New Release:ลิขิตรักหัวใจอธิษฐาน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release:ลิขิตรักหัวใจอธิษฐาน

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1

?อะไรนะคะพี่กานต์!?
เสียงหวานของหญิงสาวที่ยังนั่งทำวิทยานิพนธ์ของตัวเองแหวใส่โทรศัพท์ลั่น เธอเลี่ยงไม่รับโทรศัพท์จากพี่ชายมาตั้งแต่เมื่อคืน ทว่าการโทร.หาแบบไม่ปล่อยให้เว้นว่างชนิดโทร.จิกของพี่ชายในวันนี้ ทำให้เธอรำคาญจนไม่สามารถทำงานต่อได้ และนั่นคงหมายถึงเขามีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจากเธอ จึงจำใจรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
และเพียงแค่รับ เธอก็ไม่ผิดจากที่คาดเดา เมื่ออีกฝ่ายจะฝากงานให้เธอช่วยดูให้ ทั้งที่เธอยังไม่อยากเข้าไปโรงงานนั้นเร็วๆ นี้
?พี่จะต้องไปทำธุระต่างประเทศ เลยจะให้เก๋มาช่วยหน่อย?
?ไม่ค่ะ!?
สวนกลับแทบจะทันทีอย่างไม่เสียเวลาครุ่นคิดแม้แต่วินาทีเดียว
?นะๆ น้องสาวคนสวยของพี่กานต์ แค่ไม่กี่วันเอง เผอิญว่าพี่ให้ข้อมูลเรื่องโรงงาน และการบำบัดน้ำเสียได้ไม่ดีเท่าเรานะ แล้วก็มันด่วนมาก พี่เลยอยากให้เก๋มาช่วยหน่อย ถือว่าช่วยป๊าไง ไม่งั้นป๊าคงลุกมาทำเอง ถ้าเกิดป๊าป่วยขึ้นมาคราวนี้จะโทษพี่ไม่ได้นะ?
คำพูดของวิกรานต์...พี่ชายคนเดียวของกรรณิการ์ ทำให้เธออดระอาใจไม่ได้ ยามไม่ได้ดั่งใจพี่ชายทีไร เธอก็มักโดนขู่ด้วยอาการป่วยของบิดา เพราะท่านเป็นโรคหัวใจ เธอและพี่ชายจึงขอให้วางมือจากงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องภายในประเทศ และส่งออกอีกหลายประเทศ
?โอเคค่ะ เก๋ทำเพราะป๊านะคะไม่ใช่เพราะพี่กานต์ ถ้าไม่ใช่เพราะป๊านะคะ เก๋ไม่ไปยุ่งหรอก เก๋เบื่อหน้าเพื่อนพี่กานต์มาก อย่าคิดว่าเก๋ไม่รู้นะว่าไอ้ตาพี่ดิษนั่นน่ะยังคิดที่จะม่อเก๋อยู่ ทั้งที่เก๋ก็ปฏิเสธไปแล้ว ยังไงก็ฝากเตือนหน่อยนะคะว่าให้น้อยๆหน่อย ไม่งั้นเก๋วีนแน่?
?จ้ะแม่น้องสาว ความจริงพี่ก็ไม่เชียร์หรอกนะ พี่รู้จักนิสัยไอ้ดิษดี ถึงมันจะนิสัยดี แต่บางอย่างมันก็ไม่เหมาะจะเป็นคนรักของน้องสาวพี่หรอก?
?ได้ยินแบบนี้ก็เบาใจ ว่าแต่จะให้เก๋เข้าไปวันนี้เลยมั้ยคะ ยังไงพี่ก็กวนเวลาทำวิทยานิพนธ์เก๋แล้ววันนี้?
?พี่ขอโทษนะเก๋ รู้อยู่หรอกว่าเก๋เร่งทำวิทยานิพนธ์ให้เสร็จ แต่มันก็ใกล้แล้วนี่?
?ค่ะ ใกล้แล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จ?
?แล้วเก๋จะเข้ามากี่โมงล่ะ คุณภัทร...เอ่อ...ที่ปรึกษาที่พี่เคยเล่าให้ฟังไง เขาจะเข้ามาวันนี้ช่วงบ่ายสอง อีกชั่วโมงนึงแน่ะ?
?งั้นเก๋จะออกไปเลยก็แล้วกัน จะได้ไปนั่งฟังๆไว้ด้วย แค่นี้นะคะ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน?
?จ้ะ?
กรรณิการ์ได้แต่กลอกตาไปมาอย่างนึกประหลาดใจ คนชื่อภัทรที่พี่ชายเล่าว่ามารับเป็นที่ปรึกษาทางด้านการตลาดนั้นเป็นที่ปรึกษาฟรีแลนซ์ ที่ทำงานมีประสิทธิภาพและจริงจังคนหนึ่ง เธอเคยเห็นประวัติเขาคร่าวๆ และนั่นทำให้เธอรู้ว่าเขาเป็นคนค่อนข้างถือตัว และเข้าถึงยาก แต่ก็ช่างเถอะ! มันใช่เรื่องของเธอเสียที่ไหนล่ะ นั่นก็แค่เรื่องงาน ทว่า...
?รู้สึกเหมือนว่าจะได้เจออะไรแปลกๆ แห๊ะ?
กรรณิการ์มองกระจกบานใหญ่ที่ส่องให้เห็นทั้งตัวด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะสะบัดหน้าไปมา เธอคงรู้สึกไปเอง แต่...ความรู้สึกครั้งนี้มันชัดนัก ไม่เคยมีลางสังหรณ์ชัดขนาดนี้มาก่อน
มารดาของกรรณิการ์มีความสามารถในการทำนายเรื่องราวในอนาคต คล้ายกับหมอดู ทว่ามีความแม่นยำกว่า และเป็นวิชาที่สืบทอดผ่านสายเลือด มารดาของกรรณิการ์ไม่ได้นำวิชานี้มาหลอกลวง หรือมาใช้เป็นอาชีพ แต่ก็ยังสอนให้กรรณิการ์ได้นำความสามารถนี้มาใช้ และนั่นก็ทำให้กรรณิการ์ได้ล่วงรู้ถึงชะตาของมารดาก่อนจะเสียชีวิต และเธอก็ยอมรับมันได้ แม้ในคราแรกจะรู้สึกกลัว และรังเกียจความสามารถที่ถ่ายทอดมานี้ แต่เมื่อคิดดูดีๆ เธอกลับรู้สึกชื่นชอบมัน เพราะบางครั้งมันก็เตือนเรื่องร้ายๆ ที่จะเกิดกับเธอได้เหมือนกัน
?นี่ฟังพี่อยู่มั้ยเก๋?
คนปลายสายเรียกน้องเสียงขุ่นเมื่อเห็นว่าเงียบไปนาน
?ได้ยินแล้วค่ะ นี่เก๋กำลังจะออก พี่กานต์มีอะไรอีกรึเปล่า?
?วันนี้ป๊าจะให้เราไปค้างที่บ้าน พี่เลยบอกให้เราเตรียมของมาเลย วิทยานิพง นิพนธ์อะไรนั่นน่ะ?
?ค่ะๆ แค่นี้ใช่มั้ย เก๋จะวางสายจริงๆ แล้วนะ แล้วก็ไม่ต้องโทร.มาจิกเก๋ด้วยนะพี่กานต์?
?คร้าบ...คุณแม่?
วิกรานต์ลากเสียงเอ่ยแซวน้องสาวก่อนจะตัดสาย ปล่อยให้กรรณิการ์ได้แต่นึกเข่นเขี้ยวพี่ชายในใจ
กรรณิการ์ขับรถฝ่าการจรารจรที่ติดไปตลอดทางอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก เธอไม่นึกพิศวาสความเป็นอยู่ในเมืองเช่นนี้ จึงได้ระเห็จตัวเองไปอยู่คอนโดมิเนียมนอกเมือง สภาพแวดล้อมที่แออัด ส่งผลให้สุขภาพของมนุษย์ในเมืองย่ำแย่ ผิดกับคนนอกเมืองที่มีต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษจากอากาศได้ดี
หญิงสาวหลับตานิ่งอย่างครุ่นคิด เธอไม่อยากรับรู้สภาพความย่ำแย่ตลอดทาง ทั้งควันดำ ทั้งขยะที่ล้นถัง เห็นแล้วก็นึกขัดใจไปเสียหมด นั่นก็เพราะนักอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างเธอจะต้องมาเผชิญกับอะไรแบบนี้งั้นหรือ? ความจริงเธอก็ไม่ใช่นักอนุรักษ์อะไรหรอก เพียงแต่เห็น หรือคิดก็รู้สึกว่าหายใจหายคอไม่ค่อยคล่องเสียแล้ว
ป้ายโรงงานแกะสลักด้วยหินแกรนิตด้านหน้า เธอเปิดไฟเลี้ยวแทบจะทันที ก่อนจะเห็นหน้ารปภ.ที่กำลังสูบบุหรี่ เธอมองหน้าอีกฝ่ายพลางส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อเธอลดกระจกลงเพื่อให้อีกฝ่ายได้เห็นว่าใครมาเยือน
?คุณเก๋ สวัสดีครับ ไม่เห็นนานเลย?
?อือ เปิดได้แล้ว กำลังรีบ?
น้ำเสียงไม่ยินดียินร้ายของเธอเป็นที่คุ้นเคยของใครๆ ในโรงงานอยู่แล้ว รปภ.หนุ่มรีบกุลีกุจอเปิดให้หญิงสาว ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจเป็นไล่เขาออกแทน เพราะรู้ดีว่าเจ้าของโรงงานโอ๋บุตรสาวคนเล็กขนาดไหน รวมไปถึงคนเป็นพี่ชายก็ตามใจน้องสาวเสียเหลือเกิน
กรรณิการ์ปลดแว่นกันแดดทรงเชลซี ของโอลิเวอร์ พีเพิลส์ ที่ใส่เพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้ทำลายดวงตา เธอเดินผ่านพนักงานมากมายที่ต่างมองเธอเหมือนคนประหลาด นั่นก็เพราะการแต่งตัวที่ดูเป็นธรรมชาติของตัวเอง และเธอก็ไม่แคร์สายตาของใคร แม้กระทั่งพี่ชายของตัวเองที่จับจ้องอย่างประหลาดใจ
?นี่ไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยหรือไงก่อนออกจากคอนโดฯ น่ะ?
หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะก้มมองตัวเองอย่างประหลาดใจ ชุดเดรสสไตล์โบฮีเมียนสายเดี่ยวตัวยาวกรอมเท้า สวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตยีน รองเท้าแตะรัดส้น สร้อยคอ และสร้อยข้อมือเป็นลูกปัดเหมือนสาวยิปซี เพราะสไตล์การแต่งตัวแบบสาวโมฮีเมียนที่เธอรักและชื่นชอบ จนกลายเป็นสไตล์ของตัวเอง และเป็นเช่นนี้มาหลายปีแล้ว
?ทำไมคะ ปกติเก๋ก็แต่งตัวแบบนี้ หรือว่าพี่กานต์ว่ามันไม่เหมาะ งั้นเก๋กลับก็ได้นะ เก๋จะได้บอกป๊าว่าพี่กานต์ไม่ให้เก๋เข้า ทำให้เก๋ต้องพาตัวเองมาหาป๊า ทั้งที่ตั้งใจจะช่วยเหลืองานป๊าแท้ๆ?
คนเป็นพี่ได้แต่กลอกตาไปมาพลางทอดถอนใจ เอากับน้องสาวของเขาสิ ยามดีก็ดีใจหาย แต่ยามจะร้ายขึ้นมาล่ะก็ งัดมันมาทุกไม้ที่จะทำให้เขายอมเออออตามได้ทั้งนั้น ชายหนุ่มมองน้องสาวอีกครั้ง ถ้ามองผ่านๆ เขาคงไม่นึกพิศวาสแม่สาวโบฮีเมียนคนนี้เลยสักนิด เพราะเธอแสนจะธรรมด๊า...ธรรมดา ทว่าทรวดทรงองค์เอวของเธอนี่สิที่ทำให้เขาหวงนักหวงหนา ไม่อยากให้ผู้ชายคนไหนมาฉกฉวยเธอไปทำร้าย หากใครรักน้องสาวเขาจริง เขาก็ยินดีอยู่หรอก แต่ถ้าไม่แล้วล่ะก็...เขาจะฆ่ามันด้วยมือคู่นี้นี่ล่ะ!
กรรณิการ์มองหน้าพี่ชายพลางทำปากยื่นก่อนจะเอียงคอเมื่อเห็นท่าทีเข่นเขี้ยวของพี่ชาย เธอเลิกคิ้วอย่างฉงนใจ ก่อนพี่ชายจะวางมือบนศีรษะเธอ เป็นสัญญาณว่ายอมแพ้แต่โดยดี
?รอพี่ตรงนี้ก่อนนะ พี่ขอคุยกับคุณภัทรซักแป๊บ?
?ได้ค่ะ?
รับคำพลางหาเก้าอี้ภายในห้องทำงานของพี่ชายนั่ง เธอเปิดไอแพดของตัวเอง ดูวิทยานิพนธ์ของตัวเองที่ทำค้างไว้ เธอนั่งอ่านทวนอยู่พักใหญ่ก่อนจะได้ยินเสียงประตูห้องที่เปิดเข้ามา เธอปิดหน้าจอก่อนจะหันมอง
ชายหนุ่มที่มีความสูงกว่าร้อยแปดสิบ และรูปร่างที่สมส่วน ทำให้เธอหันมองพี่ชายที่เดินตามหลังมา อีกฝ่ายพยักหน้าให้เธอรับรู้ทางอ้อมว่าคนตรงหน้าของเธอเป็นใคร
?นี่คุณภัทร ที่ปรึกษาที่พี่บอก คุณภัทรครับ นี่กรรณิการ์ น้องสาวของผม เธอเป็นคนวางระบบเกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสีย แล้วก็เรื่องมลพิษที่เกิดจากโรงงาน?
?ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ?
?สวัสดีค่ะ?
หญิงสาวประนมมือไหว้ชายหนุ่ม ทำให้อีกฝ่ายต้องรับไหว้คนอ่อนวัยกว่า หญิงสาวคลี่ยิ้มก่อนจะแนะนำตัวเองอีกครั้งอย่างไม่ถือตัว
?เรียกว่าเก๋ก็ได้ค่ะ ถ้าเรียกกรรณิการ์ดูเป็นทางการยังไงไม่รู้ เก๋ไม่ชินน่ะค่ะ?
ภัทรยื่นแฟ้มเอกสารซึ่งมีรายการที่เขาต้องการข้อมูลในส่วนบำบัดน้ำจากเธอ และข้อมูลที่เขาวิเคราะห์การตลาดของบริษัทกรณิกานต์ที่ผ่านมาส่งให้ หญิงสาวรับมันมาถือไว้ในมือก่อนจะชะงักเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีลมพัดจากด้านนอก ทั้งที่เธอแน่ใจว่าตอนเข้ามานั้นหน้าต่างทุกบานปิดไว้
?ใครเปิดหน้าต่างล่ะเนี่ย?
วิกรานต์เอ่ยถามอย่างไม่ต้องการคำตอบ ก่อนจะรีบวิ่งไปปิดหน้าต่างบานที่เปิดอยู่ก่อน ขณะที่กรรณิการ์และภัทรช่วยกันเก็บเอกสารที่ปลิวว่อน นั่นทำให้ทั้งคู่แตะมือกันโดยบังเอิญ กรรณิการ์ชะงักนิ่งเมื่อได้เห็นภาพ...บ้านสวนร่มรื่น ซึ่งไม่ได้มีเพียงเขา แต่มีเธอ และชายอีกคน กำลังร่วมรับประทานอาหารและหัวเราะอย่างสนุกสนาน
ทว่าภาพนั่นกลับถูกเหวี่ยง กรรณิการ์พริ้มตาหลับเมื่อรู้สึกว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างเหวี่ยงเธอไปยังอีกทางหนึ่ง ภาพที่เธอเห็นนั้นเปลี่ยนไป...ไม่ใช่ภาพในอนาคตอันใกล้ แต่เหมือนถูกย้อนกลับ
...ชายหนุ่มนุ่งผ้าโจงกระเบนสีเข้ม สวมเพียงเสื้อแขนสั้นเหมือนคนสมัยโบราณ เขาเดินโซซัดโซเซจนถึงหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่ด้วยความหิวโหยจากการถูกขโมยเงินระหว่างทาง กอปรกับอากาศที่แปรปรวน ทำให้รู้สึกจับไข้มาหลายวัน...
กรรณิการ์รีบสะบัดมือออก เธอมองเขาอย่างตกตะลึง ก่อนจะถอยหลังอย่างลนลาน
ภัทรมองหญิงสาวตรงหน้า ภาพที่เกิดขึ้นในหัว มันทำให้เขารู้สึกได้ว่านั่นคือเขา แม้รูปร่างจะผอมกว่า และซูบเซียว แต่เขามั่นใจว่านั่นคือเขา และคนที่ทำให้เขาเห็นคงเป็นหญิงสาวตรงหน้า เพราะเธอก็กำลังตกตะลึงไม่แพ้กัน เธอก้มหน้าลงซ่อนแววตาของตัวเอง
?คุณกรรณิการ์ครับ เอ่อ...ภาพนั่น...?
?ไม่มีอะไรค่ะ ฉันโอเค สบายดี แค่รู้สึกมึนศีรษะนิดหน่อย เรื่องงาน...ฉันหมายถึงข้อมูลเกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสีย พรุ่งนี้ฉันจะเอาข้อมูลมาให้นะคะ?
กรรณิการ์พูดรวดเดียวก่อนจะสะพายกระเป๋าของตัวเอง และหยิบไอแพดของตัวเอง ทว่ามือใหญ่ของพี่ชายที่รั้งข้อศอกของเธอไว้ ทำให้เธอได้แต่กลืนน้ำลาย พยายามระงับอารมณ์ตัวเองให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทว่าก็ไม่ง่ายเลยสักนิด
วิกรานต์มองหน้าน้องสาวพลางหรี่ตาอย่างครุ่นคิด เขารู้จักน้องสาวดีเกินกว่าจะปล่อยไปง่ายๆ ท่าทางของเธอทำให้เขาคิดถึงเมื่อครั้งมารดาป่วยหนัก เธอเข้าไปดูแลมารดา และระหว่างเช็ดตัว...เธอก็เงียบไป แล้วหลังจากนั้นก็แอบร้องไห้เพียงลำพัง เมื่อภาพที่เธอเห็นนั้นคืองานศพของมารดา
?เก๋มีอะไร หรือว่าเขา...?
?ไม่รู้...เก๋ไม่รู้ค่ะพี่กานต์ มัน...ไม่เหมือนทุกครั้ง มัน...ไม่ใช่...มัน...?
กรรณิการ์อธิบายไม่ถูก เธอเงยหน้ามองพี่ชาย ก่อนจะหันมองชายหนุ่มอีกคน ใบหน้าแบบนี้...ใบหน้าเดียวกับภาพเมื่อครู่ แต่ที่ต่างออกไปคือรูปร่าง และเสื้อผ้า เธอคิดว่าเห็นไม่ผิดแน่ๆ มันเป็นเสื้อผ้ายุคโบราณ มีความเป็นไปได้ว่าเป็นการนุ่งโจงกระเบนแบบสมัยอยุธยา หรืออาจเป็นก่อนหน้า หรือหลังจากนั้นเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ใช่การแต่งตัวสมัยปัจจุบัน หรืออนาคตข้างหน้าแน่ๆ ทั้งทรงผมที่เหมือนคนโบราณ ผมสีดำเข้ม ที่ไม่ได้ออกสีน้ำตาลแบบนี้ รูปร่างก็ผอมกว่านี้ บ่งบอกถึงชนชั้นว่าเป็นชนชั้นไพร่ หากนั่นคือสมัยอยุธยาอย่างที่เธอเข้าใจ
?ช่วยบอกผมได้มั้ยครับว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วภาพที่ผมเห็น ไม่ใช่สิ! มันเหมือนผุดขึ้นในหัวนั่นน่ะ มันคืออะไร?
สองพี่น้องมองหน้ากันอย่างคาดไม่ถึง โดยปกติแล้วไม่มีใครเห็นภาพร่วมกับเธอ แม้จะเป็นการจับมือแล้วเห็นภาพอย่างครั้งนี้ แต่อีกคนไม่สามารถรับรู้ร่วมกับเธอ ทว่าเขากลับเห็นภาพเหล่านั้นด้วย
?คุณเห็นอะไร?
เอ่ยถามพลางสบตาเขานิ่งอย่างจริงจัง
ภัทรมองสาวที่แต่งตัวเหมือนชนเผ่าโบฮีเมียน ก่อนจะมองชายหนุ่มที่เป็นผู้บริหารของโรงงานนี้อย่างประหลาดใจ ทว่าท่าทางของหญิงสาวที่บ่งบอกว่าเหมือนเธอรับรู้อะไรบางอย่าง ทำให้เขาต้องหันมองเธออีกครั้ง และเมื่อมองอีกครั้ง เขากลับรู้สึกได้ว่าความรู้สึกเหมือนถูกดึงดูด...หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ ใบหน้าที่ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆ นอกจากลิปกรอสนั้นน่ามองไม่น้อย เธอคงไม่ได้คิดจะมาที่นี่จริงๆ หรือไม่ก็อาจจะเร่งรีบจนไม่ได้แต่งเติมเครื่องประทินโฉม ทั้งการแต่งตัวก็เหมือนคนที่จะอยู่ติดบ้านมากกว่า ไม่ว่าด้วยเหตุผลประการใด เขากลับรู้สึกได้ว่าความเป็นธรรมชาติของเธอนั้นน่ามองยิ่งนัก
?ว่าไงคะ?
เอ่ยถามเมื่อเห็นเขาเอาแต่เงียบ วิกรานต์มองนาฬิกาข้อมือก่อนจะมองหน้าน้องสาวและชายหนุ่มอีกคนอย่างชั่งใจ
?เก๋...พี่ต้องรีบไปแล้ว พี่ต้องไปเช็คอินที่สุวรรณภูมิอีก?
กรรณิการ์ดูเวลาจากนาฬิกาติดฝาผนังเพียงครู่ ก่อนจะพยักหน้าให้พี่ชาย
?ไปเถอะ เดี๋ยวเก๋จะคุยกับคุณภัทร เรื่องงานไม่ต้องห่วง พี่กานต์เชื่อใจเก๋ได้เลย?
?งั้นพี่ฝากด้วย ผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้าคุณภัทรไม่เข้าใจอะไรถามน้องสาวผมได้ ถึงเธอจะเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่เรื่องโรงงานของครอบครัว เธอก็รู้รายละเอียดยิบย่อย และอาจจะรู้ดีกว่าผมด้วย?
วิกรานต์ไม่ได้พูดเกินความจริง หรือคิดจะยกยอน้องสาวตัวเอง แต่เป็นเพราะเขาต้องส่งรายงานการประชุมให้เธอรับรู้ทุกครั้ง หากเธอไม่เข้าประชุม ตัวเลขทุกตัว รายละเอียดทุกอย่างจะต้องผ่านสายตาเธอทุกครั้ง นั่นก็เป็นเพราะบิดาอยากให้เธอได้รับรู้ และเป็นการปลูกฝังให้น้องสาวของเขารักในธุรกิจของครอบครัว ที่บิดาร่วมกันสร้างกับมารดา
?ครับ เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับคุณกานต์?
วิกรานต์ได้แต่พยักหน้ารับคำอวยพร ก่อนจะจุมพิตหน้าผากเนียนของน้องสาว เป็นการแสดงความรักอย่างเคยชิน ในขณะที่หญิงสาวก็หอมแก้มตอบเช่นกัน ก่อนจะโบกมือเป็นการไล่พี่ชายไปในตัว
ภัทรมองภาพเหล่านั้นด้วยหัวใจพลุ่งพล่าน รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แล่นวาบ เหมือนมีลมร้อนตีตื้นขึ้นภายในร่างกาย รู้สึกหูอื้อ ตาลาย อย่างไรชอบกล อาการนี้...หรือว่าเขาจะหึง? ถ้าเขาหึง...มันหมายถึงเขากำลังตกหลุมรักงั้นสิ
เอ่ยถามตัวเองก่อนจะมองหญิงสาวที่ผละจากประตูกลับมานั่งโซฟา ทั้งยังผายมือเป็นเชิงอนุญาตให้เขาร่วมนั่งบนเก้าอี้ด้วยกัน เขาทรุดตัวนั่งก่อนจะพยายามข่มใจตัวเองไว้ และพยายามบอกตัวเองว่านี่คือพี่ชายและน้องสาว เมื่อบอกตัวเองซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง แต่ไม่ได้ผล จึงได้เอ่ยถามไปตรงๆ
?คุณกับคุณกานต์เป็นพี่ชายน้องสาวแท้ๆ เหรอครับ?
?ค่ะ พ่อแม่เดียวกัน คลานตามกันมา พี่กานต์แก่กว่าฉันเจ็ดปีค่ะ?
?แต่ท่าทางของพวกคุณ...?
?เหมือนคู่รักหรือคะ? ใครๆ ก็ชอบพูดอย่างนั้น แต่มันเคยชินมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ฉันเป็นลูกคนเล็ก และตอนเด็กๆ ก็ค่อนข้างติดครอบครัว ก็เลยเหมือนน้องเล็กที่ใครๆ ก็พากันโอ๋ ก็เท่านั้นล่ะคะ?
อธิบายอีกฝ่ายสั้นๆ ก่อนจะมองเขาหน้าตรงอย่างเอาจริง
?ฉันขอถามอีกครั้งนะคะ เมื่อครู่คุณเห็นอะไร ที่คุณบอกว่าเหมือนผุดขึ้นในหัวนั่นน่ะค่ะ?
ภัทรครุ่นคิดเพียงครู่ ก่อนจะบอกอธิบายอีกฝ่าย
?ผู้ชายนุ่งชุดโบราณ เหมือนสมัยสุโขทัย หรืออยุธยา อะไรทำนองนั้น ดูเหมือนว่ากำลังป่วย ผมรู้สึกได้ว่าเขากำลังจะเป็นลม เหมือนคนใกล้จะไม่มีแรงอยู่แล้ว เพราะโดนขโมยเงินระหว่างทาง มีแต่ข้าวที่ได้รับแบ่งมาบ้าง แต่ก็ไม่มีเงินซื้อยา เพราะอากาศที่แปรปรวน ทำให้เขาจับไข้ แต่ที่ผมประหลาดใจที่สุดคือผู้ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนผมมาก ราวกับว่าเป็นตัวผมเอง?
กรรณิการ์ขมวดคิ้วมุ่น เขาไม่ได้เห็นภาพในอนาคตที่เธอเห็นในคราแรก แต่เห็นภาพในอดีต และเขายังรับรู้ถึงความรู้สึกของชายคนนั้นได้ด้วยงั้นหรือ เหมือนกับว่าเขาเป็นคนๆ นั้นเอง ทั้งที่เธอไม่สามารถจับความรู้สึกของภาพที่ผุดขึ้นในหัวได้ เหมือนนั่งดูละครเรื่องหนึ่ง และไม่รู้ที่มาที่ไปด้วยซ้ำว่าเหตุใดเขาจึงดูเหมือนจะเป็นลมทุกขณะ
?คุณเชื่อเรื่องหมอดูรึเปล่า?
คำถามของหญิงสาวทำให้เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ
แน่ล่ะ! เขาเป็นพวกไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ เพราะเขาเชื่อว่ามันมักจะคู่กับการเดาสุ่มนั่นน่ะสิ ภัทรเห็นแววตาจริงจังของหญิงสาว จึงจำเป็นต้องตอบไปตามความจริงที่เขารู้สึก
?ไม่ครับ?
?ถ้าฉันบอกว่าฉันทำนายเรื่องในอนาคตได้ แต่ไม่เคยเห็นภาพในอดีต เคยเห็นแต่ภาพในอนาคต?
?คุณหมายความว่าไง?
?ฉันอธิบายไม่ได้ค่ะ แต่มันเป็นสิ่งที่สืบต่อผ่านสายเลือด ตระกูลฝั่งคุณแม่มีความสามารถพิเศษนี้ทุกคน ลูกหลานที่เกิดมาเป็นผู้หญิงจะได้รับความสามารถนี้ไปด้วย จะว่าดีก็ดี ไม่ดีก็ไม่ดี เพราะมันทำให้ฉันได้รู้ว่าแม่กำลังจะตาย ในวันที่ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล ฉันเห็นภาพงานศพของแม่ และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน แม่ฉันก็ตาย ภาพที่เห็นมันถูกจัดขึ้นตามภาพจริงๆ นั่นคือครั้งแรกที่ฉันได้เห็น หลังจากนั้น...ก็เป็นคราวของป๊า...พ่อของฉัน ท่านไม่สบาย แต่ฝืนทำงาน ตอนนั้นฉันเห็นภาพท่านหมดสติขณะที่ฉันกำลังไปมหา?ลัย ไม่ได้จับมืออย่างคุณ แต่อยู่ดีๆ ก็เห็นขึ้นมาเฉยๆ ฉันก็เลยมาหาท่านที่โรงงาน เห็นท่านหมดสติคาห้องทำงาน...ห้องนี้นี่แหละ และตั้งแต่นั้นมา ฉันก็เห็นอะไรทำนองนี้เรื่อยๆ แต่มันเป็นเรื่องอนาคต แต่กับคุณ...มันต่างออกไป มันไม่ใช่เรื่องอนาคต?
?คุณกำลังบอกว่าเราระลึกชาติงั้นหรือ?
?ฉันบอกแล้วไงว่าอธิบายไม่ได้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันคือภาพเมื่อไหร่ และก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมคุณถึงเห็นภาพนั้นด้วย เพราะปกติแล้วไม่มีใครเห็นร่วมกับฉัน แม้ว่าจะบังเอิญจับมืออย่างที่ทำกับคุณก็ตาม?
?คุณทำให้ผมเห็นภาพนั้นอีกครั้งได้มั้ย?
?ฉันไม่รู้ค่ะ ไม่รู้จริงๆ?
?ลองดูก็ได้นี่ครับ?
ภัทรยื่นมือให้เธอ กรรณิการ์พยักหน้ายินยอม ก่อนจะแตะมือเขา ทว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกวูบเหมือนถูกฉุดอย่างเมื่อครู่ ทุกอย่างเป็นปกติ ไม่มีสิ่งใดผิดปกติสักนิด
?บางที...คงต้องรอโอกาสมั้งครับ เอาเป็นว่าค่อยลองคราวหน้าก็ได้ครับ เอ่อ...เรื่องงาน พรุ่งนี้ผมจะเข้ามาฟังที่ประชุมด้วยนะครับ?
?ค่ะ ถ้ายังไงฝากตัวด้วยนะคะ?
หญิงสาวยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มยิ้มตอบกลับมา
?เช่นกันครับคุณกรรณิการ์?
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อถูกเรียกเต็มยศเช่นนี้ อดจะรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาไม่ได้
?บอกแล้วไงคะว่าเรียกเก๋ก็ได้?
?ครับ?
ภัทรลุกขึ้นยืนพลางถอยออกห่าง ราวกับว่าต้องการให้ช่องว่างระหว่างกันกลับไปเป็นก่อนที่เขาจะสนใจเรื่องภาพที่ผุดขึ้นมาในหัว ท่าทางของเขาทำให้กรรณิการ์ให้นิยามได้เพียงอย่างเดียว
?ทำตัวพิลึกพิลั่นชะมัด! เดี๋ยวอยากคุย เดี๋ยวไม่อยากคุย เข้าถึงยากแบบนี้ หมดงานนี้อย่าคิดว่าคนอย่างเก๋จะสนใจ พี่กานต์กลับมาเมื่อไหร่ เราคงต้องโบกมือลาขาด?
กรรณิการ์คิดเพียงลำพัง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินหลังตรงออกจากห้องไป ไม่สนใจจะทักทายอะไรกับเลขาของวิกรานต์ เพียงพยักหน้าน้อยๆ ราวกับต้องการจะไปให้พ้นเร็วๆ ไม่ยอมคุยกับคนแปลกหน้า กับเธอในคราวแรกที่เจอหน้า ก็ทำเหมือนไม่อยากเสวนาด้วยซักเท่าไหร่ แล้วเขาได้คิดบ้างรึเปล่าว่าเธอก็ไม่อยากยุ่งกับคนแบบนี้นักหรอก เห็นแล้วกระอักกระอ่วนใจเป็นที่สุด


***************************************************************
เพียงแรกพบสบตาคู่สวย ?ภัทร? ก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดให้เข้าหา กลิ่นดอก ?กรรณิการ์? ก็เปลี่ยนชีวิตให้ได้พบเรื่องประหลาด การเชื่อมโยงเรื่องราวแห่งกาลเวลาจึงเริ่มต้นขึ้น ล่วงรู้ความรักแสนอาภัพของทั้งคู่ แม้สาวเจ้าจะพยายามหลีกหนี แต่รักระหว่างกันถูก ?ลิขิต? ไว้ด้วยหัวใจ ?อธิษฐาน? ทว่าชะตาไม่เพียงนำพาทั้งคู่มาพบกันเท่านั้น ยังนำพาหนามกุหลาบในอดีตมาเป็นอุปสรรครักในชาติภพนี้ แล้วแรงรัก แรงอธิษฐานจะสามารถชนะอุปสรรคครั้งนี้ได้หรือไม่!?

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”