New Release:ร้อยรักปักษา

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release:ร้อยรักปักษา

โพสต์ โดย Gals »

บทนำ
ภายในวิมานอันแสนโอ่อ่าอลังการนั้นแวดล้อมไปด้วยเหล่าสตรีและบุรุษรูปร่างหน้าตางดงามมากมาย ทุกคนล้วนสวมใส่อาภรณ์เนื้อดี ประดับด้วยอัญมณีสูงค่า หากแต่ว่าใบหน้ากลับเศร้าหมองหดหู่ ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ร่างแน่งน้อยที่นอนนิ่งบนเตียงนอนตัวยาว
กวินตราก้มลงมองปีกสีทองเหลืองอร่ามของเธอ ไล้ไปบนขนสีทองที่แผ่สยายลงจนถึงปลายเตียงเบาๆ เรือนหน้านวลเนียนที่ซูบซีดทำให้พระยาสุวรรณกายผู้เป็นบิดาต้องเอามือลูบหน้าผากมนของเธอด้วยความอาวรณ์
?ขอให้บุญบารมีที่พ่อเคยสั่งสมมาทุกภพชาติ จงปกป้องคุ้มภัยลูกเมื่อไปจุติยังภพภูมิใหม่ ขอให้เราได้ทั้งสองได้เกิดมาเป็นพ่อลูกดังเช่นชาตินี้อีก พ่อรักเจ้าเสมอนะลูกรัก...? มือหนาเลื่อนลงมากุมมือนุ่มนิ่มอันเย็นเฉียบของครุฑสาวเบาๆ ขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลอมส้มค่อยๆ เบิกมองผู้เป็นบิดาช้าๆ
?ท่านพ่อ...อย่าร้องไห้สิเจ้าคะ? กวินตราบอกเสียงแหบพร่า ยกมือสั่นเทาขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากดวงพักตร์ของพระยาสุวรรณกาย ประมุขแห่งตระกูลครุฑสีทองอันเกรียงไกร
ด้วยความรักและอาวรณ์กับลูกสาวคนเล็กผู้เป็นที่รักยิ่ง ทำให้พระยาสุวรรณกายมิอาจทำใจยอมรับกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปได้ กวินตรากำลังจะสิ้นใจตายจากไป แต่ทว่าผู้เป็นพ่อก็ไม่อยากให้สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและอบอุ่นระหว่างกันเลือนหายไปด้วย
พระยาสุวรรณกายกระชากสร้อยในคอจนหลุด ก่อนจะปลดเอาอัญมณีศักดิ์สิทธิ์สีแดงที่เทพชั้นสูงองค์หนึ่งทรงประทานให้ตั้งแต่คราวที่กวินตราเกิด มณีรัตนภากรส่งแสงสว่างจ้าเมื่อครุฑสูงศักดิ์เพ่งกระแสจิตไปยังมัน
?มีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่จะทำให้รู้ว่ากวินตราลงไปเกิดที่ใด...? ผู้เป็นประมุขแห่งตระกูลสุวรรณกายกำมณีรัตนภากรไว้ในมือแน่นก่อนที่เหล่าครุฑน้อยใหญ่รอบกายจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย
?ท่านจะทำอะไรงั้นหรือ? กวินตรากำลังจะสิ้นใจตายในอีกไม่ช้านี้แล้วนะ...? สิ่งที่ได้ยินยิ่งทำให้พระยาสุวรรณกายขบกรามแน่น เขารับสั่งเรียกหาพิทยาธร ซึ่งเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในด้านเวทมนตร์และคาถาที่มีฝีมือเก่งที่สุดให้มาพบโดยเร็ว กำชับให้อีกฝ่ายทำพิธีฝังมณีรัตนภากร ลงไปยังร่างของกวินตราและให้มันติดตามดวงจิตเธอไปยังภพภูมิใหม่
?มณีรัตนภากรจะส่องแสงสว่างจ้า เพื่อส่งสัญญาณให้ข้าได้รู้ว่าลูกสาวข้าลงไปเกิด ณ ที่แห่งใด? น้ำเสียงกังวานก้องเอื้อนเอ่ยอย่างมาดมั่น ก่อนที่พิธีกรรมสำคัญจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า...


บทที่ 1 คำอธิษฐานเป็นจริง
กวินตรา ต้องการผู้ชายดีๆ สักคน ขอแค่สูงเกินหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร ผิวไม่ต้องขาวมาก หน้าตาพอใช้ได้ การศึกษาก็ขอเป็นปริญญาตรี เกรดเฉลี่ยไม่ขอให้ต่ำเกินไป เป็นสุภาพบุรุษที่มีเสน่ห์ พูดเพราะ เอาใจเก่ง นี่หวังว่าเธอคงจะไม่ขอมากไปใช่ไหม ? ผู้ชายคนนั้นมีอยู่จริงใช่ไหมดวงดาว...
หญิงสาวเอนตัวลงนอนบนผืนหญ้านุ่มๆ หลังบ้านที่ปลูกอยู่ตีนเขา ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ออกมาราวห้ากิโลเมตร วันนี้ดีที่ทำรายงานกับพิมพ์ดาวและธงรบเสร็จตั้งแต่หัวค่ำ เธอจึงได้มีเวลามานั่งอธิษฐานกับดวงดาวเหมือนอย่างที่เคยทำ อากาศต้นเดือนมิถุนายน มีลมพัดเย็นสบาย ดวงดาวดารดาษเต็มท้องฟ้า พยากรณ์อากาศแจ้งว่าวันพรุ่งนี้พายุลูกใหม่ก็จะพัดเข้าสู่ภาคเหนือของไทยแล้ว แต่หญิงสาวกลับยังมองไม่เห็นเค้าฝนเลยแม้แต่น้อย สองตากลมใสเบิกมองท้องฟ้าอย่างเต็มตา ค่อยๆ ระบายลมหายใจออกมาเบาๆ สิ่งที่หญิงสาววัยแรกรุ่นพึงปรารถนามีอยู่เพียงไม่กี่อย่าง การได้เข้าเรียนในสถาบันอันมีชื่อเสียง มีเสื้อผ้าสวยๆ ได้ใส่ และมีเพื่อนใจดีๆ สักคน คนที่พอจะให้เธอเอาหัวซบไหล่เวลาที่รู้สึกเหงาใจ คนที่พร้อมจะฟังเธอพร่ำบ่นเมื่อมีเรื่องคับข้องใจ และคนที่คอยให้กำลังใจเธอยามทดท้อและว้าเหว่
?ทำไมวันนี้ไม่เห็นพี่ธงรบมาส่งหละพี่แก้ว...? ก้องภพ น้องชายวัยสิบห้าปีร้องถามมาแต่ไกล รีบวิ่งเหยาะๆ มาหาร่างบางที่นอนแผ่หลาบนพื้นหญ้าก่อนทรุดนั่งลงข้างๆ พี่สาว
?ทำไมไอ้ก้อง ฉันกลับเองได้ ไม่ต้องมีคนมาส่งหรอกน่า...? คนเป็นพี่ทำจมูกฟุดฟิด ก้องภพที่ยังสวมชุดนักเรียนยักไหล่เบาๆ แหงนหน้ามองท้องฟ้าเบื้องหน้า
?พี่รบเขาไม่ดีตรงไหนเหรอ? เป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย รูปก็หล่อ ตัวสูง หุ่นดี การเรียนก็ดี?
?พูดอย่างกับว่าตัวเองรู้ดีอย่างนั้นแหละไอ้ก้อง ไปได้ยินใครเป่าหูมาอีกหละ?
?เอ๋า...หรือไม่จริง พี่ของเพื่อนผมน่ะก็เรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับพี่แก้วนะ? น้องชายลากเสียงก่อนที่กวินตราจะจุดยิ้มมุมปาก ร่างระหงค่อยๆ หยัดกายลุกนั่ง หันมามองหน้าน้องชายจอมกวนประสาทตรงๆ
?แล้วทำไม ? ฉันไม่ได้ชอบไอ้รบ โอเคมั้ย?? ขึงตาใส่ก้องภพพร้อมปั้นยิ้มหน้าตาย
?หลอกตัวเอง? น้องชายทำทีเป็นถอนหายใจก่อนจะถูกมือเล็กๆ ตีขาเข้าไปฉาดใหญ่จนต้องร้องโหยง
ก้องภพดีดตัวลุกขึ้น ทำตาค้อนใส่พี่สาวพลางบุ้ยปากว่า ?มัวแต่โอ้เอ้ เดี๋ยวถ้าเขาไปเจอคนอื่นที่ถูกใจกว่าจะหาว่าไม่เตือนนะพี่แก้ว ผมก็แค่อยากเห็นพี่แก้วมีแฟนกับเขาซักที...ใครๆ เขาก็มีกัน? ดูไอ้น้องชายตัวแสบของเธอมันว่าสิ ทำไมวัยรุ่นไทยสมัยนี้ถึงมีค่านิยมแบบนี้ได้นะ
?ฉันเพิ่งยี่สิบเอ็ดเองนะไอ้ก้อง ผู้หญิงที่ยังไม่มีแฟนก็มีตั้งเยอะ แกเลิกยุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันซะทีไอ้ก้อง !!!? ตะโกนใส่ร่างน้องชายจนอีกฝ่ายกลัวจนหัวหด จนทำให้นางวิลัยพรผู้เป็นมารดาชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่างทางส่วนครัว กวินตรามองหาเศษกิ่งไม้ก่อนหยิบมาฟาดใส่ร่างน้องชายที่วิ่งหนีเข้าบ้านหัวซุกหัวซุน พอมารดาได้เห็นสองพี่น้องที่วิ่งไล่ตีกันแล้วก็ต้องผายยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
**********************************************************************************************
นับแต่สูญเสียพี่ชายไป แสงสูรย์ สุเรนทรชิตก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียว แม้ตระกูลสุเรนทรชิตจะมีครุฑผู้สืบสกุลมากมาย หากแต่ญาติสนิทในครอบครัวเขากลับไม่มีซักคน เขากับมุขสุดาผู้เป็นภรรยาอาศัยอยู่บนดอยอันเงียบสงบและห่างไกลจากสิ่งรบกวน ชีวิตอันสมถะและเรียบง่ายทำให้ครุฑทั้งสองพึงพอใจเป็นอย่างมาก และก็คิดว่าจะอยู่ที่นี่ไปจนกว่าจะตายจากกันไป จนกระทั่งแสงสูรย์ได้ทราบเรื่องสำคัญที่ทำให้เขากับมุขสุดาต้องเป็นกังวล
หลังจากที่ข่าวของตระกูลรักตปักษ์ที่มิอาจหยุดยั้งพวกนาคเอราปถไม่ให้ค้นพบมณีนาคสวาทสีเขียวมรกตได้แพร่สะพัดออกไป มันก็เหมือนกับการประกาศให้สามโลกได้รู้ว่า ครุฑตระกูลรักตปักษ์พ่ายแพ้เหล่านาคา มิหนำซ้ำยังพลอยทำให้เหล่าปักษาต้องคอยเป็นกังวลกับอัญมณีอันมีฤทธิ์ของพวกนาคสีเขียวชิ้นนี้ ด้วยที่ว่ามันมีอานุภาพร้ายกาจ สามารถสังหารครุฑให้ตายได้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นได้ทำให้แสงสูรย์และมุขสุดาเริ่มเป็นกังวลกับสถานะของตรัศวิน หลานชายของเขาที่ถูกสิตามัน รักตปักษ์ผู้เป็นตานำไปเลี้ยงตั้งแต่ยังเยาว์วัยไม่ได้
ตรัศวินถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุทำให้พวกสกุลนิลนาคได้มณีนาคสวาทสีเขียวมรกตไป ข่าวที่แจ้งมาบอกว่าเขายอมกรีดเลือดตัวเอง รินรดพระพุทธรูปโบราณที่ภายในซุกซ่อนมณีนาคสวาทไว้พร้อมกับคำสาปที่ต้องใช้เลือดครุฑชะล้างเท่านั้นอัญมณีอันทรงอิทธิฤทธิ์ของนาคถึงจะปรากฎ เพราะความรักในตัวมนุษย์สาวผู้นำพามัน จึงทำให้ครุฑหนุ่มยอมทรยศเผ่าพันธุ์ตัวเอง เพื่อแลกกับการที่เธอจะเป็นอิสระไม่ต้องไปข้องเกี่ยวกับพวกนาคาอีก เขายอมทำได้ทุกอย่างแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ด้วยหัวใจที่มอบให้เพียงแค่เธอคนเดียว หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นดังหวัง หัวใจของเธอนั้นได้ถูกนาคหนุ่มครอบครองเสียแล้ว นั่นทำให้ตรัศวินเจ็บปวดจนเกินจะบรรยาย ความรวดร้าวนี้ยังคงฝังลึกอยู่ในหัวใจของเขาตลอดมา
แต่การที่สิตามัน รักตปักษ์ขังตรัศวินไว้ในกรงทองนั้น แสงสูรย์เชื่อว่ามันคงไม่ทำให้อะไรๆ ดีขึ้น เวลาล่วงไปหลายเดือน แสงสูรย์ สุเรนทรชิตกับมุขสุดาจึงเดินทางไปยังดินแดนอีสานใต้ เพื่อนำหลานชายคนเดียวของเขา ผู้สมควรสืบสกุลสุเรนทรชิตให้มาพักอาศัยยังเมืองเชียงใหม่แทน
*********************************************************************************************
?อาทำของว่างมาให้ทานจ้ะวิน วางอยู่บนโต๊ะนะ? มุขสุดาแตะบ่าหลานชายที่ทรุดนั่งบนเนินหญ้า นอกระเบียงห้องนอนพร้อมกับแหงนหน้ามองดาวบนฟ้า
?ครับ? ชายหนุ่มตอบรับเสียงเบา คลี่ยิ้มบางๆ ส่งให้ก่อนยันกายลุกขึ้นเดินตามหลังผู้เป็นอากลับไปยังระเบียงห้องนอน มองไปเห็นโกโก้อุ่นๆ แก้วหนึ่งกับบิสกิตวางอยู่บนจานเล็กๆ บนกลุ่มโต๊ะเก้าอี้สีขาวขนาดย่อม
ชายหนุ่มเดินไปทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ ฉวยเอาโกโก้อุ่นๆ ขึ้นมาจิบ ดวงตาสีน้ำตาลแดงเบิกมองออกไปนอกระเบียงกว้าง ภูเขาน้อยใหญ่เรียงตัวกันอย่างสลับซับซ้อน ทอดยาวไปไกลจนสุดลูกหูลูกตา ลมเย็นลอยพัดมาปะทะร่างสูงที่ทรุดนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมระเบียงด้วยอาการเหม่อลอย เขากำลังคิดถึงบรรยากาศที่มณีนิลซึ่งเพิ่งจากมา และหญิงสาวผู้งดงามที่เขาถวิลหาอาวรณ์อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
หากแต่ว่า...การที่แสงสูรย์อาของเขา กล้าขัดขืนและขอตัวเขามาจากผู้เป็นตาอย่างสิตามัน นั่นก็แสดงว่าแสงสูรย์ไว้ใจเขา ว่าจะไม่คิดทำอะไรโง่ๆ บินออกไปตามหากลิ่นจันทร์และฆ่าภุชคินทร์ นิลนาคคนรักของเธอ
ใช่... เขาจะไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นแน่ ครุฑหนุ่มกำลังคิดอยู่ว่าจะทำเช่นไรดี เขาถึงจะลืมความทรงจำอันแสนเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้ ลืมหญิงสาวคนนั้น ลืมความรู้สึกอันแสนรวดร้าวทรมานใจเหล่านั้นได้ เขาจะต้องทำอย่างไร...
********************************************************************************************************
ตลอดการรับประทานอาหารเที่ยงของวันนี้ กวินตราก็แทบจะทานอะไรไม่ลง เพราะสายตาของหญิงสาวเอาแต่เฝ้ามองชายหนุ่มผิวขาวสะอาดร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ใบหน้าเขาขาวสะอาดเกลี้ยงเกลาได้รูป คิ้วสีดำเข้ม และปากสีเลือดหมู แถมดวงตายังเป็นประกายสีน้ำตาลแดงราวกับลูกครึ่ง แม้ว่าที่มหาวิทยาลัยจะมีชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีหรือนักศึกษาที่เป็นลูกครึ่งมากมาย แต่เธอกลับไม่เคยจ้องมองใครนานราวกับต้องมนตร์สะกดอย่างนี้มาก่อนเลย
พอเขาหันมาสบสายตา หล่อนก็ต้องรีบก้มหน้างุดมองอาหารในจาน อากัปกิริยาของหญิงสาวอดทำให้วิยะดากับธงรบผู้เป็นเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่เคียงข้างหมั่นไส้เอาไม่ได้ หากแต่ฝ่ายธงรบนั้นออกจะไม่พอใจเสียมากกว่า เพราะชายหนุ่มคิดกับกวินตราเกินกว่าเพื่อนมานานแล้ว
?หมอนั่นก็แปลกเน่าะ นั่งทานข้าวคนเดียวเฉยเลย...? วิยะดาพูดขึ้นลอยๆ พลางเหลือบไปมองหน้าของกวินตรา
?ไม่เห็นแปลกตรงไหน นักศึกษาคนอื่นที่ทานข้าวคนเดียวมีถมเถ เขาอาจจะกำลังรอเพื่อนอยู่ก็ได้? กวินตราตอบกลับเสียงใสก่อนที่ธงรบจะยิ้มแหย
?สงสัยคงไม่มีใครคบ หน้าตาดีซะเปล่า? จบคำชายหนุ่มผิวคล้ำก็หัวเราะร่วน พอหญิงสาวข้างๆ หันมามองตาขวางจึงทำให้เสียงขบขันนั้นเงียบลง
กวินตราถอนหายใจเบาๆ สายตากลับไปครอบครองใบหน้าได้สัดส่วนของชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง หากแต่ว่ากลับพบเพียงความว่างเปล่า เหลือเพียงแค่จานอาหารวางทิ้งไว้บนโต๊ะเท่านั้น...
วิยะดามองแล้วก็ทำจมูกฟึดฟัด ?นั่นไง...หล่อแต่นิสัยแย่ กินแล้วก็ไม่เก็บจาน? หญิงสาวใบหน้าอ้วนกลมส่ายศีรษะด้วยท่าทีเอือมระอา ก่อนก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยความตั้งใจ ขณะที่กวินตราเอาแต่กวาดสายตามองหาเขาด้วยความรู้สึกกระวนกระวาย แวบเดียวเท่านั้นที่เธอหันไปค้อนสายตาใส่ธงรบ แต่ทำไมเขาถึงได้เดินหายไปไวขนาดนี้ได้นะ...
*********************************************************************************************************
เมื่อเรียนวิชาคาบสุดท้ายเสร็จแล้วทั้งที่อยากกลับบ้านใจจะขาดแต่กวินตราก็ต้องยอมมาดูนายธงรบซ้อมกีฬาเพราะคำอ้อนวอนของวิยะดาผู้เป็นเพื่อนสนิท ไม่รู้เมื่อไหร่ว่าเพื่อนหนุ่มของเธอจะเห็นความห่วงใยที่วิยะดามีให้ และเลิกคิดกับเธอเกินกว่าเพื่อนเสียที เธอไม่อยากจะเสียทั้งสองคนนี้ไปนะ
แต่ยิ่งรู้ว่าธงรบคิดกับเธอเช่นไรกวินตราก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้นเท่านั้น เพราะเธอไม่ได้รักอีกฝ่าย แถมวิยะดาผู้เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยประถมก็ดันไปเทใจให้นายนี่จนหมดหัวใจ... เรื่องมันสลับซับซ้อนยิ่งกว่าพล็อตนิยายน้ำเน่าเสียอีก
?ฉันว่าเดี๋ยวฉันโทร.บอกพ่อให้มารับดีกว่า นี่ก็จะทุ่มนึงแล้ว? กวินตรายกโทรศัพท์มือถือขึ้นกดดูเวลา ก่อนที่วิยะดาจะทำหน้ามุ่ย
?ไม่ได้นะแก้ว ฉันนัดกับรบไว้ว่าหลังจากที่เขาซ้อมกีฬาเสร็จจะไปนั่งกินผัดไทกัน?
?อ้าววิ...แล้วทำไมแกสองคนถึงไม่บอกฉันก่อนเนี่ย? คนพูดอ้าปากค้าง จ้องหน้าวิยะดาอย่างเอาเรื่อง
?โถยัยแก้ว กะอีแค่ไปกินผัดไทกับเพื่อนแค่นี้ เราสามคนก็ไปหาอะไรกินด้วยกันหลังเลิกเรียนบ่อยจะตายไป?
?แต่ไม่ใช่วันนี้ ฉันกับพ่อวางแผนจะทำเซอร์ไพรส์ให้กับแม่ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดแม่ฉัน?
?ตายจริง...งั้นแกกลับก่อนก็ได้แก้ว เดี๋ยวฉันบอกธงรบให้? วิยะดาร้องเสียงหลง สีหน้าตกใจ
กวินตรารวบเอาหนังสือที่วางอยู่ข้างกาย ลุกจากม้านั่งข้างสนามฟุตซอลขณะที่นักเตะหนุ่มในสนามหันมามองตามร่างบางด้วยความสงสัย ธงรบขอตัวออกจากเกมชั่วครู่ วิ่งเหยาะๆ มายังโต๊ะหินอ่อนก่อนอ้าปากถามวิยะดา
?แก้วไปไหนน่ะ?? ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงกีฬายังคงมองตามร่างของกวินตรา บนใบหน้าสีแทนคร้ามคมอาบไปด้วยเหงื่อ
?กลับบ้าน พอดีวันนี้เป็นวันเกิดคุณแม่ยัยแก้วน่ะ สงสัยเราคงได้ไปกินกันสองแล้วหละ? วิยะดาคลี่ยิ้มก่อนก้มหน้ามองหนังสือบนโต๊ะด้วยความขวยเขิน ก่อนที่ผู้เป็นเพื่อนจะระบายลมหายใจยาว
?งั้น...ฉันคงไปไม่ได้เหมือนกันนะวิ พวกเพื่อนๆ มันนัดไปนั่งดื่มกันต่อ? ตีคิ้วใส่หญิงสาวร่างอวบที่นั่งคอยท่าก่อนหันหลังวิ่งกลับเข้าสนามไป วิยะดามองแผ่นหลังกว้างของเพื่อนหนุ่มด้วยความขุ่นเคือง อุตส่าห์ให้นั่งรอตั้งนานแต่พอรู้ว่ากวินตราไปด้วยไม่ได้ก็เชิดหนีไปเสียดื้อๆ เลยนะนายธงรบ
**********************************************************************************************************
กวินตราก้าวขาฉับๆ จนพ้นประตูมหาวิทยาลัย หญิงสาวเดินมารอบิดาตรงจุดเดิมที่เคยรอ ไม่นานนักรถยนต์สีดำคันงามที่คุ้นเคยก็มาจอดเทียบ ร่างบางเดินตรงไปเปิดประตูรถออกและก้าวขาขึ้นไปนั่งทันที
?พ่อซื้อเค้กมาแล้วเหรอคะ?...แล้วตอนนี้แม่ทำอะไรอยู่? ผู้เป็นลูกสาวเอ่ยถามเสียงใส หากแต่บิดาที่นั่งอยู่เคียงข้างกลับทำหน้าเคร่งขรึมและไม่ตอบคำถามเธอ
รถยนต์พุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงจนหญิงสาวแปลกใจ ดวงหน้ากลมรีหันมามองหน้าบิดาด้วยความสับสน ดวงตาของชายวัยห้าสิบดุดันน่ากลัว ยามที่รถยนต์เคลื่อนผ่านแสงไฟที่ส่องสว่างข้างทาง สองตาของเขาก็สะท้อนเป็นประกายวาววับราวกับอัญมณีสีรุ้ง
?พ่อ...? กวินตราเขย่าต้นแขนบิดาอย่างแรงจนเขาหันมาจ้องมองเธอ สีหน้าเดือดดาลและแววตาอันดุดันของเขาทำให้หญิงสาวรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมา ใบหน้าคร้ามแดดที่มีรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลาแสยะยิ้ม ก่อนจะหันไปจับจ้องเส้นทางเบื้องหน้า พารถยนต์คันงามเลี้ยวเข้าไปยังหนทางที่กวินตราไม่คุ้นเคย
?พ่อจะไปไหนคะ...พ่อเป็นอะไรไป !?
กวินตราตะโกนถาม เมื่อผู้เป็นสารถีเหยียบเบรกศีรษะเธอก็เกือบกระแทกเข้ากับคอนโซลรถ ดวงตาไหวระริกของหญิงสาวจ้องมองร่างของบิดาที่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลายเป็นร่างชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับเธออย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา หัวใจหญิงสาวเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงแน่ๆ
กวินตราเอี้ยวตัวหนีด้วยความตกใจสุดขีด มือซ้ายรีบผลักประตูรถออกไปอย่างแรง ร่างบางล้มฮวบลงกับพื้นดิน เมื่อลุกขึ้นได้ก็วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตก่อนจะมาสะดุดกิ่งไม้จนล้มคว่ำลงกับพื้นดินที่เริ่มมีเม็ดฝนโปรยปรายลงมา
เมื่อหันหลังกลับไปก็เห็นชายชุดดำคนนั้นกำลังเดินเนิบนาบตามมา บนใบหน้าคร้ามแดดคือดวงตาสีรุ้งที่ส่งประกายวูบวาบยามที่ถูกแสงฟ้าที่แลบแปลบปลาบสาดกระทบ กวินตรากลั้นใจพยายามดันตัวเองลุกขึ้น เมื่อหันมาเบื้องหน้าสองตาเธอก็ต้องพบกับสตรีคนหนึ่งที่ยืนขวางไว้
หญิงสาวร่างสมส่วน ดวงตาทั้งสองข้างส่งประกายเป็นสีรุ้งไม่ต่างกับชายคนข้างหลัง แสยะยิ้มด้วยความพึงพอใจ เธอตรงปรี่เข้ามาจับแขนกวินตราไว้ กระแสพิษจากปลายนิ้วของรุ้งระย้าแผ่ซึมเข้าสู่กายเนื้อของกวินตรา
ความร้อนประดุจถูกไฟเผาทำให้หญิงสาวต้องกรีดร้องออกมาสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด แต่ขณะนั้นเอง จู่ๆ ก็มีกระแสลมแรงพัดโหมเข้าใส่จนแทบปลิว นาคสีรุ้งทั้งสองตนหันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ เสียงร้องของปักษาหนุ่มที่ดังอยู่เหนือท้องฟ้าทำให้รุ้งระย้าต้องปล่อยร่างมนุษย์สาวและรีบพาสมุนหนุ่มของเธอหนีกลับไปในที่สุด
กวินตราค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ อรู้สึกเย็นเยือกที่ปลายเท้า ศีรษะของเธอกำลังซบอยู่กับแผงอกของใครสักคน ร่างกายนุ่มนิ่มของเธอถูกวงแขนแข็งแกร่งโอบรัดไว้แน่น ขณะที่สองตาอันพร่าเลือนมองต่ำลงยังพื้นดินด้วยความตกใจ เธอกำลังลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า สูงขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ... และจากนั้น หญิงสาวก็หมดสติไปในที่สุด
********************************************************************************************************
ดวงตาสีน้ำตาลแดงของตรัศวินเหม่อมองออกไปนอกกระจกรถ สายฝนกำลังซัดสาดลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ยังดีที่เขาพาหญิงผู้เคราะห์ร้ายคนนี้เข้ามาในรถได้ทันก่อนที่ฝนจะเทลงจากฟ้า
ใบหน้าขาวสะอาดละสายตาจากสายฝนด้านนอก หันมาสำรวจมองเรือนหน้านวลเนียนที่ซบอยู่กับไหล่หนาของเขา ผ่านไปร่วมชั่วโมงที่อีกฝ่ายเอาแต่นอนไม่ได้สติ จะรู้บ้างหรือเปล่าว่ามันทำให้เขาเมื่อยมากแค่ไหนที่ต้องนั่งอยู่นิ่งให้เธอเอาหัวซบไหล่แบบนี้น่ะ
กลิ่นน้ำหอมของเธอผสมปนเปกับกลิ่นเหงื่ออ่อนๆ ของสตรีเพศ เมื่อชายหนุ่มได้สูดดมไปอย่างไม่ตั้งใจ มันก็คล้ายกับจะไปกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายของเขาให้พุ่งพล่านอย่างไม่รู้ตัว ขืนปล่อยให้เธอนอนเอาหัวซบกับไหล่เขาไปนานๆ แบบนี้ มีหวังว่าอาจจะไม่ได้พาเธอกลับบ้านแน่ เธอจะรู้บ้างรึเปล่าว่าเขากำลังเหงา การได้อยู่ใกล้ๆ ผู้หญิงสักคนทำให้หัวใจเหงาๆ ของเขาชุ่มฉ่ำขึ้นมาเป็นกอง แต่เราเพิ่งเคยพบกัน ไม่แน่...ถ้ายัยนี่เกิดลืมตาตื่นขึ้นมา อาจจะกลายเป็นคนสติแตกไปเลยก็ได้ ครุฑหนุ่มได้แต่หวังว่านาคพวกนั้นคงไม่ได้สำแดงอิทธิฤทธิ์อะไรที่น่ากลัว หรือว่ากลายร่างเป็นงูยักษ์ตัวใหญ่ต่อหน้ามนุษย์สาวผู้บอบบางเช่นเธอหรอกนะ
ระหว่างที่เขากำลังชื่นชมความงดงามของเธออยู่นั้นหญิงสาวก็เริ่มได้สติ ภาพแรกที่เห็นคือสายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา กวินตรากลอกตามองซ้ายขวาก่อนจะรีบเด้งตัวลุกนั่งตัวตรงเมื่อรู้สึกว่าศีรษะของเธอกำลังพิงอยู่กับใครสักคน
เมื่อสองตาประสานกันก็แทบจะทำให้มนุษย์สาวหยุดหายใจไปชั่วขณะ ดวงตาสีน้ำตาลแดงอันมีเสน่ห์คู่นั้น ที่ทำให้เธอหลงใหลนับแต่วินาทีแรกที่ได้เห็น ใบหน้าขาวสะอาดได้รูปดุจดังเทพบุตร ก้อนเนื้อที่อกซ้ายเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ขณะที่ตรัศวินก็ได้แต่ลุ้นตัวโก่งว่าเธอจะมีทีท่าเช่นไร แม้คนตรงหน้าจะเป็นเขาแต่ภาพขณะที่บิดากลายร่างเป็นชายหนุ่มหน้าตาดุดันคนนั้นทำให้กวินตราต้องรีบถอยห่างจนชิดขอบประตูรถ
?นาย...อย่าทำอะไรฉันนะ? เธอร้องเสียงสั่นเครือ สีหน้าและแววตาไม่ต่างอะไรกับลูกนกที่พลัดตกจากรัง
?ใช่...ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอ แต่เป็นคนช่วยเธอต่างหาก ไม่ต้องกลัวนะ ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว? กวินตราหอบหายใจ รู้สึกสับสนงุนงงไปหมด ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แล้วสิ่งที่เธอได้เห็นเมื่อครู่นี้เล่ามันคืออะไร?
?ฉัน ฉันเห็นพ่อฉันกลายร่างเป็นผู้ชายอีกคนหนึ่ง แล้วพอฉันวิ่งลงมาจากรถก็มีผู้หญิงอีกคนตรงเข้ามาหาฉัน เธอจับแขนฉัน และมันก็...?
จบคำ ดวงตาหม่นแสงก็ก้มลงมองข้อมือซ้ายที่เป็นรอยนิ้วมือ ผิวหนังของเธอส่วนนั้นแดงก่ำคล้ายได้สัมผัสกับของร้อน ตรัศวินระบายลมหายใจออกเบาๆ ปรับกระจกรถลงจนสุดให้อากาศเย็นชื้นได้ไหลเข้ามาภายใน
?บ้านเธออยู่ที่ไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง? เขาถามเสียงเรียบ ปั้นสีหน้าเคร่งขรึมเพื่อให้ดูน่าเกรงขาม กวินตราก้มหน้างุดด้วยความสับสนที่เกาะกุมหัวใจ หรือเธอจะเห็นภาพหลอน... แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เธอต้องประสาทเสียไปแล้วแน่ๆ เลยกวินตรา
แต่ยังไงก็เถอะ ยังดีที่ผู้ชายคนนี้ช่วยเธอไว้ได้ ผู้ชายคนที่เธอเจอเมื่อตอนกลางวันที่...
?ตกลงจะบอกมั้ยว่าบ้านเธออยู่ไหน?? ชายหนุ่มถามย้ำเป็นครั้งที่สอง หญิงสาวคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนบอกที่อยู่ตัวเองช้าชัด จากนั้นจึงก้มหน้างุดด้วยความกังวลอีกครั้ง
?หรือพ่อฉัน...แล้วเกิดอะไรขึ้นกับพ่อรึเปล่า หรือว่าสิ่งที่ฉันได้เจอเมื่อกี้นั่นคือปีศาจ นายรู้ใช่มั้ยว่ามันคืออะไร นายเห็นพวกมันใช่มั้ย?? เธอถามรัวเร็วด้วยความกังวลและสับสนขณะที่ตรัศวินเริ่มออกรถ ชายหนุ่มจุดยิ้มน้อยๆ บอกอย่างไม่หันมามอง
?ไม่รู้สิ...ฉันบังเอิญไปเจอเธอสลบอยู่ข้างทาง สงสัยเธอคงเรียนหนักจนเก็บเอาไปคิด และเห็นภาพหลอนมั้ง พอถึงบ้านแล้วเธอก็ค่อยไปถามพ่อเธอเองก็แล้วกัน?
?แต่...ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นจับแขนฉัน จู่ๆ ก็มีลมแรงพัดเข้ามาใส่ ผู้หญิงคนนั้นท่าทางน่ากลัวมาก เธอปล่อยแขนฉันและวิ่งหนีหายไป จากนั้นฉันก็ล้มลง ต่อมาก็รู้สึกเหมือนว่าร่างกายกำลังลอยขึ้นจากพื้นดิน เหมือนกับว่าฉันบินได้?
ตรัศวินชะลอรถเมื่อเข้าสู่ถนนสายหลักที่การจราจรเริ่มติดขัด หันมาฉีกยิ้มกว้างให้กับหญิงสาวที่นั่งทำหน้างงกับชีวิต
?สงสัยเธอคงอ่านนิยายแฟนตาซีมากไปน่ะ ฉันแนะนำว่าถ้าเธอว่างๆ ลองไปพบจิตแพทย์ดู เผื่อว่าเขาอาจจะช่วยเธอได้บ้าง หรืออาจจะลองไปเช็คคลื่นสมองดูบ้างก็ดีนะ? จบคำกวินตราก็หันมาทำตาค้อนใส่เขา ก่อนสะบัดตัวเอาหน้าพิงกับกระจกรถ
ตรัศวินเลิกคิ้วสูงพร้อมกับถอนหายใจอีกครั้ง เขาเองก็ยังสงสัยกับสิ่งที่เธอได้เจอไปเมื่อครู่อยู่เช่นกัน แต่คิดว่าเธอคงยังไม่พร้อมที่จะรับฟังตอนนี้ มันอาจจะเป็นแค่วันแย่ๆ วันหนึ่ง และเมื่อเวลาผ่านไปเธอก็จะลืมมันไปในที่สุด...

***********************************************************
เธอคือมนุษย์สาวที่มีหัวใจเป็นมณีรัตนภากร อัญมณีล้ำค่าทรงอานุภาพที่เหล่าปักษาออกตามหาและแย่งชิง กวินตราสาวน้อยวัยใสไม่รู้จะรับมือเช่นไร ทายาทแห่งผู้มีปีกสีแดงนามตรัศวินจึงกลายมาเป็นบอดี้การ์ดปกป้อง เขาต้องต่อสู้กับนาคสีรุ้งที่เก็บกักความเจ็บแค้นในอดีตชาติ ห้วงเวลาแห่งอุปสรรคก่อให้สัมพันธ์ลึกซึ้งของครุฑหนุ่มและมนุษย์สาวเกิดขึ้น รอยจูบคราแรกในชีวิตของกวินตราที่เจ้าเวหามอบให้เธอนั้น ทำเอาร่างแบบบางแทบจะหลอมละลายไปกับรสสวาท ณ ตอนนี้หญิงสาวสุขสมใจเกินกว่าจะหาถ้อยคำใดมาพรรณนาได้ หากความรักของพญาครุฑเช่นตรัศวินเปรียบดังสายลม หญิงสาวที่โหยหารักเช่นกวินตราก็พร้อมปล่อยใจล่องลอยไปกับกระแสนั้น หากแม้จะต้องพบเจอกับฤทธาแลมนตราเลวร้ายหนักหนาเพียงใด ขอเพียงให้เธอได้อยู่ใต้ปีกอันอบอุ่นของเขา...ได้ซบแผงอกอันแข็งแกร่ง และขอให้ได้ฟังเสียงหัวใจแห่งสองของเราเต้นพร้อมกัน...เท่านั้นพอ

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”