เมฆฝนมืดครึ้มมาตั้งแต่เช้า ตอนนี้ตกกระหน่ำไม่ขาดสาย ท้องฟ้ามืดมัวราวกับเป็นเวลาย่ำค่ำ ทั้งๆ ที่ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน พายุฝนเข้ามาครอบคลุมพื้นที่บริเวณนี้ทำให้เกิดความมืดมัว และความชุ่มฉ่ำของหยาดฝนผู้คนจึงอยู่แต่ในบ้านของตนเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะออกมาทำกิจกรรมประจำวันของตนเองได้ไม่ถนัดนัก
ท้องถนนจึงไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรเหมือนทุกวันเนื่องจากพายุฝนซึ่งเข้าปกคลุม ปรากฏร่างของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งดูจะไม่อนาทรร้อนใจอะไรกับพายุฝนที่ตกกระหน่ำ พวกเขาเดินย่ำผ่านม่านฝนตรงไปยังร้านขายของเก่า ที่ตอนนี้ปิดประตูลงครึ่งหนึ่งเพราะพายุทำให้ไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลยวันนี้ และเจ้าของร้านซึ่งเป็นชายวัยเกือบหกสิบก็คิดจะปิดร้านเพื่อไปเอนหลังยังห้องชั้นบนแล้ว
เสียงเคาะประตูเหล็กม้วนปิดไว้ครึ่งหนึ่ง ทำให้ชายชราที่นั่งเคลิ้มอยู่สะดุ้งตื่นก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นร่างสองร่างมุดเข้ามาในร้าน เขาขยับตัวทันทีตามสัญชาตญาณระแวงภัย มือหนึ่งคลำไปยังเอวเพื่อจับปืนพกที่ติดตัวไว้เสมอ ร้านของเก่าแห่งนี้มีหลายอย่างซึ่งมีค่ามาก ราคาของบางอย่างแพงมหาศาล แขกทั้งสองมาในยามไม่ปกตินักจึงต้องป้องกันตัวไว้ก่อน
?มีอะไรให้ช่วยไหมครับ??
?ที่นี่จะมีจริงๆ น่ะเหรอวิเวียน่า? เสียงทุ้มในชุดกันฝนสีดำเอ่ยถามหญิงสาวร่างเพรียวในชุดกันฝนสีแดงสด ใช้มือดึงฮู้ดซึ่งปกคลุมใบหน้าออก เผยให้เห็นความงดงามชวนตะลึง เธอปรายตามองมายังเจ้าของร้านวัยชราที่ตาเบิกค้างเมื่อเห็นใบหน้างดงามนั่นเข้า นี่มันนางฟ้าเดินดินชัดๆ
?แหล่งขายของเก่าของเมืองนี้มีไม่กี่แห่ง แล้วนี่ก็เป็นร้านสุดท้าย จะอย่างไรมันก็ต้องอยู่ตรงนี้? เสียงใสหวานนั่นเอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มเยือนให้กับเจ้าของร้าน เธอมองจ้องสบสายตากับนัยน์ตาสีฟ้าขุ่นของเขา แล้วเพียงแค่นั้นร่างท้วมก็กระตุกเกร็งไปชั่วขณะ สติเริ่มเลือนรางราวกับถูกเมฆหมอกเข้าครอบคลุม เขาเข้าไปในภวังค์ความฝันเพียงแค่ชั่วเวลาดีดนิ้ว ทั้งที่ตาของเขายังไม่ได้หลับลงเลยแม้แต่น้อย ความฝันอันรางเลือนที่ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง
?ที่นี่มีรูปภาพของเทพอพอลโลกับเทพีอาร์เทมิสขายใช่ไหม??
?เอ่อ...ไม่มีครับ? นัยน์ตาสีดำราวกับรัตติกาลมองจับจ้องอย่างกับจะบีบเค้นความจริงให้มากที่สุด เขารู้สึกเหมือนถูกบีบความทรงจำจนร่างของชายชราเริ่มสั่นไปหมดทั้งตัว
?แน่ใจนะ ว่าไม่มีของที่แกได้มาจากปราสาทของลอร์ดวาเยล?
?....? ชายชรายังคงเบิกตาโพลงยืนนิ่งเหมือนหุ่น หญิงสาวเค้นพลังให้มากยิ่งขึ้นจนเส้นเลือดตรงขมับปูดโปน เธอเอ่ยถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอันทรงอำนาจ
?ขอถามเป็นครั้งสุดท้าย แกได้ภาพนั้นมาใช่ไหม บอกมา!?
?ไร้ประโยชน์น่าวิเวียน่า พอเถอะ ถ้าเจ้าใช้พลังมากไปมันอาจจะทำให้ไอ้แก่นี่กลายเป็นท่อนไม้กลวงๆ ไร้สมองได้ พลังของเจ้ามันมากพอที่จะทำลายสมองของมันได้เลยทีเดียว เค้นขนาดนี้แล้วยังยืนยันว่าไม่มี สงสัยคงจะไม่ใช่ร้านนี้จริงๆนั่นแหละ?
?นั่นสิ? วิเวียน่าถอนใจพลางหลับตาลง เธอคลำสร้อยที่ห้อยอยู่กับคอ แหวนทองสลักอักษรโบราณ มีอัญมณีสีเข้มประดับอยู่ มันเหมือนเป็นตัวแทนของใครบางคนที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิต และได้สูญสลายไปต่อหน้าต่อตา เธอต้องการให้เขากลับคืนมากลับมาเป็นนายท่านเหนือชีวิตของเธออีกครั้ง ความหวังเดียวที่จะปลุกชีพให้เซบาสเตียนกลับคืนมานั่นก็คือ...
?รูปนั้น...ไม่ได้อยู่ที่ผม...? เสียงแหบสั่นเครือของเจ้าของร้านขายของเก่าเอ่ยดังขึ้น ทำให้วิเวียน่าและชายในชุดกันฝนหันไปมองเขาพร้อมกัน ริมฝีปากที่แหว่งหวิ่นภายใต้ฮู้ดคลุมหน้าสีดำแสยะยิ้มก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงรื่นเริง
?อ้อ...เปิดปากออกมาแล้วหรือ หึๆ วิเวียน่า หลังจากที่รีดความจริงจากมันแล้ว ข้าขอนะ กำลังหิว?
?แล้วอยู่ที่ใคร? วิเวียน่าไม่ได้สนใจจะโต้ตอบกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้เธอกำลังสนใจข้อมูลที่กำลังจะได้มากกว่า นัยน์ตาจ้องมองรีดเค้นพลังออกมามากขึ้นทำให้ร่างท้วมกระตุก ใบหน้าเหี่ยวย่นด้วยวัยถึงกับบิดเบ้ก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงสั่น
?ผม...ไม่รู้?
?อยู่ที่ใคร? วิเวียน่าเองก็ถึงกับร่างสั่นไหว เพราะเธอใช้พลังในการสะกดจิตจากดวงตาอย่างมหาศาลในการรีดความลับอันซ่อนอยู่ในส่วนลึกสุดของอีกฝ่ายหนึ่งออกมา ชายชราส่ายหน้า น้ำตาของเขาไหลพรากเลยทีเดียว รู้สึกเจ็บปวดร้าวรานเหมือนกับถูกบีบสมองเมื่อถูกค้นแคะความทรงจำทุกเศษเสี้ยวออกมา เส้นเลือดของเขาเต้นตุบและบวมปูด ริมฝีปากค่อยเผยอเอ่ยคำสุดท้ายออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น
?เขามาซื้อไป...เมื่ออาทิตย์ก่อน ให้...ไว้เพียงเบอร์โทรศัพท์ เขาให้ผมเป็นนายหน้า โอย...ผมปวดหัว ผมไม่รู้ ผมไม่รู้อะไรอีกแล้ว ผมจำไม่ได้ จำอะไรไม่ได้? ชายชรายกมือขึ้นกุมศีรษะพลางร้องโอดโอย ร่างท้วมล้มลงไปกองกับพื้น เขางอตัวเข้าหากันแล้วสั่นเทิ้มไปหมดทั้งตัว เสียงร้องครางด้วยความปวดร้าวดังขึ้นอย่างน่าเวทนา
?อยากกินก็จัดการเสียสิ การ์เบียล? วิเวียน่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เลิกสนใจชายเจ้าของร้านเพียงชั่วคราว พลางเดินด้วยมาดของนางพญาไปยังหน้าร้าน ก่อนจะดึงประตูม้วนให้ปิดลงจนสุด และหันมายิ้มน้อยๆ ให้กับการ์เบียลที่ดึงฮู้ดออกจากศีรษะทันทีเมื่อได้ยินเธอเอ่ยออกมาดังนั้น ใบหน้าของเขายังคงมีบาดแผล ยังคงเห็นเนื้อแดงสดอยู่ซีกหนึ่งซึ่งคงจะไม่มีวันสมานตัวได้ดังเดิม เรือนผมของเขากลายเป็นสีขาวไปครึ่งศีรษะ กลายเป็นใบหน้าอันแสนอัปลักษณ์ด้วยบาดแผลที่กินความยาวไปถึงครึ่งหน้า เขาเผยอปากน้อยๆ น้ำลายสอจนหยดล้นออกมา การ์เบียลปาดน้ำลายพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงลิงโลด นัยน์ตาลุกวาบยามมองไปยังร่างอ้วนกลมที่ขดงออยู่กับพื้น
?ได้หรือ? วิเวียน่า แล้วเจ้าไม่ต้องการรีดเค้นความจริงอะไรจากมันอีกแล้วหรือ?
?ไม่จำเป็นอีกแล้ว? ริมฝีปากได้รูปสวยที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงกุหลาบเอ่ยยิ้มๆ ?ข้ารู้แล้วว่าเราจะไปตามหาเบาะแสได้ที่ไหน ไอ้แก่นี่ไม่จำเป็นอีกต่อไป ข้าไม่อยากให้ใครรู้ว่าพวกเราเคยมาที่นี่?
?งั้นก็ขอบคุณมาก...สำหรับอาหารมื้อกลางวัน? การ์เบียลหัวเราะแล้วเขาก็กระโจนคร่อมร่างอ้วนท้วมของชายชราที่นอนอยู่กับพื้นทันที
วิเวียน่าเอื้อมมือไปเปิดเพลงจากเครื่องเล่นสเตริโอที่ตั้งอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ ก่อนจะเร่งเสียงให้ดังเพื่อกลบเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของชายชราเจ้าของร้าน เมื่อร่างกำลังถูกฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ อาหารกลางวันของการ์เบียล...ไลแคนผู้แสนจะซื่อสัตย์และภักดีต่อนายท่านเหมือนเธอ ก็สมควรจะได้รางวัลกันบ้าง แม้จะคลุ้มคลั่งและบ้าเลือดไปหน่อยก็ตามที แต่บางทีข้อเสียของการ์เบียลอาจจะทำให้เธอได้ประโยชน์อย่างมหาศาลในการใช้งานไลแคนผู้เสียสติตนนี้
แม้เบาะแสที่ได้มาอาจจะเป็นการคว้าน้ำเหลว แต่เธอก็จะลงทุนทำทุกอย่างเพื่อให้นายท่านของเธอได้กลับมาอีกหน และไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีจริงหรือไม่หรือเป็นแค่เรื่องเหลวไหล แต่วิเวียน่าก็พร้อมที่จะลงทุนลองเสี่ยง
พวกมันจะต้องรับผิดชอบพวกมันจะต้องชดใช้ที่ทำให้เซบาสเตียนต้องตาย
วิเวียน่าตะโกนอยู่ในอกนัยน์ ตายาวรีลุกวาบด้วยเพลิงแค้นเมื่อคิดถึงภาพของศัตรูคู่อาฆาตอย่างพี่น้องบาเลนไทน์ เลือดต้องล้างด้วยเลือด พวกมันจะต้องถูกกระชากหัวใจมากระทืบจนจมดิน!
1........................
กรีซ เมืองเดลฟี
มือเรียวปาดเหงื่อออกจากใบหน้า เมื่ออากาศร้อนของเมืองเดลฟีกำลังทำพิษเข้าแล้ว เธอมองดูคนร่างสูง เรือนผมหงอกขาวทั้งศีรษะเพราะวัย ตอนนี้จ้ำอ้าวเดินเร็วนำหน้าเธอที่อายุน้อยกว่าเขาเกือบครึ่ง จนทำให้หญิงสาวต้องร้องเรียกเมื่อเห็นว่ากำลังจะโดนทิ้งไว้เบื้องหลัง
?จาคอบ ลุงจาคอบคะ เดินช้าๆ หน่อย รอเพลงด้วย?
?ขอโทษๆ ลุงมัวแต่ดีใจที่จะได้เจอมิสเตอร์บาเลนไทน์ กลัวจะไปไม่ทันนัด? คำพูดของพูดเป็นลุงทำให้พัทธมนย่นจมูกเล็กน้อยแล้วเดินก้าวเท้าเร็วขึ้นอีกหน่อย เมื่อจาคอบหยุดรอเธอพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ประดับบนใบหน้าเหี่ยวย่น ปกติท่านยิ้มน้อยครั้งมากจนนับได้ แต่ชื่อของมิสเตอร์บาเลนไทน์กลับทำให้จาคอบอารมณ์ดีจนยิ้มได้ทั้งวัน นั่นทำให้หลานสาวอย่างเธอนึกแปลกใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เสียงใสเอ่ยเย้าแหย่จาคอบถึงความเป็นนักโบราณคดีที่รักในอาชีพของตน รักการผจญภัยและสำรวจสิ่งใหม่ๆ เรียกได้ว่าเป็นชีวิตของผู้เป็นลุงเลยทีเดียว
?นึกว่าลุงดีใจเพราะเราจะได้สำรวจวิหารแห่งอพอลโลอีกหน แต่ที่นั่นก็แทบจะไม่เหลืออะไรให้ขุดค้นแล้วนี่คะ ตั้งแต่นักสำรวจเจอที่นั่นตั้งแต่ปี ค.ศ.1902 ก่อนเพลงเกิดเสียอีก ก็แทบจะไม่มีอะไรเป็นความลับอีกแล้วนี่คะจาคอบ?
?หึๆ ลุงอยากจะลองตามหาเทพพยากรณ์แห่งเดลฟีต่างหากล่ะ ไม่รู้ว่าจะยังมีไพธีอาเหลืออยู่บ้างไหมนะ ยุคนี้แล้ว? จาคอบเอ่ยติดตลกอย่างที่รู้กันว่าเดลฟีของกรีซเป็นเมืองแห่งมรดกโลกมีสถานที่สำคัญๆ อย่างมหาวิหารแห่งอพอลโลสถานที่เก่าแก่ยิ่งใหญ่และตระการตาจากศิลปะอันงดงามในยุคกรีกโรมัน สร้างขึ้นจากตำนานความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเทพเจ้าเทพอพอลโลหรือเทพแห่งแสงอาทิตย์ ตามตำนานกล่าวว่าอพอลโลเป็นบุตรแห่งซุส มหาเทพของโอลิมปัสเทพแห่งการทำนายการสัจจะการรักษาและการดนตรี เป็นบุตรชายคนโตของเทพซุสและลีโต เนื่องจากอพอลโลเป็นเทพแห่งการทำนายนี่เองจึงมีการเกิดตำนานของเทพพยากรณ์แห่งเดลฟี หญิงใดที่ได้รับเลือกว่าเป็นไพธีอาจะคอยมาทำนายทายทักให้กับผู้คน คำพยากรณ์จากไพธีอาเป็นคำพยากรณ์ที่ต้องถอดความเพราะเป็นคำพยากรณ์ที่ไม่ระบุชัดเจาะจง
นอกเหนือจากเทพอพลอโลแล้วก็ยังมีเทพฝาแฝดอีกหนึ่งองค์คือเทพีอาร์เทมิส นางเป็นเทพีแห่งแสงจันทร์และเทพีแห่งการล่าสัตว์ วิหารที่เดลฟีนี้มีเพียงวิหารของเทพฝาแฝดผู้พี่ ส่วนวิหารของพระนางที่มีชื่อเสียงนั้นคือวิหารอาร์เทมิสในเมืองอีเฟซุส ประเทศตุรกี ตำนานของเทพทั้งสองมีความมหัศจรรย์และมีบทบาทอย่างมาก
ในตำนานเทพกรีกจึงมีคนนับถือมากมาย มีวิหารของเทพทั้งสองกระจายอยู่เกือบทั่วแถบภูมิภาคนี้เลยทีเดียว บางแห่งก็พังทลายไปแล้วตามระยะเวลา แต่บางแห่งก็ยังสวยงามบ่งบอกถึงพลังแห่งความศรัทธาของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดศิลปะอันยิ่งใหญ่ตระการตาและงดงามแม้เวลาจะล่วงเลยไปนานนับพันปี
?ถ้ายังมีเหลืออยู่จริงๆ เพลงจะถามเรื่องเนื้อคู่ของเราสองคนล่ะค่ะจาคอบ? พัทธมนเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะเนื่องจากทั้งเธอและจาคอบยังครองสถานะโสดด้วยกันทั้งคู่
?ของเพลงน่ะคงจะมีอยู่หรอกลูก...เนื้อคู่น่ะ ลุงทำนายให้แทนไพธีอาเลยก็ได้? จาคอบว่ายิ้มๆ ก่อนจะมองใบหน้าเรียวสวยของหลานสาวอย่างพินิจ พันธมนหลานสาวของเขาคนนี้ไม่ใช่คนหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เลยแม้แต่น้อย แถมยังมีดีกรีความสามารถที่พ่วงมาอีกมากมาย มันทำให้เจ้าตัวกลายเป็นหญิงสาวที่มีพร้อมไปทุกด้านเสียมากกว่า ทั้งสวยเก่งและฉลาดครบครันไปหมดแบบนี้ แล้วทำไมกันนะไอ้หมอนั่นถึงกล้าทิ้งพัทธมนไปแต่งงานกับดาราสาวไฮโซฯ สวยรวยแต่ไร้สมองไปเสียได้ จาคอบคิดอย่างนึกโมโหแทนหลานสาวเมื่อนึกถึงเรื่องแย่ๆ ล่าสุดของพันธมน ที่ทำให้เธอซึมเศร้าไปพักหนึ่งเลยทีเดียว
นัยน์ตาของคนสูงวัยกว่าลอบมองเสี้ยวหน้าหวานแอร่มยามหยุดซื้อน้ำด้วยกันที่ร้านขายน้ำริมทาง ใบหน้าเรียวยาวรูปไข่คิ้วโก่งเรียว นัยน์ตาโตหวานมีชีวิตชีวาซ่อนตัวอยู่หลังกรอบแว่น จมูกโด่งปลายรั้นเชิดแก้มใสแดงก่ำเพราะแดดร้อน ริมฝีปากแดงเรื่อแบบไม่ต้องพึ่งพาลิปสติก เรือนผมดำมันถูกรวบเป็นมวยไว้หลวมๆ ด้านหลัง ร่างบางอยู่ในชุดติดกันง่ายๆ สีครีมแขนกุด กางเกงยาวห้าส่วน และรองเท้าผ้าใบ มีกล้องคู่ใจคล้องอยู่ที่คอพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เรือนร่างเล็กบางของพันธมนทำให้เจ้าหล่อนดูเหมือนสาวน้อยวัยยี่สิบนิดๆ ยังไม่พ้นรั้วมหาวิทยาลัย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเจ้าหล่อนอายุสามสิบปีเต็ม ควบปริญญาถึงสองสาขาวิชา ตอนนี้เป็นนักวิชาการด้านโบราณคดีผู้ช่วยของเขา และเขียนบทความให้กับหนังสือเกี่ยวกับเรื่องโบราณคดีอีกด้วย
หลานสาวของเขาเป็นหลานกำพร้าที่จาคอบเอามาชุบเลี้ยงด้วยความเอ็นดูและสงสารตั้งแต่เจ้าตัวอายุได้สิบขวบ เด็กหญิงพัทธมนไม่ใช่คนขลาดกลัวแม้จะต้องพลัดจากบ้านเกิดเมืองนอนตั้งแต่ยังเด็กมาอยู่ใต้การอุปการะของลุงที่เป็นคนลูกครึ่งต่างชาติ ซึ่งเธอเพิ่งจะเคยเห็นหน้าในงานศพของพ่อและแม่ แต่เธอก็ตามจาคอบไปต้อยๆ เมื่อเขาให้ล่ามบอกว่าต้องการจะอุปการะส่งเสียให้เรียนต่อ ประโยคแรกที่เจ้าหล่อนพูดกับเขานั่นก็คือ
?หนูอยากตามลุงคนนี้ไปเพราะลุงยิ้มสวยดีค่ะ?
เด็กหนอเด็ก...เมื่อคิดถึงวันวานแล้วจาคอบก็อดยิ้มไม่ได้ เด็กหญิงพัทธมนเติบโตขึ้นยิ่งทำให้เขาปลาบปลื้มและมีความสุข เจ้าหล่อนเป็นเด็กดีซึ่งนำความภาคภูมิใจมาให้เขาได้ไม่ขาด เธอเลือกเดินตามรอยเขาด้วยการเป็นนักโบราณคดีเหมือนกับจาคอบ สองลุงหลานหลงรักในอารยะธรรมเก่าแก่ ตื่นเต้นเมื่อยามได้สืบค้นเสาะหาเมืองที่หายสาบสูญ มีความสุขยามได้ค้นพบซากแห่งความเจริญในอดีต
?ไม่เอาดีกว่าค่ะ เบื่อแล้ว เข็ดแล้วด้วย? เจ้าหล่อนว่า เสียงตอนท้ายเผลอทอดอ่อนเล็กน้อย บ่งบอกได้ดีว่าเจ้าตัวยังมีตะกอนความเศร้าอยู่ในหัวใจ เป็นใครก็คงจะยังหัวใจกลัดหนอง เมื่อคนที่คบหามาสิบปีเต็มจนถึงขั้นหมั้นหมาย กลับกลายไปแต่งงานกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ด้วยเหตุผลข้อที่ว่าไลฟ์สไตส์ของเขาและเธอมันไปคนละทาง
ใบหน้าคมเข้มของบุรุษหนุ่มคนหนึ่งวาบขึ้นมาในห้วงนึก ทำให้พันธมนเผลอบีบแก้วน้ำพลาสติกที่ดื่มอยู่แรงขึ้นจนเสียงดังกร๊อบ เธอจึงคลายน้ำหนักมือลงขณะที่เดินตามผู้เป็นลุง ซึ่งกำลังรับโทรศัพท์อยู่และไม่ได้สนใจเธอ จาคอบห่วงเธอมากเมื่อทราบเรื่องของเธอและเฟรดเดอริก เขาแทบจะไม่ปล่อยหลานสาวให้คลาดสายตา ชวนทำโน่นทำนี่ตลอดเพื่อไม่ให้พัทธมนมีเวลาว่างไปคิดเรื่องผู้ชายที่ทำร้ายหัวใจเธอจนยับเยิน
จะว่าเศร้าไหม เสียใจไหม พัทธมนก็ตอบตัวเองได้ว่ามันเกินความรู้สึกพวกนั้นไปแล้ว เธอช็อกเมื่อเขาบอกเลิกและยื่นการ์ดแต่งงานให้ แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลจากปากของเฟรดเดอริกแล้วก็พลันหูตาสว่าง นึกอยากจะเขกหัวตัวเองที่ไปหลงรักคนแบบนี้ได้เป็นหลายปีดีดัก แต่จะอย่างไรความผูกพันมันก็ทำให้เธอเศร้าเสียใจบ้าง เพียงแค่ไม่ได้พร่ำเพ้อหรือตีอกชกหัวตัวเอง ไม่ได้ถึงขั้นขาดสติ รับไม่ได้เมื่อต้องสูญเสียความรักที่บ่มเพาะมายาวนานถึงสิบปีเต็มก็เท่านั้นเอง
?เราเข้ากันไม่ได้หรอกนะแพท คุณไม่มีเวลาให้ผมเลย คุณเย็นชามากเกินไป แม้กระทั่งจูบเราก็เคยจูบกันแค่หนสองหนเองกระมัง คุณน่ะมันบ้างานแล้วก็เคร่งประเพณีตะวันออกของคุณเกินไป ไม่ไหวหรอกนะแพท ถ้าเกิดแต่งงานกันไปแล้วเรื่องเซ็กส์เราเข้ากันไม่ได้ล่ะแล้วไหนจะเรื่องเวลาที่คุณเอาไปทุ่มกับงานของคุณอีก ผมว่านะ คุณดูจะรักพวกหม้อไหจานแตกพวกนั้นยิ่งกว่ารักผมเสียอีก?
เฮ้อ....ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวใจ ข้อที่ว่าเธอไปรักเขาได้ยังไงกันนะ ผู้ชายที่ไม่เคยเข้าใจเธอเลยสักนิด เธอหวงตัวไม่ยอมปล่อยใจไปกับอารมณ์เร่าร้อนก่อนเวลาอันสมควรนี่มันผิดหรือยังไงกันนะ แม้จะมาอยู่ในประเพณีวัฒนธรรมตะวันตกตั้งแต่เล็กแต่น้อย ที่มองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมดาๆ เหมือนกับการหาความสุขให้กับร่างกายของตนเองเสียด้วยซ้ำ แต่พัทธมนเองก็ไม่คิดจะริลองหรือปล่อยใจให้คล้อยตามอารมณ์ใคร่วาบหวามนั่น เพราะเธออยากจะให้เจ้าบ่าวภาคภูมิใจในตัวเธอ การเป็นสาวเว่อร์จิ้นนี่มันเป็นความผิดร้ายแรงนักหรือยังไงกัน เธออยากจะให้อารมณ์รักบ่มเพาะถึงขั้นสุกงอมก่อนจะมอบกายมอบใจให้คนผู้นั้น
ก็คือว่าเฟรดเดอริกบุญไม่ถึงของดีๆ อย่างเธอก็เท่านั้น ใบหน้างามเชิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เธอจะถือความบริสุทธิ์ต่อไปนี่แหละ ใครจะทำไม แม้จะขึ้นชื่อว่าโดนผู้ชายทิ้ง แต่พัทธมนก็ไม่คิดจะรีบเสาะหาความรักหนใหม่มาแทนที่อีกแล้ว เรียกว่าเข็ดเลยก็ว่าได้ เธอขอรักหม้อรักไหรักแจกันผุๆ สมัยสงครามศาสนา ขอรักเหรียญเงินเก่าๆ ในสมัยยุคนโปเลียนดีกว่ารักผู้ชายแย่ๆ เสียอีก
?ไว้ลุงจะแนะนำคนดีๆ ให้ ให้ดียิ่งกว่าไอ้บ้านั่นอีก? จาคอบว่าพลางตบบ่าหลานสาวหนักๆ ดังป๊าบตามประสาคนมือหนัก เล่นเอาพัทธมนถึงกับเซ เธอส่ายหน้าแล้วทำหน้าทะเล้นเลยทันที
?ไม่เอาหรอกค่ะ ไม่ต้องแนะนำใครให้เพลงหรอกค่ะ เอ...แต่ว่าถ้าจะให้ดีกว่าเฟรดเดอริก อืม...เพลงขอแบบมิสเตอร์บาเลนไทน์ของลุงจาคอบได้ไหมค่ะ เพราะว่ารวยมากแล้วก็ได้ข่าวมาจากเลขาฯ ของลุงว่าหล่อมาก หล่อจนเห็นแล้วแทบจะเป็นลม เพลงอยากลองเจอหน้าดูสักหนเหมือนกันล่ะค่ะว่าแซนดี้น่ะเว่อร์ไปเองหรือเปล่า?
จาคอบหัวเราะเบาๆ เมื่อผลักประตูร้านที่นัดหมายกับวิลเลียม ฟ็อกซ์ บาเลนไทน์เข้าไปด้านใน ก่อนจะหันมายิ้มน้อยๆ ให้กับหลานสาวคนสวย
?ต้องคอยดูเอาเองนะเพลง ว่าจะหล่อจนแทบจะเป็นลมจริงๆ อย่างที่แซนดี้ว่าหรือเปล่า แต่กับผู้ชายคนนี้ลุงบอกได้คำเดียวว่าอย่าไปทำเล่นๆ ด้วย เพราะหมอเป็นตัวอันตรายเรียกว่าระดับวายร้ายเลยล่ะ?
...................................................................................................................................................................
ร่างสูงที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงกว้างเปลือยเปล่าและงดงามราวกับเทพเจ้า เขากำลังอยู่ในนิทราอันลึกล้ำและแสนสุข ข้างกายมีหญิงสาวผมดำยาวสยายนอนหนุนแขนเขาอยู่ เจ้าหล่อนมีรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าราวกับกำลังตกอยู่ในห้วงความฝันอันแสนจะมีความสุขอย่างล้นเหลือ สองร่างเปลือยเปล่ากกกอดกันหลังจากที่มีค่ำคืนอันแสนจะเร่าร้อนด้วยกันมา
เสียงโทรศัพท์มือถือกรีดดังขึ้นแล้วก็ดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเจ้าของโทรศัพท์ไม่ยอมรับสายเสียที ชายหนุ่มเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์มือถืออย่างงัวเงียและหงุดหงิด เมื่อคืนนี้กว่าจะได้นอนก็เกือบสว่าง นานๆ ครั้งจะเจอคู่นอนที่มีความเร่าร้อนและถึงใจขนาดนี้ เมื่อคว้าเจอต้นเหตุแห่งเสียงก่อกวนการนอน ชายหนุ่มก็ปามันไปสุดแรง โทรศัพท์หล่นลงในซอกโซฟาซึ่งตั้งอยู่มุมห้อง เงียบเสียงไปเลยทันที
หญิงสาวที่เอนซบอยู่บนอกเปลือยแกร่งรู้สึกตัวตื่นเพราะเสียงบาดหูนั่น เธอปรือตาขึ้นมามองชายหนุ่มผู้หล่อเหลาและสุดแสนจะเร่าร้อน ที่ทำให้เธอเพลียแทบตายเมื่อคืนนี้ หลังจากไปท่องสวรรค์กันรอบแล้วรอบเล่า เขาช่างหล่อเหลาเปี่ยมพลังและเชี่ยวชาญอย่างเหลือร้ายจนแทบจะขาดใจเลยทีเดียว
?ไม่รับสายหรือคะ? มือเรียวไต่ไปตามอกกว้างแล้วเขี่ยยอดอกสีเข้มของชายหนุ่มเล่น กล้ามเนื้อของเขาตึงแน่นบึกบึนไปเสียทุกส่วน แองเจล่าไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนยอดเยี่ยมเท่าเขามาก่อน นัยน์ตากลมหวานหรี่ปรือเหลือบมองไปยังใบหน้าเรียวได้รูปของชายหนุ่มผู้ให้ความสุขสุดหฤหรรษ์กับเธอมาตลอดทั้งคืน
คิ้วเข้มได้รูป จมูกโด่งเรียวสวย ริมฝีปากสีเรื่อ สันกรามแข็งแรง มีไรเคราขึ้นเขียวครึ้ม ผมสีดำสนิทตอนนี้ยุ่งเหยิงเล็กน้อย เขายังคงหลับตาพริ้มเหมือนกับยังไม่อยากจะลืมตาขึ้นมาง่ายๆ แองเจล่าจำสีของนัยน์ตาคู่สวยนั้นได้ดี มันเป็นสีน้ำเงินเข้มจัดจนเกือบดำ ดูมีมนตราน่าหลงใหลอย่างประหลาดนัก
?ช่างมันเถอะครับ อยากนอนมากกว่า? ริมฝีปากได้รูปเอ่ยยิ้มๆ ทั้งที่เขายังคงหลับตา แองเจล่าหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะจูบไล้ไปตามผิวเนื้อแกร่งกรุ่นกลิ่นหอมอ่อนๆของฝ่ายชายอย่างอดใจไม่ไหว ทั้งที่ร่างกายของเธอผ่านเกมรักมาอย่างหนักหน่วงจนแทบจะลุกไม่ไหวอยู่แล้วตอนนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเพียงแค่เห็นเขาก็ราวกับถูกเสน่ห์อารมณ์ดำกฤษณาเข้าครอบงำ ทำให้เธอต้องตื่นตัวและฉ่ำชื้นพร้อมพรักกับการเล่นเกมรักอีกหน
?อย่าน่าทูนหัว ถ้าผมตื่นแล้วคุณจะไม่ไหวเอานะครับ? เสียงทุ้มเอ่ยปรามเมื่อมือนิ่มกำลังลูบไล้ต่ำไปยังหน้าท้องสอบแน่นแข็งแรงของเขา แองเจล่าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะค่อยเคลื่อนร่างนุ่มขึ้นเกยบนร่างหนาแข็งแกร่ง เขากอดรัดเธอตอบพลางลืมตาขึ้นมองสบกับนัยน์ตาเร่าร้อนของฝ่ายหญิงยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก ใบหน้าคมสันนั้นหล่อเหลาเกินต้านทานเสียจริงๆ แองเจล่ายิ้มหวานยั่วเขาพลางเอ่ยเสียงกระซิบกระเส่าขณะที่เบียดทรวงอกคู่งามเสียดสีกับอกเปลือยอย่างยั่วเย้า
?รู้ได้ยังไงคะว่าจะไม่ไหว ต้องลองนะคะพ่อหมาจิ้งจอกรูปหล่อ? มือหนากดใบหน้างามยั่วใจนั่นลงมาพลางบดเบียดริมฝีปากได้รูปเข้าหาริมฝีปากอิ่มเต็มก่อนจะดูดกลืนความหวาน ปลายลิ้นเกี่ยวรัดพันกันเพิ่มความรู้สึกร้อนคลั่งด้วยไฟสวาทให้เริ่มโหมกระหน่ำทะยานขึ้นทีละน้อย
ออด....ออด....
เสียงกดออดยาวๆ ทำเอาฟ็อกซ์ถึงกับสะดุ้งสุดตัว เขาละมือจากแม่สาวหุ่นสะบึมแสนยั่วใจตรงหน้า แล้วดึงเอาผ้าห่มผืนบางที่อยู่ใกล้ๆ มาพันเอวลวกๆ ก่อนจะเดินไปยังประตูหน้าห้องพักอย่างเสียอารมณ์ เมื่อถูกขัดจังหวะเวลาแห่งความสุขสมเข้าแบบนี้
?ใครวะ!? มือหนาเปิดกระชากประตูออกพร้อมกับตั้งใจจะหาเรื่องแขกผู้มาเยือนเต็มที่ เพราะไม่รู้เวล่ำเวลาเลยจริงๆ แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใครยืนเท้าเอวมองเขาแบบหัวจรดเท้าอยู่ ฟ็อกซ์ก็ยิ้มแหยไปเลยทันที แล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง
?เอ่อ...คามิล่า น้องมาทำไมที่นี่? หญิงสาวร่างเพรียวนัยน์ตาสีเทาสวย มองผู้เป็นเจ้าของห้องด้วยนัยน์ตาวับๆอย่างไม่พอใจ ก่อนจะมองลงต่ำไปยังผ้าที่พันอยู่อย่างหมิ่นเหม่ แล้วส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นพี่ชายเข้า มิน่าเล่าเธอโทรศัพท์มา อีกฝ่ายถึงไม่ยอมรับสักที มัวแต่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะอยู่นี่เอง
?ให้ตายเถอะฟ็อกซ์ พี่ทำบ้าอะไรอยู่! ลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าวันนี้พี่มีนัดกับมิสเตอร์จาคอบ แล้วอะไรกัน ป่านนี้พี่ยังไม่ไปที่เดลฟีอีก มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับอะไร หา อีตาบ้า! ถ้างานเสียหนนี้ล่ะก็ น้องจะให้พี่ชายเล่นงานให้เข็ดเลย?
?ตายโหง!? ชายหนุ่มรูปงามถึงกับทำตาโต สบถออกมาเมื่อคิดได้ว่าตนเองกำลังพลาดอะไรไป เขานัดจาคอบนักโบราณคดีด้วยตัวเองแท้ๆ แต่กลับจะผิดนัดเสียเอง มือหนาคว้าหมับเข้าที่แขนของน้องสาวแล้วลากเจ้าหล่อนเข้าไปในห้อง ทำให้คามิล่าถึงกับร้องอุทานอย่างตกใจ
?ช่วยจัดการในห้องให้พี่ทีคามิล่า พี่ต้องรีบไปเดลฟีด่วนแล้ว โอย...จะไปยังไงให้ทันดีวะเนี่ย กี่โมงกี่ยามกันเข้าไปแล้ว จะทันไหมวะ? ร่างสูงวิ่งพรวดเข้าไปในห้องอีกห้องหนึ่งทันที ผู้เป็นน้องสาวส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะบ่นพึมพำ เธอระอาพฤติกรรมของพี่ชายคนรองเสียจริงๆ สิน่า
ให้ตายเถอะ! น่าจะให้วูฟจัดการเสียจริงๆ เหลวไหลได้ขนาดนี้ ถ้าจะมาอ้างเรื่องใกล้คืนพระจันทร์เพ็ญเลยต้องทำตัวเหลวไหลก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าอีกตั้งสิบวันกว่าจะพระจันทร์เต็มดวง
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องที่เปิดทิ้งไว้ แล้วก็เป็นไปตามคาด สาวงามรายหนึ่งนอนอยู่บนเตียงของพี่ชายเธอ มันเป็นภาพที่เห็นจนเจนตาเสียแล้ว คามิล่ายิ้มบางๆ ให้กับอีกฝ่าย ที่เมื่อเห็นหน้าเธอเข้าก็หน้าซีดเผือดเลยทันทีเพราะความตกใจ
?เอ่อ...คือว่า...?
?ฟ็อกซ์มีธุระด่วนน่ะค่ะ คงจะมาอยู่สนุกต่อกับคุณไม่ได้? เสียงหวานเอ่ยเรียบๆ ก่อนจะดึงเอากระเป๋าเงินออกมาแล้วนับธนบัตรพลางยื่นส่งให้กับแองเจล่า อีกฝ่ายทำตาโตเลยทันทีเมื่อเห็นจำนวนความหนาของธนบัตรที่คามิล่ายื่นให้
?นี่ค่ะ ค่าแท็กซี่?
?ฉันไม่ได้ขายตัวย่ะ? ปากว่าดังนั้นแต่มือก็คว้าเงินหมับเลยทีเดียว แองเจล่าดึงเอาผ้ามาพันกายแล้วมองคามิล่าด้วยสายตาโกรธขึ้ง รีบคว้าเอาเสื้อผ้าของตนเองเดินเร็วๆ เข้าไปในห้องน้ำ คงจะอยู่ต่อไปอีกไม่ได้แล้วเจ้าของห้องมาแล้วแบบนี้ โอย...ทำไมจะต้องมีเจ้าของแล้วนะพ่อเทพบุตรสุดร้อนของฉัน
?ตาฟ็อกซ์นะ ตาฟ็อกซ์ หื่นกามจนงานเสีย เห็นทีจะต้องเลื่อนนัดมิสเตอร์จาคอบเสียแล้ว? คามิล่าบ่นกับตนเองเบาๆแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขของคู่นัดหมาย หวังว่าฝ่ายนั้นคงจะให้อภัยในความเหลวไหลของพี่ชายเธอนะ เพราะจาคอบ สโตนเหมือนจะเป็นความหวังเดียวในการมอบของขวัญให้กับพี่ชายคนโตของตระกูลบาเลนไทน์
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การเป็นเพลย์บอยมาหลายศตวรรษไม่เคยทำให้วิลเลียม บาร์เลนไทน์เบื่อหน่ายสักหน ชายหนุ่มรูปงามเช่นเขามักจะมีสาวสวยรุมล้อมอยู่เสมอไม่เคยขาด แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็พัดพาให้เขามาพบเจอกับรักแท้หนึ่งเดียวที่รอคอย พัทธมนสาวโบราณคดีคือผู้โชคดีที่ครอบครองใจทั้งดวงของหมาป่าตัวร้ายเช่นเขา ทั้งสองได้ออกเดินทางเพื่อตามหาสิ่งวิเศษที่จะช่วยถอนคำสาปนับหลายร้อยปี การเดินทางครั้งนี้เพื่อไม่ใช่แค่ค้นหาพิณรัตติกาลเท่านั้นทว่ายังค้นพบละอองแห่งรักที่ซ่อนอยู่ สัมผัสอันอ่อนโยนหากแต่เร่าร้อนทำให้พัทธมนและไลแคนหนุ่มต่างเคลิบเคลิ้มหลงใหล แม้พระจันทร์จักเต็มดวงแล้วหมาป่านักรักออกล่าสวาทหรือไข้แสงจันทร์จะระบาดเพียงใด พัทธมนก็ยอมพลีกายมอบหัวใจให้แก่เขาแล้วเสียสิ้นเมื่อวิลเลียมซื่อสัตย์กับเธอตราบนิรันดร์
