New Release:เดิมพันรักเกมสวาท

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release:เดิมพันรักเกมสวาท

โพสต์ โดย Gals »

1





บรรยากาศยามค่ำคืนบนถนนหลวงในตัวกรุงเทพฯ มีเพียงแสงไฟที่ติดอยู่บนไหล่ทางส่องสว่างไปทั่วบริเวณ ความร้อนระอุในช่วงกลางวันถูกสายลมเย็นพัดพาหนีหายไป หลายคนต่างหลับใหลอย่างมีความสุข แต่อีกหลายคนต้องเอามืออุดหูตัวเอง เพราะเสียงรถที่แข่งกันเร่งเครื่องดังสนั่นอยู่บนถนนหลวงอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ดอกเตอร์ดมิสา ดารากาล อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยชื่อดัง จอดรถบนไหล่ทางหลวงเพื่อมองรถยนต์นับสิบคันที่จอดอยู่บนถนน ดวงตากลมสวยภายใต้แว่นสายตา มองกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงยืนประจันหน้ากันอยู่หน้ารถ ดมิสามองรถสปอร์ตสีเหลืองรุ่นใหม่ล่าสุด ที่นำเข้ามาในเมืองไทยเพียงไม่กี่คัน จอดนิ่งอยู่ข้างหลังกลุ่มนักซิ่ง ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ
?พวกลูกเศรษฐีมีปัญหา...ใหญ่กันจริงๆ? มือบางกำพวงมาลัยแน่นแล้วแหงนมองท้องฟ้าที่มีแสงดาวระยิบระยับส่องสว่างอยู่อย่างอ่อนใจ เพราะเธอและรถอีกหลายคันต้องจอดรอจนกว่าการแข่งขันจะจบลง
อาจารย์สาวนั่งมองรถสปอร์ตคันสวย โดดเด่นอยู่ใต้แสงไฟเคลื่อนไปยังจุดสตาร์ท รถคันนี้เหมาะที่จะโชว์ตามงานมอเตอร์โชว์หรือโชว์รูมรถมากกว่า ชายหนุ่มร่างสูงเพรียวเดินไปที่รถ เพียงมือสัมผัสประตูรถทั้งสองข้างก็เคลื่อนออกคล้ายปีกนก ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วคงเป็นรถที่มีสมรรถนะรถสุดยอดที่สุด เครื่องยนต์คงเร็วเต็มพิกัด แต่ก็ต้องดูฝีมือคนขับว่ามือถึงหรือเปล่า หญิงสาวนั่งพิจารณาเจ้าของรถ อายุน่าจะไม่เกินยี่สิบห้า ความโดดเด่นเป็นที่ยอมรับจากคนรอบข้าง ทำให้เดาไม่ยากว่านายคนนี้น่าจะเป็นลูกท่านหลานเธอคนดังในเมืองไทยอย่างแน่นอน โตขนาดนี้น่าจะใช้สมองไตร่ตรองความดีชั่วได้มากกว่านี้นะ ใบหน้าสวยส่ายไปมาอย่างเสียดาย ทว่าในใจก็ลุ้นระทึกไปด้วย
อนล เอลตาโน่ หลานชายเจ้าของโชว์รูมรถนำเข้าของเมืองไทย มองคู่แข่งที่หันมาเหยียดยิ้มให้ ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ สายตาคมกริบดุจอินทรีย์มองเส้นชัยที่อยู่เบื้องหน้า สาวนุ่งน้อยห่มน้อยรูปร่างอรชรถือธงเดินมาหยุดอยู่กึ่งกลางระหว่างรถทั้งสองคัน ธงสีขาวถูกยกขึ้นสูงพร้อมสะบัดเสียงเต็มที่
?ไป...? สิ้นเสียงรถสองคันพุ่งทะยานออกจากจุดสตาร์ทอย่างรวดเร็ว ดมิสามองความเร็วของรถตาค้างการขับเคี่ยวเป็นไปอย่างตื่นเต้น รถทั้งสองคันต่างสมรรถนะดีเยี่ยม ความแพ้ชนะคงอยู่ที่ฝีมือคนขับล้วนๆ ความเร็วรถขนาดนี้น่าจะเป็นรถแข่งในสนามมากกว่าที่จะมาแข่งบนถนนแบบนี้ และไม่ถึงนาทีรถสปอร์ตสีเหลืองก็วิ่งเข้าเส้นชัยตามที่เธอคาดการณ์
?โธ่โว้ย!...? ประทีบ ไพบูลย์ ฟาดฝ่ามือกระแทกพวงมาลัยอย่างเจ็บใจที่แพ้อีกฝ่าย ไม่นานรถสองคันก็วิ่งกลับมาที่จุดสตาร์ท ฝ่ายสนับสนุนของทั้งสองฝ่ายเฮลั่นและวิ่งไปต้อนรับ คนขับทั้งสองเปิดประตูก้าวลงจากรถเดินมาเผชิญหน้ากัน
?ฝีมือตกหรือเปล่าวะทีป...? อนลถามเหมือนจะเยาะเย้ย ทำให้อีกฝ่ายหน้าตึงขึ้นทันที ใบหน้าคมสันขาวสะอาดมองดวงตาลุกวาวนิ่งเฉยอย่างไม่เกรงกลัว
?วันนี้เป็นวันของแกอนล...เอ้านี่เงิน...? ประทีบโยนเงินเดิมพันให้แล้วหันไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างขุ่นเคืองที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้
?แบบนี้ต้องฉลองกันหน่อยแล้วลูกพี่? หนุ่มหน้.ิวสีดำแดงเดินเข้ามาประชิด อนลยิ้มก่อนจะยื่นเงินปึกเมื่อสักครู่ใส่มือให้อีกฝ่าย
?พวกนายเอาไปก็แล้วกัน...ฉันกลับก่อน?
หากแต่ร่างสูงเพรียวหันหลังกลับไปที่รถได้เพียงสองก้าว ก็ต้องสะบัดตัวเมื่อมีมือหยาบกร้านจับบนไหล่หนา
?อะไรวะ จับแค่นี้ก็ไม่ได้...?
?ไม่ได้...แล้วพวกนายมีอะไร? อนลถามเสียงห้วน แววตาไม่พอใจ ริมฝีปากหนาดำคล้ำของเกษมกระตุกยิ้มดวงตาแข็งกร้าว
?ไปฉลองกันหน่อยไม่ดีเหรอ หรือว่าแกรังเกียจพวกฉัน? เกษมยกมือเกี่ยวกระเป๋ากางเกงเดินเข้ามาหาและมีวัยรุ่นสี่ห้าคนเดินตามมา อนลมองอย่างระวังตัว
?อย่าดีกว่า ฉันแค่มาลองรถ...?
?ทำไมไอ้ลูกเศรษฐี กินข้าวแกงไม่เป็นหรือไง? ชายร่างผอมโก่งถามอย่างหาเรื่องมากว่าจะเอาคำตอบ อนลไหวไหล่อย่างไม่สนใจ ก่อนจะกดรีโมทเปิดประตู
?ลูกพี่อุตส่าห์ชวน มึงยังกล้าปฏิเสธเหรอวะ คิดว่าตัวเองแน่มากรึไง? วัยรุ่นอีกคนพูดเสริมอย่างหาเรื่อง
?ฉันไม่มีลูกพี่ พวกนายมีก็ไม่เกี่ยวกับฉัน? อนลบอกเสียงห้วน
?พูดแบบนี้อยากมีเรื่องนี่หว่า เฮ้ย! พวกเราสั่งสอนไอ้ลูกเศรษฐีให้สำนึกหน่อยโว้ย? ชายร่างผอมสั่งการแล้วกระโจนเข้าใส่ ร่างสูงเพรียวหลบแล้วสวนหมัดเข้าที่ท้องเต็มแรง
จากนั้นการตะลุมบอนหนึ่งต่อหกก็เริ่มขึ้น ดมิสานั่งมองการต่อสู้อย่างตกใจ เวลาผ่านไปเพียงสิบนาทีร่างสูงเพรียวก็พลาดท่าถูกสอยลงไปนอนกับพื้นถนน ใบหน้าคมสันแดงช้ำ มุมปากมีเลือดไหวออกมา จากนั้นพวกมันก็ตามไปกระทืบซ้ำอย่างไม่ปรานี ดมิสามองไปรอบๆ ตัว เห็นรถหลายคันจอดอยู่ข้างหลังเพื่อรอผ่านทาง แต่ก็ไม่มีใครลงไปช่วย ร่างโปรงระหงจึงตัดสินเปิดประตูลงจากรถ
?ตำรวจมา...ตำรวจมา...? หญิงสาวตะโกนดังลั่น เท่านั้นเองความโกลาหลก็เกิดขึ้น ต่างคนต่างรีบขับรถหนีเพราะกลัวถูกจับไปโรงพัก พอทุกคนสลายตัวไปร่างสูงเพรียวก็ประคองตัวลุกขึ้นแล้วเดินโซซัดโซเซไปที่รถ
?ไหวหรือเปล่า...?
อนลหันกลับไปทางต้นเสียงอย่างไม่สนใจนัก ดมิสาส่ายหน้าไปมาแล้วขยับเข้ามาใกล้
?ขอบคุณที่มาช่วย...? อนลกล่าวเสียงเรียบ พยายามพยุงตัวอย่างเต็มที่
?จะให้โทร.ขอความช่วยเหลือจากหน่วยฉุกเฉินมั้ย...?
?ไม่เป็นไร ขอกันกินมากกว่านี้...เจ๊ก็รีบกลับบ้านไปซะ ถนนเปิดแล้ว? อนลกัดฟันพูดข่มความเจ็บปวดเอาไว้ข้างใน
?นายขับรถไหวแน่นะ? อนลพยักหน้าแทนคำตอบ ดมิสาจึงเดินกลับไปที่รถ ทว่าเธอก้าวได้ยังไม่ถึงสองก้าว ร่างสูงเพรียวก็ล้มลงไปนอนอยู่บนพื้นถนน ดมิสาจึงรีบวิ่งมา ดูมือบางประคองศีรษะขึ้น
?นาย...นาย...? ดมิสาเขย่าร่างอนลแรงๆ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงนอนนิ่งไม่ได้สติ หญิงสาวหันรีหันขวางเพื่อหาคนช่วย แต่รถทุกคันก็วิ่งผ่านไปอย่างไร้น้ำใจ ดมิสาจึงเคลื่อนรถเข้ามาหยุดใกล้ๆ แล้วดึงร่างอนลขึ้นไปนอนที่เบาะหลัง แต่กว่าจะสำเร็จก็ทำให้เธอหอบหายใจอย่างหมดแรง
?เฮ้อ...ตัวหนักยังกับช้าง...เป็นลูกเป็นหลานจะจับฟาดก้นซะให้เข็ดเลย แล้วนี่จะไปส่งที่ไหนล่ะเนี่ย ป่านนี้พ่อแม่คงเป็นห่วงแย่แล้ว? หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง มองเด็กหนุ่มก่อนจะส่ายหน้าไปมา...ดูจากรถและการแต่งตัวคงเป็นลูกเศรษฐีติดอันดับในเมืองไทยเป็นแน่...พวกเลี้ยงลูกด้วยเงิน...เจริญล่ะประเทศไทย...หญิงสาวคิดในใจพร้อมกับเป่าลมออกจากปากแล้วเดินไปประจำที่คนขับ ขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างที่ตั้งใจ

OOOOOOOOOOOOOOO

คฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวตั้งตระหง่านอยู่บนเนื้อที่กว่าห้าสิบไร่ รอบๆ บริเวณยังคงเปิดไฟสว่างตามจุดต่างๆ ร่างสูงสง่าของสิงหนาท เอลตาโน่ ยืนมองรถสปอร์ตคันหรูของน้องชายเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าประตูบ้าน พีระศักดิ์เลขาฯ ฯ และบอดี้การ์ดของเขา ก้าวลงจากรถเดินตรงมาหาเจ้านายหนุ่ม
?เจอตัวนายนลไหม...? เสียงทรงอำนาจของผู้บริหารสูงสุดแห่งบริษัทนำเข้ารถยนต์ยักษ์ใหญ่ดังขึ้นอย่างเยือกเย็น แต่ในใจร้อนรนด้วยความเป็นห่วงน้องชาย
?ไม่เจอครับบอส เจอแต่รถจอดอยู่ข้างทาง คนของเราสอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นก็ไม่มีใครเห็นเลยครับ...? พีระศักดิ์ตอบเสียงเรียบ พร้อมกับส่งกุญแจให้บอสใหญ่
?ไปไหนของเขานะ...? สิงหนาทพึมพำเบาๆ ยกมือเท้าสะเอว ใบหน้าคมเข้มขึ้น อนลน้องชายเขาบอกแค่ว่าจะเอารถแข่งที่นำเข้ามาใหม่ไปลองวิ่งเท่านั้น แล้วทำไมหายเงียบไปนี่ก็เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว
?ผมให้สายของเราออกหาข่าวแล้วครับบอส พรุ่งนี้คงได้ข่าวคุณอนลแน่นอน...?
?ตามโรงพยาบาลก็ไม่มีใช่ไหม...?
?ครับบอส...? พีระศักดิ์ตอบ ก่อนจะโค้งคำนับชายชราประมุขของคฤหาสน์เอลตาโน่ ที่เดินเข้ามาในห้องโถง
?เจ้านลมันโตแล้วนะเจ้าสิงห์ อย่าห่วงเหมือนมันเป็นเด็กนักเลย...? สิงหนาทหันไปมองต้นเสียง พอเห็นคนเป็นตาเดินลงเข้ามาก็รีบเข้าไปประคอง
?คุณตายังไม่นอนเหรอครับ...?
?หลับไปแล้ว แต่พญาราชสีห์คำรามดังจนต้องตื่นขึ้นมาดู...? อดิเทพ เดโชชัย นักแข่งรถอาชีพชื่อดังในอดีตเอ่ยเสียงสั่น แม้อายุหกสิบแต่ชายชรายังคงแข็งแรงและดูสมาร์ทน่าเกรงขามแก่ผู้พบเห็น และเป็นขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ไม่ต่างจากหลานชายทั้งสอง
?แต่นายนลไม่เคยไปนอนที่ไหนนะครับคุณตา...?
?มันก็คงอยากเปลี่ยนบรรยากาศมั่งสิ มันเพิ่งกลับมาไม่กี่เดือนก็โดนแกบังคับทำงาน จนไม่มีเวลาไปไหนมาไหนไม่ใช่เหรอ...? นายอดิเทพเอ่ยน้ำเสียงประชดประชันอยู่ในทีแต่ไม่จริงจังนัก สิงหนาทนิ่งคิด พีระศักดิ์เบือนหน้าไปอีกทางเพื่อซ่อนรอยยิ้มเอาไว้
?นายนลต้องเรียนรู้งานทุกอย่างให้เร็วที่สุดนะครับคุณตา...? สิงหนาทพูดเสียงอ่อนหลบตาผู้เป็นตา อดิเทพยิ้มยกมือวางบนไหล่หนาแล้วบีบแรงๆ อย่างเตือนสติ
?เจ้านลมีนิสัยยังไงแกน่าจะรู้ จะให้เจ้านั่นนั่งบริหารอยู่บนเก้าอี้คงไม่ได้...บางครั้งการปล่อยให้เจ้านลทำในสิ่งที่มันชอบ งานอาจจะออกมาดีกว่าที่เราคิดกันก็ได้นะสิงห์...?
?ผมจะลองคิดดูครับคุณตา แต่ตอนนี้เราต้องรู้ก่อนว่านายนลอยู่ที่ไหน...? สิงหนาทพูดจบเสียงโทรศัพท์มือถือของพีระศักดิ์ก็ดังขึ้น ไม่นานเลขาฯ ฯ คนสนิทของสิงหนาทก็เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
?ได้เรื่องแล้วครับ...?
?เจอนายนลแล้วเหรอ? ร่างสูงลุกขึ้นถามอย่างกระตือรือร้น ดวงตาคมเข้มเปล่งประกายอย่างมีความหวัง
?ยังครับ แต่คนของเราบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งพาคุณนลขึ้นรถไป...? พอพีระศักดิ์รายงานเสร็จ ใบหน้าคมเข้มเคร่งขรึมลงไปอีก ดวงตาคมสบตายับย่นของคุณตาอย่างกังวล นายอดิเทพเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูกดหาเพื่อนที่เป็นตำรวจเพื่อให้ช่วยติดตามหลานชายอีกแรง

OOOOOOOOOOOOO

ร่างสูงเพรียวที่นอนหลับอยู่บนโซฟารับแขกดิ้นไปมาอย่างรำคาญ เมื่อมีเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเข้ามารบกวนการพักผ่อน มือใหญ่หยิบหมอนขึ้นมาแนบหูอย่างหงุดหงิด
?โว้ย! อะไรกันนักหนาวะไอ้ยอดคนจะหลับจะนอน...? อนลตะโกนชื่อคนรับใช้ที่บ้านออกมาดังๆ แต่เสียงเร่งเครื่องยนต์ยังคงดังไม่หยุด เปลือกตาที่ปิดสนิทมาจนถึงเช้าเริ่มกะพริบและลืมตาขึ้นในที่สุด ร่างสูงขยับตัวจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องสูดปากเมื่อรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งตัว
?อูย...?
?ว้าย! คุณระวังเดี๋ยวก็ล้มหรอก...? ร่างบอบบางของสมิตา ถลาเข้าไปประคองชายหนุ่มให้นั่งลงบนโซฟาตัวเดิม อนลถึงกับนิ่งงันไปชั่วครู่ ตาคมมองใบหน้าเนียนใสไร้สิวฝ้าเหมือนผิวเด็กที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ มือใหญ่โอบเอวคอดของเธอเพื่อประคองตัว ทำให้อนลรับรู้ถึงความนุ่มละมุนของร่างเล็กในอ้อมกอด ร่างสูงทิ้งตัวลงบนโซฟาแต่ไม่ยอมปล่อยมือจากเอวคอด ทำให้หญิงสาวเสียหลักล้มลงบนตักของชายหนุ่ม แก้มเนียนใสชนกับปลายจมูกโด่งอย่างจัง อนลเลยถือโอกาสสูดความหอมเข้าไปจนเต็มปอด โดยที่เจ้าของแก้มหอมไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่ห่วงว่าเขาจะเจ็บ
?ว้าย! คุณ เจ็บหรือเปล่า...?
?ผมไม่เป็นไร...? เขาตอบเสียงเบาหวิว ตายังจับจ้องใบหน้าหวานใส พอเห็นเขาเงียบ สมิตาจึงได้สติดันตัวออกแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ผิวพวงแก้มแดงระเรื่อเมื่อเห็นแววตาบางอย่างในดวงตาคม
?ไม่เป็นไรก็ปล่อยสิคะ...? อนลจึงคลายอ้อมกอดออกอย่างเสียดาย จับจ้องมองร่างบางตาไม่กะพริบจนคนถูกมองเกิดอาการประหม่าอย่างช่วยไม่ได้
?เอ่อ...ขอโทษครับ...? เขาเอ่ยขอโทษอย่างสุภาพ สมิตาขยับตัวออกห่างไปนั่งชิดขอบโซฟาอีกฝั่ง
?คุณเป็นยังไงบ้าง? หล่อนถามพลางมองรอยช้ำตามใบหน้าและลำแขน ที่โผล่พ้นแขนเสื้อเชิ้ตออกมา อนลพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าอย่างเสียมารยาท คิ้วหนายกขึ้นสูงอย่างแปลกใจว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
?ผมจำได้ว่าผู้หญิงที่ช่วยผมไม่ใช่คุณ...?
?ค่ะ พี่สาเป็นคนพามาที่นี่เพราะไม่รู้ว่าจะไปส่งคุณที่ไหน?
?แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนครับ ผมอยากขอบคุณเธอ? เขาถามแววตาจริงใจ ทำให้สมิตายิ้มให้ อนลตาพร่าลายไปชั่วครู่ เมื่อรอยยิ้มหวานสดใสแถมบาดใจเขา ราวกับดวงตาสุกสกาวเช่นดวงดาวบนท้องฟ้าส่งผ่านมาให้
?พี่สาอยู่ที่อู่ค่ะ เดี๋ยวฉันให้เด็กไปตามให้นะคะ? ร่างบางลุกขึ้น อนลลุกพรวดตามมาทันที ทำให้สมิตาตกใจรีบถอยไปหลบหลังโซฟา ร่างสูงเพรียวจึงหยุดชะงักเมื่อเห็นท่าทางหวั่นๆ ของอีกฝ่าย
?ขอโทษที่ทำให้ตกใจ ผมไม่ทำร้ายคุณหรอกนะครับ?
?ก็ลองมาทำสิ ฉันปาหัวคุณด้วยไอ้นี่แน่? มือบางคว้าแจกันอันใหญ่ที่วางอยู่ข้างบันได ด้วยแรงที่มีเท่ามดทำให้เธอยกไม่ขึ้นแม้จะพยายามเท่าไรก็ตาม ทำให้อนลยืนยิ้มอย่างเอ็นดู
?ให้ผมช่วยไหมครับ...?
?นี่อย่าเข้ามานะ พี่สาวฉันช่วยคนร้ายหรือเปล่าเนี่ย? หล่อนร้องเสียงหลง ถอยวนไปที่ประตูห้องนั่งเล่น เมื่อเขาขยับเข้ามาหา
?ผมไม่...? เขาพยายามอธิบาย แต่ร่างบางวิ่งพ้นประตูไปพร้อมกับเรียกชื่อใครบางคน
?ป๋อง...ป๋อง...? อนลมองตามแผ่นหลังบางแล้วถอนหายใจแรงๆ อย่างอ่อนใจ
เมื่อได้อยู่คนเดียว ชายหนุ่มจึงเริ่มสำรวจภายในห้องนั่งเล่น ซึ่งเขาใช้เป็นห้องนอนตั้งแต่เมื่อคืน ดวงตาคมมองภาพชายหนุ่มในรูปถ่ายคู่กับรถแข่งคันสวย ดูจากเสื้อผ้าและการแต่งกายก็รู้ว่าเป็นนักแข่งรถทางเรียบ คิ้วหนาที่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบยกขึ้นสูง ดวงตาคมเบิกกว้างดวงตาเป็นประกายแล้วอุทานชื่อออกมาอย่างปลื้มใจที่ได้เห็นนักแข่งรถในดวงใจ
?วันชนะ ดารากาล แชมป์รถยนต์ทางเรียบของเอเชีย...นี่รูปนายตามนี่? มือใหญ่หยิบรูปขึ้นมาดูใกล้ๆ อย่างตื่นเต้นที่ได้เห็นนักแข่งในดวงใจ แต่เสียงหวานใสที่ดังมาจากประตู ทำให้ชายหนุ่มวางกรอบรูปไว้ที่เดิม ก่อนจะหันไปมอง
?รู้สึกตัวแล้วเหรอ...?
?ครับ...? อนลรับคำสั้นๆ ตามองหญิงสาวสะสวยทั้งสองคน ที่ยืนอยู่หน้าชายฉกรรจ์สวมชุดหมีสีส้มห้าคนถือประแจ เหล็กแป๊บ และท่อนไม้หน้าสามอยู่ข้างหลัง...สาวสวยคนแรกคือคนที่ช่วยเขาเมื่อคืน ใบหน้ารูปไข่เนียนใสกับผมยาวเคลียบ่าและซอยไล่เส้นผมละใบหน้าดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ส่วนสาวสวยอีกคน ใบหน้าคมสวยรูปหัวใจ ภายใต้ผมดำยาวถูกรวบไว้ข้างหลังด้วยยางรัดผมแบบง่ายๆ ทำให้ใบหน้ารูปใบโพธิ์โดดเด่นน่ามอง ทั้งสองคนสวยไม่แพ้กัน
?เฮ้ย! ห้ามจ้องพี่สากับพี่ตาแบบนี้นะโว้ย? เด็กหนุ่มชื่อป๋องชี้ไม้หน้าสามไปทางชายหนุ่ม และทำท่าจะเดินเข้าไปหา แต่พอเห็นแววตาปรามๆ ของดมิสาจึงหน้าเจื่อนและถอยกลับไปยืนที่เดิม
?ใจเย็นๆ ครับพี่ชาย ผมไม่ใช่คนร้ายนะครับ ผมแค่อยากขอบคุณเท่านั้น...? อนลยกมือขึ้นอย่างบริสุทธิ์ใจ ดมิสามองคนที่เธอช่วยชีวิตไว้เมื่อคืนอย่างพิจารณา
?พวกเรากลับไปทำงานได้แล้ว ไม่มีอะไรแล้ว...เดี๋ยวฉันคุยกับเขาเอง...?
ดมิสาหันไปบอกลูกน้องในอู่ซ่อมรถที่เธอเป็นเจ้าของกลับไปทำงาน ทั้งหมดมองเจ้านายสาวอย่างเป็นห่วงทำให้เธอต้องยิ้มและเอ่ยบอกอีกครั้ง
?ไม่ต้องห่วง เขาไม่กล้าทำอะไรไม่ดีที่นี่หรอก...?
อนลพยักหน้าสนับสนุนคำพูดของหญิงสาว ทำให้ชายฉกรรจ์สลายตัวไป
?เอาล่ะ คราวนี้ถึงตานายที่ต้องไปได้แล้ว...? ดมิสาบอกพลางถอยห่างจากประตูเพื่อเปิดทางให้
?ขอเวลาผมแนะนำตัวนิดนะครับเจ๊ คือผมชื่ออนล เอลตาโน่ครับ...? ชายหนุ่มมองปฏิกิริยาของสองสาวหลังจากที่แนะนำตัวเสร็จ แต่ก็ไม่มีการสนองตอบว่าดีใจหรือตื่นเต้นที่ได้รู้จักเขา ดมิสาขมวดคิ้วนิดหนึ่งอย่างสนใจ เหมือนเธอเคยได้ยินนามสกุลนี้ที่ไหน...
?แล้วไง...? สมิตาถามพลางยกมือเกี่ยวแขนพี่สาว
?ก็ไม่มีอะไรครับ ผมแค่อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น...?
?ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปได้แล้วคุณ หายมาแบบนี้พ่อแม่คุณคงเป็นห่วงแย่แล้ว คราวหน้าอย่าไปแข่งรถบนถนนหลวงแบบนั้นอีกล่ะ...มันอันตราย ถ้าชอบความเร็วก็ไปแข่งในสนามเข้าใจหรือเปล่า...? ดมิสาบอกเสียงเรียบ อนลมองหญิงสาวอย่างขอบคุณ
?พ่อกับแม่ผมเสียแล้วครับ ตอนนี้ผมอยู่กับพี่ชายแล้วก็คุณตา...สามคน? เขาบอกพลางมองไปยังสมิตา หญิงสาวถึงกับแก้มแดงระเรื่อ
?อยู่กี่คนก็ไม่ควรทำให้เขาเป็นห่วง หรือพี่ชายคุณก็เกเรเหมือนกัน? อนลแทบจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่ก็กลั้นเอาไว้ทัน นี่ถ้าสิงหนาทพี่ชายของเขามาได้ยินคงโกรธหน้าเขียวแน่ๆ
?ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมไว้เมื่อคืน...เอ่อ...แล้วเจ๊เป็นอะไรกับคุณตามาครับ...? ร่างโปรงระหงในชุดหมีสีส้มเดินมาหยุดหน้ารูปถ่ายของพี่ชาย แววตากลมหม่นเศร้าลง
?นายรู้จักพี่ชายฉันด้วยเหรอ? สมิตาถามพลางเดินมาหยุดข้างๆ พี่สาว
?ตามาเป็นนักแข่งในสังกัดของทีมเอลตาโน่ครับ ส่วนคุณวันชนะเป็นนักแข่งในดวงใจของผมตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ผมตามดูเขาทุกสนามเลยนะครับ พอไปเรียนต่อเมืองนอกก็ไม่ได้ข่าวเขาเลย พอกลับมาถึงรู้ว่าเขาเสียไปแล้ว...? สองสาวน้ำตาคลอ ภาพพ่อเสียชีวิตในสนามแข่งเด่นชัดขึ้นมาในหัว
?พ่อทำในสิ่งที่รักจนวินาทีสุดท้าย...? ดมิสาพูดอย่างสะเทือนใจ หยิบรูปขึ้นมากอดอย่างคิดถึง อนลมองสองสาวอย่างเห็นใจที่ต้องสูญเสียคนที่รัก ครั้งที่พ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อสิบปีก่อน เขากับพี่ชายก็ไม่เหลือใครอีกนอกจากคุณตาเพียงคนเดียว เขารู้ว่าการสูญเสียคนที่รักเจ็บปวดแค่ไหน

********************************************************************************
เอี๊ยดดดดด!!! เสียงล้อบดเบียดจนเกิดเปลวไฟและมันระเบิดดังบึ้ม เหตุการณ์ตรงหน้าบาดทะลวงความรู้สึกของ ?ดร.ดมิสา ดารากาล? อุบัติเหตุพรากชีวิตพี่ชายเกิดจากข้อผิดพลาดทางเทคนิคหรือไม่?หล่อนต้องสืบ แล้วจู่ๆ ก็มีเดิมพันท้าแข่งรถจากเจ้าของค่ายรถยักษ์ใหญ่ที่ชื่อ ?สิงหนาท เอลตาโน่? เสนอมา ถ้าชนะ?เขายินดีเปิดโรงงานผลิตให้หล่อนพิสูจน์ทุกซอกทุกมุม แต่ถ้าแพ้?สิงหนาทจะตรวจตราดมิสาทั่วถ้วนตลอดทั้งร่างเช่นกัน หากแต่ท้ายที่สุดแล้วเกมนี้กลับไม่มีผู้ชนะ เพราะทั้งสองต่างพ่ายเสน่หาแพ้รักและปราชัยต่อพิศวาสที่ปรนเปรอให้แก่กัน

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”