New Release ร้อยรัก: วิวาห์พิศวาส

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release ร้อยรัก: วิวาห์พิศวาส

โพสต์ โดย Gals »

1
เสียงกริ่งในโรงเรียนมัธยมกมลโรจน์วิทยากรีดร้องก้องดังแผดเสียงลั่นไปทั่วทั้งโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ เพื่อส่งสัญญาณได้เวลาเลิกเรียน ตามมาด้วยประกาศจากโฆษกเสียงดุ เยือกเย็นโทนเสียงคีย์เดียว ไม่ไต่ระดับ นั่นคือเสียงคุ้นชินเหล่าบรรดานักเรียน ซึ่งปรารถนาจะออกจากรั้วโรงเรียนเต็มที ประกาศนั้นให้นักเรียนเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ พราวตะวัน อาจารย์สอนพิเศษ วิชาการดนตรีไทย กำลังเก็บสัมภาระลงกระเป๋า
เพื่อจะเดินกลับห้องพักครูด้วยเช่นกัน เมื่อเสร็จ ครั้นพอจะก้าวออกจากห้องเรียนโสตทัศนศิลป์ เสียงโทรศัพท์ ซึ่งเพิ่งกดเปิดเครื่องเมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง ร้องครางด้วยเสียงเรียกเข้า ได้ตั้งไว้ด้วยเพียงที่ชอบ เท้าเรียวชะงักค้าง ก้มลงสนใจกระเป๋าใบเก่งด้วยสายตาฉงน นิ้วเรียว ขยับแว่น ซึ่งใส่ไว้เพื่อให้เด็กนักเรียนเกรงขามเท่านั้นไม่เกี่ยวกับสายตาแต่อย่างใด ด้วยเธอหน้าเด็กแต่ริอ่านจะสอนหนังสือ วิชาดนตรีเด็กมัธยมปลาย เด็กสมัยนี้โตเร็ว คงเพราะได้นมโคช่วย ถึงได้โตวันโตคืน
?สวัสดีค่ะหม่อมแม่? ก่อนรับสายพราวตะวัน พรูลมหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เดือนนี้รอบที่เท่าไหร่แล้วที่เธอใช้คำนี้กับมารดาบังเกิดเกล้า
?พราวเย็นนี้รีบกลับบ้านเร็วๆล่ะ แม่มีเรื่องจะคุยกับเรา? เสียงลอดออกมาช่างออกคำสั่งมากกว่าจะ โทรตามให้เด็กอนุบาลกลับบ้าน
?พราวมีงานต้องเคลียร์นะคะหม่อมแม่?
?งานสอนบ้าบออะไรนั่นเงินเดือน ไม่พอยาไส้ ทุ่มเทอะไรนักหนา? ไม่วายโดนต่อว่าอีกคำรบ
?แม่.....? พราวตะวันได้แต่ลากเสียงยาวเรียกมารดา ฝ่ายนั้นย่อมรู้ว่าบุตรสาวคนเล็กเริ่มเกิดอาการเบื่อหน่าย ควรจะรีบตัดบท ก่อนจะบานปลาย
?เออ....ฉันไม่พูดถึงงานแกก็ได้ เอาเป็นว่ารีบกลับมาแล้วกัน?
จากนั้นพราวตะวัน เหมือนนภา กดปิดโทรศัพท์ ยัดลงกระเป๋าสะพายด้วยความระอา ได้แต่สาวเท้าเดินออกจากห้องเรียน ในคาบสุดท้าย พร้อมกับ หอบหิ้วสมุดสอนดนตรีเล่มใหญ่แนบอกไปด้วย พกพาใบหน้าสวยห่อเหี่ยวเดินไปตามทาง เบื่อจะต้องกลับไปรบลากับมารดาด้วยเรื่องเดิมๆ คิดแล้วให้เซ็งในอารมณ์ ระหว่างทางเดินกลับห้องพักครู บรรดาลูกศิษย์ตัวโย่งลิงทโมน มักจะส่งเสียง ทักทายบ้าง เป่าปากแซวบ้าง ไอ้เด็กพวกนี้ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ถึงเธอจะหน้าเด็กตัวเล็ก แต่เธอก็เป็นถึงครูบาอาจารย์ เด็กพวกนั้น ปีนเกรียวเล่นหัวเธอเกินไป แม่จะจับตีก้นด้วยไม้เรียวอาจารย์ประภา เสียเข็ดแค่เอ่ยชื่ออาจารย์ประภา ไม่ว่าเด็กคนไหนในโรงเรียนต้องขลาดกลัว ขนลุกเกรียวทั้งนั้น
?ทำหน้าแบบนั้นนักเรียนจีบมาอีกหรือคะอาจารย์พราว? ใครจะไม่รู้ว่าอาจารย์พิเศษ เช่นพราวตะวัน เป็นขวัญใจเด็กนักเขียนชายทั้งโรงเรียน ใครๆก็อาจารย์พราว กันถ้วนหน้า เด็กนักเรียน ทโมนแต่ไหน เจอพราวตะวัน เข้าสอนห้องไหน ห้องนั้นเด็กนักเรียนเต็มห้อง
?อ๋อ....ไม่หรอกค่ะอาจารย์ดีเลิศ? พราวตะวันเงยหน้าจากพื้นขึ้นมองต้นเสียง อันเริ่มจะคุ้นเคย
?แล้วไปเดินเตะก้อนหินเข้าหรือไงคะ ถึงทำหน้าอย่างกับเจ็บส้นมาอย่างนั้นแน่ะ?
?แหม อาจารย์ก็เปรียบซะ แค่แม่ตามให้กลับบ้านด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋าค่ะเท่านั้นค่ะ?
?เรื่องเดิมอีกแล้วสิคะ?
หญิงสาวหน้าเด็ก จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการวัฒนธรรมระหว่างประเทศและการทูต มีความสามรถพิเศษด้านดนตรีไทย ไม่อาจตอบ ได้แต่พยักหน้ารับด้วยแววตาเจือหมอง อาจารย์ดีเลิศ คือเพื่อนสนิทที่สุดตั้งแต่ก้าวเข้าสอนพิเศษ ในโรงเรียน กมลโรจน์ วิทยา แห่งนี้ นิสัยแกครึ่งผู้หญิงผู้ชาย กระเดียดไปทางผู้หญิงมากกว่า แค่กายเป็นผู้ชาย แต่หัวใจเกินหญิง เวลาอยู่ต่อหน้าเด็กนักเรียน แกจะขอแมนเกินร้อย เส้นเสียงทุ้มห้าว ราวกับเพิ่งจบหลักสูตรประมงมาสอนยังไงยังงั้น หวังให้เด็กนักเรียนเกรงขาม กับเสียงดุๆ หน้าเข้มๆ ครั้นอยู่ลำพังกับพราวตะวัน ความเป็นตัวตนของแกก็เสนอหน้าออกมาชิงความเป็นชายทันท่วงที ราวกับกดสวิตท์ จีบปากจีบคอ กระเดียดกระแดะ ได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องเหนียม
?พราวขอตัวกลับก่อนนะอาจารย์ นัดตอนเย็นเป็นอันว่ายกเลิกค่ะ พราวขอโทษอีกทีนะคะ ไว้วันหน้าค่อยนัดส่องผู้ชายใหม่ อดเปรี้ยวไว้กินหวานนะคะ จะได้อร่อยลิ้น?
?ต๊าย อาจารย์พราว พูดอย่างนี้พี่เสียหายนะคะ?
?หรือไม่จริง?
?จะ....จริงค่ะจริง เคคร่า เก๋กุ๊ด? แถมท้ายศัพท์ มันปากของแก ชวนให้พราวตะวันปวดหัวคิดตามไม่ทันอยู่บ่อยๆ เพราะพราวตะวันจัดเป็นจำพวกผู้ดีเก่า แต่ดันตกยาก เธอถูกสอนจากระดับชั้นหม่อมยาย หม่อมป้า ทั้งหลายให้อยู่ในกรอบทำนองครองธรรม พูดจาไพเราะอ่อนหวาน นอบน้อม แต่เมื่อสิบปีก่อนเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นภายในครอบครัว หนำซ้ำคนที่สร้างปัญหาไว้กลับหนีหาย พราวตะวันไม่อยากจะโทษฟ้าโทษดิน แต่ต้องโทษทั้งๆที่ครอบครัวเธอมีมรดกมหาศาล แต่กลับหมดไปเพียงชั่วพริบตา
ร่างเล็ก หน้าเด็ก นมโต รูปร่างกะทัดรัด ก้าวขึ้นยนต์ประตำกาย รถคันนี้ไม่ได้ถูกซื้อจากเงินในกองมรดก เพราะมันหมดเมื่อสิบปีก่อนเห็นจะได้ กับเงินก้อนโต ในกองมรดก รถยนต์คันพอเหมาะกับรูปร่าง ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงกับการทำงาน หยาดเหงื่อตากน้ำ กว่าจะได้มา หนำซ้ำมารดายังบ่นจนหูชาได้ทุกวันหวังจะให้ตามความต้องการของท่านในเร็ววัน ว่านอนสอนง่านเจริณตามรอยพวกพี่ๆ หัวอ่อนของเธอเป็นเงาตามตัว เสียใจ คนบ้าอย่างเธอมันพวกผู้ดีจอมปลอมอ่อนนอกแข็งใน ปากว่า ค่ะ คะขา ไปตามคำขอร้อง แต่เอาเข้าใจ กับแข็งขืน ดื้อด้านไม่มีทางยอมจำนนง่ายๆ อย่างเช่นคราวนี้ คงจะรอดยากหากใจไม่แข็งพอ
?อาจารย์ทำอะไรครับ? เสียงเด็กหนุ่มลูกศิษย์จอมแสบ เคาะกระจกรถของพราวตะวัน ร่างเล็ก กำลังพนมมือสวดมนต์ภาวนาปากขมุบขมิบ ต้องสะดุ้งลดมือเล็กลง พร้อมกับดีดเปลือกตามองที่มาของเสียงคุ้นเคยกวนประสาทเจ้าประจำ เด็กหนุ่มชี้นิ้วให้อาจารย์คนสวยลดกระจกลง พราวตะวันตั้งสติก่อนจะกดปุ่มลดกระจกตามคำขอของเด็กหนุ่ม
?มีอะไรดรัณ? เจ้าของร่างเล็กส่งเสียงเข้ม ให้เด็กหนุ่มเจ้าประจำ
?ถามได้ ถามคำถามนี้ทุกวันไม่เบื่อหรือครับ? เด็กหนุ่มตีสีหน้ายียวน แบบประจำดวงหน้าหล่อใส ละลายใจสาวๆ
?วันนี้ฉันรีบ ไม่มีเวลาไปส่งเธอ กลับเองนะ?
?โธ่....ผมถังแตกช่วงนี้ อาจารย์คนสวย จะใจร้ายกับผมได้ลงคอเชียวหรือ คนสวย น่ารัก ไม่คิดว่าจะแรงน้ำใจกับผู้ยากไร้ นะครับ ผมขอติดรถกลับบ้านนะนะ? เด็กหนุ่มอ้อนทำท่าเหมือนสุนัขตัวน้อย
?โอ้ย....เธอนี่ตามตอแยฉันได้ทุกวัน ให้มันได้อย่างนั้นสิน่า? ไม่ว่าจะในชั่วโมงเรียน พักกลางวัน เลิกเรียน เงาร่างสูงกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน ยังตามเฝ้าเธออย่างกับเหาฉลาม
?ครับ? เขาตอบสั้นๆได้ใจความ แถมยังส่งยิ้มยี่ยวน กวนประสาท คนยิ่งกลุ้ม แต่ต้องเจอหน้าดรัณเด็กทโมนประจำห้อง ม.6/1 ดรัณไม่ค่อยเคารพพราวตะวันในฐานะอาจารย์สักเท่าไหร่ เล่นหัวปีนเกรียว หาว่าเด็กมั่ง อะไรมั่ง ทั้งที่พราวตะวันสามารถคุมเด็กทั้งโรงเรียนได้ยกเว้น ดรัณ เจ้าเด็กหัวดื้อ ยียวน จอมทะเล้น แม้จะมีนิสัยแบบนี้ แต่เขาไม่เคยเรียนอ่อนให้ อย่างกับพฤติกรรมอันน่าอ่อนใจ
ทั้งที่ยังไม่ได้เอ่ยปากอนุญาต เด็กยียวนอย่างดรัณ กลับกระโดดขึ้นรถ เบาะประจำที่เคยนั่ง พอขึ้นรถได้ ควานโน่นหานี่ตามความเคยชิน ตามประสาวัยซุกซน สอดซีดีเข้าเครื่อง เปิดเพลงฟังสบายอารมณ์ พราวตะวันมองด้วยสายตาเอือมระอา
?ในรถอาจารย์ไม่เห็นจะมีเพลงไทยสักเท่าไหร่ ไม่นิยมไทยหรือครับ หัวนอกสุดๆ ที่จริงผมก็ชอบฟังนะ เอาทำนอง ในสนใจเนื้อหา? เด็กหนุ่มปรับเบาะเอนสบาย ราวกับรถที่บ้านของตัวเอง
?มันฟังได้เรื่อยๆ ไม่ล้าสมัย เพลงไทยก็มี ใช่จะฟังแต่เพลงฝรั่ง ฉันบอกแล้วนะวันนี้รีบ นั่งรถเมย์ต่อไปก็แล้วกัน?
?ยังดีครับ ย่นระยะทาง ช่วงนี้ไม่ไหวผมถังแตก?
?เอาเงินไปทำอะไรหมด?
?ซื้อ.....? ก่อนจะเผลอบอกว่าตัวเองเอาเงินไปซื้ออะไร จึงรีบหุบปากเสีย นึกขึ้นได้ จึงชะงักหุบปากฉับ ?ช่างเถอะ เอาเป็นว่าปล่อยผมลงตรงไหนก็ได้ เดี๋ยวผมเดินต่อไปเอง? เขาบอกด้วยท่าทีแง่งอนตามประสาเด็กหนุ่ม ทำราวกับงอนคนรัก พราวตะวันมองอย่างไม่เข้าใจ ในท่าทีนั้น
?จะไปให้ได้ใช่ไหม?
พราวตะวันกระแทกคันเร่งทะยานพาหนะสัญชาติญี่ปุ่น คันกะทัดรัด สีขาวออกจากลานจอดรถภายในโรงเรียนมัธยมกมลโรจน์ วิทยา มุ่งตรงไปยังเส้นทางกลับบ้าน ไยเธอต้องทำตามมารดาสั่งด้วยนะ ยามนี้ภายในห้องโดยสารมีเสียงเพลงสากลดังกลบเสียงรถลาด้านนอก ดรัณคลอเสียงตามเบาๆ
?เมื่อกี้อาจารย์พราวทำอะไรครับ เล่นของงั้นหรือ คิดจะเสกหนังควายเข้าท้องใครล่ะครับ หวังว่าคงไม่ใช่ผมนะครับ? เด็กปากเสียถาม ด้วยท่าที และประโยคกวนบาทา เด็กสมัยนี้กวนประสาทแบบนี้ทุกคนหรือเปล่านะ หรือเป็นเฉพาะดรัณจอมจุ้นคนเดียว
?ปากหรือนั่น สวยเซ็กซ์ เอ็กซ์ สะบึม อย่างฉันต้องพึ่งพาของพวกนั้นด้วยหรือไง? คนสวยพูดติดตลก แถมยืดอกโชว์สัดส่วนความอึ่ม บนเรือนร่าง ถึงตัวเล็กแต่ปวดบวมนะยะ
ดรัณก้มมองสำรวจสัดส่วนหญิงสาว ใช่อย่างที่เธอว่า พราวตะวัน ตัวเล็ก น่ารัก ผิวขาวอมชมพู หน้าอกอวบอิ่ม เรียวขาสวย สะโพกงอน ไม่เช่นนั้นวันที่เธอก้าวเข้ามาในโรงเรียนวันแรก ดรัณจะตาค้างมองหญิงสาวไม่วางตา ตัวแข็งทื่อ หนาวเย็น กลายเป็นมนุษย์น้ำแข็งไปทันทีทันใด ภาวนาขอให้เธอเป็นแค่แขกที่มาเยี่ยมชมโรงเรียน แต่แล้วคำภาวนาของเด็กหนุ่มในทีแรก กลับมลายหายลงคอ เมื่อหญิงสาวได้ก้าวเข้ามาทำหน้าที่ อาจารย์พิเศษ สอนวิชาภาคการดนตรีไทย ดรัณซึ่งไม่เคยชอบวิชานี้เลย เพราะเขาคิดว่าเสียงดนตรีไทยชวนให้หลับ มากกว่าตะเร้าใจ เช่นดนตรีสากล ครั้นได้พบอาจารย์สาวสวย ผู้หญิงอันคือผู้หญิงในอุดมคติ ดรัณเปลี่ยนตัวเองโดยสิ้นเชิง ไม่ชอบหันกลับมาชอบ ในรายวิชาดังกล่าวคำว่าโดดเรียน ขาดเรียน หนีเรียน วิชานี้จึงไม่มีสักครั้ง
?เฮ้ย....รัณเอ็งทำไมขยันเรียนวิชาดนตรีไทยผิดปกติวิสัยอย่างนี้วะ? ตุลาเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน แอบถามในวันหนึ่ง
?ข้าชอบอาจารย์พราวตะวัน ไซต์กำลังเหมาะ หน้าอกกำลังสวย ขาเรียว ชวนลูบไล้? ดรัณบอกกับเพื่อนๆ เต็มปากเต็มคำ ไม่คิดปิดบัง แม้จะปิดบัง หากว่าสายตาเขากลับไม่ปิดบังซ่อนเร้นอะไรได้ รักชอบก็บอกตรงๆ ไม่เห็นแปลก ถือโอกาสกันคนอื่นไปในตัวด้วย
?เล่นของสูงเชียวหรือวะไอ้รัณ? ตุลาอดตบไหล่แกร่งไม่ได้ ในเมื่อร้อยวันพันปีดรัณจะสนใจใครจริงจังซะที
?เออสิ รู้ว่าเสี่ยงแต่ข้าอยากลองว่ะ?
?แม่ง...สาวกรี๊ดเอ็งโรงเรียนแทบแตกไม่ยักสน กลับไปสนคนสูงอายุ?
?ช่างข้า?
ไม่เห็นจะสน เรื่องของหัวใจ ห้ามกันได้ที่ไหนจะชอบ จะรัก ปรารถนา ดรัณไม่แยแสต่อสายตาเพื่อนทั้งสองของเขา นิสัยมุ่งมั่น คือคุณสมบัติของดรัณ การมุ่งมั่นจะจีบอาจารย์พราวตะวัน คือหนึ่งในความมุ่งมั่นของเขาเช่นกัน ตั้งแต่วันนั้นหมาหยอกไก่ จึงเริ่มตีปีก หยอกไปเรื่อยๆ คอยตามตอแยบ้าง ตามตูด กระเซ้าเหย้าแหย่ เพื่อเรียกเลือดในกายให้ร้อนเร่า ตามประสาวัยหนุ่ม
รถยนต์คันหรูหราปราดเปรียว ที่มีหนุ่มสาวหน้าตาดี นั่งเคียงข้างคู่กันมา ฝ่ายสาวส่งสายตาหวานและเสียงออดอ้อนอ่อนวะหวิวหูไปตลอดทั้งทาง ขณะติดไฟแดง สาวเจ้าร้อนแรงคิดอยากจะเล่นหวาดเสียวกับหนุ่มคนรัก มือไม้สวยเรียว คืบคลานไต่ไปตามท่อนขากำยำ ที่คลุมครอบคลุมปกปิดด้วยกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำ
?ทำอะไรจ้ะหนูมาของพี่คลาวด์?
?ทำในสิ่งที่พี่คลาวด์ชอบ? ส่งแววตาเซ็กซี่ ขยี้หัวใจหนุ่ม โดยเฉพาะหนุ่มที่จุดไฟราคะติดง่ายเช่นน่านฟ้า ทายาทผู้ถูกลืม ของตระกูลอัครนาฏ ตระกูลธุรกิจ เพชร เลื่องชื่อ
นิ้วเรียวไต่ไปถึงไหล่หนาแกร่ง ชายหนุ่มเริ่มหัวใจสั่นไหว ดวงตาเขาเคลิ้ม ผู้ชายไวไฟเช่นเขา แค่การปลุกเร้าง่ายๆ หัวใจเขาสิ่งโลด เตรียมการไปรอเธอบนเส้นทางสวรรค์ เผลอแป๊บเดียว นิ้วเรียวไต่มาจนถึงขอบกางเกงเนื้อดีสีดำ ปลดเข็มขัด รูดซิป
?เอ่อ...หนูมาครับ อย่าเล่นสิครับไม่เหมาะนะครับ? เขาชอบในสิ่งที่หญิงสาวกระทำก็จริง ทว่าที่แบบนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่ง เขาไม่อยากเป็นข่าวดัง เล่นเสียวกันในรถ แม้รถคันนี้จะเก็บเสียงเป็นอย่างดี ติดฟีล์ม จนคนภายนอกไม่อาจมองเห็นคนด้านใน
?ฟีล์มมืดไม่ต้องกลัวใครเห็นหรอกนะคะ เชื่อหนูมาสิ พี่คลาวด์จะได้ตื่นเต้น ลืมเตียงนุ่มไปเลยไงคะ?
?มั่นใจขนาดนั้นเชียวว่าพี่ลืมเตียง สนใจทำรักกันในรถมากกว่า ว่าแต่ไม่มีสายตาใครเห็น เรื่องที่เราสมยอมทำกันแน่หรือจ๊ะ? เขาลังเลจะให้นางแบบสาว ที่เลื่อนขั้นจากพริตตี้โชว์รถในงานมอเตอร์โชว์ทำเสียวซ่านอย่างที่หล่อนกำลังลงมือ ปลดเปลื้องพันธนาการตรงส่วนล่าง
?มั่นใจสิคะพี่คลาวด์ขา?
แล้วนิ้วเรียวเล็บแดงจัด ล้วงลึกด้วยลีลาเหนือชั้น ทำให้คนที่คิดว่าตัวเองต้องแข็งใจไว้ กลับใจอ่อนยวบยาบ แถมบางสิ่งก็แปรสภาพจากนิ่มเป็นกระด้างขึ้นมาในเวลาไม่ถึงวินาที ด้วยมือเล็กที่พยายามปรนเปรอให้เขา
?สนใจมากกว่ามือไหมคะ พี่คลาวด์?
?หืม...มีมากกว่านั้นหรือครับ?
?นี่ไงคะ?
นิ้วเรียวเล็บแดง ชี้ไปตรงริมฝีปากหวานสีแดงสดไม่ต่างกับสีของเล็บยาว น่านฟ้ายิ้ม เคลิ้มเกือบจะไม่เห็นไฟสัญญาณจราจรเหนือศีรษะที่มันเปลี่ยนสีแล้ว
?พี่คลาวด์?
?อะไรหรือครับ?
?หนูมาว่า พี่คลาวด์ ควรจะออกรถได้แล้วนะคะ ไม่อย่างนั้นเราจะกลายเป็นจุดสนใจ ฟังสิเสียงแตร รถคันหลัง อย่างกันวงดุริยางค์?
ตัวการสร้างปัญหา ส่งสัญญาณให้เขา รู้ว่าขืนไม่รีบออกรถ จะถูกเคาะกระจกแน่ๆ เท้าหนักๆ ออกแรงกระทืบคันเร่ง ทะยานยานพาหนะสุดหรู ไปตามถนนเบื้องหน้า ขณะมือเรียวยังทำหน้าที่ ผิดที่ผิดทาง ทว่ากลับสร้างความพึงพอใจหนุ่มไฟแรงได้พอใจอย่างยิ่งยวด ขณะมองเห็นสวรรค์อยู่รำไร มาลิสาไม่หยุดแค่มือน้อยๆที่พยายามปั่นอารมณ์ดิบในกายชาย ทว่าริมฝีปากสีสดก้มลงไป จัดการกับสิ่งอลังการ ซึ่งเริ่มผงาดขึ้นมาเพราะฝีมือร้ายกาจของมาลิสา
โดยไม่คาดคิด อะไรที่ไม่ควรเกิด เกิดขึ้นเฉียบพลัน เมื่อเสียงโครมครามแผดคำรามดังกึกก้อง ราวกับฟ้าถล่ม ดินจะทลาย แผ่นดินไหวกลางกรุง ใบหน้าหล่อเหลา ไร้ทีติ ดุจเทพรูปงามลงมาจุติ คะมำไปด้านหน้า กระแทกกับพวงมาลัยเล็กน้อย ไม่ได้เจ็บอะไรมาก เสียงร้องแหลมกรีดดังลั่น เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งมือบางและปากรีบชักจากขอบกางเกงชายหนุ่มพร้อมๆกัน รวดเร็วราวกับในนั้นมีถ่านไฟร้อนๆ ต่างจากเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
?ตายโหง !!!?
น่านฟ้าสบถออกมาเสียงดัง หลังจากลูบคลำหน้าผากที่กระแทกกับพวงมาลัยรถ นี่ถ้าเขาขับมาแรงกว่านี้คงไม่ใช่แค่หัวกระแทกพวงมาลัยแน่ แอร์แบ็กคงได้ทำงาน สมสมรรถนะรถแน่ๆ เขาเห็นร่างบางเท้าเอว แต่งตัวเหมือนพวกแม่ชี ตีสีหน้ายักษ์ ผ่านกระจกรถฟีล์มหนา
?พี่คลาวด์เอาไงดีคะ?
?ทำไงล่ะ ต้องลงไปเจรจากับเขาสิเราชนท้ายเขานี่?
?เออ...หนูมาไม่ลงนะคะ พี่คลาวด์ลงไปคนเดียวนะ แดดร้อนหนูมาไม่ชอบแดด เดี๋ยวผิวเสีย?
มาลิสากรีดนิ้ว ใบหน้าเหยเก มองไปยังเบื้องหน้าที่รถชายหนุ่มไปจูบรถบนสีขาวคันหน้า แล้วเจ้าของก็ออมายืน เท้าเอวส่งสายตานางยักษ์มองอยู่เบื้องหน้า เห็นแค่นั้นก็ไม่อยากลงไปปะทะแล้ว น่านฟ้าก้าวลงจากรถ เมื่อกี้ยังมองเห็นสวรรค์แค่เส้นด้ายกั้นเขาก็มองเห็นนรกรำไร น่านฟ้าสำรวจรถตัวเองแล้วมองกวาด รถยนต์น่ารักคู่กรณี
?คนสวยจัดหนักงั้นหรือ? สติกเกอร์ กระจกหลังรถ ชวนให้ คนหล่อขนลุก สงสัยจะโดนจัดหนักจริงๆ ในเมื่อน่านฟ้ารู้ตัวว่าตัวเองผิดเต็มๆ
?ขับรถยังไง ซื้อใบขับขี่มาหรือไงคุณ? พอเห็นหน้าคนขับที่หล่อ รับกันทุกส่วนสัดในเสื้อเชิ้ตลายทาง เจ้าร่างเล็กคนสวยจัดหนัก ถึงกับมึนไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยอาการเดือดดาล ขับมาดีๆดันมีคนอยากจะจูบท้าย แถมเป็นถึงหนุ่มหล่อ พานให้หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง พอๆกับความโกรธที่คนหล่อ ขับรถไม่ไม่เคารพคนอื่น ทั้งที่การจราจรคับคั่งขนาดนี้ ยังชนมาได้
?พูดดีๆหน่อยคนสวย แค่ชนท้าย ผมไม่เห็นเสียหายอะไรมากเลย เรียกประกันก็สิ้นเรื่อง? น่านฟ้ากล่าววาจาไม่แคร์
?หึ คนรวยพูดง่ายดีนี่?
?ว่าแต่รถคุณมีประกันหรือเปล่าล่ะ? แม่ชีตรงหน้าถึงจะแต่งตัวเรียบร้อย เหมือนกับพวกครูบาอาจารย์ ทว่าร่างเล็กแบบบาง ช่างเย้ายวน ชวนฝัน เขาชักไม่อยากจะตกลงเรื่อง ความเสียหายของรถ อยากจะตกลงเรื่องเบอร์โทร หรือค่าตัวเจ้าของรถมากกว่า
?มี? พราวตะวันแค่นเสียงเย็นชา ถึงมีประกันใครจะอยากให้รถโดนชนจนก้นบุบแบบนี้ล่ะ ขณะสำรวจเรือนร่างและสายตาคมทรงเสน่ห์ สายตาเจ้ากรรมดันเห็นบางอย่าง ตำตาตรงเป้ากางเกงเขา ?อืม...? สมองเฉลียวฉลาดซ่อนคิด เท้าขยับเดินรอบกายชายหนุ่ม มองลงต่ำ ?สงสัยจะเล่นเสียวในรถ ถึงขับรถชนรถคนอื่นแบบนี้? วาจาชวนให้คู่กรณีหนาวจึงถูกพ่นออกมา
?นี่คุณหมายความว่ายังไง? วัวสันหลังหวะ เกิดอาการหวาดระแวงกับแววตาหวาน บนดวงหน้าสวย ที่สะกดเขาให้เคลิ้มได้ตั้งแต่นาทีแรก แต่เมื่อเจอคำพูดแบบนี้ น่านฟ้าถึงกับสะดุ้งก็ในเมื่อ สิ่งที่เขากับมาลิสาทำในรถ มันไม่ถูกที่ถูกทางสักเท่าไหร่ ถ้าเขาไม่ใจอ่อนกับสิ่งที่มาลิสาเริ่มเรื่องไม่เกิด ว่าแต่เจ้าหล่อนเห็นอะไร ถึงพูดออกมาแบบนั้น
?นี่ไง? ซิปที่ไม่ได้รูดขึ้น กับรอยลิปสติกสีแดงสด ติดอยู่ที่กลางลำตัวชายหนุ่ม หน้าหล่อ แต่คงโรคจิตชอบเล่นเสียวในรถ ในช่วงการจราจรคับคั่ง แล้วคำเฉลยปรากฏตรงประตูรถคันหรูด้านข้างคนขับ สาวสวยหุ่นสะคราญ สะโอดสะองราวกับนางแบบบนแคทวอร์ก แล้วสีลิปสติกที่ริมฝีปากสาวหุ่นดีนั้นก็เหมือนกับที่ติดอยู่เป้ากางเกง ผู้ชายหน้าหล่อหื่นจิตคนนี้
?เรียกประกันสิคะพี่คลาวด์ เราจะได้รีบไป? แขนเรียวคล้องที่ลำแขนชายหนุ่มหมับ เหมือนประกาศความเป็นเจ้าของในเวลาเดียวกัน
?นั่นสิครับ? ดรัณก้าวออกจากรถมายืนตระหง่านเคียงข้างอาจารย์สาวของตนด้วยเช่นกัน เขาจะลงมาตั้งนานแล้วแต่ถูกห้ามไว้หญิงสาวจะจัดการเองเพราะเรื่องเล็กน้อย เยาวชนไม่เกี่ยว แต่เมื่อสถานการณ์ไม่คลี่คลาย ดรัณจึงก้าวลงจากรถ เพื่อช่วยอาจารย์สาวของตนอีกแรง
?กินเด็ก? เสียงทุ้มรอดไรฟัน จากปากอิ่ม คู่กรณีแม้จะเบา ทว่าพราวตะวันกลับได้ยินชัดเจน ราวกับเขาตะโกนกรอกหูเลยเชียว
?อย่าคิดว่าคนอื่นจะเหมือนตัวเอง ต่างคนต่างเรียกประกัน จะได้จบๆปัญหาซะที คุณเองก็จะได้ไปต่อกับ....?
พราวจะวันมองกลางเป้าเขา โดยไม่เกรงใจ จากหันนั้นทั้งคู่ต่างคนต่างหยิบโทรศัพท์ เพื่อกดเบอร์ประกันของตัวเอง รออยู่ครู่ซึ่งค่อนข้างเสียเวลาสำหรับการเคลมประกัน ไหนจะต้องตรวจสอบ ถ่ายรูป เซ็นเอกสาร กว่าขั้นตอนพวกนั้นจะเสร็จ ปาเข้าไปร่วมชั่วโมง ที่ทั้งน่านฟ้าและพราวจตะวันต้องยืนปะทะสายตาขุ่นๆให้กันและกัน
?เรียบร้อยแล้วนะครับ?
?เชิญ? พราวตะวันยังคงเหยียดเสียง และสายตาใส่ชายหนุ่มหื่นไม่เลือกสถานที่ ?หวังว่าฉันคงไม่เป็นสาเหตุทำให้อารมณ์คุณค้างนะคะ? หญิงสาวว่าไปยิ้มเจ้าเล่ห์ไป
?เอ๊ะ นังแม่ชีนี้หมายว่ายังไงคะพี่คลาวด์?
?อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกจ้ะเรากลับกันเธอ แม่ชีจะได้ไปกินเด็กบ้าง?
?นี่คุณ?
ยังไม่ได้อ้าปากจะด่าชายหนุ่ม ร่างสูงสง่าสมส่วน ใบหน้าหล่อเหลา ผละจากไปพร้อมกับผู้หญิงของเขา ดรัณส่งเสียงเรียกให้หญิงสาวขึ้นรถที่ก้นยุบก่อนจะมีเรื่องยาว
?ไปไหนต่อกันดีคะพี่คลาวด์?
?พี่จะไปส่งหนูมาที่คอนโด?
?อ้าว ไหนบอกว่าจะพาไปช็อปไงคะ?
?หมดอารมณ์แล้ว ดูสิรถหน้ายับซะขนาดนี้? คนสวยจัดหนัก ร้ายไม่เบา อย่าให้เจออีกเด็ดขาด จะจับทำเมียเลย คอยดู น่านฟ้าปรามาส พราวตะวันในใจ ว่าแต่ไม่ได้ถามชื่อไว้เลย ส่วนพราวตะวันขับรถก้นยับๆ ไปส่งดรัณจนถึงบ้าน แล้วพาตัวเองกับวังนภมณฑล
?ไงกลับมาได้แล้วหรือยัยอาจารย์ไส้แห้ง?
หม่อมดุจดวง เอ่ยปากทักทายบุตรสาว ด้วยท่าทีมึนชา ได้แต่เดินวนรอบุตรสาวคนเล็ก ก่อนหญิงจะเห็นท้ายรถยับยู่ยี่ ทว่าก็ช่างเถอะ หม่อมดุจดวงร้อนใจเรื่องอื่นมากกว่า แค่ยานพาหนะ คันไม่กี่แสนบาทแค่นี้ นางนับนาทีรอทีเดียว จะต้องรีบเจรจา กับบุตรสาว ถือได้ว่าสำคัญต่อชีวิตคนในวังนภมณฑลเป็นอย่างยิ่ง การดิ้นเฮือกรนสุดท้ายของหม่อมดุจดวงจะสิ้นสุดลงเมื่อบุตรสาวคนเล็กตอบตกลงในข้อตกลง
?หม่อมแม่คะ....คุณสมบัติผู้ดีของหม่อมแม่หายไปไหนหมดคะ?
พราวตะวันแสร้ง กล่าวหามารดา คำกล่าวตั้งใจประชดเห็นๆ หมุนร่างสมส่วนอรชร ยืนประจันหน้ากับมารดา ไม่ลืมจะพุ่มมือไหว้ ครั้งที่เท่าไหร่กันนะ กับการต้องทนฟังมารดาพูดเสียดแทงหัวใจ ไร้สาระยัดเยียดความรู้สึกบ้าๆ นี้ให้กับเธอ ครั้นจะนับคงยกนิ้วนับไม่พอ แถมขี้เกียจนับให้เสียอารมณ์ นิสัยเสียอย่างเธอ ไม่ใช่พวกผู้ดีเก่าชั้นสูงเสียด้วยสิ กรอบเส้นหนาที่ท่านขีดไว้ เธอจึงพังทลายมันด้วยมือเสียทุกครั้ง ใครจะอ่อนนิ่มอย่างพี่สาวทั้งสองของเธอล่ะ ไม่ว่ามารดาสั่งให้ทำอะไรยอมทำตามทุกอย่างไม่ปลิปากคันค้านแต่อยางใด แม้จะต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่เคยพบหน้าค่าตากัน เพียงเพราะต้องการเงินมาจุนเจือคนในครอบครัว รวมถึงบรรดาบริวาร คราวนี้วงจรนั้นหันมาถึงตาเธออีกรอบหนึ่งแล้ว
?แกไม่ต้องมาทวนคุณสมบัติผู้ดีกับฉัน นั่งลงแล้วฟังอย่างเดียว?
?ไม่ตอบรับ แค่ฟังใช่ไหมคะ หม่อมแม่?
?ไม่ต้องกระแนะกระแหนกับฉัน สงบปากเสียบ้าง? หม่อมดุจดวงเชิดหน้า สีหน้าสีตาไร้แววล้อเล่น
?ว่ามาค่ะหม่อมแม่? ฝ่ายพราวตะวันเปลี่ยนสีหน้า เชิงประชดประชัน พลางเหยียดเสียงกล่าวกับมารดา บทสนทนาเครียดๆ จึงเริ่มต้น
?พรุ่งนี้ลางานที่โรงเรียนซะ หรือลาออกไปเลยยิ่งดี?
หม่อมดุจดาวสั่งบุตรสาวด้วยน้ำเสียงเข้ม นัยน์ตาดุดัน คอตั้ง หน้าเชิด ฝ่ายบุตรสาว ผู้จองหอง หัวรั้น ไม่ตอบรับในทันที กลับทำท่ายกนิ้วขึ้นนับ จนนิ้วมือตนไม่พอ คว้ามือหม่อมดุจดวง ทำท่าจะนับ แต่หม่อมดุจดวงไม่เล่นด้วย ชักมือส่งสีหน้าถมึงทึง ใส่หน้าพราวตะวัน
?อย่าได้เล่นมุกนี้กับฉันนังลูกเวร?
?หม่อมแม่ จุ๊ๆๆๆ ไม่เอาค่ะพูดไม่เพราะเลย พวกเราผู้ดีเก่านะคะหม่อมแม่?
?งั้นหรือ แค่เปลือกเท่านั้นแหละ ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้นในเมื่ออีกไม่กี่วัน วังนี้ก็จะกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคาร แก ฉัน และคนอื่นๆ จะไม่มีที่ซุกหัวนอน รู้ไว้ซะ? นิ้วหม่อมดุจดวงจิ้มลงกับหน้าผากมน เสียจนใบหน้าสวยแหงนหงายไปด้านหลัง
?อะไร....นะคะหม่อมแม่?
?แกฟังไม่ผิดหรอก ตอนนี้วังเราไม่เหลือทรัพย์ให้จำนำจำนองแล้ว แม้แต่ถ้วยโถโอชามของเก่าของแก่ประจำตระกูล ในตู้โชว์พวกนั้น พรุ่งนี้ก็ต้องมีเจ้าหนี้แห่กันมาแบกขนไปขายทอดตลาด?
?มันร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือคะ?
?ร้ายไม่ร้าย ถ่อสังขารไปถามหลวงพ่อแกที่วัดป่าโน่นสิ ทำอะไรไว้ ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ทิ้งภาระไว้ให้กับลูกกับเมีย?
?พราวไม่รู้มาก่อนเลยค่ะ?
?คราวนี้ก็รู้ไว้ซะ ฉันต้องดิ้นรน สายตัวแทบขาดเพราะอะไร ฉันผิดหรือที่ต้องสรรหาผู้ชายรวยๆให้แต่งงานกับพี่แกและแก? น้ำเสียงเข้มนั้นเริ่มสั่นพร่า กับทุกประโยคได้พ่นออกจากริมฝีปากให้บุตรสาวฟัง
?คราวนี้ใครอีกล่ะที่หม่อมแม่จะยัดเยียดให้พราว?
?โธ่....หม่อมหลวงพราวตะวันเจ้าคะ จะใครจะสนใจทำไม ในเมื่อทางนั้นสามารถกอบกู้ฐานะ กู้เกียรติยศและวังสับปะลังเคหลังนี้ไว้ได้? หม่อมดุจดวงหมุนกาย อ้าแขนไปกับความกว้างขวางของวังนภมณฑล วังนี้ใหญ่เกินกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆเพียงคนเดียวจะรับภาระไหว
?แม่ลองเล่าเรื่องราวโดยละเอียดให้พราวฟังหน่อยสิคะ เผื่อพราวจะหาทางผ่อนหนักให้เป็นบาได้บ้าง?
ที่ผ่านมาหม่อมดุจดวงมักใช้คำสั่งเกรี้ยวกราดกับลูกๆทุกคน ยัดสามีรวยๆให้โดยไม่บอกกล่าวความจริงลึกๆ ได้ซ่อนเร้นไว้ภายใต้ปัญหามากมาย แม้แต่บิดาซึ่งเดินเข้าสู่ร่มเงาแห่งแสงพระธรรม พราวตะวันและพวกพี่ๆยังไม่เคยรู้ความจริงเกี่ยวกับการจากไปโดยวิธีนี้ของท่าน ไม่ว่าเพื่อการณ์ใด เพื่อจุดประสงค์ใดเบื้องหลังยังทำไม่ถูกอยู่ดี กับการทิ้งภาระ ความรับผิดชอบไว้กับลูกเมีย จะว่าเบื่อทางโลกก็ใช่ที่ ในเมื่อบิดาเป็นถึงหม่อมราชวงศ์อันสูงเกียรติรุ่นสุดท้าย ทราบแต่ว่าหลังจากบิดาออกบวชโดยปราศจากเหตุผลกลใด จะได้บอกกล่าวกับภรรยาและลูกร่วมสิบปีนั้น
มารดาเอาแต่คร่ำเคร่ง เสียอกเสียใจเก็บเนื้อเก็บตัว เจอหน้าลูกๆทีไรได้แต่ดุด่าว่ากล่าว ด้วยน้ำเสียงแข็งๆ ทุกทีไป บัดนี้คำว่าวังซึ่งอาศัยตั้งแต่เล็กแต่น้อย จะต้องถูกธนาคารยึด จึงเป็นคำกล่าวใหม่ที่ออกจากปากมารดา แม้ตลอดเวลา มารดามักจะนัดให้เธอดูตัว เอารายชื่อและรูปผู้ชายฐานะดีในวงศ์สังคมชั้นสูงมาให้เธอเลือก ซ้ำร้ายกว่านั้น ยังนัดดูตัวไม่ให้เธอได้รู้ตัว พอเธอรู้มักเสียมารยาท ตอกคู่ดูตัวและมารดาหงายหลังทุกทีไป ไม่ว่าจะเดินออกมาจากโต๊ะอาหารหน้าดื้อด้าน เธอยังเคยทำมาแล้ว หรือบางทีไม่ไปดูตัวปล่อยให้ฝ่ายนั้นรอเก้อ นับสิบครั้งแล้วที่เธอเอาตัวรอดมาได้ ยกเว้นพี่สาวสองคน ซึ่งต้องแต่งกับเศรษฐีด้วยเหตุผลของพี่สาว ทำเพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ส่วนพราวตะวันนั้นหัวแข็งไม่ยอมใครง่ายๆ มักรอดตัวได้ทุกครั้ง
คราวนี้จะยังแข็งขืนอีกเห็นที จะแย่ หญิงสาวมองหน้ามารดา ด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อมารดาเริ่มต้นเล่าทุกสิ่งทุกอย่างด้วยน้ำตาให้หญิงสาวฟังอย่างหมดเปลือกโดยมีปิดบัง มารดาคงทนทุกข์มานานนักหนา ร่วมสิบปี ที่บิดาจากไปทิ้งหนี้สินอันประมาณค่ามิได้ ไว้เบื้องหลัง
?คราวนี้จะยอมช่วยแม่หรือยัง? หลังจากเล่าจบหม่อมดุจดวงเอ่ยปากถามพราวตะวัน ด้วยสีหน้าเช่นเดิม
?พี่แรม พี่เคียง ต้องทำแบบนี้ด้วยใช่ไหมคะ?
?ใช่ พี่แกสองคนเข้าใจแม่ดีกว่าแกเป็นไหนๆ คราวนี้ทรัพย์สมบัติ ชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่คือวังนภมณฑลแห่งนี้ ถ้าเรารักษาไว้ไม่ได้ บรรพบุรุษของเราจะสาปแช่ง เราสักแค่ไหน พราวลองคิดดูนะลูก? หม่อมเริ่มหว่านล้อมด้วยเสียงแผ่วเครือ
?ท่านพ่อหนีไปบวชเพราะหนี้สินอย่างนั้นหรือค่ะหม่อมแม่?
?ใช่สิ พ่อของลูกเห็นแก่ตัว ทิ้งหนี้สินทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ อันเกิดจากการทำธุรกิจล้มเหลวทั้งสิ้น ท่านพ่อถูกฟ้องล้มละลาย ท่านผิดหวังคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง ถ้าแม่ไม่เจอเข้าซะก่อน ป่านนี้พ่อคงเหลือแค่วิญญาณ? เข้าใจแม่นะลูก หม่อมดุจดวงพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า เรื่องที่เล่ามีทั้งจริงไม่จริงคละเคล้ากัน หวังใช้โน้มน้าวจิตใจบุตรสาวคนเล็ก เรื่องติดหนี้เป็นเรื่องจริง แต่เรื่องฆ่าตัวตายของบิดา นำมาเล่าประกอบให้ดูสมจริง เหตุผลของการหนี คือการบวชนั้นคือทางออกของผู้ชายเห็นแก่ตัว
?ทำไมเรื่องนี้พราวไม่รู้เรื่อง มาก่อนคะหม่อมแม่? ที่เธอรู้แค่ผิว พวกเธอแค่ผู้ดีปลายแถวตกยาก แต่ไม่รู้เบื้องหลังความตกยากจะเลวร้ายขนาดนี้
?พราวเรียนอยู่ต่างประเทศ?
พราวตะวันเรียนจบปริญญาตรีในประเทศไทย สาขาการทูตและวัฒนธรรมระหว่างประเทศ จากนั้นเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโท ยังสหรัฐอเมริกา ส่วนที่มีทักษะทางด้านดนตรีไทย เพราะได้คนในรั้วในวังช่วยสอน รวมทั้งด้วยความชอบพอจึงหาที่เรียนเสริมตามสถาบันสอนดนตรีทั้งไทยและสากล ครั้นพอกลับมายังเมืองไทย หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป เธอพบว่าบิดาหายหน้าหายตาไป มารดาบอกแต่เพียงว่า ไปปลีกวิเวก
ในตอนนั้น มีคนแปลกหน้าเข้ามาในวังไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อถามมารดา ท่านมักบอกว่า เขามาติดต่อธุระปะปังกับบิดา เธอปักใจเชื่อแบบนั้นไม่ได้ซักอะไร ต่อมาหลายสิ่งหลายอย่างได้ประจักษ์แจ้งขึ้นเรื่อยๆ แม้คำตอบต่อๆมาจะทำให้เธอรู้ว่า ตอนนี้พวกเธอถังแตก ไม่มีเงินไม่มีสมบัติอย่างที่ผ่านๆมา พราวตะวันจึงต้องหางานทำ รับเป็นอาจารย์สอนดนตรีอย่างที่รู้กัน ส่วนพี่สาวทั้งสองต้องทำงานเพื่อหาเงินมาจุนเจอค่าใช้ในวังด้วยเช่นกัน แม้จะทำเท่าไหร่รายจ่ายนั้นกลับวิ่งแซงรายได้เลยไปหลายเส้นชัย
มารดาจึงตัดสินใจ จับพี่สาวทั้งสองแต่งงานกับเศรษฐี ตามที่ท่านเสาะแสวงหา เงินที่ได้จากสินสอด ของพี่สาว ถูกนำมาจ่ายหนี้สิน หมดในชั่วพริบตา เธอเองหนีไม่พ้นชะตากรรมนี้เช่นกัน
?ไปดูตัวนะพราวแม่ขอร้อง? ผู้เป็นมารดาเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยในที่สุด
?พราว....ขอเวลาอีกสักหน่อยเถอะหม่อมแม่ รับรองหม่อมแม่จะได้คำตอบที่ดีแน่นอนพราวรับรองค่ะ? โลกทั้งโลกราวจะพังพินาศต่อหน้าต่อตาพราวตะวัน เธอต้องเจริญรอยตามพี่สาวทั้งสองอย่างนั้นหรือ เคยได้ยินแต่พวกคนใช้คุยกันให้กระทบหู ไม่วายคุณพราวต้อง ทำตามคำสั่งหม่อม อีกตามเคย
?จริงหรือพราว อย่าทำให้แม่ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกนะลูก ชะตากรรมของวังนภมณฑล อยู่ในมือลูกเพียงคนเดียวแล้วนะ? เพราะคุณหญิงอนงค์ อัครนาฏรับปากจะช่วยหากทำตามาข้อตกลงที่ได้ตกลงกันไว้ หนี้สินนับสิบๆล้านจะหมดลงภายในพริบตา ค่าตัวพราวตะวัน สูงกว่าพี่สาวทั้งสองเสียอีก
?ค่ะหม่อมแม่ แต่คราวนี้ ขอพราวเป็นคนนัดวันเวลาเองนะคะ?
?ได้จ้ะได้ ว่าแต่อย่าช้านักนะลูก สิ้นเดือนนี้ ทางธนาคารจะมายึดวังนี้แล้ว แม่คงทำใจไม่ได้ หากต้องปล่อยให้วังนี้ต้องขายทอดตลาด?
ผู้เป็นมารดาหยิบเอกสารหนี้สินต่างๆนานา วางลงตรงหน้าพราวตะวัน เพื่อใช้บีบบังคับ ทั้งเร่งรัดให้พราวตะวันตัดสินใจเร็วขึ้น หมายศาล จดหมายทวงหนี้ นับสิบๆ วางกองตรงหน้าพราวตะวัน เธอมองด้วยสายตาเหม่อลอย เธอคนเดียวจะสามารถช่วยครอบครัวและวังนภมณฑล และผู้ชายที่เธอต้องแต่งเพื่อร่วมหอลงโลงด้วย นิสัยใจคอ หน้าตา เป็นอย่างไร จบลงแล้วความรักสุดโรแมนติกกับผู้ชายที่เธอรัก ทั้งหมดเพราะหนี้สินที่ผู้ใหญ่ก่อ นัยน์ตาเศร้าสร้อย จ้องมองเอกสารในมือ หวนนึกถึงความรักที่มีให้ ผู้ชายที่จากไปนานเหลือเกิน นนทกร เปมทัต อดีตหวานใจเมื่อวัยศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน เธอไม่เคยลืมเขา
หัวใจมีเพียงเขาสลักไว้ไม่อาจลบเลือนไปได้ ถึงเขาจะจากไป หรืออาจจะมีคนใหม่ แทนเธอแล้วก็ตาม แต่เพราะข่าวคราวเงียบหาย แม้น้องสาวแท้ๆ ซึ่งคือเพื่อนร่วมห้องเรียนของเธอเอง ยังไร้คำตอบใดให้กับคำถามมากมายของเธอ เนตรรักบอกแค่ว่า นนทกร ไม่ได้ติดต่อกลับมานานแล้ว เขาเดินทางไปเรียนนักบิน อีกทั้งต้องเดินทางไปประเทศนั้นประเทศนี้ไม่ค่อยอยู่กับที่ ในฐานะนักบิน เธอได้แต่ถอนใจและเฝ้ารอการกลับมาของเขาด้วยความหวังริบหรี่

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
การแต่งงานกับมหาเศรษฐีเพื่อนำเงินสินสอดนำมาใช้หนี้ของพราวตะวัน เหมือนนภา โดยที่หล่อนไม่ได้ก่อหนี้พวกนั้นแม้แต่สตางค์แดงเดียวทำให้ชะตากรรมของหล่อนผกผัน
เช่นเดียวกับน่านฟ้า อัครนาฎ หนุ่มหล่อเจ้าสำราญมากรักผู้มีปมด้อยในใจ เขาถูกกำหนดให้แต่งงานกับใครที่เขาไม่เคยรู้จัก แต่เมื่อเขาได้พบหน้าว่าที่เจ้าสาวในวันดูตัวทั้งที่ข้างกายเขามีสาวร้อนแรงนอนแนบกาย อาการตกหลุมรักและเลิกต่อต้านจึงเกิดพร้อมๆ กัน จะเห็นมีเพียงเปลวปรารถนาแห่งการครอบครองเข้ามาแทนที่เท่านั้น
ในขณะที่ดรัณ เด็กหนุ่มผู้ตกหลุมรักอาจารย์ของตัวเองแบบถอนตัวไม่ขึ้น เขาเฝ้ารอให้ตัวเองเติบโตมีการงานที่เหมาะสมเพื่อได้รักอาจารย์สาวอย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งพราวตะวันเองก็ผูกพันกับลูกศิษย์ผู้อยู่เดียงข้างเธอทุกสถานการณ์ แต่จำต้องวิวาห์เพื่อหน้าที่กับเจ้าบ่าวตัวดีที่มารดายัดเยียดให้เพียงเพื่อคำว่ากตัญญูรู้คุณเท่านั้นเองหรือ เส้นทางหัวใจคนทั้งสามจะจบลงเช่นไร...เมื่อมันต้องเลือกทางเดินเพียงทางเดียว


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”