?ทำไมที่นี่ถึงเรียกว่าหุบตะวัน...?
ศราวินถามนายฉัตรที่ไปรับเขาที่สถานีรถไฟมายังไร่แห่งนี้...
?คุณลองดูสิครับ...?
นายฉัตรตอบพร้อมกับหยุดรถจี๊ปเปิดประทุนที่นั่งอยู่ให้ชายหนุ่มได้กวาดสายตามองไปรอบๆ...
?คุณจะเห็นว่าไร่หุบตะวันแห่งนี้มีเนื้อที่กว้างขวางมากเกือบสองพันไร่เลยนะครับ...เป็นแผ่นดินที่อยู่ในหุบเขา...มีภูเขาล้อมรอบ...เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางขวาแล้วก็ตกทางซ้าย...ลับเหลี่ยมเขาไปทุกวัน...คุณหญิงท่านจึงตั้งชื่อหุบเขาแห่งนี้ว่าหุบตะวัน...?
ศราวินฟังนายฉัตรอธิบายแล้วพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ...
?แล้ววันนี้คุณหญิงท่านอยู่ไหม...?
?อยู่ครับ...ท่านเป็นคนสั่งให้ผมไปรับคุณศราวิน ที่สถานีรถไฟเอง...ท่านยังบ่นเลยว่าทำไมไม่มาเครื่องบิน...เร็วกว่าเยอะ...?
?ฉันชอบรถไฟ...?ศราวินตอบง่ายๆ ทำให้นายฉัตรหมดคำถามไปเลย...
ทั้งคู่พากันขับรถผ่าน อาณาเขตไร่อันกว้างขวางใหญ่โตแห่งนั้นไปจนถึงอาณาเขตบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนิน แล้วหยุดลง
ขณะที่นายฉัตรและศราวินก้าวลงจากรถจี๊ป...ก็เห็นร่างร่างหนึ่งในชุดคาวบอยทะมัดทะแมงก้าวออกมาจากตัวบ้าน แล้วชะงักมองคนทั้งคู่ชั่ววินาทีหนึ่ง ก่อนจะก้าวสวนออกไปยังม้าหนุ่มสีน้ำตาลใกล้ๆ...ปลดบังเหียนที่ผูกอยู่กับกับรางไม้เตี้ยๆ แล้วโหนตัวเองขึ้นหลังม้าไปอย่างรวดเร็ว...
ศราวินมองตามร่างบางปราดเปรียวของหญิงสาวที่วิ่งสวนเขาไปด้วยความอยากรู้ว่าหล่อนจะรีบร้อนไปไหน...
?คุณหนูกฤติกาครับ...ดาวลูกไก่ คนโตของที่นี่...คงจะรีบออกไปทำงาน...?
?อย่าบอกว่าเธอเป็น...เอ้อ...คาวบอย...เลี้ยงวัวนะ...?
ศราวินพูดอย่างไม่คิดว่าจะเป็นไปได้
?เผอิญใช่ครับ...?
แต่คำตอบของนายฉัตรคือคำยืนยัน...
?คุณหนูจบปริญญานะครับ...แต่ต้องมาเลี้ยงวัว...มาดูแลทุกอย่างที่นี่แทนคุณหญิงครับ...?
นายฉัตรอธิบาย...ขณะที่เดินนำเข้าบ้าน...ส่วนศราวินหันไปมองตามหญิงสาวอีกครั้ง จนหล่อนควบม้าไปลับตา...จึงหันมาเดินตามนายฉัตรไป...
บ้านหลังนั้นเป็นบ้านไม้สักหลังใหญ่...มีห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่ตกแต่งไว้อย่างโอ่โถงทันสมัยเลยทีเดียว...ในห้องรับแขกแห่งนั้นมีสุภาพสตรีสูงวัยนั่งรออยู่แล้ว...และเดาได้ว่าต้องเป็นคุณหญิงกรรณิการ์อย่างแน่นอน...
?สวัสดีครับ...ผมชื่อศราวิน สุริยฉาย...ครับ ท่านนายพลส่งผม...?
?ฉันรู้แล้ว...นั่งก่อนสิ...?
ศราวินแนะนำตัวไม่ทันจบ ผู้รอคอยอยู่ก็ตัดบท...เชิญเขานั่ง...ขณะที่นายฉัตรพาตัวออกไปเงียบๆ อย่างรู้หน้าที่...
?เธอมาคนเดียวหรือ...?
คุณหญิงกรรณิการ์ถามเขาอย่างรู้ว่า...เขาไม่ได้มาคนเดียว...
?เพื่อนของผมจะตามมาวันหลังครับผม...?
?กี่คน...?
?สามครับ...รวมผมด้วย...?
คุณหญิงมองดูบุรุษหนุ่มตรงหน้าแล้วถอนใจ...
?คนแค่สามคน...จะสู้พวกมันได้ยังไง...?
?ผมอยากให้คุณหญิงไว้ใจพวกเรา...อย่างที่ท่านนายพลไว้ใจ...?
คำตอบของเขา...ทำให้ผู้ฟังถอนใจเป็นครั้งที่สอง...ก่อนจะพยักนห้า...
?ก็ได้...เดี๋ยวจะให้นายฉัตรพาไปที่พัก...บ้านใกล้ๆ กันนี่แหละ...ใหญ่พอสำหรับคนสามคน...เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าจะต้องทำอะไร...
?ครับผม...?
?จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้...?เสียงคุณหญิงเปรยต่อไปอย่างกังวล...
?พวกผมมีเวลาพอที่จะอยู่ที่นี่จนจัดการได้เรียบร้อยครับ...ว่าแต่ที่นี่นอกจากคุณหญิงแล้ว...มีคนอยู่อีกกี่คนครับ...?
?มีหลานสาวฉันอีกคนเดียว...คนที่ออกไปเมื่อครู่นั่นแหละ...คนของเรามาบอกว่าลูกวัวหายไปสี่ตัว...เขากำลังออกไปตาม...?
คำบอกเล่าของคุณหญิงทำให้ศราวินทำสีหน้าชนิดหนึ่งให้ผู้สูงวัยกว่ารู้ว่าเขากำลังคิดอะไร...
?เรามีกันอยู่แค่สองคนน้าหลาน...เขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของฉันขณะนี้...?
?งั้นคุณหญิงคงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะตามไปดูเธอเสียหน่อย...ท่านนายพลสั่งมาว่า...?
?เอาเถอะ...จะไปก็ไป...มีปัญหาอะไรก็ถามนายฉัตรหรือถามยายลูกไก่เลยก็ได้...ถ้าใครช่วยไม่ได้ให้คำตอบไม่ได้ก็ค่อยมาหาฉัน...?
?ครับผม...อ้ออีกเรื่องครับ...ของที่ส่งมาล่วงหน้ามาถึงแล้วใช่ไหมครับ...?
?มาถึงแล้ว...อยู่บนบ้านโน้นทั้งหมด...?
?ครับผม...ผมไปล่ะครับ...?
พูดจบศราวินก็ยกมือไหว้คุณหญิง แล้วเดินออกจากห้องรับแขกแห่งนั้นมาสมทบกับนายฉัตรที่รออยู่ด้านนอก...
?คุณหญิงบอกว่า คุณหนูดาวลูกไก่ของนายฉัตรไปตามวัวสี่ตัวที่หายไป...?
?อ๋อ...หรือครับ...?นายฉัตรทำท่าเหมือนเพิ่งรู้...
?ฉันอยากตามไปดูว่าเธอทำยังไง...?
?ถ้าหายในหุบเขานี่ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ...อยู่ในเขตของเรา...แต่ถ้าหลุดออกไปจากหุบเขา...นอกเขตของเรานี่สิครับ...ปัญหา...?
?ยังไง...?ชายหนุ่มฟังอีกฝ่ายอย่างสนใจ...
?เพราะติดกับเขตของเราก็คือเขตของ...นายพยัคฆ์ นักการเมืองใหญ่คับฟ้าของจังหวัดนี้เลยครับ...มันไม่ยอมคืนเราแน่...ไป...ไปครับ...ไปดูคุณหนูลูกไก่ด้วยกัน...ถ้าเธอตามวัวเราเข้าไปในเขตมันละยุ่งแน่...ยุ่งแน่ๆ เชียวครับ...?
เมื่อคิดได้...นายฉัตรก็มีอาการนิ่งอยู่ไม่ได้อีกต่อไป รีบตะเกียกตะกายขึ้นรถพาศราวินตามไปทันที...
ทั้งคู่ไปถึงจุดที่คนงานกำลังต้อนวัวมาเข้าคอกพอดีนับพันตัว...นายฉัตรพารถมาหยุดมองวัววิ่งกัน...ฝุ่นตลบไปทั่วบริเวณ..
?ไอ้พ้อ...?นายฉัตรตะโกนเรียกคนงานที่อยู่ใกล้ที่สุด...
?เห็นคุณลูกไก่ไหม...?
?เห็น...แกไปทางริมรั้วด้านโน้น...?
คนตอบตอบแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจคนถามอีก...ควบม้าไปดักไล่วัวให้เข้าคอกอีกด้านหนึ่ง เพราะตะวันใกล้จะตกดินแล้ว...
ฝ่ายนายฉัตรพอถามได้ความก็ไม่รอช้า...บึ่งรถต่อไปยังแนวรั้วสุดเขตหุบตะวันทันที...
เมื่อไปถึงที่นั่น...เขาเห็นแค่ม้าสีน้ำตาลที่ผูกไว้ริมรั้ว ส่วนตัวหล่อนหายไปไหนไม่รู้...
?ตายล่ะว้า...?แกหยุดรถเมื่อเข้าไปใกล้ม้าตัวนั้นพร้อมกับรำพึงเบาๆ...
?คุณหนูเข้าไปในเขตพวกมันใช่ไหม...?
ศราวินเดาเมื่อก้าวลงจากรถไปพร้อมกับนายฉัตร...
?ใช่แล้ว...เราต้องตามเข้าไป...ปล่อยไม่ได้ครับ...?นายฉัตรบอก...
แน่นอน...ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะปล่อยหล่อนเช่นเดียวกัน คนทั้งคู่พากันเปิดรั้วลวดหนามอันนั้นไปอย่างรวดเร็ว...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กฤติกาพาตัวเองผ่านประตูรั้วลวดหนามของฝ่ายศัตรูเข้าไปอย่างไม่สบายใจนัก...แต่หล่อนก็ต้องทำ เพราะถ้าประตูมันเปิดอ้าแบบนี้ ลูกวัวของหล่อนต้องหลงเข้าไปอย่างแน่นอน...
หญิงสาวคิดพลางก้าวเข้าไปหาลูกวัวที่หายอย่างรวดเร็ว...โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า พอหล่อนเดินลับหลังไปได้ไม่นาน...พวกมันก็ปรากฏตัวออกมาดึงประตูรั้วให้ปิดลงดังเดิมแล้วย่องตามหลังหล่อนไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อเจอกันครั้งแรกกับความขัดแย้งที่ปรากฏที่เห็นเด่นชัด นั่นคืองานปศุสัตว์ใหญ่โตมโหฬารนี้ไม่เหมาะกับหญิงสาวร่างบางแม้แต่น้อย ?ศราวิน? ไม่คิดหรอกว่าจะมีวันนี้?วันที่เขาได้เป็นเจ้าของหล่อนตามกฎหมายและประเพณี แต่โชคชะตาก็ทำให้เป็นไปแล้วด้วยความยินดีและเต็มใจของ ?กฤติกา? และศราวินก็จะประคับประคองครอบครัวของเขาไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง ชายหนุ่มจูบหล่อนอย่างดูดดื่มเต็มอารมณ์หวาม แล้วเริ่มชักชวนหล่อนไปตามเส้นทางสายพิศวาสที่เริ่มก่อขึ้น มันช่างอ่อนโยนอบอุ่นและกระตุ้นโลมเล้าเอาใจไปจนหล่อนไม่อาจปฏิเสธได้ กฤติกาจึงปล่อยกายปล่อยใจไปกับเขาจนสุดเส้นทางเสน่หาสายนั้น เมื่อเจอกันครั้งแรกกับความขัดแย้งที่ปรากฏที่เห็นเด่นชัด นั่นคืองานปศุสัตว์ใหญ่โตมโหฬารนี้ไม่เหมาะกับหญิงสาวร่างบางแม้แต่น้อย ?ศราวิน? ไม่คิดหรอกว่าจะมีวันนี้?วันที่เขาได้เป็นเจ้าของหล่อนตามกฎหมายและประเพณี แต่โชคชะตาก็ทำให้เป็นไปแล้วด้วยความยินดีและเต็มใจของ ?กฤติกา? และศราวินก็จะประคับประคองครอบครัวของเขาไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง ชายหนุ่มจูบหล่อนอย่างดูดดื่มเต็มอารมณ์หวาม แล้วเริ่มชักชวนหล่อนไปตามเส้นทางสายพิศวาสที่เริ่มก่อขึ้น มันช่างอ่อนโยนอบอุ่นและกระตุ้นโลมเล้าเอาใจไปจนหล่อนไม่อาจปฏิเสธได้ กฤติกาจึงปล่อยกายปล่อยใจไปกับเขาจนสุดเส้นทางเสน่หาสายนั้น
?คุณอาจไม่เชื่อ อาจจะหาว่ามันเร็วไป แต่สำหรับผม...ความรู้สึกในวันแรกที่ผมเห็นคุณยืนอยู่ตรงนี้...มาจนถึงวันนี้ผมเพิ่งรู้ว่ามันเป็นความรัก ผมรักคุณตั้งแต่แรกเห็น? ชายหนุ่มบอกกับหล่อนพร้อมกับเชยคางหล่อนขึ้นมองตากันและกันเนิ่นนานก่อนจุมพิตสวาทจะเกิดขึ้น
