ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนในวันที่อากาศแจ่มใส ขณะที่ฉันกับเจนเพื่อนซี้ของฉันกำลังถูกสาวกในอินสตาแกรมรุม!
?พี่ไหมไทยคะ ถ่ายรูปกับหนูหน่อยค่ะ!?
เด็กสาวนางหนึ่งพยายามเบียดตัวเองขึ้นมาจากฝูงชนเพื่อกระทบไหล่ฉัน ฉันหันไปยิ้ม แต่ก่อนที่จะโพสท่าถ่ายรูปด้วย เด็กสาวอีกนางหนึ่งพยายามเบียดตัวเองขึ้นมา
?หนูมาก่อน พี่ต้องถ่ายรูปกับหนูก่อนนะคะ!?
?อะไรเนี่ยหล่อน! ฉันมาก่อนนะยะ!?
?ฉันต่างหากล่ะที่มาก่อน หัดมีมารยาทซะบ้างนะ คนไม่มีมารยาท พี่ไหมไทยไม่ชอบหรอกนะจะบอกให้!?
?แกต่างหากล่ะที่ไม่มีมารยาท ถอยไปนะ!?
?แกต่างหากล่ะที่ต้องถอย!?
เกิดการผลักอกกันขึ้น ฉันเลยต้องหันมาพยายามไกล่เกลี่ยเด็กสาวกลุ่มนี้ ขณะที่อีกกลุ่มเองก็ไม่ยอม บรรยากาศจึงเริ่มชุลมุนวุ่นวายเหมือนกับกำลังมีม็อบประท้วงกันอยู่ในห้าง จน รปภ. ต้องมาช่วยสลายสถานการณ์วุ่นวายนี้ให้
?เราหนีกันเถอะไหม ฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ?
เจน เพื่อนสุดซี้ที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นอนุบาลของฉันกระซิบด้วยสีหน้าซีดเผือดคล้ายจะเป็นลม ขณะที่ฉันยังคงมีทีท่าสบายๆ กับเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายนี้ ด้วยเหตุที่ว่า ฉันเป็นเซเลบริตี้คนดัง เวลาไปไหนมาไหนมักจะมีคนมารุมล้อมเช่นนี้บ่อยๆ อยู่แล้ว นานวันเข้าก็เลยเกิดเป็นความคุ้นชินกับการมีคนล้อมหน้าล้อมหลังอะไรทำนองนั้น ?
?เอาล่ะค่ะๆ?
เพราะเห็นว่าเจนจะเป็นลม ฉันจึงตบมือเสียงดัง ทำให้เด็กสาวที่กำลังคลั่งหยุดเคลื่อนไหว
?พี่มีธุระ คงต้องขอตัวก่อนนะจ๊ะ แล้วอย่าลืมตามติดไอจีของพี่ล่ะ เร็วๆ นี้พี่จะแจกผ้าพันคอ Gucci?
?จริงเหรอคะ!?
เด็กสาวที่กำลังตบตีกันพากันหยุดชะงัก แล้วมองฉันด้วยดวงตาเป็นประกายประหนึ่งฉันคือแม่พระมาโปรด อย่างว่าแหละนะ มันมีแบรนด์และแพงมากนี่นา ถ้าไม่สวยและรวยมากอย่างฉันคงแจกของแบบนี้ไม่ได้ >w<
?จริงสิจ๊ะ?
ฉันยืนยัน โดยไม่ลืมกำชับสิ่งที่ต้องการ
?แล้วอย่าลืมกด Like ที่อินสตาแกรมของพี่กันด้วยนะคะ ถ้าน้องๆ ไม่อยากเสียสิทธิ์ชิงรางวัลใหญ่?
เด็กสาวพากันกรี๊ดกร๊าดด้วยความตื่นเต้นอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่
?เอาล่ะจ้ะ พี่ขอตัวก่อนนะคะ?
ฉันแจกยิ้มเช็คเรตติ้งไปทั่วๆ ก่อนจะขอทางพาเพื่อนซี้เข้าไปนั่งพักที่ร้านกาแฟคอฟฟี่เดย์ลี่ ซึ่งอยู่ถัดจากจุดนี้ไปไม่ไกลนัก
?เป็นไงบ้าง?
ฉันถามพลางโบกนิตยสารที่ทางร้านมีไว้บริการลูกค้าส่ายไปมาตรงหน้าเจน เจนระบายลมหายใจดังๆ ก่อนจะบ่นออกอาการหงุดหงิด
?ถามจริงๆ เหอะ ไม่เบื่อบ้างหรือไงที่มีคนล้อมหน้าล้อมหลังจนไม่มีเวลาส่วนตัวแบบนี้เนี่ย?
เจนออกอาการหงุดหงิด ในขณะที่ฉันไม่รู้สึกมายด์กับคนที่รุมล้อมนี้เลยจริงๆ ความจริงออกจะชอบซะด้วยซ้ำไป :p
ฉันบุ้ยปากไปยังกลุ่มเด็กสาวที่ยังคงปักหลักถ่ายรูปฉันอยู่ไกลๆ
?เด็กๆ พวกนั้นถึงจะเจี๊ยวจ๊าวไปสักหน่อย แต่ก็น่ารักดีออก อีกอย่างนะ ยิ่งคนเยอะยิ่งดี เพราะมันยิ่งตอกย้ำว่าฉันยังเหนือกว่ายัยดีว่า?
พูดจบฉันก็หยิบโทรศัพท์มือถือไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาจากกระเป๋าหนังวัวสีน้ำตาลไหม้คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของไอเบอรี่ และเปิดยอดผู้ติดตามอินสตาแกรมของฉันสลับกับของยัยดีว่าให้เจนดู
?ขนาดไอจีฉันยังเหนือกว่าเลย เพราะมีคนติดตามมากกว่ายัยดีว่าตั้งพันสองร้อย?
ทั้งๆ ที่ฉันยืดอกพูดด้วยความภูมิใจแท้ๆ แต่เจนกลับส่ายหน้าเบื่อๆ กลับมาซะงั้น บางทีฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกันนะว่า ฉันคบกับคนที่ขวางฉันแบบนี้มาได้ยังไงตั้งนาน -_-
?เมื่อไหร่เธอสองคนจะเลิกแข่งกันซะทีนะ เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ?
?มันไม่ใช่เรื่องไม่เป็นเรื่องนะเจน? ฉันใช้น้ำเสียงที่ค่อนข้างจะซีเรียส ให้เจนรู้ว่าฉันจริงจังกับยอด Viewers มากแค่ไหน ?ยัยนั่นตั้งตนเป็นศัตรูกับฉัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง หรือไม่เป็นเรื่อง ฉันก็ต้องชนะ!?
เจนหันไปรับเมนูที่บริกรนำมาให้พลางเอ่ยขอบใจ จากนั้นก็หันกลับมาเมื่อฉันทำเสียงจึ๊จ๊ะด้วยความไม่พอใจ
?มันไม่ใช่เรื่องไม่เป็นเรื่องนะเจน? ฉันเถียงอย่างซีเรียส ?แล้วถ้ายัยนั่นไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉันก่อน ฉันคงจะเฉยๆ?
พูดถึงเรื่องตั้งตัวเป็นศัตรู ใครๆ ต่างก็รู้ว่าพ่อของฉันกับพ่อของยัยดีว่าเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันมาตั้งแต่ช่วงที่ฉันกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.6 เพราะฉะนั้นการที่ยัยดีว่ามาเรียนที่เดียวกับฉันเมื่อตอน ป.6 ทั้งๆ ที่ทางโรงเรียนไม่มีนโยบายรับนักเรียนใหม่กลางเทอมมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะพ่อของยัยดีว่าจงใจส่งลูกสาวมาแข่งกับฉัน แล้วฉันก็อุตส่าห์พยายามไม่คิดไปในแง่ร้ายตามที่เจนแนะนำเพราะมันเป็นเรื่องงี่เง่าของพวกผู้ใหญ่แล้วนะ แต่ทว่าวินาทีแรกที่ฉันกับยัยแสบดีว่าสบตากัน ฉันก็รู้ได้เลยว่ามันต้องเป็นอย่างที่ฉันคิดล้านเปอร์เซ็นต์ แล้วมันก็จริง เมื่อยัยนั่นพยายามทุกอย่างที่จะเหนือฉันให้ได้ในทุกๆ เรื่องตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามา แม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่างเรื่องปากกานูนาที่พ่อซื้อมาฝากฉันตอนไปดูงานที่เกาหลี พอฉันเอามาใช้ วันรุ่งขึ้นยัยดีว่าก็เอาปากกานูนารุ่นเดียวกับฉันมาแจกเพื่อนทั้งห้อง
แล้วก็เป็นอย่างนี้มาตลอด 6 ปี จนเราเรียนจบชั้น ม.6 เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ จะไม่ให้ฉันคิดเล็กคิดน้อยไหวเหรอ!
?เธอคงโกรธเรื่องที่ยัยนั่นแย่งมาโครไปจากเธอด้วยสินะ?
มาโคร ที่เจนพูดถึงคือหนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาลี เขาเข้ามาเรียนห้องเดียวกับฉัน เจน และดีว่าตอน ม.4 เขาเป็นแฟนคนแรกของฉัน ก่อนที่ยัยดีว่าจะแย่งเขาไปเป็นแฟนคนแรกของตัวเอง ณ จุดนี้ เจนจี้ตรงจุดสุดๆ เพราะฉันโกรธเรื่องนี้ที่สุดในบรรดาเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ร้อยกว่าเรื่องที่ยัยดีว่าทำฉันเอาไว้
?ใช่? ฉันยอมรับ ?ถ้าฉันไม่มีหน้าตาให้รักษาล่ะก็ ฉันอยากจะเอาหนามต้นงิ้วไปแทงยัยนั่นให้พรุนเลยด้วยซ้ำ ทันทีที่ฉันรู้ว่ายัยดีว่าเข้ามาจ๊ะจ๋ากับมาโคร?
?แต่ตอนนั้นสถานะเธอกับมาโครก็ไม่ต่างอะไรกับเลิกกันนะ การที่สองคนนั่นหันไปคบกัน มันไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องสนใจเลย ปล่อยวางบ้างอะไรบ้าง จิตใจเธอจะได้ไม่ร้อนรุ่ม ไม่ต้องทำโบท็อกซ์ก่อนวัยอันควร?
?ตอนนั้นฉันกับมาโครก็ยังไม่ได้เลิกกัน ถ้ายัยนั่นไม่เข้ามาล่ะก็ อาจจะมีอะไรบางอย่างทำให้เรากลับมารักกันเหมือนเดิมก็ได้ แล้วผู้ชายมีตั้งเยอะ ทำไมต้องเป็นมาโครด้วยล่ะ ยัยนั่นพยายามยั่วโมโหฉัน ยัยนั่นอยากให้ฉันสติแตกเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของฉันชัดๆ!?
?โธ่ไหม?
เจนยื่นมือมาปลอบประโลมฉันด้วยการลูบเบาๆ ที่ไหล่อย่างเคย
?ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ ต่อให้ดีว่าไม่ก้าวเข้ามา เธอกับมาโครก็ไม่มีวันกลับมารักกันได้หรอก คนละขั้วกันออกขนาดนั้น...?
ความจริงที่เจนพยายามบอกให้ฉันมองก็คือ มาโครเป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียนก็จริง แต่เขากลับเป็นผู้ชายรักสันโดษอย่างน่าเสียดายความหล่อเหลาของเขา ในขณะที่ฉันเป็นเซเลบริตี้คนดัง ต้องออกงานวันเว้นวัน ชีวิตของเราสองคนจึงเดินสวนทางกัน อันเนื่องจากกิจกรรมของเราสองคนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่ง...ก็ไม่ใช่แค่เจนเท่านั้นหรอกนะที่มองออก ฉันเองก็เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งเหมือนกัน เพียงแต่ฉันไม่คิดจะยอมรับเท่านั้น
?แล้วบางทีสองคนนั้นอาจจะรักกันจริงๆ ก็ได้ เลิกมองโลกในแง่ร้ายซะทีเถอะน่า?
?ไม่มีทาง? ฉันปฏิเสธอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด ด้วยเหตุและผลที่ว่า ?ก็เห็นๆ กันอยู่ว่ายัยดีว่าจงใจแย่งมาโครไปจากฉัน แถมหลังจากนั้นพอฉันหันไปสนใจนักแบดมินตันโรงเรียน ยัยนั่นก็ถึงกับใช้เส้นเข้าไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์เพื่อเล่นหูเล่นตากับผู้ชายที่ฉันหมายปอง ขนาดนี้แล้วเธอยังเห็นยัยดีว่าดีอยู่ได้ยังไง ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ?
ฉันตัดพ้อ เจนถอนใจอีกครา
?ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อนะ แต่ดีว่าไม่ใช่คนที่จะทำอะไรอย่างนั้นหรอก ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องบังเอิญทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเธอมีอคติในใจ ก็เลยคิดว่าดีว่าคิดแต่จะกลั่นแกล้งเธอ?
จริงๆ เลยนะ บางทีฉันควรจะชวนเจนมาเที่ยวทุกวันอาทิตย์แบบนี้ เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องไปโบสถ์ จะได้เลิกพูดจาเหมือนแม่ชีเสียที =_=
?แล้วก็นะ ถ้ายัยนั่นคิดจะแย่งทุกอย่างจากเธอไปจริงๆ ทำไมยัยนั่นถึงไม่มาสุงสิงกับพี่คีย์ของเธอล่ะ?
พี่คีย์ที่เจนพูดถึงคือ ?คีตา? เดือนดวงเด่นของคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัย KU ฉันเจอเขาเลือกกระเป๋าเป็นของขวัญให้เพื่อนสุดซี้ที่ร้าน Gucci ที่ห้าง เขาเข้ามาทำความรู้จักกับฉัน และหลังจากที่เราได้สนทนากันค่อนข้างนานเนื่องจากเราคุยกันถูกคอ ก็พบว่ารสนิยมในการเลือกซื้อของของเราเหมือนกันราวกับว่าเขาคือฉันในร่างของผู้ชายเลยทีเดียว ดังนั้น...เมื่อเขาขอฉันเป็นแฟนเมื่อสามเดือนก่อน ฉันเลยตอบตกลงไป ซึ่งมันน่าแปลกจริงๆ นั่นแหละ ที่ยัยดีว่าไม่ยักกะมาป้วนเปี้ยนกับผู้ชายคนนี้เหมือนคนก่อนๆ ให้ฉันปรี๊ดแตก
เป็นเพราะฉันเถียงกลับเรื่องนี้ไม่ได้ เจนเลยรีบสำทับขึ้นมาทันควัน
?จริงๆ นะ ฉันก็ไม่เห็นว่าดีว่าจะต้องมาชิงดีชิงเด่นกับเธอไปทำไม ในเมื่อเธอสองคนโดดเด่นกันคนละแบบ คล้ายๆ กับเดินบนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้อยู่แล้วอะไรทำนองนั้น มันไม่มีเหตุผลที่ดีว่าจะจ้องทำลายเธอเลย?
ฉันเริ่มคล้อยตาม เพียงแต่ว่า...ฉันติดใจรอยยิ้มชั่วร้ายที่ยัยนั่นมองเวลาบังเอิญเจอฉันกับพี่คีย์เดทกัน มันเหมือนกับว่ายัยนั่นมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างอยู่ในใจ และรอเวลาที่จะเปิดเผยมันออกมา ซึ่ง...ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามแต่ ฉันว่า...มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน!
?ช่างเถอะ เธอไม่ใช่ฉันนี่?
ฉันเมินหน้าไปขอบคุณบริกรที่เอาน้ำมาเสิร์ฟเรา ก่อนจะเบนสายตาไปมองยังหน้าทางเข้า เมื่อเห็นเจ้าของร่างเอสไลน์เดินเชิดหน้าเข้ามาในร้าน แล้วสอดส่ายสายตาหาอะไรบางอย่าง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฉันนี่แหละ
?ยัยนั่นรู้ได้ยังไงน่ะว่าเราอยู่ที่ไหน? ฉันบุ้ยปากให้เจนหันไปมองยัยดีว่าที่กำลังใช้สายตาสแกนหาฉันอยู่
?เธอเช็คอินทุกที่ที่เธอไป มันก็ไม่แปลกหรอกนะที่โลกจะรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?
?-_-*?
ให้ตายเหอะ บางทีฉันก็สงสัยจริงๆ นะว่าเจนเป็นเพื่อนซี้ของฉันจริงๆ หรือเปล่า ถึงได้ขัดคอเก่งยิ่งกว่ายัยดีว่าซะอีก
ว่าแล้วเจนก็ยกมือขึ้นโบกให้ดีว่าเห็น จนฉันรีบปัดมือเจนลงแทบไม่ทัน
?ทำเป็นมองไม่เห็นซะ ยัยนั่นจะได้ไม่ต้องเดินมาทางเรา?
ฉันสั่งแล้วยกเมนูขึ้นบังหน้า แต่เจนไม่ได้ให้ความร่วมมือเลยสักนิด แถมยังยิ้มแป้นให้ดีว่าอีกต่างหาก ฉันชักจะสงสัยในความสัมพันธ์ของเราแล้วนะ!
?ไฮ เจน?
ยัยดีว่าเดินมาจับหลังเจนก่อนจะมองมาทางฉัน
?ไฮ ไหมไทย ไม่คิดเลยนะว่าจะบังเอิญเจอพวกเธอที่นี่น่ะ?
ดีว่ายิ้มให้ฉัน และก็อย่างเคย ฉันปั้นหน้ายิ้มตอบตามมารยาทสังคมที่ต้องสวมหน้ากากให้กัน ถึงแม้ว่าจะเกลียดกันมากปานใดก็ตาม -*-
?นั่งก่อนมั้ย?
เจนเชื้อเชิญอย่างรู้ดีว่า ดีว่าไม่มีทางนั่งร่วมโต๊ะกับเธอเวลาที่มีฉันนั่งอยู่ด้วยแน่ แต่แล้ว...ดีว่ากลับนั่งตามคำเชิญหน้าตาเฉย เล่นเอาฉันกับเจนมองตากันด้วยความสงสัยทีเดียวเชียวแหละ
?นี่ พวกเธอต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่า...? ดีว่าเกริ่น และพูดค้างไว้แค่นั้น ก่อนจะกรีดนิ้วขึ้นมาต่อหน้าเรา
แสงวิบวับที่ล้อเล่นกับแสงไฟนีออนทำให้ฉันต้องหยีตามองให้ชัดๆ มันคือแหวน ไม่ใช่แหวนธรรมดาด้วย แต่มันเป็นแหวนเพชร Golconda น้ำงาม ดีไซน์ก็เก๋ไก๋เตะตา มิหนำซ้ำยังใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายคล้ายกับว่าเป็น...แหวนหมั้น!
ไม่นะ! มันต้องไม่ใช่อย่างที่ฉันคิด ไม่มีทางที่ความสัมพันธ์ของดีว่ากับมาโครจะก้าวไปสู่จุดนั้นได้หรอก! ไม่มีทาง!!!
?อย่าบอกนะว่ามาโครขอหมั้นเธอ!?
เจนถามอย่างเห็นได้ชัดว่าเธอเองก็คิดอย่างที่ฉันกำลังคิด ดีว่าคลี่ยิ้มออกมาโดยไม่ปฏิเสธ
มัน...เป็นข่าวร้ายที่ทำให้หัวใจฉันปวดหนึบจนนึกอยากจะดึงแหวนวงนั้นออกมาบดขยี้ให้แหลกคาฝ่าเท้าของฉันจริงๆ
ให้ตายเหอะ นี่คงเป็นเรื่องที่ยัยดีว่าเก็บงำเอาไว้ยิ้มเยาะฉันทุกครั้งที่เจอสินะ ร้ายกาจอะไรจะขนาดนี้!
?ตายจริง ฉันลืมไปว่ามาโครเคยเป็นแฟนเธอมาก่อน ถ้าฉันทำร้ายจิตใจเธอล่ะก็ ฉันขอโทษด้วยนะ? ดีว่าแกล้งทำเป็นเห็นใจฉัน
ฉันเหยียดยิ้ม เชิดหน้าใส่ ไม่มีทางเสียหรอกที่ฉันจะอ่อนแอต่อหน้าศัตรู!
?ไม่เป็นไร ฉันกับมาโครเลิกกันไปเป็นปีแล้ว ฉันไม่รู้สึกอะไรไปมากกว่ายินดีด้วยที่เธอได้ผู้ชายดีๆ อย่างเขาไป แล้วก็...ถ้าฉันไม่เลิกกับมาโคร ฉันคงไม่ได้หมั้นกับผู้ชายที่ดีกว่าเขา ??
เจนอ้าปากนิดๆ ด้วยความตกตะลึง ส่วนดีว่า...เธอยิ้มพราวราวกับมั่นใจว่า ฉันโกหก
?จริงเหรอ? ดีว่าย้อนถามเสียงสูง ?ไม่เห็นเธอจะประกาศลงในไอจีเลย?
?มันเป็นเรื่องส่วนตัว? ฉันตอบหน้าตาย
ดีว่าเหลือบมามองมือซ้ายของฉัน
?แล้วแหวนล่ะ ฉันไม่เห็นว่าเธอจะใส่ติดตัว?
?ฉันเก็บไว้ที่บ้านน่ะ?
ฉันดึงมือลงมาวางไว้บนตักด้วยหัวใจที่เริ่มเต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ
?เก็บไว้ที่บ้าน??
ดีว่าย้อนถามด้วยความเคลือบแคลง
?อะไรกัน มันเป็นแหวนหมั้นนะ แล้วการที่เธอไม่สวมมันติดนิ้วเอาไว้ทั้งๆ ที่มันเป็นแหวนหมั้น มันเหมือนไม่ใช่ตัวเธอเลย?
ฉันยกมุมปากขึ้น แม้จะรู้ว่าที่ยัยดีว่าพูดน่ะบอกเป็นนัยๆ ว่าฉันเป็นพวกเก็บความลับไม่อยู่
?โธ่ ดีว่า เธอก็รู้ว่าเวลาฉันไปไหนมาไหนมักจะมีคนมารุมล้อมฉันนะ ถ้าหากฉันไม่ได้ระวังแล้วเกิดทำมันหายขึ้นมา คู่หมั้นฉันไม่เสียใจแย่เหรอ?
ฉันจีบปากจีบคอบอกเหตุผลที่ด้นขึ้นมาสดๆ
?ก็จริงของเธอ?
ดีว่าบอกพร้อมกับยักไหล่ให้กับเหตุผลข้างๆ คูๆ ของฉัน ก่อนจะเปิดกระเป๋า Hermes Kelly สีส้มสดข้างตัว จากนั้นก็ยื่นการ์ดให้ฉันกับเจน
พระเจ้า...อย่าบอกนะว่ามันคือการ์ดเชิญงานแต่ง TTOTT
?การ์ดเชิญไปร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของไหมไทย ที่ Mandarin Oriental Hotel นี่? เจนพูดถึงสิ่งที่อยู่ในมือดีว่า ตอนที่ฉันไม่กล้ามองมัน ?ฉันคิดว่าไปรษณีย์ไทยที่เค้าว่าๆ กันว่าทำงานช้าเหมือนเต่าคลานจะส่งให้เธอสักสี่ซ้าห้าวันข้างหน้าเสียอีก?
ฉันแอบถอนใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินเจนบอกว่ามันคือการ์ดเชิญไปร่วมงานวันเกิดเท่านั้น
ดีว่าเหยียดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา
?ฉันก็คิดอยู่แล้วเชียวว่ามันต้องมีอะไรพิเศษ เธอถึงได้จัดงานใหญ่ที่โรงแรมห้าดาว?
ดีว่าพูดพลางพลิกการ์ดดูอย่างเก็บความหมั่นไส้เอาไว้ไม่อยู่
?ก็ไม่มีอะไรพิเศษมากหรอก? ฉันเชิดหน้าขึ้นนิดๆ ?ก็แค่...พ่ออยากจะจัดงานฉลองคล้ายวันเกิดปีที่สิบเก้าของฉัน ฉลองพ่วงกับการที่ฉันสอบเข้า KU ได้ก็แค่นั้นแหละ ฉันก็บอกพ่อไปแล้วนะว่าฉันไม่อยากจะจัดให้มันใหญ่โตอะไร แต่พ่อไม่ยอมน่ะ ท่านยืนยันว่างานที่จัดให้ฉันเนี่ยเล็กที่สุดเท่าที่พ่อจะจัดให้ได้แล้ว ฉันเลยปล่อยเลยตามเลย แล้วพอคิดดูอีกที มันก็ดีเหมือนกันที่ฉันจะได้เจอเพื่อนๆ ครบทุกคน ก็แค่นั้นแหละ?
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของดีว่าผุดขึ้นมาอีกครั้ง
?งานนี้...คู่หมั้นของเธอคงมาด้วยสินะ?
ฉันเกือบจะสำลักอากาศตายทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น
พระเจ้าช่วย! จะให้ฉันเชิญพี่คีย์ไปในฐานะคู่หมั้นน่ะเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อเขากับฉันเพิ่งจะคบกันมาได้แค่ 3 เดือนเศษๆ เท่านั้นเอง!
?ฉันไม่แน่ใจหรอกนะว่าเขาจะว่างไปหรือเปล่า เห็นว่า...เป็นช่วงที่ซื้อทริปไปเที่ยวต่างประเทศพอดี? ฉันอ้างมั่วซั่ว เนื่องจากสมองสั่งการด้านจินตนาการเริ่มทำงานหนักเกินไป
ดีว่ากรีดนิ้วส่ายไปมาตรงหน้าฉันแล้วทำเสียงจึ๊จ๊ะ
?ไหมไทย ฉันมั่นใจว่าเขาต้องไปได้แน่ ถ้าเขาไม่อยากให้เธอกลายเป็นคนโกหกต่อหน้าใครๆ?
?หมายความว่าไงไม่ทราบ?
ดีว่าหยิบไอโฟนขึ้นมาเปิดแอพพลิเคชั่นสำหรับอัดเสียงการสนทนาขึ้นมารีเพลย์ให้ฉันฟังกับเจนฟังตั้งแต่เราเริ่มคุยกัน จนกระทั่งประโยคที่ว่า...ฉันหมั้นแล้ว
นี่มันประโยคที่เหมือนเชือกมัดตัวฉันเอาไว้แน่นเลยทีเดียวเชียว TTOTT เวรแล้วไง
?ถ้าเธอไม่พาเขามาเปิดตัวในงานวันเกิดล่ะก็ เธอจะกลายเป็นคนโกหกนะไหมไทย? ดีว่าขู่อย่างเป็นต่อ
?ฉันบอกแล้วไงว่าเขาอาจจะไม่ว่าง?
ฉันเชิดหน้าบอกเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งๆ ที่หัวใจเต้นถี่ไปกับสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
?ไม่ว่าง ทั้งๆ ที่เป็นวันสำคัญของคู่หมั้นน่ะเหรอ ฉันไม่เชื่อหรอกจ้ะ บอกมาตรงๆ ดีกว่ามั้งว่าความจริงแล้วเธอไม่มีคู่หมั้นอย่างที่อ้างมาจริงๆ?
แล้วดีว่าก็หัวเราะขำกับอาการอึ้งไปของฉัน แน่นอนว่าฉันไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองตกเป็นรองยัยนั่นแน่
?เขาอาจจะมาได้ ไม่สิ...เขามาได้แน่ วันนั้น...เธอก็อย่ามาอิจฉาฉันก็แล้วกันนะ เพราะเขาเพอร์เฟ็กต์สุดๆ ไปเลยล่ะ?
พอฉันบอกออกไปอย่างนั้น ยัยดีว่าก็หัวเราะร่วนขึ้นมาจนน้ำตาเล็ด
?ก็ดีน่ะสิ ฉันหวังว่าฉันจะได้เจอผู้ชายคนนั้นในงานวันเกิดของเธอจริงๆ นะไหมไทย พาเขามาให้ได้ล่ะ ถ้าเธอไม่อยากกลายเป็นตัวตลกน่ะ ฮะๆๆ?
ดีว่ายังคงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วคว้ากระเป๋าเดินออกจากร้านไป หลังจากทิ้งบอมบ์เอาไว้ให้ฉันลมออกหู
?เห็นแล้วใช่มั้ยว่ายัยดีว่าแสบสันใส่ฉันแค่ไหน เมื่อไหร่เธอจะเลิกมองยัยนั่นในแง่ดีเสียที? ฉันหันไปลงที่เจนอย่างหงุดหงิด
?พี่คีย์ขอหมั้นเธอแล้วเหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลยล่ะ?
เจนถามกลับในเรื่องที่ตัวเองสนใจ โดยที่ไม่สนใจคำพูดของฉันเลย ยัยนี่นี่ ชักจะมากเกินไปแล้วนะ -_-
?พี่คีย์ยังไม่ได้ขอฉันหมั้นหรอก? ฉันบอกออกไปตามตรง ?แค่คิดก็เป็นไปไม่ได้แล้วที่ผู้หญิงอายุสิบแปดกว่าๆ จะรีบผูกมัดตัวเองไว้กับคนใดคนหนึ่ง แล้วถึงแม้ว่าเราจะเข้ากันได้ดี แต่ว่า...เรื่องหมั้นอะไรนั่น คงไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก?
?แต่เธอเพิ่งบอกดีว่าไปว่า...?
?ฉันรู้?
ฉันเอื้อมมือไปหยิบเมนูมาดูอย่างตั้งใจ แต่ถึงอย่างนั้นในหัวก็มีแต่เรื่องงานวันเกิดว่าฉันจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร แล้วพี่คีย์จะยอมไปในฐานะคู่หมั้นของฉันมั้ย
โอ๊ย! ปวดหัวจะแย่แล้ว เลิกคิดก่อนดีกว่า!
?ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ฉันทำให้พี่คีย์ให้ความร่วมมือได้ ไม่มีปัญหา? ฉันบอกปัดเพราะอยากให้เรื่องนี้จบไปก่อน
?ยังไงซะเธอก็โกหกอยู่ดี เพราะเธอกับพี่คีย์ไม่ได้หมั้นกันจริงๆ?
เจนยังไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ ฉันเลยปิดเมนูอย่างไร้อารมณ์
?อย่าลืมสิว่ายัยนั่นแค่อยากเห็นว่าฉันควงใครสักคนไปพร้อมกับแหวน แล้วฉันก็คิดว่านั่นไม่ใช่ปัญหา เธอก็น่าจะจบได้แล้วนะเจน คิดเยอะไปทำไมล่ะ สั่งอาหารดีกว่า?
ฉันเปิดเมนูอีกครั้งพร้อมกับเรียกบริกรมารับออเดอร์ ขณะที่ฉันสั่งอาหาร เจนมองฉันด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวล ซึ่ง...เมื่อบริกรไปแล้ว เจนก็ค่อยๆ คายสิ่งที่ทำให้เป็นกังวลออกมา
?ไหมไทย...เรื่องพี่คีย์น่ะ ...ฉันคิดว่ามันคงไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดหรอก?
ฉันเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
?อะไรทำให้เธอมั่นใจขนาดนั้นเหรอ?
?สัญญามาก่อนสิว่าถ้ารู้แล้วเธอจะไม่ตกใจ?
ยิ่งเจนอมพะนำมากเท่าไหร่ ความอยากรู้ของฉันก็มากขึ้นเท่านั้น
?ฉันสาบานว่าจะไม่ตกใจ บอกมาได้แล้ว!?
?ที่มันไม่ง่าย ก็เพราะ...?
เจนอ้ำอึ้งด้วยความลังเล แต่ก็ยอมปริปากออกมาในที่สุด
?พี่คีย์เป็นเกย์?
พี่คีย์เป็นเกย์?
แฟนของฉันเป็นเกย์น่ะนะ?
?บ้าเหอะ มันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า เธอมีอคติกับพี่คีย์น่ะสิ ถึงได้กล่าวหาเขาแบบนั้น?
?ฉันไม่ใช่คนที่จะกล่าวหาใครลอยๆ นะไหมไทย?
?แต่ฉันก็ไม่เชื่ออยู่ดี?
?งั้นเธอจะตอบยังไงเรื่องที่พี่คีย์ชอบแต่งตัว แถมยังเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วอีกต่างหาก?
?พี่คีย์เป็นผู้ชายเจ้าสำอางก็จริง แต่ว่า...มันไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นเกย์สักหน่อย -_-?
?งั้นแล้วเรื่องที่เขาพูดจาคะขาเหมือนผู้หญิงล่ะ?
?เขาก็แค่เป็นคนพูดจาเพราะเท่านั้นเอง?
?เฮ้อ!?
เจนถอนหายใจด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กๆ ที่ฉันแก้ต่างให้พี่คีย์อย่างไม่ลดละ ก่อนจะโน้มตัวมาใกล้ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่จริงจังมากกว่าเดิม
?ฟังนะไหมไทย ฉันไปเยี่ยมน้องสาวที่บังเอิญอยู่คอนโดฯ เดียวกันกับพี่คีย์ น้องสาวฉันเล่าให้ฟังว่า พี่คีย์คบอยู่กับนายพิเชษฐ์ ครูสอนฟิตเนสที่คอนโดฯ ของน้องสาวฉันนั่นแหละ น้องสาวให้ฉันมาเตือนเธอ เพราะเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทฉัน
?.....?
?ทีแรก...ฉันก็ไม่มั่นใจหรอกนะว่าสองคนนั้นจะคบกันจริงๆ จนกระทั่งฉันบังเอิญเห็นสองคนนั้นจูบกันแบบดูดดื่มที่บันไดหนีไฟ ฉันถึงได้มั่นใจ...?
เจนยื่นมือมาจับแขนฉันเมื่อเห็นฉันเบิกตากว้าง
?ฉันตั้งใจจะบอกเธอนานแล้ว แต่ก็ดันลืมซะสนิทเพราะช่วงก่อนมัวแต่ยุ่งๆ เรื่องที่บ้าน?
มันเป็นข้อมูลชวนคลื่นเหียน น่ารังเกียจที่สุด แล้วบอกตามตรงนะว่า ถึงจะเป็นเรื่องจริง ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าพี่คีย์จะโง่เลือกครูสอนฟิตเนสมากกว่าสาวสวยรวยเสน่ห์และทรัพย์สินอย่างฉันน่ะ
?ฉันเชื่อว่าเธอไม่โกหกฉัน แต่... แต่ว่า...กับฉัน เขาไม่มีทีท่าว่าจะชอบผู้ชายอะไรอย่างนั้น?
ฉันยังพยายามแก้ต่างให้พี่คีย์ ทว่า...ใจฉันมันเริ่มคัดค้านอย่างหนัก เนื่องจากว่าฉันกับพี่คีย์คบกันอย่างสนิทใจมาได้สามเดือนแล้วก็จริง แต่เราไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่าการจูงมือ แล้วมันก็ไม่ใช่การจูงมือแบบสวีทหวานแหววอะไรแบบนั้น แต่เป็นการจูงมือวิ่งเข้าไปในร้านแบรนด์เนมเพื่อเลือกของดีที่สุดและใหม่ล่าสุดซะมากกว่า >_<
เราสนุกกับเรื่องแบบนั้นกันมาโดยตลอด และพี่คีย์ก็ยังเข้าใจด้วยว่าการเป็นแฟชั่นไอคอนมันต้องเหนื่อยกับการวิ่งไล่ตามอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเขาก็ไม่เคยปริปากบ่น แถมยังมาอยู่เป็นเพื่อนฉันเมื่อครั้งที่ฉันแทบจะกางเต็นท์รอเพื่อให้ได้ของแบรนด์คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดเป็นคนแรกอีกต่างหาก
ผู้ชายแบบนี้...เมื่อบวกลบคูณหารอยู่ในใจแล้ว ถ้าไม่ใช่ผู้ชายที่มีใจเป็นหญิงคงทำไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ T^T
ใจหนึ่งสรุป หากอีกใจหนึ่งของฉันมันค้านขึ้นมาด้วยเสียงเบาๆ ว่า อย่าเพิ่งด่วนฟันธงจนกว่าจะได้ยินจากปากเจ้าตัว...
เขาเป็นแฟนฉัน ฉันควรเชื่อใจเขาสิ!
?เอาไว้ฉันจะไปถามพี่คีย์?
?แล้วเขาจะยอมรับง่ายๆ เหรอ ในเมื่อเวลาที่อยู่กับเธอ เขาได้ทุกอย่าง? เจนให้เหตุผลพร้อมกับตำหนิฉันไปด้วย
?ฉันไม่ได้ซื้อให้เขานะ แค่ออกให้ก่อน แถมยังทำสัญญาการกู้ยืมถูกต้องด้วย?
ฉันรีบแก้ต่างให้ตัวเอง ส่วนเรื่องสัญญากู้ยืมที่ฉันพูดถึง เกิดขึ้นมาจากการที่พี่คีย์มาช้อปปิ้งกับฉันทีไรก็มักจะให้ฉันช่วยออกค่านั่น ค่านี่ ค่าโน่นให้ก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่า เขากำลังจนกรอบกับการผ่อนคอนโดฯ หรูหราย่านสุขุมวิท โดยไม่คิดที่จะพึ่งทางบ้าน เพื่อพิสูจน์ให้ที่บ้านเห็นว่าเขาเป็นผุ้ใหญ่แล้ว
ฉันชื่นชมในความคิดนี้ของพี่คีย์มาก เพราะมันหมายความว่าเขาเป็นผู้ชายที่สามารถดูแลฉันได้ ที่สำคัญ ฉันไม่มายด์เรื่องเงินทองของนอกกายด้วย เนื่องจากฉันรวยมาก เรียกว่ามีเงินถุงเงินถังชนิดที่ว่าใช้ทิ้งใช้ขว้างทั้งชาติก็ไม่หมด
ทันทีที่เจนรู้ว่าฉันถูกพี่คีย์สูบเงินในกระเป๋า ยัยนั่นก็ต่อว่าฉันอย่างหนัก หาว่าฉันหลงพี่คีย์มากเสียจนยอมปรนเปรอให้เขาหมดจนน่าเกลียด พาลพูดกระทบไปถึงพี่คีย์ว่าเขาเป็นพวกลวงโลกอีกต่างหาก หลายครั้งเข้าฉันก็นึกเบื่อ เลยทำสัญญาเงินกู้เพื่อให้เจนหุบปาก ยัยนั่นดูจะสบายใจขึ้น หลังๆ เลยเลิกพูดเรื่องพี่คีย์ไป จนมาครั้งนี้แหละ อยู่ๆ ก็กล่าวหาว่าพี่คีย์เป็นเกย์
อย่างกับว่าการเป็นเกย์มันเป็นกันได้ง่ายๆ งั้นแหละ!
?ไหมไทย ฉันหวังดีกับเธอ เธอรู้ใช่มั้ย...แล้วฉันก็ทนไม่ได้จริงๆ นะถ้าเธอจะควงเกย์? เจนมองฉันด้วยแววตาเป็นกังวล
?ฉันรู้ๆ?
ฉันบอกปัด และรู้สึกโกรธเมื่อได้ยินคำว่าเกย์หลายครั้งหลายหนจากปากของเจน
?เอาแบบนี้ คืนนี้ฉันจะไปดักรอพี่คีย์ จะได้รู้กันไปเลยดีมั้ยว่าฉันกำลังถูกสวมเขาหรือเปล่า เธอจะได้สบายใจไง?
ทั้งๆ ที่ฉันประชดออกไปแท้ๆ แต่เจนกลับรีบพยักหน้าหงึกๆ
?ดีเลย วันนี้ฉันว่าง ฉันจะไปชี้จุดให้เอง!?
ทำไมต้องกระตือรือร้นขนาดนั้นด้วย...
ฉันชักกลัวขึ้นมาแล้วสิว่าสิ่งที่เจนพูดจะเป็นความจริง -_-;
ช่วงหัวค่ำ...
ฉันจอดรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ซุ่มอยู่ในความมืดมาประมาณสองชั่วโมงแล้ว แต่พี่คีย์ก็ยังไม่โผล่มาพร้อมกับนายพิเชษฐ์อย่างที่เจนคาดการณ์ มันเลย...เริ่มทำให้ฉันรู้สึกเบื่อๆ กับการรอคอย แถมเจนนั่งหยุกหยิกๆ ไม่อยู่สุขจนฉันเริ่มจะเวียนหัวแล้วด้วย
?ไม่มาแล้วมั้งเจน ฉันว่าเรากลับกันเถอะ? ฉันพูดเบื่อๆ อย่างหมดความอดทน
?มาสิ เขาต้องมาแน่? เจนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจสุดฤทธิ์
?ฉันมีนัดแจกผ้าพันคอ Gucci ตอนสองทุ่มสี่สิบห้า ฉันคิดว่าฉันสามารถอยู่ตรงนี้ได้ถึงหนึ่งทุ่มครึ่งนะ รอนานมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว?
เจนละสายตาจากถนนมาตวัดค้อนอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
?นี่ไหม จะอะไรนักหนากับไอจีน่ะ ถ้ารำคาญมากๆ สักวันฉันจะแอบเปลี่ยนรหัสให้เธอเข้าไอจีไม่ได้เลยคอยดู?
ได้ยินแบบนั้นฉันก็รีบโยนกระเป๋าที่วางบนตักไปที่เบาะด้านหลังคนขับทันที เพราะหน้าตาเจนดูเอาจริงเอาจังกับสิ่งที่เพิ่งพูดไปเว่อร์ๆ
เมื่อเจนเห็นว่าฉันยอมจำนนแต่โดยดี ยัยนั่นก็หันไปมองรอบๆ ต่อ
?ดูนั่น!?
เจนเขย่าตัวฉันอย่างตื่นเต้น เล่นเอาอะดรีนาลินในตัวฉันสูบฉีดจนหน้าชา ขนาดเผื่อใจมานิดๆ แล้วนะว่ามันอาจจะเป็นอย่างที่เจนว่าไว้
?ไหน?
ฉันกะพริบตาเพื่อปรับรูม่านตาให้มองเห็นให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นก็มองตามปลายนิ้วของเจนไป ภาพที่เห็นก็คือ พี่คีย์เดินหนุงหนิงอิงหน้าซบไหล่ชายหนุ่มร่างบึ้กสมเป็นครูสอนฟิตเนส ด้วยหน้าตาที่แช่มชื่นตามประสาคนอินเลิฟ ภาพนั้นทำให้ฉันโกรธจนควันออกหู เพราะตั้งแต่ฉันคบกับเขามา น้อยครั้งมากที่จะแนบชิดเขาได้ระยะนั้นน่ะ!
กรี๊ดดดดดด ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ในชีวิตอันสมบูรณ์แบบของฉันได้ >O<^^^
?ชัดเจนแบบนี้แล้ว...เธอจะเอายังไงต่อไปดีล่ะ?
เจนถามความเห็น ขณะที่หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาอัดวิดีโอเหตุการณ์ตรงหน้าเอาไว้เป็นหลักฐาน
ฉันเอนหลังพิงเบาะ พลางมองไปข้างหน้าด้วยความช็อกไม่หาย
?ไหม...? เจนเรียกเมื่อเห็นว่าฉันเงียบไป
?ฉันก็จะให้เขาเป็นคู่หมั้นฉันให้ได้เหมือนเดิมนั่นแหละ? ฉันบอกเสียงลอดไรฟัน
?หา?! เธอจะบ้าเหรอไหมไทย!? เจนอ้าปากค้าง
?ฉันไม่ได้บ้า แต่มันเป็นเพราะฉันไม่มีทางเลือกต่างหากล่ะ? ฉันบอกเจนอย่างไม่ยี่หระ ?ฉันจะบังคับให้เขาหมั้นกับฉัน แล้วเขาก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ด้วย?
?เธอเพี้ยนไปแล้วเหรอไหมไทย!?
เจนแทบจะเสียสติไปเลยที่ฉันยืนยันจะหมั้นกับเกย์
?แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ ในเมื่อดีว่าต้องการเห็นฉันควงใครสักคนพร้อมกับสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย!?
เจนอ้าปากจะค้าน แต่ฉันยกมือห้ามเอาไว้ เพราะอะไรที่ฉันตัดสินใจแล้ว มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น เสียเวลาเปล่าที่จะหว่านล้อมให้ฉันเปลี่ยนใจ เจนรู้ใจฉันเลยตัดสินใจเก็บความเห็นของตัวเองไว้ก่อนเพื่อรอเวลาที่ฉันใจเย็นกว่านี้
ฉันสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับรถกลับบ้าน โดยมีเจนไปนอนค้างเป็นเพื่อน
ณ คฤหาสน์เลิศวิไลราตรีสโมสร ที่ซุกหัวนอนของฉัน
เจนนอนอ่านนิตยสารบนเตียงสลับกับมองฉันที่กำลังหัวเราะคิกคักกับโทรศัพท์มือถือด้วยหน้าตาที่มีคำถามบางอย่าง แล้วเธอก็เปล่งเสียงถามออกมาดังๆ คล้ายกับว่าเธอเก็บคำถามนี้ไว้ในหัวมานานแล้ว
?ถามจริงๆ เถอะไหมไทย แฟนเธอเป็นเกย์นะ แล้วเขาก็กำลังกิ๊กกั๊กกับครูสอนฟิตเนส เธอยังมีแก่ใจนอนเล่นมือถือสบายใจเฉิบได้อีกเหรอ?
ฉันปิดโทรศัพท์แล้วเอามันไปวางไว้ไกลๆ เจน เพราะกลัวว่าเธอจะฉวยมันไปเปลี่ยนพาสเวิร์ด ก่อนจะบอกว่า
?ฉันก็เสียใจอยู่นี่ไงล่ะ?
เจนหรี่ตามองฉันอย่างจับผิด
?แต่เธอดูไม่เหมือนคนที่กำลังเสียใจเลย?
?ฉันเจ็บปวด แต่ไม่ได้แสดงออก เพราะไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแออยู่ต่างหาก? ฉันลุกขึ้นนั่ง แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม ?พ่อฉันสอนว่าอย่าแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น ไม่งั้นศัตรูจะเอามันเป็นจุดอ่อนของเราได้ เธอเลยไม่ได้เห็นว่าจริงๆ แล้วฉันกำลังอ่อนแออยู่นี่ไงล่ะ?
เจนทำหน้าแบบ...ไม่ค่อยแน่ใจ แล้วก็โพล่งออกมา
?ฉันเป็นเพื่อนเธอนะ ไม่ใช่ศัตรู!?
?พ่อบอกว่า แม้แต่เพื่อนก็ห้าม เพราะเราไม่รู้ว่าเพื่อนจะกลายเป็นศัตรูตอนไหน?
เจนลุกขึ้นมานั่ง แล้วพูดเหมือนตะโกนอย่างฉุนๆ
?ฉันไม่มีทางเป็นศัตรูกับเธอ เธอก็รู้!?
?ฉันรู้...? ทำไมฉันต้องมาเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่องกับเจนด้วยนะ ?แต่มันเป็นนิสัยไปแล้ว แก้ยังไงก็แก้ไม่หายนี่นา?
?พ่อเธอคงจะไม่รู้สินะว่าเขาได้ทำให้ลูกสาวกลายเป็นผู้หญิงเพี้ยนๆ ไปแล้วน่ะ? เจนกลอกตาแล้วถอนใจหนักๆ ออกมา ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย ?เรื่องพี่คีย์ ตกลงเธอจะไม่เปลี่ยนใจแน่นะ?
?อย่างกับว่าฉันมีทางเลือกอื่น??
?มีสิ?
?อะไร?
?สารภาพความจริงไง?
?ตลก...ขืนทำแบบนั้น ยัยดีว่าได้เอาเรื่องของฉันไปโพนทะนาในเว็บแน่นอน?
?แต่ถ้าดีว่ารู้ทีหลังว่าพี่คีย์เป็นเกย์ เรื่องมันจะบานปลายมากกว่านี้อีกนะ?
?ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก เพราะฉันแน่ใจว่าฉันคุมพี่คีย์ได้ ...รอเดี๋ยวนะ?
ประโยคท้ายฉันบอกให้เจนหยุดพูด ก่อนจะก้มดูโทรศัพท์ที่มีข้อความเข้า
?เรากำลังคุยกันอยู่นะไหมไทย เลิกเล่นโทรศัพท์ก่อนไม่ได้เหรอ?
?ฉันแค่จะดูข้อความน่ะ เผื่อว่า...จะเป็นพ่อ?
?อ้างชัดๆ...แล้วไง ใช่พ่อเธอหรือเปล่า?
?.....?
?ไหมไทย...ว่าไง ทำไมหน้าซีดแบบนั้นล่ะ?
เจนลุกมาหาฉัน ก่อนจะฉวยโทรศัพท์ไปดูหน้าจอ ดูเหมือนว่าไม่ใช่ฉันคนเดียวแล้วล่ะที่หน้าซีด
?นี่มัน...พี่คีย์กับนายพิเชษฐ์นี่ไหมไทย!?
?เออน่ะสิ?
?ยัยดีว่าไปถ่ายรูปนี้มาได้ยังไงกันเนี่ย?
?ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ยัยนั่นถ่ายมาได้ยังไงหรอกเจน แต่มันอยู่ตรงที่ยัยนั่นรู้แล้วว่าพี่คีย์เป็นเกย์!!!?
?แล้วนั่น เสื้อตัวนั้น เสื้อตัวที่นายพิเชษฐ์ใส่นั่น! มันตัวเดียวกับที่ฉันซื้อให้พี่คีย์ในวันครบรอบคบกันเจ็ดวันของเรา ฮึ่ย ให้ตายสิ! มิน่าพี่คีย์ถึงบอกให้ฉันซื้อไซส์ใหญ่หน่อย เพราะอย่างนี้นี่เอง!!!?
?นั่นแค่เรื่องเล็กๆ นะ ถ้าเทียบกับเรื่องที่น้องสาวของฉันบอกว่า คอนโดฯ ที่พี่คีย์บอกว่ากำลังผ่อนด้วยน้ำพักน้ำแรง ความจริงแล้วเขากำลังผ่อนให้นายพิเชษฐ์อยู่?
?อะไรนะ!!?
?อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ แล้วฉันคิดว่ามันน่าจะมีมูลด้วยล่ะ เพราะว่าส่วนใหญ่นายพิเชษฐ์จะเป็นคนอยู่ แล้วพี่คีย์จะมาที่คอนโดฯ ทุกวันอาทิตย์?
ทุกวันอาทิตย์...
วันเดียวกับที่เขาโกหกว่าไปเยี่ยมญาตินั่นน่ะสิ...
?กรี๊ดดดดด!!!?
ฉันกดเบอร์โทรหาพี่คีย์ทันที!
?พี่คีย์ พรุ่งนี้มาหาไหมที่บ้านด่วน มีธุระจะคุยด้วย ไม่! ไหมไม่คุยเรื่องสำคัญทางโทรศัพท์! แล้วไม่ต้องมาตอนนี้ด้วย เพราะไหมต้องนอนให้ครบแปดชั่วโมง ขอบตาจะได้ไม่คล้ำ!?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สงสัยฉันจะอยู่ในช่วงดาวเคราะห์เล็งดวงชะตา นอกจากจะถูกมือมืดเขียนข่าวใส่ร้ายจนฉาวกระฉ่อนโลกออนไลน์แล้ว ก็ยังมาจับได้ว่าแฟนหนุ่มที่คบอยู่ที่แท้มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกัน Y^Y นี่ถ้าป๊ะป๋ารู้ข่าวค(ร)าวพวกนี้เข้าล่ะก็ มีหวังฉันต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับนายหน้าวอกที่ท่านเลือกให้ และกลายเป็นแม่บ้านคอยปรนนิบัติสามี ไม่ได้ออกไปปาร์ตี้กับเหล่าเพื่อนสาวจนเฉาตายอยู่ในบ้านแหงๆ TOT ฉะนั้นก่อนที่ป๊ะป๋าจะกลับจากเมืองนอก ฉันต้องจับตัวไอ้มือมืดนั่นมาแก้ข่าวฉาวให้ได้ พร้อมกับต้องหาแฟนหนุ่มหล่อเลิศมาเปิดตัวเพื่อไม่ให้ถูกจับคลุมถุงชน ยังไงฉันก็ต้องเอาตัวรอดจากวิกฤตการณ์เฮงซวยนี่ให้ได้ ขืนยอมแพ้ง่ายๆ ก็เสียชื่อ ?ไหมไทย? เน็ตไอดอลสาวสุดเริดน่ะสิ >O< สู้โว้ย!!
