New Release:My First Lover พิชิตรักอันตรายผู้ชายพันธุ์เถื่อน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1101
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release:My First Lover พิชิตรักอันตรายผู้ชายพันธุ์เถื่อน

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ

?ลูกขอปฏิเสธเพคะเสด็จแม่!?
น้ำเสียงจริงจังบอกปฏิเสธทันทีที่ราชินีมากาวีน่า ดาริบเฟียล ดารุชที่ 7 บอกถึงสิ่งที่ต้องการแก่ลูกสาว
?ทำไมล่ะมู่หลาน เจ้าชายไดรฟ์มอลทรงเป็นคนดี แม่ยืนยันได้นะลูก? ราชินีทรงพยายามเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง
?แต่การหมั้นหมายกับชายที่ไม่ได้รักเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก ทำไมเสด็แม่ถึงอยากจะให้ลูกหมั้นกับชายที่ลูกไม่ได้รักล่ะเพคะ? เจ้าหญิงเมทาริเซีย ดาริบเฟียล ดารุชที่ 8 หรืออีกพระนามหนึ่งคือเจ้าหญิงมู่หลาน ยังคงยืนยันในสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่น
?นั่นก็เพราะลูกคือรัชทายาทอันดับหนึ่งของประเทศนอร์ก้าไงล่ะ ตามกฎแล้ว ลูกก็รู้ดีว่าลูกจะต้องขึ้นครองราชย์เมื่อมีอายุครบสิบแปดปี โดยที่จักต้องมีราชาอยู่เคียงข้าง และแม่ก็คิดว่าเจ้าชายไดรฟ์มอลทรงเหมาะสมกับลูกของแม่มากที่สุด?
?แต่ลูกเพิ่งจะสิบหกเองนะเพคะ มันไม่เร็วเกินไปหน่อยหรือ?
?แม่หมั้นกับเสด็จพ่อของลูกตอนแม่อายุได้เพียงสิบห้าปีเท่านั้น?
?แต่...?
?ไม่มีแต่ แม่ขอยื่นคำขาดเรื่องนี้ ลูกต้องหมั้นกับเจ้าชายไดรฟ์มอล งานหมั้นจะถูกจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ?
?เสด็จแม่!?
?อ้อ! และที่สำคัญอีกอย่าง อีกสามวันเจ้าชายไดรฟ์มอลจะเสด็จมาทำความรู้จักกับลูกของแม่ ลูกรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำตัวอย่างไร อย่าทำให้แม่เสียหน้าล่ะ เจ้าหญิงมู่หลาน?
ราชินีทรงเน้นเสียงหนักแน่น เจ้าหญิงมู่หลานได้แต่เม้มปากอย่างน้อยใจที่ไม่สามารถออกความคิดเห็นในเรื่องคู่ครองของตนเองได้เลย

ห้องบรรทมของเจ้าหญิงหมู่หลาน
?เจ้าหญิงของหม่อมฉันทรงคิดมากเรื่องอะไรหรือเพคะ?
สเตล่า ราชเลขาฯ คนสนิทของเจ้าหญิงมู่หลานเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเจ้าหญิงมู่หลานของเธอเอาแต่นั่งซึมไม่พูดไม่จา และไม่ยอมเสวยอะไรเลย
?เปล่าหรอกจ้ะสเตล่า ไม่มีอะไร?
?ทรงคิดมากเรื่องพิธีหมั้นกับเจ้าชายไดรฟ์มอลใช่มั้ยเพคะ??
เจ้าหญิงมู่หลานเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถลาลงมากอดสเตล่าที่นั่งอยู่บนพื้นพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
?เราไม่อยากหมั้นเลย เราไม่อยากหมั้นกับชายที่เราไม่ได้รัก ฮือ...?
?เจ้าหญิง...?
?เราจะทำอย่างไรดีสเตล่า จะทำอย่างไรดี...?
?เอ่อ...?
?เสด็จแม่ไม่ฟังเราเลย เสด็จแม่ไม่สนใจความรู้สึกของเราเลย เราเสียใจ ฮือ...?
?โธ่...เจ้าหญิงของหม่อมฉัน ช่างน่าสงสารจริงๆ...?
สเตล่าหลับตาลงอย่างสงสารเจ้าหญิง เมื่อเจ้าหญิงทรงเจ็บปวด เธอเองที่เป็นผู้ดูแลเจ้าหญิงก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ากัน
?อีกแค่สองอาทิตย์งานหมั้นก็จะเริ่มแล้ว ทำอย่างไรดี เราไม่ต้องการหมั้นจริงๆ สเตล่า...?
?หม่อมฉัน...?
?เราต้องการเวลาเตรียมใจมากกว่านี้ เรา...?
?.....?
?เราต้องการหนี?
?เจ้าหญิง!?
?ใช่แล้ว เราต้องหนี นี่เป็นเพียงวิธีเดียวที่เราจะหลีกเลี่ยงการหมั้นได้?
เจ้าหญิงมู่หลานลุกขึ้นกลับไปนั่งที่เดิม ประกายมุ่งมั่นในแววตาฉายออกมาอย่างชัดเจน
?แต่ว่า...การหนีเป็นเรื่องใหญ่มากนะเพคะ องค์ราชินีคง...?
?เราจะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง ตอนนี้สิ่งที่เราคิดมีอยู่สิ่งเดียวคือเราไม่อยากหมั้น?
เจ้าหญิงมู่หลานยืนกราน สเตล่าได้แต่ถอนหายใจอย่างหนักใจ
?ถ้าอย่างนั้น...หม่อมฉันขอตามเสด็จไปดูแลเจ้าหญิงนะเพคะ หม่อมฉันไม่ปล่อยให้เจ้าหญิงทรงไปเพียงลำพังแน่?
?สเตล่า...?
?นะเพคะ...?
?จ้ะ เราจะหนีก่อนงานหมั้นหนึ่งวัน! ฝากเสตล่าจัดการเรื่องประเทศที่เราจะหนีไปด้วยนะ?
?ประเทศเหรอเพคะ!?
?ใช่ การจะหนีองค์ราชินีของนอร์ก้า จะหนีอยู่ภายในประเทศไม่ได้หรอก ต้องต่างประเทศเท่านั้น อย่างไรก็ฝากด้วยนะจ๊ะ?
แล้วเจ้าหญิงมู่หลานก็หยิบผลไม้ขึ้นมาเสวยอย่างมีความสุขเมื่อคิดหาหนทางเอาตัวรอดได้ ต่างจากสเตล่าที่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมดิ่งสู่นรกอเวจี เพราะเธอกำลังจะพาเจ้าหญิงรัชทายาทอับดับหนึ่งหนีพิธีหมั้น!!!

1

ณ ประเทศไทย
ฉันยืนกะพริบตาปริบๆ มองความโอ่อ่าของโรงเรียนที่สเตล่าหาไว้ให้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าประเทศที่รักความสงบอย่างประเทศไทยจะมีโรงเรียนที่หรูหราราวกับพระราชวัง ?เวิลล์คูลส์? ของฉันขนาดนี้ ผู้คนในโรงเรียนก็ล้วนแต่ยิ้มแย้มกันอย่างมีความสุข หน้าตาก็จัดได้ว่าดีเทียบชั้นเจ้าหญิงอย่างฉันได้ทั้งนั้น
?สวยจัง...?
ฉันยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากำไว้หลวมๆ ตรงหน้าอก มันเป็นท่าทางที่ฉันทำเสมอเวลาพอใจหรือถูกใจสิ่งไหน
?เราจะต้องเริ่มต้นใหม่ที่นี่ให้ได้ ต่อจากนี้ไปเราไม่ใช่เจ้าหญิงมู่หลาน แต่เป็นนางสาวมู่หลาน สามัญชนธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น?
ฉันพูดกับตัวเองก่อนจะหันหลังกลับเพื่อไปสำรวจสถานที่อื่นๆ ในโรงเรียนแห่งนี้เพิ่ม แต่กลับชนใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง
ปึก!
?โอ๊ย!? ฉันร้องเสียงหลงด้วยความตกใจทันทีที่ร่างล้มไปนั่งกองอยู่กับพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่น ตายแล้ว...ชุดเลอะหมดเลย
?.....? คนที่ฉันเดินชนยืนนิ่งอยู่กับที่ประมาณสามวินาที ก่อนจะเดินต่อไปโดยไม่สนใจฉัน อะไรกัน...ไม่มีน้ำใจกับสุภาพสตรีบ้างเหรอ
?เดี๋ยวก่อนค่ะ ช่วยฉันหน่อย...ได้มั้ยคะ?? ฉันส่งมือไปข้างหน้าหวังจะให้เขาช่วยพยุง แต่เขากลับยืนนิ่ง ก่อนจะลดหนังสือในมือที่อ่านอยู่ลงข้างตัวแล้วค่อยๆ หันมา
ฉันเบิกตากว้าง กลืนน้ำลายลงคออย่างตกใจเมื่อเขาหันหน้ามา นัยน์ตาน่าเกรงขามกับริมฝีปากบางเฉียบเรียบตึงทำให้ฉันเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์บางอย่าง ผมสีทองสว่างของเขาสะท้อนเข้าตาจนฉันต้องหลับตาเพราะไม่สามารถจ้องมองนานๆ ได้
?เจ้าชาย...?
?หา?? เขาร้องเสียงหลง ก่อนจะปัดมือฉันที่ยื่นไปให้ออก แล้วนั่งยองๆ ลงตรงหน้า
งดงามยิ่งนัก...ชายหนุ่มผู้นี้ช่างงดงามเหลือเกิน
?เธอ-เป็น-คน-ชน-ฉัน? เจ้าชายพูดเน้นทีละคำ ฉันพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก่อนจะก้มหน้าลงลอบยิ้มกับตัวเองอย่างเขินอายที่เขาเข้าใกล้
?ท่าน...เอ่อ...คุณเรียนที่นี่เหรอคะ??
?ฉันไม่จำเป็นต้องตอบ ล้มเองก็ลุกเองละกัน?
เจ้าชายเอานิ้วจิ้มที่หน้าผากฉันเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินต่อไปโดยไม่หันมามองอีก ฉันมองตามหลังเขาไปด้วยหัวใจที่พองโตคับอก หรือว่านี่จะเป็น...รักแรกพบ เหมือนในนิทานที่เสด็จแม่เคยเล่าให้ฟังก่อนนอนตอนยังเด็ก
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ...เราก็พบเจ้าชายของเราแล้วสินะ!

?เอ่อ...ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณรู้จักผู้ชายตัวสูงๆ ผมสีทองมั้ยคะ? ฉันเอ่ยถามผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่ยืนซื้อน้ำอยู่ เธอหันมามองฉันด้วยใบหน้างุนงงก่อนจะส่ายหน้า
?คนไหนล่ะยะ ผู้ชายตัวสูงๆ หัวทองที่นี่มีเกลื่อนไปหมด? เธอตอบเสียงแข็งก่อนจะหันกลับไปสั่งน้ำต่อโดยไม่สนใจฉันอีก
?เฮ้อ ฉันจะตามหาคุณได้จากที่ไหนกันนะคะ เจ้าชาย...? ฉันพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินแยกออกมาอีกทาง วันนี้ทั้งวันไม่มีใครเข้ามาคุยกับฉันเลยสักคนเดียว ฉันเข้าไปคุยกับใครก็ไม่มีใครสนใจ ทุกคนทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้
?เราอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ อยู่ไปนานๆ เดี๋ยวก็คงมีเพื่อนเอง?
ฉันยิ้มให้กำลังใจตัวเองก่อนจะค่อยๆ ก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ตามแบบฉบับเจ้าหญิง ที่เสด็จแม่ให้คุณครูมาสอนเรื่องกิริยามารยาทของชนชั้นสูงถึงตำหนัก
?เดี๋ยวคัดแยกโต๊ะที่ดีๆ ไปเก็บไว้ในโรงยิมก่อนนะ จะเอาไว้ใช้ในวันงานเทศกาล แล้วก็...เรื่องเครื่องเสียง เตรียมชุดใหญ่ไปเลย เพราะแขกมาเยอะ?
ฉันหยุดยืนฟังบทสนทนาที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยแต่อยากรู้ ก่อนที่นักเรียนชายสามคนจะพยักหน้ารับแล้ววิ่งแยกไปอีกทาง เหลือเพียงผู้ชายตัวสูงๆ ผมสีทองที่แสนคุ้นเคยยืนหันหลังอยู่
?เอ่อ...?
?หือ?? เขาหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงของฉัน จะ...เจ้าชายนี่นา
?เจ้าชาย? ฉันเดินเข้าไปหาเขาที่ตัวสูงกว่ามาก ทำให้ต้องเงยหน้ามองเมื่อยืนใกล้ๆ อ๋อย...สูงชะลูดเลยนะเนี่ย อย่างกะยอดตึกแน่ะ
?เธอเป็นใคร -*-? เขาขมวดคิ้วพลางมองฉันลอดแว่นตากรอบดำที่สวมอยู่ ฉันก้มหน้าลงอย่างเขินอายเพราะถูกเขาจ้องในระยะประชิด
?ฉันชื่อมู่หลานค่ะ คนที่ชนกับเจ้าชายเมื่อเช้าไงคะ? ต้องรักษาภาพลักษณ์หญิงงามเอาไว้...><
?เจ้าชาย? เธอหมายถึงใคร?
?บีวาย! ทำไรอยู่วะ?
เสียงหนึ่งดังขัดขึ้นจากด้านหลัง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งมาตรงจุดที่ฉันและเจ้าชายยืนอยู่ พวกเขาเดินกันมาทั้งหมดสี่คน
คนแรก...ผมสีเงินดูแปลกตา นัยน์ตาน่ากลัวแปลกๆ แต่ก็มีใบหน้าที่งดงามไม่แพ้เจ้าชายของฉัน
คนที่สอง...เขาอยู่ในชุดแปลกประหลาดที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน สะพายดาบที่ทำจากไม้ไผ่ไว้ข้างหลัง แววตาเฉยชาจนรู้สึกขนลุกเวลามอง
คนที่สาม...ใบหน้าทะเล้น ซุกซน ตัวเล็กกว่าคนอื่นๆ แต่ก็ดูแข็งแรง เขายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน คนนี้เป็นเจ้าชายปลอมตัวมาเหมือนฉันหรือเปล่านะ?
คนสุดท้าย...เขาดูท่าทางเป็นคนอารมณ์ดี รอยยิ้มของเขาเหมือนจะหยุดเวลาเอาไว้ไม่ให้ดำเนินต่อไป มองเขาแล้วรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจจริงๆ
?ยัยนี่ใคร -*-? ผู้ชายผมสีเงินหันไปถามเจ้าชายของฉันด้วยสีหน้างุนงง
?ไม่รู้ คนบ้ามั้ง =_=?
?ไม่ใช่นะคะเจ้าชาย ขอแนะนำตัวค่ะ ฉันชื่อมู่หลาน อยู่ ม.4 เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนวันนี้เป็นวันแรก ขอฝากตัวด้วยนะคะ? ฉันประสานมือไว้ที่อกพลางก้มหัวอย่างนอบน้อม มันเป็นการทักทายของประเทศนอร์ก้าที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี
?เจ้าชาย? ใครวะเจ้าชาย? ผู้ชายที่ดูอารมณ์ดีถามขึ้นมาอีก ฉันจึงหันไปตอบเขาด้วยรอยยิ้ม
?คนนี้ไงคะเจ้าชาย เจ้าชายของฉันค่ะ?
?หา?? ทั้งห้าคนประสานเสียงกัน ฉันเอียงคอมองพวกเขาอย่างงงๆ ตกใจอะไรกันนะ
?อะ...อะไรกันเหรอคะ? ฉันถามเสียงสั่นเพราะไม่เคยมีชายหนุ่มคนไหนเข้าใกล้ฉันมากขนาดนี้มาก่อน นอกจาก ?มิเทล? น้องชายร่วมสายเลือดของฉันและเสด็จพ่อที่เสียไปแล้วเท่านั้น
?ชื่อมู่หลานเหรอ? ผู้ชายที่อยู่ในชุดแปลกๆ ถาม ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะฉีกยิ้มอย่างเป็นมิตร
?แล้วทำไมเธอถึงเรียกเพื่อนฉันว่าเจ้าชายล่ะ? ผู้ชายเจ้าของรอยยิ้มอ่อนโยนถาม ฉันก้มหน้าลงด้วยความเขิน เขาน่ารักจัง...
?เพราะเจ้าหญิงต้องคู่กับเจ้าชายน่ะสิคะ?
?หา??
ตายแล้ว ฉันเผลอพูดอะไรออกไปเนี่ย >///<
?เอ่อ...ฉันหมายถึงว่า...เขาดูเหมือนเจ้าชายน่ะค่ะ? ฉันแก้ตัว ก่อนจะค่อยๆ เขยิบตัวออกมาจากวงล้อมของพวกเขา เพราะรู้สึกเหมือนคนอื่นๆ จะจ้องมองมากเป็นพิเศษ
?อ๋อ เห็นมั้ยล่ะ! ฉันบอกแล้วว่าแกน่ะทำตัวเหมือนเจ้าชาย ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย!? ผู้ชายที่ดูอารมณ์ดีตลอดเวลาตะโกนเสียงดัง ก่อนจะถูกเจ้าชายของฉันตีหัวด้วยสันหนังสือที่ถืออยู่ในมือ
?แกน่ะหุบปากไปซะ ไปเหอะ อย่าสนใจยัยบ้านี่เลย? เจ้าชายพูดก่อนจะเดินไปทางประตูโรงอาหาร
?เดี๋ยวค่ะเจ้าชาย! ฉันขอทราบชื่อเจ้าชายได้มั้ยคะ??
เจ้าชายหยุดยืนอยู่กับที่ ก่อนจะค่อยๆ เอี้ยวคอมาเล็กน้อย ทำให้ฉันเห็นเพียงเสี้ยวหน้าที่แสนงดงามของเขาเท่านั้น
?ไป-ตาย-ซะ?

ฉันหลบมานั่งคนเดียวอยู่ที่หลังห้องชมรมอะไรสักอย่าง หลังจากที่รู้ความหมายของคำว่า ?ไปตายซะ? ที่เจ้าชายพูด ทำไมเจ้าชายใจร้ายได้ถึงเพียงนี้นะ ทั้งๆ ที่ในนิทาน เจ้าชายทั้งอ่อนโยนแล้วก็อ่อนหวาน เป็นสุภาพบุรุษ คอยปกป้องดูแลเจ้าหญิงทุกอย่าง แต่ว่า...เจ้าชายที่ฉันพบกลับไม่ใช่แบบนั้น...
?ฮึก...ฮึก...? ฉันชันเข่าขึ้นมาแล้วฟุบหน้าลงร้องไห้ หรือเพราะตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นเจ้าหญิงแล้ว เจ้าชายถึงไม่สนใจฉัน หนำซ้ำยังไล่ให้ฉันไปตายอีก
?นึกว่าเจ้าหญิงที่ไหนมาร้องไห้ ที่แท้ก็เจ้าหญิงมู่หลานนี่เอง?
ฉันสะดุ้งอย่างตกใจก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามองต้นเสียง ไล่จากปลายเท้าขึ้นไปเรื่อยๆ
?คุณ...? ผู้ชายเจ้าของรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นนั่นเอง เขายืนอยู่ตรงหน้าฉันก่อนจะนั่งยองลงพร้อมกับส่งกระดาษทิชชู่มาให้
?เช็ดน้ำตาซะเจ้าหญิงมู่หลาน ^^?
?เอ๋? คุณรู้ด้วยเหรอคะว่าฉันเป็นเจ้าหญิง!? ฉันถามออกไปอย่างตกใจ ถ้าความแตกตั้งแต่วันแรกว่าฉันเป็นเจ้าหญิง เสด็จแม่ต้องทรงตามเจอและพาฉันกลับไปเข้าพิธีหมั้นแน่เลย ไม่เอานะ...
?เอ่อ...มันไม่ใช่ฐานะที่เธอต้องการจะเป็นหรอกเหรอ?? เขาถามกลับด้วยใบหน้างุนงง หรือเขาจะยังไม่รู้ว่าฉันเป็นเจ้าหญิง!
?อ๋อ...ใช่ค่ะ มันเป็นแค่ฐานะที่ฉันอยากจะเป็น? ฉันแก้ตัวก่อนจะรับทิชชู่จากเขามาซับน้ำตา
?พี่ชื่อบีไอนะ อยู่ ม.5 ยินดีที่ได้รู้จัก ^^?
?ฉันชื่อ...?
?หยุดๆ ไม่ต้องแนะนำแล้ว พี่รู้ว่าเธอชื่อมู่หลาน อยู่ ม.4? เขายกมือขึ้นห้ามฉันไม่ให้พูดต่อ น้ำตาที่ไหลพรากลงมาเมื่อครู่หายไปในทันทีเพียงแค่เห็นรอยยิ้มของเขา
?หยุดร้องแล้วนี่ เก่งมาก ^^?
?ขอบคุณนะคะพี่บีไอ? ฉันพูดเสียงเบาอย่างเขินอาย ตรงนี้มีแค่ฉันกับพี่บีไอสองคนซะด้วยสิ แย่แน่ๆ ถ้าเป็นที่วังล่ะก็ พี่บีไอคงโดนลงโทษ และฉันก็คงโดนเสด็จแม่กักบริเวณโทษฐานที่มานั่งกันในที่ลับตาคน
?ไม่เป็นไร ว่าแต่ พี่ถามอะไรเธออย่างหนึ่งได้มั้ย?
?ค่ะ ฉันยินดีตอบ? ฉันพยักหน้ารับ และคิดว่าจะตอบทุกคำถามของพี่บีไอ เพื่อตอบแทนที่เขาให้กระดาษทิชชู่แก่ฉัน แถมยังยิ้มอย่างใจดีให้ฉันตลอดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
?เธอ...ชอบบีวายเหรอ??
?เอ๋??
?ไอ้คนที่เธอเรียกมันว่าเจ้าชายน่ะ?
ฉันก้มหน้าหลบตาพี่บีไอทันที เจ้าชายชื่อบีวายงั้นเหรอ... ชื่อแปลกจัง แต่ก็เพราะมากที่สุด...
?ว่ายังไง ชอบเพื่อนพี่ใช่มั้ย??
?คือ...?
?พี่ไม่ว่าอะไรหรอก ที่ถามเนี่ย เผื่อเธอมีอะไรจะให้พี่ช่วย?
?พี่บีไอจะช่วยฉันเหรอคะ!? ฉันเงยหน้าขึ้นถามอย่างมีความหวัง ตามหลักแล้ว...ในนิทาน เจ้าหญิงจะต้องมีคนคอยช่วยเหลือเรื่องความรัก แบบนี้ก็แสดงว่า...พี่บีไอคือคนคนนั้นสินะ
?อื้อ ถ้าเธออยากให้พี่ช่วยล่ะก็นะ?
?อยากค่ะ ฉันอยากให้พี่ช่วย ฉันชอบเจ้าชาย ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น พี่ได้โปรด...ช่วยฉันด้วยนะคะ? ฉันก้มหัวจรดพื้นเพื่อเป็นการขอร้อง พี่บีไอรีบดึงตัวฉันขึ้นจนหน้าของเราสองคนอยู่ห่างกันเพียงนิดเดียว
?.....? ฉันยังคงมองพี่บีไอด้วยรอยยิ้ม ต่างจากพี่บีไอที่ตาโตมองฉันเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง
?ทำไม...หน้าพี่แดงๆ ล่ะคะ? ไม่สบายหรือเปล่า? ฉันปัดมือพี่บีไอที่จับต้นแขนฉันไว้ออก แล้วยกมือขึ้นทาบกับหน้าผากเขาแทนเพื่อวัดไข้
?ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา พี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ??
?เอ่อ...ปะ...เปล่าค่ะ พี่ขอตัวก่อนนะคะ?
พูดจบพี่บีไอก็ลุกขึ้นเดินจากไปทันที

----------------------------------------------------------------------------------
ถึงจะเข้าใจความจำเป็น แต่ฉันก็ทำใจหมั้นกับคนที่แม่เลือกให้ไม่ได้ เลยหนีจากประเทศตัวเองมาอยู่ที่ไทย แค่ก้าวแรกที่เหยียบย่างหัวใจฉันก็เกิดอาการสปาร์ก ตกหลุมรักอย่างจัง >O< ดูสิ คนอะไรช่างหล่อขรึม เย่อหยิ่ง ขี้เก๊ก โอ๊ย สเป็กสุดๆ ไปสืบมาได้ความว่าเขาชื่อ ?บีวาย? เป็นหนึ่งในแก๊งผู้ชายเนื้อหอมที่สุดในโรงเรียน แต่คู่แข่งเยอะขนาดไหน ?มู่หลาน? คนนี้ก็ไม่หวั่น ได้เจอเจ้าชายที่เฝ้าหามานานสักที จะปล่อยให้หลุดมือได้ไง~ ^O^ ฉันจะใช้ความเป็นกุลสตรีและเสน่ห์ปลายจวักที่มีทำให้เขาหลงให้ได้ ว่าแต่...ถ้าเกิดเขารู้เรื่องที่ฉันปิดบังไว้จะรับได้มั้ยนะ แต่ช่างเถอะ! พิชิตใจเขาให้ได้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน!
รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”