New Release : จอมสวาททะเลทราย

อัพเดทข่าวบงกชบุ๊คส์ ความเคลื่อนไหว และกิจกรรมพิเศษ ตลอดจนร่วมสนุกชิงรางวัลพร้อมของรางวัลมากมาย

Moderator: P'Bly, Gals, พี่บี

ตอบกลับโพส
Gals
โพสต์: 1072
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 13 ก.พ. 2009 3:47 pm

New Release : จอมสวาททะเลทราย

โพสต์ โดย Gals »

บทที่ 1

แคทธรีนเบือนหน้าจากหน้าต่างรถและทิวทัศน์สองข้างทางที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนรูปร่างแปลกตาสีอิฐและฝุ่นทรายสีทอง ด้วยจิตใจที่เหม่อลอยตลอดเวลาหลังจากที่รถขับเคลื่อนออกจากตัวเมือง
ตอนนี้เธอแทบจะเรียกได้ว่า...ตัวคนเดียวในโลก...ไร้ญาติขาดมิตรโดยสิ้นเชิง
แคทธรีนพบว่าตัวเองกำลังมุ่งสู่อนาคตข้างหน้าที่ไร้ความแน่นอน มันแย่ที่สุดที่ต้องเดินทางข้ามพรมแดนประเทศมายังประเทศที่ห่างไกลความเจริญเช่นนี้...เธอไม่คิดฝันมาก่อนเลยว่าตัวเองจะต้องเดินทางมายังดินแดนที่เต็มไปด้วยทะเลทรายแบบนี้
หญิงสาวไร้ซึ่งความสุขโดยสิ้นเชิง...
ใครจะมีความสุขได้เล่าถ้าต้องเดินทางมาแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่รู้จักแบบนี้...แต่เพื่อมารตี เธอจึงยอมเดินทางมาเผชิญโลกตามลำพัง เธอไม่อาจทิ้งมารตีให้ต้องรับโทษทัณฑ์ที่เมืองไทยข้อหาฉ้อโกง มารตีพยายามหลบหนีกลางดึก
แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถรอดพ้นอิทธิพลมืดของอาบาลีไปได้
ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แคทธรีนต้องเผชิญกับความยุ่งยากวุ่นวาย...เธอไม่อาจปล่อยให้มารตีติดคุกได้ และข้อเสนอที่อาบาลีเสนอก็คือ ให้แคทธรีนเดินทางไปแต่งงานกับลูกชายของเขาที่ปากัสแห่งนี้
แคทธรีนถอนใจ...
เธอไม่เคยรู้จักเมืองปากัสมาก่อน...ที่นี่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของอาบาลี...เขาต้องการมอบหญิงไทยเป็นภรรยาคนที่สี่ของลูกชายตนเอง
แคทธรีนทราบดีว่าเธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้...เธอไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือมารตีก็ได้ มารตีไม่ใช่ญาติของเธอ ไม่มีส่วนเกี่ยวพันทางสายเลือดใดๆ เลยแม้แต่น้อย
หากแต่มารตีเป็นมิตรคนเดียวที่แคทธรีนมีเหลืออยู่ในโลกใบนี้...มารตีให้ความช่วยเหลือแคทธรีนมาโดยตลอด...หลังจากที่แคทธรีนต้องเผชิญอยู่บนโลกใบนี้เพียงลำพัง...มารตีหยิบยื่นความเมตตาคอยดูแลเธอ เสมือนกับเธอเป็นญาติคนหนึ่ง
แคทธรีนจึงไม่อาจทนเห็นมารตีต้องทนทุกข์ทรมานจากอาบาลีได้
ใครๆ ก็ทราบว่าอาบาลี. มารตีไม่น่าไปหยิบยืมเงินคนแบบนั้นเลย...แคทธรีนมาทราบในภายหลังว่า มารตีไม่ได้หยิบยืมเงินอาบาลีเพียงอย่างเดียว แต่มารตียังไปหลอกเอาเงินอาบาลีมาอีกหลายหมื่น เธอจึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมอาบาลีถึงโกรธและเอาเรื่องมารตีไม่ยอมเลิกราแบบนั้น
มารตีถูกซ้อมปางตาย เท่านั้นยังไม่พอ ยังจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดต่อหน้าต่อตาแคทธรีน เธอจึงไม่อาจทนดูมารตีถูกทำร้ายได้อีกต่อไป...
อาบาลีมองแคทธรีนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์...เขาบอกว่า ถ้าแคทธรีนอยากช่วย เขาก็ยินดี...เขาจะปล่อยตัวมารตี ไม่เอาเรื่อง แต่มีข้อแลกเปลี่ยน ถ้าแคทธรีนยอมรับข้อเสนอของเขา เขาก็ยินดีปล่อยตัวมารตีไป
ตอนแรกแคทธรีนคิดว่าอาบาลีต้องการได้เงินมาชดใช้ เธอพาจะหาทางหาเงินมาผ่อนชำระชดใช้หนี้สินที่มารตีฉกฉวยมาจากเขา แต่อาบาลีกลับบอกว่า...เขาต้องการตัวเธอเพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกชายคนเล็กของเขา
แคทธรีนฟังแล้วถึงกับผวา
?แคท...ไม่ต้องก็ได้...? มารตีพูดเสียงกระท่อนกระแท่นออกมา...ทราบดีว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่หญิงสาวจะตัดสินใจ
?ฮึ! ได้...ถ้าเธอไม่ยอมรับข้อเสนอ ฉันก็จะได้เอาตัวนังนี่ไปให้ตำรวจ? อาบาลีกล่าวอย่างไม่เดือดร้อน
มารตีหน้าซีดเผือด ยกมือไหว้ขอร้องอาบาลี
?เมตตาฉันเถอะนะจ๊ะนายจ๋า?
?เมตตารึ...ได้สิได้...?
อาบาลีแค่นยิ้.ียม ก่อนจะสะบัดหลังมือตบหน้ามารตีไปฉาดหนึ่ง
?นี่แน่ะ...เมตตา นังตัวแสบ...กูไม่ฆ่ามึงก็บุญแค่ไหนแล้ว หน็อย...บังอาจมาหลอกกู เห็นกูโง่หรือไง?
อาบาลีหัวเราะพึงใจกับผลงานของตัวเอง เมื่อเห็นมารตีปากแตก เลือดออกซิบที่มุมปาก...
สภาพของมารตีตอนนั้นเร่งให้แคทธรีนตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต...เธอไม่อาจทนเห็นผู้มีบุญคุณของตัวเองถูกทำร้ายได้...
?ฉันยอมแล้ว...?
นึกถึงตอนนี้แคทธรีนถอนใจระรัวออกมา เธอไม่น่าด่วนตัดสินใจแบบนั้นเลย...ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ต้องเดินทางมาที่ปากัสแบบนี้...
มันแย่มากๆ ถึงเวลานี้หญิงสาวเต็มไปด้วยความหวาดผวา เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะเสียใจกับสัญญาที่ตกปากรับคำออกไป
แต่เพื่อความสบายใจของมารตี เธอจำต้องยิ้มนิดหนึ่ง และพยายามทำดวงตาให้สดชื่นเข้าไว้ เพื่อไม่ให้มารตีรู้สึกผิด ที่แคทธรีนต้องเสียสละความสุขทั้งชีวิตเพี่อตัวเอง มารตีมองแคทธรีนด้วยสายตาสุดแสนซาบซึ้ง
?โธ่...แคท...ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย?
?หนูปล่อยให้เขาทำร้ายพี่ไม่ได้หรอกค่ะ?
?พี่ขอโทษ...?
แคทธรีนไม่มีเวลาให้กับความอาดูรกับสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจทำลงไป...เธอถูกนำพามาที่นี่ โดยคนที่เธอไม่รู้จัก
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้าบ้าง...
แคทธรีนคิดถึงอาบาลี...เห็นได้ชัดว่าเขารักลูกของเขามาก มากขนาดยอมสูญเงินนับแสนเพื่อมอบของขวัญเป็นภรรยาคนที่สี่ให้กับลูกชาย...
ดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความแห้งผาก...เธอยอมรับว่ารู้สึกพรั่นพรึงมากๆ แต่ก็พยายามไม่ใส่ใจกับมัน...ปลอบใจตัวเองว่าเธอจะต้องผ่านมันไปให้ได้ แต่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายคนเล็กของอาบาลีหน้าตาเป็นอย่างไร จะแก่จะหนุ่มขนาดไหน หรือหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวอย่างไร
ตอนนี้หัวใจของเธอชาหนึบไปหมด...
เธอพยายามนึกถึงความดีของมารตีที่มีต่อเธอ มารตีที่ช่วยเหลือเธอ คอยดูแลเธอ หยิบยื่นเงินทองให้เธอยามเธอยากแร้นแสนเค็ญ...
แคทธรีนบอกตัวเองว่าเธอทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว...ในการมอบไมตรีที่ดีให้มารตีตอบกลับไป มันคือสิ่งเดียวที่เธอสามารถตอบแทนมารตีได้ในเวลาเช่นนี้
แคทธรีนไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมา เธอจะต้องเข้มแข็ง เธอเองไม่ใช่หรือที่เป็นคนตัดสินใจทำแบบนี้ ไม่มีใครบีบบังคับเธอ...เธอสมัครที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือมารตีเอง เธอก็ต้องก้มหน้ายอมรับในการตัดสินใจของตัวเองอย่างกล้าหาญทระนง เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยทำให้แคทธรีนไม่ต้องคิดมาก เธอเป็นคนเลือกทางชีวิตตัวเอง มันช่วยไม่ได้เลยที่เธอจะต้องรับผลจากการกระทำนั้น
แคทธรีนมัวแต่ปล่อยใจให้เหม่อลอยไปไกล จนไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น มีเสียงเอะอะดังมาจากข้างนอก และการเบรกกะทันหันนั้นทำให้แคทธรีนแทบพลัดตกจากเบาะรถยนต์
ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ร้อนแรง และสาดกระทบลงมาบนพื้นทรายกลายเป็นสีทองจ้าเป็นประกายระยิบระยับสะท้อนสายตาจนต้องหรี่นัยน์ตาลง...ดวงหน้าสวยขมวดมุ่นฉายแววประหลาดใจ ตั้งแต่โหนกแก้มโค้งละมุน จมูกโด่งเล็ก จนถึงคางมนกับริมฝีปากเต็มตึง ทุกส่วนบนดวงหน้าบอกถึงอาการตะลึงตาค้างด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้น
?เกิดอะไรขึ้น!?
เธอร้องถามลูกน้องอาบาลีที่พาเธอมาที่ปากัสแห่งนี้ เขาเป็นคนเดียวที่สามารถพูดภาษาไทยได้ และนั่นคืออีกสิ่งที่ทำให้แคทธรีนกังวลใจ
เธอมาที่นี่โดยไม่รู้ภาษาอารบิกที่พวกเขาใช้พูดกันเลยแม้แต่คำเดียว!
เธอเหมือนเป็นใบ้...หูหนวกตาบอดโดยสิ้นเชิง นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างมา ณ ที่แห่งนี้ และคำตอบของลูกน้องของอาบาลีก็ทำให้แคทธรีนถึงกับตัวสั่นเมื่อได้ยินว่า
?เราถูกปล้น!?
เสียงอึกทึกนั้นทำให้แคทธรีนทราบว่าหูไม่ได้ฝาดจริงๆ รถที่เธอนั่งมาถูกปล้น...
เสียงปืนดังสนั่น ท่ามกลางเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ทันทีที่ได้สติแคทธรีนก็กรีดเสียงร้องออกไปด้วยความขวัญผวา ภาพที่เธอเห็นคือลูกน้องของอาบาลีถูกยิงที่ศีรษะเลือดกระจายแดงฉาน...ทั้งที่รู้ดีว่าเธอไม่ควรส่งเสียงอะไรในตอนนี้ ถ้าพวกมันได้ยินเสียงเธอเข้าล่ะก็...คิดแล้วเธอก็สั่นสะท้าน ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าชะตากรรมเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป
เธอมีหวังถูกเป่าหัว ไม่ต่างอะไรไปจากลูกน้องของอาบาลี และถ้าโชคร้ายไปกว่านั้น เพราะความสวยสะดุดสายตาผู้ชายของเธอ อาจนำพาอันตรายที่น่าสะพรึงกลัวกว่าความตายมาสู่หญิงสาวโดยไม่รู้ตัวก็ได้
สติที่ยังพอเหลืออยู่ทำให้แคทธรีนควานมือเปิดประตูรถออกเพื่อวิ่งหนี...หากแต่พวกนั้นเห็นเธอแล้ว มันส่งเสียงเรียกให้พวกของมันวิ่งไล่จับเธอ...เสียงกรีดร้องดังผสานกับเสียงปืนที่ยิงข่มขู่ เพราะถ้าพวกมันคิดจะสังหารเธอ ป่านนี้เธอคงถูกสอยร่วงไปตั้งแต่นัดแรกแล้ว
ความหวาดกลัวทำให้หญิงสาวยกมือกุมศีรษะและหมอบตัวลงกับพื้นทรายเพื่อหลบกระสุน และประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเธอยังไม่ตาย ทั้งที่หมดหวังที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
เธอหมอบงุด...เนื้อตัวสั่นกับผืนทรายที่ฝุ่นฟุ้งจากแรงปะทะของกระสุนนั้น...มีเสียงย่ำเท้าหนักๆ ดังใกล้เข้ามา ทำให้แคทธรีนกลั้นหายใจ ได้ยินพวกมันตะโกนพูดอะไรบางอย่างด้วยน้ำเสียงกรรโชกหยาบคาย ที่แคทธรีนฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ความกลัวขึ้นมาจุกที่อก ทำให้เธอเหมือนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตึกตักดังก้องอยู่ในอก...ขณะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเพื่อมองดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่ามีเพียงเสียงฝีเท้าหนักๆ ห่างจากเธอไม่กี่คืบ
เธอกลัว...กลัวความตาย...กลัวจนขยับเขยื้อนไม่ได้เลย
ความตื่นเต้นหวาดกลัวทำให้เธอลำคอตีบตันไปหมด เธอกำลังจะตาย...เธอรู้
แคทธรีนคงตายอยู่ที่นี่เอง...น้ำตาแห่งความหวาดกลัวร่วงรินลงอาบใบหน้าซีดเผือดของหญิงสาว มันไม่ยุติธรรรมเลย...
เธอพยายามหายใจเพื่อระงับความตื่นเต้น เธอภาวนาขอให้ความตายมาเยือนเธออย่างเร็วที่สุด...และไม่เจ็บปวดมากนัก หญิงสาวสวดมนต์เพื่อให้มันผ่านไปอย่างรวดเร็ว...
ในที่สุดเธอก็เห็นรองเท้าของมัน...แสงแดดที่ส่องตาทำให้แคทธรีนไม่สามารถมองเห็นใบหน้ามันได้...เธอหลับตา...ภาวนาให้ตัวเองผ่านพ้นความป่าเถื่อนนี้ไปโดยเร็ว เธอได้ยินเสียงพวกมันหัวเราะอย่างหยาบคาย มันก้มตัวลงมาใช้ปืนเชยคางเธอขึ้น...แคทธรีนหลับตาปี๋ หัวหมุนติ้ว...กลัวเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมองพวกมันได้
โอ...ไม่ คุณพระช่วย
การที่กระเพาะบีบรัดตัวทำให้เธอคลื่นเหียนอยากอาเจียนออกมา...
ภาวนาขอให้มันเหนี่ยวไกแทนที่จะเปลี่ยนใจทำในสิ่งที่แคทธรีนไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย และแล้วมันก็กระชากบ่าของเธอขึ้นไป
แคทธรีนดิ้นรน...ต่อสู้ เธอสะบัดตัวเพื่อป้องกัน และกรีดร้องออกมาเต็มแรงด้วยความตื่นกลัว ทว่าร่างหนักๆ ของชายคนหนึ่งจับเธอเหวี่ยงขึ้นบ่าแข็งแรงของมัน โดยไม่สนใจอาการดิ้นรนขัดขืนอย่างบ้าคลั่งของเธอเลยแม้แต่น้อย...
?ปล่อยฉันนะไอ้พวกนรก!?
คำกรีดร้องของเธอไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อย...แต่เธอไม่แปลกใจเลย ในเมื่อพวกมันไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูดแม้แต่คำเดียว
โลกทั้งโลกกลายเป็นสีดำ...ศีรษะเธอหมุนติ้ว หัวห้อยดิ่งลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก...แต่เธอก็ยังกรีดร้องดิ้นรน จนกระทั่งมันยกตัวเธอกระแทกเข้าที่บ่าของมันเต็มแรง แรงปะทะเข้าที่ท้องของหญิงสาวอย่างจังจนแน่นิ่งไป


****************************************


เรื่องราวความรักของ ?แคทธรีน? หญิงสาวที่ถูกกองโจรทะเลทรายปล้นตัวมาก็ใช่ว่าใครจะมีสิทธิ์มาข่มขืนหล่อนได้ แต่ถึงแคทธรีนจะกรีดร้องให้ตาย ?ชาริก? ก็มองว่าหญิงสาวคือโสเภณีตัวร้าย และแปลกนักที่ในคราเดียวกันนั้น?สายตาของชายหนุ่มบ่งชัดว่าพอใจหล่อน จอมโจรทะเลทรายไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังหลงใหลนางเชลยจากเมืองไทย ชาริกอยากจะเข้าไปหาแล้วกอดจูบลูบไล้หล่อนตามแต่ใจต้องการ ทว่ามโนสำนึกเขาร้องเตือนเสมอว่าแคทธรีนคือเมียศัตรูที่เขาต้องจัดการ! .... อ่านรายละเอียดคลิกที่ปก

รูปภาพ

ตอบกลับโพส

ย้อนกลับไปยัง “Bongkoch Books News & Activities”