New Release ร้อยรัก : รอยรัก...รอยแค้น

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก : รอยรัก...รอยแค้น

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1
ดวงตาคมกลมโตได้รูปสวย มองลอดแผงขนตางอนยาวและหนาที่ส่งให้รูปตางามซึ้งจนแทบไม่ต้องใช้เส้นดินสอแต่ง เคลื่อนตามร่างสูงเปรียวในสูทสีเข้มของหนุ่มรูปหล่อเนื้อหอม ของสังคมกรุงเทพฯ วันนี้ไปอย่างสนใจ...หมายมาด
หล่อนมองเขาอยู่นานแล้ว...
อาทิตยายกแก้วเครื่องดื่มของโปรดขึ้นจิบขณะที่เขาหยุดที่เคาน์เตอร์อยู่ชั่วครู่...ก่อนจะเดินเลยไปที่โต๊ะที่นั่งประจำ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหล่อน...
เรียกได้ว่าเขาจะต้องเห็นหล่อน ถ้าใช้สายตากวาดไปเรื่อยๆ รอบๆ อย่างที่เคยทำประจำ...
แน่นอน...หล่อนรู้ว่าเขาจะมาที่นี่เมื่อไหร่...เวลาไหน...นั่งตรงไหน...และมองไปรอบๆ เหมือนจะหาใคร...เท่านั้น
เมื่อคืนที่แล้ว และคืนก่อนๆ...เขาได้ผู้หญิงกลับไปด้วยคืนละคนไม่ซ้ำหน้า...
ส่วนคืนนี้...ผู้หญิงที่จะออกไปกับเขาต้องเป็นหล่อน...
หญิงสาวเลียริมฝีปากอย่างตั้งใจ...พร้อมกับขยับเท้าบางที่ห่อด้วยถุงน่องเนื้อแพรอย่างดี ออกจากรองเท้าวางลงบนพื้นพรมหนานุ่ม
กิริยาของหล่อนเป็นไปโดยธรรมชาติผู้หญิงโดยแท้ที่กำลังตั้งใจจะเรียกร้องความสนใจจากชายที่หล่อนต้องการ
ภูวดลมองช่วงขาเรียวที่พ้นรอยแหวกถึงโคนขาของกระโปรงรัดรูปตัวนั้นลงมาอย่างสนใจ...แล้วก็ค่อยๆ มองย้อนขึ้นไปช้าๆ ผ่านช่วงสะโพกกลมกลึง...เอวคอดเล็ก...ผ่านทรวงอกอวบกำลังสวย...ขึ้นไปจนถึงช่วงคอระหง...และใบหน้าหวานละมุน...
ริมฝีปากได้รูปอิ่ม...บอกให้รู้ว่าคงนุ่ม...และหวานน่าดูนั้นเรียกสายตาของเขาได้จดจ่ออยู่นานกว่าเพื่อน...
แล้วทายาทคนเล็กของตระกูลวิษณุวัฒน์ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งตรงมาหาหล่อน...
ดวงตาวาวหวานที่ทอดมาสบกับตาสีเข้มพราวพรายนั้นเปรียบได้กับคำเชื้อเชิญที่น่ายินดีสำหรับเขา...
หล่อนไม่ปฏิเสธเครื่องดื่มแก้วใหม่ที่เขาสั่งให้แถมยังส่งยิ้มหวานมาพร้อมกับคำขอบคุณ...
หลังจากนั้นอีกสิบนาทีต่อมา เขากับหล่อนก็ลอยไปมาอยู่ด้วยกันกลางฟลอร์เต้นรำที่มีไฟสลัวราง...และเพลงหวานแผ่วๆ...
มันง่ายเหมือนอย่างที่คิด...อาทิตยาซ่อนหน้าตัวเองไว้กับอกกว้างที่ตึงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อนั้น...
สัมผัสจากเนื้อตัวเขาบอกหล่อนว่าภูวดลไม่ได้สำอางและเพลย์บอยอย่างที่คิด...
ร่างกายของเขาเหมือนนักกีฬาที่ผ่านการฝึก...และออกกำลังมาอย่างดีและสม่ำเสมอ...ไม่ได้กำยำอย่างนักกล้าม แต่แข็งแรงในแบบของชายชาตรีครบถ้วน...
ลักษณะกรุ้มกริ่ม เจ้าชู้แพรวพราวตามที่เห็นในระยะไกล...ดูเอาจริงและไม่แหยอย่างที่คาดในระยะใกล้...
หญิงสาวเปลี่ยนความคิดที่จะรุกในตอนแรก มาเป็นฝ่ายรับอย่างค่อนข้างระวังตัวเพิ่มขึ้น...เพราะท่าทางภูวดล วิษณุวัฒน์ ดูจะไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิดเสียแล้ว
ก็ใช่อีกนั่นแหละ...ไม่งั้นเขาจะเป็นพวกวิษณุวัฒน์ได้ยังไง...
ริมฝีกปากได้รูปดูจะไม่ยอมไปไกลจากขมับ และแก้มเนียนของหล่อน...
ร่างโปร่งบางสมส่วนถูกรวบกระชับอกกว้าง และอ้อมแขนนั้นทีละน้อยจะหล่อนแทบไม่รู้ตัว...
เพลงแล้วเพลงเล่าที่หล่อนกับเขาลอยไปด้วยกันอย่างไม่มีทีท่าว่าใครจะยอมผละห่างก่อน...
?ไปต่อกันที่ไหนดี...?
เขาถามกับใบหูเล็กๆ ได้กลิ่นน้ำหอมอย่างดีคุ้นจมูกเจือจาง
ดูท่าทาง...และแสดงออกของหล่อนชัดๆ กันจนน่าแปลกใจ...
หล่อนเหมือนผู้หญิงสาวและไม่สาวทุกคนที่เขาเคยผ่าน...สมัครใจ...และพอใจกันและกันเป็นส่วนตัว...
แต่อาการสะดุดเหมือนจะโดดหนีถ้าเขาเข้าใกล้มากกว่านั้น ทำเอาเขาชะงักงันหลายๆ ครั้ง...
หล่อนมีอาการเหมือนคนเคย และไม่เคยไปพร้อมๆ กันอย่างน่าฉงนสนเท่ห์...
ผู้หญิงอีกแบบล่ะมัง...ภูวดลคิดง่ายๆ...
เดี๋ยวก็รู้ว่าหล่อนน่ะ...แบบไหน...เขาคิดเมื่อนึกถึงเตียงกว้างกับตัวหล่อน...
ใช่...เดี๋ยวก็รู้...อาทิตยายิ้มหวาน เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาที่ก้มลงมาใกล้แค่คืบ...ก่อนเบนหน้าหนีอย่างรู้ทัน...
?ตามใจคุณซิคะ...?
ครู่ใหญ่...เขาและหล่อนก็เดินจูงมือกันออกมาจากเมมเบอร์คลับแห่งหนึ่ง...
?ไปทางนี้ดีกว่าค่ะ...ฉันรู้จักที่ดีๆ อยู่แห่งหนึ่ง...?
หล่อนเอ่ยปากเมื่อปล่อยให้รถออกมาไกลพอควร...
?ตรงไปนะคะ...ตรงไปก่อน...?
เขาคุมพวงมาลัยไปตามคำบอกของหล่อนเรื่อยๆ นานๆ ก็หันมาชำเลืองมองหน้าหวานๆ ใกล้ๆ เสียที...
บอกตนเองไม่ถูกว่าทำไมรู้สึกเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้กับหล่อน...
ผมสีน้ำตาลเข้มที่กระจายเป็นพวงเต็มหลังเหมือนเส้นไหม ขณะนี้พาดมารวมกันอยู่ข้างซอกคอด้านหนึ่ง...
ภูวดลมีความรู้สึกอยากจะหยุดรถลงจูบหล่อนสักครั้ง...
อาทิตยาเท้าแขนกับพนักพิง...เบี่ยงตัวหันหลังให้ประตูรถขณะกวาดตาสำรวจเขาตรงๆ ชั่งครู่ก็เลื่อนนิ้วมือยาวเรียวไปสัมผัสคางเหลี่ยมเป็นสันนั้น...
ดวงตาของชายหนุ่มที่ชำเลืองมาสบด้วยกะพริบนิดหนึ่ง เหมือนไม่แน่ใจประกายตาจัดจ้าราวอาฆาตที่เขาเห็นผ่านไปสักครู่...
?คุณนี่ รูปงามสมคำชมของใครต่อใครเชียวนะคะ?
ภูวดลยิ้มขณะปรายตามองหล่อน...
?ผมอยากให้คุณชอบมากกว่าชม...?
เขาว่า...
?ชอบสิคะ...ชอบมาก...มากทีเดียวแหละ...?
หล่อนย้ำขณะที่เขี่ยปลายนิ้วกับใบหูเขา เล่นเอาชายหนุ่มคว้ามือบางนั้นไว้ด้วยมือหนึ่งคุมพวงมาลัยหนึ่งอย่างเชื่อตนเอง...
กดจุมพิตลงกลางใจมือหล่อนหนักๆ อย่างพอใจลึกๆ...
?เลี้ยวซ้ายค่ะ...?
หล่อนบอก...เขาเลิกคิ้วสูง...
?บ้านฉัน...?
หล่อนอธิบายให้เขาคลายสงสัย...
ชั่วครู่รถก็จอดลงหน้าประตูเหล็กบานใหญ่...
?กดแตรสองครั้งค่ะ...?
ภูวดลทำตามที่หล่อนบอก ชั่วครู่ประตูก็เลื่อนออกจากกัน...
เงาคนที่วูบผ่านหางตาไปทำให้หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ก่อนจะหันมามองหล่อน...
อาทิตยายิ้มหวานขณะที่ยกมือขึ้นพร้อมกับวัตถุชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าจะบังคับให้เขาตอบรับได้แทนคำปฏิเสธ...ไม่ว่าจะพอใจหรือไม่พอใจ
?ลงไปซิคะคนดี...?
หล่อนพูดเพราะ...ยิ้มแย้ม...แต่เย็นชาเท่านั้นที่เย็นชาผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ...
?บอกให้ลงไปได้ยินไหม...?
หล่อนสั่งพร้อมกับสอดนิ้วเข้าโกร่งไกปืนที่ถืออยู่
?อย่าดื้อซิคะ...ฉันไม่อยากฆ่าคุณเท่าไหร่...?
ภูวดลยื่นมือไปดึงล็อกประตูแล้ววินาทีเดียวกันนั้นประตูรถก็ถูกกระชากออกโดยแรงด้วยมือบุคคลภายนอก...
ร่างสูงถูกกระชากออกไปตามกันขณะที่หญิงสาวขยับตัวเองออกจากรถ
ภูวดลเผชิญหน้ากับผู้ชายร่างสูงเกือบเท่าเขา...แต่มีวัยสูงกว่าอย่างน้อยรอบหนึ่งเต็มๆ
?นี่ไงคะลุงหมิง...นายภูวดล วิษณุวัฒน์ที่เราต้องการ...?
ชายหนุ่มหันมามองหล่อนเต็มตาชั่วครู่ก่อนจะหรี่ตาลง...เก็บความรู้สึกและท่าทีทั้งมวลไว้ด้วยความต้องการจะรู้ว่าคนเหล่านี้เอาตัวเขามาทำไม...และเป็นใคร...
กุญแจมือแบบที่ตำรวจใช้ถูกสับลงมาบนข้อมือเขาอย่างรวดเร็วคล้องไว้กับประตูรถ...
?หนูขอเวลาสองนาทีค่ะ...?
หล่อนหายเข้าไปในบ้านชั่วครู่...ก่อนจะออกมาอีกครั้งในเครื่องแต่งตัวรัดกุม...กางเกงยีนและเสื้อเชิ้ต...ดูทะมัดทะแมงและสวยไม่เสื่อมคลาย...
ชายหนุ่มทอดตามองผู้หญิงที่เขากอดมาสองชั่วโมง...
และคิดว่าจะพาหล่อนขึ้นไปชมความงามของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย่างสนใจและแปลกใจเป็นล้นพ้น
หล่อนลงทุนเอาตัวเข้าล่อเขาด้วยสาเหตุอะไรไม่กระจ่างชัด...
แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อหล่อนตั้งแต่สบตากันครั้งแรกจนบัดนี้มิได้เสื่อมคลายไปแม้แต่น้อย...หนำซ้ำยังเพิ่มเป็นทวีคูณเสียด้วยซ้ำ...
?เรียบร้อยค่ะลุงหมิง...?
หล่อนมองหน้าเขานิ่งขณะสอดชายเสื้อลงขอบกางเกง...
ในขณะที่สมิงดึงสำลีและขวดยาชนิดหนึ่งออกมา...
?ขอโทษทีนะคุณ...ผมแก่เกินไปที่จะนั่งระวังคุณอยู่ทั้งคืน...?
สมิงหรือลุงหมิงของอาทิตยาพูดพลางโปะสำลีชุบยาลงบนจมูกของเขาแน่น...
ตาสีเข้มของชายหนุ่มทอดมองใบหน้าของหญิงสาวเหมือนจะจดจำไว้ตลอดนาทีสุดท้ายก่อนจะทรุดฮวบลง
******************************

ร่างสูงเดินไปมาในห้องแคบๆ ที่มีไฟดวงเล็กๆ แขวนอยู่เพียงดวงเดียวเหมือนหนูติดจั่น
จากหน้าต่างที่อยู่ขนานกับพื้นดินเมื่อเขาปีนเข้าไปโผล่ลูกกรงเหล็กดู บอกเวลาให้รู้เพียงแค่กลางวัน และกลางคืนเท่านั้นส่วนโมงยามไม่มีให้รู้แน่...นอกจากนาฬิกาบนข้อมือ
เสื้อนอกของเขาลงไปคลุกกับฝุ่นจนแทบจะสีเดิมของมันไม่ได้...
หน้าตาของเขาสกปรกมอมแมม...หนวดเคราขึ้นครึ้มผิดไปจากหนุ่มรูปหล่อแสนสำรวยคนเดิมลิบลับ
รองเท้าหนังอย่างดีและถุงเท้าถูกถอดเตะกระเด็นไปคนละทางสองทางตั้งแต่วันที่สองที่มาถึง...เหลือแต่เท้าเปล่าที่เดินกลับไปมาบนพื้นเรียบที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองและหยากไย่สกปรก
กางเกงขายาวถูกถลกพับขึ้นมาที่หน้าแข้ง...เสื้อแขนยาวถูกปลดดุมถลกขึ้นมาถึงข้อศอก เนคไทสีสวยถูกรูดลงมาครึ่งอก...ดุมทุกเม็ดถูกปลดลงเกือบถึงเอวด้วยความอึดอัดและร้อน
ความอดทนของเขากำลังจะสิ้นสุดถ้าไม่รู้เหตุผลที่ถูกจับมากักเอาไว้แบบนี้...
เด็กสาวหน้าเนียน กลม ผิวขาวร่างอวบเกล้าสูงผมแบบชาวเหนือ เอาอาหารมาให้วันละ 2 มื้อ มื้อเช้าและเย็น เหมือนเลี้ยงสุนัขไม่มีผิด...
วันนี้หล่อนก็ลงมาเช่นเดิมพร้อมถาดอาหาร 1 จาน...ราดกับข้าวง่ายๆ มาให้กินกันอดตาย...
?เราชื่ออะไร...?
เขาถามหล่อนเป็นครั้งที่สามนับตั้งแต่อยู่ที่นี่มาสามวันเต็ม...
?บัวไหลค่ะ?
หล่อนตอบสั้นๆ ด้วยเสียงอ่อน...ดวงตาที่มองเขาก็อ่อนโยนด้วยเช่นกัน...
?รู้ไหมบัวไหล...เขาจับฉันมาเรื่องอะไร...?
?ไม่ทราบค่ะ?
หล่อนตอบพลางถอยไปนั่งมองเขากินข้าวอยู่บนลังไม้ไม่ห่างนัก...เพียงแต่เขาเข้าถึงตัวไม่ได้เพราะมีลูกกรงขวางไว้ตรงกลางแค่นั้นแหละ...
?นายของบัวไหลชื่ออะไร...?
เขาถามพลางนึกถึงใบหน้าหวานๆ ที่เขาจำติดตามาทั้งหลับทั้งตื่น...วันนั้น...วันที่เขามองเห็นสวรร์อยู่รำไร...ก่อนจะตกนรกลงมาอย่างรวดเร็ว
?นายผู้หญิงหรือคะ...?
?ใช่...?
?เธอชื่ออาทิตยาค่ะ...?
?อาทิตยา...?
ภูวดลทวนคำเหมือนเคยคุ้นหู...แต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหน...
?ไปบอกเขาทีได้ไหมว่าฉันถามหา...ต้องการพบ...ต้องการรู้ว่าจับฉันมาทำไม...?
บัวไหลหลบตาเมื่อเขาจ้องหน้าหล่อนนิ่ง...แก้มเป็นสีชมพูเรื่อ...เล่นเอาคนมองถอนใจเพราะดันคิดถึงอีกคนหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้เขามาติดกับอยู่นี่...
?นะ...?
เขาย้ำเมื่อส่งจานข้าวคืนให้หล่อน
?ค่ะ...?
หล่อนรับคำ...พร้อมกับค่อยๆ ยื่นมือมาดึงจานที่เขาวางไว้ติดลูกกรงออกไป...
ภูวดลอยากให้มือนั้นเป็นมือนายสาวของบัวไหล...เขาจะได้กระชากหล่อนเข้ามาถามให้สมกับความโกรธที่มีอยู่ได้
บัวไหลหายไปชั่วโมง...จึงมีเสียงไขกุญแจและประตูเปิดปิดลงมาจากด้านบน
แล้วไม่กี่นาทีต่อมาร่างบางของผู้หญิงที่เขานึกถึงทุกลมหายใจเข้าออกก็ปรากฏตัวขึ้น...
หล่อนสาวเท้าลงมาจากบันได...มานั่งอยู่บนลังที่บัวไหลนั่งเมื่อครู่อย่างระวังตัว...
ภูวดลมองหล่อนด้วยประกายดุดันคาดโทษที่หล่อนบังอาจเล่นงานเขาก่อนอย่างไม่ชอบด้วยเหตุผล...
?ผมคิดว่าคุณต้องมีเหตุผลที่ดีพอควรนะที่เอาตัวผมมากักไว้นี่...?
?แน่นอน...?
น้ำเสียงใสดังระฆังเงินหลุดออกมาจากริมฝีปากน่าจูบของหล่อน
?งั้นบอกหน่อยเป็นไร...?
อาทิตยานิ่ง...มองสารรูปของหนุ่งรูปงามเมื่อวันก่อนอย่างสะใจในสภาพของเขาตอนนี้...
?คุณจำ...หรือรู้จักคนแก่คนหนึ่งที่ชื่ออาทิตย์ได้ไหมล่ะ...?
?อาทิตย์...อาทิตย์...วรพจน์น่ะหรือ...?
?ใช่...นั่นล่ะพ่อฉัน...?
ภูวดลกะพริบตา...อาทิตย์ วรพจน์คู่แข่งคู่อาฆาตของภูวนัย วิษณุวัฒน์
ใครๆ รู้กันว่าอาทิตย์ วรพจน์เจ้าเล่ห์แสนกลขนาดไหน...เขาโกงพี่ชายภูวดลจนแทบหมดตัว เมื่อครั้งก้าวขึ้นมาทำธุรกิจในระยะแรก
พี่ชายเขาใช้เวลาล้มอยู่ไม่นานก็ลุกขึ้นมาใหม่อย่างเข้มแข็งกว่าเดิม...
และดำเนินการโค่นอาทิตย์ในทุกทางที่สามารถทำได้ และทำสำเร็จจนอาทิตย์ต้องเข้าปิ้งเพราะพลาดหันค้ายาเสพติดจนถูกจับได้ จนยิงตัวตายในที่สุด...
บัดนี้...ลูกสาวคนเดียวของอาทิตย์ที่เคยได้ยินภูวนัยกล่าวถึงนั่งอยู่ตรงหน้าเขา...
ภูวนัยเคยกล่าวถึงหล่อนเมื่อเริ่มวางแผนแก้แค้นอาทิตย์...
แต่ถูกน้องๆ คือภูวนารถและภูวดลขวางไว้เพราะไม่เห็นด้วยกับการจะใช้เด็กผู้หญิงอายุสิบห้าในขณะนั้นเป็นเครื่องมือ...
ทุกคนต้องการให้ภูวนัยแก้มืออาทิตย์ด้วยวิธีการอันขาวสะอาดทางธุกิจมากกว่า...
ภูวดลนึกไม่ถึงเลยว่า...เด็กผู้หญิงที่เขาเคยกันหล่อนพ้นทางไปครั้งหนึ่งนั้น กลับมาเล่นงานเขาเข้าแล้ว อย่างเจ็บแสบในวันนี้
?คราวนี้คงรู้แล้วซินะว่า...ฉันเอาตัวคุณมาเพราะอะไร...?
หล่อนอธิบายตบแล้วลุกขึ้นยืนเตรียมหันหลังกลับ
?ผมยังถามไม่จบ...?
เท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดของหล่อนชะงัก...หันมามองเขาเป็นเชิงถาม
?คุณต้องการอะไรแลกกับการเอาตัวผมมา...?
คำถามนี้ของเขาทำให้หล่อนขยับตัวหันมาตรงๆ...ก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาใกล้ๆ โดยรักษาระยะให้ห่างลูกกรงไว้...
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่เคยสบตาเขาอย่างยียวนอ่อนหวานจนชายหนุ่มหลงเชื่อ...
บัดนี้ว่างเปล่า และเย็นชาจนน่ากลัว...
?ฉันอยากเห็นคุณถูกขังเหมือนสัตว์เลี้ยง...อยากเห็นคุณบ้าและคลั่ง...อยากเห็นคุณเหนื่อยและหิว...อยากให้คุณรู้สึกทรมานเหมือนที่ฉันเคยรู้สึกเมื่อต้องอยู่คนเดียวโดยขาดทั้งพ่อและแม่...และอยากให้พวกพี่ๆ ของคุณรู้ด้วยว่าคุณเป็นอะไร...เป็นยังไงด้วย?
หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ขยับเอียงคอมองหล่อนเมื่อถามว่า
?พี่ผมจะรู้หรือ??
?ใช่...เขาจะรู้...ฉันจะให้เขารู้ความเป็นไปทุกกระยะของคุณทุกอย่าง...ตลอดเวลา...?
?คุณนี่ถ้าจะบ้าเข้าขั้น...?
เขาบริภาษเอาช฿งหน้า เล่นเอาหล่อนหน้าตึงตาคมวาววับด้วยความไม่พอใจ
?ก็เหมือนอย่างที่พวกคุณเคยบ้าลอบกัดพ่อฉันล่ะ?
?เราไม่เคยลอบกัด...การต่อสู้ระหว่างพ่อคุณกับพี่ผมเป็นไปตามวิถีทางของธุรกิจ?
?นึกหรือว่าฉันจะเชื่อ?แต่ชั่งเถอะ...ตอนนี้น่ะมันไม่สำคัญแล้ว...?
หล่อนพูดพลางก้าวถอยหลังห่างออกไป


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทุกค่ำคืนภูวดลต้องมีสาวข้างกายกลับออกจากเมมเบอร์คลับและคืนนี้ก็เช่นกัน เขาตกหลุมเสน่ห์แม่สาวตาหวานที่ปรายตายั่วมาทางเขาอย่างจงใจ ชายหนุ่มนึกถึงสวรรค์อยู่รำไรทว่าก็ต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อสาวเจ้าแสดงตัว อาทิตยาคือหญิงสาวที่เขาเคยช่วยไม่ให้หล่อนต้องมารับการชดใช้แทนพ่อจากน้ำมือพี่ชายของเขา ทว่าตอนนี้ภูวดลถูกมัดมือมัดเท้าและกักขังไว้ด้วยความแค้นที่อาทิตยาคิดว่าเขาทำให้ครอบครัวหล่อนพังพินาศ แต่แล้วเป็นหล่อนเสียเองที่ต้องเสียท่า ภูวดลสวมรอยว่าหล่อนตกเป็นของเขาในคืนที่อยู่ด้วยกัน หากนั่นไม่ใช่การแก้แค้นกลับของภูวดล ทว่ามันเป็นความรักที่เขาอยากครอบครองหล่อนไม่ให้เป็นของใคร ริมฝีปากร้อนไต่ไปตามร่างหล่อนช้าๆ หากแต่หนักบ้างเบาบ้างตามกำลังอารมณ์แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายถึงกับคราง บัดนี้ความรักได้เริ่มต้นขึ้น...และจะมีตลอดไปชั่วกาลนาน

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”