แม่ตาย...มนสิชาครวญในใจ
หล่อนรู้สึกโศกตรมอย่างที่สุด...ดวงตาคู่สวยฝ้าฟางด้วยน้ำตาแห่งความโศกเศร้าโทมนัสปวดรวดร้าวทั้งกายและใจ...
แม่เป็นเสมือนทุกอย่างในชีวิตของมนสิชา
หลังจากแม่ตาย พ่อของมนสิชาก็มีภรรยาใหม่...
ผู้หญิงคนนั้นชื่อธาริกา ตอนแรกเจ้าหล่อนเหมือนจะเป็นคนดี ทำตัวน่าสงสาร
หล่อนมากับน้องชายชื่อประวัติ...
ตอนพ่อมีแม่ใหม่มนสิชาอายุสิบหกปีเต็ม...มนสิชาไม่เคยคิดจะไปห่างไกลพ่อ แต่กลับถูกแม่เลี้ยงยุยงบิดาให้ส่งมนสิชาไปอยู่โรงเรียนประจำ นานๆ จะได้กลับบ้านสักที...
มนสิชาไม่ได้คิดอะไร ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติธรรมดา...
ทำตัวเป็นลูกที่ดี ตั้งใจเรียน ทำให้พ่อภาคภูมิใจ...
ถึงพ่อจะส่งมนสิชาไปเรียนโรงเรียนประจำก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าพ่ออาจไม่มีเวลาสั่งสอนอบรม...ก็เลยส่งไปให้ครูช่วยอบรมให้
มนสิชาไม่มีอคติใดๆ กับแม่เลี้ยง
มนสิชาก็อยู่ส่วนของมนสิชา
แม่ลี้ยงก็อยู่ส่วนแม่เลี้ยง...ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน
แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่เป็นแบบนั้น...เมื่อบิดาบอกว่าจะส่งมนสิชาไปเรียนต่อเมืองนอกทันทีที่มนสิชาเรียนจบ
มนสิชาไม่อยากไปเรียนเมืองนอก...มนสิชาคัดค้านบิดาออกไป แต่บิดาไม่ยอมฟังเสียง กลับบอกว่าพ่อทำไปเพราะหวังดี
มนสิชาไปเรียนเมืองนอกจะได้มีความรู้และประสบการณ์ มนสิชามองบิดาอย่างน้อยใจ...รู้สึกว่าบิดาพยายามผลักไสตัวเองออกห่าง
มนสิชาตัดพ้อต่อว่าบิดา บิดาหลุดปากออกมาว่าแม่เลี้ยงของมนสิชาหวังดี จึงมีความคิดให้มนสิชาไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อประโยชน์ของมนสิชาเอง...
ตอนนั้นเองที่มนสิชารู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น...
ดูเหมือนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่ความคิดของบิดาอย่างที่มนสิชาเข้าใจ...แต่เป็นความคิดของแม่เลี้ยงของเธอล้วนๆ
ธาริกาต้องการขับไสหล่อนไปไกลๆ
พ่อของมนสิชาก็ไม่ว่าอะไร แถมยังสนับสนุนความคิดของธาริกา
มนสิชารู้สึกขมขื่นและผิดหวังในตัวบิดาเป็นอย่างมาก
มนสิชาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำสั่งของบิดา...ทั้งที่ตัวเองไม่ต้องการไปเรียนไกลบ้าน...
มนสิชาเป็นเห่วงพ่อ อยากดูแลพ่อ แต่พ่อกลับเสือกไสหล่อนไปไกลถึงเมืองนอกโน่น...ดูเหมือนแค่โรงเรียนประจำจะไกลไม่พอซะแล้ว
มนสิชาคิดอย่างขมขื่น...
ความเป็นเด็กทำให้มนสิชาคิดอยากเอาชนะ...
มนสิชาเริ่มทำตัวเหลวไหล
เด็กสาวเริ่มหนีโรงเรียน...เที่ยวเตร่...สูบบุหรี่ ไม่ตั้งใจเรียน จนครูเรียกผู้ปกครองไปพบ และบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้คงเอามนสิชาไว้ไม่ไหวแล้ว
มนสิชาดีใจว่าจะได้กลับบ้าน แต่ที่ไหนได้ ธาริกากลับให้เงินทางโรงเรียนเพิ่งเป็นพิเศษเพื่อให้มนสิชาเรียนต่อ
ตอนนั้นเองมนสิชาได้รู้จักธาตุแท้ของแม่เลี้ยงตัวเอง
ธาริกาบอกว่าพ่อของเธอทนรับพฤติกรรมของมนสิชาไม่ไหวแล้ว เลยให้ธาริการับช่วงดูแลมนสิชาต่อ
ธาริกาว่ามนสิชาเป็นเด็กเหลือขอ...แม้แต่พ่อยังไม่อยากได้ ขอให้เจียมตัวเอาไว้ พ่อจะทิ้งมนสิชาเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย
?เด็กเหลือขออย่างเธอใครเขาอยากจะได้ อย่าว่าแต่พ่อเธอเลย...? ธาริกาแสยะปากพูดอย่างรังเกียจ ?ที่ฉันมานี่เพราะเห็นแก่พ่อของเธอหรอกนะถึงได้มาพูดกับทางโรงเรียนให้น่ะ...สำนึกเอาไว้ซะบ้าง ถ้าไม่ได้ฉัน...ไม่มีทางที่เธอจะเรียนจบแน่?
เพราะคำพูดของธาริกานั่นเองเป็นแรงผลักดันให้มนสิชากัดฟันเรียนจนจบเพื่อลบคำสบประมาทของแม่เลี้ยง
มนสิชาอยากให้พ่อของเธอรู้จักธาตุแท้ของผู้หญิงคนนั้นเหลือเกิน แต่ธาริกาฉลาดมาก ต่อหน้าพ่อของเธอ ธาริกาทำตัวเป็นผู้หญิงแสนดี เป็นแม่เลี้ยงที่ใจดีกับลูกเลี้ยงเหลือขออย่างเธอเสียเหลือเกิน...
มนสิชาขมขื่นใจนักที่พ่อมองไม่เห็นความเลวร้ายของเมียตัวเอง...แถมยังเชื่อในสิ่งที่ธาริกาพูดทุกคำ
แทนที่พ่อจะดีใจที่มนสิชาเรียนจบ...พ่อกลับบอกให้มนสิชาทำตัวดีๆ ไม่ใช่ไปเรียนนอกแล้วจะทำตัวเหลวแหลก หอบลูกกลับมาแทนใบปริญญา
มนสิชาเจ็บร้าวเข้าไปถึงหัวใจ
ถ้าเป็นคนอื่นพูด มนสิชาคงไม่เจ็บปวดมากเท่านี้
มนสิชาเห็นธาริกาลอบยิ้มอย่างสะใจก็ยิ่งโกรธขึ้งในใจ
ลับหลังพ่อของมนสิชา ธาริกาพูดเย้ยๆ ว่า
?ทำไม...มองอะไร...ไม่พอใจหรือไง อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า เธอยังได้ทุกอย่างไม่พออีกหรือ ทำไมยังอยากได้โน่นได้นี่ ระวังเถอะ...เธอจะไม่เหลืออะไรแม้แต่อย่างเดียว?
ธาริกายิ้มหยันกลับมา
?คุณก็เหมือนกัน?
มนสิชาตอบโต้
ธาริกาหุบยิ้ม ทำท่าเต้นเร่าเมื่อโดนตอกกลับไปบ้าง
?แกว่าใคร?
?ฉันไม่ได้ว่าใครทั้งนั้น ใครอยากรับก็รับไปสิ...?
?แก...นังเด็กเหลือขอ...ไม่มีใครอยากได้ อย่านึกนะว่าพ่อแกจะรักแกเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้เขาไม่อยากได้แกแล้ว ที่แกยังมีเสื้อผ้าสวย มีเงินใช้ ได้ไปเรียนต่อเมืองนอกนี่ก็บุญแล้ว...เพราะฉะนั้นช่วยทำตัวฉลาดๆ หน่อย...ถ้าแกอยากใช้นามสกุลพ่อแกอีกต่อไป?
มนสิชามองหน้าธาริกาเขม็ง
?คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?
?ฉันก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ...? ธาริกาว่า มองสบตามนสิชาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ?ถ้าเป็นฉัน...ฉันจะอยู่สงบๆ ไม่สร้างปัญหา ถ้าเธอพยายามทำตัวเป็นศัตรูกับฉันล่ะก็ เธอจะเดือดร้อนจำไว้?
เสียงเกรี้ยวกราดของธาริกาทำให้มนสิชาถึงกับลืมหายใจไปชั่วครู่ ความโกรธแผ่กระจายไปทั่วร่าง
เห็นได้ชัดว่าธาริกาประกาศตั้งตัวเป็นศัตรูกับหล่อนได้ทุกเมื่อ ทั้งที่มนสิชาไม่เคยหาเรื่องธาริกาเลยแม้แต่น้อย
มีแต่ธาริกาที่หาเรื่องหล่อนก่อน...
มนสิชานึกไม่ออกเลยว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่อย่างไรภายใต้เงามืดที่มีธาริกาครอบงำอยู่นี้...มนสิชารู้สึกตัวเหมือนตัวเองเป็นคนนอก
ระยะห่างระหว่างหล่อนกับพ่อห่างไกลกันมากขึ้นไปทุกที...มนสิชาเต็มไปด้วยความอึดอัด...หล่อนไม่ค่อยได้พบกับพ่อตามลำพังตามประสาพ่อลูก
ทุกครั้งที่พบกัน ธาริกาจะอยู่ด้วยตลอด และธาริกาคนนี้จะคอยแทรกกลางระหว่างหล่อนกับพ่อ พูดชักนำให้พ่อโกรธเคืองหล่อนแทบทุกครั้ง
สุดท้ายมนสิชาจึงคิดว่าไม่กลับบ้านดีกว่า
มนสิชาไปพักอาศัยอยู่กับครูพี่เลี้ยงที่คอยดูแลหล่อนที่โรงเรียนประจำ...โดยไม่มีใครว่าอะไร...ระหว่างทำเรื่องไปนอก
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้พ่อคงเป็นห่วงมนสิชา แต่เพราะแม่เลี้ยงพูดอะไร พ่อถึงปล่อยมนสิชาเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา
มนสิชาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีวันนี้
ตั้งแต่แม่ตายทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด พ่อเหมือนคนแปลกหน้า...มนสิชาเหมือนเป็นผู้อาศัยในบ้านตัวเอง
ขณะที่แม่เลี้ยงกับน้องชายทำตัวเป็นเจ้าของบ้านเต็มที่ โดยที่พ่อไม่พูดอะไรสักคำเดียว พ่อทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาอย่างที่สุด
มนสิชาขมขื่นใจยิ่งนัก...
บางครั้งหล่อนอยากประชดชีวิต ทำอะไรเลวๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจให้พ่อหันมามองหล่อนบ้าง
แต่ความรู้สึกละอายใจทำให้หล่อนไม่อาจทำแบบนั้นได้...ทั้งที่อยากประชดชีวิตให้มันรู้แล้วรู้รอดไป...
แม้ว่ามนสิชาจะพักอยู่นอกบ้านกับอรอุมา แต่มนสิชาก็อยู่ในกรอบอันดี...
มนสิชาหารายได้พิเศษแบบเดียวกับที่อรอุมาทำ โดยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เพื่อจะได้ไม่ต้องรบกวนเงินทางบ้าน มนสิชาอยากหาเลี้ยงตัวเอง ซึ่งน่าจะสบายใจกว่า?ไม่คิดเลยว่าทั้งหมดนี้จะกลายเป็นช่องให้ธาริกาเล่นงานหล่อนในภายหลัง
มนสิชารู้ดีว่ากลุสตรีที่ดีไม่ควรเสี่ยงเข้าไปในสถานที่ซ่องสุมอย่างที่ผู้ชายเขาไปกัน...มนสิชาออกไปสอนหนังสือ รับสอนหลายที่ พอมืดก็กลับเข้าบ้าน ช่วยงานบ้านของอรอุมาเท่าที่จะทำได้...ทำให้มนสิชาไม่ค่อยได้อยู่บ้าน
มนสิชาไม่ทราบเลยว่าธาริกาจะคิดวางแผนชั่วร้าย หาประโยชน์จากสิ่งนี้ด้วยการพาบิดามาดูและโกหกว่ามนสิชาประพฤติตัวแหลกเหลว ออกไปเที่ยวเตร่ มั่วสุมกับผู้ชาย
เสียแรงที่พ่อไว้ใจในตัวมนสิชา
บัณฑิตตบหน้าลูกสาวด้วยความโกรธ...
อรอุมาพยายามเข้าไปช่วยพูดให้แต่ถูกธาริกาดึงออกมา
?ไม่ใช่เรื่องของเธอ ไม่ต้องยุ่ง ให้พ่อลูกเขาจัดการกันเอง?
อรอุมาจำต้องล่าถอยไป
มนสิชาเหมือนหัวเดียวกระเทียมลีบ
ธาริกาใส่ร้ายอย่างปราศจากความจริง แถมยังใช้ประวัติเป็นข้ออ้าง หลอกพ่อหล่อนว่าไปพบมนสิชาที่ผับแห่งหนึ่ง
พ่อโกรธมาก ตบหน้ามนสิชาอย่างรุนแรง
ธาริกาแกล้งทำเป็นคนดีด้วยการเข้ามาห้ามเอาไว้
มนสิชาหันขวับไปพูดเสียงแหลมสูงออกไปว่า
?ไม่ต้องมายุ่ง นังปีศาจ!?
มนสิชาพูดออกไปด้วยความโกรธ...ไม่คิดว่าภาพลักษณ์ที่ออกไปกลายเป็นว่าตนเองตั้งแง่กับแม่เลี้ยง
พ่อโมโหมนสิชามาก ที่มนสิชาไปหาเรื่องแม่เลี้ยง ทั้งที่หล่อนพยายามช่วยมนสิชาทุกอย่าง
มนสิชากลายเป็นคนชั่วในสายตาพ่อ...
มนสิชาแทบไร้สิ้นเรี่ยวแรง...ไม่คิดเลยว่าธาริกาจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ สองคนพี่น้องนั่นรวมหัวกันใส่ร้ายมนสิชา
มนสิชาเห็นประวัติยิ้มสะใจก็ยิ่งโมโหเดือด อยากฆ่าสองพี่น้องนั่นเหลือเกิน...มนสิชากรากเข้าไปจะทำร้ายสองคนนั่นด้วยความโกรธ
ทำให้พ่อต้องจับตัวมนสิชาเอาไว้ เขย่าตัวมนสิชาแรงๆ เหมือนต้องการเรียกสติ
?แกเป็นบ้าไปแล้วหรือยายมน...แกเป็นบ้าไปแล้วหรือไง ทำไมแกถึงได้ทำตัวเลวแบบนี้ แกรู้ไหมว่าทำให้ใครเขาเป็นห่วงกันบ้าง?
บัณฑิตกระโชกเสียงออกมาด้วยความโกรธ
มนสิชามองหน้าบิดาด้วยสายตาผิดหวัง หล่อนร้องไห้ออกมา ขมขื่นใจอย่างที่สุดเมื่อนึกว่าพ่อไม่เชื่อกันบ้างเลย นอกจากพ่อจะไม่ฟังแล้วยังเข้าข้างคนอื่นยิ่งกว่าลูกตัวเอง
?พ่อไม่เคยฟังลูกเลย?
บัณฑิตกัดฟันกรอด
?นี่แกยังหาว่าฉันไม่ฟังแกอีกหรือ ฉันฟังเรื่องของแกมาจนฉันปวดใจไปหมดแล้ว...แกเคยทำอะไรให้ฉันภาคภูมิใจบ้าง แกดีแต่ทำเรื่องชั่วๆ สักวันเถอะ แกคงได้ท้องไม่มีพ่ออย่างคนอื่นเขาว่า?
มนสิชามองพ่ออย่างร้าวรานใจ
?แล้วพ่อก็เชื่อเขา พ่อเคยถามลูกบ้างไหมว่าจริงหรือเปล่า พ่อรู้ไหมว่าหนูออกไปทำอะไร ไม่หรอก...พ่อไม่อยากรู้หรอกใช่ไหมคะ? มนสิชาสะอื้นไห้ มองบิดาด้วยสายตาเจ็บปวด ?พ่อฟังแต่คนอื่น...ในเมื่อพ่อเห็นลูกเลวในสายตาพ่อ พ่อก็ตัดลูกไปเลยสิคะ ยังไงพ่อก็ไม่เห็นลูกอยู่ในสายตาอยู่แล้วนี่?
บัณฑิตโกรธจนหน้าแดงก่ำ
?แกอย่าท้าฉันนะ?
มนสิชาน้ำตาเอ่อท้น มองบิดาด้วยดวงตาฝ้าฟางด้วยหยาดน้ำตา
?หนูไม่ได้ท้า พ่ออยากตัดลูกก็ตัดเลย ถ้าพ่อคิดว่าลูกเลว...พ่อก็ไม่ต้องเห็นลูกเป็นลูกของพ่ออีกแล้ว?
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
?ศาศวัต? สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อควบคุมตัวเองไม่ให้โกรธมากไปกว่านี้ เขานึกอยากกระชากร่างบางเข้ามาสู่วงแขนและพรมจูบกระทั่งหล่อนตายคาอกให้สมกับความดื้อรั้น
?คุณเกลียดผมมากขนาดนี้เลยหรือสิชา?
น้ำเสียงเขาทำให้หล่อนอยากร้องไห้โฮออกมาเหลือเกินแต่มนสิชาต้องใจแข็งเอาไว้
?คุณคิดว่าฉันควรรักผู้ชายที่ข่มเหงใจฉันงั้นหรือคะ?
ศาศวัตส่ายหน้าอย่างหัวเสียแล้วพลิกตัวขึ้นทาบทับหล่อนไว้เหมือนจะบอกให้รู้ว่าเขาเหนือกว่าหลายเท่านัก นับต่อแต่นี้ไปเขาจะไม่ปรานีหล่อนอีกแล้ว ศาศวัตลูบไล้ร่างบางอรชรอย่างจงใจเร่งเร้าอารมณ์สาว ?มนสิชา? ต้องเคลื่อนไหวสนองตอบสัมผัสเขาอย่างไม่รู้ตัว โดยที่เขาไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามเลยแม้แต่น้อยในเมื่อหล่อนตกเป็นทาสพิศวาสของเขาเสียแล้ว
