ใช่ ฝนตกจริงๆ แถมเป็นฝนเม็ดเป้งขนาดเท่าลูกอมที่เด็กๆ ชอบกิน
ตอนนั้นตัวเองสวมเสื้อคลุมพิธีการสีดำ ฮู้ดเปียกโชกจนกันฝนไม่ได้....หนักอึ้งไม่ต่างกับสวมชุดเกราะ
แต่เวลานั้นสิ่งที่ทำให้ร่างกายเขา....มาเชียส โซอาซอน....หนักอึ้ง หาใช่ฝนห่าใหญ่นั้น
หากเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ
....ถึงผู้ที่จากไปไกลเกินเอื้อม
?ความสูญเสีย? กับ ?ความหวัง? เหล่านั้นเป็นอาวุธร้ายที่หยุดลมหายใจของคนเราได้อย่างคาดไม่ถึง
(แต่ทั้งหมดกลายเป็นอดีตแล้ว)
มาเชียสสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
เทียบกับสภาพจิตใจในตอนนั้น ผืนฟ้าที่แผ่กว้างอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ช่างปลอดโปร่งแจ่มใสอะไรเช่นนี้ ฟ้าใสไร้เมฆ เทือกเขาสูงตระหง่านบนผืนดินราวกับลูกคลื่นมหึมาคล้ายทรงเนินถันของสตรี
ที่ราบสูงอุลลูอี ภาคเหนือของอเจนเซน
ดินแดนแห่งอาชาและสายลมซึ่งมีเทพเจ้าแห่งหุบเขา สองสามีภรรยาเบ็คกับเด็คปกป้องคุ้มครองอยู่ ยี่สิบสี่ชนเผ่าแห่งทุ่งหญ้าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่กับความเชื่อเก่าแก่ที่สืบทอดมาช้านาน
ผู้นำความเป็นไทมาสู่ประชาชนและก่อตั้งแคว้นนามอเจนเซนคือจิฮาด ลอนกิอน เจ้าของฉายามหาราชเพียงผู้เดียวในประวัติศาสตร์ของดินแดนนี้ และเป็นปู่ของลูซีโด้ที่มาเชียสทำงานรับใช้อยู่
แน่นอนว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของมาเชียส และไม่ใช่แผ่นดินที่เขาเคยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วย เขาต้องจากสถานที่แห่งความทรงจำเหล่านั้นมายืนกลางทุ่งหญ้าทางเหนือซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาแต่อย่างใด
เป้าหมายคือการมุ่งเหนือออกศึกของลูซีโด้ผู้เป็นเจ้านายนั่นเอง
ผู้นำประเทศรุ่นที่สามอย่างลูซีโด้นำทัพจากเพิร์ลเอมมาปราบชนเผ่าที่กระด้างกระเดื่องไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่ออเจนเซน
เพราะบุรุษแห่งทุ่งหญ้าล้วนเป็นนักรบ
สำหรับพวกเขาแล้ว พละกำลังคือทุกอย่าง หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างฝ่ายที่อ่อนแอกว่า ดังนั้นในฐานะกษัตริย์ ลูซีโด้ต้องแสดงแสนยานุภาพให้เห็นเป็นนิจแลกเปลี่ยนกับความจงรักภักดี
จู่ๆ มาเชียสก็หรี่ตา
(ตอนนี้กี่โมงแล้วนะ)
พระอาทิตย์ยังอยู่สูง แต่ทุ่งหญ้าแห่งนี้แทบไม่มีต้นไม้สูงให้ร่มเงาเลย
มาเชียสผู้ติดนิสัยควักนาฬิกาพกเรือนเล็กออกมาดูเผลอยิ้มเจื่อน เพราะมันไม่จำเป็นเลย ตำแหน่งของพระอาทิตย์และทิศทางลมคือทุกอย่างของที่นี่
?อ้าว ท่านเลขาธิการ?
เสียงเรียกทำให้มาเชียสหันกลับไป
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้พร้อมดาบใหญ่ที่เอว
จันซีโด้ โฮโลว หัวหน้าหน่วยอัศวินมังกรน้ำเงิน เขาเป็นผู้นำหนุ่มร่างสูง องอาจผึ่งผายและเอาจริงเอาจัง ไร้ความป่าเถื่อนผิดกับคนทั่วไปที่เติบโตในทุ่งหญ้า ผมยาวที่มัดรวบไว้ข้างหลังนั้นไม่ต่างกับหางม้าสายพันธุ์ดี
แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นผู้สืบทอดเผ่าโฮโลวอันแข็งแกร่งซึ่งเป็นหนึ่งใน 24 ชนเผ่าทางเหนือนั่นเอง
?ดูเหมือนนาฬิกาสุดภาคภูมิใจของบารอนจอมจับเวลาจะไม่ได้ออกโรงแฮะ?
?ท่านจันซีโด้ กลับมาแล้วรึขอรับ?
มาเชียสคำนับจันซีโด้พอเป็นพิธี
หากดูจากตำแหน่งบารอนเน็ตที่สูงกว่าจันซีโด้ มาเชียสไม่จำเป็นต้องค้อมศีรษะให้ แต่มาเชียสอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอเมื่ออยู่ในราชสำนักอเจนเซน เพราะมาเชียสเป็นชาวต่างชาติในประเทศที่เต็มไปด้วยคนผมสีดำ นัยน์ตาสีแดง ถ้าไม่นับพระชายาต่างเมือง มาเชียสคือชาวต่างชาติเพียงคนเดียวในราชวังโร-แองเจลี
จันซีโด้ผงกศีรษะตอบ
?ขอรับ เพิ่งกลับมาถึง ฝ่าบาทก็จะเสด็จกลับมาในไม่ช้า?
เสื้อเกราะที่เขาสวมอยู่หมดความแวววาวกลายเป็นสีดำหม่น ผ้าคลุมเลอะเทอะเปรอะเปื้อน คงเป็นคราบเลือดของศัตรู หน่วยอัศวินมังกรน้ำเงินของเขาเพิ่งบุกเข้าโจมตีกองกำลังของชนเผ่าโกลก็อตซึ่งเป็นศัตรูของลูซีโด้มาหมาดๆ
โกลก็อตเป็นชนเผ่าที่กล้าหาญองอาจ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหินผาแม้อยู่ในทุ่งหญ้าก็ตาม พวกเขาไม่ได้อยู่ในกระโจมแต่ขุดรูเข้าไปอยู่ในหน้าผาจึงได้ชื่อว่าโกลก็อต หรือแปลตรงตัวว่าหมีในรูนั่นเอง
แต่พวกเขาอาจหาญและแข็งแกร่งสมฉายาหมีจริงๆ
ในบรรดายี่สิบสี่ชนเผ่าทางเหนือ โกลก็อตได้ชื่อว่าแข็งแกร่งมาก
?เป็นการรบที่ยอดเยี่ยมสมเป็นหน่วยอัศวินมังกรน้ำเงินแห่งชนเผ่าโฮโลวจริงๆ ฝ่าบาทยังตรัสชมเลยว่าต่อสู้กับพวกท่านได้อย่างเข้าขา?
เขายืดอกพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตทั้งที่ถูกชม
?ไม่เท่าไหร่หรอกท่าน ยังต้องฝึกฝนอีกเยอะ วันๆ ไม่ใช่เอาแต่ขี่ม้า อย่างน้อยก็ควรร่ำเรียนเขียนอ่านและฝึกฝนการใช้ปืนใหญ่บ้าง?
กองทัพอเจนเซนที่กษัตริย์นักรบอย่างลูซีโด้ตั้งขึ้นประกอบด้วยทหารจากหัวเมืองต่างๆ รวมกับหน่วยอัศวินประจำตัวของเขา นั่นคือ ?หน่วยอัศวินมังกร? ที่ปรากฏในตราประจำราชวงศ์อเจนเซน
หน่วยอัศวินถูกตั้งตามสีทั้งสี่ ได้แก่ น้ำเงิน เหลือง ดำ ขาว ซึ่งหมายถึงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูไม้ร่วง และฤดูหนาวตามลำดับ
เมื่อพวกเขามาสวามิภักดิ์กับอเจนเซน ลูซีโด้จึงสั่งให้ทั้งสี่จัดตั้งหน่วยอัศวินเป็นเครื่องพิสูจน์
ทำให้กองทัพของอเจนเซนแข็งแกร่งขึ้น
ก้าวแรกสู่การโค่นล้มมหาอำนาจพาลเมเนีย
?เดิมที การขึ้นเหนือทำศึกของฝ่าบาทครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ชนเผ่าโฮโลวต้องการเลย หน่วยอัศวินมังกรน้ำเงินมีแต่ผู้สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้ชนเผ่า ผิดกับพวกขี้เมาและพวกที่ชอบสะสมไหไร้สาระนั่น?
จันซีโด้เหลือบมองไปทางหน่วยอื่นๆ
นอกจากธงน้ำเงินของหน่วยเขาแล้ว ธงอีกสามสีของหน่วยอื่นๆ ก็กำลังโบกสะบัดพัดไหวอยู่หน้ากองทัพของลูซีโด้เช่นกัน
แม้อยู่ไกลขนาดนี้ก็ยังเห็นชัดเจน กลุ่มที่มีไหในครอบครองมากกว่าจำนวนม้าคือหน่วยอัศวินมังกรดำแห่งชนเผ่าฟัลคอนนั่นเอง
พวกเขาจะพกไหติดตัวหนึ่งใบเสมอ หากไหแตกขึ้นมาก็พากันเอะอะโวยวายว่าจะเกิดลางร้าย....พูดง่ายๆ คือเป็นกลุ่มที่สร้างความปวดหัวและน่ารำคาญให้ผู้อื่น แต่แข็งแกร่ง
ส่วนกลุ่มที่หน้าแดงตั้งแต่กลางวันแสกๆ คือหน่วยอัศวินมังกรเหลืองแห่งชนเผ่าจั้ดลี่
พวกเขาถูกเลี้ยงด้วยเหล้าแทนนมตั้งแต่ยังเป็นเด็กแบเบาะ จึงอยู่ในสภาพเมามายอยู่เสมอ พวกเขาภาคภูมิใจในความสามารถด้านทำลายล้างที่ไม่ใช่ไร้เทียมทานที่สุดเพียงแค่ในกองทัพของลูซีโด้ หากแต่เป็นหนึ่งในทวีปตะวันตก แต่หารู้ไม่ว่าพอเหล้าหมดแล้วจะซึมเศร้าหดหู่กันทั้งหน่วย
และกลุ่มที่สวมหมวกเด่นสะดุดตามาแต่ไกล (ขนาดไม่ตั้งใจมองก็ยังเห็น) คือหน่วยอัศวินมังกรขาวแห่งชนเผ่าคูลี่นั่นเอง
พวกเขาชอบเปลี่ยนหมวกตามอารมณ์ ข้าวของส่วนใหญ่จึงเป็นหมวก ขณะเดียวกันก็เป็นชนเผ่าที่น่าสงสาร เพราะเวลากลางคืนคนจะดูออกทันทีจากความโดดเด่นของหมวก
ที่สุดยอดคือ ไม่ว่ากลุ่มไหน ต่อให้ไม่มีธงบ่งบอกก็รู้ทันทีว่าเป็นชนเผ่าอะไร
*****************************************
ระหว่างลูซีโด้ออกไปราชการทางเหนือ โอลพรีน ธิดาในท่านเคานท์ผู้เลอโฉม ซึ่งได้รับเลือกเป็นนางสนมเดินทางมายังราชวังโร-แองเจลีพร้อมขบวนเจ้าสาว! แต่สถานการณ์ไม่คาดฝันนี้สร้างความอลหม่านในราชวัง ลูซีโด้ถึงกับช็อกเมื่อกลับมาเจอนางสนมของตัวเอง! ภายในราชวังที่ปั่นป่วนขึ้นเรื่อยๆ โอลพรีนมีพฤติกรรมน่าสงสัยบางอย่าง...!? อดีตอันคาดไม่ถึงของมาเชียสก็ถูกเปิดเผย! ความรักและความทะเยอทะยานในราชวังโร-แองเจลีอันหรูหราตระการตายังไม่หยุดแค่นี้! ... นิยายแปลภาคต่อจาก 'Princess Heart ภาค คู่รักลวงโลก' ..... [รายละเอียดคลิกที่ปก]
