ภูเขาสีทองสลับซับซ้อนต้องแสงแดดอันร้อนระอุในยามเที่ยงวัน สายลมร้อนพัดไล้พื้นทรายสีทองเหลืองอร่ามกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาระลอกแล้วระลอกเล่า ก่อเกิดเป็นริ้วลายคล้ายคลื่นน้ำในทะเล เม็ดทรายเล็กละเอียดเต้นเร้าหยอกเย้ากับแสงร้อนของดวงอาทิตย์ ส่องแสงระยิบระยับราวมีเกล็ดเพชรกระจายอยู่
พื้นที่กว้างใหญ่ทางตอนใต้ของทะเลทรายกาบันด์แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของสามรัฐที่แยกตัวออกมาจากประเทศอิหร่านเมื่อหลายปีก่อนคือ รัฐอานาเวียร์ รัฐอากัตซอร์ รัฐเยเรซอร์ และในวันที่สิบเดือนรอบิอุล เอาวัลหรือเดือนสามของทุกปี ถูกกำหนดเป็นวันชาติของสามรัฐ งานเฉลิมฉลองวันชาติถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับมีพิธีสวนสนามของทหารกองกำลังผสมร่วมซึ่งมีหน้าที่คอยปกป้องพื้นทรายแห่งนี้
วันนี้จัตุรัสนาเวียร์ใจกลางรัฐอานาเวียร์เนืองแน่นไปด้วยชาวเมืองและชาวต่างชาติที่เข้าชมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ ในการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้ากฤชแสงจันทร์ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในรัฐให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ภายในอาคารพักชั่วคราว ผู้ปกครองรัฐที่มีพื้นที่มากที่สุดนั่งอยู่ข้างหน้าคือ ชีคฮันด์ อัลฟายาฟ อดัมพ์โกเมซ อาร์นัลดา ผู้ครองรัฐอานาเวียร์วัยห้าสิบเจ็ดปี ถนัดมาเป็นชีคจามิน อาเมียร์ดาล อัลอากัตซอร์ ผู้ครองรัฐอาร์กัตซอร์วัยห้าสิบเจ็ดปี ถัดไปเป็นชีคฮามัต เซเยฟ อัลคาดิฟา ผู้ปกครองรัฐเยเรซอร์ซึ่งเป็นขนาดเล็กรองจากรัฐอากัตซอร์ วัยสามสิบห้านั่งอยู่ด้านซ้าย ส่วนเก้าอี้ด้านหลังมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่และทูตจากหลายประเทศที่เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานนั่งอยู่อย่างเป็นระเบียบ เพื่อรอเวลาสำคัญที่สามรัฐจะประกาศความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ตัวแทนทหารสามพันนายยืนเรียงแถวอยู่เบื้องหน้าผู้นำเพื่อรอเวลา แต่ภายในห้องประชุมเล็กของหน่วยรักษาความปลอดภัยที่อยู่ไม่ไกลได้มีการเรียกประชุมลับอย่างเร่งด่วน เมื่อมีข่าวการลอบสังหารหนึ่งในสามผู้นำรัฐหลุดออกมา
ร่างสูงสง่าของนายพลรามาเอล อนาวิด อดัมพ์โกเมซ อาร์นัลดา ผู้บัญชาการกองกำลังองครักษ์พิเศษบุตรชายคนโตของชีคฮันด์ นั่งหน้าเครียดอยู่หัวโต๊ะในฐานะหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย เพราะข่าวการลอบสังหารผู้นำเพิ่งเล็ดลอดออกมาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานี้เอง ดวงตาคมกริบดุจอินทรีย์จ้องมองแผนที่การจัดงานที่กางอยู่บนโต๊ะ นายทหารองครักษ์อีกสิบคนต่างมองไปยังจอมอนิเตอร์ที่ติดตามจุดต่างๆ รอบบริเวณงานเพื่อหาความผิดปกติ ใบหน้าเคร่งขรึมของนายพลหนุ่มวัยสามห้าทำให้ร่างสูงกำยำในชุดพรางสีเขียวเข้มดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น
?กระจายกำลังสำรวจรอบบริเวณงาน รวมทั้งตึกสูงสี่แห่งที่อยู่รอบบริเวณนี้ทั้งหมด? ปลายนิ้วเรียวแข็งแรงชี้ไปที่อาคารสูงที่อยู่ทั้งสี่มุม นายทหารสองคนรีบโค้งคำนับและออกไปปฏิบัติตามคำสั่ง ส่วนคนที่เหลือก็ยืนรอคำสั่งด้วยใบหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน
?เราน่าจะงดพิธีการปฏิญาณตนไปนะครับ เพราะช่วงนั้นผู้นำจะยืนเป็นเป้าชัดเจนเกินไป? พันเอกฟรังซ์กล่าวเสริม ทำให้ทุกคนเงียบกริบเพราะนั่นคือจุดประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ซึ่งไม่สามารถล้มเลิกได้
?งานวันนี้ทุกขั้นตอนยังดำเนินไปตามปกติ แต่เราต้องเพิ่มกำลังอารักขาในขั้นตอนที่ฟรังซ์บอกเมื่อสักครู่? ทุกคนพยักหน้าเข้าใจและฟังขั้นตอนการอารักขาที่เพิ่มขึ้นมา
?ฟรังซ์ อาลี อัสซาน แล้วก็ฉัน จะอารักขาผู้นำสามรัฐเอง ที่เหลือกระจายกำลังกัน หาผู้ต้องสงสัยให้เร็วที่สุด? กล่าวจบทั้งหมดก็กรูออกจากห้องเมื่อใกล้พิธีการสำคัญ
องครักษ์คนสนิททั้งสามพยักหน้าให้กัน แล้วก้าวไปยืนอยู่ด้านหลังผู้นำทั้งสาม รามาเอลขยับแว่นกันแดดที่มีคุณสมบัติพิเศษคล้ายกล้องถ่ายรูป และสามารถจับความร้อนจากร่างกายคนหรือมองภาพไกลได้
ชีคฮันด์หันไปมองชีคจามินและชีคหนุ่มรุ่นลูกอย่างฮามัต ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือทั้งสองชูขึ้นเหนือศีรษะ เสียงปรบมือและเสียงโห่ไชโยของชาวเมืองทั้งสามรัฐที่เดินทางมาร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์วันนี้ดังกึกก้อง ทหารสวมชุดด้วยสีประจำเหล่า มีเหรียญตราประดับเต็มยศและมีตราสัญลักษณ์ของรัฐติดที่อกขวาต่างมองผู้นำรัฐอย่างชื่นชม
?พูดตามข้าพเจ้า เราทั้งหมดเป็นตัวแทนของรัฐ ขอตั้งปณิธานว่าจะร่วมกันปกป้องพื้นทรายที่เปรียบเสมือนเลือดเนื้อและจิตวิญญาณของเราด้วยชีวิต และเราจะไม่รุกล้ำอาณาเขตของกันและกัน เพื่อจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติตลอดไป?
เมื่อผู้นำกล่าวจบเสียงเซ็งแซ่ของเหล่านายทหารก็ดังกึกก้องอย่างเข้มแข็งไปทั่วพื้นทรายจนหลายคนขนลุก บรรดาชาวเมืองที่อยู่ในจัตุรัสเองก็ต่างเปล่งเสียงออกมาพร้อมๆ กัน ชีคฮันด์หันไปยิ้มกับชีคจามินและชีคฮามัตอย่างเป็นมิตร
ในขณะที่พิธีกำลังดำเนินไปนั้น ทุกคนไม่มีโอกาสรู้เลยว่าบัดนี้ทีมลอบสังหารผู้นำคนสำคัญได้คืบคลานเข้ามาในอานาเวียร์แล้ว
ดวงตาคมกริบภายใต้แว่นกันแดดอันใหญ่ปิดบังใบหน้าคมเข้มของรามาเอล กวาดมองไปรอบๆ ตัว ก่อนจะแหงนมองโรงแรมสี่แห่งที่ตั้งอยู่รอบจัตุรัส จนกระทั่งถึงโรงแรมอดัมพ์โฮเต็ล ดวงตาสีอำพันก็ชะงักค้างแทบลืมหายใจกับสิ่งที่ได้เห็น ปลายกระบอกปืนนำวิถีในมือชายลึกลับที่ปิดบังใบหน้าด้วยหมวกไหมพรมสีดำ มีเพียงดวงตาคมรีนิ่งสงบมองมาที่เป้าหมายนั่นก็คือบิดาของเขา
มือหนายกขึ้นแตะขาแว่นตาเพื่อจับภาพให้ชัดขึ้น ดวงตาสองคู่สบตากันในระยะไกล รามาเอลหัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อปลายนิ้วมือกำลังกดลั่นไกปืน
?ท่านพ่อระวัง? รามาเอลตะโกนบอกบิดาเสียงดังลั่น พร้อมกับผลักร่างบิดาล้มลงแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เมื่อกระสุนจากปืนนำวิถีเจาะเข้าที่อกขวาของชีคฮันด์ เลือดพุ่งกระจายออกมาทันที ฟรังซ์ อาลี และอัสซานต่างผลักชีคจามินและชีคฮามัตให้พ้นจากวิถีกระสุน จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้น
?อดัมพ์โฮเต็ล ชั้นบนสุด? เสียงรามาเอลสั่งการผ่านเครื่องมือสื่อสารที่ติดอยู่บนอกเสื้อดังลั่น
ทหารที่ยืนรอสวนสนามต่างวิ่งเข้าไปอารักขานายเหนือหัวของตัวเอง และหน่วยรักษาความปลอดภัยก็พาชีคจามินและชีคฮามัตหลบเข้าไปในห้อง
?ท่านพ่อ ท่านพ่อ? รามาเอลเข้าไปประคองศีรษะบิดา แต่ชีคฮันด์ไม่ได้สติ ใบหน้ายับย่นซีดขาวราวกระดาษ เลือดสดๆ ไหลรินออกจากร่าง ใบหน้าคมแหงนมองเฮลิคอปเตอร์ที่บินลงจอดเพื่อรับร่างชีคฮันด์ไปยังโรงพยาบาล
ข่าวการลอบสังหารผู้นำรัฐในงานฉลองวันชาติถูกสื่อต่างชาติตีแผ่ออกไปทั่วโลกในเวลาไม่กี่นาที หลายฝ่ายต่างออกมาแสดงความเสียใจและประณามการกระทำอันเลวร้ายนี้ผ่านโลกอินเทอร์เน็ตกันอย่างคึกโครม
เวลานี้บรรยากาศภายในรัฐอานาเวียร์เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ชาวเมืองหลายคนไปยืนรออยู่หน้าโรงพยาบาล บางคนนั่งสวดมนต์ของพรจากพระอัลลาห์ให้คุ้มครองผู้นำของพวกเขาให้ปลอดภัย บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมานองใบหน้า
****************************************************************************************************
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รามาเอลและหน่วยรบพิเศษของเขาก็มาถึงโรงแรมอดัมพ์โฮเต็ล ทหารเกือบร้อยนาย กระจายกำลังตรวจตรารอบบริเวณ แขกที่เข้าพักทั้งหมดถูกเชิญมารวมตัวกันที่ล็อบบี้ชั้นล่างเพื่อลงประวัติและตรวจสัมภาระ
?ฟรังซ์ อาลี ตรวจค้นทุกห้องจากชั้นล่างขึ้นไป ฉันกับอัสซานจะขึ้นไปที่ดาดฟ้า ห้ามให้ใครเข้าออกที่นี่โดยเด็ดขาด?
สั่งเสร็จ รามาเอลก็เดินเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับอัสซานและทหารอีกสิบนาย แต่ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดสนิทสายตาคมก็ไปสะดุดกับชายแก่ผิวดำแดง ลักษณะคล้ายคนเอเชียที่ยืนอยู่ท้ายแถว นายพลหนุ่มจึงเดินออกจากลิฟต์ตรงไปหา ดวงตาคมกริบมองใบหน้านั้นและถามออกไปอย่างสุภาพ
?คุณลุงมาจากไหนครับ?
?มาจากไต้หวันครับท่านนายพล เห็นเขาร่ำลือว่าทะเลทรายที่นี่สวยมาก ผมก็เลยมาเที่ยว? เสียงแหบพร่าของชายชราบอกด้วยรอยยิ้ม รามาเอลลอบพิจารณาคนตรงหน้าและแขกคนอื่นที่อยู่ด้านหลัง เมื่อไม่พบความผิดปกติจึงกลับเข้าไปในลิฟต์ ชายแก่ที่อ้างตัวเป็นชาวไต้หวันถึงกับเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งใจ แล้วเดินไปลงทะเบียนประวัติไว้กับทหารเหมือนคนอื่นๆ
?เจอหลักฐานอะไรไหมอัสซาน? นายทหารคู่ใจโค้งคำนับผู้บังคับบัญชา แล้วส่งคู่มือการใช้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทยักษ์ใหญ่รายหนึ่งให้แก่ผู้มาใหม่
?ไม่มีลายนิ้วมือ ไม่มีร่องรอยอื่นๆ หลงเหลือนอกจากหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เล่มนี้ครับท่านนายพล? มือหนายื่นไปรับแล้วเปิดอ่านเนื้อหาในเล่มด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จนกระทั่งมาถึงหน้าสุดท้ายที่มีเนื้อหาอธิบายถึงการใช้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่เพื่อหาพิกัดการเคลื่อนไหวภายในรัศมีไม่เกินห้ากิโลเมตร แสดงว่ามือปืนที่ลงมืออุกอาจในครั้งนี้คงเป็นโปรแกรมเมอร์ระดับหัวกะทิแน่ รามาเอลเดินสำรวจห้องพักที่เขามองมาเห็นคนชุดดำที่ลั่นไกปืนอย่างละเอียด
?ให้ฝ่ายความมั่นคงหาชนิดของปืนที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด และปิดห้องนี้อย่าให้ใครเข้าออกจนกว่าจะจับคนร้ายได้?
?เดี๋ยวผมให้คนของเราหารายชื่อโปรแกรมเมอร์มือดีในแถบนี้ด้วยครับ? ฟรังซ์บอกเสียงเรียบ แววตาดุดันไม่แพ้เจ้านาย
?หาโปรแกรมเมอร์แถบเอเชียด้วยนะฟรังซ์? สิ้นเสียงผู้บังคับบัญชา ฟรังซ์ อาลี และอัสซานถึงกับมองหน้านายพลรามาเอลอย่างใคร่รู้
?ท่านนายพลเห็นหน้าคนร้ายหรือครับ? อาลีถามเสียงเบาพอได้ยินกันสี่คน รามาเอลมองทหารที่ตรวจหาหลักฐานอยู่ในห้อง
?ไม่เห็น แต่ฉันมั่นใจ ดวงตาดำคมรีคู่นั้นไม่ใช่นักฆ่าทะเลทราย บวกกับรูปร่างไม่สูงใหญ่เหมือนชาวตะวันตก? รามาเอลมองไปยังหน้าต่างบานที่คนร้ายใช้ในการลงมือ พลางนึกถึงนัยน์ตาเยือกเย็น มุ่งมั่น และเต็มไปด้วยความรุ่มร้อนของคนร้าย
?งั้นเราก็มุ่งประเด็นไปที่นักท่องเที่ยวเอเชียที่เข้ามาในรัฐได้สิครับ? อาลีบอกแล้วรีบโทรศัพท์สั่งการไปที่กระทรวงต่างประเทศให้ตรวจเช็คชาวเอเชียที่เข้ามาท่องเที่ยวในอานาเวียร์ ทว่าการสนทนาจำต้องหยุดชะงักลงเมื่อโทรศัพท์ของฟรังซ์ดังขึ้น เจ้าของเครื่องพูดสายไม่นานก็ส่งให้รามาเอล
?คุณชายโกเมซต้องการเรียนสายด้วยครับท่านนายพล? รามาเอลหยิบขึ้นมาแนบหูและถามออกไปอย่างร้อนใจกับอาการของบิดา
?ท่านพ่อเป็นยังไงบ้างโกเมซ?
?พี่รีบมาโรงพยาบาลตอนนี้เลยนะครับ? คนปลายสายไม่ตอบคำถาม แต่ตอบกลับมาอย่างร้อนรนไม่แพ้กัน องครักษ์ทั้งสามขยับตัวเมื่อร่างสูงก้าวออกจากห้องอย่างรีบร้อน
กลุ่มนายทหารองครักษ์เดินออกจากลิฟต์ไปอย่างเร่งรีบ ทำให้แขกที่นั่งรวมตัวกันอยู่ในล็อบบี้หันไปมองอย่างสนใจ ชายชราที่มาจากไต้หวันมองร่างสูงสง่าของนายพลรามาเอลแล้วเหยียดยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะก้มหลบสายตาคมที่หันขวับมามอง แต่ความห่วงใยในความปลอดภัยของผู้ให้กำเนิด ทำให้รามาเอลไม่มีเวลาซักถามเพื่อไขข้อข้องใจของตัวเอง
ขบวนรถคาดิแล็คแบบทหารที่ติดตราวังวาเนียร์ด้านข้างวิ่งออกไปได้ไม่นาน ขบวนรถของชีคฮามัตก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ร่างผอมสูงขององค์ฮามัตก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปข้างใน ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ต่างโค้งคำนับ ใบหน้ายาวรีของชีคฮามัตยิ้มน้อยๆ เป็นการทักทายก่อนจะกวาดมองบรรดาแขกของโรงแรมที่นั่งรวมตัวกันอยู่ ก่อนจะหยุดสายตาที่ชายชราชาวไต้หวันและเดินเข้าไปหาช้าๆ
?ดูหน้าท่านลุงเหมือนจะไม่สบายใช่ไหม? ดวงตาเล็กรีทอดขนานกับคิ้วหนามองใบหน้ายับย่นของชายชรา ก่อนจะก้มไปประคองให้ลุกขึ้น ความปรานีและความอ่อนโยนที่ชีคหนุ่มแสดงออกมา ทำให้หลายคนมองด้วยสายตาชื่นชม
?โอ้ ขอบคุณในความกรุณาของท่านชีคผู้เมตตากับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างผม? ชายชรากล่าวออกมาด้วยเสียงแหบพร่าอย่างซึ้งใจ
?ไม่เป็นไร เราจะให้คนของเราพาท่านไปหาหมอเดี๋ยวนี้?
?เราคงปล่อยใครออกจากที่นี่ไม่ได้หรอกครับองค์ฮามัต เพราะเป็นคำสั่งของท่านนายพลรามาเอล? นายทหารยศร้อยเอกบอกอย่างนอบน้อมก่อนจะโค้งคำนับอย่างให้เกียรติ ชีคฮามัตถึงกับหันขวับไปมองด้วยแววตาดุดัน
?เจ้าไม่เห็นเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่สบายและต้องการหมอ พวกเจ้าใจดำเหมือนนายพลรามาเอลไม่มีผิด?
?เอ่อ กระผมขอรายงานท่านนายพลก่อนนะครับท่านชีค? นายทหารคนเดิมกล่าวอย่างนอบน้อมแต่ท่าทางลำบากใจ
?เจ้ากล้าขัดคำสั่งเรารึยังไง หรือกลัวว่าเราจะช่วยคนร้ายหนี ชายชราคนนี้เดินแทบจะไม่ไหว ถ้าเป็นคนร้ายก็แปลกแล้ว? ชีคฮามัตบอกอย่างไม่พอใจ ทำให้นายทหารโค้งคำนับแล้วถอยออกห่าง ?ฟามิน พาท่านลุงคนนี้ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้?
ฟามินขยับเข้าไปประคองชายชราตามคำสั่งนายเหนือหัวไปที่รถ และขับออกไปอย่างรวดเร็ว
****************************************************************************************************
รามาเอลเดินนำหน้าองครักษ์ทั้งสามคนไปยังห้องฉุกเฉินอย่างรีบร้อน ทหารที่ยืนเรียงรายตามจุดต่างๆโค้งคำนับอย่างจงรักภักดี โกเมซ อดัมพ์โกเมซ อาร์นัลดา เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงสง่าของพี่ชายแล้วลุกขึ้นยืน ดวงตาคมกริบของรามาเอลมองประตูห้องฉุกเฉิน เหมือนจะให้ทะลุเข้าไปเห็นบิดาที่นอนนิ่งอยู่ข้างใน
?อาการท่านพ่อเป็นยังไงบ้าง?
?หมอยังไม่ออกมาเลยครับพี่ราม แล้วได้เบาะแสคนร้ายหรือยัง? คำตอบคือความเงียบนั่นหมายถึงหลายอย่างยังไม่กระจ่าง
โกเมซมองกรามแกร่งที่นูนขึ้นเป็นสันอย่างไม่สบายใจ จากนี้เขาเชื่อว่าพี่ชายคงทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อหาศัตรูในเงามืดของรัฐออกมาให้ได้ ประตูห้องที่อยู่ถัดไปไม่ไกลเปิดออกพร้อมกับอัสซานเดินออกมาโค้งคำนับนายเหนือหัวทั้งสอง
?ฝ่ายความมั่นคงพร้อมกันที่ห้องประชุมแล้วครับ? อัสซานกล่าวรายงานและขยับไปยืนข้างฟรังซ์
?หมอออกมาให้คนไปรายงานพี่ทันทีนะโกเมซ? สั่งเสร็จร่างสูงสง่าบึกบึนก็เดินเข้าไปในห้องรับรองของโรงพยาบาลที่บัดนี้กลายมาเป็นห้องประชุมชั่วคราวของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับหัวกะทิ เพื่อตามจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้
นายทหารทุกคนต่างยืนขึ้นทำความเคารพนายพลรามาเอล ร่างสูงผ่านไปนั่งเก้าอี้หัวโต๊ะประชุม ส่วนองครักษ์ทั้งสามก็เดินไปยืนอยู่ข้างหลัง ใบหน้าเคร่งเครียดของนายพลหนุ่มมองไปยังภาพโปรแกรมเมอร์ที่แหล่งข่าวเพิ่งส่งมาให้ไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
?นี่เป็นรายชื่อโปรแกรมเมอร์คนสำคัญที่อยู่ในลิสต์ของตำรวจสากล คนพวกนี้จะแฮกข้อมูลของหน่วยงานสำคัญๆ เพื่อขายความลับให้กับฝ่ายตรงข้าม? รามาเอลมองภาพที่ปรากฏขึ้นอย่างพิจารณา อาลีในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์มือฉกาจของกองทัพกล่าวรายงาน ภาพชายหญิงปรากฏขึ้นบนผนังสีขาวหลายต่อหลายภาพก็ไม่มีความคิดเห็นใดๆ หลุดออกมาจากนายพลรามาเอล จนกระทั่งภาพของผู้ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น เสียงเข้มทรงอำนาจก็สั่งหยุดภาพทันที
?เดี๋ยว? ดวงตาคมมองใบหน้าขึ้นเหลี่ยมขาวสะอาด ภายใต้เรือนผมหยักศกสั้น ดวงตาคมรีที่ทอดขนานไปกับคิ้วดกดำ และแล้วดวงตาของคนร้ายที่เขาเห็นก็ซ้อนทับเข้ามา สายตาคมมองอักษรภาษาอังกฤษที่อยู่ใต้รูป ?ธนาธร วรกุล สัญชาติไทย อายุสามสิบห้า? ทุกคนในห้องขยับตัวเมื่อเห็นแววตาเรืองรองและดุดันของผู้บังคับบัญชาหนุ่ม ?ขอรายละเอียดทั้งหมดของผู้ชายคนนี้?
เร็วเท่าคำสั่ง รายละเอียดของธนาธร วรกุลก็ปรากฏขึ้น
?ธราธร วรกุล อายุสามสิบห้า ถือสัญชาติไทย จบปริญญาโทด้านการสื่อสารจากมหาวิทยาลัยในบอมเบย์ ขณะเรียนอยู่ที่นั่น ธนาธรเคยร่วมกับกลุ่มหัวรุนแรงแฮกข้อมูลหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลอินเดีย และถูกจับได้ ทำให้เขาต้องจำคุกในอินเดียสองปี พอออกจากคุกก็กลับมาตั้งบริษัทเล็กๆ ในเมืองไทย ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่งให้กับหลายบริษัท มีน้องสาวคนหนึ่ง เป็นเจ้าของร้านดอกไม้อยู่ที่เมืองไทย พ่อแม่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมใหญ่ทางการเมืองเมื่อหลายปีก่อน?
?ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศมีรายละเอียดของธนาธรไหม? รามาเอลถามเสียงเรียบ มองรายละเอียดอย่างสนใจ
?จากรายงานที่ส่งมาไม่มีชื่อธราธร วรกุลเดินทางเข้าอานาเวียร์เลยครับท่านนายพล? อัสซานรายงาน ทำให้คิ้วหนาเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบยกขึ้นอย่างแปลกใจ
?นี่เป็นรายชื่อนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่เดินทางมาเยือนอานาเวียร์ภายในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา? กล่าวจบอัสซานก็ฉายภาพของนักท่องเที่ยวทั้งหญิงและชายชาวเอเชีย จนมาถึงภาพสุดท้ายซึ่งเป็นภาพชายชราผมสีขาว มีหนวดเครายาวปกคลุมใบหน้าเหมือนชาวจีนสูงอายุทั่วไป ดวงตาคมเข้มของนายพลหนุ่มหรี่มองเพราะรู้สึกคุ้นหน้า อัสซานเห็นบางอย่างในสายตาของนายเหนือหัวจึงกดฉายรายละเอียดเกี่ยวกับคนในรูปทันที
?ข้อมูลในวีซ่าของผู้ชายคนนี้ ระบุชื่อคือนายชาง เฉิน เป็นชาวไต้หวัน เดินทางเข้ามาในอานาเวียร์เมื่อวานเพื่อชมพิธีฉลองวันชาติของเรา ตอนนี้พักอยู่ที่อดัมพ์โฮเต็ล? สิ้นเสียงองครักษ์คนสนิท ภาพชายชราท่าทางอ่อนแอที่เขาเข้าไปสนทนาด้วยเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วแวบเข้ามาในหัว ร่างสูงสง่าของรามาเอลก็ลุกพรวดขึ้น พร้อมกับสั่งการไปทันที
?ฟรังซ์ อาลี ให้คนของเราจับตัวชาง เฉินไปที่กระทรวงกลาโหมเดี๋ยวนี้ อัสซานปิดล้อมสนามบินไว้ ห้ามเครื่องบินทุกลำออกจากรันเวย์เด็ดขาด? กล่าวจบทุกคนก็แยกย้ายไปปฏิบัติการณ์ทันที เพื่อตามล่าคนที่ลงมือสังหารนายเหนือหัวที่พวกเขารักดุจชีวิต
เสียงฝีเท้าคนกลุ่มใหญ่เดินตรงมาที่ห้องรับรองของโรงพยาบาลหลวง ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกด้วยมือของทหารเวรที่ยืนอยู่ด้านหน้า ทุกคนในห้องประชุมลุกขึ้นยืนและโค้งคำนับชีคจามินและชีคฮามัตที่เดินเข้ามา ชีคจามินสบตานายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในห้องด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
?คืบหน้าไปถึงไหนแล้วรามาเอล? เสียงแหบพร่าของชีคชราที่เพิ่งผ่านนาทีแห่งความเป็นความตายมาหมาดๆ ถามออกมาก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ที่ทหารนำมาให้ แต่ชีคฮามัตยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ สายตาจับจ้องภาพชายชราบนผนังที่เขาเพิ่งให้องครักษ์พาไปส่งโรงพยาบาลเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา
?คืบหน้าไปพอสมควรครับท่านอา ตอนนี้ฟรังซ์กับอาลีกำลังไปจับตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนที่กระทรวงกลาโหมอยู่ครับ? รามาเอลบอกหลังจากที่นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม สายตาคมมองร่างผอมสูงของชีคฮามัต ที่ยังคงสนใจกับภาพที่เปิดค้างไว้ ?นายรู้จักผู้ชายในรูปนั้นเหรอฮามัต
ฮามัตหันไปมองคนถาม แล้วนั่งลงข้างชีคจามิน
?ทำไมจ้องหน้าฉันแบบนี้ล่ะราม? ชีคฮามัตตอบกลับน้ำเสียงยั่วอารมณ์ รามาเอลยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก ก่อนจะเหลือบตามองภาพบนผนัง
?นายมองเหมือนรู้จักผู้ชายคนนี้?
?ก็เพิ่งรู้จักเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง? ชีคฮามัตสบตาคมเข้มที่เต็มไปด้วยคำถามของนายพลหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และบอกออกไปว่า ?ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ ฉันแวะไปที่โรงแรมอดัมพ์โฮเต็ล เห็นผู้ชายคนนี้ท่าทางอิดโรยไม่สบาย ฉันก็เลยให้ฟามินพาไปส่งโรงพยาบาล?
ได้ยินเพียงเท่านั้นร่างสูงใหญ่ของนายพลรามาเอลก็ลุกพรวดขึ้น ดวงตาคมแข็งกร้าวจนดูน่ากลัว
?อะไรนะ นายพาผู้ชายคนนั้นออกจากอดัมพ์โฮเต็ลแล้วเหรอ? เร็วเท่าความคิดมือใหญ่หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาองครักษ์คนสนิททันที
?ฟรังซ์ ไปที่สนามบินเร็ว ชาง เฉินน่าจะไปที่นั่น? รามาเอลสั่งเสียงเข้ม สายตาจับอยู่ที่ใบหน้าผอมยาวจนเห็นโหนกแก้มของชีคฮามัต โทรศัพท์ถูกสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงทหาร ไม่นานก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
?ว่าไงอัสซาน?
?มีเครื่องบินลำหนึ่งออกจากสนามบินก่อนหน้าที่เราจะสั่งปิดสนามบินเมื่อสิบนาทีที่แล้วครับ? คำบอกเล่าของคนปลายสาย ทำให้ร่างสูงออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
?ตรวจสอบปลายทางแล้วสั่งคนของเราดักรอที่นั่น?
?เกิดอะไรขึ้นราม? จามินถามเมื่อเห็นความผิดปกติบางอย่าง
?คนที่เราสงสัยออกนอกประเทศไปได้ครับท่านอา? รามาเอลบอกพลางชำเลืองมองชีคฮามัตที่นั่งมองเขาอยู่
?ถ้าผู้ชายแก่ๆ คนนั้นแบกปืนมาฆ่าคนได้ ฉันว่ามันแปลกไปหรือเปล่าราม หรือนายต้องการโยนความผิดมาให้ฉัน?
?อย่าร้อนตัวสิฮามัต คนเจ็บคือพ่อฉัน คนร้ายจะเป็นใครฉันก็ต้องล่าตัวมันมารับโทษอยู่แล้ว และใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเลวร้ายทั้งหมด อานุภาพของกฤชแสงจันทร์จะลงโทษคนผู้นั้นไม่ช้าก็เร็ว? รามาเอลบอกอย่างดุดัน มือหนากำเข้าหากันแน่นอย่างโมโห ความโกรธแค้นอัดแน่นอยู่ในอกจนแทบจะระเบิดออกมา และก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปกว่าเดิม โกเมซก็เปิดประตูเข้ามา
?หมอออกมาแล้วครับ? โกเมซบอกแล้วรีบกลับออกไป รามมาเอลและชีคจามินเดินนำทุกคนออกจากห้องอย่างรีบร้อน ใจห่วงคนที่ได้รับอันตรายจนไม่มีใครเอ่ยถามออกไป
รามาเอลเดินตรงไปหน้าห้องฉุกเฉิน นายแพทย์วัยกลางคนสวมแว่นสายตาท่าทางอ่อนโยนพร้อมกับทีมแพทย์น้อมคำนับผู้นำรัฐอย่างเคารพ พร้อมกับผายมือเชิญทุกคนไปที่ห้องรับรอง
?อาการท่านพ่อเป็นยังไงบ้างหมอ? โกเมซถามทันทีที่ประตูห้องรับรองปิดลง ทุกสายตาจ้องหัวหน้าทีมแพทย์ด้วยสีหน้าบ่งบอกถึงความเคร่งเครียด ใจจดจ่อรอคอยคำตอบที่จะได้ยิน
?กระสุนเจาะทะลุปอดจนฉีกขาด อวัยวะภายในเสียหายพอสมควรครับท่านนายพล สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือสวดขอพรต่อองค์อัลลาห์ให้ประทานความเข้มแข็งและชีวิตใหม่ให้กับองค์ฮันด์? สิ้นเสียงคุณหมอ ห้องทั้งห้องเงียบกริบ ทุกคนนิ่งราวถูกสาปกับสิ่งที่ได้ยิน
เมื่อเหตุการณ์เลวร้ายยังอยู่ สิ่งที่รามาเอลทำได้ตอนนี้ก็คือรวบรวมความเข้มแข็งและจัดการงานทุกอย่างแทนบิดาอย่างมีสติ ร่างสูงสง่าสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ชีคจามินบีบไหล่แกร่งอย่างให้กำลังใจ
-------------------------------------------------------------------------------------------
หล่อนเหยียบย่างดินแดนสีทองอันกว้างใหญ่แห่งนี้ด้วยความผิดติดตัวที่ไม่ได้ก่อ พิมพ์ดาราไม่กลัวบทลงทัณฑ์ใดๆ จากนายพลรามาเอลผู้ยิ่งใหญ่ ทว่าหล่อนต้องสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดโดยมิใช่เพราะกลัวความตายที่รออยู่เบื้องหน้า หากแต่เป็นเพราะเขาจู่โจมพรมจูบดูดดื่มที่ริมฝีปากบางก่อนซุกไซ้ที่หลังใบหูเล็ก ลมหายใจอุ่นๆ ปะทะต้นคอขาวในขณะที่ฝ่ามือร้อนลูบไล้ทรวงอิ่มจนเม็ดทับทิมโตตระหง่าน ร่างบางแน่งน้อยของพิมพ์ดาราสะดุ้งวาบแอ่นกายเข้าหาความซ่านเสียวอย่างอดไม่ได้ ริมฝีปากร้อนจึงวกมาบดกลีบปากนุ่มอีกคราพร้อมกับมือหนาที่บีบคลึงอกเต่งอย่างเร่าเร่ง เสียงครางของทั้งสองสอดประสานขานรับความสุขซ่านปานจะขาดใจ ซาตานร้ายเช่นเขาหวังจะทรมานหล่อนด้วยพิศวาสทว่าแรงตอดรัดจากความคับแคบทำให้เขาภูมิใจ ความต้องการปีนป่ายจนถึงขีดสุดพร้อมกับพลังรักรัดร้อยหัวใจสองดวงเข้าหากัน ความรักความเข้าใจและการให้อภัยถ่ายทอดผ่านถึงกันโดยสัมผัสแผ่วเบาที่ไม่ต้องเอ่ยคำ ความสุขหลั่งไหลถักทอสายใยผูกพันให้อาญาร้ายแปรเปลี่ยนเป็นอาญารักที่จะจองจำหล่อนไว้ตลอดชีวิต
