส่งให้ชีพจรลงเท้าก้าวเข้าไปยืนต่อแถวกับลูกค้าคนอื่น เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเพราะกว่าจะได้นอนเกือบรุ่งสาง จากภารกิจท่านผู้ใหญ่มอบหมายให้ไปจัดการ ยิ่งตอนนี้จำต้องถ่อสังขารทรุดโทรมมารับเพื่อนสนิทที่มันไม่ยอมใช้งานคนในครอบครัว...เจาะจงต้องเป็นเธอเท่านั้น
?ขอคาปูชิโนแก้วหนึ่งค่ะ? เสียงหวานสั่งพนักงานออกไปเมื่อถึงคิว เพราะมีคิวก่อนหน้าเพียงคิวเดียวจึงรอไม่นานนัก ระหว่างยืนรอใบหน้ารีเรียวหันมองไปรอบร้านที่ตกแต่งห้อมล้อมไปด้วยกระจกบานใสมองเห็นรอบด้าน สายตาไปสะดุดกับบุรุษแต่งกายดีเยี่ยม สวมสูทสีดำภูมิฐาน สายตาวาววามจับจ้องกับทัศนียภาพเจริญตาไม่วางตา
ทีแรกสายตาซุกซนช่างสังเกตจับจ้องสำรวจร่างนอกกระจกบานใหญ่ของร้านกาแฟ โดยรวมๆ แต่เมื่อเห็นเครื่องหน้าคมเข้มล่ำสันชวนสะดุดตา กระตุ้นสายตาไล่สำรวจส่วนอื่นบนร่างสูงสง่านั้นถ้วนทั่ว สายตาซุกซนช่างสำรวจค่อยๆเลื่อนไปตามรูปร่างสูงใหญ่ หุ่นไซส์ยุโรปด้วยอาการเผลอไผล
ปกติมธุรดาไม่ค่อยเผลอไผลไปกับความทรงเสน่ห์ของบุรุษเพศ เพราะชีวิตเธอท่องไว้จนขึ้นใจ...หาเงินและทำงานให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัว เมื่อไล่สายตาขึ้นไปเรื่อยๆ สายตาจอมซ่าจึงไปสะดุดกับไรเคราเขียวครึ้มสะกดสายตามธุรดาให้จับจ้องมองอยู่ตรงนั้นนิ่งนาน ราวกับค้นพบขุมทรัพย์มหาศาล
?คุณคะ คาปูชิโนได้แล้วค่ะ? เสียงพนักงานของร้านกาแฟเรียกลูกค้าเมื่อออเดอร์ที่สั่งเรียบร้อย ?คุณคะ?
เมื่อยังเห็นว่าลูกค้าคนสวยยังคงนิ่งไม่ยอมหมุนกายมารับแก้วกาแฟจึงเรียกซ้ำการเรียกครั้งที่สอง ทว่าลูกค้าคนสวยก็ยังนิ่งเหมือนถูกสะกดจิตกับอะไรสักอย่าง
?ขา...ขาว่าไงคะ? เมื่อถูกพนักงานสะกิดมธุรดาสะดุ้ง กะพริบตาๆ ถี่เพื่อไล่ภาพน่าหลงใหลนั้นทิ้งไป
?กาแฟได้แล้วค่ะ?
?อ้อ ขอบใจจ้ะ? มือบางยื่นไปหยิบแก้วกาแฟกระดาษกระดาษทรงสูง พิมพ์ลวดลายโลโก้ชื่อร้านที่หลายๆ ท่านคุ้นเคย จากนั้นยื่นเงินค่ากาแฟให้พนักงานรอรับเงินทอน จึงหมุนกายกลับมายังทัศนียภาพเจริญตาจุดเดิม ทว่าภาพที่วาดหวังไว้จะได้แอบมองอีกครั้งกลับหายไป
มธุรดาได้แต่สอดส่ายสายตาหาเจ้าของร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมเข้มที่เห็นเพียงครั้งแรกสะดุดจนไม่อาจถอนสายตาจากภาพนั้นได้
?ให้ตายเถอะ คนอะไรหล่อชะมัด?
เรียวปากชมพูวาวด้วยลิปกลอสขยับพร่ำกับตัวเองเสียงแผ่ว หัวใจดวงน้อยแต่แกร่งกล้าเต้นโครมครามไม่ต่างกับวงดนตรีร็อกระเบิดความมันอยู่ในอก เพียงแค่นึกมโนภาพใบหน้าอันอุดมไปด้วยความหล่อเหลาทั้งที่ยังเห็นไม่เต็มทั้งดวงตา หญิงสาวยังพบว่าเจ้าของดวงหน้านั้นช่างหล่อขาดบาดใจ กระชากสายตาที่ไม่เคยเผลอไผลไปกับความหล่อเหลาของชายใดได้ง่ายเผลอมองจนลืมกาแฟที่สั่งไว้ แถมตอนนี้ไม่ต้องพึ่งพาคาปูชิโนแก้วใดอีก
ข้อมือบางถูกยกขึ้นดูเวลาอีกครั้ง เอาล่ะคงถึงเวลาเดินไปรออีกตา ปาณัท ร่มธรรมแล้ว ร่างกลมกลึงสาวเท้าไปตรงที่รอผู้โดยสารขาเข้าในมือเรียวมีแก้วกาแฟปิดฝายังไม่ได้ดื่มสักหยด เพราะภาพผู้ชายคนนั้นทำให้เธอตาสว่างหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง แต่เพราะความเหม่อลอยใบหน้าใครคนนั้นติดอยู่ตรงม่านตาทำให้ไม่สนใจสิ่งต่างๆ รอบด้าน
?ว้าย!? เสียงกรีดร้องเพราะความตกใจตามสัญชาตญาณหลุดจากปากหญิงสาว ยังไม่ทันได้มองสิ่งที่เธอชน แต่ก้มลงไปมองแก้วกาแฟกระเด็นกระดอนหล่นจากมือลงไปนอนแอ้งแม้งตรงพื้น น้ำสีน้ำตาลไหลออกจากรูที่เจาะหลอด เลอะพื้น
?คุณผู้หญิงระวังหน่อยสิครับ? เสียงทุ้มดุดันแทรกความตกอกตกใจของหญิงสาวดังขึ้น
ใบหน้าไร้เครื่องสำอางแต่งเติม เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยชอบประโคมอะไรให้รกใบหน้าเงยขึ้นมองที่มาของเสียง ชายร่างสูงใหญ่ตระหง่านส่งแววตาตำหนิมายังเธอ เพราะความซุ่มซ่ามของเธอ หน้าตาคนตรงหน้าดุดันทำให้เจ้าของแก้วกาแฟรู้สึกหวาดผวา ทว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว ด้านหลังชายร่างยักษ์มีผู้ชายอีกคนยืนซ้อนหลังอยู่ มธุรดาเอียงหน้าจากกำแพงใหญ่ที่ขวางกั้นระหว่างเธอกับคนด้านหลัง ดวงตารีสวยถึงกับเบิกกว้าง อาการแปลกๆ วิ่งแล่นในกายปัจจุบันทันด่วน
?อุ๊บ...? เสียงอุทานที่ถูกกลืนหายลงคอเพราะคนด้านหลัง คือผู้ชายที่เธอเห็นนอกกระจกร้านกาแฟจนแอบเก็บภาพใบหน้าหล่อคมเข้มมาเพ้อฝัน เพราะเขานั่นแหละที่ทำให้เธอเดินชนกำแพงหนาเมื่อกี้ แต่กลิ่นแรกที่เธอชนไม่ใช่กลิ่นฉุนๆ ตอนนี้นี่นา
จมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมแห่งบุรุษเพศผสานน้ำหอมผู้ชายอ่อนๆ กลิ่นนี้ปลุกเร้าฟีโรโมนในกายเธอได้อย่างประหลาด
?ดีนะกาแฟในแก้วนั้นไม่หกเลอะเทอะใส่เสื้อผ้าเจ้านายผม?
ชายผู้นี้กล่าวตำหนิเธอด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงกระดกลิ้นเยอะๆ แต่ก็พอฟังออก ถึงมธุรดาจะยังเรียนไม่จบปริญญาโทเพราะต้องดรอปการเรียนไว้ เพื่อใช้เวลาหาเงินจุนเจือครอบครัวซะก่อน แต่นับได้ว่าตัวเธอเรียนดีในวิชาภาษาอังกฤษเกรดใช้ได้ จึงฟังและสนทนากับชาวต่างชาติได้ ไม่ใช่ปล่อยให้คนพวกนี้หลอกด่าฟรีๆ
?ฉันขอโทษ?
ด้วยมารยาทสาวไทยที่ถูกพร่ำสอนมาอย่างดีรีบเอ่ยขอโทษจากการกระทำของตัวเองแก่ชายร่างยักษ์หน้าตาถมึงทึง เผื่อแผ่ไปให้ชายฝรั่งตัวสูงด้านหลัง ใบหน้าคมเข้มงดงามดุจเทพเจ้าแห่งสงครามทางอียิปต์ ผมดกดำผิดแผกกับความเป็นสัญชาติฝรั่งโดยสิ้นเชิง
มธุรดา...ไม่ชอบกินฝรั่งแต่อยากกินฝรั่งขึ้นมาตงิดๆ
หัวใจอ่อนบางเต้นโครมครามกระแทกอกเจ็บระบม ชายผู้คนนั้นชำเลืองมองสาวซุ่มซ่ามด้วยสายตาเย็นชา
?คราวหน้าระวังหน่อยนะครับคุณผู้หญิง? เสี.้ำกับมธุรดาอีกครั้ง
?ค่ะ? ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับผู้มาเยือนประเทศของตน รอมชอมได้เราควรทำในฐานะเจ้าบ้าน คงไม่ต่างกับอารมณ์การเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายแถบภาคใต้ เช่นเดียวกัน มธุรดาไม่ต้องการปูพรมทำสงครามจึงยอมง่ายๆ
ดวงตารีงดงามไหวระริกไม่ได้จดจ้องอยู่กับร่างสูงใหญ่ที่เอาแต่วางกล้ามกับเธอ หากแต่จุดหมายอยู่เบื้องหลังร่างยักษ์เพียงจุดเดียว ทว่าเมื่อเขาเบี่ยงใบหน้าหันมาสบประสานดวงตากับเธอเพียงนิด ดวงตาที่จับจ้องเขาอยู่ก่อนกลับหลบวูบราวกับผู้ต้องหาหลบสายตาตำรวจที่กำลังสอบสวนเพราะกลัวความผิดที่แอบซ่อนไว้
?ไปกันเถอะลอส เรามีงานต้องทำ? เสียงทุ้มดุจเสียงพระราชาสั่งบริวาร ชายชื่อลอสหมุนกายไปยืนซ้อนหลังคนสั่งแล้วจากไป
มือบางข้างขวายกขึ้นทาบอกซ้าย เมื่อสายตาสบประสานกับสายตาคมกริบเยือกเย็น ดั่งลมพัดผ่านวูบไหวตอนที่เขากำลังจะก้าวจากไป เพียงเท่านั้นแข้งขามธุรดาที่เคยแกร่งดุจหินผากลับอ่อนแรง เกือบพยุงกายไม่อยู่อาการเหมือนคนจะเป็นลม
?ยัยมายด์? เสียงหนึ่งดังขึ้นทางด้านหลัง ร่างมธุรดายังคงนิ่ง ?นี่ยัยมายด์?
เสียงเรียกชื่อเธอดังขึ้นอีกครั้งคราวนี้ใกล้ตัวกว่าเดิม ร่างบางทะมัดทะแมงสะดุ้ง กะพริบตาปริบๆ มองเจ้าของเสียงของผู้ที่เธอถ่อสังขารมารับ ปากเกือบติดแก้มเนียนผ่องพรรณกำลังขึ้นสีเลือดฝาดจากสายตาคมที่จากไปเมื่อกี้
?ว้าย...ฉันไม่ชอบกินฝรั่งแต่อยากกินฝรั่ง?
ด้วยอาการตกใจเสียงอุทานที่หลุดจากปากบ่งบอกความคิดในใจถูกตะโกนใส่หน้าผู้มาใหม่จนขี้หูเต้นระบำ
?อะไรของแกยัยมายด์? ผู้มาใหม่หดคอหนีเสียงแสบแก้วหู
?ไอ้ณัท...มาแล้วเหรอ? มธุรดาร้องทักเพื่อนสนิท ซึ่งมันบ้าระบุให้เธอต้องมารับอย่างปฏิเสธไม่ได้
?เออสิวะ แกเป็นอะไร ทำไมอุทานบ้าๆ บอๆ แบบนั้น? ปาณัทรู้สึกขำกับคำอุทานของเพื่อน ปกติมธุรดาอุทานแค่ อุ้ย อกอีแป้นจะแตก ยกเว้นเหม่อจริงๆ ค่อยหลุดสิ่งที่คิดในใจเวลาอุทาน หรือว่า...
?ฉันอุทานว่าไงนะ? ยิ้มเจื่อนกลบเกลื่อนความคิดในใจตอนนี้
?ฉันไม่ชอบกินฝรั่งแต่อยากกินฝรั่งทำนองนี้ล่ะ? ปาณัทเพื่อนสนิทที่เพิ่งเดินทางกลับจากเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐฯ นับว่าเป็นเพื่อนรักเพียงคนเดียวในโลกของมธุรดา...เข้าใจกันดีที่สุด หมอนี่รู้ตื้นลึกหนาบางของมธุรดาดีกว่าคนอื่นๆ
ตอนที่ปาณัทบอกกับมธุรดาว่าจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ทั้งคู่รู้สึกใจหาย อาวรณ์กันอยู่นานกว่าจะแยกจากกันได้ เพราะตอนเรียนมหาวิทยาลัยทั้งคู่สนิทสนมกันมาก หลายคนลงความเห็นว่าทั้งคู่ต้องเป็นแฟนกัน ความจริงแล้วทั้งคู่เป็นแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้น
แต่บางทีเพื่อนสนิทอย่างปาณัทมักคิดไม่ซื่อกับเพื่อนคนนี้อยู่บ่อยๆ แต่เมื่อคิดจีบปาณัทกลัวเสียความเป็นเพื่อน กลัวการเปลี่ยนแปลงสารพัด ทำได้จริงๆ แค่หมาหยอกไก่ เขาไม่พร้อมอกหักกับมธุรดา
ส่วนมธุรดาเจียมตัวเสมอ เธอไม่กล้าใช้ความสนิทไต่เต้าไปเกินเพื่อน คนอื่นอาจคิดไปว่าเธออยากเป็นหนูตกถังข้าวสารหอมมะลิที่อบอวนไปด้วยวิตามินครบถ้วน หนูอย่างเธอไม่กล้าคิดตกถังข้าวสารหุ้มทองสาบานได้ ขอความเป็นเพื่อนไว้คอยช่วยเหลือ ไว้เพื่อรับฟังความทุกข์ของเธอเป็นดีที่สุด
?จริงเหรอ ไม่จริงล่ะมั้ง? หญิงสาวผลุบสายตากลบเกลื่อนเสียงอุทาน คงดังลอดออกไปไกลทีเดียว สงสารตัวเองน่าอายสิ้นดี ตอนนี้ไม่กล้าสบตาปาณัท มธุรดาชอบอุทานอะไรก็ตามที่ใช้ความคิด ถ้าตกใจมันก็จะหลุดออกมาให้ขายหน้าประจำ ถ้าคิดอะไรตกใจก็แค่ร้องอุ้ย...ว้ายเท่านั้น
?จริง ฉันได้ยินเต็มสองหู? เพื่อนย้ำพร้อมกับชี้นิ้วชี้ข้างขวากับหูตัวเอง สงสัยยัยนี่กำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆ
?เออ...ช่างเถอะ? ปัดเรื่องน่าอายออกไป เงยหน้ามองเพื่อนรักให้เต็มตา ?ว้าว ณัทแกหล่อขึ้นเป็นกองเลยว่ะ ไม่เจอแกกี่ปีวะ? นิ้วเรียวถูกยกขึ้นนับ
?ไม่ต้องนับหรอกแค่สามปีเอง ฉันทำโทสองปีไม่ได้เรียนเป็นหมอ ไม่ต้องนับให้เมื่อย? ติดต่อกันอยู่ประจำทำลืมไปได้
?เฮ้ย...ไหนดูซิ? มธุรดาจับร่างปาณัทหมุนสองรอบติด หนุ่มผิวขาวจัด หน้าตาดีหุ่นดีสมส่วนสูงรูปร่างของปาณัทไม่ต่างอะไรกับนายแบบสถานลดน้ำหนักฟิตและเฟิร์มอะไรพวกนั้น ความสูงที่มธุรดาต้องแหงนคอตั้งบ่ามองจนเมื่อยคอ
?หล่อไหมล่ะ? ปาณัทแสดงสีหน้ายียวนในแบบฉบับหนุ่มมากเสน่ห์ อ้าแขนอวดหุ่นสมส่วน
?ตัวสูงใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าตอนอยู่เมืองไทยอีกนะ สงสัยกินอาหารพวกเนื้อนมไข่อุดมสมบูรณ์ หล่อขนาดนี้มีแฟนเป็นแหม่มผมทองหรือสาวตาน้ำข้าวหรือยังวะณัท? เย้าเพื่อนตามประชาคนคุ้นเคย ปาณัทสวมวิญญาณหนุ่มเจ้าสำราญตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้ามธุรดา เขาจึงกลายเป็นหนุ่มมากรักในสายตาหญิงสาว ทั้งมวลที่เขาประพฤติตัวเช่นนี้เพราะก่อกำแพงสูงกั้นความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนผู้น่ารักคนนี้ต่างหาก
?ไม่ค่อยชอบแหม่ม...ชอบสาวไทย โดยเฉพาะสาวไทยน่ารักๆ คนนี้? นิ้วสะอาดจิ้มลงบนไหล่มนของมธุรดา ฝ่ายนั้นมองตามนิ้วเพื่อนด้วยอาการแอบเขินนิดๆ แต่ก็รู้ปาณัทชอบเย้าเล่นกับเธอจนติดเป็นนิสัย เมื่อไหร่ที่หมอนี่จริงจังค่อยคิดเพ้อฝันไปตามปากคนพูดแล้วกัน
?เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน? หญิงสาวส่ายศีรษะแบบเคยๆ เพราะเธอมักถูกจีบไม่จริงจังจากปาณัทอยู่เรื่อย บางทีก็ชอบบางทียังรู้สึกเลี่ยนมากกว่า หลายมุขเสี่ยวหลายมุขทันสมัยไม่ซ้ำ ช่างคิดช่างพูดสุดท้ายทั้งคู่ยังคงสถานภาพความเป็นเพื่อนไม่แปรเปลี่ยน
?ไปๆ กลับบ้าน ฉันต้องรีบไปทำงานต่อ? ตบไหล่เพื่อนหนุ่มมาดแมนให้ไปขึ้นรถ
?งาน...ว่าแต่แกทำงานอะไร เห็นบอกฉันว่าทำงานสำนักข่าว อะไรนะ...ไดเจตไม่ใช่เหรอ? ทุกทีที่พูดถึงงานของมธุรดา เธอมักพูดน้อยตอบนิดเหมือนมีบางอย่างอึดอัดใจ
?เอ่อ...พอดีมีผู้ใหญ่ใจดีจ้างให้ไปช่วยงานนิดหน่อยน่ะ? ผู้ใหญ่ใจดีที่ปาณัทรู้ดีว่าเป็นใคร แต่มธุรดาคงบอกไม่ได้ถึงผู้ใหญ่ใจดีคนนั้น
หลังจากจบปริญญาตรีมธุรดาสมัครเข้าทำงานในบริษัทไดเจต บริษัทหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจสังคม เน้นการเมืองร้อนแรงเจาะลึกในอดีต ปัจจุบันแตกสายงานออกไปเกี่ยวกับสื่อโทรทัศน์ทางเคเบิ้ลทีวี ยังคงตีแผ่สังคมการเมือง เจ้าของสำนักพิมพ์กล้าคิดกล้าทำใจเกินร้อย
ทว่าเงินเดือนเด็กจบใหม่ปริญญาตรีอย่างมธุรดาไม่ได้มากมายอะไร ยิ่งเมื่อบิดาและมารดาแยกทางกัน สมาชิกในบ้านต้องพึ่งพาเงินเดือนข้าราชการครูของมารดาเพียงทางเดียว แต่เพราะมธุรดาได้รู้จักผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วยและขอร้องให้เธอช่วยงานราชการบางอย่าง ทางการพร้อมอนุเคราะห์ค่าใช้จ่ายในชีวิตของมธุรดาโดยไม่ให้ลำบาก ดังนั้นเมื่อรับรองกันขนาดนี้มธุรดาจึงยินยอมทำหน้าที่ได้รับมอบหมายนี้
?แกมีรถแล้วหรือวะมายด์?
?ยืมเขามา?
?โห...ใครใจให้ยืมรถดีขนาดนี้วะ?
?ผู้ใหญ่ใจดี?
?พูดถึงแต่ผู้ใหญ่ใจดี แกเป็นเด็กเสี่ยหรือเปล่าฉันชักสงสัย? ถ้าความคิดของตนเป็นจริงเขาคงผิดหวังในตัวเพื่อนผู้มุ่งมั่นและนิสัยดีคนนี้มากๆ ภาวนาให้ข้อสันนิษฐานของตัวเองเป็นเพียงความคิดซุกซน
?ไกลจากที่แกคิดเยอะ นับถือเป็นเหมือนพ่อเหมือนญาติผู้ใหญ่ แกอย่าเอาความคิดหน้าด้านพวกนั้นมากล่าวหาฉัน ไปๆ รีบเก็บของขึ้นรถ ฉันมีงานต่อ? ไม่โกรธเพื่อนคนนี้เลยสักนิด ปาณัทมักปากเปราะไปตามเรื่อง จริงใจกับเธอมีอะไรคุยกันตลอด ถ้าถือสากันคงโกรธเคืองไม่คุยกันเป็นชาติแล้ว
ปาณัทขนกระเป๋าไปไว้หลังรถจากนั้นก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะข้างคนขับ รถยนต์คันใหญ่ขนาดเกินตัวคนขับเอวบางร่างน้อยที่เขาหลงใหลจนไม่อยากคิดกับเพื่อนคนนี้ในสถานะเพื่อนอีกต่อไป ยิ่งตอนนี้มธุรดาสวยขึ้นดูมั่นใจมากขึ้น ท่าทางคล่องแคล่วเป็นคนละคนกับเมื่อก่อน
ปาณัทยังจำได้ไม่เคยลืมบุคลิกการแต่งกายเครื่องแบบนักศึกษาของมธุรดาต่างจากสาวเปรี้ยวซ่าที่เขาเคยควงไปดูหนังฟังเพลง และจบลงบนเตียงด้วยความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย พวกหล่อนเปรี้ยวทุกกระเบียดนิ้ว เสื้อรัดติ้วขนาดสามเอ กระโปรงสั้นแค่คืบปิดส่วนเร้นลับไม่มิด เวลานั่งหรือยกขาก้าวเดินมองเห็นไปถึงตับ รองเท้าผิดระเบียบโก้จัด กระเป๋ายี่ห้อดีแบรนด์ดัง แต่งหน้าแต่งผมเต็ม ดูยังไงก็ไม่ให้ความรู้สึกว่าพวกหล่อนเป็นนักศึกษา นอกจากมาอ่อยผู้ชาย
แล้วผู้ชายเช่นเขายอมหลงไปกับการหว่านล้อมแบบนั้นอย่างไม่ต้องกวักมือเรียก พร้อมกระโจนเล่นกับไฟร้อนแรงทั้งที่รู้ว่ามันร้อน ขณะหันกลับมามองคนใกล้ตัวเช่นมธุรดาเธอยังคงเป็นของเธอไม่เคยเปลี่ยน แต่งกายอย่างไรตั้งแต่ปีหนึ่งกระทั่งจบปีสี่ยังคงเช่นนั้น แม้เคยเย้าให้เปลี่ยนก็โดนตอกกลับ
?ฉันมาเรียนไม่ได้หามาแฟน? คำบอกจากปากมธุรดาก่อเกิดความคิดให้ยกเว้นผู้หญิงคนนี้ต่างจากคนอื่น ไม่แตะต้องไม่ล่วงเกิน จึงคบหาในฐานะเพื่อนสนิทเรื่อยมา
?คนที่บ้านแกเยอะแยะทำไมไม่ใช้ น้องแกก็ว่าง?
?ฉันอยากเจอหน้าแกคนแรกตอนเหยียบแผ่นดินเกิด?
?โห...ซึ้งสุดใจ รู้ทั้งรู้ฉันไม่มีรถ? เพื่อนสาวแอบเหน็บทั้งที่ประโยคจากปากปาณัท น่าจะกินใจจนร้องไห้
?ต่อให้ต้องนั่งรถเมล์แต่ถ้าได้นั่งกับแกฉันก็ว่ามันวิเศษมาก? หยอดอย่างยอดเยี่ยมทุกที
?มามุขไหนวะ โคตรเลี่ยนเลย? จะว่าเขินก็เขิน...แต่เพราะมักเจอประโยคจีบแบบนี้จากปาณัทบ่อยๆ หลายครั้งก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าหมอนี่เอาไงกับเธอกันแน่ แม้ระยะทางไกลที่ใช้โปรแกรมติดต่อกันผ่านสื่อออนไลน์หมอนี่ก็ยังคงหมาหยอกไก่จนเธอเกือบเคลิ้มไปหลายครั้ง พอถามเอาความจริงปาณัทตอบกลับแค่ว่าล้อเล่น
เอ้า...ล้อเล่นก็ล้อเล่น
?ไปทานข้าวก่อนเข้าบ้านดีไหม อยากคุยกับแก่นานๆ? ปาณัทชวน
?ไม่ได้ คืนนี้มีงานสำคัญ? เพราะมีงานสำคัญไม่สามารถนัดเดทกับใครได้ แม้เสียดายแต่งานต้องมาก่อน เพื่อนไว้ค่อยนัดทานข้าวกันเมื่อไหร่ก็ไม่สาย
?งานอะไรวะ ทำตอนกลางคืน?
?ฉันเปลี่ยนจากทำงานในสำนักงานเป็นนักข่าวแล้ว เบื่องานนักโต๊ะจัดเรียงเอกสารบ้าบอ ไม่มันไม่ตื่นเต้น ตอนนี้เลยออกภาคสนาม ตามตูดคนดังในสังคมดีกว่า?
?มิน่าแต่งตัวอย่างกับทอมบอย แต่ก็ยังสวยในสายตาฉันอยู่ดี? เมื่อก่อนสวยหลบในต้องดูนานๆ แต่ตอนนี้ความสวยน่ารัก แถมมั่นใจขึ้นมากในตัวมธุรดากระตุ้นสถานะเพื่อนให้กระเด็นไปไกลสิบโยชน์ ปาณัทอาจทนเก็บความรู้สึกลึกๆไม่ได้สักวัน
หญิงสาวกระตุกยิ้มมุมปากแหยๆ มองหน้าคนนั่งข้างสลับกับเส้นทางที่ตอนนี้ฉาบทาด้วยสีดำ ประดับประดาด้วยดวงไฟนีออนเกลื่อนท้องถนน เมืองหลวงไม่เคยหลับใหลเฉกเช่นไร กรุงเทพฯ ก็ยังคงคอนเซ็ปท์ไว้แบบนั้น
ยานพาหนะพาสองหนุ่มสาวเข้าไปรวมกลุ่มกับยานพาหนะคันอื่นบนท้องถนน รถยนต์จอดติดไฟแดง ปาณัทเอื้อมมือเปิดเครื่องเสียงเลือกคลื่นสถานีไปเรื่อยๆ ในขณะรถคันข้างๆ กำลังแอบมองคนขับหน้าตาน่ารักไม่วางตา
ยานพาหนะผ่านไฟแดงจอแจมาหลายแยกกระทั่งรถยนต์คันใหญ่สีขาวแล่นมาจอดหน้าคฤหาสน์สวยงาม ก่อนหน้านั้นปาณัทรบเร้ามธุรดาให้ไปนั่งระลึกความหลังกัน ทว่าหญิงสาวไม่ยอมใจอ่อน งานพิเศษคืนนี้สำคัญมากเธอไม่สามารถนัดกับใครได้ในเวลาจวนเจียน
?พรุ่งนี้เจอกัน รับรองจะชดเชยให้พ่อยอดขมองอิ่ม? เมื่อรถจอดนิ่งมธุรดาเอ่ยลาเพื่อนรักหลังจากเห็นว่าปาณัทขนกระเป๋าลงทั้งสามใบลงเรียบร้อยแล้ว
?เสียดาย...อยากฟัดมายด์มากๆ เลย? เขากล่าวทีเล่นทีจริงด้วยใบหน้าทะเล้นแฝงเสน่ห์ที่มธุรดาไม่เคยค้นพบ หรือเพราะเห็นใบหน้ายียวนกับคำพูดกวนประสาทแบบนี้จนชินจึงไม่คิดว่านี่คือเสน่ห์ในตัวปาณัท
?ปากดี ให้ฟัดจริงๆ จะฟัดไหมล่ะ? ลองท้าอีกฝ้ายที่ด้วยความคะนองปากไปอย่างนั้น
?ฟัดสิ ตั้งใจเลยล่ะ? เพราะกวนมธุรดาได้คนเดียวกับคนอื่นลองยั่วแบบนี้ได้จับไปเชยชมเป็นแฟนชั่วคราวแน่
?พอๆ เข้าบ้านได้แล้ว พรุ่งนี้เจอกัน?
มธุรดาปัดมือไล่เกรงจะยาวไปกันใหญ่ พานไปงานสำคัญไม่ทัน อุตส่าห์เตรียมตัวก่อนหน้านั้นตั้งหลายสัปดาห์ ผู้ใหญ่ที่นับถือหรือคนที่มธุรดาทำงานให้นั่นแหละ สั่งให้เธอซ้อมนั่นนี่เพื่อความเป็นมืออาชีพ และคืนนี้เธอมีนัดเข้าไปพบท่านก่อนลงมือกับงานที่ว่านั้นจริงๆ
?พรุ่งนี้เจอกันหมายความว่าเธอไม่ทำงานเหรอ? นึกสงสัยหากมธุรดาทำงานสำนักพิมพ์ไดเจตนั่น พรุ่งนี้ก็เป็นวันทำงานปกติเพราะวันนี้คือวันอาทิตย์
?อ๋อ...คือฉันลาพักร้อนน่ะ แหม เพื่อนสุดสวาทกลับจากเมืองนอกทั้งคน น้อยกว่านี้ได้ยังไง สัญญาแล้วจะไปทานข้าวด้วย เลยขอใช้วันลาพักร้อนหน่อยสิ?
มธุรดาแก้ต่างไปตามเรื่อง งานของเธอที่ว่าแค่เคยทำแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เธอมีเหตุผลเป็นของตัวเองในการบอกความจริงกับปาณัทไม่ได้ ความลับทางราชการ ชีวิตเธอต้องลับที่สุดเท่าที่จะลับได้
?งั้นหรือ มีเพื่อนแบบนี้รักตายเลย? ปาณัทว่าอย่างภูมิใจ ภาวนาให้ตนกล้าเปลี่ยนสถานะมธุรดาให้มากกว่าเพื่อนโดยเร็วก่อนที่ใครจะรวบหัวรวบหางมธุรดาไปซะก่อน
?ไปล่ะ ส่งแค่นี้นะ? หญิงสาวโบกมือเป็นนางงามล่ำราเพื่อนที่ยืนหน้าละห้อยทั้งที่มาถึงบ้านตนแล้วแท้ๆ
?อืม? เขาโปกมือตอบกลับน้ำเสียงแผ่ว ปาณัทมองรถยนต์คันใหญ่สีขาวไม่เหมาะกับขนาดตัวของคนขับ แล่นฝ่าความมืดออกไปจนลับตาจึงหมุนกายยื่นมือไปกดกริ่ง เพื่อให้เด็กในบ้านออกมาช่วยหิ้วกระเป๋าเข้าบ้าน
ตอนนี้เขาเรียนจบแล้วไม่ต้องกลับไปอเมริกาอีก ของชิ้นใหญ่จึงให้บริษัทขนส่งของแพ็กลงกล่องส่งตามมาภายหลัง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของนักการเมืองใหญ่ทำให้ปิดคดีไม่ได้ ทางการจึงต้องขอให้สายลับเฉพาะกิจปลอมตัวเป็นโคโยตี้สาวเพื่อสืบหาความจริง ?มธุรดา? จำต้องซ้อมเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกในชุดรัดรึงปิดไม่มิดก่อนจะเข้าไปในผับแห่งนั้น ซึ่งที่นั่นมีมาเฟียอิตาลีหนุ่มเป็นเจ้าของกิจการและเขาก็ถูกใจลีลารูดเสาบนเวทีของมธุรดามาก ?เมนนิโค? สั่งให้ลูกน้องพาตัวมธุรดาในคราบนักเต้นสาวไปบรรณาการเขาที่ห้องส่วนตัว หากแต่ไหวพริบทำให้หญิงสาวรอดพ้นเกมเข้าจังหวะมาได้อย่างหวุดหวิด ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองหมดเรี่ยวแรงทั้งๆ ที่เขาเชี่ยวชาญในกามกรีฑานี้เป็นอย่างดี มาเฟียผู้ไม่เคยไว้หน้าใครจึงวางแผนให้มธุรดาติดกับและหลอกปล้นสวาทสาวอีกครั้งเพื่อยืนยันคืนที่ผ่านมา ทว่ารอยรักบนผ้าปูเตียงพื้นขาวสะอาดบอกให้เขารู้ว่ามธุรดากล้าปั่นหัวและหยามอำนาจของเขา แทนที่เมนนิโคจะลงโทษมธุรดาอย่างสาสมกลับกลายเป็นว่าเขาภูมิใจที่ได้เป็นชายแรกที่เชยชมกลีบเกสรหอมหวานนี้
ฝ่ามือบางลูบไล้ฟองครีมอาบน้ำลงบนแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่ม สายน้ำที่ราดรดตัวเขาหยุดนิ่งไปแล้ว ปล่อยหน้าที่ให้มือบางแผ่วพลิ้วที่กำลังลูบไล้อย่างหวาดหวั่น ในนาทีนั้นเองร่างใหญ่หมุนกายผงาดต่อหน้าหญิงสาวไม่มีปี่มีขลุ่ย ความแกร่งกล้าอวดต่อหน้ามธุรดา มือบางหยุดชะงักราวกับหุ่นยนต์ไขลานจนลานหมด
"คิดจะละเลงแต่ด้านหลังหรือไง ฉันไม่เอาด้วยนะ อาบน้ำสะอาดด้านเดียวน่ะ"
