New Release : นางหงส์

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : นางหงส์

โพสต์ โดย Gals »

ตอนที่ 1
ณ ประเทศคีรีรัฐ อันมีเขาตั้งตระหง่านล้อมรอบอยู่ด้านหลัง และมีมหาสมุทรใหญ่อยู่ด้านหน้า...
เวลานั้นเป็นเวลาสายแล้ว...แสงพระอาทิตย์ส่องสว่างสาดจ้าไปทั่วบริเวณ...แต่ในห้องบรรทมของพระราชินีมาการิตแห่งคีรีรัฐกลับมืดทึบ...สลัวราง...มีลำแสงผ่านเข้ามาเพียงน้อยนิด
เมื่อท่านผู้บัญชาการสูงสุด...ราชิด เบ็น ก้าวเข้าไป...นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ข้างที่ประทับขยับตัวไปเปิดพระวิสูตรให้กว้างขึ้นเพื่อทรงทอดพระเนตรได้ถนัด...
?พอ...?
พระสุรเสียงที่สั่งมาจากพระบรรจถรณ์ทำให้นางกำนัลหยุดมือทันที แล้วก้มลงถอนสายบัว...ถอยห่างไป...
?เข้ามาใกล้ๆ...ราชิด...?
เมื่อทรงเรียกร่างสูงในเครื่องแบบขาวสะอาด...ติดยศนายพลบนบ่าทั้งสองข้างเป็นวันแรก ราชิดยกมือขึ้นถวายความเคารพก่อนจะเข้าไปคุกเข่าข้างหนึ่งลงข้างๆ พระบรรจถรณ์นั้น
?ในที่สุด...เราก็ทำสำเร็จ...จริงไหม...?
ทรงถามด้วยพระสุรเสียงแสนเบาอย่างคนป่วย...แต่ ?ราชิด? ก็ยังได้ยิน...
?แม้จะช้าไปหน่อย...แต่ท่านก็ได้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่หนุ่มที่สุดอย่างที่เราเคย ?ให้สัญญา? ไว้จนได้...?
ทรงดำรัสเป็นประโยคที่สาม...ในขณะที่ผู้เข้ามาเฝ้าตามพระกระแสรับสั่งยังไม่พูดแม้แต่คำเดียว...
ราชิดถอนใจยาว เมื่อนึกถึงวันที่พระราชินีเคยตรัสกับเขามานานแล้ว...
วันนั้นยังทรงแจ่มใสร่าเริงเพราะเพิ่งทรงอภิเษกกับพระราชาใหม่ๆ...และยังไม่ได้เผชิญกับ ?พิษรัก? อย่างวันนี้ และวันนั้นเขายังเป็น ?พระสหาย? ของพระองค์...ที่มียศแค่พันตรีเท่านั้น...
?คราวนี้...งานชิ้นต่อไปก็คือพา...มาฮากูล...มาพบเรา...?
?จะทรงทำอะไร...?
เขาถามเมื่อนึกถึงพระขนิษฐาต่างพระมารดาที่ทรง ?ขัง? เอาไว้นับสิบปีแล้ว...
?เราจะช่วยกัน ?ดัน? ให้เธอเป็นพระราชินี...แม้ว่าจะช้า...หรือสายเกินไป...แต่เราจะทำให้ ?สำเร็จ? เหมือน ?ทุกเรื่อง? ที่ผ่านมา...?
ทรงดำรัสกับเขาเบาแสนเบา...แต่ราชิดก็ยังได้ยิน...ส่วน ?คนอื่น? ในห้องนั้นยืนห่างไปไกลพอควร...ต้องไม่ได้ยินอย่างแน่นอน...

**************************************************************

?พระขนิษฐาเพคะ...พระขนิษฐา...?
คนเรียกเป็นสาวใช้ชาวบ้านที่ถูกจ้างมาทำงานบ้านเท่านั้น...ส่วน ?คุณแม่บ้านใหญ่? นั้นถูกส่งมาจากในวังให้ทำหน้าที่ ?ดูแล? พระขนิษฐา
พอได้ยินเสียงสาวใช้ ?คุณแม่บ้านใหญ่? ที่สวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีดำสอดชายเข้าไปเก็บไว้ในกระโปรงสีดำยาวกรอมพื้น คาดทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาวผืนใหญ่มีขอบเป็นลูกไม้สวยงามก็เดินออกมาจากห้องพักด้านล่างของปราสาทใหญ่แห่งนั้น...
?มีอะไรรึซาร่า...ถึงต้องเรียกพระขนิษฐาเสียงดังขนาดนั้น...?
?มีคนมาค่ะ...นายทหารรูปหล่อทีเดียว...?
?ฮึ!?? แม่บ้านทำเสียงเหมือนไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเปิดประตูโผล่ออกไปดูด้วยตัวเอง แล้วชะงักงันเมื่อมองเห็นร่างสูงในชุดเครื่องแบบที่กำลังเดินตรงมา...ทิ้งระยะห่างจากผู้ติดตามสี่ห้าคน...
ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า...ท่านนายพลหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวคนใหม่จะมาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง...คุณแม่บ้านเคยได้ยินข่าวของเขามาแล้ว...
?สวัสดีค่ะ ท่านผู้บัญชาการ...ไม่ยักกะทราบว่าท่านจะมาด้วยตัวเอง...?
คุณแม่บ้านทักก็จริง...แต่สายตาและน้ำเสียงทำให้คนฟังไม่แน่ใจนักว่าทักทายด้วยความยินดีที่ได้เจอ หรือด้วยความสงสัยว่ามาทำไม...
?ทรงมีพระบัญชาให้มารับพระขนิษฐาเข้าวัง...?
เขาบอกกับแม่บ้าน และมองข้ามศีรษะหล่อนเข้าไปยังชั้นบนของปราสาท ซึ่งเวลานี้...พระวรกายบอบบางในฉลองพระองค์กระโปรงสุ่มเก่าๆ เหมือนไม่ใช่ของตัวเอง...กำลังเสด็จลงมาตามบันไดเงียบๆ...
เกือบสิบปีที่ไม่ได้เจอกันทำให้เจ้าหญิงมาฮากูลหรือเจ้าหญิงโรส...กุหลาบงามของพระบิดาที่ล่วงลับไปแล้ว เติบโตขึ้นงดงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ...
แม้จะอยู่ในฉลองพระองค์แสนเก่า...มอซอ...แต่ความงามของเจ้าหญิงนั้นเจิดจรัสเสียจนคนที่มองมาทางต้นห้องมองตาค้างไปหลายนาที...
ขึ้นชื่อว่า ?หงส์? ...ก็ยังคงเป็น ?หงส์? วันยังค่ำ...ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด...ถูกจองจำเอาไว้นานเท่าใด...เมื่อหลุดออกมาได้...รัศมีของเจ้าหญิงก็ฉายแสงจนไม่มีใครข่มได้ลงจริงๆ...
ราชิดมองเจ้าหญิงที่ทรงพระสิริโฉมสะดุดตาก้าวมาหยุดลงตรงกลางห้องโถงใหญ่ของปราสาทหลังนั้น แล้วมองสบพระเนตรคู่สวยที่ทองมายังเขาราวกับจะจำได้คลับคล้ายคลับคลา
?ท่าน!?...? หล่อนเอ่ยเสียงทักทายเขาขณะที่มองไปยังยศบนบ่าอย่างไม่แน่ใจ...
?ราชิดพ่ะย่ะค่ะ...? เขาต่อให้ ?ทรงจำได้ไหม...?
?ใช่แล้ว...ท่านเป็นเพื่อนของพระราชินี...ฉันจำได้...?
?ทรงมีพระบัญชาให้มารับพระองค์กลับเข้าวัง...?
คำบอกเล่าของเขาทำให้เจ้าหญิงทำสีพระพักตร์ไม่อยากเชื่อ...
?เก็บของเถอะฝ่าบาท...เอาที่จำเป็นเท่านั้น...อย่างอื่นไปหาเอาใหม่...?
เขาบอก ขณะที่เจ้าหญิงยังไม่ยอมขยับพระองค์...ดวงเนตรสวยยังคงมองเขาอย่างคลางแคลงในพระทัย...ไม่อยากเชื่อเรื่องที่ทรงได้ยิน...
?จะไปทำไมกันคะ...?
ราชิดขยับริมฝีปากได้รูปสวยน่ามองไม่แพ้สตรีของเขาแล้วชะงักเมื่อคิดได้...
?ไปถามพระราชินีเองดีกว่า...? เขาพูดถึงพระราชินี...
?คุณบอกไม่ได้หรือคะ...?
?ดีไม่เท่าที่จะทรงบอกเองหรอกฝ่าบาท ไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ...กระหม่อมจะรอ...?
เขากล่าวกับเจ้าหญิงโดยไม่สนใจใครเลยในห้องนั้น แล้วเดินกลับออกไปคอยหล่อนอยู่ใกล้ๆ รถม้าที่นำมาด้วยเงียบๆ...ปล่อยให้ ?คุณแม่บ้านใหญ่? มองตามไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น...ก่อนจะก้าวตามไปอย่างรวดเร็ว
แม่บ้านใหญ่ตามมาดูเจ้าหญิงทรงเก็บของใช้ส่วนพระองค์ไปไม่กี่ชิ้นจริง ใส่กระเป๋าเดินทางใบเก่าที่ใส่ฉลองพระองค์และของใช้จำเป็นมาเมื่อสิบปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังใช้งานได้อยู่ เพราะทรงใช้ฉลองพระองค์เก่าๆ ห่อเอาไว้อย่างดี...
?ท่านผู้บัญชาการคนนี้น่ะ...ได้ยินว่าเป็นแฟนเก่าของพระราชินีก่อนจะทรงอภิเษกนะ...?
คำบอกเล่าของแม่บ้านใหญ่ทำให้เจ้าหญิงทรงชะงักพระหัตถ์ที่กำลังเก็บของอยู่ แล้วทรงถามโดยไม่หันมาทอดพระเนตรอีกฝ่ายเลยว่า...
?มาบอกทำไม...?
?กลัวว่าเจ้าหญิงจะไปทรงหลงรักคนมีเจ้าของน่ะสิ...ผู้ชายรูปงามขนาดนี้น่ะ...ผู้หญิงหัวใจละลายทุกคนนั่นแหละ...?
?รวมทั้งคุณแม่บ้านด้วยใช่ไหมล่ะ? พระวาจาที่ยอกย้อนทำเอาคุณแม่บ้านใหญ่หน้าตึงขึ้นมาทันที...
?ที่บอกให้รู้น่ะ เพื่อให้ทรงระวังตัวไม่ไปหลงรักหลงชอบผู้ชายคนเดียวกับพระราชินีเท่านั้น...?
?ทำไมคุณแม่บ้านไม่กลัวเขามาหลงรักหลงชอบ ?เรา? บ้างล่ะ...เราไม่ได้ขี้เหร่อย่างคุณแม่บ้านสักนิดนะ...ไม่เคยส่องกระจกดูเงาตัวเองเลยหรือ...?
?นี่...อย่าทรงมายอกย้อนหม่อมฉันนะ...เดี๋ยวก็...?
?ทำไม...จะขังเราไว้แล้วไม่ให้ข้าวให้น้ำอีกงั้นหรือ...ฝันไปเถอะ...ต่อไปคนที่จะถูกขังแล้วไม่ให้ข้าวให้น้ำไม่ใช่เราอีกต่อไปแล้ว แต่จะเป็นคุณแม่บ้านซะเอง...ระวังตัวไว้แล้วกัน...?
ตรัสจบ เจ้าหญิงก็ทรงคว้าฉลองพระหัตถ์เสด็จออกจากห้องส่วนพระองค์อันกว้างใหญ่...แต่แสนจะว้าเหว่และเงียบเหงามาตลอดสิบปีที่ทรงถูกขัง...
เจ้าหญิงมาฮากูลทรงหอบกระเป๋าฉลองพระองค์ลงมาจากชั้นบนด้วยพระองค์เองโดยไม่มีใครช่วยเหลือ...เพราะคุณแม่บ้านไม่อนุญาตให้ซาร่าช่วยพระองค์มาแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วยความใจดำและขี้อิจฉา แต่มันใช่ปัญหาของเจ้าหญิง
พอเสด็จลงมาถึงชั้นล่าง...นายทหารติดตามมาด้วยก็เข้ามารับกระเป๋าไปทันที...แล้วเดินนำเจ้าหญิงตรงไปยังรถม้าพระที่นั่งที่รออยู่
ราชิดยืนรออยู่ที่ประตูรถม้าที่เปิดออก และรู้ทันทีว่าคงทรงปีนขึ้นไปได้ลำบาก...
?กระหม่อมจะช่วย...?
เขาบอก แล้วคว้าพระเอวกลมกลึงยกส่งขึ้นไปบนรถเหมือนพระองค์เป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ เหมือนเมื่อสิบปีที่แล้ว...
?ขอบคุณค่ะ...?
?ยินดีรับใช้พระราชินีในอนาคตกระหม่อม...?
คำตอบนั้นทำให้เจ้าหญิงทรงหันมาทอดพระเนตรทันทีที่เสด็จขึ้นไปประทับนั่งเรียบร้อย
?ไหนคุณว่าอะไรนะ!?...? ทรงถามอย่างไม่อยากเชื่อเหมือนเดิม
?ก็อย่างที่ทรงได้ยินพ่ะย่ะค่ะ...? เขาตอบเมื่อปิดประตูตามพระปฤษฎางค์ให้แล้วหันไปโหนตัวขึ้นม้าของตัวเอง...
?เดี๋ยว...อย่าพูดเล่นนะ!?? ทรงชะโงกพระพักตร์ตามมาถาม
?มันไม่ใช่เรื่องพูดเล่นพ่ะย่ะค่ะ...?
เขาตอบชัดเจนก่อนพยักหน้าให้คนขับพารถม้าออกจากปราสาทหลังนั้น ตรงกลับวังหลวงที่ทรงจากมาถึงสิบปี...

*****

คุณข้าหลวงเซซิเลียมารอรับอยู่หน้าพระตำหนัก เมื่อเจ้าหญิงมาฮากูลเสด็จไปถึงพร้อมกับข้าราชบริพารชุดใหม่ที่จัดขึ้นโดยรีบก่อน...ครบถ้วน คุณข้าหลวงเคยเป็นพระพี่เลี้ยงที่เคยดูแลเจ้าหญิงมาตั้งแต่ทรงพระประสูติตรงเข้ามาหาและโอบกอดเจ้าหญิงไว้ด้วยความคิดถึง และชื่นชมในพระสิริโฉมอันงดงามหลังจากกันถึงสิบปี
?ในที่สุด...พระเจ้าก็ทรงเมตตาพระขนิษฐาแล้ว...?
คุณข้าหลวงรำพึงรำพัน แล้วเป็นน้ำหูน้ำตาขึ้นมาทันที...ทำเอาเจ้าหญิงทรงกันแสงตามไปด้วย
?มาเถอะเพคะ...ทรงรีบไปสรงน้ำแต่งพระองค์เถอะ...ทรงมีพระบัญชาให้เข้าเฝ้าทันทีที่มาถึง?
แล้วเจ้าหญิงก็ถูกจูงขึ้นไปบนบันไดกว้าง...แล้วเลี้ยวไปทางปีกเดิมที่เคยประทับมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ก่อนที่พระราชินีจะสั่งจองจำพระขนิษฐา เพราะกลัวจะเป็นเหยื่อพระสวามี...ทั้งๆ ที่ยังเป็นเด็กหญิง...ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร...
แต่เวลานั้นทรงต้องทำ เพราะกำลังวุ่นวายไปหมด...ทั้งฝ่ายใน...การแยกพระขนิษฐาออกไปให้พ้นพระหัตถ์พระสวามี...เป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง...
จวบจนถึงเวลานี้...เมื่อพระสวามีทิวงคตไปแล้ว...และพระราชินีก็ทรงพระประชวรด้วยโรคหัวใจ จึงเป็นโอกาสของเจ้าหญิงมาฮากูลจะได้เสด็จออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันเสียที
ห้องที่ประทับเดิมของพระขนิษฐาถูกตกแต่งใหม่จนเรียบร้อยพร้อมจะเป็นที่ประทับอีกครั้ง เมื่อเจ้าหญิงถูกพาเข้าไปฉลองพระองค์ใหม่ เพื่อเข้าเฝ้าพระราชินีในเวลาต่อมา...

*****
เมื่อท่านผู้บัญชาการทหารพาพระขนิษฐาเข้ามาเฝ้าอีกครั้ง...พระราชินีทรงมีพระอาการดีขึ้นพอจะลุกขึ้นประทับนั่งพิงพระปฤษฎางค์อยู่บนพระบรรจถรณ์ได้แล้ว
เปลือกพระเนตรที่ทอดมองมากะพริบขึ้นลงถึงสองสามครั้ง เมื่อพระขนิษฐาเสด็จเข้าไปประทับยืนอยู่ใกล้ๆ โดยตัวท่านผู้บัญชาการยืนอยู่ไม่ไกล...
ทรงถอนพระทัยเฮือก เมื่อบอกพระองค์เองว่าทรงคิดถูกแล้วที่กันเจ้าหญิงมาฮากูลออกไปเสียไกล...ไม่งั้นอาจต้องฆ่ากันตาย...อย่างที่ทรง ?ประหาร? นางกำนัลที่แข็งข้อใส่พระองค์ไปซะหลายคน...
เวลานั้นยังมิได้ทรงเป็น ?พระราชินี? ทรงเป็นแค่พระชายาเท่านั้น...ดังนั้น นางกำนัลที่ ?ขึ้นหม้อ? ทั้งหลาย จึงปรายตามองพระองค์อย่างไม่เห็นว่า ?สำคัญ?
ทรงจำสายตาของนางเหล่านั้นๆ ได้ไม่เคยลืม...และสัญญากับพระองค์เองว่า สักวันจะทำให้ ?นังพวกนั้น? ได้รู้สึก...
ทรงกัดพระทนต์ก้มหน้าทำตามหน้าที่ต่อประชาชน...และพระราชบัลลังก์อย่างเข้มแข็ง...ขณะที่หน้าที่ของพระชายานั้นต้องปล่อยให้ ?ผู้หญิงอื่น? ทำแทน...เปลี่ยนหน้ากันไปอย่างทรงเจ็บปวดพระทัย...จนทรงขึ้นเป็น ?พระราชินี?
หลังจากนั้น...เมื่อทรงกวาดพระเนตรผ่านนางผู้ใด...ก็ไม่มีใคร ?กล้า? สบพระเนตรด้วยอีก เพราะกลัว ?พระอาญา?
สำหรับผู้ที่ ?ไม่กลัว? คิดว่า ?พระสวามี? ของพระองค์จะปกป้องได้...พระนางมาการิตก็ทรงเอาคืนอย่าง ?เจ็บแสบ? เป็นทวีคูณ...และทรงเอาคืนถึง ?ชีวิต? สำหรับ ?บางคน? ที่คิดกำจัดพระองค์ให้พ้นทาง
?เป็นยังไงบ้าง...สบายดีไหม...?
ทรงถามพระขนิษฐาที่เสด็จเข้ามาประทับยืนนิ่งอยู่หน้าพระพักตร์...เจ้าหญิงมาฮากูลเงยหน้าขึ้นสบพระเนตรกับพระราชินีเป็นครั้งแรก หลังจากที่ไม่ได้เห็นพระพักตร์กันมาสิบปีเต็มๆ...
?ก็สบายดีเท่าที่นักโทษจะสบายได้ล่ะเพคะ...?
คำตอบนั้นราบเรียบ...แต่มีหรือที่ ?พระเชษฐภคินี? จะไม่ทรงรู้สึก...
?พี่ต้องขอโทษเธอด้วยที่ทำเช่นนั้น...?
?ทรงเป็นพระราชินี...จะทำยังไงก็ได้เพคะ...? ทรงเถียงพระพี่นางอย่างไม่ทรงยอมแพ้แบบเดิม...
?เอาเถอะ...ที่ให้เขาเอาเธอกลับมานี่...พี่จะแก้ตัว...?
?ยังไงเพคะ...จะทรงตั้งหม่อมฉันเป็นพระราชินีแทนรึไง...?
ทรงถามและมองพระพี่นางด้วยสายพระเนตรตัดพ้อไม่เสื่อมคลาย...จนพระนางมาการิตต้องถอนพระทัย...
?เอาเถอะ...แล้วเธอจะเข้าใจ...ขออย่างเดียว...ให้ทำตามโดยไม่มีข้อแม้แล้วกัน อีกเจ็ดวันจะจัดพิธีฉลองรัฐที่ตั้งมาครบร้อยห้าสิบปี จะเชิญเจ้าชายต่างแคว้นรอบประเทศเรามาให้เธอเลือกเพื่อเข้าพิธีสยุมพรด้วย ตอนนี้รัฐที่เข้มแข็งรอบๆ เรามีอยู่สามรัฐ คือพิทาร...อุตรา และศิขรินทร์ เลือกใครสักคนมารวมกับเราให้เข้มแข็งขึ้น...ไม่ให้มารังแกได้ง่ายๆ...แล้วเตรียมตัวเป็นพระราชินีอย่างที่เธอประชดพี่เมื่อกี้...?

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พระขนิษฐาของพระราชินีมาการิตถูกขังอยู่ถึงสิบปีจึงถูกเรียกกลับเข้าวังอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ ?เจ้าหญิงมาฮากูล? มีพระราชกิจที่สำคัญยิ่งนัก แต่ความที่ทรงไม่ยอมใครมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ทำให้เจ้าหญิงทรงปฏิเสธไม่ยอมอภิเษกกับเจ้าชายองค์ใดเลย แต่ใครจะคิดว่าในที่สุด ?นายพลราชิด? จะได้อภิเษกกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่เขาไม่อาจเทียบ ทั้งที่ตอนแรกมีแต่เจ้าชายองค์สำคัญๆ ถึงสามพระองค์เป็นตัวเก็งโดยไม่มีแม้แต่เงาของเขา ราชองครักษ์คนนี้อยากบอกให้เจ้าหญิงมาฮากูลทรงทราบเหลือเกินว่าเขาเต็มใจ เต็มใจอย่างยิ่งที่จะดูแลพระองค์ตลอดไปจนตลอดชีวิต อยากจะถามด้วยว่ายินดีที่จะแต่งงานกับชายต้อยต่ำติดดินไม่คู่ควรกับพระองค์เลยสักนิดคนนี้ไหม?
ราชิดจูบพระองค์ให้สมกับความคิดถึงอันมากมายที่มีอยู่ในหัวใจ
?ทรงเป็นของหม่อมฉันคนเดียวนะ...สุดที่รัก...?
เขากระซิบกับพระกรรณก่อนจะอุ้มพระองค์ขึ้นมาวางลงบนขั้นบันไดหินอ่อน
แล้วเอื้อมมือไปหยิบสบู่ก้อนงามมาบรรจงลูบให้ทั่วพระวรกายเปล่าเปลือยทุกตารางนิ้ว...


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”