New Release:บาปรักลวง

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release:บาปรักลวง

โพสต์ โดย Gals »

1
ห้องสตูดิโอขนาดหลายตารางเมตรถูกแบ่งเป็นห้องทำงานและห้องพักอย่างละครึ่ง เจ้าของห้องนั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้นวมหน้าโต๊ะทำงาน เยื้องกันนั้นเป็นห้องอัดเสียงขนาดย่อมพร้อมเครื่องดนตรีสากลครบครันเว้นกองชุด ทางด้านหน้าห้องอัดเสียงมีแผงระบบควบคุมและปรับเสียงทันสมัย ทั้งราคาสูงลิ่วเพราะเป็นอุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศแทบทั้งหมด
?กาแฟค่ะคุณพศิน? เสียงหวานบอกพร้อมวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะทางฝั่งขวามือของเขา ?ดูคุณเหนื่อยๆ ฉันนวดให้นะคะ?
ศมนเอ่ยแล้ววางมือลงบีบนวดไหล่สองข้างของอีกฝ่ายพร้อมฉีกยิ้มหวาน หวังใจให้โปรดิวเซอร์หนุ่มได้ผ่อนคลายขึ้นบ้าง พศินแหงนเอียงหน้าขึ้นมองผู้หญิงที่ตนคบหามาปีเศษด้วยแววตานิ่งๆ สุดจะคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ศมนมองพศินกลับด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานแล้วพยายามหาเรื่องคุยเพื่อทำให้บรรยากาศสดใสขึ้นบ้าง
?จริงสิคะ วันนี้ไม่มีคนมาอัดเสียงเลยหรือ เงียบเชียว?
พศินพยักหน้า แต่ไม่ยอมถอนสายตาจากแฟนสาว ศมนอายุห่างจากเขาเกือบสามปี หล่อนเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยและโดดเด่น รูปร่างโปร่งเพรียว แต่มีส่วนโค้งเว้าสวมใส่ชุดอะไรแบบไหนก็ดูดี เส้นผมเล็กนุ่มที่ยาวถึงกลางหลังดัดตรงปลายทำให้ใบหน้ารูปไข่ยิ่งดูอ่อนหวาน นัยน์ตาสีน้ำตาลธรรมชาติเป็นประกายยวนเย้า จมูกแหลมเล็กโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากเล็กบางชุ่มชื้น
?มีอะไรหรือคะ ทำไมจ้องกันแบบนั้น?
?เปล่าหรอก คุณสวยมากเลยเผลอมองนานไปหน่อย ?โทษทีนะ?
พศินเป็นคนไม่พูดมาก ไม่พร่ำคำหวาน ดังนั้นคำที่ออกจากปากของเขาจึงทำให้ศมนยิ้มรับคำชมอย่างดีใจ พลางคิดว่าตัวเขาเองก็หล่อมากเช่นกัน พศินผิวขาวเหลือง ผมที่ยาวประบ่าถูกรวบเก็บไปทางด้านหลังครึ่งศีรษะ เผยให้เห็นดวงหน้าเรียวสวยคล้ายผู้หญิง ทว่าดวงตาคมเฉี่ยวกับจมูกที่โด่งเป็นสันเด่นชัดทำให้ใบหน้าของเขาดูสมชายยิ่ง
?แล้ววันนี้คุณไม่ต้องไปทำงานหรือ? พศินถามพร้อมรั้งร่างบางมากอดแล้วดึงเธอวางลงบนตักของตน ?หรือว่าต้องออกต่างจังหวัด?
?เปล่าหรอกค่ะ?
พศินต่อบทสนทนาด้วยการจรดปลายจมูกลงบนแก้มนวลแทนคำพูด แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงออกความรักเช่นนี้ แต่ศมนก็รู้สึกแปลกในอก รีบหาเหตุอ้างเพื่อลุกออกจากตักกว้าง
?เดี๋ยวฉันไปหาขนมมาให้คุณทานกับกาแฟดีกว่าค่ะ? ศมนบอกแล้วลุกออกไป หากยังไม่ได้ขยับเดินไปไหนพศินก็รั้งแขนหล่อนไว้แล้วผลักร่างโปร่งบางไปติดกับขอบโต๊ะทำงานเบาๆ ก่อนจะใช้แขนสองข้างของเขาทาบโต๊ะเพื่อกักตัวสาวเจ้าเอาไว้
?ปล่อยเถอะค่ะ?
นอกจากพศินจะไม่ปล่อย เขายังเลื่อนใบหน้าเข้าหาลำคอระหง แล้วจูบไล้ต้นคอและใบหูอย่างเอาแต่ใจและเลื่อนขึ้นไปหาริมฝีปาก แต่ก่อนจะได้สัมผัสริมฝีปากนุ่ม หญิงสาวก็สะบัดหน้าหนีไปด้านข้างเสียก่อน อาการขัดขืนอย่างโจ่งแจ้งของแฟนสาวที่เหมือนกับหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ทำให้เขาเป็นฝ่ายผละตัวออกห่างจากหล่อนเสียเอง
??ผมจะไปซื้อบุหรี่? พศินบอกโดยไม่ได้มองหน้าหล่อน แล้วเดินสาวเท้าออกไปอย่างเงียบเชียบ
ศมนทิ้งร่างลงบนเก้าอี้นวมพร้อมวางศอกลงบนโต๊ะ ก่อนเอามือสองข้างกุมขมับอย่างเคร่งเครียด หล่อนทำมันอีกแล้ว...ทำให้เขาเสียความรู้สึกอีกแล้ว ศมนนึกอย่างหม่นเศร้าเคล้าความรู้สึกผิดต่อคนที่มีสถานะเป็น ?แฟน? ไหนจะเรื่องงานที่ตนเพิ่งจะลาออกมาอีก หญิงสาวจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนแรง
หลายเรื่องที่รุมเร้าทำให้ศมนเริ่มปวดตุบขึ้นที่ขมับจนต้องใช้มือบีบเค้นริมขมับไปมา ขณะนั้นเองภาพเหตุการณ์ในอดีตที่หล่อนยังจำฝังใจก็ผุดขึ้นมาในความคิด
วันนั้นหล่อนกลับบ้านพักด้วยความสุขสันต์เพราะเป็นวันงานรับพระราชทานปริญญาบัตรและงานเลี้ยงฉลอง ... ทุกอย่างเสร็จสิ้นลงด้วยดี ฤทธิ์แอลกอฮอล์จากคนที่ไม่ชอบดื่มนักทำให้ศมนโผเข้าไปกอดชยังกูรแฟนหนุ่มทันทีที่เขามาหาถึงบ้านพร้อมกุหลาบสีขาวช่อโต
?นึกว่าจะให้ลิลลี่เสียอีก? หล่อนว่าอย่างงอนๆ เมื่อผละตัวออก ก่อนหน้าหล่อนเคยบอกบอกเขาไว้แล้วว่าอยากได้ลิลลี่สีขาวช่อใหญ่ในวันรับปริญญา ?ลืมหรือคะ?
?เปล่า แต่คิดว่ากุหลาบเหมาะกับคุณมากกว่า?
?แก้ตัวชัดๆ ?
ชยังกูรยิ้มพลางใช้มือสองข้างรั้งเอวบางเข้าหา ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปจุมพิตบนหน้าผากของคนรักอย่างอ่อนโยน ?ยินดีด้วยนะครับ?
?ขอบคุณค่ะพี่ชะ ขอบคุณมาก? ศมนบอกอย่างซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ แต่ไม่ใช่เป็นเพราะเขาหอบดอกไม้แสนสวยมาแสดงความยินดี หากเป็นเพราะเขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เอาใจใส่หล่อนมากขึ้นและไม่ทำให้ทุกข์ใจ ทั้งหมดนี่ต่างหากที่เรียกน้ำตาแห่งความซาบซึ้งและความปิติของหล่อนออกมา
ทั้งสองคุยกันต่ออีกสักพัก แฟนหนุ่มก็ลากลับเพราะคิดว่าดึกมากแล้ว ด้วยรักผสมฤทธิ์แอลกอฮอล์ในตัวทำให้ศมนกล้ารั้งเขาไว้ด้วยการสวมกอดเอวของเขาเอาไว้จากทางด้านหลัง
?ศมน? ชยังกูรครางชื่อแฟนสาวเสียงแผ่ว เมื่อหล่อนเงียบเขาก็บอกเหตุผล ?ปล่อยเถอะ ดึกแล้วนะ ผมต้องกลับแล้ว?
ศมนไม่ปริปากแต่กระชับวงแขนแน่นขึ้น ความรักที่มีอยู่ท่วมท้นอกของชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปี ทำให้เขาแกะมือแฟนสาวออก แล้วพลิกตัวไปหาสบตาหล่อนอย่างลึกซึ้งก่อนจะโน้มตัวลงไปประทับจูบ เปิดปากมอบและควานหาความหวานล้ำไปพร้อมกัน คนทั้งคู่จูบกันเนิ่นนาน ราวกับเจตนาถ่ายทอดความรู้สึกเปี่ยมรักผ่านริมฝีปากพร้อมสัมผัสอุ่นจนร้อนไปให้อีกฝ่าย และนี่เป็นครั้งแรกที่ศมนนั้นได้รับจูบอย่างลึกซึ้ง
ศมนลุกออกจากโต๊ะ สะบัดศีรษะเต็มแรงก่อนจะเดินออกไปรอพศินอยู่หน้าห้อง แต่เมื่อภาพหน้าของแฟนเก่ายังฉายซ้ำขึ้นมาในความคิด มือเล็กก็แตะริมฝีปากของตนเองเบาๆ นัยน์ตาคู่หวานซึ้งฉายแววรำลึกถึงความหลังเด่นชัด
พศินที่เดินมาถึงหน้าห้องพอดีทักเสียงเรียบนิ่งเมื่อเห็นคนรักยืนเหม่อลอย ?ยังอยู่อีกหรือ?
ศมนหลุดจากภวังค์ความหลังมองหน้าคนรักปัจจุบันอย่างวิงวอน แต่พอเห็นใบหน้านิ่งราวไม่สนใจอะไรเลยของเขา หล่อนก็นึกน้อยใจขึ้นมา
?คุณอยากให้ฉันกลับหรือคะ?
?แล้วคุณจะอยู่ทำไมล่ะ?
ศมนข่มความน้อยใจ ?หล่อนเองต่างหากที่เป็นฝ่ายทำร้ายเขาก่อนเสียมากมาย แต่หล่อนก็ไม่ได้แข็งแกร่งพอจะทนกับความเฉยเมยเช่นนี้ได้จึงตัดสินใจพึ่งตัวเลือกที่คิดว่าน่าจะดีที่สุดแล้วในเวลานี้
?ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้... เราอยู่ห่างกันสักพักเถอะค่ะ?
?อืม? พศินรับอย่างว่าง่าย แต่เมื่อเห็นแววตากลัดกลุ้มฉายออกมาจากดวงตาที่เขายอมรับจากใจจริงว่าสวยยิ่งกว่าใคร ชายหนุ่มจึงถามย้ำ ?แต่คุณแน่ใจนะว่าอยากจะทำแบบนั้น?
เมื่อเห็นศมนพยักหน้า พศินก็ลอบถอนหายใจแล้วสรุป ?แสดงว่าคุณพร้อมที่จะไปจากผมแล้วสินะศมน?
?ไม่ใช่ค่ะ? หล่อนสวนทันควัน
?ก็รู้ไม่ใช่หรือว่าถ้าห่างกันแล้ว เราสองคนคงจะไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก... แต่ก็เอาเถอะ?
พศินตัดสินใจจบบทสนทนาด้วยการเดินเข้าห้องพร้อมเอ่ยทิ้งท้ายว่า ?คุณตัดสินใจแล้วนี่นะ ยินดีด้วย?
ศมนไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงต้องเอ่ยเช่นนั้น การที่คนสองคนมีปัญหากันมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีเมื่อต้องห่างกันอย่างนั้นหรือ ยิ่งคิดแต่ไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด ศมนก็ยิ่งปวดศีรษะหนักขึ้น หล่อนเดินตามแผ่นหลังของเขาเข้าไปในห้อง แต่ไม่ได้ไปเพื่อคุยต่อ ศมนเพียงเข้าไปหยิบเอากระเป๋าสะพายของตนแล้วเดินออกมาจากห้องสตูดิโออย่างห่อเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง
ศมนนั่งแท็กซี่มาลงตรงซอยทางเข้าที่พัก ระหว่างนั้นณิชาภัทรเพื่อนสนิทที่ร่วมบ้านเช่ากันอยู่ก็โทรมาหา...เล่าว่าตุลยดามาหาที่ร้านกาแฟของตน หากเป็นเมื่อก่อนศมนคงหาเรื่องใส่ร้ายคู่ปรับนับแต่สมัยเรียนอย่างตุลยดาไปแล้ว ณิชาภัทรรู้สึกถึงความผิดปกติของเพื่อนจึงถามไถ่อย่างห่วงใยว่าศมนเป็นอะไรไปหรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น หากศมนก็บอกปัดว่าจะเล่าให้ฟังเมื่อตอนที่ณิชาภัทรกลับมาถึงบ้านแล้ว แต่ณิชาภัทรค้านเพราะคืนนี้หล่อนตั้งใจไว้แล้วว่าจะนอนค้างที่ร้าน
ศมนยิ้มใส่โทรศัพท์เครื่องบางอย่างซึ้งใจกับความห่วงใยของณิชาภัทร ก่อนจะเล่าเรื่องที่ออกจากงานเดิมและเรื่องที่มีปัญหากับพศินให้เพื่อนฟัง ณิชาภัทรได้ให้คำแนะนำหลายอย่าง แม้ศมนจะยอมฟังและบอกว่าจะทำตามแต่ณิชาภัทรก็ยังอดห่วงไม่ได้ หล่อนจึงไม่ยอมวางสายไปง่ายๆ
ณิชาภัทรร่ายอีกยืดยาวทั้งปลอบและให้กำลังใจศมนสารพัดก่อนจะวางสาย ศมนที่เดินเข้าไปถึงร้านสะดวกซื้อแล้วนั้นได้เลือกซื้อของกินหลายอย่างทั้งข้าวกล่อง ขนมและเครื่องดื่ม โดยระหว่างที่ศมนกำลังชำระเงินค่าสินค้าตรงเคาน์เตอร์อยู่นั้น หล่อนก็เหลือบไปเห็นผู้ชายลักษณะคุ้นตาคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าร้าน หล่อนจึงลอบมองเขาอย่างสนใจ
ผู้ชายคนนั้นสูงโปร่งไหล่กว้าง ผิวขาวเนียนกระจ่าง ผมสีน้ำตาลเข้มยาวเหนือต้นคอเล็กน้อย ดวงหน้ารูปไข่ มองอยู่ไกลๆ หล่อนยังรู้เลยว่าดวงตาของเขาพราวเสน่ห์ยิ่งนัก จมูกโด่งแหลมทำให้ใบหน้าเขาดูเด่น และริมฝีปากหยักสีสดนั่นยิ่งทำให้คนมองใจเต้นแรงถี่ขึ้นอย่างไร้ทางเลี่ยง
ยังไม่ทันที่ศมนจะได้คิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี พนักงานในร้านสะดวกซื้อก็คิดเงินเสร็จ หญิงสาวรีบจ่ายเงินพลางหิ้วถุงของร้านสะดวกซื้อสี่ถุงใหญ่เล็กคละกันเต็มสองมือ ในขณะที่รอรับเงินทอนหล่อนมองทั้งพนักงานของร้านและผู้ชายคนนั้นสลับกัน แต่เมื่อรับเงินทอนเก็บใส่กระเป๋าเสร็จ ครั้นเงยหน้าขึ้นมาเขาก็หายไปจากสายตาของหล่อนเสียแล้ว
ศมนหัวใจหล่นวูบเมื่อวิ่งออกมาจากร้านแล้วไม่พบแม้แต่เงาของเขา คนที่หล่อนปักใจเชื่อว่าเป็นชยังกูรที่เป็นแฟนเก่าตน ...หรือว่าหล่อนจะคิดถึงเขามาจนตาฝาดเฝื่อนไป คิดได้เช่นนั้นศมนก็ทั้งคับแค้นใจและเสียใจ แม้ในตอนนี้ความเสียใจที่ถูกชยังกูรทิ้งนั้นจะลดน้อยลงไปกว่าเดิมมากแล้ว แต่ศมนก็รู้ตัวดีว่าจนถึงเวลานี้หล่อนก็ยังไม่อาจตัดหรือลบภาพเขาออกไปจากใจได้เลย ซ้ำยังคงรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดไม่หายกับการที่ไม่มีเขาอยู่เคียงข้างอีกแล้ว
ศมนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อดึงสติของตนกลับมา ก่อนจะเดินออกไปต่อ หากเมื่อเดินไปจวนจะถึงตู้กดเงินสดของธนาคารหนึ่งอยู่ๆ ศมนก็รู้สึกหน้ามืด ร่างบางอาจทรุดลงไปกองกับพื้นแล้วหากไม่มีมือและแขนแข็งแรงของคนที่เพิ่งเดินออกมาจากร้านอินเตอร์เน็ตด้านหลังตู้กดเงินเข้ามาช่วยฉุดประคองร่างของหญิงสาวขึ้น
ศมนได้สติเพียงแค่เลือนราง หล่อนจำกลิ่นที่นอนของตนเองได้ เมื่อวางใจว่าตนกลับมาถึงบ้านโดยปลอดภัยแล้วหล่อนก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง แล้วระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้หางตาคนคิดมีน้ำตาหยดใสไหลซึมออกมา
ถ้าวันพระราชทานปริญญาบัตรศมนไม่แตะเครื่องดื่มมึนเมา หากหล่อนไม่กลับบ้านก่อนณิชาภัทร หากชยังกูรไม่มาแสดงความยินดีถึงที่บ้าน หรือถ้าหากตอนนั้นศมนไม่เหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้ หล่อนก็อาจจะไม่ได้เรียนรู้การจูบอย่างลึกซึ้งกับผู้ชายที่ชื่อ ?ชยังกูร? และอาจจะไม่ได้รักเขามากเสียจนลืมไม่ลงเช่นนี้
ในเวลานั้นศมนคิดเพียงแต่ว่าหล่อนอยากจะใกล้ชิดชยังกูรอีกสักนิด อยากจะให้เขาอยู่ข้างๆ นานกว่านั้นอีกสักหน่อย ทั้งที่หลังจากนั้นเขาก็สำทับอีกครั้งว่าดึกแล้วและจะต้องกลับ แต่ศมนก็ยังดึงดันที่จะกอดรั้งเขาไว้
?จะไม่ปล่อยจริงหรือ? เขาก้มกระซิบถามข้างใบหู พลางกอดคนรักตอบอย่างเต็มรัก ?ว่าไงครับ ไม่ปล่อยจริงหรือ?
ศมนไม่ตอบ แต่ซุกหน้าไปมากับแผ่นอกกว้างของเขา
?ทำแบบนี้หมายความยังไงรู้ไหม?

********************************************************************************
เขาเคยเสียใจที่สุดนั่นก็คือเรื่องที่บอกเลิก ?ศมน? ไป แต่ตอนนั้น ?ปิยังกูร? ผู้สวมรอย ?ชยางกูร? แฝดพี่มีปัญหาส่วนตัว ตลอดเวลาที่เขาจากเธอไปเขาคิดมาเสมอว่าจะกลับมาสารภาพผิด ทว่ากลายเป็นว่าเขาตัดรักพรากใจจากศมนไม่ได้สักที จนกระทั่งวันหนึ่งที่เขากลับมาเมืองไทยเพื่อสานต่อดวงใจ แต่เขาก็กลัวเหลือเกินว่าศมนจะไม่ให้อภัย หากแต่หญิงสาวทั้งจดและจำเรื่องราวของเขาที่แฝงตัวมาเป็นคนรักได้อย่างไม่ลืม
---อย่าลืมไปหาอ่านกันดูนะคะ :D


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”