New Release: ปฏิบัติการรักร้าย กั๊กหัวใจเป็นเดิมพัน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release: ปฏิบัติการรักร้าย กั๊กหัวใจเป็นเดิมพัน

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ

14 กุมภาพันธ์ 20XX
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ แน่ล่ะว่าฉันตื่นเต้นมากๆ >_< รู้มั้ยว่าฉันเตรียมสติ๊กเกอร์รูปหัวใจหลากสีไว้ตั้งแต่เมื่อวานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆ ที่ปกติแล้วฉันแทบจะไม่จำเป็นต้องซื้อมันเลยด้วยซ้ำ ก็ปีนี้มันมีบางอย่างที่แตกต่างออกไปน่ะสิ
ในทุกๆ ปีที่เป็นเทศกาลแบบนี้ ทางโรงเรียนจะอนุญาตให้เราติดสติ๊กเกอร์ที่ว่านั้นได้ตามใจชอบ เพราะคุณครูท่านถือว่าเป็นการแสดงออกของความรักอย่างหนึ่ง จึงไม่แปลกเลยหากจะเห็นเสื้อนักเรียนของพวกฉันเต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์มากมายจนเกลื่อนกลาดไปหมด แต่สำหรับคราวนี้ฉันสัญญากับตัวเองว่า...จะเหลือหัวใจดวงใหญ่เอาไว้หนึ่งดวง และที่ว่างตรงหน้าอกข้างซ้ายไว้เพื่อเขา...
เด็กผู้ชายข้างบ้านคนนั้น...
เพราะเราไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน ฉันจึงไม่มีโอกาสแปะสติ๊กเกอร์นั่นที่โรงเรียนเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แต่โชคก็ยังเข้าข้างที่พาเขาคนนั้นมาอยู่หมู่บ้านเดียวกับฉัน และวันนี้แหละ... ฉันจะต้องเอาหัวใจนี่ไปแปะที่เสื้อเขาให้ได้!
หลังจากที่เลิกเรียนแล้ว ฉันก็รีบวิ่งไปรออยู่ที่ประตูหน้าบ้านของเขาเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ตั้งใจไว้ และฉันเองก็ไม่ได้เปลี่ยนชุดนักเรียนออกก่อนด้วย เพราะตั้งใจว่าจะให้เขาเห็นสติ๊กเกอร์มากมายที่แปะอยู่บนเสื้อของฉัน แต่ถึงงั้นก็เถอะ ตรงบริเวณหน้าอกข้างซ้าย ฉันก็เว้นที่ว่างไว้เพื่อเขาเท่านั้น
อ๊ะ! นั่นรถตู้โรงเรียนเขานี่นา ไม่ได้การละ ฉันต้องรีบวิ่งไปถึงหน้าบ้านเขาก่อนที่รถคันนั้นจะไปถึง โชคดีที่เส้นทางนี้มีลูกระนาดเยอะ ไม่งั้นแล้วฉันต้องพลาดโอกาสดีๆ ที่รอมาตลอดแน่ๆ เลย
และทันทีที่รถจอดสนิท ขาเล็กๆ ก็ก้าวลงมาพร้อมกับปิดประตูเสียงดังปัง เขาสวมเสื้อสีขาวที่ปล่อยชายยาวหลุดลุ่ยกับกางเกงสีน้ำเงินเข้มที่มองดูแล้วเท่ชะมัด และที่สำคัญนะ บนเสื้อนักเรียนขาวสะอาดของเขาก็ไม่มีสติ๊กเกอร์อะไรแปะอยู่เลยสักนิดเดียว
เย้ นี่เขารอคอยหัวใจของฉัน ถึงขนาดไม่รับของใครเลยใช่ไหม
รถตู้ขับออกไปแล้ว จะเหลือก็แต่ฉันที่ยืนม้วนต้วนอยู่ตรงนี้ กับเขาคนนั้นที่ยืนมองมาด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
?เธอมาทำไม -_-? และเขาก็เอ่ยทัก
ฉันจึงค่อยๆ ขยับร่างทีละนิด จนในที่สุดก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขาจนได้
?ฉัน...เอา..นี่..มาให้ -///-?
ฉันพูดติดๆ ขัดๆ พร้อมกับยื่นสติ๊กเกอร์รูปหัวใจใหญ่บิ๊กเบิ้มในมือส่งให้ และพออีกฝ่ายไม่ตอบโต้ ถึงแม้ฉันจะเห็นว่าเขาทำสีหน้าประหลาดใจแค่ไหนก็เถอะ แต่แรงรักที่มีมันมากกว่า ฉันก็เลยแกะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจดวงนั้นและเอื้อมมือออกไปหวังจะติดมันลงบนเสื้อของเขา แต่ทว่าหมอนั่นดันถอยหนี พร้อมกับตวาดเสียงดัง!
?อย่าทำบ้าๆ น่ะ สติ๊กเกอร์นั่นจะทำให้เสื้องของฉันเป็นคราบและซักไม่ออก!?
?ง่า... แต่วันนี้วันวาเลนไทน์? ใครๆ เขาก็ทำกัน
?แต่ฉันเป็นคนไทย แล้วฉันก็นับถือศาสนาพุทธด้วย? เขาตอบกลับ ?อีกอย่างนะ เธอเข้าใจความหมายของวันนี้ดีหรือยัง ถึงได้เอาสติ๊กเกอร์รูปหัวใจบ้าบอนี่มาติดเสื้อเป็นเด็กๆ ไปได้?
?ง่า... ก็ฉันเพิ่ง ป.5 (._.)?
?นั่นแหละ เด็กชะมัด -_-?
เอิ่ม ได้ข่าวว่าเราเรียนชั้นเดียวกันนะ
?วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของนักบุญวาเลนไทน์ที่ถูกจับและถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการตัดศีรษะในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เมื่อประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์ แต่เธอกลับมาเริงร่าด้วยการเอาสติ๊กเกอร์แปะกันบนเสื้อเนี่ยนะ?
?ฉัน... ก็แค่... อยากเอามันให้เธอ? ทำไมต้องเทศน์ด้วยล่ะ
?มันเป็นวัฒนธรรมของฝรั่งเขา ไม่ทราบว่าเธอเป็นลูกครึ่งรึไงถึงได้บ้าบอตามกันไปด้วย แล้วที่จริงน่ะเขาก็ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงออก ไม่ใช่สติ๊กเกอร์บ้าบอปัญญาอ่อนนี่ รู้ไว้ซะ!?
?ง่า แต่สติ๊กเกอร์นี่มันน่ารักกว่านะ ดอกไม้ให้แล้วก็ทิ้ง?
?แล้วสติ๊กเกอร์นี่ไม่ต้องทิ้งรึไง สกปรกอีกต่างหาก? เขาว่าพลางหรี่ตามองแบบดูถูก ?ฉันไม่เอาหรอก เพราะมันไร้สาระ?
พูดแค่นั้นแล้วก็เอากระเป๋านักเรียนพาดบ่าทำท่าจะเดินเข้าบ้าน แต่ฉันยังมั่นคงในความรู้สึกอยู่ ก็เลยปรี่เข้าไปหาเพื่อหวังจะขอติดสติ๊กเกอร์ให้ได้อย่างที่ตั้งใจ
แต่พอเดินไปได้แค่ก้าวเดียว หมอนั่นก็ใช้กระเป๋าเป็นอาวุธพร้อมกับฟาดที่หน้าของฉันเข้าให้ รู้แหละว่าไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉันก็ทะเล่อทะล่าเข้าไปไม่ดูทางเอง แต่เขาเองก็ไม่น่าโหดร้ายกับสติ๊กเกอร์ของฉันถึงเพียงนี้นี่นา TOT
?ฮืออ โชกุนใจร้าย ไม่เอาหัวใจของฉันแล้วทำไมต้องแกล้งกันด้วย T^T? ฉันบอกเขาทั้งน้ำตา ทันทีที่ทรุดลงไปกองกับพื้นแล้วลุกขึ้นยืนมาใหม่ได้ ฉันก็ชี้นิ้วกราดไปที่เขาและพร่ำบอก
?กิ่งไผ่ไม่รักโชกุนแล้ว กิ่งไผ่เกลียดโชกุนที่สุดในโลก จำไว้เลยนะว่าชาตินี้กิ่งไผ่จะไม่แลตามองโชกุนอีกเลย เพราะโชกุนใจร้าย ฮืออ...?
และฉันก็ปล่อยให้หมอนั่นยืนงง ก่อนที่ตัวเองจะเป็นฝ่ายวิ่งหนีมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองใช้ช่วงเวลาไหน ถึงได้แปะสติ๊กเกอร์นั่นลงบนกระเป๋านักเรียนของเขาไปแล้ว
แต่! กิ่งไผ่ไม่รักโชกุนแล้วจริงๆ นะ ฮึ่ย!!

1

14 กุมภาพันธ์ 20XX
?กิ่งไผ่ ดอกไม้ครับ แฮปปี้วาเลนไทน์นะครับ?
?ขอบคุณนะคะเจย์ ^_^?
?น้องกิ่งสุดสวยครับ ช็อกโกแลตครับ แฮปปี้วาเลนไทน์ครับผม?
?ขอบคุณค่ะพี่ตั้ม แฮปปี้วาเลนไทน์เช่นกันค่ะ ^-^?
?พี่กิ่ง แฮปปี้วาเลนไทน์ฮะ เย็นนี้ไปดูหนังกันมั้ย?
?ขอบใจจ้ะน้องเก้า แต่ว่าวันนี้พี่มีนัดกับครอบครัว เอาไว้โอกาสหน้านะ? ฉันตอบผู้ชายคนนั้นพร้อมกับเอื้อมมือออกไปรับของขวัญกล่องใหญ่ที่เจ้าตัวยื่นมาให้ รายที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้วนะ เฮ้อ เกิดมาเป็นคนสวยนี่มันทำใจลำบากจริงๆ ฮิๆ >_<
อ้อ ลืมแนะนำตัวเลย ฉันชื่อกิ่งไผ่ค่ะ ชื่อเต็มๆ ก็คือกัญญ์วรา พิทักษ์ศตมล อายุ 20 ปี เรียนอยู่ปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ เนี่ยแหละ อย่าว่าฉันแนะนำตัวเฉิ่มเชยอะไรเลยนะคะ ก็แหม นี่ไม่บอกรายละเอียดส่วนสูง น้ำหนัก สัดส่วน รวมไปถึงการเป็นดาวมหาวิทยาลัยสองปีซ้อนด้วยก็บุญแล้วล่ะค่ะ โฮะๆ เพราะปกติฉันจะชินกับการตอบคำถามแบบนางงามอ่ะนะ
และอย่างที่รู้กันว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ฉันจึงร่าเริงเป็นพิเศษกับการรับดอกไม้และของขวัญจากเพื่อนร่วมสถาบัน ถึงแม้จะไม่ได้มีใจให้ แต่อย่างน้อยการน้อมรับไว้ด้วยไมตรีจิต มันก็ดีกว่าการปฏิเสธให้เขารู้สึกเสียหน้า จริงมั้ย?
อ๊ะ มาแล้ว รายต่อไป...
?น้องกิ่ง สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับผม? ผู้ชายที่ฉันไม่รู้จักชื่อวิ่งเข้ามาหา พร้อมกับส่งช่อลิลลี่สีขาวมาให้
ส่วนฉันก็ยิ้มหวานกลับ พร้อมกับเอื้อมมือไปรับมาเหมือนอย่างเคย ?ขอบคุณนะคะ ^_^?
ทุกอย่างก็เป็นไปตามมารยาท และบางที... เราอาจจะคุยอะไรกันนิดหน่อย ถ้าหากว่าไม่มีมารมาผจญซะก่อน
?เฮอะ!?
อะ... อีตานี่ โผล่มาจากไหน แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมาพ่นลมใส่หน้าฉันเนี่ย! ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ชายคนนี้ต้องโผล่มาให้ฉันเห็นในทุกๆ วันวาเลนไทน์ด้วย หนำซ้ำยังมาทำท่ากวนประสาทใส่แล้วก็เบะปากดูถูกทุกครั้งที่ฉันถือดอกไม้และของขวัญมากมายแบบนี้ ก็ไม่อยากจะเดาอ่ะนะ หมอนี่หลงรักฉันแล้วไม่กล้าบอกหรือเปล่า ...อีตาโชกุน!
?อย่าไปสนเลยค่ะ พวกขี้อิจฉาน่ะ? ฉันหันมาบอกคนข้างกายต่อ โดยมิวายชำเลืองมองหมอนั่นด้วยหางตา
ให้ตายเถอะ มหาวิทยาลัยในประเทศมีไม่รู้ตั้งกี่สิบแห่ง เอาแค่ในกรุงเทพฯ เนี่ยก็น่าจะเยอะอยู่นะ ทำไมหมอนี่ต้องมาเรียนที่เดียวกับฉันด้วย โอ๊ย! กิ่งไผ่ไม่เข้าใจ
มิน่าล่ะ เมื่อคืนฉันถึงได้ฝันเห็นเรื่องราวในวัยเด็กนั่น ทั้งๆ ที่ฉันแทบจะลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ หวังว่าโชกุนคงจะไม่มานั่งเทศน์เรื่องประวัติของนักบุญวาเลนไทน์ให้ฟังอีกรอบหรอกนะ -_-
เหอะ! นึกแล้วมันน่าเจ็บใจ ตอนนั้นฉันอยากเป็นมิตรกับเขามากๆ เลยนะ ก็ทั้งหมู่บ้านมีแค่เราที่อายุไล่เลี่ยกัน แต่อีตานี่ดันไม่รับมิตรภาพจากฉันเลยสักนิด แค่เอาสติ๊กเกอร์แปะเสื้อมันจะทำให้เขาเหี่ยวตายรึไงก็ไม่รู้
?อิจฉาตาย!? และหมอนั่นก็ตอบด้วยน้ำเสียกระแทกกระทั้น เหอะ ถ้าไม่อิจฉาแล้วจะมาประชดฉันทำไมยะ
?ว่าแต่นายเถอะ วันนี้วาเลนไทน์ ไม่เอาดอกไม้ไปให้สาวไหนบ้างเหรอ เอ๊~ หรือว่าให้แล้วเขาไม่รับ?
?ฉันเป็นคนไทย?
?แล้วฉันก็นับถือศาสนาพุทธ -_-? ฉันรีบพูดแทรกต่อจากประโยคของเขาทันที บริบทเดิมๆ ที่ฉันเคยฟังอยู่ทุกปี ?โลกมันก้าวไกล คนไทยก็ต้องก้าวตามด้วยนะยะคุณผู้พิพากษา ไม่ใช่เอะอะอะไรก็นั่งท่องมาตรากฎหมายเดิมๆ ระวังหน้าจะแก่ก่อนวัยอันควร? ฉันโวยใส่
?หึหึ? แต่โชกุนกลับหัวเราะ =_=
?ป่วยการจะคุยกับคนไม่มีหัวใจ งั้นกิ่งไผ่ขอตัวก่อนนะคะ? ประโยคแรกฉันเอ่ยลอยๆ แต่อันสุดท้ายนี่ฉันหันไปคุยกับเจ้าของลิลลี่ช่อโตที่กำลังยืนงงว่าทำไมฉันถึงได้ไปเถียงกับผู้ชายคนนั้น ก่อนจะส่งยิ้มให้เขาแล้วก็สะบัดหน้าไปอีกฝั่ง เพื่อดูปฏิกิริยาของโชกุนเป็นการทิ้งท้าย
แต่อย่างหมอนั่นอ่ะนะจะทำสีหน้าอะไรออกมาได้อีก นอกจากกวาดสายตามองฉันแบบเอือมระอา ก่อนจะหยิบเสื้อแจ็กเก็ตขึ้นมาพาดบ่าแล้วก็หัวเราะใส่
?เสื้อสะอาดดีนะ? เขาว่าพลางมองมาที่เสื้อฉัน
ฉันนึกสงสัย แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไร ริมฝีปากบางๆ นั่นก็เชือดเฉือนฉันด้วยคำพูดอีกครั้งหนึ่ง
?สนใจจะเอาสติ๊กเกอร์ไปติดหน่อยมั้ยล่ะ หน้าโรงเรียนสาธิตขายแผ่นละห้าบาทเองนะ อ้อ พี่ชาย ผมจะบอกให้นะ ผู้หญิงคนนี้น่ะไม่สนใจดอกไม้หรอก เธอชอบสติ๊กเกอร์ นี่ยังวิ่งไล่แปะผมอยู่เลย หึๆ?
O[]O กรี๊ดดด! อะไรเข้าสิงนายให้ป่าวประกาศออกมาแบบนี้ยะ นั่นมันเป็นเรื่องสมัยเด็ก และที่สำคัญมันก็เป็นอะไรที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตฉันด้วย ทำไมนายถึงช่างจดช่างจำแบบนี้หาาา!
?ต๊าย ใครกันทำแบบนั้น ฉันจำไม่ยักกะได้ว่าเคยเอาสติ๊กเกอร์ไปแปะนาย? ฉันพูดพลางยกมือป้องปากหัวเราะ ขอแถหน่อยเหอะ ก่อนที่รุ่นพี่ข้างกายฉันจะหลงเชื่อไปซะก่อน
?อ้าว จำไม่ได้ซะแล้ว อ้อ ลืมไป ตอนนั้นเธอไม่ได้แปะนี่เนาะ ^_^? โชกุนพูดพลางขยับเข้ามาใกล้ จนฉันต้องกระถดหนี ?เพราะ-ฉัน-ไม่-อนุ-ญาต!?
กรี๊ดด! (อีกรอบ) แล้วทำไมอีตานี่ต้องมาพูดจาย้ำชัดให้มันฝังลึกเข้าไปถึงทรวงในด้วยล่ะฟะ! ต้องการอะไรจากสังคมไม่ทราบ!
?เอ่อ จริงหรือครับน้องกิ่ง O_O? รุ่นพี่หันมาถาม พร้อมกับทำสีหน้าตะลึงงัน
ตาย! ตลอดชีวิตฉันในช่วงที่เป็นสาวสะพรั่งไม่เคยถูกใครหน้าไหนทำให้เสียหน้ามาก่อน แล้วอีตานี่เป็นใครถึงได้มาหักหน้าฉันจนพังยับเยินขนาดนี้ แล้วนั่นมันเรื่องสมัยเด็กนะ ทำไมไม่พูดให้ชัดเจนล่ะยะ
?จริงสิครับ ยิ่งถ้าเป็นหัวใจดวงโตๆ นะ โอ้โห ของโปรดเลยล่ะครับ รับรองว่าติดไม่มีวันแกะ?
?เอ่อ น้องกิ่ง...?
?ไม่จริงนะคะรุ่นพี่ อย่าไปฟังหมอนี่มาก ก็แค่ผู้ชายไม่มีมารยาทแล้วก็ขี้อิจฉา เรื่องที่เขาพูดน่ะไม่จริ๊งไม่จริงค่ะ? ฉันรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ จนถุงของขวัญที่ถือเอาไว้สั่นกระเพื่อมไปหมด หน็อย! อีตาโชกุน บังอาจทำกับฉันได้ถึงเพียงนี้
?เอ่อ ถ้างั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวมาใหม่? ยังไม่ทันที่ฉันจะเคลียร์จบ รุ่นพี่คนนั้นก็โบกมือบ๊ายบายแล้วก็จากไปพร้อมกับความเข้าใจผิดๆ ให้ตายเถอะ เทพเจ้าองค์ใดถึงได้ส่งอีตานี่ให้มาเรียนที่เดียวกับฉันแล้วก็ทำให้เขาต้องมาป่วนประสาทในทุกๆ วันวาเลนไทน์ด้วยเนี่ย!
?สงสัยจะรีบไปซื้อสติ๊กเกอร์เนาะ กลัวจะหมดล่ะมั้ง?
และมันก็ยังไม่วายจะแซวต่อ
?เขาจะรู้มั้ยอ่ะว่าเธอชอบรูปหัวใจดวงโตๆ?
ยังไม่เลิก
?แล้วต้องเป็นแบบมีปีกด้วยใช่มั้ยนะ แบบตอนนั้น?
?โชกุน!!? ฉันตวาดเรียกชื่อเขาเสียงหลง พร้อมกับกองสิ่งของทุกสิ่งอย่างลงไปบนพื้น ?นายจะเอาไงกับฉันเนี่ยฮะ สองปีแล้วนะ สองปีแล้วที่นายตามรังควานฉันในวันวาเลนไทน์เนี่ย?
นี่ไม่นับรวมตอนสมัยมัธยมที่หมอนี่ดันผ่านมาเจอฉันหอบหิ้วดอกไม้กลับบ้านอีกนะ โอ๊ย ปวดกบาล!
?ก็ไม่ทำไมอ่ะ? ยักไหล่ตอบ ดูน่าหมั่นไส้ และมันก็น่าหมั่นไส้จริงๆ นั่นแหละ เมื่อเขาเอาแต่ยิ้มแล้วก็เบะปากไม่เลิก นี่มันดูถูกกันชัดๆ
?ทำไมนายต้องวุ่นวายกับฉันด้วยเนี่ย ถามจริง ฉันเคยไปทำอะไรให้นายไม่พอใจเหรอ?
?ก็ตอนนั้นเธอจะแปะสติ๊กเกอร์ฉัน? เขาตอบ กวนประสาทได้อีก
?แล้วไงยะ สุดท้ายก็ไม่ได้ติดไง จะเอาอะไรอีก!?
?แต่มันติดกระเป๋าฉันนี่ จาคอบนะ แพงด้วย ฉันจะลอกสติ๊กเกอร์บ้านั่นออกก็ไม่กล้า กลัวกระเป๋าเป็นรอย?
แค่เนี้ยเรอะ! ที่ทำให้เขาแค้นฉันมาเป็นสิบปี
?ฉันซื้อคืนให้นายก็ได้?
?เอามาทำไม ตอนนี้ไม่ได้ใช้สักหน่อย -_-?
?แล้วทำไมไม่ทวงตั้งแต่ตอนนั้นล่ะยะ? อีตานี่... มันจะกวนไปถึงไหน
?ทวงตอนนั้นแล้วมีปัญญาซื้อคืนเองได้โดยไม่รบกวนพ่อแม่หรือเปล่าล่ะ แต่จะว่าไป ถึงจะทวงตอนนี้เธอก็ต้องไปแบมือขอตังค์ท่านอยู่ดีแหละ?
กรี๊ดด! แล้วมันต้องการอะไรจากฉันเนี่ย
?สุดท้ายฉันก็ต้องทนหิ้วกระเป๋าใบนั้นจนเรียนจบ โดนเพื่อนแซวทุกวันหาว่าฉันมีแฟน เหอะ!?
?แล้วไง นายจะบอกว่าไม่มีคนมาจีบนายเพราะสติ๊กเกอร์นั่นแค่อันเดียวสินะ?
?เปล่า?
แล้วมันจะมาต่อว่าฉันเพื่ออะไรเนี่ย!
และในขณะที่ฉันกำลังโวยวายอยู่กับหมอนี่ รุ่นพี่ที่เดินหนีไปเมื่อหลายนาทีก่อนหน้าก็กลับมาใหม่อีกครั้งอย่างที่เคยพูด และในมือนั่นก็ปรากฏแผ่นสติ๊กเกอร์รูปหัวใจหลากสีที่ฉันไม่รู้ว่าเขาไปสรรหามาจากไหน (จนได้) แถมยังตั้งหน้าตั้งตาแกะมันแล้วก็ทำท่าจะแปะลงบนเสื้อนักศึกษาของฉันอีกต่างหาก และทั้งๆ ที่ฉันพยายามจะห้าม หรืออย่างน้อยก็พยายามแล้วที่จะส่งสายตาบอกพี่เขาไปว่าฉันไม่ได้ต้องการมันเลยสักนิด หากแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
?สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับน้องกิ่งไผ่?
ไม่ทันแล้วอะ แง้ TOT แถมยังมาแปะตรงหน้าอกข้างซ้ายฉันพอดีเลย โหดร้าย~ และพอพี่เขาเดินจากไป ฉันก็หันกลับมาเล่นงานชายหนุ่มที่ยืนหัวเราะจนตัวงออยู่ข้างๆ นี่แทน
?อีตาโชกุน!!!?
?คร้าบ~? ทำเป็นเสียงระรื่น รู้มั้ยว่ามันยิ่งยั่วประสาทฉันขึ้นไปอีกน่ะหา! ?เรียกทำไมเสียงดัง หรือว่าอยากได้อีกซักดวงฉันจะได้ไปซื้อให้ ฮ่าๆ?
มันยังหัวเราะอ่ะ ฮือๆ
?นายจะกลั่นแกล้งฉันไปถึงไหน? ฉันชี้นิ้วกราดใส่เขา ส่วนมืออีกข้างก็รีบยกขึ้นมาแกะสติ๊กเกอร์ปัญญาอ่อนนี่อย่างเร็วไว บ้าบอ! นี่มันเรื่องบ้าบอชัดๆ
ฉันอยู่หมู่บ้านเดียวกับเขานั่นไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะต้องทนเจอกับหมอนั่นมาตลอดเจ็ดปีในทุกๆ วันวาเลนไทน์ แต่มันน่าเหลือเชื่อมั้ยล่ะที่ฉันเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ แล้วยังต้องมาทนเจอกับเขาที่ดันมาลงเรียนที่เดียวกันอีก มหาวิทยาลัยในชลบุรีก็มี ทำไมนายไม่เรียนไปล่ะหา หรือว่าอยากอยู่ใกล้ฉันมากจนต้องตามมาเลยเนี่ย
นั่นสิ... ทำไมทุกอย่างมันช่างบังเอิญจังนะ
หรือว่าแท้จริงแล้วหมอนี่ตามฉันมา...

?โชกุน!? ฉันเรียกชื่อเขาเสียงดังอีกครั้ง พร้อมกับหันไปมองด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น ?นายจะตามจองล้างจองผลาญฉันไปถึงไหน?
?ก็จนกว่าเธอจะเลิกบ้าวันวาเลนไทน์นั่นแหละ?
?แล้วนายเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ หรือว่าหึงที่ฉันได้รับดอกไม้จากคนอื่นแล้วก็ไม่แลตามองนายสักนิด?
?โว้ว ช่างกล้า?
?ก็หรือไม่จริงล่ะ แหม ทำเป็นมาว่าฉันบ้าบอ ที่แท้ก็หึงใช่มะ พูดกันมาตรงๆ เลยดีกว่า? ฉันเท้าเอวถาม
แต่เขากลับหัวเราะแล้วก็เบ้หน้าใส่ ?ฉันเนี่ยนะ หึงเธอ -_-^?
?ก็ดูแต่ละอย่างที่นายทำสิ พอฉันรับดอกไม้จากคนนั้นคนนี้ นายก็ตามราวีฉันไม่เลิก แถมยังชอบพูดให้คนอื่นเข้าใจผิดๆ อีกว่าฉันน่ะชอบนาย? หลงตัวเองชะมัด
?อ้าว ก็เธอชอบจริงๆ นี่?
?กรี๊ด! นั่นมันตอนเด็กย่ะ สมัยนั้นฉันยังไม่มีวุฒิภาวะพอ ถึงได้เห็นกงจักรเน่าๆ อย่างนายเป็นดอกบัว?
?เหรอ?
?เออสิ แค่ฉันจะเอาสติ๊กเกอร์ไปแปะนายแค่ทีเดียว มาเหมาว่าฉันไปรักไปชอบนายได้ไง?
?เหรอ~?
อย่ามากวนประสาท ฉันจะไมเกรนขึ้นอยู่แล้วเนี่ย -_-;
?แท้จริงแล้วนายชอบฉันใช่มะ? ฉันถามเขาอีกครั้ง พร้อมกับเอามือกุมขมับ และแน่นอนว่าเขาทำหน้าเหมือนเดิมเป๊ะๆ พร้อมกับหัวเราะ
?ชอบ? และนั่นคือคำตอบจากเขา รู้มั้ยว่ามันทำให้ฉันเกือบหน้าแดงได้เลยล่ะ หากว่าไม่มีคำพูดที่ต่อท้ายมาด้วย ?ชอบตายเลย!?
อ๊าย >O< ฉันอยากจะกรีดร้องไปพร้อมๆ กับเอาคัตเตอร์กรีดหน้าหมอนี่ไปด้วย ผีเจาะปากมาพูดชัดๆ และถ้าคิดว่านั่นเป็นคำพูดสุดท้ายแล้วล่ะก็... คิดผิด!
?ฉันว่าเธอมากกว่าที่ชอบฉัน ดูสิ หอบหิ้วดอกไม้ของขวัญผ่านหน้าตึกคณะฉัน ทั้งๆ ที่เธอไม่จำเป็นต้องผ่านทางนี้ก็ได้ เหอะ ไอ้ที่ทำเนี่ยก็ไม่ใช่เป็นเพราะว่าอยากให้ฉันเห็นหรอกเหรอ?
?บะ...บ้าเหรอ นี่มันทางผ่านย่ะ -///-?
?แหม ผ่านซะไกลเชียวนะ?
?ก็ตึกคณะนิติฯ มันติดกับห้องแล็บ แล้วห้องแล็บมันก็ตัดผ่านไปคณะครุศาสตร์ แล้วคณะครุศาสตร์ก็ผ่านไปคณะฉันได้ ก็เนี่ยทางผ่าน ไม่เข้าใจเหรอ?
ถึงแม้ว่าถ้าฉันเลือกจะเดินทางตรงไปแล้วมันใกล้กว่าก็เถอะ
?อ๋อเหรอ~? หมอนั่นลากเสียงยาวแล้วก็ทำหน้ายียวน
อย่ามารู้ทันให้มาก ขอร้อง! ฉันก็แค่... อยากให้เขารู้ว่าการที่ปฏิเสธฉันในวันนั้นมันคือสิ่งผิดพลาด ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นเลยจริงๆ ...จริงๆ นะ -///-
อ่ะ โอเค ฉันยอมรับก็ได้ว่าตอนนั้นมันค่อนข้างเสียเซลฟ์นิดๆ แบบว่ามันเป็นอะไรที่ผิดไปจากที่คิดไว้มาก พอโตมาฉันถึงได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขาหันมามอง หลังจากนั้นฉันจะได้ทำเป็นไม่สนใจบ้างเหมือนที่หมอนั่นเคยทำไงล่ะ แต่ให้ตาย เขาไม่เคยมองฉันเลย แถมยังกวนประสาทใส่ทุกครั้งที่เจอกันอีกด้วย
?นายอ่ะแหละชอบฉัน อย่ามาทำไก๋น่า? ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องสินะ ก่อนที่จะถูกต้อนให้จนมุมเสียเอง
?ฉันเนี่ยนะ ชอบเธอ? เขาส่ายหัวดิก พลางถอนหายใจ ?แค่จะมองหน้ายังไม่อยากมองเลย -_-?
ร้ายกาจ! นั่นมันเป็นคำพูดที่ไว้ใช้กับผู้หญิงเรอะ
ไม่อยากมองเหรอ ไม่ชอบด้วยใช่มั้ย หึ! และเพราะแบบนั้นหัวสมองของฉันก็เลยสั่งการอะไรแปลกๆ โดยการเลือกที่จะมองหน้าโชกุนแล้วก็จ้องให้ลึกลงไปถึงข้างใน และพอหมอนั่นทำท่าจะหันหนี ฉันก็ใช้สองมือน้อยๆ ของตัวเองประคองหน้าเขาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนได้อีกเลย
?มองฉัน? มองมาที่ฉัน...แล้วจงตกหลุมรักฉันซะ โอมเพี้ยง! (ประสาท -*-)
และในขณะที่เราทั้งคู่กำลังมองหน้ากันโดยไม่มีใครยอมใคร หมอนั่นก็ดันทำหน้ายิ้มๆ จนฉันสงสัย นั่นจึงทำให้ฉันยิ่งถลึงตาใส่เขามากเข้าไปอีก
?มองฉัน? ฉันกดเสียงตัวเองให้ต่ำลงและยานคางให้ดูเซ็กซี่ แต่ว่าหมอนั่น...
?เธอมีขี้ตาอ่ะ -_-?
กรี๊ดดด! ไอ้บ้านี่ นั่นมันทำให้ฉันแพ้เกมจ้องตานี่นะยะ โฮๆ แถมยังทำให้ฉันรู้สึกอับอายอีกด้วย ขี้ตงขี้ตาอะไรไม่มีสักหน่อย ว่าแต่ขอแคะดูก่อนได้มั้ยล่ะ
?ฮ่าๆ เธอแพ้? และเขาก็หัวเราะที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียหน้าได้อีกครั้ง โชคดีแค่ไหนที่รอบกายไม่มีคนรู้จักเลย ไม่เช่นนั้นแล้วคนคงเอาฉันไปเม้าท์ทั้งมหาวิทยาลัยว่าฉันยืนแคะขี้ตาหน้าตึกคณะนิติศาสตร์ ฮึ่ย แค้นนี้มันต้องชำระ
?โชกุน คอยดูนะ สักวันนายต้องหลงรักฉันจนโงหัวไม่ขึ้น? ฉันชี้หน้าเขา พลางตะคอกใส่แบบเอาจริงเอาจัง
และหมอนั่นก็ปัดมือฉันทิ้ง พร้อมกับเอ่ยคำประกาศิตว่า ?อย่าพูดเลยว่าวันนึงฉันจะหลงรักเธอ เอาแค่วันนี้ทำให้ฉันมองเธอให้ได้เสียก่อนเถอะ? แล้วก็ตามด้วยเสียงหึ แบบกระชากสุดพลังในลำคอ
ว่าแต่... ไอ้ถ้อยคำแบบนั้นมันไม่ดูถูกกันไปหน่อยเรอะ (ได้ข่าวว่าไปท้าเขาก่อน)
?งั้นเรามาพนันกันมั้ยล่ะ ต่อจากนี้ใครหลงรักกันก่อนถือว่าแพ้?
?จำเป็นที่ฉันต้องเล่นตามเธอด้วยเหรอ?
?ไม่กล้า? อ๋อ ที่แท้ก็ป๊อด กลัวอยู่ใกล้ฉันแล้วจะอดใจไม่ไหวล่ะสิ? ฉันท้าทายเขาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสุดฤทธิ์
?ทำไมฉันต้องไม่กล้า? และเขาก็รับคำท้าด้วยคำพูดนั่น
?ได้ ฉันถือว่าต่อจากนี้เราคบกันตามเกม และถ้าใครบอกรักก่อนคนนั้นแพ้!?
และนั่นก็คือกติกา ฉันไม่ได้คิดหรอกว่าตัวเองจะมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้ แต่ฉันไม่ชอบใจเลยที่เห็นว่าหมอนั่นถือไพ่เหนือกว่าทุกครั้งเวลาที่เอาเรื่องในสมัยเด็กมาพูด ต่อจากนี้ล่ะ ฉันจะทำทุกอย่างให้เขาตกหลุมรัก แล้วสุดท้ายฉันก็จะสลัดเขาทิ้งแล้วเอามาพูดให้หมอนี่ได้อับอายกันบ้าง คอยดูสิ
?ถ้าฉันทำให้นายมารักฉันไม่ได้ ก็อย่ามาเรียกฉันว่ากิ่งไผ่อีกเลย คอยดู!? ฉันทิ้งท้ายไว้แค่นั้น แล้วก็ก้มลงไปหยิบถุงของขวัญพร้อมกับเดินกระแทกเท้าจากมา
ได้ยินเสียงโชกุนหัวเราะเบาๆ แล้วเขาก็ตะโกนบอก
?เฮ้ อย่าลืมเอาสติ๊กเกอร์ที่หลังออกด้วยล่ะ ยัยอาหารแพนด้า?
อะ...ไอ้บ้า กัดจิกฉันจนวินาทีสุดท้ายเลยนะ ว่าแต่...อาหารแพนด้านี่มันหมายถึงฉันเรอะ
หน็อย! กะว่าฉันจะแพ้นายให้ได้เลยงั้นสิ กิ่งไผ่คนนี้ขอบอกเลยว่าไม่มีทาง! ฟันธง!!!

*************************************************************************************************************
แค่เคยตื๊อแปะสติ๊กเกอร์หัวใจให้ ?โชกุน? ในวันวาเลนไทน์ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่รู้หมอนั่นจะแค้นอะไร ?กิ่งไผ่? นักหนา ถึงคอยราวีด้วยการแฉพฤติกรรมน่าอายสมัยเด็กให้หนุ่มๆ ที่มาจีบเธอได้ฟังจนกระเจิงหายไปหลายราย พอถามตรงๆ ว่าทำแบบนี้เพราะหลงรักฉันรึเปล่า ก็โดนตอกซะหน้าหงายว่าแค่หน้าก็ไม่อยากชายตาแล หน็อยแน่! หยามกันแบบนี้ต้องมีเคลียร์ ฉันจะทำทุกวิถีทางให้นายคลานเข่ามาขอความรักจากฉันให้ได้เลยคอยดู!
รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”