มันเป็นเช้าที่อากาศสดใสมาก...
มากเสียจนอดคิดไม่ได้ว่า... นี่มันเป็นเวลาที่ผมควรจะได้นอนหลับอุตุอยู่บนเตียงยุโรปขนาดคิงไซส์ ไม่ใช่เวลามาแหกปากแบบนี้เซ่!
?เดวิด โทมัส จูเลี่ยน!!!? ผมตะโกนเรียกบอดี้การ์ดคนสนิททั้งสามเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ และให้ตาย! กว่าไอ้พวกนั้นจะโผล่หัวมา...
?ขอรับนายท่าน!?
สิ้นเสียงขานรับ ผู้ชายร่างยักษ์ในชุดสูทสากลสีดำสนิทก็มายืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ตรงหน้า ทั้งสามคนใส่แว่นดำเพิ่มความน่าเกรงขาม แถมยังติดเครื่องส่งสัญญาณอะไรสักอย่างไว้ตรงใบหูนั่นอีก
?มาแล้วขอรับนายท่าน?
?ไปมุดหัวอยู่ไหนมา ฉันเรียกพวกแกตั้งแต่สองนาทีที่แล้ว!?
?นี่มันชั้นสามนะขอรับ -O-?
?ชั้นสามแล้วยังไง ถ้าฉันโดนคู่อริเล่นงาน ฉันคงตายไปตั้งแต่สิบวินาทีแรกแล้วโว้ย!?
?ผมเร่งเต็มกำลังอัตราสูบแล้วขอรับ ทะยานตัวมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ยินเสียงคุณชายชุนอิจิเลยนะขอรับ?
?แต่ก็ช้าอยู่ดี!? ผมยังคงหงุดหงิด
?ว่าแต่คุณชายมีอะไรเรียกใช้พวกผมหรือขอรับ?
?มีสิทธิ์อะไรมาซักถามฉัน ถึงเวลาจะพูดเองนั่นแหละ!?
?ขะ...ขอรับ T_T? ใครสักคนจากสามคนนั่นเอ่ยตอบ และถึงแม้ว่าทั้งหมดนั่นจะเป็นชายร่างยักษ์ (อันที่จริงควรเรียกว่าโคตรมหึมาด้วยความสูงราวๆ สองเมตร -*-) แต่น้ำเสียงที่ตอบโต้มากลับกลายเป็นน้ำเสียงหวาดหวั่นและดูเหมือนกำลังสะพรึงกลัว
แน่นอน... เพราะถึงสามคนนั่นจะน่ากลัวและไม่น่าเข้าใกล้ขนาดไหน แต่สิ่งเดียวที่น่ากลัวกว่าก็คือเจ้านายอย่างผมนี่แหละ -O-
ผมชื่อ ?ชุน? หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า ?คุณชายฮาเซงาวะ ชุนอิจิ? ก็ได้ ไม่มีปัญหา พ่อผมใหญ่ ถึงแม้จะไม่ใช่มาเฟียญี่ปุ่น แต่ก็นับว่าท่านมีอิทธิพลไม่น้อย ชื่อเสียงของพ่อโด่งดังทั้งๆ ที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย แต่ด้วยความที่ท่านเป็นคนจริง แน่นอนจริง จึงทำให้ผู้คนพากันสรรเสริญต่างหาก
ที่บ้านผม (โอเค ควรพูดว่า ?แค่พ่อผม?) ทำธุรกิจเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ทั้งในไทยและญี่ปุ่น ท่านเป็นคนญี่ปุ่นโดยกำเนิด แต่มาพบรักกับแม่ที่เป็นหญิงสาวชาวไทย ความรักทำให้ท่านเริ่มขยายกิจการมาถึงที่นี่ และทุกอย่างก็ดูจะสมบูรณ์แบบดี เมื่อท่านแม่คลอดลูกชายคนแรกซึ่งหน้าตาดีอย่างสุดซึ้ง (ผมเอง -O-) และหลังจากนั้นอีกสองปี ท่านแม่ก็คลอดลูกอีกคน แต่น่าเสียดายที่ท่านแม่สุขภาพไม่แข็งแรงพอ...
เพราะหลังจากคลอดลูกชายคนที่สองได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ ท่านแม่ก็เสียชีวิต...
คำพูดสุดท้ายที่ท่านบอกผมก็คือ...
?ให้ความรักและดูแลชินจังแทนแม่ด้วยนะลูก...?
ชินจังคือชื่อน้องชายผมเอง (อันที่จริงชื่อ ?ชินอิจิ? ต่างหากล่ะ -*-) ตอนนั้นผมไม่รู้จักความตาย ไม่รู้ว่าการถูกพรัดพรากจากคนบนสรวงสวรรค์จะทำให้เราสามแม่ลูกไม่ได้เจอกันอีก ผมรู้เพียงแค่ว่าผมต้องดูแลน้อง และให้ความรักทั้งหมดที่ผมเคยได้รับจากแม่ และถ่ายทอดไปยังน้องชายที่มีอายุเพียงหนึ่งสัปดาห์ซึ่งไม่เคยได้สัมผัสเหมือนผม ยิ่งท่านพ่อกลายเป็นคนบ้างาน ผมจึงต้องรับหน้าที่ในการดูแลน้องชายทั้งหมดเพียงลำพัง
โอเค ดูเหมือนว่าระหว่างเราจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ชินจังรักผม และผมก็รักชินจัง เราสองคนเป็นพี่น้องที่หน้าตาดีที่สุดในโลก (เกี่ยว?) และรักกันมากจนไม่อาจมีสิ่งใดมาขวางกั้นได้ จนกระทั่ง...
ผมได้อ่านข้อความในกระดาษแผ่นนี้ =O=
?ถึงเวลาที่ผมต้องออกไปฟัดโลกแล้ว...ลาก่อนครับพี่ชุน?
อะไร! นี่มันอะไรกัน! ใครก็ได้บอกชุนอิจิผู้หล่อเหลาที TOT~
?ชินจังหายไป!?
?อะไรนะขอรับ!? เดวิดตะโกนถามซ้ำ
?ฉันบอกว่าชินจังหายไปยังไงเล่า!?
?หายไปได้ยังไงขอรับ? โทมัสถามบ้าง
?ก็ในงานเลี้ยงเมื่อวานยังอยู่...? และนี่ก็มาจากจูเลี่ยน
?เออ ในงานเลี้ยงยังอยู่ ตอนงานเลี้ยงเลิกฉันยังเข้าไปบอกลาน้องรักก่อนนอนเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้หายไปแล้ว เข้าใจมั้ยว่าหายไปแล้ว!?
?หายไปได้ยังไงขอรับ? จูเลี่ยนพูดต่อ
โว้ย! ผมเริ่มจะรำคาญแล้วนะเนี่ย!!
?หายไปได้ยังไงก็ไม่รู้โว้ย รู้แต่หายไปแล้ว? ผมโวยวายอย่างเหลืออด -*-
ชินจังนะชินจัง ทำแบบนี้ได้ยังไง หนีไปฟัดโลกโดยทิ้งพี่ชายสุดหล่อเอาไว้ตามลำพังได้ยังไง TOT
เอ๊ะ! หรือว่าจริงๆ แล้วนี่เป็นแผนการของพวกคู่แข่งท่านพ่อ พวกที่พ่อไปยึดที่ดินมาทำห้างสรรพสินค้าแล้วเขาแค้นเคืองจนคิดหาวิธีเอาคืนโดยการจับลูกชายคนเล็กไปเรียกค่าไถ่...
ผมก้มลงมองแผ่นกระดาษในมืออีกครั้ง กระดาษเขียนจดหมายแผ่นบางถูกตวัดด้วยปากกาสั่งทำจากอิตาลี น้ำหมึกผสมทองคำบริสุทธิ์ 99.99% ที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก ซึ่งเป็นของขวัญวันเกิดจากผมเมื่อสองปีที่แล้ว และนั่นก็ทำให้ผมสังเกตเห็น...
?ถึงเวลาที่ผมต้องออกไปฟัดโลกแล้ว... ลาก่อนครับพี่ชุน?
ข้อความนี้มีบางอย่างแปลกไป...
ถึงนี่จะเป็นลายมือของชินจังจริงๆ แต่ถ้านับจากการกดปากกาด้วยแรงโน้มถ่วงขั้นรุนแรงจนกระดาษเกือบทะลุนี่แล้ว ผมมองว่ามันมีบางสิ่งผิดปกติ แล้วอย่างยิ่งข้อความต่อท้ายนั่น...
?ลาก่อนครับพี่ชุน?
เท่านั้นหรือ...
ไม่! นี่ต้องไม่ใช่ข้อความที่ชินจังต้องการจะเขียนแน่ๆ ผมมั่นใจเลยว่ามันต้องเป็นคำสั่งจากใครสักคนที่บังอาจบุกเข้ามาจับตัวน้องชายของผมไป และบอกให้ชินจังเขียนข้อความบ้าๆ นี่
ลาก่อนครับพี่ชุน...
ไม่ใช่แล้ว! เพราะถ้าชินจังเขียนเอง มันจะต้องต่อท้ายว่า ?พี่ชุนสุดที่รัก? เซ่!
?เดวิด โทมัส จูเลี่ยน!?
?ขอรับนายท่าน!?
?ออกตามหาชินจังที่ถูกลักพาตัวไป ณ บัดนาว!?
1
ย่านชุมชนไก่งวง...
ใช่! อ่านไม่ผิดหรอก มันอ่านว่า ?ชุมชนไก่งวง? จริงๆ ค่ะ =_= ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนตั้งชื่อซอยนี้ชอบกินไก่ง่วง หรือว่ามีสัตว์เลี้ยงเป็นไก่งวงกันแน่ แต่เอ... เท่าที่อยู่มา 19 ปีเต็มก็ไม่เคยเห็นไก่งวงเดินเพ่นพ่านสักตัวเลยนะ (และแน่นอน ฉันไม่เคยเห็นใครกินไก่งวงในซอยนี้ด้วย -O-)
เอ่อ ช่างมันเหอะ นี่ไม่ใช่เวลามานั่งสาทยายเกี่ยวกับประวัติของชุมชนไก่งวงสักหน่อย และฉันเองก็ไม่ได้ว่างขนาดจะมานั่งพูดให้ความรู้นั่นนี่กับใครได้ด้วย สายป่านนี้แล้วฉันเพิ่งตื่น และที่สำคัญ... ฉันยังไม่ได้เดินไปเก็บค่าเช่าห้องเลยจ้า TOT
อุ๊ย... บ่นมากจนลืมตัว จริงๆ แล้วฉันควรแนะนำตัวเองก่อนสินะ >_< แหม พอรู้ว่าจะต้องไปเก็บค่าเช่าทีไร สติฉันก็เตลิดทุกที ไม่ได้หรอก! คนในหอพักยิ่งชอบเบี้ยวอยู่ด้วย พอครบกำหนดจ่ายค่าเช่าก็ชอบทำเป็นไม่อยู่ห้อง ทำเป็นอ้างนู่นอ้างนี่ตลอด! ทั้งๆ ที่ค่าเช่าเดือนละแค่ 1,200 บาท ถูกซะยิ่งกว่าถูกยังชอบเบี้ยวกันอีก -^-
อ้าว... ฉันเผลอบ่นอีกแล้วเหรอคะเนี่ย TOT~
โอเคๆ ฉันชื่อ ?กอหญ้า? ค่ะ อายุ 19 ปีเต็ม เป็นเจ้าของหอพักเจริญศรี หอพักที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวของฉันที่คุณพ่อคุณแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนท่านเสียชีวิต
ฟังดูรันทดนะคะ... แต่ชีวิตของฉันไม่เศร้าสร้อยถึงขนาดนั้นหรอก ชีวิตคนเราต้องสู้กันต่อไปค่ะ ถึงแม้วันนี้ฉันจะไม่มีผู้ปกครอง และกลายเป็นเด็กสาวที่ต้องใช้ชีวิตตามลำพัง เงินเก็บมีน้อยนิด จำต้องหาเลี้ยงตัวเองด้วยเงินค่าเช่าหอที่สุดแสนจะถูกมหาถูก แต่ก็นะ... ค่าเช่ามันก็แปรผันตรงกับหอพักนั่นแหละ
หลายคนในย่านชุมชนไก่งวงมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหอพักเจริญศรีของฉันทั้งเก่าทั้งโทรม และน่ากลัวจนเกือบจะเหมือนบ้านผีสิง -O- ฉันว่ามันเว่อร์ไปหน่อยนะ อะไรกัน ก็แค่หอพักนี่สร้างด้วยไม้ (แถมยังมีแค่สองชั้น) อาจจะเก่าไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้โทรมขนาดเดินแล้วมีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเหมือนบ้านจะถล่มนี่ และถึงภายนอกจะดูเก่า แต่ภายในสะอาดเอี่ยมอ่องและน่าอยู่เป็นที่สุดเลยนะ! โดยเฉพาะห้องพักของฉันเอง ฮี่ๆ >_<
หอพักเจริญศรีของฉันสร้างจากไม้เนื้อดี มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสองชั้น คือชั้นล่างกับชั้นบน (บอกทำไม -*-) ด้านนอกถูกฉาบด้วยสีฟ้า (สีฟ้าจริงๆ นะ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้มันจะเลือนหายไปกลายเป็นสีขาวจางๆ แล้วก็ตามที) จำนวนห้องที่เปิดให้เช่ามีทั้งหมด 8 ห้อง แบ่งเป็นชั้นบน 5 ห้อง และชั้นล่างอีก 3 ห้อง ส่วนห้องที่ฉันอาศัยอยู่ก็อยู่ในเนื้อที่ของอาคารนี่แหละ แต่เป็นห้องพักขนาดใหญ่ที่กินเนื้อที่รวมเท่ากับห้องพักขนาดสองห้องรวมกัน คุณพ่อท่านเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด และเก็บพื้นที่บริเวณที่ดีที่สุดไว้สำหรับครอบครัวของเรา รวมไปถึงเป็นแหล่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างเลยด้วย
หอพักที่คุณพ่อออกแบบเป็นการจัดวางทุกอย่างแบบเรียบง่าย พื้นที่ด้านหน้าของทุกห้องจะมีระเบียงเพื่อให้ทุกคนเดินผ่านได้หมด (จริงๆ มันก็คือทางเดินธรรมดานั่นแหละ) ส่วนบันไดทางขึ้นชั้นสองก็จัดวางเอาไว้ใกล้กับห้องพักของฉัน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด เพราะฉันสามารถเพ่งเล็งได้ตลอดเวลาว่ามีคนนอกเข้าออกหอพักโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ และอย่างน้อยที่สุด... ในวันสิ้นเดือนแบบนี้มันก็ทำให้ฉันมองเห็นได้อย่างถนัดตาว่ามีใครกำลังจะแอบฉันเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงค่าเช่าหอหรือเปล่า!
และนั่น! มีคนกำลังเดินลงมาแล้ว!
?ผิงผิงจะไปไหนจ๊ะ ค่าเช่าห้องเดือนนี้ 1,200 บาทจ้า ค่าน้ำค่าไฟรวมแล้วตามบิลที่ส่งไปให้ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ รวมทั้งหมดก็ 1,358 บาท วันนี้ชำระหนี้วันสุดท้าย ถ้าเลทหรือเป็นโรคเลื่อนก็หาที่อยู่ใหม่ได้เลยจ้า?
?โธ่... กอหญ้า อะไรกันเนี่ย เจอหน้าก็ทวงแต่เงินนะ ผิงผิงกำลังจะเดินไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มมาให้นี่ไงล่ะ?
?ผิงผิงบอกว่าจะไปกดตั้งแต่เมื่อวาน?
?อ๋อ ผิงผิงลืมน่ะ?
?งั้นเดินไปกดด้วยกันเลยมั้ย กอหญ้าว่าจะเดินไปหน้าปากซอยพอดีเลย?
?=O=?
?ป่ะ ไปด้วยกันเลย? ฉันคะยั้นคะยอต่อ
?โอเค ได้ๆ เอาไปเลย 1,358 บาท? ซึ่งพอฉันรุกหนักเข้า ผิงผิงก็จนใจและยอมจำนนควักเงินมาจ่ายฉันเป็นอย่างดี
แหม เตรียมเงินไว้พร้อมแบบที่ฉันไม่ต้องทอนเลยแม้แต่บาทเดียวขนาดนี้ ถ้ายอมจ่ายง่ายๆ ซะตั้งแต่ทีแรก เรื่องมันก็จบไปนานแล้วน่ายัยผิงผิง ฮู่ว~
?สวัสดีจ้า มาเก็บค่าเช่าห้องจ้า?
พอเก็บค่าเช่าห้องจากผิงผิงมาได้ฉันก็เตรียมดำเนินการต่อไป เริ่มจากห้องแรกคือห้อง 103 ผู้อยู่อาศัยในห้องนี้เป็นผู้ชายวัยทำงานที่สวมแว่นหนาเตอะ ไม่สนใจโลกภายนอกและไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น -O- ตอนแรกที่เขามายื่นเรื่องขอเข้าพัก ฉันลังเลนิดหน่อย แต่ก็ 3 ปีผ่านไปแล้วล่ะที่ ?พี่คิม? อาศัยอยู่ที่นี่ และประวัติในการจ่ายเงินก็คือ... จ่าย 1 เดือน เบี้ยว 1 เดือนจ้า =O=
?โอย กอหญ้า เดือนนี้พี่ไม่มีเงินเหลือเลย พอดีหัวหน้าจะให้ไปสัมนาที่ภูเก็ต พี่ไม่เหลือเงินจ่ายค่าเช่าห้องเลย? พี่คิมพยายามอธิบาย
?กอหญ้าก็มีสัมมนาเหมือนกันเลยค่ะ เดือนก่อนหน้านี้ก็สัมมนา สี่เดือนที่แล้วก็สัมมนา สัมมนาเยอะดีเนอะ? ฉันกัดแขวะพี่คิมนิดหน่อย ก็แหม... พี่คิมน่ะเล่นมุกจะไปสัมมนาจนไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าตลอดเลยนี่
เอาเถอะ ถึงแม้ประวัติของพี่คิมจะเป็น ?จ่าย 1 เดือน เบี้ยว 1 เดือน? แต่นั่นไม่ได้หมายความฉันจะยอมให้เขาเบี้ยวได้ง่ายๆ สักหน่อย เพราะสุดท้ายแล้วฉันก็สามารถเก็บค่าเช่าจากเขาได้ทุกเดือนนั่นแหละ
?พี่ไม่มีเงินจริงๆ?
?กอหญ้าก็ว่างั้นแหละ พี่คิมไปทำงานสาย กว่าจะออกจากห้องก็เกือบเก้าโมง ทั้งๆ ที่งานเข้าเจ็ดโมงครึ่ง ลองย้ายหอไปอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานดีไหมคะ เผื่อจะไปเร็วขึ้น พี่คิมจะได้ไม่โดนหักเงินเดือน แล้วก็จะได้มีเงินเอาไว้ใช้จ่ายด้วย?
?=O=?
?เดี๋ยวกอหญ้าไปเอาสัญญายกเลิกเช่าหอมาให้นะคะ พี่คิมรอกอหญ้าแป๊บนึง...?
?เออๆ ค่าเช่าเดือนนี้ 1,517 บาท เอาไปเลย!?
?แหม จ่ายง่ายๆ แบบนี้จะได้อยู่กันนานๆ ขอบคุณนะคะพี่คิม ฮี่ๆ?
?รีบๆ ออกไปจากหน้าห้องพี่เลย ยัยงก!?
พี่คิมพูดแล้วก็ปิดประตูเสียงดังใส่หน้า แต่หึ! ฉันไม่สนหรอก เงินทองเป็นของมีค่า ต้องใช้จ่ายเหมือนกัน จะมาอาศัยว่าฉันเด็กกว่าแล้วอ้างนู่นอ้างนี่ได้ยังไง ถ้าฉันไม่ใจแข็งนะ ป่านนี้มีแต่คนคิดจะเบี้ยวฉันทั้งนั้นแหละ
พอหมดเรื่องจากพี่คิม ฉันก็เดินไปที่ห้อง 104 ซึ่งเป็นห้องของพลอยใส
?พลอยใส กอหญ้ามาเก็บค่าเช่าจ้า?
...เงียบ
โอ๊ย! ให้ตายเถอะ ยัยนี่คิดจะเบี้ยวค่าเช่าด้วยการโกหกว่าไม่มีคนอยู่ห้องอีกแล้วสินะ!
แต่หึ! พลอยใสเองก็รู้ว่าวิธีนี้ไม่เคยใช้ได้ผลเลย...
?พลอยใส ถ้าวันนี้ไม่จ่าย กอหญ้าจะไปบอกพี่เอส (แฟนของยัยนั่น -*-) ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนพลอยใสพาผู้ชายคนอื่นเข้ามาอยู่ด้วยนะจ๊า?
?ยัยกอหญ้า!!!? เสียงตะโกนดังขึ้น พร้อมๆ กับที่ประตูห้องของพลอยใสถูกเปิดออกพอดี
?ค่าเช่าห้องบวกค่าน้ำค่าไฟ รวมทั้งหมด 1,670 บาทจ้า ^_^?
เฮ้อ~ กว่าจะเก็บค่าเช่าครบทุกห้องนี่มันไม่ง่ายเลยนะ ถ้าทุกคนยอมจ่ายค่าเช่าแบบตรงต่อเวลาและไม่คิดจะเบี้ยวเลยเหมือนภูผาห้อง 105 กับน่านฟ้า ห้อง 202 ก็ดีน่ะสิ -*- ค่าเช่าแค่พันสอง ค่าน้ำค่าไฟก็คิดถูกกว่าที่อื่น ยังคิดจะเบี้ยวกันอยู่ได้ ไม่เหนื่อยกันบ้างหรือไงนะคนพวกนี้ ให้ตายสิ ห้องมีแค่แปดห้อง แถมยังว่างอยู่อีกตั้งสอง เดือนๆ นึงฉันมีรายได้ไม่เท่าไหร่เองนะ!
แต่เอ๊ะ... ไม่สิ ตอนนี้ฉันเหลือห้องพักว่างเพียงแค่ห้องเดียวเองนี่นา เพราะห้องแรกชั้นบน (ห้อง 201) ที่ตรงกับตำแหน่งห้องพักของฉันพอดีเพิ่งจะมีคนเข้ามาอยู่ใหม่ ฉันลืมไปซะสนิท ทั้งๆ ที่คนนี้ตกลงทำสัญญาเช่าแบบยอมจ่ายค่ามัดจำล่วงหน้าตั้งห้าเดือนแน่ะ! (ปกติคนอื่นๆ ไม่ยอมจ่ายเลย T_T) แถมสัมภาระอะไรก็ไม่มีมาเลย ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหรอก แต่ดูเหมือนน่านฟ้าที่อยู่ห้องติดกันกับเขาจะเป็นคนจัดการทุกอย่างให้น่ะนะ
พอเก็บค่าเช่าได้ครบทุกห้องแล้ว ฉันก็ผันตัวเองจากเจ้าหนี้มาเป็นคนใช้ประจำหอ ฉันทำงานส่วนรวมทุกอย่างนั่นแหละ ตั้งแต่ถูพื้นตรงระเบียงด้านหน้าทั้งสองชั้น ขัดพื้น กวาดเพดาน กวาดลานดิน รวมไปถึงรดน้ำต้นไม้ใบหญ้า ตัดแต่ง บลาๆ อีกด้วย
ฉันไม่มีเงินมากพอที่จะจ้างแม่บ้านหรอก เพราะฉะนั้นอะไรที่ฉันพอจะทำเองได้ฉันก็ทำเองมาโดยตลอด โชคดีที่วันนี้อากาศไม่ร้อนมาก ลมเย็นๆ พัดมาโรยตัวฉันให้พอชุ่มฉ่ำก็เลยอารมณ์ดีมากพอที่จะออกมากวาดใบไม้ใบหญ้าที่ตกหล่นอยู่ตามพื้นดินนี่ยังไงล่ะ
แกรก~ แกรก~
เสียงไม้กวาดทางมะพร้าวกระทบกับพื้นดินดังเป็นจังหวะ ผสมผสานกับเสียงจ้อกแจ้กจอแจของผู้คนในชุมชน
?เฮ้ย! พาฉันเข้ามาในซอยบ้าๆ นี่ทำไมวะ! ออกๆๆ พาฉันออกไปจากซอยนรกนี่เดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย!?
ที่... เอ่อ... ออกจะเสียงดังผิดปกติ -*-
แล้วอะไรนะ ฉันได้ยินเสียงใครบางคนเรียกที่นี่ว่าซอยนรกเหรอ ตายแล้ว! พูดจาแบบนี้เดี๋ยวก็ได้เป็นผีเฝ้านรกที่นี่จริงๆ ซะหรอก!
?ฉันบอกให้พาฉันออกไปยังไงล่ะ!?
?ก็คุณชายบอกให้เข้าไปตรวจตราทุกซอกทุกมุมนี่ขอรับ?
?ทุกซอกทุกมุม แต่ไม่ได้ถึงมุมนี้ จะบ้าหรือไงเดวิด นี่มันชุมชนบ้าบออะไรก็ไม่รู้ ทางเข้าก็เล็กยังกะรูหนู รถลีมูซีนของเราขับเข้ามาไม่ได้ด้วยซ้ำ ทางเดินก็เปียกแฉะ เหม็นก็เหม็น แกเอาสมองส่วนไหนคิดว่าชินจังของฉันจะเข้ามาอยู่ในซอยนี้ฮะ!?
?แต่คุณชายบอกว่าคุณชายเล็กอาจโดนจับตัวมา กระผมก็เลยคิดว่าน่าจะถูกพามาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่?
?ไร้สาระ?
?แต่ลองดูหน่อยก็ไม่เสียหายนี่ขอรับ เข้ามาถึงกลางซอยแล้ว จะถอนตัวออกไปก็กระไรอยู่?
?ไม่ต้องเข้าไปแล้ว ขนาดกลางซอยยังนรกแตกขนาดนี้ ถ้าขืนเข้าไปสุดซอยฉันคงหัวใจวายตายพอดี!?
ตึง!
ฉันโยนไม้กวาดทางมะพร้าวลงกระแทกพื้นจนเกิดเสียงดัง หน็อย! ทนฟังมานานแล้วนะ คำก็ซอยนรก สองคำก็นรกแตก ขอดูหน้าไอ้คนพูดนี่หน่อยเหอะ!
ฉันเดินออกไปที่หน้าประตูหอพัก แล้วก็ได้พบกับกลุ่มคนที่ส่งเสียงดังอยู่เมื่อครู่ (อันที่จริงตอนนี้มันก็ยังส่งเสียงดังกันอยู่ -*-) ภาพที่เห็นเป็นกลุ่มผู้ชายจำนวนสี่คน มีสามคนแต่งตัวเหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์เรื่อง MIB ใส่สูทสวมแว่นดำ แถมยังตัวใหญ่ทึนทึกอีกต่างหาก
ส่วนอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊ง เขาใส่เสื้อยืดสีครีม สวมทับด้วยคาร์ดิแกนสีเขียวเข้ม กับกางเกงขายาวสีเบจ รองเท้าผ้าใบหนาเตอะ และกำลังยืนกอดอกทำหน้าบอกบุญไม่รับกับพวก MIB อยู่ -.-
?จะพาฉันออกไปได้หรือยัง!?
?โธ่ คุณชายขอรับ อีกนิดนึงก็จะสุดซอยแล้ว อย่างน้อยเราก็จะได้ชื่อว่าค้นหาทุกซอกทุกมุมแล้วจริงๆ?
?ฉันบอกให้พาฉันออกไปยังไงล่ะ! ฉันเหม็นกลิ่นน้ำคลำจะแย่อยู่แล้ว?
อีตาคุณชายโวยวายต่อ นี่ถ้าเขากระทืบเท้าด้วยฉันคงคิดว่าอายุสมองของเขาไม่เกินสิบขวบแหงๆ -*-
?คุณชายเบาๆ สิครับ คนมองกันใหญ่แล้ว?
?มองก็ช่าง ถ้าใครมีปัญหากับคำพูดของฉันพวกนายก็จัดการสิ?
เฮอะ! ลูกน้องตัวเท่าควายชุบแป้งทอดขนาดนั้น ใครจะกล้ามีปัญหากับนายล่ะยะ ถึงแม้นายจะปากเสียมากๆ เลยก็เหอะ แต่ก็ไม่แน่หรอก ถ้าฉันเป็นผู้ชายฉันคงจะกระโจนไปต่อยปากเขาสักทีสองทีแล้ว โทษฐานปากเสียท่ามกลางชุมชนแบบนี้
?หรือเธอมีปัญหา ถึงได้มองฉันน่ะฮะ ยัยกระจอก!?
อ้าวเวร! ฉันแค่คิดเองนะเมื่อกี้ คำพูดร้ายกาจของอีตาคุณชายใจหมานั่นทำไมถึงราวกับรับรู้ความในใจของฉันอย่างงั้นล่ะ
?มองหน้าอีก หรือเธอคิดจะมีปัญหากับฉันจริงๆ?
คราวนี้ไม่แค่พูดแล้ว อีตาคุณชายมายืนกอดอกแล้วจ้องหน้าฉันใกล้ๆ เลยจ้า
?ว่าไง อยากมีปัญหาเหรอ ยัยกระจอก?
อื้อหือ... อยากจะรู้จริงๆ ว่าถ้ามันมาคนเดียวแบบไม่มีบอดี้การ์ด MIB มาด้วย มันจะกล้าทำตัวกร่างแบบนี้มั้ย -*- แล้วหึ... มาถามแบบนี้คิดว่าฉันจะกลัวจนหัวหดงั้นเรอะ! รู้จักกอหญ้าน้อยไปแล้วย่ะ!
?ใครกันแน่ที่อยากมีปัญหา นายน่ะสิมายืนโวยวายอะไรหน้าหอพักฉันไม่ทราบ?
?อะไรนะ!?
?นอกจากมีปัญหาแล้วหูยังตึงอีกสินะ มิน่าล่ะถึงได้พูดจาแหกปากเสียงดัง น่าสงสารจริงๆ?
?นี่เธอกล้าว่าฉันเหรอ?
?จะว่านายนี่มันต้องใช้ความกล้ามากขนาดนั้นเลยหรือไง?
?เธอไม่รู้จักฉันสินะ -_-?
?เออ ไม่รู้จัก ทำไม นายเป็นลูกของบริทนี่ย์ สเปียร์เหรอ ฉันถึงต้องรู้จัก หรือว่าเป็นลูกชายของเดวิด เบ็คแฮม?
?นี่... ยัยกระจอก!?
?นายเรียกใครว่ายัยกระจอก!?
?ก็เรียกเธอน่ะสิ ยัยกระจอก!?
?ฉันมีชื่อแซ่นะโว้ย!?
?ชื่อเธอมันก็กระจอกพอๆ กับหน้าตาเธอนั่นล่ะ?
?พูดยังกับรู้ว่าฉันชื่ออะไรอย่างนั้นแหละ?
?ไม่รู้ และก็ไม่อยากรู้ด้วย ฉันรู้แต่ว่าชื่อเธอมันกระจอก?
ไอ้... -*-
ชื่อฉันไม่ได้กระจอกสักหน่อย...
?เดวิด! โทมัส! จูเลี่ยน!? หมอนั่นหันไปพูดกับสมาชิก MIB อย่าบอกนะว่านั่นเป็นชื่อของสามคนนั้นอ่ะ-_- ?ออกไปจากซอยนรกนี่กันได้แล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ชินจังของฉันจะมาอยู่ที่นี่ เพราะมัน...?
เขาเว้นวรรคและค่อยๆ หันกลับมาทางฉันที่อยู่ที่เดิม ก่อนจะพูดต่อ
?...กระจอก!!?
เออ! ไปเลย! ออกไปซะเดี๋ยวนี้เลยไป ไอ้ไฮโซ ชอบกดขี่ชาวบ้าน!!!
ฉันภาวนาให้ไอ้พวกนั้นจรลีออกจากซอยไก่งวงไปไวๆ มนุษย์ MIB ทั้งสามยืดตัวตรงและกำลังจะรอให้นายปากหมาคนนั้นเดินนำไปแล้วแท้ๆ แต่กลายเป็นว่าอีตานั่นหยุดกึก...!
และเปลี่ยนเป็นวิ่งเข้าไปในหอพักของฉันแทน!!
?เฮ้! นั่นนายจะไปไหน ออกมาจากหอพักของฉันเดี๋ยวนี้นะ!? ฉันตะโกนเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้อีตานั่นหยุดวิ่งได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ทั่กๆๆ
และฉันก็วิ่งตามเขาเข้ามาหยุดอยู่ตรงลานว่างที่มีราวตากผ้าวางเอาไว้ วันนี้แดดไม่ค่อยจะดี ผู้คนในหอก็เลยไม่ยอมซักผ้า บนราวนั่นมีเพียงกระเป๋าเป้สีดำสลับแดงใบเดียวที่ตากอยู่ ฉันไม่รู้หรอกว่ามันเป็นของใคร และที่ไม่รู้เลยก็คือ อีตาคุณชายปากหมานั่นจะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับข้าวของของคนในหอพักฉันมิทราบ!
?วางมันลงที่เดิมเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คนไม่มีมารยาท!? ฉันด่าเขา พร้อมกับแย่งชิงกระเป๋านั่นกลับมา อย่างน้อยที่สุดฉันก็ต้องรักษาสิ่งของของบุคคลในหอพักเอาไว้ แต่อีตานั่นกลับกระชากกระเป๋ากลับไปอย่างรุนแรงจนฉันหน้าทิ่ม TOT
โอ๊ย! ไอ้สารเลว ฉันหกล้ม แทนที่จะมาช่วยกันบ้าง มัวแต่พินิจพิจารณากระเป๋าเฮงซวยนั่นอยู่ได้!
?นี่มัน...?
ฉันปล่อยให้ตานั่นพึมพำไปเรื่อย ในขณะที่ตัวเองก็กำลังพยายามยืนหยัดขึ้นมาใหม่ T_T เศษหญ้าติดเต็มขากางเกงฉันเลย ฮือๆ
และทั้งๆ ที่ฉันเพิ่งจะลุกขึ้นยืนได้เพียงสามวินาที อีตาคุณชายปากร้ายนั่นก็...
?ฉันถามว่าเธอเอากระเป๋าใบนี้มาจากไหน ยัยกระจอก!?
ก็ตะคอกใส่พร้อมๆ กับกระชากต้นแขนฉันด้วยน่ะสิ แง้ TOT เจ็บโว้ย!
?จะไปรู้เหรอ นี่มันของคนในหอพัก ไม่ใช่ของฉันสักหน่อย?
?อย่ามาโกหกนะ เธอขโมยมันมาใช่มั้ย กระเป๋าใบนี้ไม่ใช่ของกระจอกๆ นะ มันไม่ตลกเลยที่คนในหอพักของเธอจะมีข้าวของราคาแพงแบบนี้ได้?
ถ้าไม่คิดจะเชื่อก็ไม่ต้องถามแต่แรกสิฟะ!
?มันไม่ใช่ของฉัน!?
?แต่เธอทำท่าหวงมันนี่!?
?มันเป็นของคนในหอพัก ฉันในฐานะเจ้าของหอก็แค่ทำหน้าที่ปกปักรักษามัน ผิดตรงไหนเนี่ย -*-?
?ไม่จริง เธอขโมยมันมา?
?ฉันจะไปขโมยมันมาจากไหนล่ะยะ อีตาบ้า!?
?ก็ขโมยมาจากชินจังของฉันยังไงล่ะ!!?
รู้สึกเหมือนกับว่าฉันจะได้ยินคำว่าชินจังจากปากเขามาหลายรอบแล้วนะ อะไรกัน หมอนี่ติดการ์ตูนเหรอ มาตามหาชินจังก็ไปตามหาที่ญี่ปุ่นสิ มาตามหาในชุมชนไก่งวงทำไม หรือถ้าจะให้ดี นายก็ถอดกางเกงเต้นระบำเหมือนที่ชินจังชอบทำไปเลยก็ได้นะ จะได้ตามหาตัวง่ายๆ หน่อยไง ก๊าก~
?นี่เป็นกระเป๋ารุ่น Limited edition นะ ทั้งโลกมีแค่ 9 ใบ และหนึ่งในนั้นก็คือใบที่ฉันซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดชินจังเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งก็คือใบที่ฉันกำลังถืออยู่นี่!?
หมอนี่พูดอะไรวกไปวนมา ฉันงงไปหมด
?ใบนี้มันของก๊อบปี้ม้าง~?
?ไม่ก๊อบ นี่เธอคิดว่าฉันไร้ความสามารถ แยกแยะไม่ออกว่าใบไหนของจริง ใบไหนของปลอมอย่างนั้นเหรอ?
ฉันพูดไปถึงขนาดนั้นหรือยัง -*-
?นี่เป็นกระเป๋าของชินจังไม่ผิดแน่ เธอสารภาพมาซะดีๆ ว่าขโมยมันมาจากไหน!?
?โอ๊ย ฉันไม่รู้หรอก ชินจงชินจังอะไร นายเป็นมิซาเอะเรอะ!?
เอ... มิซาเอะมันเป็นแม่นี่หว่า แต่หมอนี่เป็นผู้ชาย... ถ้ามาตามหาชินจัง ก็คงจะ...
?หรือว่าเป็นชิโร่!?
หมาของชินจังน่ะ ฮ่าๆ
?ยัย...? อีตาคุณชายโมโหจนเส้นเลือดปูด ?บอกฉันมาตรงๆ ดีกว่าว่าไปขโมยกระเป๋าใบนี้มาจากไหน แล้วตอนนี้น้องชายของฉันอยู่ที่ไหน ไม่งั้นฉันจะให้บอดี้การ์ดทั้งสามของฉันทำร้ายเธอ!?
โอ้โหจ้ะ แมนมากจ้ะ ใช้ลูกน้องทำร้ายผู้หญิงจ้ะ -_-
?บอกมาเร็วๆ!? หมอนั่นตะคอกเสียงดังอีกรอบ ?จะพูดเองหรือว่าให้ง้างปาก!?
?ก็พูดไปหมดแล้ว ฉันบอกว่ามันไม่ใช่ของฉัน?
?มันไม่ใช่ของเธออยู่แล้วล่ะ ก็เธอขโมยมันมานี่!?
?โว้ย! บอกว่าไม่ได้ขโมย ฉันไม่ได้ขโมย แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของด้วย?
?เดวิด โทรเรียกตำรวจ? เขาหันไปสั่งลูกน้อง MIB คนหนึ่ง
แต่เฮ้ย! เรียกตำรวจเลยเหรอ ไม่ได้กลัวนะ แต่นี่มันไม่ใช่เรื่อง ถ้าเรื่องถึงโรงถึงศาล เดี๋ยวก็ไม่มีคนกล้าเช่าหอฉันพอดี มันเสื่อมเสียนะเว้ย TOT
?นี่ อีตาคุณชายใหญ่ ฉันว่านายตั้งสติหน่อยนะ พูดกันดีๆ ก็ได้ ฉันบอกไปแล้วไงว่านี่ไม่ใช่ของฉัน เออ! ฉันหมายถึงฉันไม่ได้ขโมยมาด้วย?
?ฉันไม่เชื่อเธอแล้ว ยัยนางนกกระจอกต่อ?
ค่ะ มันคือการผสมผสานระหว่าง ?นางนกต่อ? กับ ?ยัยกระจอก? ก็เลยกลายเป็นยัยนางนกกระจอกต่อ โอ้ว พระเจ้า เคยมีใครบอกเขาหรือเปล่านะว่าอีตานี่ช่างครีเอทมากๆ T_T
?เดวิด โทรเรียกท่านผู้กำกับเลย?
ผ...ผู้กำกับเลยเรอะ TOT
?ขอรับ... แต่ว่า...?
?ถ้าชักช้า ฉันจะไล่นายออก...? เขาตะโกนเสียงดังกว่าเดิม ?ทั้งสามคนนั่นแหละ!?
ฉันเพิ่งสังเกตเห็นในตอนนี้เองว่ามีผู้คนมากมายเข้ามายืนมุงดูพวกเราเต็มไปหมด รวมไปถึงคนในหอพักเจริญศรีของฉันด้วย คนในชุมชนไก่งวงนี้น่ะรู้จักหน้าค่าตากันตั้งแต่ต้นตระกูลยันลูกหลาน ฉันไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ เพราะต้องเรียนไปด้วยดูแลหอพักไปด้วย ยิ่งอีตาคุณชายเข้ามาสร้างความวุ่นวายแบบนี้ ชาวบ้านชาวช่องคงหาว่าฉันเป็นขโมยไปแล้วจริงๆ แง กอหญ้าเสียหาย TOT~
มนุษย์ MIB กำลังโทรหาตำรวจ อีตาคุณชายกำกระเป๋าเป้เจ้าปัญหานั่นไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างก็รั้งต้นแขนของฉันเอาไว้ ฮือๆ กลัวฉันหนีหรือไงฟะ ช่วยหันไปดูบอดี้การ์ดของนายซะหน่อยนะ ฉันจะวิ่งผ่านด่านมนุษย์ยักษ์นั่นไปได้ยังไง ถ้ามันยืนล้อมฉันเอาไว้หมดแบบนี้น่ะ กรี๊ด! ใครก็ได้ช่วยกอหญ้าด้วย~
และราวกับสวรรค์มาโปรด เพราะหนึ่งในไทยมุงที่ห้อมล้อมพวกเราอยู่ก็แทรกกายเข้ามา และโผล่หัวมาจากระเบียงชั้นสองของหอพักพร้อมกับเอ่ยพูดเสียงเบา...
?พี่ชุน...?
น้ำเสียงของเขานุ่มทุ้มฟังไพเราะเสนาะหู (อย่างน้อยก็เพราะกว่าเสียงอีตาคุณชายที่เอาแต่แหกปากตะคอกฉันก็แล้วกัน) ฉันรู้สึกเหมือนมีรังสีออร่าตกกระทบจนต้องเงยหน้าไปมอง แวบแรกที่เห็นฉันก็จำได้ทันทีว่าหมอนั่นคือลูกบ้านคนใหม่ที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาเมื่อไม่กี่วันก่อน และแน่นอนว่าไอ้คนที่จับต้นแขนฉันอยู่นี่ก็เงยหน้าขึ้นไปด้วย
และในทันทีที่เราสามคนประสานสายตากัน (หรืออันที่จริงควรจะพูดว่าผู้ชายสองคนนั้นมองหน้ากันเองมากกว่า -_-) อีตาคุณชายก็ปล่อยต้นแขนฉัน พร้อมกับปล่อยกระเป๋าเป้ลิมิเต็ดอิดิชั่นราคาแพงเว่อร์ลงสู่พื้นดินอย่างมิได้หวั่นเกรงว่ามันจะเปื้อนเลยแม้แต่นิด โชคดีที่ฉันเอื้อมมือออกไปรับได้ทัน และพอเอากระเป๋านั่นมาถือไว้ อีตาคุณชายก็ร้องลั่น...
?ชินจาง~ น้องพี่~TOT?
ปัญญาอ่อนฉิบหายเลย -__-;
----------------------------------------------------------
ฉันชื่อ ?กอหญ้า? เป็นเจ้าของหอพักน่ารักๆ ที่ชื่อเจริญศรี >O< ทุกวันที่นี่ก็สงบสุขดีกระทั่ง ?ชุนอิจิ? กับน้องชายของเขาโผล่มา ถ้ามาเช่าอยู่ดีๆ เหมือนคนอื่นก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่นายไฮโซนี่เล่นตกแต่งหอพักตามใจชอบโดยไม่ขออนุญาตฉันสักคำ ทั้งติดแอร์ แขวนแชนเดอเลียร์ตรงทางเดิน แถมยังอิมพอร์ตเชฟจากญี่ปุ่นมาทำอาหารให้กินในห้องอีก! (-_-*) พอฉันโวยวายเขาก็เถียงคอเป็นเอ็นแล้วจบประเด็นด้วยเงิน เฮอะ! ถ้ารวยนักทำไมไม่ไปปลูกบ้านอยู่เองล่ะย้าา~ =[]= เจ้าพวกนี้นี่ดูยังไงก็ไม่น่าไว้ใจ คนน้องก็ทำตัวลึกลับ ส่วนคนพี่ก็น่าสงสัยว่าจะอยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นวายที่เกิดในชุมชนตอนนี้ และฉันต้องรู้ให้ได้ว่าสองพี่น้องนี่เข้ามาที่นี่เพราะมีจุดประสงค์อะไรกันแน่!
