New Release:รอยรักบนผืนทราย

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release:รอยรักบนผืนทราย

โพสต์ โดย Gals »

1
ณ พระราชวัง ?รีฮาน? กลางทะเลทรายซาฮาร่า...
?เตรียมพร้อมเดินทางหรือยัง...?
ชีคอิมราน อิสมาเอล ซายารี ถามบอดี้การ์ดคนสนิทที่เข้ามาในตึกใหญ่อันเป็นที่พักของเขา ซึ่งอยู่ติดกับพระตำหนักที่ประทับของเจ้าชายฮาซาผู้เป็นพระปิตุจฉา (ลุง) และเป็นผู้เดียวที่กำอำนาจสูงสุดของพระราชวงศ์ ?รีฮานา? เอาไว้ในเวลานี้
?เรียบร้อยครับ...แต่ตอนนี้กำลังเกิดเรื่อง...?
?เรื่องอะไร!?? เสียงทุ้มลึกนั้นถามพร้อมกับคิ้วสีเข้มหนามีลักษณะคล้ายไม้หันอากาศขมวดเข้าหากัน ตัดผิวสีครีมผิดผู้ชายทั่วไปในดินแดนแถบนี้...
?เรากำลังตามจับขโมยกันครับ...มันบังอาจบุกเข้ามาในวัง...นี่กำลังตามจับกันให้วุ่นเลยครับ?
คำอธิบายของซาบิลคนสนิททำให้ร่างสูงในชุดดำแบบเบดูอินที่กำลังเตรียมตัวออกจากที่พักต้องสะดุดกึกอย่างสงสัย...
?มันเข้ามาขโมยอะไร!??
?ได้ยินว่ามันเข้าไปขโมยเพชรที่เราเอามาให้ถ่ายรูปโชว์น่ะครับ?
?ชุดไหนที่ถูกขโมย...หรือทั้งหมด...?
?ไดมอนด์ออฟซาฮาร่าครับผม...?
?ฮึ!??
พร้อมกับเสียงพึมพำในลำคอ...ดวงตาคมกริบของอิมรานก็เห็นอะไรบางอย่าง
ขณะนั้นชีคอิมรานแน่ใจทีเดียวว่าร่างที่เขาเห็นจะต้องตรงไปยังกำแพงพระราชวังอย่างแน่นอน...ชายหนุ่มจึงพาร่างสูงพุ่งไปตามเป้าหมายนั้นทันที
ซึ่งก็เป็นจริง...พอเขาเข้าไปถึงกำแพงก็เห็นอีกร่างหนึ่งโผล่ออกมาเช่นกัน
มันชะงักกึกเมื่อเห็นเขา ก่อนจะหันไปมองกำแพงวังที่อยู่ใกล้เพียงนิดเดียว...อีกไม่กี่ก้าวก็จะพ้นไปแล้ว...แล้วมือในถุงมือดำก็ดึงสิ่งหนึ่งออกมาจากเอว เหวี่ยงขึ้นไปเกาะขอบกำแพงอย่างรวดเร็ว...
อิมรานก็รู้ทันทีว่าถ้าเขาปล่อยให้มันปีนขึ้นไปได้เมื่อไหร่ก็จบกัน เชือกพลาสติกใสจนแทบมองไม่เห็นนั้นจะดึงตัวให้ข้ามไปได้ในทันที...
มือข้างหนึ่งของเขาตะครุบเอวบางเอาไว้แล้วกระชากเต็มแรง พลิกร่างนั้นลงใต้ร่างตัวเอง พร้อมกับง้างมือขึ้นกะชกเต็มเหนี่ยว...แต่อะไรบางอย่างในดวงตาของฝ่ายตรงข้ามที่มองเห็น และร่างกายที่ถูกยึดเอาไว้ใต้ร่างของเขาทำให้เกิดความสงสัย...
ชายหนุ่มเปลี่ยนใจที่จะชกแล้วก้มลงมองวัตถุบางใสที่พันอยู่รอบเอวนั้นแทน พร้อมกับดึงมีดปลายแหลมที่ซ่อนอยู่ข้างรองเท้าที่สวมอยู่ออกมาและตัดมันขาดไปอย่างรวดเร็ว....
เวลานั้นเช่นกันที่ปลายนิ้วทั้งสองข้างของอีกฝ่ายก็จิ้มเข้ามาที่ใบหน้าโดยมีดวงตาของชายหนุ่มเป็นเป้าหมาย...หากแต่เขาคว้าข้อมือนั้นไว้ทันแล้วพลิกแขนหักลงไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
พอคว้าข้อมือเล็กนั้นได้แค่นั้น...อิมรานก็แน่ใจทันทีว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้หญิง...ไม่น่าเชื่อ...หล่อนกล้ามากที่บุกเข้ามาขโมยของในวัง...ช่างไม่กลัวอะไรเสียเลย เรียกได้ว่าบังอาจมาก...
คู่ต่อสู้ของเขาพยายามดิ้นที่จะหลุดไปให้ได้ แต่ไม่ว่าจะทำเช่นไร...ก็ดิ้นไม่หลุดเมื่อโดนล็อกเอาไว้ทั้งมือ เท้า และลำตัว...ปลายนิ้วของอิมรานกระตุกผ้าที่พันศีรษะของหล่อนออก ปล่อยให้พวงผมสีน้ำตาลเข้มกระจายออกมาตามแรงดึง แม้จะรัดเอาไว้อย่างแน่นหนา
พอดวงตาคมกริบและดวงตาคู่สวยเจือแววหวานสบกันเท่านั้น ต่างคนต่างก็ตะลึงไปชั่วขณะ เวลานั้นซาบิลก็โผล่ออกมาพอดี
?ชีคครับ...?
เสียงเรียกเตือนให้อิมรานตัดสินใจชกเปรี้ยงเข้าที่กระโดงคางของหล่อนจนหมดสติไปทันที...และจับร่างกลมกลึงนั้นเหวี่ยงขึ้นบ่าในเวลาต่อมา...
?ชีคจะไปไหนครับนั่น?
ซาบิลถาม เมื่อเห็นผู้เป็นนายตรงไปยังทางออกนอกวังอีกด้านหนึ่ง...
?นั่นมันขโมยนะครับ...?
?หุบปากซะซาบิล?
ผู้เป็นนายสั่งขณะที่แบกร่างนั้นไปเรื่อยๆ ออกนอกเขตพระราชวัง ตรงไปสู่ขบวนเบดูอินที่เตรียมพร้อมจะเดินทางของเขา...
เมื่อไปถึงชายหนุ่มก็พาร่างที่หมดสติขึ้นบนอานม้า พร้อมกับเหวี่ยงร่างสูงของตัวเองตามไป...แล้วกระตุ้นม้าเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้นอย่างเร็ว...
อิมรานสั่งให้ขบวนม้าของเขาเคลื่อนออกจากวังในเวลาต่อมา...เดินทางตรงไปยังเบื้องหน้า...โดยไม่มีจุดหมายปลายทางแน่ชัด...ซึ่งเขาจะใช้เวลาร่อนเร่ไปในทะเลทรายเป็นเวลาหลายเดือนทุกปี...และปีนี้ก็เช่นกัน...
ม้าสีดำตัวโปรดพาชายหนุ่มพุ่งไปเบื้องหน้าเรื่อยๆ ท่ามกลางเวลาที่ค่อยๆ ผ่านช้าๆ จนกระทั่งออกมาไกลจากวังหลวงพอสมควร...
เวลานั้นร่างที่พาดอยู่กับอานม้าตรงหน้า...เริ่มได้สติแล้ว ซาบิลบอดี้การ์ดประจำตัวก็พาม้ามาชะลออบู่ใกล้ๆ
?เอาใส่ตะกร้าแขวนไว้กับอูฐบรรทุกอาหารดีไหมครับ?
ข้อเสนอนั้นทำให้ผู้เป็นนายนึกขึ้นมาได้
?ผูกมือผูกเท้าให้แน่น...อย่าปล่อยให้หลุดไปได้ แล้วฉันจะสอบสวนเอง...?
อิมรานสั่งพลางหยุดม้าแล้วหันไปมองอูฐบรรทุกอาหารที่ก้าวเข้ามาใกล้...ไม่ช้าร่างนั้นก็ถูกจับใส่ถุงผ้าใบใหญ่ผูกปากเรียบร้อย แขวนไปกับอูฐในคาราวานนั้น...
*************************************************
กว่าจะได้พักกันอีกครั้งก็กลางดึกคืนนั้น...ห่างจากที่เริ่มต้นเดินทางมาร่วมหกชั่วโมง นับว่าไปได้ไกลพอควรในทะเลทรายที่เริ่มเย็นลงเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน...
ร่างที่ถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนาจนขยับตัวไม่ได้ถูกนำออกจากถุงใบใหญ่ ปล่อยให้กลิ้งไปบนพรมเปอร์เซียสีทับทิมงดงามที่ปูตลอดเต็นท์ใหญ่
เวลานั้น...ผู้เป็นใหญ่ในกองคาราวานค่อยๆ ก้าวไปรอบๆ ตัวหล่อนเหมือนจะมองให้ชัดถนัดตา
ผ้าคลุมศีรษะกลายเป็นที่ผูกมือ...และผูกไปตลอดลำตัว เส้นผมสีน้ำตาลไหม้เกือบดำถูกดึงแรงๆ จนหลุดกระจายไปตลอดศีรษะได้รูป...เป็นกรอบส่งให้ใบหน้านั้นงดงามเสียจนคนมองดูแทบไม่อยากเชื่อว่าหล่อนจะเป็นโจรไปได้...
?รู้ไหมว่าโจรขโมยของชาวบ้านน่ะ จะต้องได้รับโทษทัณฑ์อันใดบ้าง?
อิมรานเอ่ยปากถามขณะที่กวาดดวงตาคมกริบของเขาไปตลอดเครื่องหน้าของหล่อน ไม่ว่าจะเป็นคิ้วเรียวสีเดียวกับผม ดวงตากลมโต จมูกโด่งเล็กน่ารัก...และสุดท้ายคือริมฝีปากสีกุหลาบที่หุบสนิทอยู่...
?รู้อยู่แล้วมาถามทำไม...?
หล่อนตอบเสียงเบา เพราะเจ็บไปหมดทั้งตัวเมื่อถูกมัดอยู่เป็นเวลานานขนาดนั้น...ทั้งมือทั้งเท้าชาจนกระดิกไม่ได้...
?ลุกขึ้นมา...?
ทุกคำสั่งของเขามีแต่คนปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว หากแต่ร่างที่นอนตะแคงนิ่งอยู่ไม่ได้ขยับตามแม้แต่น้อย
?ไม่ได้ยินหรือที่สั่ง?
คราวนี้คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ ดวงตาดำคมกริบจ้องนิ่งมาอย่างดุดัน...แพขนตางอนยาวไม่แพ้อิสตรีขยับขึ้นลงอย่างฉุนเฉียว...ริมฝีปากสีเข้มตัดกับสีผิวที่ขาวราวนมสดแตกต่างไปจากเบดูอินทั้งปวงโดยสิ้นเชิงขยับอย่างหงุดหงิด
?แล้วคุณเป็นใครถึงคิดจะสั่งฉัน?
คำตอบนั้นทำให้อิมรานโมโหขึ้นมาทันที ร่างสูงลุกจากที่นั่งบนพรมผืนนั้นตรงไปยังร่างที่ยังหมอบคุดคู้แล้วดึงด้วยแรงทีเดียวก็ลุกขึ้นมาตามแรงดึงมาเผชิญหน้ากันอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก
เวลาต่อมาชายหนุ่มก็ดึงผ้าที่ผูกไว้ตลอดตัวหล่อนออกจนหมด...ทำให้หญิงสาวเริ่มขยับตัวด้วยการยืดแขนยืดขาออกไปได้...จนค่อยยังชั่วขึ้น...
?เธอเป็นหัวขโมย...ต้องถูกตัดมือตัดเท้า...รู้ไหม?
เขาพึมพำและกวาดตามองไปตลอดร่างที่ซ่อนอยู่ในชุดดำแบบเบดูอินเช่นเดียวกันนั้นอย่างพิจารณา...
?คุณเอ่ยแต่โทษของฉัน แล้วโทษของคุณเล่าไม่มีเลยหรือ มันหายไปไหน เพียงแต่คุณเป็นผู้ชนะแค่นั้นหรือ?
หล่อนเงยหน้าขึ้นเถียงเขา...
?นี่เธอพูดอะไร...หาเรื่องถูกตัดลิ้นด้วยใช่ไหม...?
เขาถามแล้วดึงคางหล่อนขึ้นเผชิญหน้า...ดวงตาสองคู่สบกันไม่ลดละ...
?ฉันกำลังพูดวามจริงกับคุณต่างหาก...เอาเถอะ...คุณจะทำอะไรก็เชิญ ฉันเป็นเชลยของคุณแล้วนี่?
?โอหัง...กำแหง...?
เขาพึมพำก่อนจะผลักหล่อนห่างออกไป...
?คุณก็เหมือนกัน...? หล่อนเถียงกลับมาไม่ลดละ...ทำเอาอิมรานต้องมองตามไปอย่างสงสัย...
?นี่เธอไม่รู้ตัวเลยหรือว่าเธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร...เธอไม่มีสิทธ์มาต่อปากต่อคำกับฉันเลย...?
?วันนี้ต่างหากที่ฉันไม่มีสิทธิ์...เหมือนที่เมื่อวานคุณก็ไม่มีสิทธิ์...?
?เธอหมายความว่าไง? เขาถามหล่อนอย่างคาดคั้นและเอาจริง
?คุณแน่ใจหรือว่าเป็นเจ้าของเพชรชิ้นนั้น คุณแน่ใจหรือว่ากษัตริย์ฮาชาที่นับถือนั้นคือเจ้าของโดยแท้จริง...?
เหตุผลของหล่อนทำให้คิ้วเข้มของชายหนุ่มขมวดเข้าหากันอีกครั้ง
?เธอนี่น่าตัดลิ้นเสียจริง...ลามปามไปถึงเสด็จลุงได้ยังไง?
?ก็เหมือนกับที่ลุงของคุณทำร้ายครอบครัวของฉันนั่นแหละ...?
?อะไรนะ...เธอพูดอะไรนะ...?
อิมรานถามขณะที่จ้องผู้หญิงตรงหน้าอย่างค้นหาความจริง
?เอาเถอะ...ไหนคุณก็จะตัดลิ้น...ตัดมือ ตัดแขนฉันแล้ว...ฉันก็อยากจะพูดให้ฟังว่าฉันเป็นใคร...ทำไมจึงเข้ามาขโมยเพชรชิ้นนี้ถึงในวัง...?
คำอธิบายอันชัดเจนดึงให้ชายหนุ่มกะพริบตา...
?รีฮานเคยเป็นที่อยู่ของฉัน...?
คำอธิบายต่อมาทำให้เขารู้สึกเหมือนหูฝาด...
?เสด็จลุงของคุณฆ่าพ่อแม่ของฉันและชิงทุกอย่างของฉันไป...เพราะฉะนั้นเพชรที่ลุงคุณครอบครอง จึงไม่ใช่ของเขาไง...ความจริงลุงของคุณต้องถูกตัดมือแล้วถูกไหมล่ะ...อำนาจทำให้พวกยกตัวเองขึ้นจากความผิดชัดๆ...คิดแต่จะโยนความผิดให้คนอื่น...แต่ความผิดของตัวเองกลับเหยียบเอาไว้มิดชิด...?
คำพูดต่อมาทำให้อิมรานมองหล่อนเหมือนตัวประหลาด...ไม่เคยเห็นและก่อนที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อไป...เสียงของซาบิลก็ผ่านเข้ามาจากด้านนอก...
?ชีคครับ...?
?เข้ามา? อิมรานอนุญาตทันที...
พอซาบิลเข้ามาเห็นเชลยที่นั่งอยู่ตรงหน้า ผู้เป็นนายก็บอกทันทีว่า
?เพชรอยู่กับหล่อน...?
พูดจบซาบิลก็ก้าวเข้าไปเตรียมจะค้นตัวเชลยสาว...
?เดี๋ยว...? อิมรานห้ามแล้วหันไปมองหล่อน...
?เอาเพชรออกมาคืนเรา...?
พร้อมกับคำพูด...ดวงตาสองคู่สบกันเหมือนอยากบอกให้รู้ว่าถ้าหล่อนไม่หยิบออกมาเอง...ซาบิลคงจะลงมือค้นตัวแน่นอน และคนฟังก็รู้ดี...หล่อนถอนใจยืดยาว ก่อนจะขยับตัวหยิบเพชรออกมาวางไว้ตรงหน้าด้วยความเสียดาย...



*************************************************************
นาซารีนปลอมตัวเป็นชายบุกไปพระราชวังรีฮานเพื่อทวงความยุติธรรมกลับคืน ไดมอนด์ออฟซาฮาร่าคือการกอบกู้ศักดิ์ศรีของหญิงสาวที่ถูกปล้นไปอย่างหน้าไม่อาย ทว่าโชคร้ายนักที่ชีคอิมรานคว้าตัวหล่อนไว้ได้และโทษของนาซารีนคือตัดมือหรือตัดคอทิ้ง แต่กลับกลายเป็นว่าชายหนุ่มที่มีรูปงามราวเทพบุตรกักกุมหล่อนไว้ในฐานะเชลย นั่นเป็นเพราะดวงตาคมกริบของเขากวาดไปตลอดเครื่องหน้าของหล่อน ไม่ว่าจะเป็นคิ้วเรียวสีเดียวกับผม ดวงตากลมโต จมูกโด่งเล็กน่ารัก...และสุดท้ายคือริมฝีปากสีกุหลาบที่หุบสนิทอยู่ สิ่งเหล่านี้ล่ะมั้งที่ทำให้ชีคหนุ่มพาเชลยสาวท่องเที่ยวไปในทะเลทรายด้วยกัน และเขาก็ลงทัณฑ์ด้วยรสสวาทที่นาซารีนจักต้องยินยอม
?คุณจะบ้ารึไง? หล่อนถามเมื่อสะบัดหลุดไปได้อย่างโมโห
?เฉยเถอะ?
เขาสั่งแล้วดึงคอหล่อนกลับไปใหม่ พร้อมทั้งรัดร่างกลมกลึงไปทั้งเนื้อทั้งตัวไม่ให้ดิ้น


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”