New Release:เสน่หาซาตาน

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release:เสน่หาซาตาน

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1
เธอเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ ?วันไนท์สแตนด์? ความสัมพันธ์ชั่วคืนเดียวของชายหญิงที่เกิดขึ้นตามความพอใจและจะไม่นำไปสู่ความผูกพันที่ยั่งยืนมากกว่านั้น
เพลินเป็นผู้หญิงกลางคืน เธอไม่ได้ขายเรือนร่าง แต่ขายเพียงเสียงร้องของตัวเองในผับแห่งหนึ่งย่านชานเมือง กระนั้นหญิงสาวก็เข้าใจธรรมชาติของผู้หญิงกลางคืนหลายๆ คนดี
เพลินไม่เคยเหยียดหยามเพื่อนร่วมโลกราตรีของเธอ แต่หญิงสาวก็มีจุดยืนเกี่ยวกับความรักและร่างกายในแบบของตัวเอง
ทว่าค่ำคืนนี้...สายตาของเขาทำให้จิตใจเธอคลอนแคลน
เพลินเห็นเขามาเกือบสัปดาห์แล้ว ผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่ในชุดโซฟามุมลึกที่สุดจนเหมือนตรงนั้นเป็นที่ประจำของเขา แสงไฟตรงนั้นค่อนข้างสลัว แต่หญิงสาวก็รับรู้ได้ถึงดวงตาคมกริบของเขาที่มองตรงมายังเธอซึ่งอยู่บนเวทีตลอดเวลา
เพลินมีเนื้อเสียงที่หวานใสโดยไม่ได้ไปเรียนร้องเพลง มันเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวเธอมาและหญิงสาวก็หมั่นฝึกฝนด้วยตัวเองมาตลอด ดังนั้นเมื่อต้องจากลาเพื่อนสนิทคนหนึ่งเพราะมีหนทางในชีวิตที่แตกต่างกัน หญิงสาวจึงใช้ความสามารถนี้หาเลี้ยงตัวเองมาตลอด
รูปร่างหน้าตาของเพลินดึงดูดเพศตรงข้ามได้ไม่น้อย ส่วนสูงของเธอไม่มากไม่น้อยไปกว่ามาตรฐานหญิงไทยทั่วไป หากเรือนร่างบอบบางนั้นซ่อนสัดส่วนตูมเต็มกะทัดรัด ผิวของเธอขาวนวลเกลี้ยงเกลา ใบหน้าทรงรีค่อนข้างเล็ก เรือนผมยาวเคลียบ่าและหยักเป็นลอนที่ช่วงปลายอย่างเป็นธรรมชาติ
?แกน่าจะไปเป็นดารา? เพื่อนนักร้องคนอื่นเคยบอกหล่อน ?หน้าเล็กๆ แบบนี้แหละออกกล้องแล้วกำลังสวย รูปร่างแกก็เหมือนนางแบบรุ่นเล็ก ไปสมัครรายการเรียลลิตี้โชว์สักรายการสิ รับรองแกได้เกิดแน่เพลิน?
คงเพราะรูปโฉมแบบนี้ หลายๆ สถานบันเทิงจึงเสนอให้เธอทำงานอื่น...เช่นโคโยตี้ แต่เพลินจะหลีกเลี่ยงข้อเสนอของพวกเขา และโชคดีที่มีผับกึ่งบาร์รับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งนักร้อง
เพื่อนของเธอบางคนชวนให้ไปร้องเพลงตามห้องอาหารของโรงแรม ที่นั่นมีรายได้ดีกว่าหลายเท่าตัว แต่เพลินต้องการรักษาน้ำใจของเจ้าของผับซึ่งเอื้ออารีต่อหล่อน และการโหมรับงานหนักแบบนั้นน่าจะมีผลต่อสุขภาพ ซึ่งนั่นหมายความว่าเส้นเสียงของหล่อนอาจจะเสื่อมไปก่อนวัยอันควร
เธอพอใจกับการทำงานในผับแห่งนี้ แม้จะมีแขกหลายคนติดต่อขอพบเธอเป็นการส่วนตัว แต่นายจ้างกลับไม่บังคับใจเธอ เพลินจึงยอมรับนับถือน้ำใจของนายจ้างคนนี้อย่างมาก
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นความพอใจของเธอเอง
เพลินเลิกงานในเวลาดึกดื่น หญิงสาวเดินออกมายังถนนเพื่อโบกรถแท็กซี่เหมือนทุกคืน แต่แล้วรถสีดำคันหนึ่งก็แล่นมาจอดตรงหน้า
คนขับลดกระจกลง เพลินชะงักเมื่อพบว่าเป็นเขา...ชายที่มองเธอด้วยสายตาคมเหมือนมีดจากมุมสลัวของผับ จนเธอซึ่งอยู่บนเวทีสะดุดตาเขาตั้งแต่แรกพบและจดจำเขาได้แม่นยำ
?ผมอยากคุยกับคุณ มาด้วยกันได้ไหม?
เพลินไม่รู้ว่านี่คือคำชวนที่ผู้ชายทั่วไปใช้กับผู้หญิงที่ต้องการ?หิ้ว?หรือไม่ เธอรู้แต่ว่าเสียงของเขาเหมือนมีมนต์สะกด ดวงตาของเขาคลับคล้ายว่าคุ้นเคย แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อชีวิตของเธอไม่คุ้นเคยกับใครเลย...เธอเป็นคนไม่มีครอบครัว
?ค่ะ...?
ทั้งที่รู้...ชายคนหนึ่งรับผู้หญิงทำงานกลางคืนขึ้นรถนั้นมีจุดมุ่งหมายอะไร แต่เพลินกลับไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย
จริงอยู่ว่าเพลินเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร ในวัยเด็กเธอเคยต้องอาศัยอยู่ในบ้านของญาติที่ดูแลเธออย่างเสียมิได้ช่วงหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งไปไปอาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่ต่างอะไรกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จนกระทั่งเธอต้องออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองทั้งๆ ที่ยังเป็นเด็กวัยรุ่นยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ทว่าเพลินก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะปล่อยตัวปล่อยใจกับใครง่ายๆ อาจเพราะการหล่อหลอมทางสังคมที่ติดตัวเธออยู่บ้าง...แม้จะไม่เข้มข้นเท่าผู้หญิงธรรมดาที่มีครอบครัวอบอุ่นทั่วๆ ไป
เพลินนั่งรถไปกับเขา ชายที่เธอยังไม่รู้กระทั่งชื่อ แต่การอยู่ในห้องโดยสารเดียวกับเขาไม่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด เสียงเพลงที่คลอเบาๆ ภายในรถบอกว่าเขาชอบฟังดนตรีร็อกหนักแน่น แต่เธอก็ยังไม่รู้จักเขามากไปกว่าชายนิรนามเจ้าของรถสีดำ
?คุณจะพาฉันไปไหนคะ?
ในที่สุดเธอก็ถามออกไป เพราะรถกำลังมุ่งหน้าจากผับชานเมืองกรุงเทพไกลออกไปเรื่อยๆ
?คอนโดริมทะเลของผม?
เขาตอบกลับเรียบๆ โดยไม่ได้หันมามองเธอแม้แต่น้อย
ค่ำคืนแรกกับชายแปลกหน้า...เธอจะได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศถึงคอนโดมิเนียมริมทะเล เพลินบอกตัวเองว่าชายคนนี้น่าจะมีฐานะที่ไม่ธรรมดานัก
แต่นั่นก็คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะ?วันไนท์สแตนด์?ความสัมพันธ์ชั่วคืนเดียวคงจะไม่ทำเธอและเขาต้องผูกพันกันมากไปกว่านี้
ชายหนุ่มเหยียบคันเร่งเร็วมาก ราวกับจะรอชั่วโมงที่เขาและเธอจะได้หลอมรวมตัวตนเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ไหว
?คุณมาที่ผับบ่อยๆ นะคะ ฉันสังเกตเห็นคุณมาหลายวันแล้ว? เธอชวนคุย
?ผมไปที่นั่นก็เพราะคุณ? เขาเหลือบมามองเธอแวบหนึ่ง ?ผมมองคุณมานาน จนกระทั่งตอนนี้...มีเรื่องบางอย่าง...และผมคงจะปล่อยคุณไปไม่ได้อีกต่อไป?
เพลินไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของเขานัก ฟังดูคล้ายเขากำลังปรารถนาในร่างกายของเธอมาก แต่อีกแง่ก็คล้ายกับเธอเกี่ยวข้องกับกิจธุระบางอย่างของเขาเช่นกัน
ไม่ถึงสองชั่วโมง...ในที่สุดรถก็แล่นเข้าจอดที่ลานของคอนโดมิเนียมชายทะเลแห่งหนึ่ง
มันเป็นเวลาดึกมากแล้ว เพลินไม่เห็นทะเลเพราะความมืด...ได้ยินเพียงเสียงคลื่นกระทบหาด ชายหนุ่มเดินนำเธอตรงเข้าไปในตึกซึ่งต้องเข้าออกด้วยคีย์การ์ด และตรงไปที่ลิฟต์ซึ่งต้องกดปุ่มหลายปุ่มกว่าจะพาไปถึงชั้นที่ต้องการได้
ชายหนุ่มผลักเธอจนประชิดผนัง
เขาใจร้อนกว่าที่คิด ร่างที่สูงกว่ามากกระแทกจูบลงที่ริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วงรุนแรง มือทั้งคู่โอบกอดและเลื่อนไล้ไปทั่วเรือนร่างบอบบางทว่าเต็มไม้เต็มมือ เพลินปลดปล่อยสติสัมปชัญญะให้พร่าพรายไปกับการรุกล้ำด้วยจุมพิตของเขาเนิ่นนาน
ตราบกระทั่งเสียงลิฟต์บอกว่ามาถึงชั้นที่หมายแล้ว ชายหนุ่มจึงปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แต่วงแขนยังไม่ปล่อยเธอออกไป
มันเป็นคอนโดมิเนียมที่กว้างขวางไม่น้อย แสงไฟที่สว่างพรึ่บส่องให้เห็นการตกแต่งที่อิงกับธรรมชาติของทะเล โปร่งตา และเต็มไปด้วยสีสันที่เรียบง่ายทว่าลงตัว
?คุณอยากดื่มอะไรไหม?
เขายอมผละจากเธอแล้วเดินตรงไปที่เคาเตอร์ครัวย่อยๆ ภายในห้องโถง เพลินใช้เวลานั้นก้มลงสำรวจตัวเอง กระดุมเสื้อของเธอหลุดไปหนึ่งเม็ด ชุดกระโปรงถูกเลิกขึ้นจนหญิงสาวต้องขยับมันลง แม้จะรู้ว่าอีกไม่นานเสื้อผ้าพวกนี้จะต้องถูกเปลื้องออกอยู่ดี
?ขอเป็นเหล้าค่ะ ฉันอยากได้อะไรย้อมใจสักหน่อย?
หญิงสาวบอกเขาตามตรง แม้จะทำงานกลางคืนและคุ้นเคยเพื่อนชายมาแล้วหลายคน แต่คงจะไม่มีใครเชื่อว่าผู้หญิงอย่างเพลินก็ไม่เคยผ่านประสบการณ์คืนแรกกับชายคนไหนมาก่อน
บางที...เหล้าอาจจะช่วยให้เธอผ่านคืนนี้ไปได้ไม่ยากเย็น
ชายหนุ่มเดินกลับมาพร้อมกับน้ำสีอำพันในแก้วทรงสูงแก้วหนึ่ง เพลินใช้เวลานั้นเพ่งพินิจว่าที่ผู้ชายคนแรกในชีวิต รูปร่างของเขาสูงมาก...แต่ร่างนั้นค่อนข้างเพรียวมากกว่าบึกบึน ใบหน้าคมสันในแนวคางทรงสามเหลี่ยมได้รูป อาจเพราะที่ผ่านมาเธอเห็นเขาอยู่แต่ในมุมสลัว จึงไม่เคยรู้ว่าชายที่มองเธอด้วยแววตาคมกริบก็มีหน้าตาที่ลงตัวและมีเสน่ห์ชวนมองไม่น้อย
เพลินกลั้นใจดื่มเหล้าเข้าไปจนหมด เธอเคยกินเหล้ากับเพื่อนร่วมงานมาบ้าง แต่เพลินก็ไม่ใช่คนคอแข็ง และในครั้งนี้เธอก็รู้สึกว่าเหล้ามีรสชาติที่รุนแรงอย่างประหลาด
เธอเห็นเขาจิบเครื่องดื่มของตัวเองนิดเดียว สายตาพร่ามัวของเธอมองเห็นเขาก้าวเข้ามาใกล้ และกระชากเธอไปยังห้องนอน
เขาคงคุ้นเคยกับที่นี่มาก จึงสามารถลากเธอมาทั้งที่ระดมจูบทั่วใบหน้า แต่มือคลำเปิดไฟได้อย่างแม่นยำเช่นนี้
เพลินเริ่มรู้สึกมึนงง เหล้าของเขาออกฤทธิ์เร็วมาก เธอไม่เคยกินเหล้าที่ส่งผลต่อประสาทสัมผัสรวดเร็วถึงเพียงนี้
ชายหนุ่มส่งร่างของเธอเอนลงบนเตียง เพลินเริ่มรู้สึกว่าเธอจะไม่เหลือสติเป็นของตัวเองอีก แต่หญิงสาวก็คิดว่านั่นคงเป็นการดี เพราะชายหนุ่มจะได้ตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเธอได้เต็มที่
มันจะไม่เหลือการต่อต้านจากหญิงสาวผู้ไม่ประสาอีกต่อไป
?เดี๋ยวค่ะ...?
เธอเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มหยุดการเคลื่อนไหว ทั้งที่ร่างของเธอก็อ่อนแรงมากแล้วและอยู่บนเตียงของเขา แต่เวลานี้เขาดูไม่รีบร้อนกับการปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนเรือนร่างของเธอนัก
?ฉัน...ยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย?
เธอถามเสียงแผ่ว รู้สึกถึงความพร่ามัวของสายตาที่เพิ่มขึ้นจนแทบมองอะไรไม่เห็นอีกต่อไป
?อคิน...?
อคิน...หญิงสาวทวนชื่อของเขาในใจ
เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่...บางอย่างในแววตาและสีหน้าของเขาช่างดูคุ้นเคย
เปลือกตาหญิงสาวเริ่มปิดสนิท เพลินรับรู้ได้ถึงปลายนิ้วที่กำลังปลดกระดุมเสื้อของเธอ
?คุณ...ควร...ป้องกันนะ?
น่าแปลกที่เสียงจากลำคอตัวเองแท้ๆ...กลับเป็นสิ่งที่บีบเค้นออกมายากเย็น
?เรา...ไม่รู้จักกัน...ดีพอ?
ต่อให้รับรู้ถึงความหวามหวิวของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เพลินก็รู้ดีว่าสิ่งนั้นจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนระหว่างคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แม้ตัวเธอจะมั่นใจว่าตัวเองไม่มีโรค เพราะไม่เคยผ่านมือชายคนไหน แต่เธอก็ไม่อยากเสี่ยงกับชายแปลกหน้าคนนี้
นอกจากนั้น เพลินยังไม่ต้องการให้อารมณ์ชั่ววูบในค่ำคืนนี้ก่อเกิดประจักษ์พยานเป็นตัวตนอยู่ในร่างหล่อน เพื่อนร่วมงานของเธอเคยเตือนเรื่องนี้บ่อยๆ ว่าผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบหากไปพลาดพลั้งกับคู่นอนที่มักง่ายแบบนั้น
?เปล่าเลย เรารู้จักกันมากพอแล้วต่างหาก?
เสียงของเขากระซิบข้างหู ความเย็นเยือกที่ส่งผ่านคำพูดสร้างความประหลาดใจแก่หญิงสาว แต่หล่อนก็ไม่มีเวลาใคร่ครวญอีกแล้ว ทุกอย่างที่เรียกว่าสติสัมปชัญญะของเพลินกำลังหลุดลอยออกไปเรื่อยๆ ในที่สุด...โลกของเธอก็กลายเป็นสีดำ
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^
?เธอเป็นเด็กในอุปการะคุณอาล่ะสิ ชื่ออะไร?
?เพลิน...?
?เราชื่อคิน...เธอถูกหนูดาวแกล้งใช่ไหม แขนเธอมีแต่รอยช้ำ?
?ฉัน...ฉันซุ่มซ่ามเองต่างหาก?
?ไม่ต้องโกหก เรารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับคุณอาและหนูดาวลูกสาวที่รักของเขา เธอกับเพื่อนๆ ที่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากเขาคงไม่รู้สินะ...ว่าเบื้องหลังชีวิตสุขสบายของพวกเธอ หลังจากนี้พวกเธอจะต้องเจอกับอะไร?
?แล้วคุณรู้เหรอ??
?ยิ่งกว่ารู้?
เสียงเด็กหนุ่มคนนั้นพร่าเลือนไปทีละน้อย ใบหน้าของเขาเริ่มเลือนราง แต่เธอยังรับรู้ถึงสัมผัสจากอุ้งมืออุ่นๆ เหมือนเด็กชายคนนั้นกำลังมอบคำมั่นให้เธอก่อนจากลา
?มันเป็นเรื่องร้ายแรง แต่สักวันเราจะช่วยพวกเธอให้ได้ ตอนนี้เธออย่าเพิ่งทำตัวเป็นพิรุธ และจำไว้...ระวังหนูดาว เธอคนนั้นอันตรายกว่าที่เธอกับเพื่อนๆ คิดไว้?
เสียงหนักแน่นและรูปกายของเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังเลือนหายไปกับหมอกหนาทึบ และในที่สุด เพลินก็ปรือตาตื่นขึ้นจากภวังค์ฝันช้าๆ
เธอยังรู้สึกปวดศีรษะจนเหมือนแตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ ทุกอย่างในร่างยังหนักอึ้ง และประสาทสัมผัสทุกอย่างยังทำงานไม่เต็มร้อยนัก
เพลินพยายามตั้งสติ ก่อนจะมองไปรอบๆ ด้วยความงงงัน
เธอนอนอยู่บนเตียง...เตียงซึ่งเมื่อคืนถูกชายคนนั้นพามาเพื่อสานสัมพันธ์เป็นค่ำคืนแรกในชีวิต แสงสว่างจากภายนอกสาดผ่านกระจกเข้ามา เธอจึงรับรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาเช้าและค่อนไปทางสายมากแล้ว
หญิงสาวลุกขึ้นช้าๆ เธอมองออกไป...เห็นท้องทะเลสีฟ้าอมเทา
ผ้าห่มเลื่อนลงไปกองที่เอว เพลินจึงรู้ตัวว่าร่างตัวเองขณะนี้ไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนก ในเมื่อเธอก็รู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนคืออะไร
แล้วชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนแรกของเธอล่ะ?
เพลินไม่เห็นร่างของเขา บางทีเขาอาจจะอยู่ข้างนอก คงกำลังอาบน้ำหรือแต่งตัวเรียบร้อยแล้วและพร้อมจะพาเธอกลับกรุงเทพ
เพลินคาดหวังว่าเขาคงไม่คิดจะทิ้งเธอไว้ที่นี่และปล่อยให้หารถโดยสารกลับเอง อย่างน้อยเขาก็พาเธอมาที่นี่เพื่อจะตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเธอเสียไกล...ก็ควรที่จะพาเธอกลับก่อนทิ้งกันง่ายๆ แบบนั้น
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นเต็มตัวและกวาดตามองหาชุดเสื้อผ้าของตัวเอง อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่าเธอไม่รู้สึกเจ็บปวด...การผ่านค่ำคืนแรกกับผู้ชายน่าจะสร้างความปวดแปลบกับผิวเนื้อที่ผู้หญิงทุกคนถูกสั่งสอนให้สงวนเอาไว้ไม่ให้ใครล่วงล้ำง่ายๆ ไม่ใช่หรือ?
บางที...ผู้หญิงแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้
เพลินสรุปในใจ
ในเมื่อยังหาชุดเสื้อผ้าไม่ได้ แม้แต่ชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสักตัวชายหนุ่มก็ไม่ได้วางเอาไว้แถวๆ นั้น หญิงสาวจึงตวัดผ้าห่มคลุมร่างตัวเอง ก่อนจะหย่อนปลายเท้าลงเตียง
เคร้ง!
เสียงวัตถุจำพวกโลหะกระทบพื้นทำให้เธอชะงัก
เพลินเบิกตากว้างเมื่อพบสิ่งแปลกปลอมที่คล้องอยู่กับข้อเท้าข้างหนึ่งของเธอ
โซ่!
หญิงสาวรีบคว้ามันขึ้นมาดูด้วยความพิศวงถึงขีดสุด มันเป็นโซ่สีเงินหนาแน่นชนิดที่ล่ามอะไรแล้วคงไม่มีวันขาดหรือถูกทำลายออกได้ง่ายๆ ปลอกเหล็กหนาทึบที่ปลายโซ่พันธนาการข้อเท้าของเธอไว้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่มีทางกระชากขาด
?คุณ...คุณอคิน...?
เพลินส่งเสียงเรียกเขา แต่กลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมา หญิงสาวลุกพรวดพราดออกไปนอกห้อง โซ่เส้นนี้แม้จะหนาใหญ่แต่ก็ยาวพอให้เธอเดินไปไหนต่อไหนได้ เพลินเดินไปที่ห้องโถง แต่ก็ไม่พบชายหนุ่มแม้แต่เงา
ที่โต๊ะรับประทานอาหารหรูหราชนิดนั่งได้สิบกว่าคนสบายๆ มีอาหารหลายชนิดวางเอาไว้ เพลินไม่เกิดความรู้สึกหิวแม้แต่น้อย แต่เธอต้องการคำอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มากกว่า
ในที่สุดหญิงสาวก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งบนโต๊ะอาหารนั้น
?เพลิน...อย่าตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าเพิ่งออกไปไหน ตอนนี้คุณจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ไปสักระยะ แล้วผมจะกลับมาตอนเย็น?
ถ้อยคำบนนั้นไม่ช่วยให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย เพลินทรุดร่างฮวบลงกับพื้นอย่างหมดแรง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
หญิงสาวถามตัวเองอย่างตื่นตระหนก สายสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของเธอกับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง...กลับพลิกผันเป็นเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวเกินคาดคิด
หญิงสาวเริ่มสั่นระริกไปทั้งร่าง บนคอนโดมิเนียมริมชายหาดชั้นบนสุดที่ปิดตาย เธอกำลังถูกกักขังและล่ามโซ่แน่นหนา มีเพียงท้องทะเลกับท้องฟ้าเป็นเพื่อนอยู่ภายนอก นี่เป็นชะตากรรมที่น่าหวาดหวั่นจนเธอไม่อาจประคองสติตนเองได้อีกต่อไป
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^


******************************************
กระแสลมแห่งความทรงจำได้พัดผ่านเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง เวลานั้น ?เพลิน? รู้สึกชาวาบแทบยืนไม่อยู่
เพราะเขากลับมาสานสัมพันธ์แบบลึกซึ้งชั่วข้ามคืน
?อคิน? ขังเพลินไว้ไม่ยอมปล่อยให้เธอคลาดสายตาไปไหน
ใช่ว่าเขาอยากทำร้ายจิตใจดวงน้อยให้แหลกลาญ
ทว่าชายหนุ่มอยากจะช่วยให้เพลินปลอดภัยจากฆาตกรในเงามืด สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือครอบครองหญิงสาวไว้เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว


รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”