New Release:ซิ่งรักทะลวงใจ

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release:ซิ่งรักทะลวงใจ

โพสต์ โดย Gals »

1




ท่ามกลางความมืดมิดแห่งราตรีกาล ตำรวจสิบนายซึ่งนำโดยสารวัตรมือปราบชื่อดังของกองปราบปราม เบญจกุล อัครเสนา กำลังซุ่มดูการลับลอบขนย้ายอะไหล่รถจักรยานยนต์ออกจากโกดังเก็บของของบริษัทไทม์กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตสินค้าส่งให้กับบริษัทประกอบการจักรยานยนต์ยี่ห้อดังในเมืองไทย ดวงตาคมกริบของสารวัตรกวาดมองและสั่งลูกน้องบันทึกภาพไว้ทุกนาทีเพื่อเอาผิดกับคนร้าย
?ขนกันง่ายๆ แบบนี้คนในมีเอี่ยวชัวร์ครับสารวัตร...? ดาบชีพเอ่ยขึ้นมาลอยๆ แต่สายตายังจับจ้องชายฉกรรจ์หลายสิบคนกำลังช่วยกันแบกลังไม้ขึ้นรถสิบล้อที่จอดอยู่
?ทั้งของทั้งคนอยู่กันครบ รวบตัวเลยไหมครับสารวัตร...? จ่าชูชัยที่หลบอยู่อีกข้างหันไปถาม เบนยกริมฝีปากขึ้น ใบหน้าคมสันเรียบเฉย หากในความเงียบนั้นดาบชีพและจ่าชูชัยรู้ดีว่าแผนการทุกอย่างถูกประมวลผลอย่างดีด้วยประสบการณ์ของสารวัตรหนุ่ม
?พวกนี้แค่ปลาซิวปลาสร้อยแหละดาบ รอสักพักเผื่อคนที่เราคาดไม่ถึงจะมาร่วมวงด้วย...?
และเป็นไปตามคาด ไม่ถึงสิบนาทีรถกระบะสีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนก็เข้าไปจอดเลยประตูทางเข้าไปไม่ไกล ชายร่างสูงใหญ่ใส่แว่นตาดำสามคนเดินมาจากรถ เบนหยิบกล้องส่องทางไกลที่ใช้งานได้ดีในช่วงกลางคืนออกมาจากกระเป๋ากางเกง จับภาพชายทั้งสามคนเอาไว้ได้ คิ้วหนาขมวดขึ้นอย่างสงสัยเพราะหนึ่งในสามเขารู้สึกคุ้นหน้าชอบกล และก่อนที่เบนจะลดกล้องลง สายตาก็เหลือบไปเห็นเงาดำที่วูบไหวอยู่ข้างกำแพงอีกด้านหนึ่งของโกดังเก็บของ มือใหญ่ยกกล้องขึ้นมองอีกครั้ง ร่างสูงโปร่งสวมชุดดำรัดรูป ปิดบังใบหน้าด้วยหมวกไหมพรมสีเดียวกับชุด มีเพียงดวงตาคมสวยเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมาให้เห็น
?มีอะไรครับสารวัตร...? เมื่อเห็นเจ้านายมองไปยังกำแพงอีกด้านนานผิดปกติ จ่าชูชัยจึงถามออกมาอย่างใคร่รู้
?มีคนชุดดำอีกคนแอบอยู่ข้างกำแพงฝั่งโน้น...? เบนบอกพลางส่งกล้องคืนให้ดาบชีพแล้วให้สัญญาณเคลื่อนกำลังเข้าไปใกล้ แต่สายตาคมยังจับจ้องการเคลื่อนไหวของคนชุดดำที่มาใหม่อย่างไม่ให้คาดสายตา
และร่างสูงโปร่งที่เรียกความสนใจของสารวัตรหนุ่ม แท้จริงแล้วคือกัณหา พงษ์เทวา ผู้บริหารไทม์กรุ๊ปที่ได้ข่าวลับลอบขโมยของออกจากโกดังจากสายที่อยู่ในโรงงาน ดังนั้นคืนนี้เธอจึงแจ้งไปที่กองปราบเพื่อขอกำลังมาจับกุม ส่วนตัวเองก็แอบเข้ามาสังเกตการณ์เช่นกัน
?ใหญ่กันจริง ขโมยกันซึ่งๆ หน้าแบบนี้เลยเหรอ...? หล่อนพึมพำกับตัวเองอย่างเคียดแค้น
สามปีที่บริษัทขาดทุนเพราะลูกค้าลดออเดอร์ลง เนื่องจากสินค้าที่ส่งไปไม่ได้คุณภาพ ทำให้สินค้าหลายตัวถูกตีกลับมา ทั้งๆ ที่สินค้าทุกล็อตฝ่ายตรวจสอบยืนยันว่าสินค้าทุกชิ้นได้มาตรฐาน
เมื่อออเดอร์ลดลง รายได้ของบริษัทก็ลดลงและการขาดสภาพคล่องก็ตามมา แต่กัณหาก็พยายามสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าและโปรโมทสินค้าของบริษัทอยู่ตลอดเวลา สุดท้ายไทม์กรุ๊ปก็มาถึงทางตันเมื่อแหล่งเงินทุนถอนหุ้นออกไป เพราะไม่มั่นใจในการบริหารงานของผู้บริหารคนปัจจุบันซึ่งก็คือเธอ ทำให้นายตรัยและบุตรสาวต้องหาคนมาร่วมทุนใหม่ แต่จนแล้วจนรอดคนที่เขาไปเสนอให้ก็ปฏิเสธการช่วยเหลือ มีเพียงเอลตาโน่เท่านั้นที่ยังขอศึกษารายละเอียด และรอให้ทายาทอีกคนกลับมาจากเมืองนอกเสียก่อน
?คุณการันต์ร่วมมือกับพวกนี้เองหรอกหรือนี่...? กัณหาตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น เมื่อมองเห็นการันต์ ผู้จัดการแผนกตรวจสอบคุณภาพของบริษัทเดินเข้ามาพร้อมชายแปลกหน้าอีกสองคน
ครั้นพอร่างโปร่งระหงขยับตัว เท้าเล็กก็ถอยไปเหยียบกิ่งไม้แห้งเสียงดังแกรก และเสียงนั้นก็เรียกความสนใจของพวกมันได้เป็นอย่างดี
?เฮ้ย! มีคนอยู่ตรงนั้น เร็ว จับตัวมันมาให้ได้...? การันต์ตะโกนบอกอย่างตกใจ ชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่รีบตามไปทันที
?จับให้ได้ ไม่อย่างนั้นได้บรรลัยกันแน่งานนี้...?
เท้าเล็กวิ่งไปยังบันไดซึ่งพาดกำแพงไว้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ชายร่างใหญ่สบถออกมาแล้วเล็งปืนไปที่ร่างเล็กที่กำลังปีนป่ายกำแพงออกไปข้างนอก เบนมองเหตุการณ์ชุลมุนอยู่ชั่วครู่จึงตะโกนออกไปสุดเสียง
?นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบและยอมมอบตัวแต่โดยดี...? สิ้นเสียงตะโกนบอก พวกมันต่างกระโดดหาที่หลบ จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว ส่วนพวกที่วิ่งตามจับตัวกัณหาก็วิ่งหาที่บังกายและยิงตอบโต้ตอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ปังๆๆๆๆๆ
?อ๊าก!?
เสียงร้องอย่างเจ็บปวดและร่างชายฉกรรจ์หลายคนดังขึ้นประสานกับเสียงปืน หลายคนล้มตายราวใบไม้ร่วง การันต์มองเพื่อนอีกสองคน ทั้งสามพยักหน้าให้กันแล้วถอยไปด้านหลังของโกดัง เบนเห็นจึงยิงเข้าใส่ คมกระสุนเจาะเข้าศีรษะคนที่วิ่งตามหลังการันต์แม่นราวจับวาง การันต์หน้าซีด หันไปมองเพื่อนอย่างตกใจ เหงื่อเม็ดโตซึมออกมาเต็มใบหน้าอย่างกลัวๆ พอจะขยับขาออกวิ่งไปก็ต้องร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อคมกระสุนเจาะทะลุต้นขาเลือดแดงฉาน
?โอ๊ย...? การันต์ร้องอย่างเจ็บปวดและทรุดกายลงกับพื้น แต่ก็ยังรวบรวมกำลังกระเสือกกระสนหาที่ซ่อนกาย กัณหาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ข้างกำแพง มองจับไปที่ร่างของผู้จัดการฝ่ายของบริษัท
เสียงปืนดังอยู่ประมาณสามสิบนาทีก็เงียบลงอย่างยอมแพ้ เมื่อเห็นว่าไม่มีทางรอดคนร้ายหลายคนยกปืนขึ้นเหนือศีรษะเดินออกมามอบตัว เบญจกุล จ่าชูชัยและดาบชีพพาตำรวจอีกหลายนายเข้าจับกุมแล้วเคลียร์พื้นที่
ใบหน้าคมสันกวาดมองไปรอบๆ อย่างประเมินความเสียหายของฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะมองคนร้ายถูกดันไปยืนเรียงแถวขึ้นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเป็นระเบียบ สารวัตรหนุ่มกวาดมองรอบๆ อีกครั้ง เมื่อไม่เห็นใครอีกคนที่เข้ามาร่วมแจมในคืนนี้ ร่างสูงเดินไปยังจุดที่เห็นร่างโปร่งสวมชุดดำยืนแอบอยู่เมื่อสักครู่
กัณหาเห็นทุกอย่างลงเอยด้วยดี ตำรวจยึดของคืนกลับมาได้จึงถอยหลังไปช้าๆ เพื่อใช้ความมืดซ่อนกาย ปีนป่ายกำแพงออกไปขึ้นรถที่จอดหลบอยู่ด้านนอก ร่างงามขยับตัวไปยังบันไดลิงที่พาดอยู่โดยไม่เฉลียวใจว่ามีคนหลบอยู่หลังพุ่มไม้ มองการเคลื่อนไหวของเธอตาไม่กะพริบ
เบนมองแผ่นหลังบางที่เคลื่อนไปตามเงามืดของกำแพงสูง ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาอย่างเงียบกริบ ในใจพาลให้สงสัยว่าโจรมืออาชีพแบบไหนกันถึงเคลื่อนตัวช้าและไม่ระวังตัวขนาดนี้ พวกมันดูถูกตำรวจไทยมากไปแล้ว แบบนี้จ้องจับขังลืมให้เข็ด สารวัตรหนุ่มสบถในใจพาลโกรธคนตรงหน้าไปด้วย แต่เบนก็ยังคงยืนกอดอกมองการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างอดทน
?อุ๊ย!? กัณหาอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อเท้าถอยไปเหยียบอะไรบางอย่าง ไอร้อนที่สัมผัสได้ทำให้รู้ว่ามีคนยืนซ้อนอยู่ข้างหลังในระยะประชิด ร่างงามเย็นยะเยือกไปทั่วหัวใจ ร่างทั้งร่างแข็งค้างราวกับไม่มีชีวิต เหงื่อเม็ดเล็กซึมออกมาทั่วทั้งตัว
?คิดว่าตัวเองจะรอดรึไง...? เสียงเข้มรอดไรฟันออกมาอย่างน่ากลัว กัณหาหน้าซีด ชำเลืองมองบันไดที่อยู่ไม่ไกลเพื่อหาทางไปให้ถึง แล้วสมองของเธอก็สั่งเท้าให้ออกวิ่งไปยังบันได เบญจกุลเหมือนจะรู้เท่าทันอีกฝ่าย พอร่างงามขยับตัวมือหนาก็ประกบที่หัวไหล่กระชากให้หันมาหา กัณหาสะบัดตัวเต็มแรงแล้ววิ่งหนี เบนเคลื่อนตามไปอย่างว่องไวเข้าไปล็อกคอเธอไว้ มืออีกข้างล็อกร่างบางเอาไว้ ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มที่ต้นแขนแกร่งกดทับอยู่ทำให้เบญจกุลถึงกับนิ่งงันอย่างคาดไม่ถึง...ผู้หญิง?
คิดได้เท่านั้นมือใหญ่ก็กระชากหมวกไหมพรมสีดำออกจากศีรษะ ผมยาวหยักศกสีน้ำตาลสยายลงมา แสงไฟที่ส่องสว่างทำให้เขามองเห็นใบหน้าคมสวยกับดวงตาคมโตภายใต้ขนตางอนยาว จมูกเล็กขึ้นสันสวยรับกับริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัสนัก กัณหาเหงื่อแตกซิก พยายามหาทางออกให้กับตัวเอง
?โจรสาวซะด้วย...? เขาบอก ใบหน้าคมอยู่ชิด ลมหายอุ่นเป่ารดข้างแก้มนวลผ่อง กัณหาหัวใจเต้นโครมคราม คิดหาทางออกให้กับตัวเอง เบนสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ อย่างเผลอตัว หัวใจแกร่งสั่นหวั่นอย่างไม่เคยเป็น
?ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่โจร?? หล่อนพูดพลางกระทุ้งข้อศอกเข้าที่หน้าท้องแกร่ง แม้จะไม่แรงมากแต่ก็ทำให้แขนที่ล็อกตัวอยู่คลายออก เปิดโอกาสให้กัณหากระทืบส้นเท้าลงบนเท้าใหญ่ของเขาเต็มแรง แต่เบนไวกว่าขยับเท้าเบี่ยงไปอีกทาง เมื่อพลาดกัณหาก็วิ่งหนีแต่ก็ก้าวไปได้เพียงสองก้าวก็ถูกมือใหญ่ยึดข้อมือไว้แล้วกระชากเข้ามาปะทะอก
?ว้าย!?
?คิดหนีเหรอ แม่โจรคนสวย...? เขารวบร่างบางเข้ามาไปกอดไว้ทั้งตัว สารวัตรหนุ่มรับรู้ถึงความนุ่มหยุ่นของร่างที่ดิ้นอยู่ในอ้อมกอด
?บอกแล้วไงว่าไม่ใช่โจร?? ริมฝีปากหนาได้รูปเหยียดยิ้ม มองไปทั่วดวงหน้าคมสวย กัณหาสบตาคมกริบอย่างโมโหที่เขาไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เธอพยายามจะบอก
?ผู้ร้ายก็บอกแบบนี้ทุกราย...ไป้? เขาคลายอ้อมแขนออกแล้วฉุดกระชากหญิงสาวไปรวมกับคนอื่นๆ ชายฉกรรจ์หลายคนมองเพื่อนร่วมอาชีพแสนสวยอย่างสงสัยว่าเธอมาได้ยังไง มีเพียงการันต์เท่านั้นที่มองมาอย่างตกตะลึง
?คุณกัณหา...? การันต์เอ่ยออกมาเสียงเบาหวิว กัณหามองผู้จัดการหนุ่มอย่างผิดหวัง
?ไม่คิดว่าจะเป็นคุณที่ลักลอบขโมยของออกจากโกดัง...? กัณหาบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่แววตาคมสวยลุกโชนจนการันต์เป็นฝ่ายหลบ
?ผมจำเป็นจริงๆ ครับคุณกัน ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ? การันต์กล่าวเสียงอ่อนเพื่อขอความเห็นใจจากเจ้านายสาว
กัณหาแม้จะพยายามใจแข็งสักเพียงใด พอเห็นแววตาสำนึกผิดของลูกน้องหัวใจก็พลันอ่อนยวบลง เธอเองก็พอจะรู้ว่าการันต์มีแม่ที่เป็นมะเร็งและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องใช้เงินจำนวนมากเป็นค่ารักษา แต่เขาเลือกหาเงินด้วยวิธีการผิดๆ ทำให้เธอหมดหนทางจะช่วยเหลือ เมื่อทุกคนขึ้นรถหมดแล้ว จ่าชูชัยใส่กุญแจมือการันต์และประคองไปขึ้นรถ
?ไหนบอกว่าไม่ใช่โจร แล้วรู้จักโจรด้วยกันได้ยังไง? เบนถามเสียงเรียบ เริ่มสงสัยกับหัวข้อสนทนาเมื่อสักครู่
?ฉันขี้เกียจจะอธิบายให้ฟังแล้ว จะจับก็จับเลยแต่ฉันขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น...? หล่อนบอกพลางถลาไปตามแรงฉุดของชายหนุ่มไปขึ้นรถที่ดาบชีพติดเครื่องรออยู่ มือหนาเปิดประตูออกแล้วกดศีรษะเล็กมุดเข้าไปนั่งข้างใน
?โอ๊ย! เบาๆ หน่อยสิคุณ ฉันเจ็บนะ...? หล่อนสะบัดตัวหนีแล้วเขยิบไปชิดประตูอีกข้าง ดาบชีพมองผู้บังคับบัญชาอย่างแปลกใจ แล้วก็เดินอ้อมไปประจำที่คนขับและขับออกไป แต่ตายังคงเหลือบมองเหตุการณ์ที่เบาะหลังเป็นระยะๆ
?โจรไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์...? เขาบอกเสียงเรียบ กัณหาจ้องหน้าเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ บิดข้อมือออกจากอุ้งมือใหญ่แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย
?เฮ้อ! ตำรวจเมืองไทยทำไมถึงตาถั่วกันแบบนี้นะ...?
?อ้าวคุณ พูดแบบนี้หมิ่นเจ้าพนักงานนี่นา ผมฟ้องกลับได้นะจะบอกให้?? เบนกล่าวออกมาอย่างไม่ชอบใจ เครียดเรื่องคดีก็พอทนอยู่แล้ว ทำไมเขาต้องมาเจอโจรหัวหมอแบบนี้อีกวะ
?คุณฟ้อง ฉันก็จะฟ้องคุณเหมือนกัน...? หล่อนเถียงอย่างไม่ลดราวาศอก ดาบชีพขับรถไปใจก็ลุ้นไปว่าเจ้านายเขาจะหาทางออกยังไง ดูท่าแล้วงานนี้ผู้บังคับบัญชาเขาจะแพ้ทางเสียกระมั่ง โจรสวยหน้าตาน่ารักแบบนี้เจอบ่อยเมื่อไหร่กัน งานนี้สนุกแน่ๆ ดาบชีพคิดอย่างครึ้มใจ
?คุณจะฟ้องผมข้อหาอะไรไม่ทราบ...? เบนเอียงตัวไปมองหญิงสาว
?ลวนลามและกระทำชำเราหญิงสาวที่ไม่ใช่ภรรยา...? หล่อนลอยหน้าลอยตาบอก ครั้นพูดจบแก้มนวลก็แดงระเรื่อ
?เฮ้ย! ตอนไหนคุณ...? เบนปล่อยมือแล้วขยับห่างหญิงสาว ดาบชีพกลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ เมื่อเห็นหน้าเหวอของสารวัตรหนุ่ม
?เมื่อกี้...?
?ไหนล่ะหลักฐาน...ไม่มี้...? เขายกไหล่ขึ้นพร้อมกับแบมือไปข้างหน้าจนเธอหมั่นไส้
?ดาบเห็นไหม...? เอาล่ะสิเจ้านายหาทางออกดึงเราเข้าไปเอี่ยวหน้าตาเฉย
?เอ่อ...ไม่เห็นครับ??
?นั่นไง ไม่มีหลักฐาน ศาลไม่รับเรื่องหรอกคุณ อยู่เฉยๆ นิ่งๆ ปล่อยทุกสิ่งไปตามกลไกของระบบยุติธรรมจะดีกว่า ถ้าคุณไม่ผิดผมก็ปล่อยตัวเท่านั้นเอง...จบไหม...? เขาก็พูดได้ แต่เธอน่ะสิต้องพบเจออะไรบ้างล่ะ
?ไม่จบ ฉันขอยืมโทรศัพท์โทรหาทนายด้วย...? หล่อนแบมือไปข้างหน้า เบนจับมือบาง ออกแรงนิดหน่อยร่างบางก็ลอยเข้ามาในอ้อมแขน
?ไม่ได้ จนกว่าเราจะสอบสวนเสร็จ??
?แต่ฉันยังเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหานะคุณ ไม่ใช่ผู้ร้ายซะหน่อย?? หล่อนต่อว่าเขาตาเขียว ดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่ง อารมณ์กรุ่นโกรธพุ่งสูงขึ้นอีก
?หลักฐานชัดขนาดนั้น ไม่ติดคุกหัวโตผมยอมให้คุณกระทำชำเราคืนเลยเอ้า...? เขาพูดอย่างคนใจป้ำน้ำเสียงจริงจัง นัยน์ตาสีสนิทวับวาว
?ยี้! ไอ้ตำรวจลามก รังแกประชาชน คอยดูนะ ฉันจะฟ้องคุณให้เก็บข้าวของไปอยู่ชายแดนไม่ทันเลย คอยดูสิ? หล่อนเชิดหน้าข่มขู่เขาแต่คนโดนขู่กลับยิ้มร่า
?แล้วมาดูกันคุณโจรหัวหมอ ว่าใครจะเด้งก่อนใคร...?
กัณหาหยุดโต้ตอบเขาเมื่อรถวิ่งเข้าไปจอดหน้ากองปราบปราม เบนเปิดประตูลงไปยืนรอเธอข้างประตู แต่ร่างบางก็ไม่ยอมขยับ ร่างสูงจึงก้มลงไปคว้าขมับที่ข้อมือเล็กแล้วกระชากเธอออกจากรถอย่างไม่ปราณี
?ลงมา อย่าลีลาท่ามาก...? กัณหาเดินตามแรงฉุดของเขาเข้าไปข้างใน คนร้ายที่ถูกจับได้ถูกบันทึกประวัติ ดวงตาคมสวยมองหาการันต์แต่ก็ไม่เห็น หล่อนถูกปล่อยให้ยืนเคว้งอยู่หน้าโต๊ะร้อยเวร หญิงสาวกวาดตามองหาร่างสูงของคนตาถั่วที่จับเธอมา
?เชิญคุณผู้หญิงที่ห้องสอบสวนครับ สารวัตรกำลังรออยู่...? เสียงจ่าชูชัยดังอยู่ข้างหลัง ทำให้ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย
?แล้วคนที่พาฉันมาล่ะคะจ่า เขาไปไหน??
?รออยู่ในห้องสอบสวนแล้วครับ...? จ่าชูชัยบอกอย่างสุภาพ หญิงสาวจึงยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ทำเอาจ่าชูชัยนึกถึงคำบอกเล่าการชกของมวยคู่เอกที่ดาบชีพเล่าให้ฟัง สวยน่ารักแบบนี้นี่เองถึงทำให้สารวัตรออกอาการหงุดหงิดชอบกล ปกติผู้บังคับบัญชาเขาไม่ใช่คนที่ชอบต่อปากต่อคำกับคนร้าย ฟังจากคำบอกเล่าของดาบชีพคงต้องยกเว้นโจรสาวนางนี้ซะแล้ว
กัณหาถูกนำตัวเข้าไปนั่งในห้องสี่เหลี่ยมมีเก้าอี้ตั้งอยู่กลางห้อง ดวงตาคมสวยกวาดมองไปรอบห้องอย่างระวังตัว ตำรวจสี่นายนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกการสอบสวน จ่าชูชัยพาหญิงสาวไปนั่งที่เก้าอี้แล้วถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง ห้องทั้งห้องเงียบกริบจนเธออดหวาดหวั่นไม่ได้
ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อประตูห้องถูกเปิดออก ตามมาด้วยร่างสูงสง่าของคนตาถั่วที่จับเธอมา มือใหญ่ดึงแว่นกันแดดหนาออกจากใบหน้าวางบนโต๊ะข้างประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปหาหญิงสาวช้าๆ
?ชื่ออะไร และไปทำอะไรที่โกดังนั่น...? เขาถามเสียงเข้ม แต่คำตอบคือความเงียบ ใบหน้าคมสวยมองไปรอบๆ อย่างไม่สนใจ คล้ายกับเขาเป็นอากาศธาตุยังไงยังงั้น แต่เสียงตะคอกดังลั่นห้องของคนสอบปากคำ ทำให้เธอถึงกับสะดุ้ง หันกลับมามองเขาตาเขียวปัดอย่างไม่เกรงกลัว
?ตอบ...? เขาบังคับทั้งน้ำเสียงและคาดคั้นเอาคำตอบ
?กัณหา พงษ์เทวา...? หล่อนเชิดหน้าบอก คิ้วหนาขนานกับดวงตาคมยกขึ้นอย่างไม่แน่ใจ ก่อนจะเอ่ยถามต่อไปว่า
?ขอดูบัตรประชาชนหน่อยสิคุณ...? เขาแบมือไปข้างหน้า ก้มมองใบหน้านวลซึ่งบัดนี้ดูมอมแมมเหมือนเด็กของหญิงสาว
?ไม่ได้เอามา...? หล่อนสะบัดเสียงตอบ เบนเหยียดยิ้มอย่างดูแคลน เพราะเขาจำได้ว่านามสกุลที่เธอบอกเมื่อสักครู่เป็นนามสกุลของตรัย พงษ์เทวาเจ้าของไทม์กรุ๊ป
?แอบอ้างหนึ่งล่ะ...? เขาเอ่ยขึ้นมาลอยๆ กัณหาถึงกับถอนหายใจออกมาแรงๆ ทีหนึ่ง
?ถ้าคุณคิดว่าฉันแอบอ้างชื่อนามสกุลล่ะก็ ให้ฉันโทร.ไปหาทนายก่อนได้ไหมแล้วค่อยสอบสวน...? หล่อนบอกอย่างอ่อนใจ แต่เบนก็ไม่ยอมใจอ่อน
?ไม่ได้...? เบนบอกเสียงเข้ม จับปลายคางมนเชิดขึ้น แต่พอเห็นใบหน้าคมสวยกับสายตาคมที่ตวัดค้อน หัวใจของสารวัตรหนุ่มก็แทบละลายไปเลยทีเดียว
?ถ้างั้นฉันขอพบสารวัตรของที่นี่...? หล่อนต่อรอง ทำเอาทุกคนถึงกับยิ้มออกมา ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าใครตาถั่วกันแน่
?ต้องการพบสารวัตรทำไมไม่ทราบ...? เบนปล่อยมือจากปลายคางของหญิงสาวแล้วเดินวนไปรอบๆ อย่างสบายอารมณ์
?เพราะเขาคงไม่ตาถั่วเหมือนอย่างคุณน่ะสิ...? ยังไม่ทันทีที่การสอบสวนจะดำเนินการต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ตามด้วยร่างของดาบชีพเปิดประตูเข้ามาแล้วกระซิบบางอย่างกับสารวัตรหนุ่ม กัณหาสังเกตเห็นใบหน้าคมสันเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ สายตาคมกริบจ้องมองมาที่เธอ
ดาบชีพออกไปนานแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่ได้เริ่มขึ้น กัณหามองนายตำรวจสี่นายที่ลุกออกจากห้องไป ตามด้วยจ่าชูชัยเดินตามออกไปเป็นคนสุดท้าย ห้องทั้งห้องจึงเหลือเพียงเขาและเธอ
?เมื่อกี้บอกชื่ออะไรนะ...? ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
?กัณหา พงษ์เทวา...?
?ไปทำอะไรที่นั่น คุณรู้ไหมว่ามันอันตรายแค่ไหน หรือว่าคุณไม่ไว้ใจตำรวจอย่างพวกผม...? หล่อนมองเขาอย่างแปลกใจระคนสงสัย เมื่อแนวทางการสอบสวนเปลี่ยนเป็นตำหนิมากกว่าคาดคั้นเอาความจริง
?ฉันแค่อยากเห็นกับตาเท่านั้น...? หล่อนบอกพลางหลบสายตาคม เบนเดินเข้ามาใกล้ ก้มไขกุญแจออกจากข้อมือบาง ชายหนุ่มจับข้อมือหญิงสาวขึ้นมาดูรอยแดงเหนือข้อมือ กิริยาสุภาพอ่อนโยนของเขาทำให้กัณหานั่งนิ่งไม่กล้าดึงมือกลับ
?คนร้ายพวกนั้นเป็นมืออาชีพ ไม่เคยปราณีกับคนที่เห็นความลับของพวกมัน...? หล่อนขนลุกซู่กับคำพูดของเขา รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ หากเธอเป็นอะไรไปพ่อของเธอจะอยู่ยังไง และก็มีสิ่งสำคัญที่ต้องทำอีกอย่างก็คือไปพบแม่กับพี่สาวให้ได้ แม้จะไม่รู้ว่าทั้งสองอยู่ที่ไหน แต่ด้วยงานที่รัดตัวบวกกับความปลอดภัยของพี่สาว ทำให้เธอได้แต่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
กว่าจะทำความเข้าใจกันได้ ทั้งเบนและกัณหาก็มองกันอย่างขำๆ กับความตาถั่วของตัวเอง และทุกอย่างก็จบลงด้วยมิตรภาพ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังติดค้างอยู่ในใจของสารวัตรหนุ่ม นั่นก็คือคำพูดที่เขาบอกเธอ...
ถ้าเธอไม่ติดคุกเขาจะยอมให้เธอกระทำชำเราเขาคืนนี่น่ะสิ...แล้วนางโจรกำมะลอของเขาจะมากระทำชำเราหรือปล่านะ สารวัตรหนุ่มยิ้มกับความคิดตัวเอง ก่อนจะก้าวออกจากกองปราบเมื่อเวลาใกล้รุ่งของอีกวัน

****************************************************************
เพียงแรกพบแม่สาวนักซิ่งมอเตอร์ไซค์คันโต ?อนล? ก็ถึงกับอึ้ง ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตรงหน้าจะละม้ายคล้ายคนรักที่จากไป ?ไรวา? ทำให้หัวใจที่เหี่ยวเฉาของชายหนุ่มกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง อนลจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ไรวาตอบกลับสักครั้งว่ารักเขาเช่นกัน ทว่าเมื่อไรวาได้รู้ความจริงว่าเธอเป็นเพียงเงาของคนในอดีตของเขา เธอจึงเลือกที่จะจากมาเพราะไม่ต้องการเป็นตัวแทนให้ใคร ชายหนุ่มขอให้เธอใช้หัวใจมองความรักที่เขามีให้ ไรวาก็รู้ว่าหัวใจของเขายังคงเต้นในจังหวะเดิม แต่คนที่ทำให้มันกลับมาเต้นได้แบบนี้ไม่ใช่คนที่จากไป...แต่คือเธอ...ไรวา

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”