New Release : ปริศนาพิศวาส

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : ปริศนาพิศวาส

โพสต์ โดย Gals »

1

?กรี๊ด ดูรูปนี้สิ! หล่อมาก?
เสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้หญิงตรงหน้าทำให้นลินีต้องเงยหน้าขึ้นจากแฟ้ม นึกหมั่นไส้อาการดังกล่าวไม่น้อย
นกยูงหรือมยุรา เพื่อนสาวคนสนิทจากชั้นประถมยันจบมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่ต่างจากคนที่อยู่บนปกนิตยสารเล่มนั้น...อคิน นักร้องหนุ่ม ที่ใครๆ ก็กล่าวขานถึงความฮอตอันโด่งดังในขณะนี้
เขาเป็นพรีเซนเตอร์สินค้านับสิบชิ้นแล้วก็ว่าได้ โดยที่เธอได้แต่ถามหาเหตุผลของการคัดสรรว่าคู่ปรับตัวฉกาจสมัยอนุบาลสามยันมัธยมสี่ของเธอคนนี้มีดีอะไรกัน ก็แค่...สูง...ขาว...ตี๋...และคิ้วเข้มเท่านั้นเอง...มันแค่นั้นจริงๆ?
?แหวะ!?
นลินีอดไม่ได้จะค่อนขอด จนนกยูงค้อนตาคว่ำ กระนั้นก็พูดต่อ
?ไม่เจอกันตั้งนาน อคิน นายหล่อขึ้นมากรู้ตัวหรือเปล่า? ไม่แค่นั้น...กลับแนบริมฝีปากที่มันวาวด้วยลิปกลอสลงบนปกนิตยสารในมือ ?จุ๊บๆ คิดถึงนะตัวเอง?
?นี่จะบ้าไปถึงไหน ไม่อายคนอื่นหรือยังไงนกยูง?
นลินีถามพลางมองไปรอบๆ ร้าน ผิดไปจากนกยูงที่ยังคงพูดจ้อไปเรื่อย
?อายทำไมล่ะใบบัว นี่ร้านของพ่อเธอเองนะ และเห็นๆ กันอยู่ว่าอคินหล่อและเท่สุดๆ ดูนี่สิยะ ขึ้นปกเล่มนี้สุดจะซี๊ดเลย กล้ามเป็นมัดๆ?
?ยี้ สกปรก อาบน้ำมันหมูมาสิท่า?
?คนอคติยังไงก็ไม่เห็นความดีความงามวันยังค่ำ ไม่เห็นถึงความน่าลูบน่าคลำของนายแบบบนปกนี้หรอก เซ็งพวกไม่มีรสนิยม?
?นกยูง...นี่เธอว่าฉันเหรอ แล้วเธอกลายเป็นสาวโรคจิตไปตั้งแต่เมื่อไหร่?
มยุราไม่ได้ตอบคำถามหรือแก้ตัวให้เพื่อนสาวหายโมโห กลับถามออกไป
?มีอะไรมาอัพเดทบ้างหรือเปล่าใบบัว ฉันอุตส่าห์มาหาเธอถึงร้านเพราะอยากรู้ข่าวอคิน?
?ข่าวนายหน้าเหม็นที่ไม่ได้เจอมากันมาห้าปีคนนั้นน่ะเหรอ?
?ยัยใบบัวเธอพูดอะไรนี่ ก็แค่อคินลาออกไปจากโรงเรียนตอนมัธยมปลายเพื่อไปเป็นนักร้อง ทำตามฝันตัวเองแค่นี้พูดให้เสียไปได้?
?ก็มันเรื่องจริง มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่กรี๊ดนายคนนี่น่ะ?
?คนที่หล่อนพูดถึงน่ะ นั่นมันฉันนะ เพื่อนของแกคนนี้ยัยใบบัว พูดจา!? มยุราค้อนตาคว่ำ ตำหนิเพื่อนทางสายตา ก่อนจะว่ามาอีก ?ขืนหล่อนว่าของรักฉันอีก จะไม่ฝากงานให้?
?ลองสิ จะดิ้นแด่วๆ ตรงนี้ให้? ว่าพลางปิดแฟ้มบัญชี ลุกจากเก้าอี้ ยิ้มหวานมาต่อ ?อยากกินอะไรจ๊ะคนดี?
?รู้ทันตลอด สินบนล่ะสิเนี่ย
?ใครว่า ใต้โต๊ะต่างหาก ตกลงอาเธอจะรับฉันเข้าทำงานหรือเปล่า ฉันอยากทำงานจริงๆ นะ?
?อาบอกว่าจะให้เราสองคนทำพีอาร์น่ะ?
?จริงเหรอ??
หญิงสาวดีใจจนแทบกระโดด นลินียกมือขึ้นกุมไว้แนบอกยิ้มกว้างรอรับคำยืนยัน
?จริงสิ ไว้ไปคุยรายละเอียดกันสัปดาห์หน้า?
?ขอบใจเธอมากนะนกยูง นี่ถ้าไม่ได้งานนี้ เห็นทีต้องเฝ้าร้านให้พ่ออีกนาน?
เป็นที่รู้กันดีว่าวันไหนๆ ของเธอไม่เคยได้ว่างได้เว้น นลินีต้องดูแลร้านอาหารซึ่งเป็นกิจการเล็กๆ ที่บิดาของเธอร่วมทุนกับเพื่อนรักคนสนิทอย่างลุงเมศ เพื่อนพ่อคนนี้ทั้งรักทั้งหวงเธอยิ่งกว่าลูกในไส้เสียอีก มีอะไรก็ขนมาให้หมด ไม่ว่าจะขนมนมเนยหรือของเล่นชิ้นแพงๆ เอาใจสารพัด ซื้อโน่นซื้อนี่ให้ ปรนเปรอเสียเธอแทบลืมพ่อบังเกิดเกล้า
ทว่าเสียอยู่หน่อยที่ลุงเมศเกิดมีลูกชายหน้าตาไม่ได้เรื่อง ไม่ว่ามองด้านหน้าหรือด้านหลัง ตะแคงมองยังไงนายคนนั้นก็ดูไม่เหมือนมนุษย์คนใดบนโลก นิสัยก็แสนจะประหลาด กวนประสาทเป็นที่หนึ่ง ชอบแย่งของเล่นและขี้อิจฉาเป็นสุดๆ ยามใดที่ลุงเมศซื้อของอร่อยๆ มาฝาก นายคนนี้ก็มักจะวิ่งแจ้นเข้ามาแย่งไปกินหน้าตาเฉย
แค่ชื่อที่เพื่อนสาวคนสนิทเรียกหาก็พานให้นลินีคิดเรื่องวันวานขึ้นมา....
?ใบบัวจ๋า ใบบัวของลุงเมศอยู่ไหนเอ่ย ลุงเมศซื้อโดนัทมาฝากลูก ใครอยากได้โดนัทก็มาหอมแก้มลุงซะดีๆ?
คนตัวเล็กที่ดูสูงชะลูดทั้งที่ปีนี้เพิ่งจะขึ้นประถมสี่ รีบวิ่งแจ้นออกจากส่วนที่เป็นครัวของร้านอาหาร ก่อนจะพุ่งตัวกระโดดกอดคอผู้เป็นพ่อแล้วฝังจมูกตัวเองหอมแก้มซ้ายขวา ขณะที่เจ้าของแก้มเงื้องัดแขนเล็กนั้นออกจากลำคอ แถมส่งเสียงเอ็ดอึง
?ใครเขาอยากให้แกหอมกันหาไอ้ตะวัน ถอยๆ พ่อเรียกใบบัวโน้น ใบบัวมานี่มาลูก มาเอาโดนัทนี่ ลุงซื้อมาให้หนูเลยนะ?
มือใหญ่กวักเรียกหนูน้อยในชุดกระโปรงเอี๊ยมสีหวาน ทรงผมผูกแกละสองข้างด้วยโบว์สีเดียวกัน เด็กหญิงนลินียิ้มแฉ่งพลางกระโดดเข้าสู่อ้อมกอด รอรับทั้งขนมและจมูกโด่งๆ ที่โน้มลงมาหา
?ชื่นใจจริงคนดีของลุงเมศ น่ารักอะไรอย่างนี้เนี่ย กินให้หมดเลยนะลูก ถ้าไม่พอเดี๋ยวลุงจะไปซื้อมาให้อีก?
?ขอบคุณค่ะลุงเมศ ลุงเมศใจดีที่สุดในโลกเลย ไม่เหมือนใครบางคนชอบแย่งของของใบบัว?
?ใครแย่งอะไรใบบัวหรือลูก ไหนบอกลุงมาซิ?
?ตะวันค่ะ แย่งหมีพูห์ แย่งทิกเกอร์ แย่งพิกเล็ต แย่งทุกอย่างที่ลุงเมศซื้อมาให้?
คนช่างฟ้องฟ้องไปพลางทำปากแบะราวกับจะร้องไห้อีกต่างหาก เหตุผลมากพอที่ทำให้คนฟังไม่พอใจ หันไปตำหนิลูกชายอย่างคาดโทษ
?ก็ผมอยากได้เหมือนกันนี่ครับพ่อ ตะวันอยากได้หมีพูห์ตัวใหญ่ไว้กอดเล่น ทำไมพ่อไม่ซื้อให้ตะวันด้วยล่ะ?
ลูกในไส้โวยวายอย่างน้อยอกน้อยใจ แต่ไม่ได้ทำให้คนเป็นพ่อเห็นใจ ทว่ากลับตะคอกเอ็ดอึง
?แกเป็นเด็กผู้ชายจะไปเล่นทำไมตุ๊กตา หรือว่าแกอยากเป็นตุ๊ด?
?พ่อใจร้าย พ่อลำเอียง คอยดูนะผมจะแย่งให้หมดเลย แย่งทุกอย่างที่พ่อซื้อให้ใบบัว แย่งหมีพูห์ แย่งทิกเกอร์ พิกเล็ตก็ด้วย จะแย่งให้หมดป่าร้อยเอเคอร์นั่นแหละ โดนัทนี่ก็ด้วย ตะวันจะกินให้หมดเลย?
ไม่ใช่แค่พูด ทว่าเด็กชายอคินก็คว้าหมับไปที่ถุงโดนัท พลางหยิบมันขึ้นมาแล้วเอาเข้าปากเคี้ยวหนุบหนับ ไม่สนว่าน้ำตาลไอซิ่งจะเลอะเปรอะเปื้อนแค่ไหน แค่ให้ตัวเองสะใจก็เป็นพอ สาสมกับความน้อยอกน้อยใจที่พ่อไม่รักไม่สนใจ กลับปันใจเอาอกเอาใจลูกสาวเพื่อนรักมากกว่าลูกตนเอง
?กรี๊ด ไม่จริง ฉันรับไม่ได้?
เสียงกรีดร้องของมยุราทำให้นลินีหลุดจากห้วงอดีต ตกใจถามเสียงหลง
?อะไร กรี๊ดทำไมเนี่ย? ถามพลางมองหน้าเพื่อน
?ดูนี่สิ ดูนี่?
นิตยสารเล่มที่เพิ่งจะซื้อมาสดๆ ร้อนๆ สั่นพั่บๆ ตามแรงมือ จนเธอต้องขมวดคิ้วถามไปอีกครั้ง
?อะไรของเธอนกยูง นายแบบที่เธอคลั่งไคล้มันหลุดออกมาจากนิตยสารรึไง?
?ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีนะสิ แต่ดูนี่สิ ดูข่าวซุบซิบนี่สิ ฉันรับไม่ได้ใบบัว?
มยุราเล่าเสียงสั่นๆ พลางยื่นนิตยสารดังกล่าวให้ดูอีกที
?ไม่รู้ว่าอินเทรนด์หรือกระแสมาแรงกันแน่ ที่ใครๆ ก็หันไปบริโภคเพศเดียวกัน รสนิยมวายกระจาย ไม่ต่างจากนักร้องดัง อคินที่หันมาควงเพื่อนร่วมค่ายอย่างจิ๊กโก๋ จับมือกะหนุงกะหนิงควงกันไปดูหนังรอบดึก?
นลินีอ่านข่าวในคอลัมน์ซุบซิบดาราที่ว่า ยิ่งเธอทวนข่าวนั้นซ้ำไปซ้ำมายิ่งทำให้เพื่อนสาวอย่างมยุรากรีดร้องเหมือนโดนกรีดเนื้อย่างไฟก็ไม่ปาน
?ไอ้หนังสือเล่มนี้มันมั่ว เขียนข่าวเสียๆ หายๆ อคินสุดเลิฟของฉันจะเป็นเก้ง กวาง บ่าง ชะนีได้ไง ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด คอยดูนะ จะแจ้งความฟ้องเรียกค่าเสียหายเสียให้เข็ด?
?เธอเนี่ยนะจะฟ้อง เป็นคนเสียหายหรือไง?
?นี่ใบบัว เธอลืมไปแล้วรึไงว่าอาของฉันเป็นหัวหน้าดูแลพวกศิลปินในค่ายเพลงที่อคินเขาสังกัดอยู่ คอยดูนะ ฉันจะบอกให้อาเอาเรื่องหนังสือเล่มนี้ เขียนออกมาได้ไง ไม่รู้หรือไงว่าอคินของฉันเสียหาย?
?ใจเย็นๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัทเขาเถอะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราเลย?
ว่าพลางปิดนิตยสารลง หากแต่มยุราไม่เห็นด้วย ท้วงกลับมา
?ไม่เกี่ยวได้ไงยะ อีกไม่กี่วันเราสองก็จะเป็นพนักงานที่นั่นแล้ว ยังไงเสียเราก็ต้องปกป้องศิลปินในบริษัทของเราสิ ฉันของฟันเฟิร์มว่าอคินไม่ได้เป็นเกย์ ไม่อนุรักษ์ป่าแน่นอน เธอน่ะรู้ดีกว่าฉัน และต้องรู้ว่าอคินไม่ใช่เกย์แน่ๆ จริงไหม?
?เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?
?อ้าว ก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาล บ้านก็ใกล้กันอีก แถมพ่อก็เป็นเพื่อนรักกัน แล้วอย่างนี้จะไม่รู้หรือว่าเป็นหรือไม่เป็น ใบบัว เธอเคยเห็นความผิดปกติที่ว่าบ้างไหมล่ะ ไม่เคยเลยใช่ไหมล่ะ ไม่เห็นแม้แต่สักนิ้วก้อย ฉันแน่ใจ?
มยุราส่งปลายนิ้วก้อยอย่างคาดหวังให้ดู รอคำยืนยันแทบหายใจไม่ทั่วท้อง ยิ่งคนตรงหน้ากระตุกรอยยิ้มขึ้นมุมปากอิ่ม ยิ่งทำให้คนฟังมือไม้สั่น
?แน่ใจแล้วจะถามทำไม? คนพูดยิ้มกริ่ม บอกมาอีกครั้งให้เพื่อนสาวร้อนหนาว ?จะบอกอะไรให้นะ ตั้งแต่นายหน้าเหม็นนั่นไปเป็นนักร้องแบบจับผลัดจับผลูโชว์เส้นเสียงอันห่วยแตกนั่นได้ ฉันก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย มีความเป็นไปได้ว่าห้าปีที่ผ่านมา นายหน้าเหม็นอาจจะกลายร่าง...?
?อะไร...?
?ค้นพบตัวตนที่แท้จริงไง เดี๋ยวนี้เขาเป็นกันเยอะนะ ยิ่งพวกดารานักร้องเนี่ย แทบทั้งวงการแล้วมั้ง มันอินเทรนด์จะตาย...?
มยุราอยากจะกรีดร้องให้ลั่นร้าน เสียงหัวเราะของนลินีลอยมากึกก้องให้หวาดหวั่นเสียเหลือเกิน และยากจะทำใจรับได้
?ยังไงก็ไม่เชื่อ ทีเมื่อก่อนยังเป็นข่าวอยู่กับวีเจหญิง? อย่างไรเสียก็ยังแก้ต่างให้ แต่คนที่มาด้วยและช่างคัดค้านก็ท้วงมาเห็นๆ
?บังหน้าหรือเปล่า แอ๊บไง กลัวคนรู้?
?แล้วกับนางแบบนมเบิ้มนั่นล่ะ ที่ควงเมื่อปีก่อน ใส่บิกินี่กอดคอกันที่ชายหาด ปาปารัสซี่เก็บรูปมาได้ตั้งเยอะ?
?ยังไม่พบตัวตนที่แท้จริง...? คนพูดก็ช่างพูดและดูเหมือนมีความสุขยามตักอาหารเข้าปากพร้อมรอยยิ้มยั่ว
?เมื่อไหร่แกจะเข้าข้างฉันซะที เห็นใจกันบ้างสิยัยบัว นี่เพื่อนนะ เพื่อนแกทั้งสองคน ทำไม่ไม่ช่วยกันบ้าง?
?ก็ช่วยแล้วไง ช่วยให้รับความจริงได้ แหม เรื่องแค่นี้เอง อย่าไปซีเรียสสินกยูง สีม่วงสวยดีออก?
?ไม่ ฉันรับไม่ได้ พอๆ หยุดพูดเรื่องนี้ ฉันเกลียดสีม่วง? มยุราร้องห้าม พลางโบกมือลากลับบ้าน ?ไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว กลับบ้านไปฟ้องอาให้เอาเรื่องเจ้าของนิตยสารเล่มนี้ดีกว่า มันเจิดกว่าเยอะ?
นั่นคือคำบอกลาของมยุรา ก่อนจะโบกมือเรียกแท็กซี่กลับบ้านไป...
แต่เพียงไม่นานนัก เสียงกระดิ่งหน้าร้านร้องทักทายผู้ผลักประตูเดินเข้ามา ทำให้คนด้านในที่ง่วนอยู่กับสมุดบัญชีเงยหน้าขึ้น แล้วเอ่ยทักทายด้วยการส่งรอยยิ้มกว้าง
?สวัสดีค่ะ ร้านตามสบายยินดีต้อนรับค่ะ?
นลินีต้อนรับขณะมองลูกค้าหนุ่มทั้งสอง ภายใต้โคมไฟสลัวบนเพดานสาดส่องกระทบผิวของลูกค้าหนุ่มให้ดูโดดเด่น โดยเฉพาะคนด้านหลังให้เป็นที่สะดุดตา ประหนึ่งมีแสงสีม่วงอาบไปทั่วร่างสูงนั้น และเธอรู้สึกร้อนวูบวาบเมื่อเสียงทุ้มตะโกนถามมา
?ยัยใบบ้า พ่ออยู่รึเปล่า??
?คะ??
เธอชักไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน ยัยใบบ้า งั้นเหรอ
?ถามไม่ได้ยินรึไง นี่อย่าบอกนะว่า เปลี่ยนจากยัยใบบ้าเป็นยัยบ้าใบ้ไปแล้ว?
คราวนี้เธอแน่ชัด แสงสีม่วงเมื่อกี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากนายคนนั้น นายหน้าเหม็นที่เพิ่งจะมีข่าวฮอต และเธอเพิ่งจะอ่านผ่านสายตามาเมื่อเที่ยงนี้
?อคิน!?
?ไม่เจอกันนานเรียกซะเต็มยศเลยนะ ว่าไงพ่ออยู่รึเปล่า?
คนถูกถามไม่ตอบ กลับเดินปั้นปึงเข้าด้านในไป และมากพอจะทำให้คนที่มาด้วยกันหัวเราะขบขันกับกิริยาดังกล่าว
?ดูท่าจะเอาเรื่อง?
?ยัยใบบัวก็งี้แหละ เจอหน้ากันเป็นวีนเป็นเหวี่ยงตลอด?
อคินพูดพลางยักไหล่ไม่ยี่หระ กระนั้นมองตามไล่แผ่นหลังบอบบางที่หายเข้าไปในห้องทำงาน
?ไม้เบื่อไม้เมากัน เป็นธรรดานี่เนอะ ว่าแต่สั่งอาหารได้แล้ว หิวจนแทบจะกินนายแล้วเนี่ยอคิน?
?โอเคนั่งเลย เดี๋ยวฉันไปบอกเด็กหลังร้านจัดการให้ ขอตัวแป๊บ?
ร่างสูงละออกไป เดินไปยังส่วนหลังของร้าน ก่อนจะผ่านพ้นไม่วายจะเหลียวหลังเอี้ยวหน้าไปมองคนที่อยู่ในห้องทำงานซึ่งกั้นเป็นออฟฟิศเล็กๆ ไว้สะสางเอกสารในรอบปี ใบหน้ารูปไข่กำลังงอง้ำ บิดปากค่อนขอดอะไรบางอย่าง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเดาสุ่มให้เหนื่อยใจ
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังถึงขนาดทำให้คนตัวเล็กที่อยู่ในห้องทำงานสะดุ้ง ก่อนจะส่งตาเขียวปัดมาให้
?อุ๊ยตาย...ตกใจ...? เสียงทุ้มล้อ ยิ่งปากอิ่มสีสดเม้มเข้าหากันยิ่งอยากแกล้ง อคินส่งคำพูดไปอีก ?ตกใจเพราะคิดถึงฉันอยู่เหรอ...?
?กล้าพูด? คนด้านในแหว ตาขวางอย่างฉุนโกรธ
?ถ้าไม่ใช่จะสะดุ้งทำไมจ๊ะ?
?สะดุ้งเพราะเห็นผีต่างหากล่ะ?
รอยยิ้มยั่วถึงกับหุบ และต้องกัดฟันกรอดกับการเอาคืนของอีกฝ่าย ฟังแล้วนึกเข่นเขี้ยว แต่คิดอีกทีก็ดีไปอย่าง ลับฝีปากตอนนี้เรียกน้ำย่อยดีไม่น้อย อคินหัวเราะหึๆ ในลำคอ ก่อนจะผลักประตูเดินเข้าห้องมาพูดหน้าตาเฉย
?ผีแถวนี้หน้าตาดีแฮะ?คนแถวนี้ถึงได้เหมานิตยสารที่มีหน้าผีขึ้นปกมาเกือบทุกเล่มเชียว?
ไม่ใช่แค่พูดหากแต่ร่างสูงโปร่งนั้นยังคงเดินวนไปวนมารอบโต๊ะทำงาน จนได้กลิ่นหอมจางๆ จากเชิ้ตตัวเก่ง และอดนึกตำหนิแก้มตัวเองไม่ได้ที่ร้อนวูบวาบอย่างไร้เหตุผล เมื่อคนตัวโตโน้มหน้าเข้ามาใกล้
?ขอข้อแก้ตัวดีๆ สักข้อ ฉันอาจจะเชื่อ...?
นลินีเม้มปากส่งตาเขียวปัด แล้วตวาดใส่
?ลุงเมศต่างหากที่ซื้อมา ฉันไม่ซื้อให้เสียดายตังหรอก อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยนายนักร้องเสียงเดี้ยง?
?อ้าว นี่ของพ่อหรอกเหรอ พ่อซื้อมา แต่ทำไมใครบางคนต้องหน้าแดงแก้มแดงด้วย?
เขาชักจะสนุกกับการเย้าแหย่ใบบัวของพ่อแล้วสิ ท่าทีปั้นปึงแกมลนลาน เถียงข้างๆ คูๆ นั้นทำให้สบายใจได้อย่างแปลกประหลาด โดยไม่สนว่าคนถูกแกล้งนั้นจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงแค่ไหน แค่เขานึกพอใจเป็นพอ
?ใครแก้มแดง นายว่าใคร ออกไปเลยไป นี่มันห้องฉัน ห้องทำงานของฉัน คนนอกอย่างนายห้ามเข้ามา ออกไป ไอ้พวกสีม่วง?
?คนนอกที่ไหน เธอไล่คนผิดแล้วยัยใบบ้า นี่มันร้านพ่อของเธอและพ่อฉัน และห้องนี้ก็ห้องทำงานของพ่อเธอและพ่อของฉันด้วย สิทธิ์ของฉันเท่าเทียมกับเธอ?
?ออกไปเลยนะ นายไม่มีสิทธิ์ นายไม่เคยมาช่วยงานที่ร้าน และคนอย่างนายก็ทำบัญชีไม่เป็น ออกไปเลยไป เกะกะ!?
คนถูกตะคอกหรี่ตามอง ถามเสียงเครียด
?ไปก็ได้ แต่บอกมาก่อนว่าอะไรคือสีม่วง เมื่อกี้น่ะเธอพูดบ้าอะไรของเธอ?
?ถามตัวเองสิ ฉันคงตอบให้ไม่ได้ แต่ถ้าจะบอกคงบอกได้คำเดียวว่านายเดินเข้าร้านมาออร่ากระจาย?
?แน่ล่ะ ของมันแน่ ฉันมันเซเลบนี่นา?
พูดพลางยักไหล่กว้างอย่างภูมิใจ จนคนที่นั่งอยู่เหยียดปากเยาะ
?ออร่าม่วงมาเชียว?
?อะไรๆ ฉันได้ยินนะ อีกแล้วนะ ไอ้สีม่วงเนี่ย มีอะไรหรือติดใจอะไรฉัน?
นัยน์ตาคู่คมหรี่มองอย่างเจ้าเล่ห์ และยิ้มยั่วเมื่อเห็นแก้มของอีกฝ่ายแดงก่ำ
?ออกไปได้แล้ว ฉันจะเคลียร์บัญชี เกะกะจริง?
?ออกไปก็ได้ แต่ช่วยไปรับออเดอร์ก่อน ฉันพาเพื่อนมาทานข้าว เอาของดีๆ มาต้อนรับเพื่อนฉันด้วยเข้าใจที่พูดนะ?
?นี่! นายอคิน ฉันไม่ใช่เบ๊นายนะ?
อีกครั้งที่คนที่ยืนอยู่ไม่ได้สนใจเสียงโวยวายนั้น กลับยิ้มยั่ว ยักคิ้วเข้มส่งมาให้ด้วยการต่อความ
?เธอไม่ใช่เบ๊ แต่เธอเป็นเด็กเสิร์ฟประจำร้านไง และตอนนี้ฉันก็เป็นลูกค้า ไปเอาอาหารมา ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องเจ้าของร้าน แล้วบอกให้ไล่เธอออกยัยใบบัว รู้ไม่ใช่เหรอว่าเจ้าของร้านที่นี่งกแค่ไหน โดยเฉพาะคนที่ชื่อลุงเมศของเธอ?
?จะฟ้องลุงเมศ!?
คู่ปรับขู่ฟ่อจนนึกขยาดกลายๆ แต่แน่ใจได้ว่ายังไงเสียวันนี้พ่อก็คงไม่มา เพราะทราบกันดีว่าร้านนี้จะมีคนมาผลัดเปลี่ยนดูแลแค่วันละคนเท่านั้น
?จะฟ้องอะไร ฟ้องว่าเธอบริการลูกค้าได้ยอดแย่งั้นเหรอ อย่าลืมสิว่าวันนี้ฉันเป็นลูกค้า ไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือของพ่อ นี่ ดูนี่?
พลางเอามือตบกระเป๋ากางเกงแรงๆ บอกให้รู้ว่าวันนี้พกเงินมาเป็นฟ่อน และเขาก็คือพระเจ้าของร้านนี้
?อวดรวย?
ว่าเข้าให้ และคนที่ไม่ยอมกันก็เปิดปากบอกยิ้มแฉ่ง
?ว่าได้เหรอ ก็คนมันดัง?
?แหวะ!?
?อย่าอ้วกให้บ่อย เดี๋ยวใครมาเห็นเขาจะเข้าใจผิด?
?ทำไม??
?มองตาฉันแล้วท้องน่ะสิ?
?ไอ้บ้าอคิน!?
คนตัวเล็กตวาดลั่น แต่ไม่ได้ทำให้คนฟังขึงโกรธกลับหัวเราะสนุกสนานเดินออกไปจากห้อง กี่วันแล้วนะที่เขาไม่ได้หัวเราะแบบนี้....




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพราะได้ยินข่าวมาตลอดเวลาว่าลูกชายของเพื่อนพ่อมีข่าวฉาวในวงการปากต่อปากกันว่า ?อคิน? นักร้องหนุ่มมีอะไรในก่อไผ่กับนักร้องหนุ่มคู่หูดูโอ และทุกครั้งที่ได้เจอกันเป็นต้องหาเรื่องแกล้งกันตลอดเวลาตั้งแต่เล็กจนโต ?นลินี? ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองต้องรู้สึกเหม็นขี้หน้านายนักร้องที่สาวกรี๊ดนั่นด้วย ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มเคยช่วยชีวิตเธอไว้ก่อนที่นลินีจะจมดิ่งลงสู่ก้นสระเมื่อสมัยวัยอนุบาล หากทว่าทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดอคิน...นลินีก็รู้สึกวาบไหวราวตกอยู่ในฤดูรักที่หวานหอม จนกระทั่งทั้งสองได้มีโอกาสใกล้ชิดกันเพราะมีเงื่อนงำบางอย่างดึงให้เขาและเธอค้นหา ปริศนาจากคดีสะเทือนขวัญอาจจะต้องใช้หลักฐานและพยานเพื่อเปิดโปงความจริง หากแต่คำถามของโมงยามแห่งรักที่ต่างค้นหาคำตอบมาตลอดกลับถูกพิสูจน์ด้วยหัวใจ อคินมองนลินีด้วยสายตาลึกซึ้งก่อนที่จะบดจุมพิตนั้นไปที่ปากนุ่มของผู้หญิงปากแข็งที่กำลังอ่อนระทวยในอ้อมกอด
?พูดไม่ฟัง จะปล้ำให้?
ปลายนิ้วร้อนระรานแทรกผ่านเสื้อตัวนอกเข้ามา นลินีสั่นสะท้านสะดุ้งเฮือก เมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวคู่นั้นขบเม้มอ้อยอิ่ง...
?รอยเดิมยังไม่หาย ทำไมต้องแกล้งกันด้วย?


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”